ซู-35บีเอ็ม จะเป็นแฟลงเคอร์ ที่พัฒนาตัวสุดท้าย หลังจากที่สับสนกับแฟลงเคอร์ตัวก่อนหน้านี้มากมาย (เฉพาะที่ขึ้นชื่อว่าซู-27 ผมก็จำไม่หมดแล้ว) ทั้งเวอร์ชั่นที่ใช้ในทอ.รัสเซีย ที่ชื่อซู-35 รุ่นส่งออกที่ชื่อ ซู-27เอ็ม แต่ซู-35ก็แป้กในทอ.รัสเซีย โดยมีประจำการเพียง5เครื่อง ในกรมบินที่273 โดยทอ.ัสเซียเลือกที่จะอัพเกรดฝูงบินซู-27ที่ตนมีเป็นมาตรฐาน ซู-27เอสเอ็ม ซู-35นั้น ก็ยังเป็นเครื่องทดสอบระบบ TVC หรือระบบท่อปรับทิศแรงขับ แบบ2มิติ (น่าจะบน-ล่าง ไม่มีเต็ง-โต๊ด) ซึ่งจะนำไปติดตั้งในซู-37
ซู-35บีเอ็ม ได้รับการวางให้อยู่ระหว่างซู-27เอสเอ็ม เจเนอเรชั่นที่4+ กับ แพ๊ค-เอฟเอ(PAK-FA) เจเนอเรชั่นที่5โดยเจ้านี่จะถูกเรียกว่า บ.เจเนอเรชั่นที่ 4 ++ (2บวก) ซึ่งอยู่ในเจเนอเรชั่นเดียวกับมิก-35 (ถ้าเทียบกับบ.ฝั่งยุโรปน่าจะเป็น กรีเป้น-ดีเค/เอ็น ) โดยจะบินไมเดนไฟลท์(บินครั้งแรก)ในปลายปีนี้ ไม่มีการยืนยันว่าจะได้รับเข้าประจำการในทอ.รัสเซียหรือไม่ หรืออาจจะเป็นแค่การเอาเทคโนโลยีไปใช้ในการอัพเกรดซู-27 รอบสองของทอ.รัสเซีย
มีต่อ
รูปร่างภายนอก
ซู-35บีเอ็ม ยังคงใช้แอร์เฟรมเดียวกับซู-27 คือไม่มีคานาร์ด ดูเหมือนซู-27 มากกว่าซู-35ว่างั้น และยังลดน้ำหนักลง 20%ด้วยวัสดุผสม และสีที่ทายังดูดกลืนคลื่นเรดาร์ ทำให้ มีRCS เล็กลง (แต่ผมว่ามันคงไม่เล็กลงเท่าไหร่)
เครื่องยนต์
AL-41F1 มีซูเปอร์ครุยส์(ซูเปอร์ครุยส์:การบินเหนือเสียง โดยไม่ต้องใช้สันดาปท้าย) ให้กำลังเครื่องละ 15,000Kg. กรุณาคำนวณเป็นปอนด์เอาเอง เครื่องซีรี่ส์AL-41 นั้น จะได้รับการติดตั้งในเครื่องบินยุคที่4++ และยุคที่5ของรัสเซีย
ได้แก่ PAK-FA/ MIG-1.44MFI /SU-47 แต่คาดการณ์กันว่า เครื่องยนต์AL-41F1 ยังไม่พร้อมที่จะติดตั้งกับซู-35บีเอ็ม เนื่องจากปัญหาความล่าช้าในการพัฒนา ดังนั้นการบินครั้งแรกของซู-35บีเอ็มจะได้รับการติดตั้งย.AL-41 รุ่นพื้นฐาน ซึ่งมีกำลังขับเท่ากัน แต่ไม่มีความสามารถในการซูเปอร์ครุยส์ โดยเครื่องยนต์ที่จะติดตั้งในPAK-FA มีชื่อรุ่นว่า AL-41F1A เริ่มงงแล้ววุ้ย เอาเป็นว่า AL-41F1 กับAL-41F1A คล้ายกัน แต่น่าจะต่างกันที่รายละเอียดปลีกย่อยอื่นๆ แต่โดยรวมแล้ว เหมือนกันครับ
