....เรือชั้น น็อค (สะกดงี้ป่ะ ) ก็เรือ พระพุทธยอดฟ้า ที่เราๆรู้จักกันดีอ่ะคับ ถือเป็นเรือที่ ปราบเรือดำน้ำได้เต็มรูปแบบมากที่สุดใน ท.ร.ไทย ก็ด้วย ช่วงชกยาวของ อาวุธปราบเรือดำน้ำอย่าง แอสร็อค และระบบโซนาร์ รวมถึงระบบตอร์ปิโด ประจำเรือที่ทำมาให้ตรวจจับเรือดำน้ำได้ดี แต่เรือชั้นนี้เป็นเรือรุ่นเก่าของ ท.ร.อเมริกา ถ้าอนาคตต่อไปนานๆถึงเวลาปลดประจำการ ท.ร.ไทยจะประจำการเรือที่มีคุณสมับติที่ไล่ล่าเรือดำน้ำได้แบบชั้นนี้หรือไม่ครับ ประมาณหามาทดแทนนั้นเอง เพราะระหว่างขับน้ำก็มากอยู่และระบบขับเคลื่อนยังใช้ บอยเลอร์เป็นหลัก แต่เรือที่ต่อๆมาชักจะระหว่างขับน้ำน้อยลงๆ ไหนจะอาวุธหลักคือ จรวดปราบเรือดำน้ำแบบ แอสร็อค (คิดว่าน่าจะใช้ในเรือรุ่นนี้เป็นรุ่นสุดท้ายสำหรับท.ร.ไทย )ฮาร์พูน และระบบป้องกันระยะประชิดแบบ ฟาลังซ์ จากที่ดูแล้วเรือปัจจุบันและที่มีใช้กันทั่วๆไปแถบบ้านเรา เน้นที่ ตอร์ปิโด และ ฮ.ปราบเรือดำน้ำเช่น ลิงซ์ และ SH-60 นอกจากนั้นก็มีจรวดตระกูล อาร์บียู เท่านั้นที่ใช้กันมากแต่ระบบ แอสร็อค ไม่ค่อยฮิต กันเท่าไร
.....สรุปเลยคือ อนาคตข้างหน้าคิดว่าท.ร.ไทยต้องหาเรือ ที่มีคุณสมับติในการล่าเรือดำน้ำเฉพาะมาประจำการป่ะครับ หรือ รอประจำการเรือดำน้ำไปเลย
1.เรือชั้น เมโค 100 ถึง 200 ลาฟาแยท รวมถึงเรือใหม่ๆของ จีน(ส่วนใหญ่ใช้ อาร์บียู 6000 ) เกาหลีใต้ KDX ii มีความสามารถในการใช้จรวดประเภท แอสร็อค หรือไม่ครับ เพราะจะเห็นเน้นในระบบป้องกันทางอากาศ
2.เทียบความสามารถในการปราบเรือดำน้ำระหว่างฮ.ปราบเรือดำน้ำ และ แอสร็อค แบบใดจะสามารถจัดการเรือดำน้ำได้ดีกว่าครับ หรือ พอๆกันอ่ะ
....ขอบคุณที่ตอบค้าบ
กระทู้นี้ขออนุญาตตอบโดยใช้ความเห็นส่วนตัวบวกด้วยทฤษฎีด้านการปราบเรือดำน้ำที่เรียนมาบ้าง ก็ขอคอมเมนต์ว่า เรือชั้น knox เนี่ย ถือได้เลยว่า ต้นแบบของเรือปราบเรือดำน้ำที่เราควรจะมี เทคนิคยุทธวิธีบางอย่าง เช่น การวิเคราะห์การเคลื่อนที่ของเป้า (Target Motion Analysis TMA) ทร.เราก็ได้เรียนรู้พร้อมกับการรับเรือชุดนี้มา ส่วนแนวโน้มที่ว่าเราจัดหาเรือที่เน้นด้านการป้องกันภัยทางอากาศนั้น เพราะว่าแนวโน้มของสงครามสมัยใหม่ตามความคิดผมนั้น ภัยคุกคามทางอากาศจะมาอย่างรวดเร็ว ทั้งอาวุธปล่อย เครื่องบินต่างๆ แต่ภัยจากเรือดำน้ำก็ยังอันตรายเช่นกันครับ ตอร์ปิโดความเร็วใต้น้ำ 45 นอต แม้ว่าภัยคุกคามเรือดำน้ำในย่านนี้จะไม่ถึงขั้น สามารถยิงอาวุธปล่อยจากเรือดำน้ำ แต่แค่ตอร์ปิโดก็เป็นภัยคุกคามใหญ่หลวงแล้วครับ จึงควรให้น้ำหนักความสำคัญทั้งสองมิติเท่าเทียมกัน
