สำหรับฝรั่งนี่ ก็คิดว่ามันเป็นเรื่องความคิดส่วนบุคคลนะครับ เพราะมันหมดยุคหมดสมัยไปแล้วล่ะ นาซีนี่ หนังสือที่มีเนื้อหาแบบนาซี ก็ยังเป็นหนังสือที่มีการเผยแพร่ในชาติตะวันตกทั่วไปครับ เพราะถือว่าเป็นหนังสือคลาสสิค เหมือนกับหนังสือคอมมิวนิสต์นั่นแหละ

สำหรับคนยุโรป ก็ไม่น่าจะมีความคิดต่อต้านอะไร พวกนีโอนาซีก็มีถมไป ฝรั่งคงเห็นว่าเป็นสีสันมากกว่า

ถ้าไม่ไปทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน ก็ทำไปเถอะครับ ผมก็นิยมนาซีคือๆกันแหละ

ป.ล. อุดมการร์นาซีสามารถเอามาใช้สอนเรื่องการรักชาติได้ แต่ต้องแยกระหว่างความรักชาติและคลั่งชาติออกจากกันให้ได้นะครับ

สำหรับอุดมการณ์รักชาติ ผมเห็นด้วยกับท่านyuriครับ

ความรักชาติ กับคลั่งชาตินั้น ต่างกันจริงๆ

เออ ผมอยากทราบว่า สมมุติว่ามีฝรั่งมาถุยน้ำลายใส่เราเพราะเราใส่เสื้อนาซี ไม่ว่าเค้าจะเกลียดหรือสมเพศเราก็ตาม แต่ผมอยากทราบว่า เราสามารถดำเนินคดีกับเขาได้ไหม

และขอามอีกเรื่องครับ นีโอนาซีเนี่ย นอกจากการเหยียดผิวแล้วมีลักษณะอะไรเด่นๆอีกบ้าง สอนให้รักเผ่าพันธุตัวเองแบบที่นาซีสอนให้รักชนชาติอารยันต์หรือเปล่า เพราะรัฐบาลบางประเทศดูจะantiนีโอนาซีน่าดู

นาซีนี่ความคลาสิคอยู่ในตัวแหละ น่าหลงไหลดีแท้

เรื่องอุดมการณ์ของนีโอนาซี คงจะไม่เน้นยกย่องชาติพันธุ์ตัวเองเหมือนสมัยนาซีก่อนแล้วครับ เพราะเห็นว่ากลุ่มนีโอนาซีมีสมาชิกอยู่หลายชาติในยุโรป ทั้งในยุโรปตะวันตก ยุโรปตะวันออก สแกนดิเนเวีย และมีบางชาติเคยโดนนาซีเยอรมันยึดครองสมัยก่อนด้วย คิดว่า คงเป็นกระแสความนิยมส่วนบุคคลมากกว่า

ส่วนตัวผมก็ชอบครับ ชอบมากๆ ผมใส่หมวกเหล็กของนาซี ไว้เป็นหมวกกันน๊อก ก็ยังไม่มีใครว่าอะไรเลย แต่ฝรั่งมันก็มองๆ อยุ่อะครับ

"นาซี "  เป็นทั้งชื่อ พรรคการเมือง และอุดมการณ์ (ทั้งทางการเมืองและทางสังคมด้วยครับ

อุดมการณ์นาซีหลัก ประกอบไปด้วยความเป็นหนึ่งเดียวของชาวเยอรมันทั้งทางด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และ วัฒนธรรม (collectivism, nationalism), ความเป็นยอดของมนุษย์เผ่าอารยันซึ่งเป็นกลุ่มหนึ่งในเชื้อสายเยอรมันตามความเชื่อดาร์วินิสต์ทางสังคม (Social Darwinism - racialism), การต่อต้านชาวยิว (anti-Semitism) และต่อต้านคอมมิวนิสต์ (anti-communism).

ฟาสซิสต์ กับนาซี  เป็นลัทธิหรือระบอบการเมือง ที่ปัจจุบันยังไม่มีข้อยุติ ว่าสามารถแยกออกจากกันได้เบ็ดเสร็จหรือไม่ เพราะมีบางส่วนที่คล้ายคลึงกัน (จึงเรียกเป็นภาษาไทยว่า เผด็จการชาตินิยม (Fascism & Nazism) ) แต่ที่ต่างกันอย่างเห็นได้ชัด คือ ฟาสซิสต์ เน้นที่รัฐ เป็นสำคัญ ส่วนนาซี เน้นที่เชื้อชาติ (อารยัน) เป็นสำคัญ

เป็นความจริงดังที่ ท่าน AAG_th1 กล่าวถึงครับ  เยอรมันมีกฎหมายบัญญัติห้าม มิให้ใครก็ตาม พูดถึงในเชิง ชื่นชม เห็นด้วย ใช้เครื่องหมาย หรือแม้แต่การแสดงท่าทาง อันเป็นสัญลักษณ์ของ "ลัทธิชาตินิยมเยอรมัน" (นาซี) ห้ามการสนับสนุนการทำสงคราม และ ห้ามดูถูกเหยียดหยามชนชาติอื่น ใครฝ่าฝืนต้องมีโทษทางอาญา โดยในอีกหลายรัฐของเยอรมันยังห้ามไปถึงแนวคิด "ลัทธิชาตินิยมใหม่" (นีโอนาซี) และแนวคิด และนโยบายฝ่ายซ้าย/ขวาหัวรุนแรนอื่น ๆ ด้วย

สรุปแล้ว ไม่ใส่ไปเดินแตร่ในเยอรมัน ก็ไม่มีใครมารุมกระทืบเราได้ใช่ไหมครับ

เพราะประเทศเรา นอกจากสถาบันสงสุดแล้ว  ไม่มีข้อห้ามในกฏหมายว่าห้ามเคารพนาซีนิ

สาเหตุที่ในเยอรมันเขามีกฎหมายดังกล่าวเพราะเรื่องนี้เป็นแผลเป็นทางประวัติศาสตร์อันน่าขมขื่นที่เขาไม่อยากหยิบยกขึ้นมาอีก เพราะทุกวันนี้ก็มีความสุขดีอยู่แล้ว

เหตุที่คนไม่ชอบนาซี ก็เพราะนาซี และมีแนวคิดการเหยียดชาติพันธุ์ ( racialism ) นั่นคือ ต่อต้านคนที่ไม่ได้มีเชื้อสายอารยัน ( คนเชื้อสายเยอรมันที่นับถือศาสนาคริสต์นิกายโปรแตสแตนต์)   และนีโอนาซี เองก็ต่อต้านชาติพันธุ์อื่น ๆ ที่ไม่ใช่คนผิวขาว ( พลังคนขาว-white power ) ซึ่งการกระทำบางครั้งแสดงออกซึ่งความรุนแรง เช่นการทำร้ายหรือฆาตกรรม รวมถึงประเด็นที่เห็นได้ชัดอย่างในกรณีการเหยียดผิวในกีฬาฟุตบอลซึ่งหลายครั้งเกิดจากแฟนบอลที่เป็นนีโอนาซี ( ไม่ใช่ทุกครั้งที่เกิดจากนีโอนาซี แต่มีหลายครั้งที่แฟนบอลบางส่วนที่กระทำเป็นนีโอนาซี)  ประเด็นนี้เป็นประเด็นสำคัญที่ฟีฟ่าเองก็ยกขึ้นมาเป็นประเด็นการต่อต้านการเหยียดชาติพันธุ์ ( anti-racialism ) ในกีฬาฟุตบอล รวมถึงในประเทศต่างๆ ในโลก ประเด็นการต่อต้านการเหยียดชาติพันธุ์ได้ถูกชูขึ้นมาเป็นประเด็นทางการเมือง และสังคม ทั้งนี้ก็เพื่อเสรีภาพและการอยู่ร่วมกันอย่างสันติของพลเมือง

