หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


จ่าโทหญิงสายเลือดไทยประจำเรือรบอเมริกัน โผล่เป็นล่ามสร้างสีสัน"คอบราโกลด์"

โดยคุณ : ท.กองหนุน เมื่อวันที่ : 16/05/2007 14:46:42

พบจ่าโทหญิงประจำเรือรบอเมริกันสายเลือดไทย โผล่เป็นล่ามสร้างสีสัน"คอบราโกลด์"
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 15 พฤษภาคม 2550 14:43 น.
คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น
จ่าโทหญิง วริน ณ สงขลา หรือ "น้องนุ่น" เจ้าหน้าที่คอมพิวเตอร์ประจำเรือรบ ?เอสเซ็ก? ประเทศสหรัฐอเมริกา หญิงไทยหนึ่งเดียวจากความภาคภูมิใจของกองทัพสหรัฐในการฝึกคอบบร้าโกลด์ 2007

ร่วมถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกับเจ้าหน้าที่สาวจากประเทศไทย

รับหน้าที่เป็นล่ามสื่อภาษาไทยและภาษาอังกฤษในการฝึกคอบบร้าโกลด์ 2007


ศูนย์ข่าวศรีราชา - ทึ่ง! ?น้องนุ่น? วริน ณ สงขลา สายเลือดสกุลเจ้าเมืองสงขลาเก่า กำเนิดในอเมริกา แต่มาปรากฏตัวเป็นเป็นล่ามสื่อความเข้าใจความสัมพันธ์ทหารไทยกับต่างประเทศในการฝึกคอบราโกลด์ 2007 เผย ชอบลุย บึกบึน แข็งแรง มีเครื่องแบบ ไม่ชอบเป็นคุณหนู ที่ผ่านมาสมัครสอบเป็นทหาร รับราชการเจ้าหน้าที่คอมพิวเตอร์ประจำเรือรบกองทัพเรืออเมริกานานถึง 8 ปี
       

       เวลา 11.00 น.วันนี้ (15 พ.ค.) พลเรือเอก นพพร อาชวาคม ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ได้ทำพิธีรับ-มอบโครงการชุมชนสัมพันธ์ จากพลเรือตรีหญิงคาร์ลอล เอ็ม โพเทนเจอร์ รองผู้บัญชาการกองกำลังทางเรือผสมฝึกคอบราโกลด์ และพันโทแซม แอ๊บเบ้ ผู้ช่วยผู้บัญชาการกองกำลังฝึกผสมฝ่ายสิงคโปร์ ในการฝึกคอบราโกลด์ 2007 ณ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก กองเรือยุทธการ ซึ่งเป็นความร่วมมือทางทหารกองกำลังทางเรือผสมทั้งฝ่ายไทย สหรัฐอเมริกา และสิงคโปร์ ร่วมกันสร้างสรรค์สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อชุมชน
       
       ในการนี้กองทัพเรือสิงคโปร์ได้สนับสนุนงบประมาณจำนวน 1 แสนบาท ให้กำลังฝ่ายไทยซ่อมแซมเครื่องเด็กเล่นสนามเด็กเล่น งานกั้นห้องประกอบอาหารพร้อมมุ้งลวด การปูพื้นกระเบื้องยางห้องเรียน การปรับปรุงพื้นทางเดินคอนกรีต และงานติดตั้งเครื่องกรองน้ำดื่มขนาดใหญ่
       
       ระหว่างนั้นผู้สื่อข่าวได้พบกับจ่าโทหญิง แต่งเครื่องแบบทหารอเมริกา รับหน้าที่เป็นล่ามสื่อภาษาไทย และภาษาอังกฤษให้กับทหารไทย และสหรัฐอเมริกาได้อย่างคล่องแคล่ว ภาษาที่ใช้มีการออกเสียงตัวควบกล้ำได้อย่างถูกต้อง จนทำให้ทหารไทยที่เข้าร่วมพิธีต้องจับตามอง และฟังการพูดภาษาไทยกันอย่างตั้งอกตั้งใจ จนเกิดความสงสัยว่าทำไมล่ามคนนี้ทำไมถึงได้พูดภาษาไทยได้อย่างถูกต้อง และสื่อความเข้าใจได้อย่างละเอียดอ่อน จนทำให้เกิดความพึงพอใจด้วยกันทุกฝ่าย
       
       ผู้สื่อข่าวจึงได้เข้าสอบถามทราบว่า ล่ามคนดังกล่าว คือ จ่าโทหญิง วริน ณ สงขลา หรือ ?นุ่น? อายุ 25 ปี ตำแหน่งเจ้าหน้าที่คอมพิวเตอร์ประจำเรือรบ ?เอสเซ็ก? เรือยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่ มีลาดจอดเครื่องบิน และมีเครื่องบินประจำเรือ ในระวางสามารถบรรทุกรถและเรือขนาดเล็กได้ ปัจจุบันเรือลำนี้ประจำอยู่ที่น่านน้ำเมืองซาเซโดะ ประเทศญี่ปุ่น
       

