หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


นักศึกษากว่าพันบุกมัสยิดร้องให้ถอนทหาร บึ้มฐานทหารยะลาดับ 8 เจ็บ2

โดยคุณ : แมวบิน เมื่อวันที่ : 03/06/2007 16:03:08

31 พฤษภาคม 2550 20:42 น.

โจรใต้กดระเบิดหวังสังหารหมู่ทหาร ร้อย. ร.5034 ขณะลาดตระเวนบ้านบาโด จ.ยะลา และซุ่มยิงทหารที่บันนังสตาดับอีกราย ส่วนที่รือเสาะและปัตตานี เด็ก-สตรีกว่า 200 ปิดถนนสายยะลา-เบตงจี้จับมือยิงชาวบ้าน เครือข่ายประชาชน-นักศึกษากว่าพันคนบุกมัสยิดกลางขอให้ถอนหทารออกจากพื้นที่ ตร.หาดใหญ่รวบ 5 หนุ่มปัตตานีคาดพัวพันบึ้มหาดใหญ่

เมื่อเวลา 07.10 น. วันที่ 31 พฤษภาคม ศูนย์รวมข่าว สภ.อ.เมืองยะลา ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ทหารว่าเกิดเหตุระเบิดที่บริเวณหัวสะพานบ้านบาโด หมู่ 3 บ.บ้านโด ต.ยุโป อ.เมือง จ.ยะลา มีเจ้าหน้าที่ทหารได้รับบาดเจ็บ 2 นาย จึงได้แจ้ง พ.ต.ต.วิรัช ดำคง สวป.สภ.อ.เมืองยะลา ร.ต.ท.ทัศพล สุวรรณบูลย์ ร้อยเวร สภ.อ.เมือง พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ภ.จว.ยะลา เจ้าหน้าที่จากกองวิทยาการเขต 45 ยะลา รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที

เมื่อถึงที่เกิดเหตุซึ่งอยู่ริมถนนสายสาคอ-ยุโป หมู่ 3 บ.บาโด ต.ยุโป อ.เมือง เจ้าหน้าที่นำเชือกมากั้นในสถานที่เกิดเหตุ พร้อมกันประชาชนออกห่างจากจุดเกิดเหตุ เนื่องจากเกรงว่าคนร้ายอาจจะซุกระเบิดไว้อีกลูก จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ภ.จว.ยะลา จึงได้เปิดเครื่องตัดสัญญาณมือถือ และเครื่องตัดสัญญาณรีโมทคอนโทรล ก่อนที่จะเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พบว่าที่บริเวณหัวสะพานตรงบริเวณเนินดิน มีหลุมที่เกิดจากแรงระเบิด กว้างประมาณ 1.5 เมตร ลึกประมาณ 50 ซม. และพบสายไฟเชื่อมต่อกับอุปกรณ์รับสัญญาณรีโมทรถยนต์ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน เบื้องต้นเชื่อว่าเป็นระเบิดชนิดแสวงเครื่อง จุดชนวนด้วยรีโมทคอนโทรล

ส่วนทหารที่ได้รับบาดเจ็บ 2 นาย เจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลา ทราบว่าเป็นทหารสังกัด ร้อย. ร.5034 ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี คือพลทหารอรรถพล หอมไท อายุ 22 ปี ถูกระเบิดเข้าที่ขาซ้ายอาการสาหัส และ ส.ท.วีรศักดิ์ พ้นภัย อายุ 28 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณศีรษะบาดเจ็บเล็กน้อย

จากการสอบสวน ทราบว่าในขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารทั้งสองนาย พร้อมพวกเดินลาดตระเวนรักษาความปลอดภัยในเส้นทางดังกล่าว เมื่อมาถึงจุดที่เกิดเหตุจึงหยุดพัก และขณะที่ผู้บาดเจ็บทั้งสองนายกำลังนั่งอยู่ที่เกิดเหตุ คนร้ายซึ่งคาดว่าสังเกตพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ ได้กดรีโมทระเบิดที่ซุกซ่อนเอาไว้ จนเกิดระเบิดทำให้มีผู้บาดเจ็บ 2 นาย ซึ่งเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นฝีมือของกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่

