ไทย กำลัง โดนล้อม ด้วย ของใหญ่
เป็นที่ ทราบกันดีว่า ประเทศ ในแถบ ภูมิภาค อาเซียน กำลัง นำ เครื่องบิน ขับไล่ ขนาดใหญ่ เข้าประจำการ
ทอ.มาเลเซีย มี SU-30 MKM จำนวน 18 เครื่อง
ทอ.เวียดนาม มี SU-27 จำนวน 12 เครื่อง และ SU-30 อีก 4 เครื่อง ( ข้อมูล จาก WIKIPEDIA )
ทอ.อินโดนีเซีย มี SU-27SKM จำนวน 5 เครื่อง และ SU-30MK2 อีก จำนวน 5 เครื่อง
ทอ.สิงคโปร์ เล่น ของใหญ่ + ความไฮเทค อย่าง F-15SG อีก จำนวน 12 เครื่อง *ของ สิงคโปร์ ตอนนี้ ยังไม่ได้ ผลิต เพราะ อเมริกา ต้อง ผลิต F-15K ให้ เกาหลีใต้ ก่อน
แล้ว สมมุติว่า หวย ออกเป็น JAS-39
ฉากจำลอง การรบ สมมุติ
JAS-39 1 หมู่บิน จำนวน 4 เครื่อง + เครื่องบิน แจ้งเตือนภัยทางอากาศ ล่วงหน้า Erieye 1 เครื่อง
JAS-39 โหลด อาวุธ อากาศ-สู่-อากาศ พิสัย ไกล แบบ METEOR จำนวน 4 นัด + อาวุธ อากาศ-สู่-อากาศ พิสัยใกล้ แบบ AIM-9 SIDEWINDER จำนวน 6 นัด ทุกเครื่อง
*เมธีเออร์ พิสัย ยิงไกล 120 กิโลเมตร
คู่ต่อสู้ คือ SU-30 MKM 1 หมู่บิน 4 เครื่อง ไม่มี เครื่องบิน แจ้งเตือนภัย ทางอากาศล่วงหน้า
เรียน ถามท่าน กูรู ผู้รู้ ทุกท่าน ว่า งานนี้ ใครเหนือกว่าใคร ใครจะอยู่ ใครจะไป
ปล.ข้อมูล ของ ทอ.เวียดนาม และ ทอ.อินโดนีเซีย
เอามาจาก WIKIPEDIA
หากข้อมูล ผิดพลาด ก็ขอ อภัย ด้วย
ตัวใหญ่หรือตัวเล็กใหม่หรือเก่ายังสำคัญน้อยกว่านักรบผู้ใช้อาวุธ เวียดนามและอัฟกานิสถาน คือตัวอย่างที่ดีครับ และที่สำคัญไม่มีนักยุทธศาสตร์การทหารที่ไหนเชื่อว่าเครื่องบินไม่กี่สิบเครื่องจะเปลี่ยนความได้เปรียบในการรบได้ครับ
...อันนี้ต้องพิจารณาครับว่า...
1. เรดาร์ของ อีรีอาย กับ เรดาร์ของ ซู-30 ใครกวาดจับได้ไกลกว่ากัน (ใครสายตายาวกว่า,ใครเห็นก่อนได้เปรียบ)
2. ลูกยาวใครยิงได้ไกลกว่ากัน (หมัดยาวกว่าได้เปรียบ)
3. ใครจะ เห็นก่อน + ล็อกเป้าได้ก่อน + ยิงได้ก่อน (ข้อ 1+2)
...ถ้าหลุดลูกยาวมาได้ ก็มากัดหมากัน ใครคล่องกว่า ทนกว่า(อยู่ได้นานกว่า) มุมุยิงดีกว่าได้เปรียบ ...