๑.เรือทั้งหมดที่คุณว่ามานั้น บางลำมี VLS ซึ่งบางระบบของ VLS สามารถยิง ASROC ได้ครับ
๒.การปราบเรือดำน้ำโดยใช้อากาศยานนั้นมีข้อได้เปรียบคือ เรือดำน้ำไม่สามารถรู้ตัวได้ว่ามีอากาศยานเหยียบกะลาหัวอยู่(ยกเว้นดำในระดับความลึกที่ใช้กล้องเพอริสโคปได้ อาจจะมองเห็นได้แต่ก็ดำหนีไม่ทัน) แต่อากาศยานเนี่ยจะใช้อาวุธต่อตีเรือดำน้ำได้ก็ต้องพิสูจน์ทราบให้แน่ชัดว่าเป็นเรือดำน้ำ ภาษาทหารเรือเขาเรียกว่า CERTSUB โดยใช้อุปกรณ์ตรวจจับหลายอย่างพร้อมกันจนยืนยันได้ว่าเป็นเรือดำน้ำ อากาศยานส่วนมากก็จะมีตอร์ปิโดที่ใช้ปราบเรือดำน้ำ ส่วน ASROC ก็มีประสิทธิภาพในการนำวิถีเข้าหาเรือดำน้ำที่ดีกว่าตอร์ปิโด แต่ผมให้แง่คิดส่วนตัวว่า ถ้าต้องต่อตีแบบเร่งด่วน (Urgent Attack)คือตรวจจับได้ว่าเรือดำน้ำอยู่ใกล้เรือ ก็น่าจะเป็น ASROC ที่ดีกว่า ส่วนถ้าต้องต่อตีอย่างประณีตต่อเรือดำน้ำที่อยู่ห่างไกลเรือ ก็ควรใช้ ฮ.ติดตอร์ปิโด ไปต่อตี ก่อนหน้านั้นใช้ P-3 ทิ้ง Sonobouy แล้วถ้ามี Echo ของ Sonobouy ขึ้นมา ก็ใช้ MAD (Magnetic Anomaly Detector) ในการยืนยันเป้า ด. ทำอย่างประณีต หา เรือดำน้ำให้เจอชัวร์ๆ แล้วต่อตีมันด้วยความเลือดเย็น (ที่เล่ามาทั้งหมดเป็นยุทธวิธีที่ผมคิดจะนำมาใช้ซึ่งประยุกต์จากทฤษฎีนะครับ) คือ สรุปแล้วอยู่ที่ภารกิจ ความเร่งด่วนในการต่อตี การตรวจจับเรือดำน้ำได้ เราถึงจะเลือกอาวุธที่เหมาะสมครับ
ดร.สุรชาติ บำรุงสุข เคยให้ความเห็นไว้ (ชักไม่แน่ใจ แต่คิดว่าใช่นะครับ) ถ้า ทร.ไทย ยังไม่มีเรือดำน้ำ เราก็ต้องมีเรือปราบเรือดำน้ำ ที่มีประสิทธิภาพ...ซึ่งผมเห็นด้วยเลยครับกับความเห็นนี้...ผมก็มีความเห็นว่า เรือชั้น น็อกซ์ ยังมีความจำเป็นอยู่สำหรับในอนาคตของ ทร.ไทย ครับ...ถึงแม้จะต้องปลดระวางไป...ผมว่า ทร. คงน่าจะหา เรือที่มีความสามารถปราบเรือดำน้ำ มาทดแทน คงไม่น้อยกว่า 3 ลำ ประมาณนั้น...เพราะ สิงค์โปร์ ก็มี ด. แล้ว 3 ลำ มาเลเซีย ก็มีแล้ว 2 หรือ 3 ลำ เนี่ยล่ะครับ...อินโดนีเซีย มีีแล้ว 3 ลำ รึเปล่า ไม่แน่ใจ...และต่อไป ไทย คงต้องแข่ง เวียดนาม ว่าใครจะมีเรือดำน้ำ ก่อนกัน... ถ้า ทร.ไทย ยังไม่มี...แล้ว ทร.เวียดนาม มีไปก่อน...ยังไง ๆ เรือรบปราบเรือดำน้ำ สำหรับ ทร.ไทย ผมเห็นว่าความจำเป็นน่าจะสำคัญ ออกจะมากกว่า เรือป้องกันภัยทางอากาศ ในอนาคต ครับ...เพราะ ทอ. ยังพอจะสามารถ ป้องกันภัยทางอากาศ ทดแทนได้...แต่ เรือสงครามใต้น้ำ ไม่มีใครทดแทนได้ นอกจาก ทร. เอง...