ในพื้นที่ดังกล่าวยังพบว่า เมื่อวันที่ 7 มีนาคม ได้เกิดเหตุระเบิดรถยนต์ของ พ.ต.อ.นราศักดิ์ เชียงสุข รอง ผบก.ภ.จว.ยะลา ซึ่งเหตุครั้งนั้น ทำให้ พ.ต.อ.นราศักดิ์ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย และห่างจากจุดเกิดเหตุดังกล่าวไม่มาก เคยมีเหตุคนร้ายยิงแล้วเผา น.ส.พัชราภรณ์ บุญมาศ บัณฑิตสาวมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา เมื่อวันที่ 11 เมษายน ที่ผ่านมาด้วย

ยิงทหารลาดตระเวนเจ็บอีกหนึ่ง

เมื่อเวลา 12.25 น.วันเดียวกัน ศูนย์ข่าว สภ.อ.บันนังสตา จ.ยะลา ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุคนร้ายซุ่มยิงเจ้าหน้าที่ทหาร ที่บริเวณถนน หมู่ 1 บ้านอุเบ ต.บาเจาะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หลังได้รับแจ้งพร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารรีบรุดไปยังที่เกิดเหตุทันที เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุทราบว่ามีเจ้าหน้าที่ทหารถูกยิงได้รับบาดเจ็บ ชื่อ จ.ส.ต.บุญยัง แก้วเกตุ อายุ 46 ปี บ้านเลขที่ 160 ต.วังใหม่ อ.เมือง จ.ชุมพร ถูกยิงด้วยกระสุนเข้าที่ท้อง และเสียชีวิตขณะนำตัวส่ง รพ.บันนังสตา

จากการสอบสวนทราบว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหาร ร.25 พัน. 1 ชุดเฉพาะกิจที่ 12 กำลัง 8 นาย เดินเท้าลาดตระเวนตามเส้นทางเพื่อรักษาความปลอดภัย เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนซุ่มยิงจนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว

ยิงดาบตำรวจดับคาตลาดนัด

เมื่อเวลา 11.45 น.วันเดียวกัน ร.ต.ต.นเรศ พุ่มแก้ว พนักงานสอบสวน สภ.อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายยิงตำรวจเสียชีวิต ที่ ต.มะรือโบตก อ.ระแงะ จึงรายงานให้ พ.ต.อ.มาโนช อนันต์ฤทธิกุล ผกก.สภ.อ.ระแงะ ทราบและนำกำลังเข้าตรวจสอบ พบศพ ด.ต.บุญสุด ยวนแหล อายุ 44 ปี ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราบ สภ.อ.ระแงะ ทำหน้าที่รองหัวหน้าป้อมตำรวจยุทธศาสตร์ ต.มะรือโบกตก ถูกยิงด้วยอาวุธปืน 11. มม.เข้าที่ขมับซ้ายทะลุท้ายทอย

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ขณะที่ ด.ต.บุญสุด เดินตรวจลาดตระเวนบริเวณตลาดนัด ซึ่งเป็นช่วงที่มีประชาชนทยอยมาจับจ่ายซื้อของคึกคัก ได้มีคนร้ายจำนวนไม่ต่ำกว่า 2 คน เดินปะปนมากับประชาชนที่ซื้อของและสะกดรอยตาม ด.ต.บุญสุด กระทั่งได้จังหวะจึงชักอาวุธปืนจ่อยิงขมับซ้าย สิ้นเสียงปืน ด.ต.บุญสุด ล้มลงกับพื้น คนร้ายยังขโมยปืนขนาด.357 จำนวน 1 กระบอก และวิทยุสื่อสาร 1 เครื่องของเจ้าหน้าที่หลบหนีไปด้วย และก่อนหนีได้ยิงปืนขึ้นฟ้า 2 นัดเพื่อข่มขู่ชาวบ้านเปิดทางให้หลบหนีอย่างลอยนวล

