อีก 2 ปี ครับ ชุดแรกจำนวน 3 ลำ
มาแทน แอฟโร-748
ไม่มีแรมพ์ท้าย ภารกิจขนส่งผู้โดยสาร ติดเก้าอี้โดยสาร ไม่ใช่ระวางบรรทุกโล่ง ๆเหมือนของ ซี-130 / จี-222
ดีใจมากครับ อย่างน้อย ท.อ. ก็จะมีของใหม่ใช้กับเค้าบ้าง ถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่ บ.ข. หรือ บ.จ อย่างที่ตั้งตารอกันอยู่
?
?
ดีใจครับ แปลว่าถ้าเต็มโครงการ น่าจะ 6 ลำใช่ไหมครับ
มองไปในอนาคต น่าจะมีอะไรมาเสริม G-222 บ้าง อย่าง CN-235 เป็นต้น
ATR-72 6 ลำ, CN-235 6 ลำ ดีไม่หยอกครับ
นึกภาพ ATR-72 ทำสีเทาติดเครื่องหมาย ท.อ. ไทย ดูจะเข้าท่าดีนะครับ
ท่านใดมีฝีมือด้านโฟโต้ช๊อปหรือโปรแกรมวาดรูปอื่นใด รบกวนช่วยทำสีให้ดูหน่อยซิครับ
หวังไว้เช่นนั้นเหมือนกันครับคุณ Skyman
ป.ล. คำถาม : จีตองสอง เครื่องบินดี แต่ซ่อมไม่ไหวเพราะอะไหล่แพง ใครควรเป็นผู้รับผิดชอบครับ ( ไม่เอามุขแก๊สโซฮอลล์นะครับ )
ป.ล. คำถาม : จีตองสอง เครื่องบินดี แต่ซ่อมไม่ไหวเพราะอะไหล่แพง ใครควรเป็นผู้รับผิดชอบครับ ( ไม่เอามุขแก๊สโซฮอลล์นะครับ )>>>> คณะกรรมการในการพิจารณาสั่งซื้อในตอนนั้นมั้งครับ
จีตองสอง เป็นตัวอย่างที่ดีในการเลือกซื้อ บ. ในครั้งต่อไปครับ เครื่องดีแต่สู้ค่าซ่อมบำรุงไม่ไหว (แพง) ก็ไม่รู้จะซื้อมาทำไม
หัวข้อค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงตลอดอายุการใช้งานจึงควรเป็นหัวข้อสำคัญลำดับต้น ๆ ในการพิจารณาว่า บ. แบบใดเหมาะสมกับเรา ไม่ใช่ดูแค่สมรรถนะหรือราคาค่าตัวตอนจัดซื้อ
ยังไม่นับค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติการนะครับ จำพวกเชื้อเพลิงและแมนอาวของช่าง
ถ้าเอา ซู หรือ เจ คงหนีไม่พ้นสู้ค่าซ่อมบำรุงไม่ไหวเหมือนกัน (อายุอะไหล่สั้น ซ่อมเปลี่ยนบ่อย)
ถ้า บ. จากรัสเซียและจีนแก้ไขข้อด้อยนี้ได้ โอกาสที่จะขาย บ.ข. / บ.จ. ให้ ท.อ เรา และ ท.อ. ชาติอื่นคงมีสูงกว่านี้เยอะนะครับ
นั่นสิครับพี่เสือใหญ่ G-222 แม้แต่สหรัฐยังต้องปลดเพราะสู้ค่าใช้จ่ายไม่ไหว......แล้วอย่างเราจะเหลือเหรอเนี้ย บินได้ ...???... ลำในปัจจุบันก็ดีใจแล้วครับ
หวังว่า บ.ข. 20 คงไม่ซ้ำรอยครับ
เรื่อง Su เป็นเรื่องที่ถกมานานแล้วว่าควรหรือไม่ควรที่จะประจำการในท.อ. ของเรา แต่ที่ทราบรู้กันอยู่ว่า ค่าโสหุ้ยของ SU-30 แพงมากในการบินแต่ละครั้ง แต่มีหลายๆคนหมั่นไส้มะกัน เลยไปหนุน จากค่ารัสเซีย ซึ่งในปัจจุบันดูเป็นมิตรมากกว่า พอมีเรื่องค่าใข้จ่ายเข้ามารวมถึงเรื่องอะไหล่หลายๆคนอาจแย้งว่าประเทศรอบบ้านทำไมถึงใช้บินได้ละ ล่าสุดคือมาเลฯ
แต่ผมขอให้มองประเด็นหลักคือ เรามีเงินถุงเงินถังหรือไม่ ถ้าเรารวยจริง ซื้อมาเหอะครับ ฝูง2ฝูง เรื่องการซ่อมบำรุงตัดไปได้เลย บินได้ตลอดเวลาแน่ๆ ไม่มีจอดให้ฝุ่นจับครับ
