เมื่อระหว่างสงครามสงครามโลกครั้งที่สอง ประเทศไทยประสบปัญหาขาดแคลนยุทธปัจจัย ทำให้เมื่อสิ้นสุดสงคราม รัฐบาลไทยเห็นความจำเป็นในการมีอุตสาหกรรมอาวุธ มีการตั้งกรมโรงงานทหารขึ้นในวันที่ 7 ตุลาคม 2496 ขึ้นกับสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม หลังจากนั้นประมาณสี่เดือน คือวันที่ 30 มกราคม 2497 จึงเปลี่ยนชื่อเป็นกรมการอุตสาหกรรมทหาร ปัจจุบันกรมการอุตสาหกรรมทหารขึ้นตรงกับศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร การดำเนินเป็นการรวบรวมโรงงานอุตสาหกรรมจากที่มีอยู่ในเหล่าทัพต่าง ๆ เข้ามาอยู่ในความควบคุมเดียวกัน สำรวจโรงงานอุตสาหกรรมและสภาบันการศึกษาทั่วประเทศเพื่อทราบขีดความสามารถ ต่อมามีนโยบายให้เอกชนมีส่วนร่วมในอุตสาหกรรมอาวุธ จึงมีการออกคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 37 (ปร.37) ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2519 ซึ่งเป็นกฎหมายเกี่ยวกับอุตสาหกรรมอาวุธของเอกชนเพื่อใช้ออกกฏกระทรวงจนถึงปัจจุบัน แต่ไม่ใช่ว่าจะต้องขออนุญาตตาม ปร.37 ถ้าหากอุตสาหกรรมนั้นผลิตเพื่อพลเรือนเท่านั้น (เช่น ระเบิดเหมืองแร่) ให้ใช้กฎหมายว่าด้วยอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิดดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน เพราะ ปร.37 มีเพื่อให้เอกชนแบ่งเบาภาระการผลิตอาวุธของราชการทหารและตำรวจ ถ้าต้องการขายให้กับบุคคลอื่นในราชอาณาจักรนอกจากทหารและตำรวจต้องรับอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (รมว.กห.) ทั้งนี้อาวุธดังกล่าวต้องเป็นอาวุธเกินความต้องการของทหารและตำรวจ ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 11  หรือถ้าต้องการส่งไปขายต่างประเทศต้องได้รับอนุญาตจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตาม พรบ. ควบคุมการส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งอาวุธยุทธภัณฑ์ และสิ่งที่ใช้ในการสงคราม ซึ่งเคยให้บริษัท ใช้ เอ็นยิเนียริ่ง จำกัด บริษัท ไทยอามส์ จำกัด และบริษัท จูปีเตอร์ อะโซซีเอทซ์ จำกัด ส่งไปขายต่างประเทศถึง 14 ประเทศ
 ล่าสุด มี พระราชบัญญัติโรงงานผลิตอาวุธของเอกชน พ.ศ. 2550 ออกมาเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2550  แต่ยังไม่มีกฎกระทรวงออกมาตาม พรบ. ฉบับใหม่นี้ ข้อมูลที่นำมาลงนี้จึงยังคงเป็นตาม ปร.37 และกฎเกณฑ์เก่าอยู่

