หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


มาเลเซีย รับมอบ Su-30 MKM สองเครื่องแรก

โดยคุณ : Skyman เมื่อวันที่ : 28/05/2007 15:04:44

Sukhoi Fighter Aircraft A Tactical And Strategic Asset


From Mohd Haikal Mohd Isa

IRKUTSK (Russia), May 24 (Bernama) -- Royal Malaysian Air Force (RMAF) Chief Jen Datuk Seri Azizan Ariffin said the Sukhoi Su-30MKM multi-role fighter jet is a tactical and strategic asset to RMAF as its ability to cover long distances puts it on par with the air forces of neighbouring states.

"The Su-30MKM will act as a deterrent to parties that try to threaten the sovereignty of Malaysia," said Azizan when signing an early acceptance certificate for the delivery of two Su-30MKMs (M52-01 and M52-02) from representatives of Russian state corporation Rosoboronexport and the Irkut Aircraft Corporation here today.

The RMAF Chief arrived in this eastern Siberian city yesterday piloting a C-130 Hercules transport aircraft.

"Today is a historical day for the RMAF as the Su-30MKMs delivered are the most sophisticated multi-role aircraft in Southeast Asia," he told reporters at the Irkut Aircraft Corporation's runway with temperatures dipping to -10 degrees Celcius.

The two Su-30MKM jets are the first of 18 ordered by RMAF in May 2003 at a cost of RM3.42 billion (USD900 million).

The Malaysian delegation comprising senior RMAF officers and the media were treated to a 10-minute aerobatics show by a squadron of Su-30MKM jets.

Azizan said the two Sukhoi planes would be delivered in June using the Antonov AN-124 transport aircraft to the RMAF base in Gong Kedak, Kelantan.

The sixteen others will be delivered in stages between the end of the year and mid-2008.

Azizan said the fighters will be equipped with sophisticated air-to-air RVV-AE missiles.

RVV-AE is the Russian acronym for Advanced Medium-Range Air-to-Air Missile or AMRAAMski in defence circles and is said to be as good if not better than the United States-made AMRAAMs.

Other than Malaysia, Singapore is believed to have equipped its F-16C Fighting Falcon aircraft with AMRAAMs.

The Su-30MKMs can fly for 4.5 hours with a range of 3,000km on a normal fuel tank, but with inflight refuelling, the time and distance can be extended to 10 hours and 8,000 km.

They are also equipped with high-powered radars to detect targets from afar enabling them to double up as early warning aircraft.

Meanwhile, the deputy general director of Rosoboronexport, Victor Komardin, said the RMAF's Su-30MKMs were the most versatile and modern multi-role combat aircraft (MRCA) aircraft in the world.

"They have the most modern engine, avionics and weapons systems," he said.

-- BERNAMA




ความคิดเห็นที่ 1


"The Su-30MKM will act as a deterrent to parties that try to threaten the sovereignty of Malaysia,"

parties = ???

น่าคิดนะ

ล่าสุดมาเลย์ซื้อกระเปาะลาดตระเวณทางอากาศระยะไกลจากบริษัท Thales สำหรับติดตั้งกับ Su-30MKM แล้วเช่นกัน

โดยคุณ rinsc_seaver เมื่อวันที่ 25/05/2007 10:21:54


ความคิดเห็นที่ 2


เหอๆๆ ได้ เสียวตูละที่นี้

เมื่อไรจะได้ บข.20  สักที่หว่า

โดยคุณ laserxboy เมื่อวันที่ 25/05/2007 10:29:03


ความคิดเห็นที่ 3


เออ.....ดีจัง ไปดูคลิปวีดีโอใน Alert5.com มาสีเครื่องของเขาก็สวยดีน่ะ แถมปรับทิศทางแรงขับได้อีก ท่าทางจะเป็นซู-30ที่ดีสุดในโลกแล้วมั่ง..........ของเราก็บินเครื่องที่พอจะบินได้ต่อไป ต่อไปแล้วก็ต่อไป..............แต่ยอมรับจริงๆว่าสีเครื่องเขาสวยจริงๆ เลือกโทนสีดีมาก
โดยคุณ Mr. Bean เมื่อวันที่ 25/05/2007 11:31:50


ความคิดเห็นที่ 4


เออ.....คลิปเครื่องซู-30ของเขา 

แก่แล้วขี้ลืม ขี้น้อยใจ http://alert5.com/2007/05/rmaf-su-30mkm-rollout-video.html