ซุกบึ้มดักสังหารทหารหน่วยรบพิเศษลพบุรี

เมื่อเวลา 12.35 น. วันที่ 31 พฤษภาคม ร.ต.ต.ครรชิดพล กึนอ ร้อยเวร สภ.อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ได้รับแจ้งมีเหตุระเบิดริมถนนสายรือเสาะ-พิธาน หมู่ 1 ต.รือเสาะออก อ.รือเสาะ ห่างจากที่ว่าการอำเภอรือเสาะ และ สภ.อ.รือเสาะ ประมาณ 1 กม.จนดังสนั่นหวั่นไหวทั่วเมืองรือเสาะ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย พล.ต.ต.ยงยุทธ เจริญวานิช ผบก.ภ.จว.นราธิวาส พ.ต.อ.บรรลือ ชูเวช ผกก.สภ.อ.รือเสาะ และกำลังเจ้าหน้าที่รุดไปตรวจสอบ พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดชุด ?เหยี่ยวดง? จ.นราธิวาส ซึ่งเมื่อถึงที่เกิดเหตุ ตรวจสอบพบเศษหญ้า เศษกิ่งไม้ริมถนนกระเด็นปะปนกับสะเก็ดระเบิดทั่วพื้นถนน อาทิ เศษกล่องเหล็กเศษเหล็กหุนตัดสั้น เชื้อปะทุ เศษดินระเบิดไดนาไมต์ เศษแผงวงจร จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

จากการตรวจสอบพบว่า บริเวณเนินดินข้างถนนซึ่งเป็นป่ารกทึบ คนร้ายซุกวัตถุระเบิดไว้ในพงหญ้าและกิ่งไม้ริมถนน โดยบรรจุระเบิดน้ำหนัก 5-7 กก.ในกล่องเหล็ก จุดชนวนระเบิดด้วยรีโมทคอนโทรล และเมื่อเจ้าหน้าที่ทหารชุดลาดตระเวน สังกัดกองพลรบพิเศษ ชุดสันติสุข 412 ฉก.954 จำนวน 5 นาย ขับรถกระบะโตโยต้าสีขาว 1 คัน ทหาร 3 นาย และรถจักรยานยนต์ 1 คัน ทหาร 2 นาย แล่นผ่านมา คนร้ายได้กดชนวนระเบิด ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ทหารสังกัดดังกล่าวได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 3 นาย

นายทหารที่บาดเจ็บ ได้แก่ จ.ส.อ.เลอพงษ์ เฉลิมรัตน์ อายุ 50 ปี ส.อ.สังวิน อยู่ไกล อายุ 48 ปี และ จ.ส.อ.สุทธิไสย ยอดยิ่ง อายุ 48 ปี ถูกนำตัวส่ง รพ.รือเสาะ ทั้งสามนายถูกเศษกระจกรถยนต์เข้าที่หัว และแรงระเบิดอัดจนหูอื้อ มึนงง และจุกที่บริเวณหน้าอก ห่างออกไปประมาณ 50 เมตร พบรถยนต์กระบะสีขาว จอดอยู่ข้างทางในสภาพกระจกด้านหน้า และด้านข้างถูกแรงอัดระเบิดได้รับความเสียหาย ตัวถังและยางรถยนต์แตกไม่สามารถวิ่งได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นการตอบโต้ของกลุ่มผู้ไม่หวังดี ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่กดดันอย่างหนัก และหลังเกิดเหตุ พบกลุ่มวัยรุ่นอยู่ในละแวกดังกล่าวและมีท่าทางพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงได้รวบตัว 2 คนไปสอบสวนเพื่อขยายผลต่อไป

วางระเบิดทหารแขนหักที่ปัตตานี

เมื่อเวลา 14.30 น. วันเดียวกัน พ.ต.อ.วัชรินทร์ อมราพิทักษ์ ผกก.สภ.อ.มายอ จ.ปัตตานี รับแจ้งมีเหตุระเบิดขึ้นที่บริเวณโต๊ะหินอ่อน หน้าร้านขายยากสิกรรมเภสัช สามแยกปาลัส หมู่ 5 ต.มายอ อ.มายอ จ.ปัตตานี ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบหลุมระเบิดใต้โต๊ะหินอ่อน เศษสะเก็ดระเบิดเป็นจำนวนมาก แรงระเบิดทำให้กระจกข้างบ้าน และฝาผนังเป็นรู และทำให้ ส.ท.อัครพล ปิ่นเนียม อายุ 20 ปี ชุดกองร้อย.15311 กองพันที่ 1 จ.ประจวบคีรีขันธ์ ถูกระเบิดแขนซ้ายหัก อาการสาหัส นำตัวส่ง รพ.ปัตตานี