ถ้ามองใกล้ตอนนี้สำหรับ บข.20ก็น่าจะลุ้นที่ 2 ค่าย คือ F กับ Jas แต่ถ้าออกเป็น F16-C/D ก็ไม่ใช่ บข. 20 นี่หว่า
โดยส่วนตัวผมอยากจะได้ให้เป็น C-27 spartan ไม่ก็ C-130J นะฮะ
ผมมีแนวความคิดเรื่องซู-30 ดังนี้ครับ................. คือจริงๆ การจะพิจารณาเลือกอาวุธใดๆควรเริ่มจากโจทย์ก่อน................. ผมไม่ได้เชียร์ ซู-30 เป็นการเฉพาะนะครับ แต่ผมนิยมเครื่องบินใหญ่ ....มา ... ลองมาคิดเป็นตามลำดับขั้นตอน ตามผมดูมั๊ย ?????
1. ปฏิเสธไม่ได้ถึงขีดความสามารถอันสูงล้ำของ ซู-30 เราคิดบนพื้นฐานที่ว่า ประเทศรอบบ้านมีปัญญาจะทำให้มันบินได้เสมอ และนักบินของเค้าเก่งเท่ากับเรา...............
2. ดุลยอำนาจทางนภานุภาพที่เปลี่ยนแปลงไป............... ผมเชื่อว่าเราทุกคนเข้าใจหลักการณ์ของคำกล่าวที่ว่า ชัยชนะโดยไม่ต้องรบ หรือ ความหนักแน่นหรือมีน้ำหนักทางการฑูต..................ข้อนี้ไม่ต้องอธิบาย ทุกคนเข้าใจว่าเกิดขึ้นด้วยเหตุและปัจจัยใด.......................
3. เมื่อดุลยอำนาจสูญเสีย ก็ต้องเสริมสร้างดุลยอำนาจ......................... แล้จะต้องทำอย่างไร ????????
คำตอบทำได้เยอะแยะ............... หาขีปนาวุธติดนิวเคลียร์มาสักลูกสิ ดุลย์อำนาจคงดีข้ จริงมั๊ย......???????????
ถ้าไม่ใช่วิธีนี้ เราจะทำยังไง..................
การจัดหาเครื่องบินรบทดแทนฝูงเก่า ในลักษณะก้าวตามเสต็ป ดูเหมือนมันจะไม่ทันชาวบ้านเค้าแล้วนะครับ........................(มีต่อ)
ด้วยเหตุและผลที่สาธยายมาแต่ต้น.........................ผมจึงเห็นว่า ฝูงบินรบฝูงใหม่ของเรา จำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องเป็นเครื่องบินประสิทธิภาพสูง ....สูงแค่ไหน ??????.........................นั่นคือ ต้องสูง เทียบเทียมได้กับชาวบ้าน.......................
การป้องกันอธิปไตยถือเป็นการลงทุน โดยมีประชาชนทุกคนเป็นนักลงทุนมีรัฐบาลเป็นโบรกเกอร์ เมื่อผลประโยชน์(ผลกำไร) อันหมายถึงความอยู่รอดปลอดภัยและรวมถึงอำนาจต่อรองบนโต๊ะเจรจา มีมูลค่าสูง สัดส่วน หรือส่วนแบ่งของผลกำไร อันเกิดจากคู่แข่งซึ่งมีศักยภาพและความแข็งแกร่งก็สูง มันก็ไม่แปลกอะไร ที่เราจะต้องลงทุนด้วยมูลค่าที่สูงตามไปด้วย..............................(มีแต่บักไสนั่นแหล่ะ มันคึดการใหย่ มันสิเอา ปล๋าแดก ไปแลก ซ่าง !!!)....................... ถึงตรงนี้เลยสรุปด่วนแบบด้วนๆเลย.......................... ตอนนี้ เราต้องการของใหญ่...................ส่วนจะใหญ่แบบไหน ใหญ่ขนหน้าแข้งร่วงเกือบหมด หรือใหญ่ขนหน้าแข้งปลิวกระจายแต่เหลือหรอมแหรม(หลังจากนั้นจะทะยอยร่วงผลอยๆเป็นระยะๆ)..............................จะเอาแบบไหนก็คิดกันดูเอง.......................................