...ท่านอื่นว่าไงครับ....(ช่วยลงรายละเอียดวิเคราะห์ให้ผมด้วย)
อาวุธที่ใช้สำคัญมากนะครับ แต่เอาเข้าจริง ยุทธวิธีและฝีมือก็สำคัญพอ ๆ กันครับ
ฉะนั้น ที่เราวิเคราะห์กันอยู่ทุกวันนี้ว่าใครสู้กับใครแล้วชนะใคร "เป็นเพียงการวิเคราะห์ในเชิงเทคโนโลยีเท่านั้น" เพราะปริมาณเชิงคุณภาพอย่างยุทธวิธี แผนการรบ รวมถึงฝีมือ มันวัดกันยากครับ
ถ้าเรามี เอฟ 16 ซี/ดี มันก็เล็กพอๆกันล่ะครับแค่บรรทุกอาวุธมากกว่านิดนึง แต่ลองคิดว่า เล็กแต่ ตัวช่วยดำเนินการรบครบ ล่ะก็ ใหญ่กว่า หมัดยาว ก็ร่วงเป็นล่ะครับ เช่นมีจรวด พื้นสู่อากาศ เป็นฉากแรกก่อน ใช้ บ.ข.
...ซู อาศัย สายตายาว ลูกยาว มากกว่า บินไกล แต่เรามี อิริอาย กวาดได้แล้ว จะให้ดีมี กระเปาะอิเล็คทรอนิค หรือ ให้อิริอายทำสงครามอิเล็คทรอนิค รบกวนเรดาห์ของซูไว้ ถ้าสามารถรบกวนเรดาห์ได้ การล็อคเป้าให้กับจรวดแบบ เซมิแอคทีฟ เรดาห์ ทำงานไม่ได้ (เคยลงไว้ในแทงโก้เกี่ยวกับ เอฟ 16 ปะทะ ซู 30 )
...ที่เหลือ วัดกันด้วยฝีมือ ถ้าหลุดจากลูกยาวมาได้ ฝีมือ ความชำนาญ กำลังใจ ( ท.อ.ไทยเราน่าจะได้เปรียบไม่น้อย )
ใหญ่กว่า หมัดยาวกว่า สายตาเห็นไกลกว่า ดูแล้วก็น่าจะได้เปรียบกว่าตัวเล็ก ช่วงชกสั้น นะครับ
แต่ สิ่งสำคัญที่สุดคือ ใครจะกล้าเหนี่ยวไกก่อนกันครับ !
ลองนึกดูนะครับว่า เรากับมาเลย์จะยิงกันจริง ๆ หรือ ?
ถ้าเกิดวิกฤติการณ์ความขัดแย้งกันจริง ๆ ถึงขั้นเอากำลังทางอากาศเข้าข่มขู่กัน การจะกดปุ่มอะไรสักอย่างมันคงไม่ง่ายเหมือนเล่นเกมส์ อิล-ทู แน่นอน
ผู้บังคับบัญชาแต่ละฝ่ายคงจะต้องคิดหนักละครับเรื่องกฏการปะทะ
เพราะสิ่งที่จะตามมาคงยากที่ขุนทหารแต่ละฝ่ายจะรับผิดชอบได้
ถ้า บ. ของฝ่ายใดถูกสอย โอกาสที่สงครามเต็มรูปแบบจะตามมามีแน่นอน
ประเมินสถานการณ์ปัจจุบันจนถึงอนาคตแล้ว??ผมว่ายังห่างไกลอีกเยอะครับที่เราจะตีกับมาเลย์