ดังนั้นจึงไม่ได้จำกัดอยู่ที่เยอรมัน ครับ ประเด็นเรื่องไม่ชอบนาซี มันเป็นประเด็นเกี่ยวเนื่องกับการต่อต้านการเหยียดชาติพันธุ์ ที่ นาซีกระทำ คนที่คิดถึงประเด็นนี้ก็จะนำประเด็นนี้มาเกี่ยวโยงด้วย

ก็หยิบยกขึ้นมาอธิบายถึงที่มาที่ไป ครับ ผมเองยังไม่แน่ใจเลยว่า ถ้าคนเอเชียผิวเหลืองอย่างเรา ไปบอกพวกนาซี หรือนีโอนาซีตัวเป็น ๆ ในยุโรป ว่าเรานิยมนาซี  พวกนีโอนาซีจะคิดอะไรกับเราก็ไม่ทราบ เพราะโลกบริสุทธิ์ของนาซี คือโลกของคนอารยัน นะครับ

ความเห็นส่วนตัวเรื่องเครื่องแต่งกายนะครับ ผมคิดว่าในประเทศไทย คงไม่มีข้อห้ามเรื่องการแต่งกายแบบนาซีหรอกครับ ส่วนจะมีคนชอบไม่ชอบนั้น ก็ด้วยเหตุผลที่กล่าวมาครับ

ส่วนตัวผมไม่มีอคติอะไรกับเจ้าของกระทู้นะครับ ความชอบในระบอบการเมือง การปกครอง หรืออุดมการณ์ต่าง ๆ ย่อมเป็นสิทธิส่วนบุคคลอยู่แล้ว   แต่การเมืองบางครั้งเป็นเรื่องละเอียดอ่อนครับ   ก็ถือว่าเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันก็แล้วกันครับ

ขอเสริมเรื่องชาติพันธุ์ ด้วย เรื่อง " อารยัน "

ความจริงเรื่องอารยันนั้น เป็นเรื่องที่ฮิตเลอร์อุปโลก มาเพื่อโปรโมท เรื่องชาตินิยม และการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เพราะ ชาวเผ่าอารยันแท้จริงแล้วคือชนชาวเปอร์เซียหรือ ปัจจุบันคือ อิหร่าน (IRAN = Aryan) พวกนี้พูดภาษาตระกูลอินโด-ยุโรเปียน ต่อมาคนกลุ่มนี้ก็ย้ายถิ่นเข้ามาตั้งถิ่นฐานในทางภาคเหนือของอินเดีย ดังนั้น อินเดียก็เป็นแขนงหนึ่งของเผ่าอารยันไปด้วย ส่วนอีกสายเชื่อว่าได้เข้าไปในยุโรปตะวันออกและยุโรปใต้ ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นก็คงจะเป็นตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ อาจจะเป็นตั้งแต่ยุคหินเก่า

แต่อย่างไรก็ตามกระบวนการการถ่ายทอดทางภาษานั้น กลับพบว่าได้แพร่กระจายไปในยุโรปใต้ คือ กรีซ และกรีซก็ได้ถ่ายทอดวัฒนธรรมทางภาษาให้แก่ประเทศอื่นๆ ในยุโรป ดังนั้น คำต่างๆ ของภาษาในยุโรป จึงมีความคล้ายคลึงกับคำของอิหร่านและอินเดีย ดังนั้น นักวิชาการจึงจัดภาษาเหล่านี้เป็น ตระกูลอินโด-ยุโรเปียน

สองพันปีก่อนศักราช เมื่อชาติอีแลมได้พัฒนาอารยธรรม
ไปควบคู่กับบาบิลอน ผู้รุกรานชาวอินโดยูโรปให้สมัญญา
นามแก่ที่ราบอิหร่าน อันกว้างใหญ่ไพศาล คำว่า "อิหร่าน"
มาจากคำว่า"Ayryana Vaejo" อันหมายถึงต้นกำเนิดแห่ง
ชาวอารยัน ผู้คนเหล่านี้เป็นกึ่งชนเร่ร่อนที่มีบรรพบุรุษเป็นชาวมีด
(Medes)และชาวเปอร์เซีย ชาวมีดสร้างอิหร่านขึ้นครั้งแรก
เมื่อปีที่เจ็ดก่อนคริสตศักราช ซึ่งต่อมาถูกไซรัสมหาราทำ
ลายล้างลง ก่อนจะสถาปนาเป็นอาณาจักรเปอร์เซีย อัน
ยิ่งใหญ่แห่งหนึ่งของโลกยุคโบราณ
หมายความว่าชาวอารยันอาจอพยพโยกย้ายไปแถวยุโรปด้วย นอกเหนือจากที่เข้าไปเป็นผู้รุกรานชนเผ่าดั้งเดิมของอินเดีย ก็คือต้นตระกูลของแขกขาวนั่นล่ะ ก่อให้เกิดมหากาพย์รามยาณะระหว่างผู้รุกราน(อารยัน)กับชนพื้นเมือง(ดราวิเดียน) ส่วนที่เยอรมัน น่าจะเป็นยุคการสร้างลัทธินาซี ที่ยึดเอาว่าสายเลือดที่บริสุทธิ์ของเยอรมันต้องสืบเชื้อสายมาจากชาวอารยัน ซึ่งเป็นที่รู้จักกันทั่วไปว่าเป็นเผ่าพันธุ์ที่เข้มแข็ง และมีอารยธรรมเหนือกว่าผู้อื่น ส่วนคำถามที่ว่า ชาวอารยันดูถูกชาวเอเชียหรือเกลียดชังผิวสี ก็น่าจะเป็นกับมนุษย์ทุกผู้นามที่ยังมีการแบ่งเขาแบ่งเราอยู่นะครับ มีทุกที่ ต้องจับมาเรียนมานุษยวิทยาให้เข็ดจะได้รู้ว่าโลกของเรามันหลากหลายเผ่าพันธุ์ ต่างวัฒนธรรมกันทั้งนั้น


คราวนี้ ฮิตเลอร์ ต้องการสร้างภาพ เลยต้องหาโปรโมชั่น ก็มาพบว่าคงต้องขายเรื่องชาตินิยม เลยหาคำเท่ๆ ตั้งว่า คนเยอรมันเป็นเผ่าอารยันที่บริสุทธิ์ (ทั้งๆ รูปกายภายนอกไม่ได้เหมือนกันกับชาวอิหร่านเลย คือ มีความสัมพันธ์กันทางภาษาเท่านั้น ส่วนเรื่องยีนก็เป็นเรื่องที่ผ่านวิวัฒนาการมาเป็นหมื่นๆ หรือ อาจถึงแสนๆ ปี)

ฮิตเลอร์ก็เลยมีนโยบายฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ โดยเฉพาะชาวยิว (อันที่จริงฆ่าหมด ถ้ามีโอกาส) ยังมีพวก อารยัน อีกพวกคือ ยีปซี หรือ โรมนี พวกนี้ มาจากอินเดียจริง แล้วก็เป็นอารยันด้วย ก็ยังถูกฆ่าเหมือนกัน

ดังนั้น ทั้งหมดนี้ ฮิตเลอร์ อุปโลกขึ้นเองทั้งสิ้น เพื่อสร้างความเป็นชาตินิยมแบบผิดๆ ให้กับชาวเยอรมันในยุคนั้น

สายพันธุ์อารยันกับนาซี

โดย วีรกร ตรีเศศ (Varakorn@dpu.ac.th)

ตีพิมพ์ ในมติชนรายสัปดาห์ วันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2549 ปีที่ 27 ฉบับที่ 1370