โดยคุณ Mr. Bean เมื่อวันที่ 25/05/2007 11:34:54


ความคิดเห็นที่ 5


โครงการนี้แหละครับที่ทำให้มาเลย์เป็นหนี้(หมดตังค์แล้ว) อิอิ มาทายกันครับ ลำแรกจะตกเมื่อไร

โดยคุณ สถาปนิกสงคราม เมื่อวันที่ 25/05/2007 11:47:49


ความคิดเห็นที่ 6


เค้าควบกันมันยกร่องไปแล้ว พี่ไทยยังแค่ชะเง้อมอง เฮ้อ!  (ยืมคำลุงกบ) 

มีคานาร์ด TVC รู้สึกว่า IRST ข้างหน้าจะแหม่งๆ น่าจะรุ่นใหม่กว่าของอินเดียอีกมั๊งนิ 

สรุปแล้ว เห่อๆ อิจฉาว่ะ

The Su-30MKM will act as a deterrent to parties that try to threaten the sovereignty of Malaysia -------------------> น่าคิดจริงๆ ว่าParties เนี่ย มันมีใครบ้าง จีน? กะโปร์? อินโดนีเซีย? พี่ไทย? อืมๆ น่าคิด หรือจะเอาไปขู่เรื่องเกาะสแปรตลีย์

โดยคุณ icy_nominee เมื่อวันที่ 25/05/2007 12:10:20


ความคิดเห็นที่ 7


คาดว่า SU-30 MKM ของมาเลเซียจะเป็นรุ่นที่ท็อปที่สุดแล้วก็เป็นได้ น่าจะเหนือกว่า รุ่น MKI ของอินเดียหน่อยๆด้วยซ้ำ ว่าแต่ว่าที่น่ากลัวก็คือไม่รู้ว่าเรดาร์น่ะเป็นแบบไหนเกิดเป็นแบบ AESA รุ่นใหม่ที่ว่าจะติดตั้งกับเครื่อง New SU-35 ขึ้นมาละก็...ใครจะรู้งานนี้คนที่เต้นมากที่สุดคงจะเป็นกะโปร์รึว่าเราหว่า?

ขู่ใครก็ไม่รู้ครับ ท่านicy แต่รู้สึกวางไว้ใกล้ไทยเราจังเลย ส่วนเรามี F-5E/F รุ่นจตุคามฯแขวนคอ ไว้ดักรอ..

โดยคุณ เด็กทะเล เมื่อวันที่ 25/05/2007 12:21:05


ความคิดเห็นที่ 8


การจัดหา บ.Su-30MKM ของมาเลเซียนั้นค่อนข้างจะมีความล่าช้าอยู่บ้างครับเพราะอุปกรณ์ที่เลือกติดตั้งนั้นมาจากหลายๆแหล่ง อย่างข่าวล่าสุดที่ติดกระเปาะจาก Thales ซึ่งเป็นระบบตะวันตกได้นี้ แสดงให้เห็นความเป็นระบบ"สถาปัตยกรรมเปิด"ของเครื่องเป็นอย่างมากครับ

(ฝึก Air Thamal ครั้งต่อไปเขาจะเอามาซ้อมกับไทยหรือไม่นะครับ)

โดยคุณ AAG_th1 เมื่อวันที่ 25/05/2007 13:24:23


ความคิดเห็นที่ 9


ซื้อมาโลด

เครื่อง TVC เปลี่ยนทุก ๆ 500 ชั่วโมง

บาน  ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ

โดยคุณ Nuipibah เมื่อวันที่ 25/05/2007 14:28:48


ความคิดเห็นที่ 10


ผมกลัวว่ามันจะอีหรอบเดียวกับมิก29mอะดิที่ใช้ไม่ค่อยเหมือนชาวบ้านเขาแถมก็ซื้อจำนวนน้อย อะไหร่ก็หายากใช้ร่วมกับคนอื่นเขาก็ไม่ค่อยได้