ดังนั้น แค่เราเอาเงินที่มีอยู่ไม่มากนักไปดาวน์ บ.ข. ใหม่ ๆ เท่าที่เราจะพอจะซื้อหาได้มาทดแทนของเก่าก็พอแล้ว ของใหญ่ของหนักราคาแพงก็ให้พวกหน้าใหญ่แต่กระเป๋าแฟบเค้าช๊อปกันไปเถอะครับ ระยะยาวผมว่าปัญหางบบำรุงรักษาและระดับความพร้อมรบจะคอยตามหลอกหลอน ท.อ. มาเลย์ และ อินโดฯ แน่นอน ส่วนสิงค์โปร์ก็ช่างมันเถอะเพราะเงินมันเยอะ
เอฟ-16 รุ่นใหม่ ๆ หรือ กริเป้น ก็พอเพียงกับเราแล้วละครับ
พ.ศ. พอเพียง
ป.ล. เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศกระทู้นี้ เอาเป็นสมมุตินะครับว่า ท.อ. เราคิดจะไปเข็น บ.ข. หนักมาใช้ตามเพื่อนบ้านจริง ๆ เพื่อน ๆ คิดว่า บ. รุ่นใดเหมาะสมกับเราที่สุดครับ จะมีชื่อ ไต้ฝุ่น อยู่ด้วยรึเปล่าเอ่ย ?อะ พี่เสือ บอกใบ้อะไรหรือเปล่าครับ
อ่อ...เปล่าครับน้องนก? แค่กำลังชอบโมไต้ฝุ่น 1/48 อยู่อะครับ
แต่จะว่าไป ไต้ฝุ่นก็ไม่มีอะไรที่น่ารังเกียจนี่ครับ หากเราจะต้องมี บ. รบขนาดหนักจริง ๆ ไม่โหลด้วย
แต่ผมว่า ท่องกันให้คุ้นปากเถอะครับ
พ.ศ. พอเพียง
โอ๊ะ... ขอโทษด้วยครับคุณนก แก้ไขให้แล้วนะครับ กำลังมึนทีวีทุกช่องอยู่ครับ
มึนทำไมครับพี่ ปล่อยวางดีกว่าแบบผม พรุ่งนี้ก็ไปทำบุญเวียนเทียน อุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย แล้วสวดมนต์ก่อนเข้านอนครับ พี่ สบายใจ
เครียดไปก็ไม่มีประโยชน์ครับ พี่
ใช่ครับ Gripen กับ F-16 ก็ใช่ว่าจะเป็นเป้าให้ Su-30 ซ้อมยิงเสียเมื่อไหร่
พอเพียงครับพอเพียง
เซ็งครับ
เมื่อสักห้าปีก่อนนี่ไม่เคยคิดเลยว่า ทุกวันนี้เราจะต้องมานั่งปลอบใจตัวเองว่า "เราไม่ได้ด้อยไปกว่ามาเลย์ และเวียดนาม"
เคยภูมิใจว่าทัพฟ้าเรารองจากแค่สิงคโปร์ ไม่เคยคิดว่ามาเลย์ และเวียดนามจะทำอะไรเราได้มากมาย
ทุกวันนี้ต้องมานั่งมองเขาพัฒนากองทัพโครมๆกันตาปริบๆ แล้วก็มานั่งบอกตัวเองว่า "นักบินเราเก่ง ไม่เป็นไรหรอก" แล้วก็ปลอบตัวเอง บอกตัวเอง ให้พอเพียงๆ ซื้อตัวเล็กๆ เราไม่รวย เรารองเขาไม่มาก ฯลฯ
ไม่รู้ทำไมวิ่งกันมาพร้อมๆกันดีๆกลายเป็นเริ่มจะตามหลังเขาไปซะได้
หรืออีกสิบปีจะต้องเริ่มแข่งกับเขมร และลาว ?
