หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


ยุทธการกรือเซะ(มันส์ๆ)

โดยคุณ : cobra_night เมื่อวันที่ : 21/04/2007 08:36:32

?พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี? รองผอ.กอ.รมน.และที่ปรึกษารมว.กลาโหม เปิดใจในรายการสภาท่าพระอาทิตย์ (28 เม.ย.) เผย เสียใจที่ไม่ระงับเหตุแต่เช้าทำให้ลูกน้องต้องตาย พ้อ พูดถึง ?เหตุกรือเซะ? ทีไร ไม่มีใครนึกถึงทหารตำรวจที่พลีชีพสักคน แฉ ?บิ๊กจิ๋ว? สั่งคำเดียว ?ระวังมัสยิดพัง?-พร้อมระบุ ปัญหาใต้เรื้อรังมานับร้อยปี และปรับรูปแบบเป็นสงครามกองโจร แนะ วิธีแก้ต้องดึงแนวร่วมมาเป็นพวก และปรับแนวคิดให้เข้าใจว่า ?ทุกคนคือคนไทย?
       
       รายการสภาท่าพระอาทิตย์ ประจำวันที่ 28 เมษายน 2548 ดำเนินรายการโดยสำราญ รอดเพชร และบัณฑิต ปิ่นมงคลกุล
       

       สำราญ ? ครับ ก็กลับมาที่รายการสภาท่าพระอาทิตย์นะครับ คุณบัณฑิตและผมสำราญนะครับ ก็อย่างที่เกริ่นกันไว้ ก็ครบรอบเหตุการณ์ 1 ปีสถานการณ์ที่กรือเซะ 28 เมษายน 2547 ถึง 28 เมษายน 2548 คือวันนี้นะครับ ตัวละครหรือบุคคลสำคัญที่อยู่ในเหตุการณ์ครั้งนั้น ในส่วนของทางการทางราชการก็คือ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณีนะครับ ก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์ ถูกพาดพิงภาคทัณฑ์ในมิติต่างๆนะครับ ถูกมองว่าเป็นสายเหยี่ยวสร้างความรุนแรงอะไรก็แล้วแต่นะครับ แต่ว่าวันเวลาก็พิสูจน์ข้อเท็จจริงอะไรหลายสิ่งหลายอย่างให้ได้รับทราบกันนะครับ รวมทั้งมีการเขียนหนังสือโดยบุคคลบางกลุ่ม พูดถึงปฏิบัติการตัดสินใจของท่าน พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี ในชื่อหนังสือว่า ?ผมผิดหรือ ... ที่ยึดกรือเซะ? ก็กำลังขายดิบขายดีนะครับ ท่านผู้ชม ท่านผู้ฟังหลายท่านคงจะได้อ่านดูบ้างแล้วนะครับ ก็เอาล่ะครับ ตอนนี้ขอต้อนรับ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณีนะครับ ตำแหน่งที่เป็นทางการก็คือ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) และก็อีกตำแหน่งหนึ่งที่เป็นทางการนะครับ ใหม่หมาดๆซัก 2 เดือนที่ผ่านมา เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมครับ สวัสดีครับ
       
       บัณฑิต ? สวัสดีครับ
       
       พล.อ.พัลลภ ? สวัสดีครับ
       
       สำราญ ? ขอบพระคุณนะครับ เห็นว่าจะไปประชุมสภากลาโหมต่อ เลยต้องรีบคุยนะครับ ท่านผู้ฟังมีคำถามก็เชิญเลยนะครับ 02-6294433 เราคงเริ่มกันที่ 28 เมษายนปีที่แล้วซักนิดหนึ่ง
       
       บัณฑิต ? ย้อนความหลังก่อน
       
       สำราญ ? จริงๆโดยตำแหน่งนี่ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณีนี่เกี่ยวข้องโดยตรงไหมครับตอนนั้น
       
       พล.อ.พัลลภ ? ช่วงนั้นเกี่ยวข้อง 2 ตำแหน่งครับ ตำแหน่งแรกคือผมเป็นรอง ผอ.กอ.สสส.จชต. นะครับ พล.อ.ชวลิตท่านเป็นผู้อำนวยการ ท่านให้ผมไปรับผิดชอบในพื้นที่ครับ นั่นตำแหน่งหนึ่ง อีกตำแหน่งก็คือฐานะรอง ผอ.กตร. นะครับ ที่ควบคุมพลภาคชายแดนอยู่ครับ
       