จากการสอบสวนทราบว่า ชุดทหารดังกล่าวชุดลาดตระเวนสาย 42 เพื่อดูแลความสงบ เรียบร้อย และได้แวะริมถนน เพื่อเดินดูความเรียบร้อย ขณะที่ ส.ท.อัครพล และพวก กำลังจะนั่งที่โต๊ะม้านั่ง คนร้ายได้กดชนวนระเบิดจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว

เด็ก-สตรีปิดถนนจี้จับมือยิงชาวบ้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลาประมาณ 08.30 น.วันเดียวกัน มีกลุ่มเด็กและสตรีมุสลิมปิดหน้าประมาณ 200 คน รวมตัวกันไปชุมนุมประท้วงปิดถนนสาย 410 ยะลา-เบตง ช่วงบันนังสตา-ธารโต หมู่ 3 บ้านเงาะกาโปร์ ต.บันนังสตา อ.บันนังสตา พร้อมนำเต็นท์จำนวน 4 หลังมาติดตั้งกลางถนน และนำป้ายผ้าเขียนข้อความภาษาไทยว่า "เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่บ้านภักดีใครรับผิดชอบ ถ้าเป็นมุสลิมมึงชอบดำเนินคดี แต่ถ้าเป็นไทยพุทธมึงเฉย", "ทหารพรานมึงฆ่าผู้บริสุทธิ์ นี่หรือ PARASITAMOL" ทำให้ผู้สัญจรไปมาไม่สามารถเดินทางไป อ.เบตงได้

สำหรับข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุมคือ ให้เจ้าหน้าที่จับกุมผู้ลงมือก่อเหตุยิงชาวบ้านเสียชีวิตที่บ้านภักดี หมู่ 5 ต.เขื่อนบางลาง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 9 เมษายน โดยมีผู้เสียชีวิตจำนวน 5 คน และบาดเจ็บ 8 คน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างการชุมนุม มีเจ้าหน้าที่จากหน่วยเฉพาะกิจที่ 14 และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อ.บันนังสตา จัดกำลังเข้ารักษาความปลอดภัยเนื่องจากกลุ่มผู้ชุมนุมไม่มีท่าทีสลายตัวง่ายๆ ในขณะเดียวกันนายเมธี กาญจนภูวะ นายอำเภอบังนังสตา ร่วมกับสมาชิก อบจ.เขต.อ.บันนังสตา เข้าไปเจรจากับผู้ชุมนุมแต่ยังไม่เป็นผล ส่วนกลุ่มสตรีและเด็กที่ชุมนุมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ระบุว่าเป็นกลุ่มเดียวกันกับที่ปิดถนนถนนสายปะแต-ยะหา บริเวณหมู่ 4 ต.บาโระ อ.ยะหา และเรียกร้องขอความเป็นธรรมกรณีชาวบ้านถูกยิง 4 คน ที่บ้านขนำ หมู่ 8 บ้านสะปอง ต.ปะแต เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา

ล่าสุด เมื่อเวลา 16.30 น.กลุ่มผู้ชุมนุมทั้งหมดยอมสลายตัว ขณะที่เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวชาย 3 คนขณะนำอาหารไปส่งให้กลุ่มผู้ชุมนุม ได้แก่ นายอิสมาแอ ดอนิ นายมะตอเซ อาเซม และนายอิรอน สาละยา

ซุ่มยิงทหารชุดลาดตระเวนตาย 1 เจ็บ 2 ที่บันนังสตา

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 31 พฤษภาคม ศูนย์ข่าว สภ.อ.บันนังสตา จ.ยะลา ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุคนร้ายซุ่มยิงเจ้าหน้าที่ทหารพราน ที่บริเวณบนถนน หมู่ 2 ต.บาเจาะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หลังรับแจ้งพร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารรุดไปยังที่เกิดเหตุทันที พบว่ามีเจ้าหน้าทหารพรานถูกยิงเสียชีวิต 1 นาย คือ อส.ทพ.อัมรินทร์ กรีดแก้ว อายุ 43 ปี และได้รับบาดเจ็บ 2 นาย คือ อส.ทพ.อาไสย สุ่นหลี อายุ 25 ปี และ อส.ทพ.ภานุวัฒน์ มณีมาต ขณะนี้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลา จากการสอบสวนทราบว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารพรานชุด ร.4105 เดินเท้าลาดตระเวนตามเส้นทางเพื่อรักษาความปลอดภัย เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนซุ่มยิงจนเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บดังกล่าว