เข้ามาบ่นๆเฉยๆครับ กำลังเซ็งเรื่องข่าวยุบพรรค
พี่เสือใหญ่ ขิงแก่ประจำบอร์ด ชอบไต้ฝุ่นเหมือนผมเลยนะครับ(แต่ชอบบอลคนละทีม) หากถ้าสมมุติว่าเราต้องการของใหญ่ๆจริงผมลุ้นไต่ฝุ่น แต่มันไม่มีแววเอาเสียเลย ก็เลยลุ้นไนสิ่งที่มีวี่แววบ้าง แต่ก็เหมือนเข้าพกเข้าดงไม่เห็นข่าวคราวอะไรออกมาซักที ตอนนี้ถ้าเป็น JAS-39 ก็เอาแล้ว แต่ขอเป็นรุ่นใหม่ๆที่อัพเกรดขีดความสามารถขึ้นมาอีกและติดอาวุธรุ่นใหม่ๆก็จะดีครับ อย่างน้อยก็ยังเป็นที่เกรงใจของข้างบ้านขึ้นมาอีกนิด ไม่ใช่ข้างบ้านมีไรเฟิลมานั่งขัดกัน แต่เราตังค์ไม่พอจะซื้อแค่ .22 มาดูเขาก็คงไม่กลัวเท่าไหร่ ถึงจะทำอันตรายได้ก็เถอะ ถ้าเป็น .38 ก็ยังเกรงๆบ้างจริงไหม
วันนี้กะจะทำบุญวันพระใหญ่ซะหน่อย แต่กลับต้องทำงาน ติดเวร แต่ไม่เป็นไรทำวันไหนก็ได้ ขอให้ใจอยากทำและบริสุทธิ์
ปล.วันนี้จะไม่ด่าใคร(ถ้าไม่เหลืออด) อิ อิ
เห็นด้วยกับคุณ MIG31 ครับ
Semi Stelth คงตรวจจับยากขึ้นหน่อย เรดาห์ของเขาน่าจะตรวจจับได้ที่ 50 - 80 กิโลมเมตร
แต่ถ้าตาเหยี่ยวที่จะได้มาตรวจจับเครื่องซูได้ไกลว่า คงกดได้เร็วกว่าแน่
ติด AA9 มาก็เถอะ เรากดก่อนแน่นอน
Typhoon น่ะตัดไปเถอะครับ ค่าเครื่องก็แทบอาเจียนอยู่แล้วเจอค่าซ่อมบำรุงอีก สภาพบ้านเราทั้งการเงินและความจำเป็นนี่ยังไม่ถึงขนาดให้เล่นเครื่องใหญ่ครับ เอาแค่ F-16 ไม่ก็ JAS น่าจะเอาอยู่ พวกนี้เล็กแต่ต่อยเจ็บเหมือนกัน ถ้าอยากบอมบ์สนามบินข้าศึกก็ติดระเบิดให้เต็มลำก็หนาวแล้ว (F-5 ถ้าหาอะไหล่ใหม่เอี่ยมมาได้ก็คงจะน่ากลัวไม่น้อยโดยเป็นเครื่องคุ้มกันให้ F-16 หรือทิ้งระเบิดเองเลย ไม่อย่างนั้นก็ทยอยปลดทิ้งไปเถอะไม่ค่อยปลอดภัยแล้ว)
แต่พูดถึง ทอ. มาเลย์กับอินโดนี่ไม่เท่าไหร่นะครับเพราะได้ยินว่านักบินยังอ่อนด้อยกว่าเราเยอะ (แต่อย่าประมาทเด็ดขาด ดร. มหาเธร์อดีตนายกมาเลเซียบอกไว้ว่าหยุดพัฒนาอะไรก็หยุดได้ยกเว้นทหาร ไม่แน่ทางนั้นอาจจะพร้อมหมดแล้วก็ได้) และพร้อมรบเพียง 60-70 เท่านั้นที่น่ากลัวคือของสิงคโปร์เพราะเขารวยกว่าเราแบบไม่เห็นฝุ่นแถมเชื่อได้เลยว่าเงินหนาขนาดนั้นต้องพร้อมรบเสียอย่างน้อย 80-90 เปอร์เซนต์ อาจจะร้อยด้วยซ้ำ สงสัยจังถ้าเราขุดคอคอดกระเสียแล้วสิงคโปร์จะเบ่งบานแบบที่เห็นนี้หรือเปล่า