 คนเยอรมันหลายคนในวัย 60 กว่าปีเพิ่งทราบเมื่อไม่นานมานี้ว่าพ่อที่แท้จริงของตนนั้นมิได้ตายเพราะสู้ รบอย่างกล้าหาญในสงครามดังที่แม่เล่าให้ฟัง หากเป็นทหารในหน่วยที่มีชื่อว่า Waffen SS ซึ่งเป็นทหารพิเศษของฮิตเลอร์ที่คัดสรรมาว่าเป็นสายเลือดอารยัน คนเยอรมันเหล่านี้ เป็นเด็กจากโครงการ Lebensborn ซึ่งตั้งขึ้นมาเพื่อสนับสนุนการขยายเชื้อชาติอารยันตามที่ฮิตเลอร์ และกลุ่มนาซีเชื่อว่าเป็นสายเลือดบริสุทธิ์ของคนเยอรมันที่เหนือกว่ามนุษย์ทุกเผ่าพันธุ์ในโลก

Lebensborn หรือ Spring of Life (น้ำพุแห่งชีวิต) หมายถึงโครงการที่สร้างคลีนิคขึ้นทั่วเยอรมนีและประเทศเพื่อนบ้าน เช่น โปแลนด์ นอร์เวย์ ฯลฯ เพื่อให้หญิงมีครรภ์ (ส่วนใหญ่ยังเป็นโสด) ไปคลอดลูกอย่างเป็นความลับ แม่จะได้รับการดูแลเป็นอย่างดีโดยแพทย์และพยาบาลที่จ้างมาโดยหน่วยทหาร SS

หญิงมีครรภ์ที่จะได้รับบริการจากคลีนิคจะต้องมีลักษณะทางชาติพันธุ์ที่เหมาะ สม (ผมสีบลอนด์ ตาสีฟ้า) นอกจากนี้ ยังต้องจงรักภักดีต่อระบอบนาซี และต้องพิสูจน์ว่าไม่มีความบกพร่องทางพันธุกรรมอีกด้วย

หญิงมีครรภ์หลายคนโดยแท้จริงแล้วเป็นภรรยาของนายทหาร SS เพื่อมารับบริการ และอีกหลายคนเมื่อคลอดแล้วก็มีสัมพันธ์กับนายทหาร SS จนท้อง (Heinrich Himmler หัวหน้า SS สนับสนุนให้ลูกน้องมีลูกกับหญิงนอกสมรสมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ เพื่อขยายชาติพันธุ์ที่ดีของเยอรมัน ซึ่งเชื่อว่าเป็นสุดยอดของมนุษย์ชาติ)

เด็กประมาณ 6,000-8,000 คน เกิดในคลีนิคเหล่านี้ในเยอรมนีระหว่าง 1936-1945 และเนื่องจากโครงการนี้เป็นเรื่องลี้ลับ บ่อยครั้งไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อแน่นอน เด็กเหล่านี้จึงไม่รู้ความจริงและไม่มีการบันทึกรายละเอียดของการเกิดลงในสูติบัตรด้วย

ใน 20 ปีที่ผ่านมา ความลี้ลับถูกเปิดเผยมากขึ้น และพบผลพวงของความเลวร้ายยิ่งขึ้น ฮิตเลอร์เป็นผู้ก่อสงครามขึ้นโดยมุ่งหวังที่จะให้เยอรมนีครอบงำโลก โดยตั้งใจใช้โครงการ Lebensborn เป็นเครื่องมือขยายเผ่าพันธุ์อารยัน

นักประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่สองพบว่าหญิงที่ท้องขึ้นมาอย่างไม่ตั้งใจ ไม่สามารถทำแท้งได้เพราะผิดกฎหมาย บ้างก็ยกลูกให้ทหาร SS เป็นลูกบุญธรรม บ้างก็เลี้ยงลูกเองหลังสงครามด้วยความทนทุกข์ทรมานใจเพราะต้องหลอกลวงลูก ต้องลวงผู้คนเพราะหากรู้ว่าเป็นลูกทหาร SS ก็จะถูกเกลียดชัง

สำหรับเด็กที่เกิดในคลีนิค Lebensborn ในประเทศที่เยอรมนียึดครองอันเนื่องมาจากความสัมพันธ์กับทหาร SS ยิ่งประสบความลำบากมากยิ่งขึ้นเพราะรัฐบาลเยอรมนีถือว่าเป็นลูกศัตรู เมื่อเติบโตหลังสงครามก็กลายเป็นพลเมืองของชาตินั้นไปโดยทั้งแม่และลูกถูกตร าหน้าว่าเป็นพวกนาซี
เชื้อสายอารยันมีความสำคัญเพียงใดจนต้องมีการตั้งโครงการ Lebensborn ขึ้น? "เชื้อสายอารยัน" เป็นคอนเซ็ปต์ในวัฒนธรรมยุโรปที่ "มาแรง" ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 และต้นศตวรรษที่ 20 (1890 กว่าๆ และ 1910 กว่าๆ) บ้างเชื่อว่าเชื้อพันธุ์นี้มีกำเนิดจากทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของรัสเซียปัจจ ุบัน บ้างเชื่อว่าเป็นต้นกำเนิดของคนเยอรมันและสแกนดิเนเวียแต่โบราณ และท้องถิ่นเหล่านี้เท่านั้นที่ยังคงสามารถรักษาความบริสุทธิ์ของเชื้อพันธุ ์ไว้ได้

ในโลกตะวันตกในยุคต้นศตวรรษที่ 19 บ้างเชื่อว่าชาติพันธุ์อารยันเหนือกว่าทุกชาติพันธุ์ ฉลาดกว่า และเก่งกว่า อย่างสมควรที่จะเก็บไว้เป็นต้นแบบของมนุษยชาติเพื่อเผยแพร่พันธุ์ต่อไป

อย่างไรก็ดี มีนักประวัติศาสตร์ที่น่าเชื่อถือได้ระบุว่ามีการกล่าวถึงชาติพันธุ์อารยันในจารึก Persians (เปอร์เซียคือชื่อโบราณของอิหร่าน) ตั้งแต่ก่อนคริสตกาล 500 ปี คำว่า "Aryan" ในตอนแรกโยงใยกับวัฒนธรรม Indo-Iranian (อินเดีย-อิหร่าน) และต่อมาในศตวรรษที่ 19 กลายมาผูกพันกับวัฒนธรรม Indo-European (อินเดีย-ยุโรป)

นักประวัติศาสตร์อีกกลุ่มหนึ่งเชื่อว่าไอเดียเรื่องชาติพันธุ์อารยันเกิดขึ้ นเมื่อนักภาษาศาสตร์ค้นพบว่า Avestan ซึ่งเป็นภาษาโบราณของเปอร์เซียและภาษาสันสกฤตของอินเดียตอนเหนือ เป็นสองภาษาที่เก่าแก่ที่สุดในโลก จึงตั้งชื่อกลุ่มคนโบราณที่ประดิษฐ์ภาษาเหล่านี้ขึ้นว่า Aryans ซึ่งมีรากศัพท์มาจากภาษาสันสกฤตและ Avestan ว่า "Arya" ซึ่งหมายถึงมนุษย์ที่มีความสูงส่ง มีอิสระ มีฝืมือ

Arya ก็คือ "อารยะ" ในภาษาไทยซึ่งมีความหมายอย่างเดียวกัน สองคำคือ "อารยะ" และ "อารยัน" จึงโยงใยกันอย่างใกล้ชิด ("อารยะขัดขืน" ฟังดูยิ่งน่ารักขึ้นอีก") ซึ่งหมายถึงความสูงส่ง ความศิวิไลซ์ ความมีเกียรติและคุณธรรม

อย่างไรก็ดี ในยุโรปในต้นศตวรรษที่ 20 "อารยัน" ถูกบิดเบือนไปจนหมายถึง White European" (คนยุโรปผิวขาว ยกเว้นยิวและอาหรับ โดยอ้างว่าเพราะภาษาดั้งเดิมไม่ได้อยู่ในตระกูล Indo-European)