จะ GM จะ GAZ จะ Saab อย่าเพิ่งใจร้อนถอยมาเลย เจ้าพ่อคุณ
คนในบ้านยังตีกันจะตาย( ห่- ) ไหนๆรอกันมาได้จนป่านนี้แล้ว มาแลนดิ้งชาติหน้าก็คงไม่เป็นไร ผมขอเพียงให้ได้ลงบนประเทศที่มีชื่อว่าไทยแลนด์ก็พอ
ตอนนั้นรอแล้ว รอเล่าเมื่อไหร่จะเซ็นต์ สักที ข่าวจริง ข่าวลวง ข่าวล้มเพียบ บวกกับอีกนานาความคิดเห็น อะอย่างเช่น ไวเปอร์ใหม่น่าจะมีถังCFTนะ, ซูซี่เอ็มเคทีใช้อัมรามได้ป่าว, อิริอายจะเข้ากันได้กับRTADมั้ย
แต่ ตอนนี้ ขอ .. หลังเลือกตั้งละกัน.. ถ้ายังมีวันนั้นนะ..
ด้วยความเคารพ เฮ้อ.. ประเทศไทย รวมเลือดเนื้อ ชาติเชื้อไทย..
ไม่รู้ครับ แต่ผมอยากไปรัสเซียยยยย สาวๆเยอะ 555
ไร้สาระอีกแล้ว
ผมรู้ข้อมูลคร่าวๆ ที่พอจำได้แต่เจ้า Su-30 MK ที่บอกกันว่าเครื่องยนต์ราคาเครื่องล่ะ 1 ดอลล่าห์ อายุการใช้งาน 6,000 ชั่วโมงบิน ถ้าใช้แล้วหยุดใช้งานติดต่อกัน 3 ปีจะไม่สามารถนำมาใช้ได้ ไม่ทราบว่าเครื่องยนต์ของ F-15 E นี่ราคาเท่าไหร่ครับ อายุการใช้งานเท่าไหร่แล้วถ้าใช้แล้วหยุดใช้งานเกินกี่ปีจะไม่มีความปลอดภัยในการใช้งานต้องเลิกใช้ แล้วราคาอะไหล่ต่อชิ้นและรวมค่าซ่อมบำรุงตลอดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์นี่เท่าไหร่ครับ ถ้าเทียบกันกัน เจ้า Su-30 ตัวมาตราฐานรุ่นใหม่ที่รัสเซียเสนอขายปัจจุบัน กับเจ้า F-15 รุ่นใหม่ที่เมกาเสนอขายประเทศที่สนใจอันไหนค่าซ่อมบำรุงตลอดอายุการใช้งานสูงกว่ากันครับ รวมทั้งค่าอาวุธด้วย ส่วนค่าเชื้อเพลิงผมว่าพอๆ กันเพราะกินจุเหมือนกันแต่ Su-30 ได้เปรียบตรงเครื่องยนต์ติดตั้งระบบปรับเปลี่ยนทิศทางแรงขับด้วย ส่วนที่ไม่เปรียบเทียบกับ F-16 และ JAS-39 เพราะมันอยู่คนละคลาสกัน เพราะที่ได้ข่าวมา F-15 นี่ค่าซ่อมบำรุงก็ไม่ใช่เบาๆ ขนาดเมกาว่าเงินถุงเงินถังยังออกมาบ่นๆ เลยว่า F-15 มีค่าใช้จ่ายสูงมาก คือถ้าวันไหนเราอยากได้เครื่องบินขนาดใหญ่ขึ้นมาเราควรจะเอาแบบไหนดี ถ้าเป็นผมผมชอบ Su-30 เพราะประเทศที่ไม่ร่ำรวยเท่าไหร่เขาก็ยังเลือกที่จะเอามาเชยชมได้ ส่วน F-15 นี่ต้องประเทศเศรษฐีเท่านั้นที่จะได้ขี่ เออ..เกือบลืมพวก Rafale กับ EF-2000 ไปซะละ ถ้ามีข้อมูลสองตัวนี่มาเปรียบเทียบด้วยก็ยิ่งดีครับ จะได้รู้ว่าใครกันแน่ที่สิ้นเปลืองกว่ากัน