เครื่องยนต์ AL-41F1 มีระบบ TVC แบบ 3มิติ (บน-ล่าง ซ้าย-ขวา) แน่นอนครับ ซู-25บีเอ็มมี2เครื่องยนต์ กำลังขับรวมจะเท่ากับ 30ตัน ซึ่งเมื่อลองคำนวณกับน้ำหนักตัวที่เบาลง20% เจ้าซู-35บีเอ็ม น่ากลัวที่เดียวทั้งอัตราไต่ ความคล่องตัว
รูป AL-41F1
ระบบอวิโอนิคส์และเซนเซอร์
เรดาร์ที่ได้รับการเก็งจากผู้สันทัดกรณี คาดว่าน่าจะเป็นTikhomirov NIIP Irbis-E เรดาร์AESA เลื่องชื่อ แต่ก็อาจจะเป็นPhazotron NIIR radar Sokol III (N031 Zhuk-MSFE) ซึ่งก็เป็นเรดาร์ที่สำนักออกแบบฟาโซตรอนงัดไม้เด็ดมาใส่เต็มที่เช่นกัน
เรดาร์ไอร์บิส-อี เป็นเรดาร์AESA ที่มีความสามารถสูง สามารถติดตามเป้าพร้อมกันได้ 30เป้า (ในโหมด Track while Scan หรือแสกนไปติดตามไป) สามารถ นำวิถีอวป.อากาศ-อากาศแบบเซมิแอคทีฟได้ 2เป้าหมายพร้อมกัน (อันนี้น่าทึ่ง เพราะโดยทั่วไปได้แค่ 1เป้าหมาย) หรือถ้าอยากซัลโวหนักกว่านั้นเชิญใช้บริการ แบบแอคทีฟเรดาร์ ซึ่งทำได้ 8 เป้าหมายพร้อมกัน สามารถตรวจจับเป้าหมายที่มีRCS 3ตารางเมตร (นึกถึงอาลาดินพรมยาว3เมตรกว้าง1เมตร บินทำลูปแนวตั้งฉาก) ได้ 400กม. หรือเป้าหมายแบบสเตลท์ ที่มีRCS 0.01ตารางเมตร(นึกถึงอาลาดินทำแคร็กเกอร์ปลิว)ได้ที่ระยะ 90กม. เอาละวา เอฟ-22 เสร็จแน่ๆ
เอกลักษณืของบ.ตระกูลนี้ ต้องมีเรดาร์ที่หาง ซู-35บีเอ็มติดตั้งเรดาร์แบบOsa เป็นแบบAESA เช่นเดียวกัน แต่ไม่บอกว่ามีความสามารถเท่าไหร่
ส่วนระบบตรวจจับแบบIRST คาดว่าน่าจะใช้ระบบที่ปรับปรุงมาจาก OELS-27 ของซู-27ซีรี่ส์ หรืออาจจะใช้ระบบOLS-35 ของมิก-35 หรือระบบที่เทียบเคียงกันได้ (ระบบOLS-35 ตรวจจับอินฟราเรดจากเป้าหมายภาคพื้นได้ไกลถึง 100กม. เป้าหมายทางอากาศไกลถึง45กม.)