บุกมัสยิดกลางปัตตานีไล่ทหาร

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ปัตตานี ว่าตั้งแต่เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 31 พฤษภาคม มีประชาชนจำนวนมากทั้งชายและหญิงเดินทางเข้ามาในตัวเมืองปัตตานีโดยใช้รถยนต์และรถโดยสารประจำทางจาก จ.ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส เพื่อมาชุมนุมประท้วงที่มัสยิดกลางปัตตานี ซึ่งทันทีที่มีรายงาน พ.ต.อ.สมจิตร นาสมยนต์ ผกก.สภ.อ.เมืองปัตตานี ก็สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทหารกระจายกำลังตั้งจุดสกัดทุกเส้นทางเข้าออกตัวเมืองปัตตานีและบริเวณเขตเทศบาลเมือง โดยเจ้าหน้าที่สามารถสกัดรถยนต์กว่า 100 คันตามเส้นทางต่างๆ แต่อย่างไรก็ตาม ไม่สามารถสกัดได้หมด เนื่องจากกลุ่มประชาชนทยอยมากับรถโดยสารประจำทาง จนตัวเมืองปัตตานีมีกลุ่มผู้ชุมนุมกระจายอยู่ตามจุดต่างๆ จำนวนมาก และทยอยเดินเข้าไปยังมัสยิดกลางและคณะกรรมการอิสลามปัตตานี

กระทั่งเวลาประมาณ 12.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมซึ่งเป็นผู้ชายมีผ้าปิดหน้าเดินทางมาถึงบริเวณหน้าคณะกรรมการอิสลามปัตตานีและบุกฝ่ากำแพงเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารที่ดูแลความเรียบร้อยเข้าไปภายในคณะกรรมการอิสลาม ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถสกัดกลุ่มผู้ชุมนุมได้ จากนั้นผู้ชุมนุมกว่า 500 คน ปิดถนนสายกะลาพอ พร้อมกล่าวปราศรัยโจมตีการทำงานของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ขณะที่บริเวณหน้ามัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี มีกลุ่มผู้ชุมนุมซึ่งเป็นสตรีปิดหน้ากว่า 1,000 คน รวมตัวปิดถนนสายจะบังติกอ และบุกยึดมัสยิดกลางประจำจังหวัดปัตตานีทันที พร้อมนำป้ายผ้าจำนวน 20 ผืนติดไว้ที่รั้วมัสยิดและถือประท้วง โดยมีข้อความระบุโจมตีการแก้ปัญหาของรัฐ และเจ้าหน้าที่ทั้งตำรวจและทหาร รวมทั้งโจมตีการปฏิบัติหน้าที่ของทหารในสามจังหวัดและต้องการขับไล่ให้ทหารออกนอกพื้นที่ทั้งหมด

ต่อมากลุ่มผู้ชุมนุมแจกเอกสารแถลงการณ์ในการชุมนุมครั้งนี้ โดยระบุว่าเป็นเครือข่ายนักศึกษาเพื่อพิทักษ์ประชาชน ได้แก่ สมาคมนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง กลุ่มนักกิจกรรมรามคำแหงเพื่อสังคม เครือข่ายประชาชนจังหวัดชายแดนใต้ ศูนย์ประสานงานเครือข่ายนักศึกษาและประชาชน เครือข่ายนิสิตนักศึกษาไทยมุสลิม องค์การนักศึกษา มอ.ปัตตานี สภานักศึกษา มอ.ปัตตานี และเครือข่ายนักศึกษาเพื่อสันติภาพ