อืมม์....ก็เห็นด้วยกับท่านกบนะครับ ในประเด็นเรื่องดุลย์อำนาจทางอากาศที่มันเปลี่ยนไป โดยเราต้องเป็นฝ่ายไล่ตามเพื่อนบ้านหลาย ๆ ประเทศที่ต่างก็มี บ. รบ คลาสใหญ่หมัดหนักกันแล้วเกือบทั้งนั้น
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากปัญหาเรื่องงบประมาณ ผมว่าวัตถุประสงค์หลักจริง ๆ ของ ท.อ. ณ วันนี้ คือการพยายามดำรงไว้ซึ่งความพร้อมรบของ บ.ข. เท่าที่มีอยู่ให้ใช้งานได้นานที่สุด และการจัดหา บ. ใหม่มาแทนส่วนที่ต้องปลดออกไปเพราะหมดอายุการใช้งาน
การดำรงความพร้อมรบของ บ. เท่าที่มีอยู่ให้ได้นานมากที่สุด ก็อย่างกรณีการทำฟอลคอนอัพ / ฟอลคอนสตาร์ ให้กับฝูงไวเปอร์ ทราบว่ามีการกำหนดไว้แล้วว่า ลำสุดท้ายจะปลดในอีก 25 ปี ข้างหน้า หรือ ปี 2575 ! โอ้...พระเจ้าจอร์จ ! ไวเปอร์ฝูงแรกเราเข้าประจำการในปี 2531 เบ็ดเสร็จแล้วเค้าตั้งใจจะใช้มันตั้ง 44 ปี เชียวหรือ ? ถ้านี่มันเรื่องจริง มันก็น่าจะเป็นสิ่งสะท้อนให้เห็นถึงความขัดสนของ ท.อ. เราอย่างชัดเจนนะครับ
ส่วนการหา บ. ใหม่มาทดแทน บ.ข. ที่กำลังจะหมดอายุการใช้งานอย่าง เอฟ-5 ฝูงสุราษฏร์ฯ ก็น่าจะเป็นโครงการที่เรากำลังรอลุ้นกันอยู่นี่แหละครับ ( แค่โครงการศึกษานะครับ ยังไม่ได้เป็นโครงการจัดซื้อ ) แคนดิเดทอย่างที่ทราบกันทั้ง เอฟ, ซ๊าบ, ซู และถ้าไม่มีปัญหาเรื่องงบประมาณ เชื่อได้ว่า ท.อ. ต้องเลือกเครื่องที่มีสมรรถนะทัดเทียมหรือเหนือกว่าที่เพื่อนบ้านมีแน่นอน แต่อย่างที่ทราบกันดี สภาพเศรษฐกิจของประเทศในปัจจุบันมันไม่น่าจะเอื้อให้ ท.อ. เลือก บ.ข. ราคาแพงและมีค่าใช้จ่ายต่อชั่วโมงบินสูง ฉะนั้น ถ้าต้องตั้งโครงการ+งบประมาณเพื่อจัดซื้อภายในไม่เกิน 2 ปีนี้ เพื่อให้ได้ บ. มาทันอัตรา เอฟ-5 ฝูงสุราษฏร์ฯ ที่จะปลดออก เอฟ-16 และ กริเป้น น่าจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกับสถานการณ์
และถ้าสภาพการเงินของประเทศดีขึ้นในอีก 3-5 ปีข้างหน้า ( หวังไว้เช่นนั้น ) รัฐสามารถสามารถเพิ่มงบลงทุนให้กับ ท.อ. ได้มากกว่าที่เป็นอยู่ เราอาจได้เห็น บ.