ค็อคพิทมาตรฐานทั่วไป จอLCD 2จอยักษ์(พร้อมดีวีดีและระบบเสียง5.1แชนเนล หรือเปล่า)และจอภาพติดหมวกนักบิน
ภาพOLS-35 บนมิก-35
สุดท้ายกับอาวุธ
อาวุธ อวป.อากาศ-อากาศ ใช้มาตรฐานรัสเซีย ยิงได้หมดทั้งซีรี่ส์ Archer ,Alamo,Adderซึ่งมีรุ่นแยกย่อยจำไม่หวาดไม่ไหว รวมถึงอวป.อากาศ-อากาศ ยิงไกลสุดกู่ 300กม. อย่างKS-172S1 และ R-37M(R-37 ของมิก-31 ดัดแปลง)
หรือจะโจมตีภาคพื้นด้วย Yakhont, Brahmos รวมถึงระเบิดต่างๆนาๆของค่ายหมีขาวได้เกือบทุกแบบ
จบข่าวครับ
ตบท้ายด้วยรูปKS-172 ยาวตั้ง7เมตร ยังสงสัยว่าจะแบกไปยังไง แต่เอฟ-15ยังจะแบกแพรทริออทเลย เจ้านี่ดัดแปลงจากS-300 ก็ไม่น่าแปลก
ขอวิจารณ์หน่อยแล้วกันครับ
รู้สึกว่ารัสเซียกำลังดิ้นรนหา เครื่องบินที่จะมาเสริมช่วงรอยต่อระหว่างรอโครงการณ์บ.ยุคที่5 ของตนเป็นรูปเป็นร่าง มองซ้ายมองขวาก็หยิบเอาเครื่องยุคที่4ของตนมาดัดแปลงให้ดีขึ้น เพื่อใช้ไปก่อน และยังขายเเพ็คเกจอัพเกรดให้ประเทศที่ีมีบ.แบบเดียวกับตนซื้อไปใช้ด้วย น่าสังเกตอีกจุดคือ เรดาร์และระบบตรวจจับของบ.พวกนี้ เน้นไปทางการตรวจจับบ.สเตลธ์มากขึ้น เชื่อได้ว่าถ้าโครงการณ์PAK-FA ของรัสเซียเสร็จเมื่อไหร่ คงได้เห็นสงครามการพัฒนาระบบต่อต้านสเตลธ์ขึ้นมาแน่นอน
รูป.PAK-FA T-50 ของค่ายซู ครับ
เครดิตข้อมูลในข่าว
www.aviapedia.com ครับ
รุ่นนี้เข้าตากรรมการอย่างผม เพราะผมอยากให้ SU-30/35 ใช้วัสดุผสมจะได้เบาขึ้น จะได้บินได้ไกลมากขึ้น แบกน้ำหนักได้มากขึ้น ประหยัดน้ำมันดีขึ้น และได้ผลเลย เบาลง 20 %
เรด้าร์ต้องให้ได้อย่างนี้สิ ตรวจจับเครื่องระดับ F-35 ได้ไกลถึง 90 กม. ดังนั้นล่อด้วย R-77 ได้สบายๆ
Tikhomirov NIIP Irbis-E เรดาร์AESA ตัวนี้ได้รับเทคโนโลยีจากอิสราเอลมาด้วยอะป่าวครับ แต่ว่ายอดจริงๆ ต่อตีเป้าหมายได้ 8 เป้าหมายพร้อมกัน! ถ้าอายุการใช้งานและการบริโภคพลังงานดีในระดับเรด้าร์ของอเมริกันนี่ มันจะทำให้ SU-35 จัดว่าเป็นสุดยอดเครื่องบินที่มีระบบเรด้าร์ที่ดีที่สุดเลยนะนี่ เท่าเครื่อง AWAC หรือ AEW&C อย่าง SAAB A-340 ที่ใช้ระบบอิริคอายเลยนะครับ
เครื่องยนต์ใหม่ให้กำลังมหาศาล เท่าที่ทราบรู้สึกว่าเครื่องรุ่นนี้แก้ปัญหาเรื่องอายุการใช้งานที่สั้นได้แล้วด้วย แต่ผมยังสงสัยเรื่องความประหยัดเชื้อเพลิงและน้ำหนัก ซึ่งเครื่องยนต์จากค่ายรัสเซียนี่ด้อยกว่าค่ายอเมริกาเสมอๆ