ของใหญ่ใครจะไม่อยากได้กันครับคุณทรินิตี้ แต่ละลำเฉียบๆ ทั้งนั้น เสียอย่างเดียวเงินเรามันน้อยเกิน (ใครรู้ตัวว่าบริหารเงินเก่งไปช่วยทางรัฐกันหน่อยก็ดีนะครับ เผลอๆ เราอาจได้ Su-35 หรือ F-15 เป็นของตัวเองซัก 5 ฝูง) แต่ก็ยังดีกว่าลาวครับมีมิก-21 อยู่กระจุกหนึ่งบินไม่ได้สักลำ
สำหรับคุณเสือใหญ่ถ้าอยากได้เครื่องบินใหญ่ผมเชียร์ Su-30 นะ ราคาสมเหตุสมผลดี ไม่มีแทงกั๊กด้วย
จริง ๆ ผมก็ชอบน้องซูนะครับ แต่เมื่อพิจารณาให้ดี ๆ ถึงเรื่องงบการบำรุงรักษาซึ่งจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อสภาพความพร้อมรบแล้ว รวมถึงระบบอาวุธที่ต้องจัดหามาใหม่หมด จำต้องตัดใจลาน้องซูไปครับ
ท.อ. ถือว่าตัวเองตัดสินใจถูกมาโดยตลอดครับที่เลือก บ.ข. ตระกูลเมกันมาไว้ประจำการ ตอนซื้อหาอาจแพงกว่าของค่ายรัสเซีย-จีน แต่ระยะยาวแล้วคุ้มค่ากว่า 16 ปี แล้วที่ไวเปอร์ของเรายังบินรักษาเขตแดนได้อยู่ ยิ่งถ้าเป็น เอฟ-5 อี/เอฟ เนี่ย ปีหน้าก็ครบ 30 ปีแล้ว การจะให้เปลี่ยนไปใช้ ซู มิก หรือ เจ จึงเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยากมาก ๆ
ยกเว้นว่า ท.อ. ไม่ได้เป็นคนเลือกเอง แต่การเมืองเป็นคนเลือกให้ อันนี้ก็ว่ากันไม่ได้ ความพยายามเรียกหนี้ข้าวคืนโดยการแลกเป็นอาวุธจากรัสเซียยังคงมีอยู่นะครับ โดย ก. พานิชย์ และ ก. ต่างประเทศ?รอแต่ช่วงเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น
กรณี ท.อ. มีความต้องการ บ.ข. หนัก และสามารถเลือกแบบ บ. ได้ด้วยตนเอง รับรองว่าต้องมองไปที่ บ. ของโลกตะวันตกแน่นอนครับ ตอนนี้ตัวเลือกน่าจะเหลือเพียง เอฟ-15 อี?และ ไต้ฝุ่น
แต่ถ้าให้เดาใจ ท.อ. คงไม่เลือกเอา บ.ข. หนัก มาเป็น บ.ข. 20 หรอกครับ เต็มที่ที่สุดก็น่าจะเป็น เอฟ/เอ-18 อี/เอฟ แต่อย่างที่บอกไว้ตอนต้นนั่นแหละครับ?สุดท้ายแล้วคงไม่แคล้ว เอฟ-16 กับ กริเป้น ที่จะมาวิน
?พ.ศ. พอเพียง ครับ
ป.ล. ไต้ฝุ่นเป็นเพียงความชอบส่วนตัวครับ?แค่?สเกล 1/48?เอาไว้ที่บ้านก็สุขใจแล้ว?