ถึงตอนนี้จะยังไม่มีงบประมาณในการต่อเรือลำใหม่ แต่ว่าทร.จะทำให้เรือ1ใน2ลำของเรือชั้นknoxที่ประจำการอยู่นั้นให้พร้อมใช้งานได้ จำนวน1ลำไปก่อนเพื่อคงสถานะกำลังรบหลักในปัจจุบันครับ
เรือปราบเรือดำน้ำของสหรัฐฯที่น่าจะยังพอมีเหลือสำหรับขายต่อให้มิตรประเทศนั้นก็มีชั้น Oliver Harzard Perry ครับซึ่งจริงๆแล้วกองทัพเรือก็เคยให้ความสนใจที่จะจัดหาเรือชั้นนี้ในรุ่นลำตัวสั้นที่สหรัฐฯปลดไปหมดแล้วอยู่ครับ แต่เนื่องจากว่าของมูลของคุณ NyeNAVAกล่าวว่าเรือชั้นนี้ใช้เครื่องยนตร์แบบ Gas Turbine ล้วนไม่มี ย.ดีเซลผสมทำให้ถ้าเอามาประจำการจะมีค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติการสูงเกินไปมากครับ(ทร.รับไม่ไหว)
ส่วนเรือชั้น Knox นี้ปัจจุบันสหรัฐฯขายให้มิตรประเทศหมดแล้วครับ(นอกนั้นก็เป็นพิพิธภัณฑ์ แยกชิ้นส่วนเป็นเศษเหล็ก ไม่ก็เป็นเรือเป้าไปแล้ว)
ถ้าฮปด.ทั้งหลาย มีอาวุธอุปกรณ์ครบเครื่อง ก็คงแบ่งเบาภาระไปบ้างไม่น้อย
และถ้าให้เดา เรือฟริเกตใหม่ที่รอคอยกัน ก็น่าจะไม่มีแอสรอคในวีแอลเอส
และก็ไม่อยากให้จัดหาเรือฟริเกตมือ2เลย เน้นเป็นเรือPatrolจำนวนพอเหมาะ กับเรือที่มีความทันสมัย ประสิทธิภาพสูงจำนวนไม่กี่ลำ น่าจะดีนะ
คิดดูมันก็ลำบาก งบจัดหาอาวุธป้องกันประเทศก็ช่างเล็กน้อยเมื่อเทียบกับจีดีพี แล้วต้องมาเฉลี่ยให้แต่ละด้านอีก ทั้งบนดิน ใต้น้ำ ในอากาศ ให้ไปเด่นด้านเดียว คงมีอีกด้านที่โหว่
บางครั้งผมคิด งบป้องกันประเทศเราน้อยไป หรือใช้งบกันไม่เป็น/ไม่ถูก
1. เรือที่ใช้แท่นยิง Mk41 VLS เมดอินเมกานั้น สามารถใช้ยิง ASROC ได้หมดครับ
2. ใช้ ฮ. ดีกว่าครับ ไปได้ไกลกว่าด้วยครับ ASROC นั้นต้องมีพิกัดเป้าที่แม่นยำจริงๆ เช่น การใช้ active sonar ของเรือผิวน้ำ ถึงจะได้ใช้ครับ ยิงไปสุ่มๆ มันจะพลาดเอาได้
คุณ zedth ฝากมาบอกครับว่า
ตอบ คุณ กบ ก่อนครับ
ใบจักรเดี่ยวของ เรือชั้น Knox นั้น ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษนะครับ โดยออกแบบมาคู่กับหางเสือ โดยหางเสือมันจะไม่ได้อยู่ตรงกลางหลังใบจักรนะครับ มันจะอยู่เยื้อง ๆ จำไม่ได้ครับว่าทางซ้าย หรือขวา เพราะไม่มีตำราหรือรูปอยู่ใกล้มือ แต่สรุปว่า ตัวหางเสือจะรับแรงผลักจากใบจักร และปรับให้หัวเรือตั้งตรงครับ เพราะฉะนั้น ไม่ต้องห่วงเลยครับ ว่าเรือจะแล่นเป๋ ๆ เพราะความที่เป็นเรือใบจักรเดี่ยว
ประโยชน์ของเรือใบจักรเดี่ยวอีกประการหนึ่งก็คือ เสียงใต้น้ำจะเหมือนเรือสินค้า ในสมัยนั้น ทำให้เรือดำน้ำเข้าใจผิดได้ครับ
และเรือชุดนี้ยังมีระบบฟองอากาศลดเสียงตัวเรือ ที่เรียกว่า Prairie Masker โดยจะเอาไว้ปล่อยฟองอากาศออกจากข้างเรือทั้งสองกราบ และที่ใบจักร เพื่อลดเสียงจากใบจักร และตัวเรือด้วยครับ
และจะว่าไปแล้ว เรือ Knox ก็เกือบจะพร้อมทั้งสองลำแล้วล่ะครับ