ต่อมาถูกบิดเบือนยิ่งขึ้นภายใต้ระบอบนาซี ว่า "อารยัน" คือ ชนชาติพิเศษซึ่งเป็นต้นตระกูลของคนเยอรมันจนต้องคัดสรรสายพันธุ์บริสุทธิ ์แห่งความยิ่งใหญ่เอาไว้ เพราะจะยิ่งทำให้เยอรมันนีสามารถครองโลกไว้ได้นานเท่านาน

ไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนเชื่อเช่นนี้ได้ แต่ความจริงก็คือในยุคล่าอาณานิคมของสมัยนั้น ความเชื่อในเรื่องความเหนือกว่าของคนผิวขาวเป็นเรื่องธรรมดา ไอเดียในเรื่อง "อารยัน" จึงเกิดขึ้นและมีส่วนนำไปสู่การฆ่าฟันชาวยิวนับล้านคนในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2

เรื่องการเมืองผมจะไม่ขอพูดถึงครับ เพราะนึกถึงคำพูดของพ่อผมที่ว่า

"เรื่องที่ไม่ควรพูดโต้เถียงกันในวงกาแฟมีอยู่สองเรื่อง คือเรื่องศาสนา และเรื่องการเมือง เพราะพูดทีไรมีคนปากแตกทุกที"

มันก็มองได้หลายมุมนะ เพราะสมัยที่นาซีอยู่ โลกเรายังไม่มีสนธิสัญญาสำคัญๆเช่นพวกสนธิสัญญาเจนีวา ที่ช่วยคุ้มครองประชาชนทั้งหลาย ทำให้ยุคนั้น กับยุคนี้ มันต่างกัน

คือถ้าสมมุติว่าชาวยิวและพวกคนบริสุทธิ์ที่ถูกนาซีสังหารทั้งหมดเป็นเหมือน"ค่าใช้จ่าย"สำหรับสิ่งที่นาซีคิดค้นมา และสืบทอดกันมาจนปัจจุบัน ดังนี้

1.ทฤษฏีสงครามสายฟ้าแลบ หรือBlitzkrieg เพราะถ้าไม่มีนายพลไฮน์ กูเดเรียนของนาซี ปัจจุบันการรบเราก็ยังคงใช้การขุดสนามเพลาะเช่นเดิมล่ะมั่ง คงไม่มีการใช้M1A1เป็นหัวหอก โดยมีการสนับสนุนจากF-117และB-52ที่ระดมทิ้งระเบิดใส่

2.เครื่องบินเจ็ต แน่นอนว่านาซีผลิตเครื่องบินเจ็ตใช้ในสงครามเป็นชาติแรกของโลก แต่หลังจากที่ถูกรุมบอมบ์ บวกกับแผนการผลิตนั้นรู้อยู่แค่คนใน ทำให้การผลิตไม่มีประสิทธิ์ภาพเท่าที่ควร แน่นอนว่าถ้าไม่มีนาซี ป่านนี้เราคงไม่มีโบอิ้ง747นั่งกัน อาจมีแค่ดาโกต้าด้วยซ้ำไปมั่งครับ

3.จรวดนำวิถี V1และV2 ผมคิดว่าถ้าไม่มีนาซี โทมาฮอคและขีปนาวุธระดับICBMทั้งหลายก็คงไม่ได้เกิดเช่นกัน เพราะแบบแปลนนั้นมาจากV1และV2

4.รูปแบบการพัฒนาปืนกลมือที่เป็นเอกลักษณ์ ทั้งSTG-44และMG-42ที่เป็นต้นแบบของสุดยอดปืนกลมือAk-47และM-60 แน่นอนว่าถ้าไม่มีนาซี ป่านนี้เราก็ยังคงใช้M1Garade ,K-98 หรือแม้แต่ปืนลี เอนฟิลด์ซึ่งเป็นระบบลูกเลื่อนที่โบราณกาลอยู่เลยมั่ง

สำหรับผม ชาวยิวและผู้บริสุทธิ์ที่ตายไป ผมว่ามันก็พอๆกับเทคโนโลยีที่นาซีคิดค้นขึ้นมา คิดซะว่าชาวยิวพวกนั้นคือผู้เสียสละก็โอเคครับ

สำหรับผมที่ชอบ ผมชอบความเด็ดขาดและมีวินัยของหน่วยSSครับ คือสั่งยังไงต้องทำอย่างงั้น ไม่มีบิดพริ้ว

แต่ความเด็ดขาดก็ต้องส่วนความเด็ดขาดนะครับ ต้องไม่ปนกับความโหดเหี้ยม

เรื่องมันยาวครับ มันมีอยู่ว่าสมัยก่อนผมเคยแอบชอบผู้หญิงคนนึง แล้วเค้าไม่เล่นด้วย คือเค้าไม่ชอบผม แถมบางทียังทำท่าเป็นศัตรูกับผม

เอาว่ะ!!!ไม่ชอบก็ไม่ชอบ งั้นเป็นศัตรูกันไปเลย!!!

เพื่อนๆมันก็ท้า ผมเลยประกาศกร้าวว่า"เอาดิว่ะ!!! เอาศักดิ์ศรีไอ้นาซีคนนี้เป็นเดิมพันเลย"

จนปัจจุบัน เธอและผมก็ยังมองหน้ากันไม่ติด นี้ล่ะครับลูกผู้ชายพูดคำไหนก็คำนั้น เด็ดขาด ในเมื่อพูดแล้วก็ต้องทำจริง ไม่มีการบิดพลิ้ว ไม่ว่าคนนั้นมันจะเคยเป็นถึงอดีตคนที่เคยชอบก็ตาม  

ขอแย้งบางข้อครับ

2.เครื่องบินเจ็ต แน่นอนว่านาซีผลิตเครื่องบินเจ็ตใช้ในสงครามเป็นชาติแรกของโลก แต่หลังจากที่ถูกรุมบอมบ์ บวกกับแผนการผลิตนั้นรู้อยู่แค่คนใน ทำให้การผลิตไม่มีประสิทธิ์ภาพเท่าที่ควร แน่นอนว่าถ้าไม่มีนาซี ป่านนี้เราคงไม่มีโบอิ้ง747นั่งกัน อาจมีแค่ดาโกต้าด้วยซ้ำไปมั่งครับ----------------> ถ้าโหลด VDO ของผมตอน ME-262 Race for jets นั้น จะเข้าใจครับ ว่าเยอรมันไม่ได้เป็นชาติเดียวที่คิด้นเครื่องเจ๊ตครับ แต่แผนแบบปีกลู่หลังนั้นต้องยอมรับว่า มีอิทธิพลจาก ME-262 พอควรเลยครับ

4.รูปแบบการพัฒนาปืนกลมือที่เป็นเอกลักษณ์ ทั้งSTG-44และMG-42ที่เป็นต้นแบบของสุดยอดปืนกลมือAk-47และM-60 แน่นอนว่าถ้าไม่มีนาซี ป่านนี้เราก็ยังคงใช้M1Garade ,K-98 หรือแม้แต่ปืนลี เอนฟิลด์ซึ่งเป็นระบบลูกเลื่อนที่โบราณกาลอยู่เลยมั่ง----------------->เรื่องปืนนั้น ถ้ามองแบบนั้นลำเอียงไปนิดครับ ถึงไม่มีนาซี สักวันมนุษย์ก็ต้องคิดค้นอาวุธ มาฆ่าแกงกัน  ได้อยู่ดี

