เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. วันที่ 31 พ.ค.ที่ผ่านมา จากเหตุวางระเบิดบนถนนสาย 410 ยะลา-เบตง โดยกลุ่มผู้ไม่ประสงค์ดีต่อผืนแผ่นดินไทย เป็นอีกครั้งที่เจ้าหน้าที่รัฐต้อง ?พลีชีพเพื่อชาติ? อาสาสมัคร ?ทหารพราน? ชุดเฉพาะกิจที่ 4105 พลีชีพรวม 12 นาย พวกเขาเป็น อีกกลุ่มคนที่คนไทยทั้งประเทศต้องบันทึกระลึกถึง...
?ทหารพราน? มีบทบาทร่วมปกป้องแผ่นดินไทยมายาวนาน
รวมถึงในภารกิจ ?ดับไฟใต้? สกัดกั้นการแบ่งแยกดินแดน !!
ย้อนดูประวัติการก่อตั้งกองกำลังในส่วนที่เรียกว่า ?ทหารพราน? กำเนิดขึ้นตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อ 18 ก.ค. 2521 โดยกองทัพบก ครั้งแรกตั้ง ขึ้นในรูปแบบโครงการอาสาสมัครทหารพราน ในช่วงที่ประเทศไทยกำลังเผชิญ กับภัย ?คอมมิวนิสต์? โดยสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาเพิ่มความรุนแรงขึ้น ผู้ก่อการร้ายสามารถรวมกำลังได้ในระดับหนึ่ง จนสามารถปฏิบัติการกับที่หมายที่ตั้ง พลเรือน ตำรวจ และทหาร ได้ในทุกพื้นที่และทุกโอกาส ซึ่งก็คล้าย ๆ กับเหตุการณ์รุนแรง-เหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ในยุคนี้
ในอดีตนั้นสาเหตุที่ทำให้ฝ่ายรัฐเสียเปรียบผู้ก่อการร้าย เกิดจากกำลังทหารประจำการส่วนใหญ่ถูกทุ่มลงไปในการเข้าพื้นที่ และต้องอยู่ประจำที่ ทำให้ขาดแคลนกำลังบางส่วนในการสู้รบ ที่สำคัญอีกปัญหาคือเงื่อนไขในเรื่อง พื้นที่เป้าหมาย ทหารหลักจากต่างพื้นที่ต้องใช้เวลาในการปรับตัวเพื่อให้เข้ากับ สภาพแวดล้อม จึงเป็นผลกระทบ-เป็นจุดอ่อนอย่างมากในการปฏิบัติการ ซึ่งจากปัจจัยในจุดนี้แนวคิดในการจัดตั้ง ?ทหารพราน? จึงเกิดขึ้น
ระยะแรกของการจัดตั้งเกิดขึ้นในรูปของอาสาสมัครทหารพราน ชื่อ ?โครงการชุดปฏิบัติการพิเศษทหารพรานชายแดนไทย-กัมพูชา? มีรูปแบบกำลังเป็น ?หน่วยอาสาสมัครพิเศษ? เน้นการใช้คนในพื้นที่เพื่อแก้ไขจุดบกพร่องที่เกิดขึ้น ซึ่งอาจพูดได้ว่ามูลเหตุของการเกิดขึ้นของทหารพรานเกิดจากผลพวงของภัยก่อการร้ายในยุคที่แนวคิดคอมมิวนิสต์กำลังแผ่อิทธิพล และทหารพรานก็สามารถร่วมทำงานอย่างได้ผลจนฝ่ายรัฐไทยได้รับชัยชนะในที่สุด และด้วยเอกลักษณ์ในชุดเครื่องแบบสีดำของทหารพรานขณะนั้น ก็ทำให้ ได้รับสมญา ?นักรบชุดดำ?
กำลังพลทหารพรานนั้น อันที่จริงประกอบกันขึ้นทั้งกำลังพลที่เป็นทหารประจำการ และเปิดรับอาสาสมัครจากบุคคลทั่วไป ซึ่งผู้อาสาเมื่อฝึกครบตามหลักเกณฑ์แล้วก็จะได้รับการแต่งตั้งให้เป็น ?พลอาสาพิเศษ? และให้ขึ้นทะเบียนเป็นกองประจำการ โดยไม่ต้องตรวจเลือกเพื่อเข้าเป็นทหารประจำการ
หลักเกณฑ์ในการสมัครเป็นทหารพรานนั้น นอกจากเกณฑ์ทั่วไปอย่างเรื่องของการมีสัญชาติไทย อายุระหว่าง 18-29 ปีแล้ว อีกคุณสมบัติพิเศษเฉพาะก็คือต้องเป็นคนในพื้นที่ปฏิบัติการ ชำนาญภูมิประเทศ
?ทหารพราน? จึงเป็น ?กลุ่มกำลังประจำถิ่น?