ผมสงสัยมานานแล้วครับเรื่องเจ้าMKMเนี่ยถ้ามันเกิดปัญหาเดียวกับมิก29เขา พวกความพร้อมรบต่ำ อะไหร่หายากเนี่ย เขาจะทำไงครับ ถึงจะมีคนเคยบอกว่าอะไหร่หาง่ายเพราะทั้งอินเดีย เวียดนามก็มีก็เหอะ แต่มันจะใช้อะไหล่ร่วมกันได้ทั้งหมดหรือครับ  MKM มันก็ไม่เหมือนรุ่นอื่นๆทั้งหมดแล้วมีแค่ 18 เครื่องในโลกมันจะไม่หาอะไหล่ยากหรือครับ ถ้ามันเกิดปัญหานั้น เขาจะทำไงครับ ลำพังแค่ เอฟ18 กับhawkจะพอหรือครับ

 

โดยคุณ tow เมื่อวันที่ 25/05/2007 14:59:57


ความคิดเห็นที่ 11


ก็ภาวนาให้เป็นแบบคุณ tow ว่าและครับ

เครื่องยนต์ TVC ระยะเวลาการใช้งานสั้นมาก

ถ้าจำไม่ผิด 500 ชั่วโมงก็ต้องเปลี่ยนเครื่องแล้ว

นักบินพร้อมรบเอาให้ชำนาญ ฝึกเปลี่ยนเครื่อง ชั่วโมงบินน่าจะสัก 1000 ชั่วโมง หมดไป 4 เครื่อง

 

ซื้อทั้งฝูง 18 ลำ บิน 16 อะไหล่ 2

 

บินครบ 1000 ชั่วโมง 16 ลำ เปลี่ยนลำละ  4 เครื่อง

ศิริรวม 64 เครื่อง

บาน ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ

 

อืม...แต่ถ้ามาเลย์บ้าเลือดเปิดโรงงานผลิตเครื่องยนต์เองล่ะ

โดยคุณ Nuipibah เมื่อวันที่ 25/05/2007 16:19:24


ความคิดเห็นที่ 12


ผมบวกลบคูณหารให้ท่านดูนะ................ ซู-30 1เครื่อง ราคา 50 ล้านเหรียญ การใช้งานจนครบ 6000 ชมบิน ต้องซื้อเครื่องยนต์สำหรับอะไหล่อีก 22 เครื่อง..................ถ้าราคาเครื่องยนต์เทอร์โบเจ็ท อาร์ดี-33 (ขออภัยที่ใช้ตัวเลขของมิก-29) อยู่ที่ ตัวละ 1 ล้านเหรียญ รวมค่าใช้จ่ายตัวเครื่องและเครื่องยนต์อะไหล่ 50 + 22 = 77 ล้านเหรียญ........................ทีนี้ท่านลองเอาตัวเลขนี้ไปเปรียบกับ เอฟ-18 อี/เอฟ เอฟ-15 อี ยูโรไฟเท่อร์ หรือราฟาลดูสิครับ...................................และขอร้อง กรุณาเปรียบมวยกันให้ถูกคู่ด้วย.................. ถ้าท่านต้องการเครื่องบินขนาดเล็ก แน่นอนท่านก็ได้ความประหยัด แต่ประสิทธิภาพมันก็ต้องด้อยลงไป.........................โอเค้.....?????
โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 25/05/2007 16:32:00


ความคิดเห็นที่ 13


 

 

....อย่างน้อยเค้าก็ได้อะไรกันมาบ้าง...ไม่เหมือนเรา นั่งรอกันต่อไป....

 

ส่วนเรื่องอะไรพื้นฐานนั้นคงใช้ร่วมกันไม่ยากนัก จะมีต่างกันก็แค่ซอฟแวร์เท่านั้นมิใช่หรือ...

 

 

 

โดยคุณ ท.กองหนุน เมื่อวันที่ 25/05/2007 16:41:58


ความคิดเห็นที่ 14


 

 

...ขออภัย ...อะไหล่ ....ขอรับ....

 

 

 

โดยคุณ ท.กองหนุน เมื่อวันที่ 25/05/2007 16:43:51


ความคิดเห็นที่ 15


เรียนคุณ tow

ไม่ต้องกังวลไปหรอกครับ เพราะผมเคยได้ยินระเคาะระคายจากบอร์ดตปท.ว่าถ้าเขามีตัง จะถอยมาอีก 18 ลำ..............