       จ่าโทหญิง วริน สายเลือดไทย สัญชาติอเมริกา เล่ากับผู้สื่อข่าวว่า ตนเป็นคนไทยโดยสายเลือด บิดาชื่อ นายจิระทัศน์ ณ สงขลา มารดาชื่อ นางนิธิมา สิริพิทูล เป็นคนกรุงเทพฯ โดยกำเนิด แต่ได้ไปศึกษาและใช้ชีวิตในต่างประเทศอยู่นานนานจนต้องโอนสัญชาติเป็นอเมริกา
       
       หลังจากที่ถือกำเนิดมาได้ไม่นาน คุณพ่อ และคุณแม่ได้ส่งตัวให้มาอยู่กับญาติที่กรุงเทพฯ เป็นเวลา 8 ปี เพื่อเรียนภาษาไทยที่โรงเรียนประถมสาธิต มศว ประสานมิตร จนถึงชั้นประถมปีที่ 5 เดินทางกลับไปเรียนต่อที่ไฮสคูล เพื่อสะสมคะแนน ด้วยความที่ไม่ชอบอยู่ว่าง ชอบลุย แข็งแรง บึกบึน และมีเครื่องแบบ จึงได้ไปสอบแข่งขันทักษะและความสามารถเพื่อเข้ารับราชการเป็นทหารเรือ และก็ได้สมใจ โดยบรรจุครั้งแรกได้ยศจ่าตรีหญิง ประจำอยู่ในเรือรบลำดังกล่าวจนถึงขณะนี้นาน 6 ปี และขณะนี้ได้เลื่อนยศเป็นจ่าโทหญิง
       
       น้องนุ่น เปิดเผยอีกว่า ถึงแม้ว่าจะเป็นสายเลือดไทยก็ได้รับเกียรติจากทหารอเมริกาอย่างมาก จนเมื่อมีการคัดเลือกกำลังพลในการฝึกคอบราโกลด์ในประเทศไทย ผู้บังคับบัญชาระดังสูงได้เล็งเห็นว่าเหมาะสมที่จะมาเป็นล่าม สื่อความเข้าใจในด้านภาษาได้ และเกิดประโยชน์ต่อกองทัพ จึงได้พิจารณาให้น้องนุ่นมาเป็นล่ามในที่สุด เมื่อปีที่แล้วก็เดินทางมาฝึกกับเรือแต่ไม่มีโอกาสได้มาเป็นล่าม แต่ปีนี้มีโอกาสก็จะสร้างความเข้าใจ ความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพให้อย่างสุดความสามารถ
       

       สุดท้ายน้องนุ่นยังฝากความห่วงใยในเรื่องของสถานการณ์การก่อความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งน้องนุ่นได้ติดตามความเคลื่อนไหวของประเทศไทยอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา ทำให้ทราบข้อมูลการสูญเสียกำลังพล ทหาร ตำรวจ และประชาชนที่บริสุทธิ์อยู่ตลอดเวลา จึงขอเอาใจช่วยให้ภาคใต้สงบสุขโดยเร็ว





ความคิดเห็นที่ 1


ยังไงสหรัฐก็คงไม่ตัดขาดด้านการทหารกับเราหรอกครับ

โดยคุณ sam เมื่อวันที่ 16/05/2007 00:25:19


ความคิดเห็นที่ 2


ฝากไว้อีกข่าว

จีน-อินเดียต่างโอ๋เอาใจขายอาวุธให้หม่องอื้อซ่า

http://www.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9500000055856 

ฟังข่าวนี้ทำให้รู้สึกถึงแรงกดดันทางฝั่งตะวันตกมากขึ้นจริงๆ

โดยคุณ sam เมื่อวันที่ 16/05/2007 00:36:02


ความคิดเห็นที่ 3


ผู้จัดการมั่วอีกแล้ว คราวSu-30 ก็เขียนซะเละ ไต้หวันซ้อมlanding ยังบอกว่าF-16ทั้ง6ลำ คราวนี้ก็ยังไม่วาย เหมือนเดิมเลย

USS Essex เป็นเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ LHD ครับ ไม่ใช่ยกพลขึ้นบก (ไม่เชื่อไปเล่นBF2สิ เป็นเรือUSS Essex )

ภาพยืนยัน นั่งยัน นอนยัน

Image:USS Essex (LHD-2);10080203.jpg

 

Career USN Jack
Ordered: 10 September 1986
Laid down: 20 March 1989
Launched: 23 February 1991
Commissioned: 17 October 1992
Status: Active in service as of 2007
Homeport: Sasebo, Japan