ที่มีบทบาทสำคัญในการทำงานในพื้นที่เป้าหมาย
ทั้งนี้ กับสถานการณ์ความไม่สงบใน 3-4 จังหวัดชายแดนใต้ ระยะ หลัง ๆ ?ทหารพราน? เริ่มเป็นที่พูดถึงอย่างมาก และเป็นที่คาดหวัง เพราะ หลายฝ่ายมองว่าน่าจะแก้ปัญหาในเรื่องความชำนาญพื้นที่ รวมถึงลดปัญหาเรื่อง ความไม่เข้าใจในท้องถิ่นในระดับหนึ่ง ซึ่งก็คล้ายกับสถานการณ์ที่เคยเกิดขึ้นใน ยุคภัยคอมมิวนิสต์
ข่าวการระดมพลทหารพรานเพื่อปฏิบัติภารกิจปกป้องอธิปไตยไทย ปกป้องชีวิตประชาชน ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เริ่มปรากฏออกมาชัดเจนตั้งแต่ประมาณปลายปี 2548 โดยมีการเสนอแนวคิดใช้นักรบชุดดำปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ ประมาณ 30 กองร้อย ถือเป็น 1 ในยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาในจังหวัดชายแดนภาคใต้
ทหารพรานชุดแรกถูกส่งเข้าพื้นที่จริงจังตั้งแต่เดือน ม.ค. ปี 2550 จำนวน 10 กองร้อย และมีการส่งเพิ่มในต้นเดือน เม.ย. อีก 20 กองร้อย มีทั้งทหารพรานชายและรวมถึง ?ทหารพรานหญิง? โดยทำงานกระจายตามพื้นที่ต่าง ๆ ทุกอำเภอใน 3 จังหวัด ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และอีก 4 อำเภอในพื้นที่จังหวัดสงขลา
จากการสะกดรอยตามไปถล่มกลุ่มโจรใต้ถึงบนฐานฝึกใหญ่ กลางเทือกเขาตะเว จังหวัดนราธิวาส ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าเขาที่เข้าถึงลำบาก จากผลงาน ของทหารพรานหญิงในการควบคุมม็อบสตรีที่โจรใต้ใช้เป็นเครื่องมือ ซึ่งลดเงื่อนไขเรื่องการถูกเนื้อต้องตัวและการสื่อสารทางภาษาลงไป และอีกหลาย ๆ กรณีที่เป็นตัวอย่างความสำเร็จในการปฏิบัติภารกิจ ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีในการแก้ไขปัญหา ซึ่งฝ่ายรัฐก็มีนโยบายที่จะเสริมทหารพรานเพิ่มขึ้นอีก
ขณะเดียวกันก็เป็นผลเสียโดยตรงต่อกลุ่มผู้ไม่ประสงค์ดี
การก่อม็อบขับไล่-โจมตีจึงเปิดฉากและรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ
?บาดเจ็บ? บ้าง ?พลีชีพ? บ้าง เป็นระยะ ๆ นอกจากเจ้าหน้าที่รัฐหน่วยอื่น ๆ แล้ว...กับ ?ทหารพราน? ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ นับวันก็จะยิ่งเสี่ยง ซึ่งทั้งระดับรัฐบาล-หน่วยบังคับบัญชาโดยตรงก็คงจะต้องเสริมเกราะ-สร้างเขี้ยวเล็บ ตลอดจนดูแลด้านสวัสดิการให้พวกเขาและเธอเหล่านี้เต็มที่เช่นเดียวกับฝ่ายกำลังหลัก และประชาชนคนไทยทั้งหลายก็ควรจะได้ระลึก-ตระหนักถึงความสำคัญของเหล่า ?ผู้กล้าอาสา? กลุ่มนี้ด้วย
?ทหารพราน? เป็นอีกตัวจักรสำคัญในการ ?ดับไฟใต้?
คืออีกกลุ่ม ?ผู้กล้า? ปกป้องชีวิตไทย-ผืนแผ่นดินไทย
สดุดีแด่ทหารพรานทุกนาย...ผู้เสียสละเพื่อชาติ !!!!!.
ที่มา : http://www.dailynews.co.th
ร่วมสดุดีด้วยครับ
ประท้วงกันให้วุ่นวาย เป้าหมายหนึ่งคือมุ่งให้ถอนทหารพรานออก แล้วเพิ่มทหารหลักเข้ามาแทน มองเจตนากลุ่มผู้เรียกร้องได้หลายแบบนะครับ
(อ้างว่า) เชื่อใจในทหารหลักว่าฝึกมาดี ไม่มีแตกแถว วินัยสูง ไม่รังแกประชาชน
หรือว่า เห็นว่าทหารพรานทำงานได้ผลกว่าทหารหลัก เลยต้องหาทางกำจัดให้พ้นออกไปจากพื้นที่โดยเร็ว ???