สรุป ไม่มีนาซีโลกนี้ก็ไม่ได้พัฒนาช้าลงครับ

ตอนนี้ผมอยู่ที่เยอรมันนะครับ ขอยืนยันตามที่"ลุงหมี"ว่ามาแหละครับ

ปัจจุบันนี้ที่เยอรมันมีกฏหมายห้ามวาด หรือโชว์สัญญลักษณ์ของนาซี แม้แต่บนกล่องโมเดลยังต้องลบทิ้ง คนเยอรมันส่วนใหญ่ (ประมาณ 95%) ซึ่งไม่ได้เป็นพวก นีโอนาซิส ก็ไม่ชอบนาซีกันเนื่องจากประวัติศาสตร์ความเหี้ยมโหดที่นาซีทำกับมนุษย์ด้วยกัน โดยเฉพาะชาวยิว ในช่วงส่งคราวโลกครั้งที่สองทั้งหมด มีคนตายไปจากสงครามหกล้านกว่าคน ในหกล้านกว่าคนนี้ เป็นชาวยิวที่เป็นผู้บริสุทธิ์ ผู้หญิงและเด็ก ไปกว่าล้านกว่าคน ทั้งถูกฆ่าในสถานกักกัน รมแก๊ส ฆาตกรรม ฯลฯ ยังไม่นับรวมชาวโปแลนด์ และชนกลุ่มน้อยอื่นๆนอกจากชาวยิวด้วย

ถ้าผู้เสียชีวิตล้านกว่าคนที่ไม่ได้เป็นทหารเหล่านี้ต้องกลายเป็น"ผู้เสียสละ"เพื่อให้มนุษย์ได้มีอาวุธสงครามใหม่ๆขึ้นมาอย่างที่ จขกท ว่า ผมว่ามันก็เป็นอะไรที่โหดร้าย อำมหิต เกินไปครับ ชีวิตเพื่อนร่วมโลกเป็นล้านๆ แลกมากับอาวุธสงคราม ??? ผมว่าต่อให้ได้ยารักษามะเร็ง หรือได้วิธีแก้ภาวะโลกร้อนทุกวันนี้ขึ้นมา เรายังต้องคิดกันหนักเลยนะครับกับชีวิตคนมากมายขนาดนี้ และเขาเหล่านั้นคงไม่ได้ต้องการมาเป็น"ผู้เสียสละ"แบบนี้สักเท่าไหร่หรอกครับ

สรุปสั้นๆ ตอบคำถาม จขกท นะครับ ใส่ชุดนาซี เครื่องหมายนาซี ผิดกฏหมายในเยอรมัน (และโปแลนด์ด้วย ถ้าจำไม่ผิด) และถึงแม้ว่าจะไม่ผิดกฏหมายในประเทศอื่นๆ แต่จะเสี่ยงต่อการถูกคนในประเทศอื่นๆมองด้วยสายตารังเกียจครับ โดยเฉพาะกับประเทศที่เยอรมันเคยไปรุกรานไว้อย่างฝรั่งเศษ อังกฤษ โปแลนด์ หรือออสเตรีย ถ้าอยากเที่ยว อยากอยู่อย่างสบายใจ ผมแนะนำว่า อย่าดีกว่าครับ 

ยิว ไม่ใช้ผู้บริสุทครับ ยิวเป็นพวกที่แย่งสิ่งต่างๆ จากคนเยอรมันไป ทั้งตำแหน่งนักการเมือง พ่อค้าที่ฉลาดแกมโก้งสุดๆ นักธุระกิจที่แสวงหากำไร จนทำให้คนเยอรมันเจ้าของประเทศแท้ๆ ต้องกลับไปนั้งเป็นขอทาน มัน น่า มั้ยละคราบ

ยิว ไม่ใช้ผู้บริสุทครับ ยิวเป็นพวกที่แย่งสิ่งต่างๆ จากคนเยอรมันไป ทั้งตำแหน่งนักการเมือง พ่อค้าที่ฉลาดแกมโก้งสุดๆ นักธุระกิจที่แสวงหากำไร จนทำให้คนเยอรมันเจ้าของประเทศแท้ๆ ต้องกลับไปนั้งเป็นขอทาน มัน น่า มั้ยละคราบ---------------->

คือคุณน้องครับ ถ้าคุณน้องมองยิวว่าขี้โกง ไม่ผิดดอกครับ แต่ความผิดแค่นี้ถึงกับต้องสังหารกันเป็นล้านๆ ผมว่า มันไม่สมควรครับ   ทุกคนคือมนุษย์ครับ ถ้าน้องเข้าใจคำว่ามนุษย์ดีพอ คงไม่พูดออกมาเช่นนี้

ลองนึกภาพ เด็กสัก2-3ขวบ ถูกฆ่าอย่างโหดร้ายสิครับ เค้ารู้เรื่องด้วยเหรอ  นี่หรือ ผู้ไม่บริสุทธิ์อย่างที่น้องว่า

เอาเถอะครับ  คนแบบน้องไม่ได้มีคนเดียวในโลก แต่หวังว่าอนาคต น้องคงมีความคิดรอบด้านมากกว่านี้ครับ คนเราพัฒนากันได้ พี่เชื่อครับ

ผมก็ ไม่ได้บ้าอยากฆ่ายิวแบบฮิตเลอร์อะนะ

ยอมรับว่าถ้าไม่มียิวแล้ว เราจะล้าหลังอีกหลายสิบปี(อันนี้จริงแท้แน่นอน)

คือผมไม่กลัวครับ นี้ประเทศผม กฏหมายก็ไม่มี ดังนั้นถ้ามันจะเหยียดก็เหยียดได้แค่สายตา ถ้าจะเหยียดมากกว่านั้นคือถ่มน้ำลายใส่ แจกนิ้วกลาง หรืออะไรก็แล้วแต่ที่ละเมิดสิทธิ์ผม ผมกด191ลากคอมันขึ้นโรงพักแน่ครับ คุณมีสิทธิ์อะไรมาละเมิดสิทธิ์ในบ้านเมืองคนอื่นเขา ไม่เจอตีนคนไทยถีบส่งก่อนกลับบ้านก็บุญขนาดไหนแล้ว 

ถ้ากับฝรั่งต้องเจอนี้ครับ(ขอบอกว่าgrammarผมค่อนข้างห่วยนะครับ)

(แต่ยิวบางคนมันก็น่าไปลงนรกนะ อย่างจอร์จ เซอร์รอส คนที่ถล่มค่าเงินบาทไทย แล้วก็มาเมืองไทย มาดูว่าผลงานที่ตัวเองถล่มไปนั้นเป็นยังไง มันน่าไหมล่ะ)

ตายล่ะหว่า ลืมลบตรงเรื่องแกรมม่าออก ขออภัยครับท่าน

ขอถามอีกเรื่อง นาซีพังค์(Punk) คืออะไรครับ

"......คือผมไม่กลัวครับ นี้ประเทศผม กฏหมายก็ไม่มี ดังนั้นถ้ามันจะเหยียดก็เหยียดได้แค่สายตา ถ้าจะเหยียดมากกว่านั้นคือถ่มน้ำลายใส่ แจกนิ้วกลาง หรืออะไรก็แล้วแต่ที่ละเมิดสิทธิ์ผม ผมกด191ลากคอมันขึ้นโรงพักแน่ครับ คุณมีสิทธิ์อะไรมาละเมิดสิทธิ์ในบ้านเมืองคนอื่นเขา ไม่เจอตีนคนไทยถีบส่งก่อนกลับบ้านก็บุญขนาดไหนแล้ว ......"