มาว่า ด้วย ขนาด MID-SIZE กันก่อน
เครื่องบินขับไล่ ขนาดกลาง ในปัจจุบัน นี้ มีอยู่ 3 แบบ คือ
1.EUROFIGHTER 2000 ( TYPHOON )
2.DASSAULT RAFALE
3.BOEING F/A-18 E/F Super Hornet
ใน 3 ตัวนี้ เรื่องราคา
1.TYPHOON ราคา ประมาณ ลำละ 2,500 ล้าน บาทไทย
2.RAFALE ราคา ประมาณ ลำละ 2,300 ล้าน บาท ไทย
3.F/A-18 E/F ราคา ประมาณ ลำละ 2,100 ล้านบาท ไทย
เรื่อง ประสิทธิภาพ
TYPHOON VS RAFALE ก็ พอๆกัน เพราะว่า เกิดมาจาก โครงการเดียวกัน แต่ ฝรั่งเศส แยก ออกมาทำเอง เป็น RAFALE
สรุป ถ้า เลือกจะเป็น ลูกน้อง อเมริกา ต่อไป ก็เลือก F/A-18 E/F
ถ้าจะเลือก ของใหม่ ลูกพี่ใหม่ แต่ ราคา ฉีกกัน ไม่มาก ก็เป็น RAFALE
ถ้า จะเลือก TYPHOON ไม่รู้ว่า เหตุผล อะไร ก็เลือก
ขนาดใหญ่
F-15E คลอบคลุมถึง F-15K และ F-15SG ด้วย
ถ้า รวย แล้วมีเงินพอ แล้วจะอยู่ กับ อเมริกาต่อไป ก็ต้อง เลือก F-15E
ถ้า อยากได้ ของ ประสิทธิภาพดี ราคาถูก ค่า บำรุงรักษา แพง ก็เอาตระกูล SU-30 หรือจะ ขยับไปเล่น SU-37 SUPER FLANKER โน่นเลย
เข้าเมือง ตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตาม
*รู้เขารู้เรา รบ 100 ครั้ง ชนะ 100 ครั้ง
10 ปากว่า ไม่เท่าตาเห็น 10 ตาเห็น ไม่เท่ามือคลำ
10 มือคลำ ก็ไม่ เท่ากับ การ ไม่มี เงินซื้อจบ
สรุป พศ.พอเพียง ลง ท้าย ด้วย ของเล็กๆ แต่ได้ใจความ
แต่ ของเล็กๆนี่ ผมชอบ MIRAGE 2000_5 MK2
ถามต่อเลย MIRAGE 2000_5 MK2 กับ JAS-39 GRIPEN อะไร มี ภาษี ดีกว่ากัน แล้ว คุณ ชอบแบบไหน
..จะรุ่นไหนใหญ่แค่ไหนก็ตาม แน่จริงบินรุกล้ำเข้ามาในจังหวัดยโสธรช่วงต้นๆเดือน พ.ค.ดิ พ่อจะล่อด้วย พญาแถน 1 พญาแถน 2 ได้บินหลบกันเหมือนF-18F ของไอ้กันในหนังเรื่องBehind Enermy Lineแน่ อิอิ
ถ้า..( โปรดละไว้ในฐานที่เข้าใจ ผมไม่รู้แล้วอนาคตบ้านเมืองเราจะเป็นไงมั่ง -*- )
เราคงมีเจ้าตัวเล็กๆอย่างไวเปอร์และกริเป้น เป็นกระดูกสันหลังต่อไป ก็อย่างที่ว่ากัน.. หากเจอภาระศึกนอกบ้าน คงต้องเหนื่อยแน่ ยกพวกไปเสี่ยงเยอะหน่อย ระเบิดธรรมดา/ไม่ธรรมดา +น้ำมันห้าร้อยหกร้อยแกลลอน กระเตงกันเข้าไป อีกกลุ่มก็ถือลูกยาวเท่าที่มี ไปคุ้มกันเพื่อน รออิรี่อายคอนเฟิร์มเมื่อไหร่ กดปล่อยเมื่อนั้น ขืนให้เค้ามาเล่นวงในก็แตกกระจายซิ พวกเราของฝากของกินยิ่งเต็มไม้เต็มมืออยู่
นอกจากนั้นก็ยังต้องลักลอบหลบตามซอกหลืบซอกเขาเข้าไป ตัวเล็กจริงแต่RCSไม่เล็กเหมือนพวกสเตลท์คนรวยๆเค้า คิดแล้วเราน่าจะมีพวกจรวดHarmติดตัวไว้พอให้แคล้วคลาด ส่วนอิรี่อายลำน้อยจะมีECM/Jammer ครบเครื่องสักเท่าใดเชียว แต่ลูกทัพฟ้าไม่ต้องกลัวกำลังใจเรามีเหลือล้น ทางกองทัพได้สร้างวัตถุมงคลไว้เพื่อการนี้แล้ว มีอำนาจสามารถสร้างภาพลวงรูปวงกลมให้ปรากฏบนจอเรดาห์ของข้าศึกได้ โดยไม่ต้องอาศัยอุปกรณ์แจมมิ่งหรือปรากฏการณ์แสงสะท้อนของแฟลชบนเศษฝุ่นอื่นใดมาเกี่ยวข้อง..