โดยในคำแถลงการณ์สรุปว่าประชาชนในสามจังหวัดได้รับผลกระทบโดยตรงจากการกำหนดนโยบายและการใช้กฎหมายที่แข็งกร้าว เช่น อาศัย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน การประกาศเคอร์ฟิว ซึ่งเป็นการส่งเสริมให้เกิดความรุนแรงขึ้นง่าย ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดเป็นการกระทำอันโหดร้ายที่เจ้าหน้าที่รัฐเป็นคนลงมือ ทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบทางด้านจิตใจ ชีวิตและทรัพย์สินอย่างรุนแรง จึงเรียกร้องให้ถอนกำลังทหารและอาสาสมัครออกจากพื้นที่ทั้งหมด ยกเลิกประกาศเคอร์ฟิวและการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน รัฐต้องดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ที่กระทำความผิด รัฐต้องไม่ครอบงำสื่อทุกชนิด รัฐต้องปล่อยผู้บริสุทธิ์ และรัฐต้องเปิดโอกาสให้ประชาชนแสดงความคิดเห็น ซึ่งการชุมนุมประท้วงครั้งนี้เครือข่ายนักศึกษาเพื่อพิทักษ์ประชาชนมีจุดยืนที่จะเคลื่อนไหวร่วมกับประชาชนจนกว่าจะได้รับคำตอบจากรัฐบาลที่ชัดเจนตามข้อเรียกร้อง

ขณะที่ พล.ต.ต.ก่อเกียรติ วงศ์วรชาติ ผบก.ภ.จว.ปัตตานี เรียกกำลังตำรวจทหารและชุดปราบจลาจลตำรวจ ทหารพรานหญิง ประมาณ 200 นาย เข้าดูแลความเรียบร้อยพร้อมทั้งอำนวยความสะดวกแก่ผู้ชุมนุมครั้งนี้ โดยเน้นย้ำห้ามใช้ความรุนแรง ซึ่งกลุ่มผู้ชุมนุมประกาศจะปักหลักจนถึงพรุ่งนี้หากไม่มีหน่วยงานใดตอบรับข้อเสนอตามที่กลุ่มผู้ชุมนุมเรียกร้อง

คุมตัวผู้ต้องสงสัย 5 คนพันบึ้มหาดใหญ่

มีรายงานแจ้งว่าเมื่อคืนวันที่ 30 พฤษภาคม เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา และตำรวจ สภ.อ.หาดใหญ่ สามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยที่คาดว่ามีส่วนพัวพันกับเหตุระเบิดป่วน 8 จุดใน อ.หาดใหญ่ เมื่อหลายวันก่อนได้ 5 คน ที่บ้านเช่าห้องแถว เลขที่ 39 ซอย 49 ถนนเพชรเกษม เขตเทศบาลตำบลควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ตาม พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ได้แก่ 1.นายแวรอซาลี ยามา อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39 หมู่ 4 ต.ปะเสยะวอ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี 2.นายรอซาดี ดอเลาะ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4/3 ถนนมายอ ต.อาเนาะรู อ.เมือง จ.ปัตตานี 3.นายเอฟฟี หะแวบือซา อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 95 หมู่ 4 ต.ปะเสยะวอ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี 4.นายสูเปียน สาอุ อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15/1 หมู่ 4 ต.ปะเสยะวอ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี 5.นายสายดี มามุ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 113 หมู่ 4 ต.ปะเสยะวอ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี

โดยจากการเข้าตรวจค้นภายในบ้านเช่าดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตรวจพบอุปกรณ์จำนวนหนึ่งที่สามารถนำไปใช้ประกอบวัตถุระเบิดได้ พร้อมกับเสื้อผ้าของผู้ต้องสงสัย เพื่อนำไปตรวจสอบหาเขม่าระเบิดต่อไป ซึ่งผู้ต้องสงสัยทั้ง 5 คน ขณะนี้ถูกส่งตัวไปควบคุมและขยายผลที่ศูนย์วิวัฒน์สันติ ค่านอิงคยุทธบริหาร