หลักฐานที่ต้องยื่นต่อศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหารเพื่อขอรับใบอนุญาต มีดังนี้ (กฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขอรับใบอนุญาตและการต่ออายุใบอนุญาตตั้งโรงงานทำประกอบ ซ่อมแซม หรือเปลี่ยนลักษณะอาวุธสำหรับราชการทหารและตำรวจ พ.ศ. 2548)
    1. สำเนาใบสำคัญแสดงการจดทะเบียนนิติบุคคลของบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัด
    2. สำเนาหนังสือรับรองหรือหลักฐานการเป็นบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัด ซึ่งแสดงรายการเกี่ยวกับชื่อ ทุน วัตถุประสงค์ ที่ตั้งสำนักงาน รายชื่อกรรมการ และผู้มีอำนาจลงนามผูกพันนิติบุคคล
    3. สำเนาหนังสือบริคณห์สนธิ
    4. สำเนาบัตรประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของนิติบุคคล
    5. หนังสือแต่งตั้งผู้แทนนิติบุคคล
    6. หนังสือมอบอำนาจ ในกรณีที่ผู้ยื่นคำขอได้รับมอบอำนาจให้ยื่นคำขอแทน
    7. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรอื่นซึ่งใช้แทนบัตรประจำตัวประชาชนของกรรมการ กรรมการซึ่งมีอำนาจลงนามผูกพันนิติบุคคล และผู้รับมอบอำนาจในกรณีที่ผู้ยื่นคำขอได้รับมอบอำนาจให้ยื่นคำขอแทน
    8. สำเนาทะเบียนบ้านของกรรมการ กรรมการซึ่งมีอำนาจลงนามผูกพันนิติบุคคล และผู้รับมอบอำนาจในกรณีที่ผู้ยื่นคำขอได้รับมอบอำนาจให้ยื่นคำขอแทน
    9. บัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นซึ่งแสดงรายการเกี่ยวกับชื่อ สัญชาติ และจำนวนหุ้นที่ถือ
    10. สำเนาหรือเอกสารแสดงการเป็นผู้รับใบอนุญาตให้ตั้งโรงงาน หรือใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานตามกฎหมายว่าด้วยโรงงาน
    11. เอกสารแสดงว่ามีความรู้และความชำนาญเกี่ยวกับการประกอบกิจการผลิตอาวุธ
    12. เอกสารแสดงว่ามีทุน เครื่องมือ อุปกรณ์และผู้เชี่ยวชาญเพียงพอที่จะดำเนินการตามคำขอนี้พร้อมด้วยหนังสือรับรองของผู้ซึ่งเกี่ยวข้อง
    13. โครงการในการดำเนินการทำ ประกอบ ซ่อมแซม หรือเปลี่ยนลักษณะอาวุธสำหรับราชการทหารและตำรวจ โดยระบุขั้นตอนและวิธีการดำเนินกิจการโดยตลอด
    14. แผนที่แสดงสถานที่ตั้งโรงงาน รายการและแบบของสถานที่เก็บวัตถุที่ใช้ในการผลิตอาวุธ และอาวุธที่ผลิตขึ้น
    15. สำเนาโฉนดที่ดิน หนังสือรับรองการทำประโยชน์ของที่ตั้งโรงงาน หรือเอกสารแสดงสิทธิในที่ดินอื่น ๆ
    16. เอกสารอื่น ๆ (ถ้ามี)

ประเภทใบอนุญาต
   (1) ใบอนุญาตตั้งโรงงานทำอาวุธ
   (2) ใบอนุญาตตั้งโรงงานประกอบอาวุธ
   (3) ใบอนุญาตตั้งโรงงานซ่อมแซมอาวุธ
   (4) ใบอนุญาตตั้งโรงงานเปลี่ยนลักษณะอาวุธ
    ผู้ได้รับใบอนุญาตตั้งโรงงานทำอาวุธให้ถือว่าได้รับอนุญาตตั้งโรงงาน ประกอบ ซ่อมแซม และเปลี่ยนลักษณะอาวุธด้วย

ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตตาม ปร.37 (กฎกระทรวง ฉบับที่ 6)
   (1) ใบอนุญาตตั้งโรงงานทำอาวุธ ฉบับละ 250,000.- บาท
   (2) ใบอนุญาตตั้งโรงงานประกอบอาวุธ ฉบับละ 100,000.- บาท
   (3) ใบอนุญาตตั้งโรงงานซ่อมแซมอาวุธ ฉบับละ 100,000.- บาท
   (4) ใบอนุญาตตั้งโรงงานเปลี่ยนลักษณะอาวุธ ฉบับละ 100,000.- บาท
   (5) ใบแทนใบอนุญาต ฉบับละ 250.- บาท
   (6) การต่ออายุใบอนุญาตตั้งโรงงานทำอาวุธ ครั้งละ 25,000.- บาท
   (7) การต่ออายุใบอนุญาตตั้งโรงงานประกอบอาวุธ ครั้งละ 10,000 .- บาท
   (8) การต่ออายุใบอนุญาตตั้งโรงงานซ่อมแซมอาวุธ ครั้งละ 10,000.- บาท
   (9) การต่ออายุใบอนุญาตตั้งโรงงานเปลี่ยนลักษณะอาวุธ ครั้งละ 10,000.- บาท