ข. ขนาดกลางหรือขนาดหนัก อย่าง ซู-30 หรือ เอฟ-18 มาแทนอัตรา เอฟ-5 ฝูง อุบลฯ ก็ได้ และถ้าเผอิญเป็นอย่างที่ผมว่าไว้นี้ ขอเชียร์ เอฟ-18 เอฟ ขาดใจครับ เนื่องจากอุปกรณ์หลายอย่างที่จะใช้กับ เอฟ-22 และ เอฟ-35 ตอนนี้มันมาติดตั้งอยู่ในซูเปอร์ฮอร์เน็ตแล้ว รวมถึงแผนงานปรับปรุงเครื่องยนต์ เอฟ-414 ให้มีแรงขับสูงมากขึ้น ทำให้มันไม่ได้ด้อยไปกว่า ซู-30 เลย ยิ่งเมกันมีแผนการจัดหาล่าสุดที่อาจถึง 500 เครื่อง จากความไม่แน่นอนในโครงการ เอฟ-35 ว่ามันจะพัฒนาเสร็จพร้อมผลิตเข้าประจำการเมื่อใด การันตีได้เลยว่าเราจะยังมีอะไหล่ให้ใช้ได้อีกนาน และราคาเครื่องที่จะลดลงจากจำนวนผลิตที่มากขึ้น
ท่านท้าวฯ จะลองเล่นเกมส์ 20 คำถามก็ได้นะครับ สนุกดี
ท.อ. เลือกแล้ว ! อันนี้ดีจริง ๆ ครับ ว่าแต่คนออกเงินเค้าโอเคด้วยรึเปล่าเอ่ย ?
ตอนนี้ผมได้ยินแต่ น.บ. พูดถึง ซ๊าบและของแถม
หรือว่าจะเป็นแลกหนี้ข้าวแล้วเพิ่มเงิน ?
ตอนนี้ผมได้ยินแต่ น.บ. พูดถึง ซ๊าบและของแถม
หรือว่าจะเป็นแลกหนี้ข้าวแล้วเพิ่มเงิน ?
>>> ถ้าผมเลือกได้ ขอเป็นแบบแรกครับ ส่วนแบบที่ 2ขอผ่าน ตามเหตุผลที่ให้ไว้ ยกเว้นเลขที่ออกเป็น 15 หรือ 18 ครับ
ผมรู้ข้อมูลคร่าวๆ ที่พอจำได้แต่เจ้า Su-30 MK ที่บอกกันว่าเครื่องยนต์ราคาเครื่องล่ะ 1 ดอลล่าห์
????? 1 USD = 40 กว่าบาท ???????
ผลที่ออกมา คือ F-22 คร้าบ บ บ..! รอรับเครื่องใหม่ได้ในอีก 50 ปีข้างหน้า >>>>> ล้อเล่นครับ อย่าถือสา
ผลจะออกอะไรมาตอนนี้ไม่สนแล้วครับ แต่ขอให้มันใหม่ๆ ซิงๆ อ่อนๆ (เอ๊ะ ! อันนี้ไม่เกี่ยว) และไม่มีกั๊กอาวุธเป็นใช้ได้ครับ
...เหอะ ๆ ท่านท้าวมาวางระเบิดแล้วก็ชิ่ง ....
เคลียร์ด่วนเลยครับท่านท้าวฯ กระทู้เนียนไม่เนียนข้างบนทำผมระทึกอีกแล้ว
ผลสรุปนะออกมาแล้ว จริงๆ แต่ทุกอย่างสามารถเปลี่ยนได้ด้วยหลายกระแส เพราะสรุปเป็น ของ ทอ. แต่กว่าจะไปถึง มติ ครม.(รัฐบาลที่ตั้งขึ้นมาอย่างที่เคยพูดไว้เมื่อนานมาแล้ว) อาจจะเป็นไปดังที่สรุป หรือ ตัวสำรองอาจจะถูกเชิญขึ้นมา โดยตัวจริงสอบตก(โดยไม่รู้ตัว) เอาไว้รอๆๆๆๆ ครับ ตราบใดที่เครื่องบินเครื่องแรกยังไม่บินมาลงโคราช หรือตาคลี ก็ยังสรุปไม่ได้ครับว่าจะได้ ขนาดลงนามจ่ายตังค์ไปแล้วยังยกเลิกเลย
เอาน่า.....อย่ารู้คำตอบที่สรุปจริงๆที่ผมบอกเลย เพราะสรุปแล้วจริงๆ แต่ทุกคนเขากลัวว่าสรุปไม่ได้ดังที่สรุป ครับ ต้องขออภัยที่ไม่รู้จะบอกว่ายังไงดี