นี่คือคำของเจ้าของกระทู้นะครับ มีช่วงนึงบอกว่า "....นี้ประเทศผม กฏหมายก็ไม่มี ดังนั้นถ้ามันจะเหยียดก็เหยียดได้แค่สายตา...." คุณก็ยังรู้นี่ครับว่านี่ยังเป็นประเทศของคุณ ดังนั้นถ้าสมมติว่าฝรั่งมันชูนิ้วกลางใส่คุณจริงๆ แล้วคุณเอามันเข้าคุก คุณไม่คิดบ้างหรอครับ ว่าถ้าทางสถานฑูตของประเทศเค้ารู้เรื่องเข้าว่าทำไมคนของเค้าถึงเข้าคุก แล้วเกิดรู้ว่าเพราะไปด่าคนไทยคนนึงที่นิยมชมชอบนาซี เมืองไทยจะไม่ถูกมองอย่างผิดๆหรอครับ

อย่างน้อยคุณก็ยังรู้ว่านี่เป็นประเทศของคุณ ถึงแม้ไม่มีกฏหมายในเรื่องนี้ มันก็ไม่สมควรทำอยู่ดีครับ

ปล.ตามที่เจ้าของกระทู้บอก ความรักชาติแบบนาซีอย่าหวังเอามาใช้กับเมืองไทย นาซีชื่นชมฮิตเลอร์ ขนาดสวัสดีกันยัง ไฮ ฮิตเลอร์ แต่เมืองไทยเรามีสิ่งรวมใจที่สูงกว่านั้น เป็นบุคคลอันสูงสุดที่เราเคารพบูชา คนนั้นคือองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไงครับ อย่ารักชาติแบบนาซีเลยครับ รักในหลวงของพวกเรากันดีกว่า(ขอพระองค์ทรงพระเจริญ)

ตัดเสื้อใส่เลยครับ ดูอย่างผม ยังใส่หมวกของทปท. ได้มาจากไปเที่ยวงานงานรำลึกฐานที่มั่นคอมมิวนิสต์         ภูพยัคฆ์ บนดอยเมืองน่าน(ผมคนน่าน) แต่เสื้อตัดเอง เพราะเสื้อเขาจะให้สำหรับคนที่เคยเป็นทปท.เก่าเท่านั้น

งานจัดทุกวันที่10ของเดือนธันวาคม

ตัดแล้วใส่ถ่ายรูปมาโพสให้ดูบางนะ

ลืมบอก พระราชบัญญัติปรามปราบการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์ ถูกยกเลิกไปในปี2543 จึงสามารถใส่หมวกเสื้อของทปท.ได้อย่างไม่ผิดกฏหมายตำรวจไม่จับแต่ถูกจับตาจากคนที่มอง  ผมใส่ในน่านไปเรื่องปกติธรรมดา  แต่ใส่ในพื้นที่อื่นถูกจับตามองจากคนรอบด้าน

ผมว่าถ้าคุณชอบ  อยากใส่ชุด ก็ตัดใส่เลยอย่าไปแคร์คนอื่น ทำในสื่งที่ชอบถึงคนอื่นจะบอกว่าบ้าก็เถอะ (ใส่ในน่านไม่มีใครว่าบ้า แต่ใส่ในพื้นที่อื่นเขาบอกว่าบ้า)

เขาถามเรื่องชุด  แต่ดันไปเถียงเรื่องปวดหัว            นี้หรือโลกมนุษย์

เหรียญตรา ผมอาจสั่งพวกร้านทำสร้อยครับ คืออาจสั่งทำพิเศษ คาดว่าทั้งเซ็ต คือทั้งตัวเสื้อสองตัว และตัวเหรียญสวัสดิกะ ก็น่าจะปาไปเกินหมื่นครับ(ถ้าสั่งตัดดีๆ ก็น่าจะประมาณนี้อะครับ)

บางคนมันก็อย่างงี้ล่ะครับ มันแทบจะเป็นสูตรเสียด้วยซ้ำไปมั่งครับ

อยากดิสเครดิสใคร ก็ถามเค้าก่อน หลังจากนั้นพยายามหาเรื่อง สาดโคลนใส่เขา เมื่อเขาโต้ไม่ได้ก็ยิ่งโจมตีหนักเข้าไป นั้นทำให้เสียหน้า หน้าแตกหมอไม่รับเย็บได้นะครับ

แต่!!!แผนทั้งหมดไม่สามารถใช้ได้กับคนไร้ความรู้สึกชนิดทนทาน อย่างผม จะด่าจะว่าอะไรก็เชิญ ถ้าเถียงไม่ได้ผมก็ยอม  ขออย่างเดียวอย่าด่าพ่อล่อแม่ อย่ามาบอกว่าพ่อแม่ไม่สั่งสอน คุณเถียงกับผมแล้วจะลามไปถึงพ่อแม่ทำไม ยิ่งถ้าลามถึงตระกูลผม รับรองครับว่างานนี้ได้มีคนปากแตกแน่ๆ

ป.ล. คุณcommunist ผมว่าไปเข้ากับพวกท่านเหมา น่าจะรุ่งกว่านะ แถวนั้นเขาไม่ประชาธิปไตยจ๋าแบบบ้านเรา

เรื่องใส่ชุด ผมไม่มีสิทธิไปว่าอะไรพวกคุณดอกค้าบ แต่พอดี มีบางประเด็นที่ดูยกย่องนาซีเกินเหตุ ก็เลยต้องขอถก และ เถียง

คุณcommunist ครับ ถ้าผมจะใส่ชุดโดเรมอนนี่ จะมีคนหาว่าบ้าไหมครับ ? บางที เราต้องดูกาลเทศะครับ 

รักชอบอะไรไม่ว่า แต่บางที ต้องควรดูกาลเทศะ ครับ

แหม่ วันนี้ มีงานบุญ ขอตัวไปชมถ่ายทอดสดก่อนครับ

ปล..พี่Nok คุณน้อด ออกทีวีด้วย  555

ผมว่าเป็นกลอุบายของฮิตเลอร์ครับที่เลือกนโยบาย เนชั่นแนลลิทซึ่ม เหยียดผิว คลั่งชาติ ขึ้นมาเพื่อเป็นทางเลือกของชาวเยอรมันในตอนนั้นซึ่งเราก็ต้องดูด้วยนาครับว่าช่วงนั้นเยอรมันเป็นชาติแพ้สงครามมาหมาดๆ ชาติเพื่อนบ้านมีแต่คนดูถูก เยอรมันว่าเป็นชาติไอ้ขี้แพ้ ดังนั้นก็คงไม่ต้องแปลกใจนาครับว่าทำไมพรรคนาซีจึงสามารถชนะเลือกตั้งอย่างถล่มทลายและสามารถครองใจชาวเยอรมันได้ทั่วประเทศ แถมไม่มีใครยอมเลื่อยขาเก้าอี้ให้ฮิตเลอร์ตกกระป๋องด้วย (ไม่เห็นเหมือนประเทศด้อยพัฒนาบางชาติเลยนาครับ อยู่ได้แค่5ปี พอใช้หนี้ ไอเอ็มเอฟ เสร็จก็ถีบหัว ตกกระป๋องซะเลย)

ลัทธินาซีคงดีเฉพาะในประเทศเยอรมันช่วงนั้น ใครแต่งเครื่องแบบนาซี หรือทหาร เอสเอส คงเท่น่าดูครับ แต่ถ้ามีคนใส่เดินถนนในปัจจุบันนี้คงไม่เหมาะครับ ที่ว่า เพราะพรรคนาซีทำชื่อเสียซะเยอะจนคนยุโรปเกลียดกันไปหมด คงเหมือน คนแต่งชุดทหารญี่ปุ่น ไปเดินในเอเซีย แถบจีน หรือเกาหลีมั๊งครับ ถ้าโชคร้ายอาจโดนเจ้าถิ่นไล่ทุบจนหนีกลับโรงแรมแทบไม่ทันแน่ๆ

ในเมืองไทยผมว่าคงไม่มีใครหมั่นไส้คุณหรอกครับถ้าคุณจะใส่เครื่องแบบทหารเยอรมัน หน่วย เอสเอสหรือเครื่องแบบพลพรรคนาซีเพราะคนไทยจะมีสักกี่คนที่รู้ว่านี่ เป็นเครื่องแบบเยอรมัน คนไทยเรารู้จักเครื่องแบบทหารสหรัฐมากกว่าครับ ใส่ทีไรเท่ทุกที ยิ่งชุดพรางทะเลทราย สวมเรย์แบน แมคอาเธอร์ ยิ่ง มะกันสุดๆครับ ผมเองถ้าเลือกให้ใส่ชุดทหารคงเลือกใส่ชุดนี้แหละ ครับ จ๊าบ..สุดๆ