ต่อมาในเวลา 11.20 น. วันที่ 31 พฤษภาคม พล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผช.ผบ.ตร.) พร้อมคณะชุดสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดี รวมถึงเจ้าหน้าที่กองวิทยาการพิสูจน์หลักฐาน เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุและเข้าเก็บหลักฐานเพิ่มเติม และเปิดเผยว่าการเข้าควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยในครั้งนี้ได้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับข้อมูลแจ้งเหตุมา จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ ผลปรากฏว่าสามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้จำนวนหนึ่ง พร้อมกับชิ้นส่วนอุปกรณ์ต่างๆ ที่สามารถนำไปประกอบเป็นวัตถุระเบิดได้ เช่น สารประกอบระเบิด นาฬิกาข้อมือ รวมถึงสายไฟจำนวนหนึ่ง ขณะเดียวกันจากการเข้าตรวจสอบเก็บหลักฐานเพิ่มเติมพบกล่องโฟมที่เขียนข้อความระบุว่า "รอวันมึงตาย" โดยมีสีแดงระบายในลักษณะเป็นหยดเลือดวางอยู่ภายในบ้านเช่าหลังดังกล่าวอีกด้วย

"ส่วนเรื่องนี้จะเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดหาดใหญ่หรือไม่ ตอนนี้ยังไม่สามารถด่วนสรุปได้ เพราะต้องรอผลการสอบสวนขยายผลอย่างละเอียดก่อน ดังนั้นขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ทำงานสักระยะหนึ่ง จากนั้นถึงจะทราบว่าอะไรเป็นอะไร" พล.ต.ท.อดุลย์ กล่าว

ผช.ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า ส่วนมาตรการด้านการตรวจสอบเฝ้าจับตาชุมชนต่างๆ ที่คาดว่ามีกลุ่มแนวร่วมผู้ก่อความไม่สงบจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือกลุ่มบุคคลต้องสงสัยเข้ามาแฝงตัว เพื่อเตรียมก่อเหตุร้ายนั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่เอกซเรย์อย่างเข้มงวดทุกจุด โดยเฉพาะชุมชนมุสลิม ซึ่งชาวบ้านให้ความร่วมมือดีมาก และครั้งนี้ก็เช่นกัน เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้เพราะได้รับความร่วมมือและแจ้งเบาะแสจากประชาชนเข้ามา

มท.1 เรียกประชุมปอเนาะต้นแบบ

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 31 พฤษภาคม ที่สำนักงานผู้ตรวจราชการประจำเขตราชการที่ 11 จ.สงขลา ต.เขารูปช้าง อ.เมือง จ.สงขลา นายอารีย์ วงศ์อารยะ รมช.มหาดไทย เป็นประธานเปิดโครงการพัฒนาผู้บริหารและครู สถาบันศึกษาปอเนาะต้นแบบตามโครงการ ?สานใจไทย-สู่ใจใต้? ซึ่งได้รับความเห็นชอบจาก พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ และ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ในการส่งเสริมให้มีการพัฒนาสถาบันศึกษาปอเนาะต้นแบบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อใช้เป็นแนวทางและรูปแบบสำหรับพัฒนาปอเนาะอื่นๆ ต่อไปในอนาคต เพื่อเตรียมการพัฒนาในด้านการจัดการศึกษาต้นแบบให้เป็นไปในทิศทางที่ถูกต้อง และสอดคล้องตามแนวนโยบาย โดยกำหนดแผนนโยบายพัฒนาสถาบันศึกษาปอเนาะต้นแบบร่วมกัน และเพื่อให้ความรู้ตลอดจนกำหนดทิศทางในการพัฒนาสถาบันศึกษาปอเนาะต้นแบบ

สำหรับสถาบันศึกษาปอเนาะต้นแบบที่ได้รับการคัดเลือกในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ สถาบันศึกษาปอเนาะสะนอดารุสลาม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี สถาบันศึกษาปอเนาะมะฮ์หัดฟัจรุลอิสลาม อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส และสถาบันศึกษาปอเนาะอิสลามศาสน์ดารัสลาม อ.เมือง จ.ยะลา