สุดท้ายที่ไม่เคยประทับใจเลย คือ สถาปัตยกรรมในห้องนักบิน ยังคงออกแบบได้ห่วยเช่นเดิม...................ถ้าได้สถาปัตยกรรมเจ๋งๆแถมหมวกนักบินแบบสุดยอดแล้วจะดีมาก และถ้ามีการโมดิฟายด์ให้ใช้ระบบของตะวันตกได้แบบ SU-30 MKI ที่อิสราเอลรับโมให้ ผมจะเทใจให้เครื่องรุ่นนี้แบบสุดๆครับ
ตอนเห็นข่าวที่ Aviapedia ทีแรกแปลกใจเล็กน้อยตรงที่ไม่มีคาร์นาร์ดครับ
เห็น บ.รุ่นใหม่ๆ ขยันใส่เอาๆ ไหงเจ้านี่ไม่มีหว่า
แต่ก้อคาดว่าคงเป็นเหตุผลเรื่องการลด RCS น่ะครับ
อีกอย่าง Mig-29 OVT เอย Mig-35 เอย คาร์นาร์ดก้อไม่มี มีแต่ TVC แต่ก้อตีลังกาเอาๆ ได้เหมือนกัน
แต่ชอบใจเจ้าเรดาร์ AESA จริงๆ หุหุ
ปล.ขอบคุณท่าน icy ที่แปลมาให้อ่านครับ เพราะตอนอ่านภาษาปะกิตนี่รู้เรื่องมั่งไม่รู้เรื่องมั่ง ^^"
โอ้โห
F-22 มี RCS ตั้ง 0.025 ตร.ม. เทียบกับเรด้าห์เจ้านี่ก็ใหญ่เป็นช้างเลย อย่างงี้ F-22 บินทะเล่อทะล่ามาร้อยกว่าโลก็โดนรับน้องด้วย R-77 แล้วขอรับ
F-35 ยิงไม่ต้องพูดถึง........
บ.ในตระกูล Flanker นี้ก็มีการพัฒนาเครื่องแรกขึ้นมาตั้งแต่1977 จนถึงปัจจุบันนี้30ปีแล้วครับ ซึ่งที่ผ่านมานั้น บ.Flanker รุ่นใหม่ที่พัฒนาให้ทันสมัยขึ้นก็มักจะเป็นแค่ต้นแบบที่เข้าประจำการจำนวนไม่มากนักครับ บ.รุ่นส่งออกนั้นก็มีขีดความสามารถสูงกว่า บ.ที่ประจำการในรัสเซียเองอีกจนรัสเซียต้องดำเนินการปรับปรุง บ.ในกรมบินของนำไปตามข้างต้น
การพัฒนา บ.Su-35BM นี้ก็คงจะเป็นการสาธิตTechnology เพื่อนำไปใช้ปรับปรุง บ.ที่ตนประจำการและประชาสัมพันธ์ประเทศลูกค้าครับ โดยเฉพาะขีดความสามารถในการต่อต้าน บ.Stealth นี้เป็นที่น่าสนใจมากครับ
อนาคตคงยิงF-16 กับ F-5 ตกกันเป็นว่าเล่น คงเห็นประเทศที่ใช้ทั้งทางใต้ หรือทางตะวันออกคงมีเสืออากาศเต็มกองทัพแน่ๆ
คุณFatBoy ครับ ถ้าประเทศทางใต้เขามีจริงขึ้นมา เขาไม่มาไล่ยิงเราหรอกครับ เพราะเรายอมเขาทุกอย่าง เพราะเรายังสาระวนอยู่กับของตกรุ่นหรือมือสองของตะวันตกอยู่ ขำ ขำ นะครับ
เข้าเรื่องบ้าง ผมว่าเจ้านี่เป็นได้แค่ต้นแบบครับ แต่ระบบที่มีในตัวเจ้านี่นั่นแหละที่จะเกิด แต่เกิดกับเครื่องบินอื่น อาจจะมีใน SU-30MKM แล้วก็ได้ อิ อิ(แน่ะ ยังไม่วายวกไปประเทศทางใต้)
ถูกใจคุณกบครับ
แต่จะว่าไป ประเทศเรามันมีพวกสองขั้วนะ พวกชอบทหารอย่างพวกเรา กับพวกบ้าการเมืองไม่เอาไหน
พวกบ้าการเมืองนี้ส่วนใหญ่จะเป็นพวกสันติภาพนิยม คิดแต่ว่า"สมัยนี้มันไม่รบกันแล้วววว"
และโดยรวม พวกนี้จะเป็นรัฐมนตรีกระทรวต่างๆยกเว้นกระทรวงกลาโหม บางทีเป็นถึงนายกด้วยซำไป