ขอขอบคุณรูปประกอบจาก http://www.rtaf.mi.th/rtafnews/rtafnewsdetail.asp?id=844 ...
( ปล. ลบได้ ไม่ว่ากัน คนมันกำลังเครียด..)
Mirage2000 ปิดไปแล้วครับผม ขืนซื้อคงไม่มีอะไหล่แน่แท้
Su-30 MK(S) ตกรอบไปแย้วเรียบร้อย เพราะมัน Big ไปและ Turbofan ก็การใช้งานสั้น 55555 พูดไม่ออก
ถ้าจะลูกน้องพี่เมกกาต่อไปก็ Super Hornet กับ F-16 C/D ซะงั้น หรือรอ Strike Eagle มือสอง
Gripen เล็กพริกขี้หนู แถมด้วย AWAC ERIEY 2 ลำ โหลด Weapon ได้พอกับ Tiger II แต่ ไฮเทคกว่า
ตัวผมเองยังนึกถึงเรดาร์ ที่สามารถตรวจจับ การขึ้นบินของเขา เพราะเมื่อมาถึงจุดจุดหนึ่งนั้น อาวุธ พื้นสู่อากาศ ก็คงสำแดงเดชออกมาครับ (หรือว่าเราไม่มีหว่า)
พร้อมกับการขึ้นบินของเราที่ทันเวลาพอดีครับ ( 8.30 น.)
ใครมองข้ามระบบต่อสู้อากาศยานไปแล้วครับ ยกมือขึ้น
ซึ่งพูดตรงๆก็ได้ครับ ผมยังอยากเห็นจรวด เห่าเก่งของบ้านเราที่พัฒนาเอง มันอัดตูดเครื่องที่บินเข้ามาใกล้บ้านเรานะครับ ก็ พ.ศ พอเพียงไงครับ ระบบดาต้า ลิงค์ ของเราน่าจะทำงานประสานกับเรดาร์ตรวจจับการขึ้นบินของเขาได้นะครับ ถ้าเข้ามาใกล้ถามแล้วไม่ตอบ AUTO LAUNCHER ไปเลยครับ จะประเภทสายเดี่ยวแกะกล่อง ก็ต้องหวีดสยองแน่นอนครับ...อาจจะทำได้แค่ซื้อมาบินในบ้านตัวเองก็ได้ครับ เพราะไม่อยากเจอไอ้ตัวเห่าเก่งสัญชาติไทยนะครับ โอ....เบียร์มาพอดี ขอตัวนะครับ คนเสริฟก็ กิ้วๆๆ...