 

 

 

 

 

 

USS Essex (LHD-2)

From Wikipedia, the free encyclopedia

Jump to: navigation, search
USS Essex (LHD-2)
Career USN Jack
Ordered: 10 September 1986
Laid down: 20 March 1989
Launched: 23 February 1991
Commissioned: 17 October 1992
Status: Active in service as of 2007
Homeport: Sasebo, Japan
General Characteristics
Displacement: 40236 tons
Length: 844 ft (257 m)
Beam: 110 ft (34 m)
Draft:
Propulsion: Geared steam turbines
Speed:
Range:
Complement: 73 officers, 1009 enlisted (without Marines embarked)
Armament:
Aircraft:
Motto: Take Notice
Nickname: "The Iron Gator"

USS Essex (LHD-2) is a Wasp-class amphibious assault ship commissioned on 17 October 1992. Dick Cheney, then the Secretary of Defense in the first Bush Administration, spoke at the commissioning ceremony; the Essex was moored at North Island NAS, next to the Kitty Hawk (CV-63). Essex conducted an arduous and highly successful training program, during the spring and summer of 1993, and during September of that year, she was in dry dock in Long Beach harbor for about three months and her crew were at 4 section duty. Her maiden deployment was in October 1994. With the 13th Marine Expeditionary Unit (Special Operations Capable) embarked, Essex showcased her abilities on numerous occasions. The highlight of the deployment came in January of 1995, when she left the Persian Gulf to prepare for the complex task of covering the withdrawal of UN multinational force from Somalia in Operation United Shield. Under fire from advancing Somalis, every member of the force was successfully extracted. Essex returned to San Diego on 25 April 1995.

After a short maintenance period, Essex embarked on a vigorous workup cycle, culminating in her participation in RIMPAC ?96, a biennial, seven-nation naval exercise. On 10 October 1996, she embarked on her second Western Pacific deployment, with the 11th MEU (SOC) and Amphibious Squadron FIVE.

During the deployment, Essex participated in multinational exercises with Qatar, Oman and Kuwait, as well as Exercise Tandem Thrust ?97, an American-Australian combined exercise with over 28,000 troops, 250 aircraft and 40 ships participating.

Upon her return in April 1997, Essex again went into a short maintenance period, followed by a shortened workup cycle. She then departed for her third Western Pacific, Indian Ocean and Persian Gulf deployment on 22 June 1998 with the 15th MEU (SOC) and Amphibious Squadron FIVE.

Essex participated in Exercises Sea Soldier and Red Reef, and participated in Military SALT and Non-Combatant Evacuation Operations with the U.S. Embassy in Kuwait. Additionally, Essex supported Operation Southern Watch, enforcing the UN-mandated no-fly zone over southern Iraq.

On 26 July 2000, after successful completion of the largest crew swap in U.S. Navy history, Essex replaced Belleau Wood (LHA-3) and inherited the distinctive role as the Navy?s only permanently forward-deployed Amphibious Assault Ship in Sasebo, Japan.

In the role, Essex participated in humanitarian assistance/disaster relief operations in East Timor in October and November 2001; Foal Eagle in Korea in 2002; and the Philippines mudslide recovery in February 2006.

In 2004, Essex carried the 31st MEU to Kuwait. Along with Harpers Ferry and Juneau. Essex stayed in the Persian Gulf while the 31st MEU and the combat element 1st Battalion, 3d Marines, went into Iraq for the Battle of Fallujah. During that time, Essex went to aid in the Humanitarian missions in Banda Aceh, Indonesia after the Boxing Day Tsunami in 2005. She then returned to the Persian Gulf to embark the 31st MEU and the combat element despite being in need of maintenance. After picking up the MEU and the Combat Element, the three ships returned to Okinawa, Japan. The ship had been at sea a total of 8 months.

Since her commissioning, Essex has received numerous awards, including all of the warfare excellence awards, seven Battle ?E? awards (most recently in 2006 [1]), the Golden Anchor Award for retention, the Ney Award for food service excellence, the Thompson Award for public affairs excellence, the Ogden Award for firefighting excellence, and the Chief of Naval Operations and Commander, Naval Surface Forces Pacific Safety Award.

Essex is also featured in the computer game Battlefield 2 as the base of operations for the United States Marines in several maps, including one called "The Iron Gator" after Essex's nickname where US SEALS fight Middle Eastern Coalition special forces unit within the corridors of the ship. In Battlefield 2, the Essex serves as a spawn and launch point for AH-64 Apache, AH-1W SuperCobra, SH-60B Seahawk helicopters in addition to several F-35 Joint Strike Fighter and F-18 Hornet.

http://en.wikipedia.org/wiki/USS_Essex_%28LHD-2%29

โดยคุณ A-mark เมื่อวันที่ 16/05/2007 14:46:42