***แวะมาอ่าน ผ่านมาแลค่ะ

พวกพี่ๆ จะไปว่า คุณ alpha35818 ทำไมครับ ก็พี่เขาแค่อยากจะตัดเครื่องแบบเยอรมัน อันทรงเกรียติเท่านั้น แล้วพี่ๆ ไปเถียงเรื่องอะไรกัน แล้วก็ โตๆ กันแล้วเรื่องเครื่องแต่งกายอะ พิจารณาเอาก็แล้วกัน คงไม่มีแต่งชุดซุปเปอร์แมนไปสนามรบหลอกครับ

ผมชอบกองทัพเยอรมันมาก เพราะเป็นกองทัพที่แข่งแกร่งที่สุดในโลก อาวุธก็ทันสมัยมาก อาวุธใหม่ๆ เทคนิคการรบแบบใหม่ รถถังแบบใหม่ ก็เกิดจากที่นี้หมด ผมไม่ชอบที่นาซีไปฆ่าคนมากมาย มันอาจเป็นความจำเป็นก็ได้ที่ต้องทำ

คุณ alpha35818 ถ้าตัดชุดเสร็จแล้ว ใส่แล้วถ่ายรูปมาให้ดูด้วยนะครับ ผมก็อยากได้สักชุดเหมือนกัน

เอ่อ ก่อนอื่น เรื่องเครื่องแบบ SS ที่น้อง alpha35818  กระทู้แรก พอดีมีคำถามที่ว่า

" แต่ผมอยากทราบว่า สำหรับชาวยุโรป หรือพวกขาวต่างชาติแล้ว เค้าจะคิดอะไรกับผมหรือเปล่า??  ต่อต้าน ดูถูก อย่างงั้นหรือเปล่า

แล้วพี่ๆคิดว่าเหมาะไหม ที่จะใส่เสื้อนาซี ไปเดินเที่ยว เพราะผมกลัวพวกฝรั่งมันจะละเมิดสิทธิ์โดยการแจกนิ้วกลางให้ผม ซึ่งถ้ามันแจกจริงๆล่ะก็ ได้ถึงโรงพักแน่ๆ "

ก็เลยได้มีการตอบเท้าความถึงประเด็นเรื่องที่ว่า เพราะเหตุใดจึงมีคนต่อต้านนาซี อย่างที่ว่ามาครับ ( เรื่องความคิดเหยียดชาติพันธุ์ที่ว่า ) และก็หยิบยกประวัติศาสตร์ ขึ้นมาประกอบการพิจารณาด้วย

ก็ถ้าเป็นความชอบส่วนบุคคลของท่าน alpha35818 เองก็คงต้องพิจารณาด้วยเหตุและผลที่ท่านมีเองแหละครับ มิฉะนั้นเราเองก็จะต้องมานั่งตีความว่า รถถังแพนเซอร์ หรือฟิกเกอร์ SS ที่หลาย ๆ คนนั่งต่อกันนี่ มันมีความผิดอะไรหรือเปล่า ถ้ามีความชื่นชอบในเครื่องแบบเป็นการส่วนตัว ก็สามารถแต่งได้ตามสบายครับ แม้แต่ตัวผมเองก็ถ้าน้องหรือคนอื่น ๆ แต่งให้เห็น ก็ไม่มีปัญหาติดใจอะไรอยู่แล้ว ในประเทศไทยไม่มีกฎหมายตรงนี้หรอกครับ  ส่วนคนอื่นหรือชาวต่างชาติบางคน จะมองอย่างไรนั้น ก็อย่างที่บอกครับ ต้องพิจารณาเอง  คนเราต่างก็มีเหตุและผลในตัวของตัวเองอยู่แล้ว  ผมเชื่อว่าหลาย ๆ คนในที่นี้ก็พยายามอธิบายกันด้วยเหตุและผลกัน นะครับ

เอ่อ ไม่ทราบว่า ท่าน alpha35818 และท่าน communist ได้เคยอ่านนวนิยาย เรื่อง " ปีกแดง " ของวินทร์ เลียววาริณ หรือเปล่าครับ อันนี้ไม่เกี่ยวกับประเด็นนี้นะครับ นอกประเด็นครับ

"ยิว ไม่ใช้ผู้บริสุทครับ ยิวเป็นพวกที่แย่งสิ่งต่างๆ จากคนเยอรมันไป ทั้งตำแหน่งนักการเมือง พ่อค้าที่ฉลาดแกมโก้งสุดๆ นักธุระกิจที่แสวงหากำไร จนทำให้คนเยอรมันเจ้าของประเทศแท้ๆ ต้องกลับไปนั้งเป็นขอทาน มัน น่า มั้ยละคราบ"

อ่านแล้วสมเพศ....

จะชอบจะบ้าอะไรก็น่าจะมีขอบเขตหรือคิดบ้างนะ...

ถ้าเยอรมันไม่แพ้ WWI บ้านเมืองจะเป็นแบบนั้นรึ

ชอบศึกษากับบ้ามันต่างกันนะ  ถ้าชอบขนาดนาซีขี้หอมหรือฆ่าคน 6 ล้านเป็นสิ่งที่ถูกต้องพวกนั้นสมควรตายนี่ก็เกินไป

ไอ้ที่ว่าเครื่องแบบทรงเกียรติที่ใส่ไปยิงผู้หญิง ยิงเด็กไม่มีทางสู้  จับคนมาทรมานเป็นล้านๆเนี้ยนะ...ถ้ามันดีแล้วยิ่งใหญ่ทรงเกียรติอย่างนั้นจริง   มันคงไม่ผิดกฎหมายในเยอรมันหรอก

ปล..ชอบอาวุธ ชอบกองทัพเยอรมัน  แต่เรื่องนโยบายฮิตเลอร์หรือเรื่องฆ่ายิวเนี้ย  ยังไงมันก็เลวร้ายมาก

คุณPeiperตรงประเด็นดีจริงๆ

ความทรงเกียรติไม่ใช่อยู่ที่เครื่องแบบนะครับ อยู่ที่ผู้สวมใส่ต่างหากที่จะทำให้มันทรงเกียรติขึ้นมา หากคุณเห็นคนแต่งตัวมอมแมม ปอนๆ ดูแล้วน่ารังเกียจแต่ช่วยคุณยายแก่ๆข้ามถนน กับแต่งชุดอันทรงเกียรติในความคิดคุณ แล้วจับคนไปฆ่าเพื่อมุ่งหมายจะล้างเผ่าพันธุ์ อันไหนที่มันทรงเกียรติกว่ากันล่ะครับ หวังว่าผมคงเลือกถูกนะที่เลือกคนแต่งตัวปอนๆ

อืม... ถ้าอย่างงั้น ผมก็คิดว่า เครื่องแบบทหารสหรัฐกับอิสราเอลนี้ก็น่าสมเพศเหมือนกัน

ก็พี่แกเขาก็ไปใส่ยิงผู้หญิง ยิงเด็กไม่มีทางสู้ ตายไปไม่น้อยเหมือนกัน

(ความคิดส่วนตัวนะครับ)^^

ถูกต้องแล้วครับ ผู้ที่สวมใส่เท่านั้นที่ทำให้มันทรงเกียรติ ผมก็ไม่ได้ชอบทหารอเมริกัน กับพี่ยิวแกหรอกครับ ผมก็สมเพชเหมือนกัน

เครื่องแบบที่ผมชอบคือเครื่องแบบทหารไทยครับ เครื่องแบบอันทรงเกียรติที่ปกป้องชาติและราชบัลลังค์ให้รอดพ้นจากอริราชศัตรูทุกวันนี้ นั่นล่ะครับคือความทรงเกียรติอันแท้จริงครับ