แต่ตอนนี้ มาเลเซียถังแตกเหมือนกับเราครับ งบประมาณทางทหารเค้าต้องรัดเข็มขัดมาก ๆ อย่างว่าล่ะครับ อาวุธนานาชาติ (เห็นคนมาเลเค้า list มาพบว่ามีอาวุธจากเกือบ 30 ประเทศ!!!!) ฉะนั้นการสั่งเพิ่มอีก 18 ลำกว่าจะได้เกิดก็อีกนานมาก หรือไม่ได้เกิดเลย อิอิอิ

โดยคุณ Skyman เมื่อวันที่ 25/05/2007 16:51:00


ความคิดเห็นที่ 16


อ่านแล้วสงสัยอีกที สมมุติว่า อะไหล่พื้นฐานนี่มันใช้ได้เหมือนกันถ้าอย่างนั้นทำไมmig29mมาเลเซียถึงหาอะไหล่ยากจังล่ะครับ งง

หรือว่ามันเป็นคนละประเด็นกันครับ

โดยคุณ tow เมื่อวันที่ 25/05/2007 16:55:19


ความคิดเห็นที่ 17


ขอบคุณท่านSkymanครับ ที่ช่วยอธิบายครับ
โดยคุณ tow เมื่อวันที่ 25/05/2007 16:57:24


ความคิดเห็นที่ 18


ผมคิดนะครับ รู้สึกว่ามาเลย์มันจะซื้ออาวุธตอบโต้กับไอ้สิงห์ตลอดน่ะครับ รู้สึกไหมครับ มาเลย์ซื้อรถถัง PT-91 ส่วนไอ้โปร์มันมี Apache พอมาเลย์ซื้อ Su ไอ้สิงห์มันก็เล่น F-15 ไปเลยแฮะ ผมว่า 2 ประเทศแข่งการซื้ออาวุธหรือเปล่า???? ไม่แน่ใจ

ป.ล. ของใหม่เราก็ได้มาแล้วไงครับ Boeing 737-800 ไงครับ เมื่อวานมันยังบินผ่านบ้านผมเยย  

โดยคุณ Exocet เมื่อวันที่ 25/05/2007 17:28:37


ความคิดเห็นที่ 19


....มาเลเซีย มีอาวุธ ทางอากาศ จำพวกเครื่องบิน นั้น มีใช้หลายรุ่นมากครับ แค่ บ.ฝ.ก็มีตั้งแต่ พีซี 7 ( ไม่รุเอามายังเห็นว่าตกลงกันได้แล้ว ) เครื่องตระกูล เอ็มบี  (ซื้อต่อมาจาก นิวซีแลนด์ ) และจำได้ว่าไปซื้อเพิ่มจาก อิตาลี  ฮอค จากอังกฤษ  ฮ.ตระกูล อกุสต้า 109 ฮ.ลำเลียงกู้ภัยจาก รัสเซียอย่าง มิ 17  ฮ.ลิงซ์ 300 เครื่องที่ปลดอย่าง เอฟ 5 และที่ยังไม่ปลดแบบ เอฟ 18  กราวด์แล้วอย่าง มิก 29 และ เพิ่มเติมอย่าง ซู 30 แต่ สามารถไปอัพเกรดแบบ ซู 30 เอ็มเคไอ ของ อินเดีย ที่กำลังดำเนินการอัพเกรดระบบเรดาห์และการติดหรือบรรทุกอาวุธต่างๆเข้าไป เช่น ของ อินเดีย จะอัพ ซู ให้สามารถใช้ บรามอสได้ 3ลูก เคยอ่านใน แทงโก้ ว่า เดินเรื่องซื้อ อุปกรณ์ทางอิเล็คทรอนิค หมวกนักบิน จาก แอฟริกาใต้ด้วย 

......มาเลเซีย ของเยอะดีน่ะครับ แต่เหมือน ซ่อมจนถึงอัพเกรด ไม่เป็น อาวุธบางตัวพอๆกับเราเลย  ผมว่าเรายังบริหารอาวุธได้ดีกว่าโดยไม่ต้องซื้อเพิ่มแบบเขามีก็อยากมีบ้าง ใช้ปลดอย่างเดียวไม่ซ่อมเลย  ส่วนอาวุธทางเรือ ก็เป็นอีกหนึ่งอย่าง ที่ผสมกับหลายแบบมากมาย ถึงมาจาก ตะวันตกก็ตามที  แต่อย่างน้อยเราก็ต้องส่ง ซี 130 ไปซ่อมที่บ้านเขานี่