เชื่อว่า หากเรายอมให้มีการถอนทหารพรานออกไป อีกสักพัก ก็คงมีการหาเหตุเรียกร้องให้ถอนทหารหลักออกไปอีก ทีนี้ก็เหลือแต่ตำรวจกับ ชรบ. ! หวานปากเลยทีนี้ !
มันต้องมาแนวนี้แหงม ๆ เชื่อหัวไอ้เรืองซิครับ...
?
??
เรื่อง..ประท้วง..ให้.ทหารพรานออกนอกพื้นที่..มีที่มาที่ไปครับ...แต่เป็น ว.5 ครับ พี่เสือใหญ่...ออกอากาศ..บ่ได้..
ผมขอยืนยัน..ครับ...ทหารพราน..ก็...มีวินัย..ไม่ยิ่งหย่อน..ไปกว่า..ทหารหลัก..ครับ....ผมว่าในบางโอกาศ..เค้ามีความอดทนสูงกว่าทหารหลักด้วย..ซ้ำไป...
ก็..ผมเคย..สวมชุดดำ...อยู่..สองสามปี..นี่..ครับ...
ประธานคมช. เมื่อถูกถามว่าจำเป็นต้องเพิ่มกำลังทหารลงไปในพื้นที่อีกมั้ย ท่านตอบว่า ใจท่านอยากจะเพิ่มกำลังทหารพรานลงไปอีก ให้เป็นแบคให้การปกครองในพื้นที่ให้มากขึ้น กับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ท่านว่า ท่านไม่อยากให้ทหารนำ ท่านอยากเห็นคนในพื้นที่ได้รู้ ได้ร่วมแก้ไขปัญหาในท้องถิ่นของตน ทหารเพียงช่วยดูแลความมั่นคง
พล.อ.สนธิ กล่าวว่าในฐานะที่เป็นทหารด้วยกัน ท่านก็มีความรู้สึกเจ็บในใจเช่นกันเมื่อมีข่าวทหารตายในการปฏิบัติงาน ท่านว่าบุคคลภายนอกอาจไม่รู้สึกเท่าในสังคมทหารที่ร่วมทุกข์สุขกันมา
จากรายการใหม่ของ TITV จำชื่อไม่ได้ เมื่อคืน 2030น. ครับ
เหล่าทหารกล้าผู้วายชนม์, Rest in peace นะครับ..
ให้กำลังใจทหารกล้าผู้พิทักษ์ประชาชน
ประนามทหารบ้า ที่ข่มขู่ประชาชน
ท่านผู้พันต้อมครับ ลึกๆแล้วผมก็เชื่ออย่างท่านว่า แต่ข่าวที่ออกมามันไม่ใช่อย่างนั้นสิครับ ก็ยังตายกันทุกวัน ทุกวัน ชาวบ้านเขาก็เห็นว่าทหาร"แพ้"นะสิครับ
เหมือนบอลชั้นเชิงดีระบบเด่นความสามารถเฉพาะตัวสูงเกียรติประวัติโดเด่น แต่โดนอีกฝ่ายที่อ่อนเชิงกว่าสวนกลับทีเผลอนำไปสอง-ศูนย์นะครับ ถึงจะเล่นไปแต่สิบห้านาทีของครึ่งแรกแต่กองเชียร์มันใจแป้วนะครับพี่ แถมสถานการณ์ไม่เป็นใจ กองเชียร์ฝ่ายเรายังตีกันเองอีก เพราะสตาฟเชียร์ส่วนหนึ่งอมเงินค่าน้ำแล้วอีกส่วนหนึ่งเปิดโปงก็เลยโดนไล่ออกก็ไป แต่ก็ไม่ยอมไปแต่ไปยืนด่าอยู่ข้างสนามจนตะลุมบอลกับโค้ชและนักบอลที่ม้านั้งสำรองฝ่ายเราเอง ทั้งนักบอลในสนามทั้งกองเชียร์ที่เหลือก็เลยไม่รู้จะเชียร์บอลหรือเชียร์มวยดี ไอ้นักบอลฝ่ายตรงข้ามก็เลยได้ใจเพราะนักบอลเราเสียสมาธิก็เลยฉวยดอกาสสวนเอาสวนเอาจนท่าทางจะสาม-ศูนย์ กองเชียร์ทางบ้านก็โคตะระกลุ้มเลย