(ถอนทุน ล้างแค้น เพื่อพรรคพวกหรือเพื่อประเทศชาติ)
สรุปครับท่านท้าว ว่ามีน้องคนนึงที่เคยช่วยงานท่านท้าวที่กองประชาสัมพันธ์ มาสมัครงานกับที่บริษัทผมครับ สมัครในตำแหน่ง Healthy Sleeping Klinic ครับ (น้องที่จบจาก ม.หัวเฉียวสาขากายภาพบำบัดนะครับ) บังเอิญน้องเขาให้ชื่อท่านท้าว มาเป็นผู้รับรองความประพฤตินะครับ ไว้เวลาที่จะนัดสัมภาษณ์น้องเขา ผมอาจจะโทรหาท่านท้าวอีกทีนะครับเรื่องการรับรองนะครับ ขออนุญาตไว้ก่อน ช่วยบอกน้องเขาทีนะครับ รอนิดนึงเพราะตอนนี้ตำแหน่งเต็มครับ อ้าวกรรมดันนอกเรื่อง
สรุปอีกที รอล้อแตะพื้นที่กองบิน1 ครับจะชัวร์ที่สุด
ฝากท่าน nok ดูแลเป็นพิเศษหน่อยครับ เรียนตามตรงครับว่าน้องคนนี้เป็นคนพิเศษของผมที่ผมดูแลเป็นพิเศษอยู่ด้วยครับ นอกจากจะเรียนมาทางกายภาพบำบัดแล้ว ยังช่วยผมแปลหลังสือแปลบทความและเขียนหนังสือด้วยครับ ดูแลเป็นพิเศษมาตั้งแต่ปี ๑ เดี๋ยวนี้จบทำงานแล้ว ไม่น่าเชื่อว่าพวกเรานี่แป๊บๆ แก่ไปอีกหลายปีเลยนะครับ.....ขอบคุณมากๆๆ เป็นพิเศษครับ ท่าน Nok เห็นเธอโทรมารายงานผมเมื่อวานตอนเที่ยงว่าแวะเข้าไปสัมภาษณ์มา ครับ
อย่างนี้ถ้าจะให้ผมช่วยอะไรเป็นพิเศษก็บอกได้นะครับ แจ้งผ่านเธอหรือแจ้งโดยตรงกับผมได้ครับ ใจถึงใจกันตลอดครับ ฮึๆๆๆๆๆ
เรียนมาทางกายภาพบำบัด งั้นก็สามารถดูแล นวดนิ้วมือที่เคยหักให้สามารถใช้การได้ดังเดิมนะซิครับ ฮ่า ฮ่า
อยากให้ท่าน Nok รับน้องเข้าทำงาน ง่ายนิดเดียวครับ สารภาพมาซะดี ๆ มาผลสรุปที่ออกมาแล้วคืออะไร บอกใบ้ก็ได้ 20 คำถามก็ดี
(อิ อิ ล้อเล่นนะครับ ล้อเล่น)
ฝากรูปมากให้ด้วยครับ
เธอมายื่นใบสมัครเมื่อวันที่ 11 ครับท่านท้าว ถ้าเป็นภาษารับพิจารณาเป็นพิเศษครับ แต่บอกน้องว่ารอนิดนะครับ ตอนนี้อัตราเต็มครับ แต่ตำแหน่งนี้ทางบริษัทที่ผมทำงาน ต้องการตลอดครับ บุคลิกน้องดูดีครับ พี่ที่เป็น Training ชมครับ (น้องหน้าตาก็น่ารักดีครับ) แต่ผู้จัดการแผนกนี้ น่ารักกว่า ถ้าใครดูอัจฉริยะ ข้ามคืน เมื่อเดือนก่อน จะเห็นผู้จัดการแผนกนี้ออก TV.แป็บนึง ยินดีและเต็มใจประสานให้ครับ เพราะในส่วนนี้เรื่องการหานักกายภาพผมรับผิดชอบอยู่แล้วครับ
ไม่ต้องถามน้องเขานะครับว่าผมขี้เหร่ขนาดไหน (ตัวยังกะตึก) อิอิ แถมดำอีกตะหาก
จะเร่งประสานให้คร้าบ