งานนี้ เรียกได้ว่าโดนทั้งขึ้นทั้งล่อง
พอสงครามยังไม่เกิดก็หาว่าเราบ้าสงคราม ชอบสะสมอาวุธ ก็เลยไม่จัดซื้อให้ ให้ใช้แต่เอดีเอฟหรือของเก่าๆไป โดยบางคนก็อ้างว่า"ยังไม่ถึงขั้นภาวะสงคราม"
ป่านนั้น ถ้ามันมีวะสงครามจริง จะซื้อก็ไม่ทันแล้ว มันไม่ได้สั่งแบบพิซซ่านะ กด1150แล้วจะมาส่งภายในสามสิบนาทีน่ะ
พอสงครามมาหาจริงๆ น้องซูประเทศเพื่อนบ้านบินว่อนเหนือน่านฟ้าไทย คราวนี้ก็ลงกับเราอีก หาว่ารบไม่เต็มที่ ไม่มีการเตรียมการ รบไม่เต็มประสิทธิ์ภาพบ้างล่ะ ทั้งๆที่ก็รู้ว่าอาวุธนั้นเก่าสุดกู่
แล้วทำไมไม่ซื้ออาวุธใหม่ล่ะ อยากเป็นแบบโปแลนด์สมัยสงครามโลกที่ขี่เครื่องบินปีกสองชั้นแบบโคตรเก่าขึ้นไปฟัดกับBF-109ที่ทันสมัยสุดๆ แล้วโดนสอยลงมาหน้ากระแทกดินหรือไงกัน?
เบื่อพวกสันติภาพนิยม กับพวกกลับกลอกจริงๆ
สันตินิยม???
ผมก็สันตินิยมนะ ผมคัดค้านการทำสงครามทุกรูปแบบ คัดค้านการแข่งขันสะสมอาวุธ และการใช้ความรุนแรงเป็นตัวตัดสินปัญหา
ผมไม่อยากเอาเวลาแต่ละวันคิดว่าจะต้องรบกับใคร....ผมว่าผมควรเอาเวลาไปคิดว่าเราจะทำยังไงไม่ให้รบกัน
ผมศึกษาเรื่องการทหารมากว่าสามปี รู้ซึ้งถึงอำนาจการทำลายล้างของอาวุธสงคราม ความสูญเสียที่จะตามมา ดีกว่าคนทั่วไปที่ไม่เคยศึกษาเรื่องนี้มากนัก....มันเหล่านี้สอนผมว่า สงครามคือสิ่งที่งี่เง่าที่สุดของมนุษยชาติ
ผมสนับสนุนให้กองทัพมีอาวุธที่ดีพอที่จะป้องกันตนเอง เพราะตามรัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ว่า รัฐมีหน้าที่จัดหาอาวุธ และเทคโนโลยีที่ทันสมัยเพียงพอที่จะป้องกันเอกราชและอธิปไตยของชาติ อีกทั้งประเทศก็คือบ้านของผม ถ้าประเทศชาติหมดสิ้นแล้ว ผมก็คงไม่มีที่อยู่ในโลกนี้
แต่ผมไม่สนับสนุนการซื้ออาวุธแบบบ้าเลือด เ หรือมากจนต้องเจียดเงินส่วนอื่นไปซื้อ หรือมากจนเกินความจำเป็น
แน่นอน ความมั่นคงของประเทศอาจจะมากเกินกว่าจะประเมินเป็นตัวเงินได้ แต่ความมั่นคงของประเทศ ก็หาใช่ความมั่นคงด้านการทหารแต่อย่างเดียวไม่ หากแต่ยังประกอบไปด้วยความมั่นคงด้านสังคม ด้านเศรษฐกิจ ด้านการเมือง และด้านทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งจะประกอบเป็นองค์ประกอบในการขับเคลื่อนประเทศ
ดังนั้น สุดท้าย มันก็กลับมาสู่ทฤษฏีเศรษฐกิจพอเพียง ที่เราจะต้องใช้จ่ายอย่างเหมาะสม ในความเสี่ยงที่ยอมรับได้ในบริบทของความมั่นคงในทุก ๆ มิติ ซึ่งจะทำให้สังคมเกิดความมั่นคงอย่างแท้จริง/Skyman