นายอารีย์ กล่าวว่า โรงเรียนปอเนาะต้นแบบถือว่าเป็นการสร้างความทันสมัยให้โรงเรียนปอเนาะ ทั้งนี้ โรงเรียนปอเนาะจะต้องเน้นในด้านจริยธรรม รวมทั้งต้องเสริมในด้านการศึกษาสมัยใหม่เข้าไปด้วย โดยนอกจากจะสร้างให้เด็กมีจริยธรรมมีคุณงามความดีที่เขาต้องทำตามหลักศาสนาแล้ว เขาจะได้รับในเรื่องของความรู้อื่นๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการศึกษา ในเรื่องของภาษา แต่ภาษาก็ไม่ใช่เฉพาะแค่ภาษาไทย ภาษาอาหรับ ภาษาไทย และภาษายาวี เขาก็พูดกันอยู่แล้ว รวมทั้งส่งเสริมเรื่องอาชีพ ซึ่งควรจะสร้างเสริมให้เด็กเยาวชนมีอาชีพที่ถูกต้อง ไม่ว่าจะทำในเรื่องสวนผลไม้ สวนยาง หรือในเรื่องของการปศุสัตว์

http://www.komchadluek.net/2007/05/31/a001_120975.php?news_id=120975

 

22:29 น. คนร้ายบุกโจมตีฐานปฏิบัติการทหารพราน ตั้งอยู่ที่โรงเรียนบ้านตาเนาะปูเตะ ม.4 ต.ตาเนาะปูเตะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา ยิงปะทะกันหลายนาที ขณะเดียวกันคนร้ายอีกกลุ่มก็กดชนวนระเบิดใส่ทหารชุดลาดตระเวนขณะกำลังเข้ากำลังลาดตระเวนเข้าที่เกิดเหตุส่งผลให้มีเจ้าหน้าที่ทหารเสียชีวิตทันที 8 นาย บาดเจ็บอีก 2 นาย เจ้าหน้าที่นำตัวส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลา

ต่อมา เวลา 21.00 น. คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้รถยนต์เป็นพาหนะในการก่อเหตุใช้อาวุธปืนสงครามกราดยิงใส่ชาวบ้านที่บริเวรหน้ามัสยิดคอลอบุโย อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา เป็นเหตุให้มีชาวบ้านเสียชีวิต 5 ราย บาดเจ็บ 2 ราย

 

http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?lang=T&newsid=261854

 

 

ขอไว้อาลัย กับทหารกล้า

 

และเบื่อกับข่าวพวกนี้แล้วนะครับ ท่าน ๆ ทำอะไร ก็รีบ ๆ หน่อยครับ

 





ความคิดเห็นที่ 1


แนวร่วมนักศึกษามาอีกแล้ว

พวกนี้แหละที่ไป recuit เด็กในมหาลัยมาเป็นแนวร่วม

ยี้

โดยคุณ Skyman เมื่อวันที่ 01/06/2007 08:39:53


ความคิดเห็นที่ 2


ตราบใดที่หมูไม่กลัวน้ำร้อน ตราบนั้น ก็จะพบกับโล่ห์มนุษย์ ตราบใดที่เจอโล่ห์มนุษย์ ตราบนั้นกฎอัยการศึกต้องกลับมา บรื๋อส์ส์ส์ส์     แล้วก็ แล้วก็ ถูกต้องนะครับ จ้าวนาย

โดยคุณ tik เมื่อวันที่ 01/06/2007 18:35:45


ความคิดเห็นที่ 3


เสียชื่อลูกพระบิดา หมด

ผมในนานลูกพระบิดา(มอ.)จะไม่ยอมให้ มหาวิทยาลัยเสียชื่อ

โดยคุณ laserxboy เมื่อวันที่ 02/06/2007 01:51:09


ความคิดเห็นที่ 4


ให้การศึกษาไปก็เท่านั้นแหละ บ้านเมืองเดียวกันอยู่ในสภาพล่อแหลมยังมีการซ้ำเติม เสียแรงที่เกิดมาเป็นมนุษย์

โดยคุณ tikker เมื่อวันที่ 02/06/2007 14:51:52


ความคิดเห็นที่ 5


เสียแผ่นดิน สิ้นชาติ มิอาจต้าน

หากทหารถอนไป ใครจะสู้

เอกราชนั้นไซร้ไม่มีอยู่

แผ่นดินกูแผ่นดินข้า

ต้องรักษาด้วยชีพต้องรีบพลัน

โดยคุณ รักชาติ เมื่อวันที่ 03/06/2007 16:03:08