มันเป็นการ ดำเนิน แผนการ ตลาด ผิดพลาด ของบริษัท DASSAULT
MIRAGE 2000_5 MK2 คือ ตัวเก็ง ที่ ทอ.อินเดีย หมายตาเอาไว้ ใน โครงการ MRCA
ที่ อินเดีย ชื่นชอบ MIRAGE 2000 ก็ เนื่องจาก ประสิทธิภาพ และ สมรรถนะ ของมัน ได้ โชว์ ออกมาให้เห็น ใน KAGIL WAR สงคราม ระหว่าง อินเดีย กับ ปากีสถาน
เสียใจ ด้วย กับบริษัท DASSAULT
*ไม่รู้ จะรีบ ปิด ไปทำไม
งานนี้ ถ้า อินเดีย ไม่เลือก RAFALE บริษัท DASSAULT จะสูญเสีย รายได้ มหาศาล
ขนาด F-16 เปิด สายการ ผลิตก่อน เขายังไม่ปิดเลย
หน้า จะถ่วงเวลา เพิ่มอีกสัก 4-5 ปี รับรอง ได้ขาย ให้ อินเดีย แน่ๆ
ส่วนเรื่อง อะไหล่ ไม่ต้อง ห่วง เพราะ MIRAGE 2000 ก็ มีใช้ ใน หลายประเทศ คงจะไม่ ขลาดแคลน หรอก
ถ้าพูดกันตรงๆ เจียมเนื้อเจียมตัว ตอนนี้ผมว่าความหวังบ.ใหม่ คงไม่เกิดเร็วๆนี้(2-3ปี) ต่อให้เลือกตั้งแล้ว ก็เถอะ ผมมองว่า รัฐบลต้องทำเรื่องเศรษฐกิจให้มาก่อนครับ ผมเองคิดว่าตอนนี้เหตุการณ์มันเลวร้ายกว่าตอนIMF ม่ใช่หมายถึงดัชนีเศรษฐกิจ แต่เป็นดัชนีความสุขของประชาชนมากกว่า ตอนนี้ จะใส่นาฬิกาแพงๆ มือถือดีๆเดินไปซื้อของปากซอยก็ยังหวั่นๆ กดเอทีเอ็มทีต้องมองซ้ายมองขวา อยากให้มาแก้ตรงนี้ก่อนครับ เรื่องอาวุธน่ะ ปลงๆกันบ้างเถอะครับ ไม่มีใครเค้าปฏิวัติเอ้ย หาเรื่องๆ ไม่มีใครเค้าทำสงครามกันแล้ว ไว้ก่อนก็ได้ อย่าทำตัวเหมือนเด็ก เห็นเพื่อนมีของเล่นใหม่ก็อยากได้ตาม โดยไม่ดูฐานะตัวเอง แม่ยังนั่งปลูกผักขาย อยากได้กันดั้มตัวละพัน แหม พ่อมหาจำเริญญญ
ผมเชียร์ซู แต่ถ้ามองอีกที ไต้ฝุ่นก็ดี แต่ถ้าจะให้ฟันธง
ถ้ามีเงินไม่มากนัก น่าจะออกไปที่ ยาส หรือ16 ส่วนเอ็มแอลยูน่าจะร้องเพลงรอไปก่อน
อ่านข้อความข้างต้นแล้ว รู้สึกดีใจมากครับ ที่ทุกคนให้ความสำคัญกับประเทสชาติ
....แต่ ถ้าเกิด เรามองแหวกแนวไปมากกว่านั้นล่ะครับ(คือ ไม่เอาทั้งเอฟ ไม่เอาแจส)
และถ้าเกิดเราเอา.. SU-37 ....อะไรทำนองนี้(เป็นความชอบส่วนตัวนะครับ)..
ในทางการ เราซื้อได้แน่นอน แต่จะได้กี่ลำ อีกเรื่องหนึ่ง แต่หากได้มา รับรอง ไอ้พวกเพื่อนบ้านเฮงซวยทั้งหลาย ต้องรีบหอบข้าวของปิดประตูบ้านกันเรียบร้อยโรงเรียนไทยกันหมด..
ระยะนอกสายตาอาจจะสูสีกับบ้านอื่นบ้างเล็กน้อย
แต่ระยะหมากัดกัน(Dogfight) มาลองกันหน่อยลูกพี่เอ๋ย....