ถึงพวกคุณจะว่าเป็นผมอย่างไร  ถึงผมจะรักนาซี แต่นาซีก็คือนาซีอยู่วันยันค่ำ ส่วนพวกคุณก็คือพวกโลกเสรี ยังไงความคิดก็ไม่ตรงกันอยู่ละ  แต่ถึงยังไง ตัวผมก็ไม่เคยฆ่าใคร และไม่เคยคิดทำร้ายใครด้วย ถ้าประเทศชาติต้องการให้ผวกคุณไป รบที่ปักใต้ คุณจะไปไหม ถ้ามีโอกาส ตัวผมคงต้องไปแน่นอน ผมรักประเทศที่ทำให้ผมเกิด และมันคงทำให้ผมตายได้ ผมจะยอมเสียสะระเพื่อประเทศของผม แล้วเรื่องแค่นี้ยังมาว่ากัน อย่างโน้นอย่างนี้ ยกแม่น้ำทั้ง พัน มา ประเทศเราคงไม่สงบหลอก ยังไงเราก็คนไทยควรสามัคคีกัน ส่วนเรื่องนาซี ยังไงมันชั้วๆ กันมาแล้ว แล้วจะให้ทำไงละ ส่วนตัวผมชอบ แต่ผมก็ไม่เคยฆ่าใคร คงยังเป็นพลเมืองที่ดีของชาติไทยเสมอ และรักชาติด้วย ที่ประเทศไทย ไม่ใช่ เยอรมัน 

ผมมันเบี่ยงประเด็นนะครับ  จากเรื่องเครื่องแบบมาเป็นเรื่องลัทธิ  เรื่องความรักชาติไม่มีใครเถียงครับ  ใครๆก็รักชาติทั้งนั้นครับ (แต่ถ้ารักพี่ชาติ ผมไม่เกี่ยว)  ปักษ์ใต้หรือ 3 จังหวัดภาคใต้ยังไม่เป็นภาวะสงครามครับ ไม่ถึงขั้นที่เรียกว่ารบ แต่เป็นการป้องกันและปราบปราบผู้ก่อความไม่สงบครับ ถ้ารบเจ้าหน้าที่ทหารทำอะไรได้มากกว่านี่ครับ ขนาดที่ไปถล่มค่ายพวกมัน เจ้าหน้าที่ทหารชุดนั้นยังตกเป็นผู้ต้องหาตามกฎหมายครับ   คำว่าสละชีพเพื่อชาติผมว่าทุกคนพร้อมครับ แต่อยู่ที่ว่าสละชีพแบบไหนเพื่ออะไรครับ ปกป้องประเทศหรือปราบปรามผู้ก่อการร้ายว่ากันไปครับ

ความคิดเห็นมีแตกต่างกันทุกที่ครับทั้งโลกเสรีทั้งคอมมิวนิสต์หรือนาซี  ประเด็นต่างในบอร์ดย่อมมีผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยครับ  นาซีไม่ได้ชั่วทั้งหมดครับ ว่าแบบนี้มันเหมารวมทั้งหมดครับเป็นที่บุคคลและพวกที่คลั่งลัทธิและหลงละเมอในเผ่าพันธุ์อารยันแบบไม่ลืมหูลืมตา เห็นชาติอื่นๆด้อยกว่าตนการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวหรือการทรมาณชาวยิวในรูปแบบต่างๆ ที่เป็นการกระทำที่ไม่เหมือนกันทำกับคนด้วยกัน หรือที่ญี่ปุ่นกระทำต่อชาวจีนหรือจับผู้หญิงมาบำเรอกามครับ

หลายคนๆในนี้ชอบเยอรมันสมัยสงครามโลกครับ ทั้งเรื่องการแต่งกายความมีระเบียบวินัยหรือเรื่องอาวุธ แต่บุคคลที่ในบอร์ดที่ชื่นชอบเยอรมันคงแยกแยะออกว่าอันไหนเหมาะหรือไม่เหมาะในเรื่องการชอบ ถ้าไปหลงไหลถึงขนาดคลั่งไคล้มันก็เกินเหตุ เห็นในวงการBBหลายคนเวลาเล่นก็ใส่ชุดทหารเยอรมันครับ มันคงขึ้นอยู่กับกาละเทศะมากกว่าครับ  สิทธิส่วนบุคคลครับในการชื่นชอบแต่มันขึ้นอยู่ด้วยความตัวคุณคลั่งไคล้มันเกินขนาดหรือไม่ครับ และความเหมาะสมด้วยครับ

ผมว่าจบข่าวกันดีกว่านะครับ  ผมต้องขอโทษ หลายๆ เด้อ

คุณPARK007_NAZIครับ ทุกๆคนรักชาติทั้งนั้นล่ะครับ ถ้าถามผมว่ารักมั้ยผมจะตอบว่ารักมากกว่าชีวิตหลายเท่าครับ

.......แล้วกรุณาอย่าเอาเรื่อง3จังหวัดชายแดนภาคใต้เข้ามาเกี่ยวนะครับ คนไม่รู้จริงน่ะพูดได้ครับ แต่คนรู้จริงเค้าไม่พูดกันหรอกครับ ผมขอบอกไว้เลยนะครับ ว่าสามจังหวัดชายแดนใต้น่ะถึงคุณไม่ไปมันก็สงบได้ครับ มันเป็นเรื่องของเชื้อชาติและความแตกต่างทางศาสนาเล็กน้อยที่ขุดกันจนกลายเป็นเรื่องใหญ่โต

แล้วที่คุณmodmadasmพูดน่ะ ผมบอกเลยนะครับ ว่าไม่รู้จริงน่ะอย่าพูด คนที่รู้เค้าจะดูถูกลับหลังนะครับ ปัญหาชายแดนใต้ไม่ได้เกิดจากยาเสพติดแต่เกิดจากเหตุผลข้างต้นที่กล่าวมาแล้ว อีกทั้งทหารที่จังหวัดชายแดนใต้เป็นทหารที่แท้จริง ไม่ใช่ใครก็ได้ที่อยากใส่ชุดทหารแล้วบอกปาวๆๆว่ารักชาติ ทหารพวกนั้นปฏิบัติงานเพื่อชาติจริงๆ

ยอมรับว่าทหารไม่ได้ดีไปทุกคนหรอกครับ(ขอโทษท่านที่เป็นทหารนะครับ) แต่ทหารส่วนใหญ่เป็นคนดี โดยเฉพาะท่านที่ทำเพื่อประเทศชาติอย่างแท้จริง

คือผมว่าคุณ uthor คงจะเข้าใจผมผิดนะครับ เพราะผมไม่ได้อ้างถึงสถาณการณ์นะครับ ผมพูดถึงแก๊งขายยาเสพติดที่เป็นเอเย่นรายใหญ่โดยอาศัยชุดและยศทหารระดับนายพันบังหน้า  เพื่อมาขายยาเสพย์ติดไม่ได้หมายความว่าสถาณการที่เกิดขึ้นเกิดมาจากสิ่งนี้เพราะเข้าใจว่าสถาณการณ์เหล่านี้เป็นเรื่องระเอียดอ่อน  ขอให้เข้าใจผมนะครับ  ถ้าคุณติดตามข่าวแล้วทราบเรื่องนี้ก็คงจะรู้ดีว่านายพันคนนี้เป็นเอเย่นรายใหญ่ที่ขายอยู่ในภาคไต้รวมถึง3จ.นั้นด้วยซึ่งที่ผมพูดถึงเป็นเรื่องระหว่างชุดที่ดูสง่างามกับคนที่มีเกียรติโดยที่ผมไม่ได้อ้างถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแม้แต่น้อยขอโทษที่ทำให้คุณเข้าใจผิดครับ

คำว่ายาเสพย์ติดมอมเมากับแนวร่วมมันคนละเรื่องกันนะครับ