โดยคุณ MIG31 เมื่อวันที่ 25/05/2007 19:04:24


ความคิดเห็นที่ 20


เครื่องบินรบยอดนิยมในปัจจุบันครับ รองจากเอฟ-16 กับ เอฟ-15 ก็ตัวนี้แหละครับที่ส่งออกต่างประเทศมากที่สุด ทำรายได้ให้รัสเซียเป็นกอบเป็นกำ(เทียบยอดขายไม่ได้เลยกับเครื่องบินค่ายยุโรปไม่ว่ายี่ห้อใดๆทั้งนั้น)

ดังนั้นเรื่องอะไหล่ผมว่าไม่น่าห่วงครับตราบใดที่ยังขายเครื่องบินได้เรื่อยๆ มีลูกค้าหน้าใหม่ๆเพิ่มขึ้นอย่างไรเสียทางผู้ผลิตเขาก็ต้องผลิตอะไหล่มาขายไม่ให้ขาดแหละครับ เพราะเป็นแหล่งรายได้ของเขา ยิ่งมีการแตกสายพันธ์เป็นตัวใหม่ๆอย่า ซู-32 หรือ ซู-35 นี่ โดยใช้พื้นฐานเดียวกับ ซู-27/30  ด้วยแล้ว ยึ่งเพื่มโอกาสในการทำตลาดนาครับ แตกไลน์สินค้าไปเรื่อยๆ ดีไม่ดี อาจเป็นเครื่องบินยอดนิยมในตลาดโลกแทนที่เอฟ-16ก็ได้ครับใครจะรู้

ตัว ซู-30 นี่ทางผู้ผลิตเขาคุยว่าบินได้ง่ายเพราะซอฟแวร์การบิน พัฒนาไปมากกว่าเครื่องบินรุ่นก่อนๆทำให้ใช้เวลาฝึกบินไม่นานก็เกิดความชำนาญครับ ไม่จำเป็นต้องบิน เป็น1000 ช.ม. บิน อย่างเครื่องบินยุคก่อนๆ ทำให้ชาติยากจนเล็กๆ หลายชาติในอาฟริกา (เช่น เอธิโอเปีย)สามารถลดค่าใช้จ่ายตรงนี้ไปได้ เรื่องการสึกหรอของเครื่องยนต์ ก็เป็นเรื่องปกติครับตามแบบฉบับเครื่องบินค่ายของประเทศที่ยังไม่ก้าวหน้าทางด้านโลหะวิทยาเท่าไหร่ แต่เมื่อเทียบ ราคาต่อหน่วย ต่องานที่ทำได้ ก้น่าจะพอรับไหวครับ

ตัว เอฟ-15 บรรทุกอาวุธ ได้เป็น 2เท่าของ เอฟ-16 ด้วยขนาดของเครื่องบิน ที่โตกว่า ดังนั้น ซู-30 ทำได้เหมือนๆเอฟ-15 ครับ ถือเป็นคู่ต่อสู้ที่ ถูกคู่ ถูกเวลา ที่สุดในเวลานี้ เราเองถ้าไม่ซื้อ เอฟ-15 ก็คงไม่มีตัวอื่นเอามาเทียบ ซู-30 ได้ครับ

ทั้งมาเลย์ สิงคโปร์ เวียดนาม อินโด เขามีเครื่องระดับนี้กันหมดแล้วครับ  ไทยเราจะมามัวรออะไรอยู่ไม่ทราบครับ คิดแล้ว เซ็งจริงๆ..

โดยคุณ data เมื่อวันที่ 26/05/2007 13:40:27


ความคิดเห็นที่ 21


ถ้าเกิดการรบขึ้นแล้วยืดเยื้อ เครื่องยนต์หมดอายุการใช้งานเร็วและ จัดหาอะไหล่มาไม่ทันก็แย่เหมือนกันนะ ถ้าจะซื้อซู-30 ก็ต้องหาทางแก้ปัญหาข้อนี้ด้วยนะครับ (หรือเอาเฉพาะแบบเครื่องยนต์มาผลิตในประเทศไทย ?)
โดยคุณ กิตติโชค เมื่อวันที่ 26/05/2007 20:48:13


ความคิดเห็นที่ 22


ตอนนี้ในส่วนป้องกันภัยทางอากาศ เรามีอาวุธใดที่พอจะต่อสู้อากาศยาน ซู30เอ็มเคเอ็ม ได้บ้างครับ เอาแบบที่ใช้ได้จริงๆนะครับ พื้นสู่อากาศทำนองนั้นครับ

โดยคุณ tik เมื่อวันที่ 28/05/2007 15:04:44