       สำราญ ? เหตุการณ์นี่ ทำไมต้องไปที่มัสยิดกรือเซะ เหตุการณ์พาไปอย่างไรครับ
       
       พล.อ.พัลลภ ? คือเรื่องอย่างนี้นะครับ วันนี้เวลาตี 5 โจรก่อการร้ายได้เข้าปฏิบัติการในวันที่ 28 เมษายน 2547 เข้าอุบัติการณ์ 11 จุดใน 3 จังหวัดนะครับ คือ 6 จุดที่ยะลา 4 จุดที่ปัตตานี และอีกจุดหนึ่งคือที่ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลานะครับ เข้าปฏิบัติการพร้อมกัน 11 จุด ทีนี้เรื่องนี่ครับเราพอทราบข่าวมา ตอนนี้ผมรับผิดชอบภาคใต้อยู่ ก็ได้เตือนไป ที่เราทราบข่าวเพราะอะไร เพราะว่าวันที่ 28 เมษายน ทางขบวนการโจรก่อการร้าย ถือเป็นวันสำคัญวันหนึ่งของขบวนการ ถ้าเราย้อนไป ?กบฏดุซงยอ? ที่เกิดขึ้นที่นราธิวาสเมื่อ พ.ศ.2491 นะครับ ก็ 28 เมษายนเหมือนกัน เราก็ได้เตรียมกำลังไว้ ทำให้การที่เขาเข้าโจมตีใช้กำลังหลายร้อยคนนะครับใน 11 จุด ทำให้การสูญเสียฝ่ายเรานี่น้อย เพราะเรารู้ตัวอยู่แล้ว ใน 11 จุดนี่เราเสียชีวิต 5 บาดเจ็บ 17 นะครับ ส่วนโจรก่อการร้ายเสียชีวิต 107 คนนะครับ เราจับเป็นได้ 5 คน
       
       สำราญ - พล.อ.พัลลภไปมัสยิดกรือเซะตอนไหนครับ
       
       พล.อ.พัลลภ ? ผมไปตอนเกือบ 11 โมงกว่าแล้วครับ คือเรื่องนี้ครับวันนั้นซักตี 5 ครึ่ง พล.ท.ขวัญชาติ กล้าหาญ ตอนนั้นท่านเป็นรองแม่ทัพอยู่ สำหรับ พล.ท.ขวัญชาตินี่เคยเป็นลูกน้องผม สมัยผมเป็นผู้พันที่ปัตตานี ก็โทรมารายงานว่าผู้ก่อการร้ายได้เข้าโจมตีใน 11 จุด เราสามารถยับยั้งไว้ได้เว้นจุดเดียวที่กรือเซะ คือที่กรือเซะเขารายงานบอกว่า มีประมาณ 30-50 คนเดิมรายงานว่าอย่างนั้นนะครับ หลังจากที่เข้าโจมตีป้อมที่กรือเซะ ป้อมกรือเซะเป็นป้อมตำรวจที่ห่างจากกรือเซะ ประมาณ 100 เมตร โจมตียิงตำรวจตาย 1 บาดเจ็บสาหัส 1 เผาป้อมและเผามอเตอร์ไซด์ แล้วหลบเข้าไปอยู่มัสยิดกรือเซะ รายงานผมมาอย่างนั้น
       ผมก็สั่งการบอกว่าให้กำลังปิดล้อมให้ พยายามจับเป็นให้ได้ ในชั้นต้นตอนเกือบ 6 โมงเช้า พอดีช่วงนั้นมีนักข่าวสายทหารนี่นะครับ ไปเยี่ยมกองอำนวยการผมพอดี ผมก็บรรยายสรุปถึงเหตุการณ์ภาคใต้อยู่ซัก 10 โมงกว่า ก็มีฝ่ายข่าวคนหนึ่งมากระซิบผม บอกท่านครับ ที่กรือเซะทหารเราถูกจับตัวเป็นตัวประกัน 2 คน เมื่อเป็นเช่นนั้นผมก็ถามว่าแล้วแม่ทัพภาค 4 อยู่ที่ไหน เขาบอกแม่ทัพภาค 4 ตอนนี้ไปอยู่ที่กงปีนัง เพราะกงปีนังนี่เป็นจุดหนึ่งที่เข้าตีเมื่อตี 5 แล้ว 8 โมงเข้าตีอีกครั้งหนึ่ง เข้าตี 2 ครั้ง แม่ทัพภาค 4 ไปอยู่ที่นั่น
       เมื่อเป็นดังนี้ผมก็เลยไปอีก้อเซอะ ผมไปถึงประมาณ 11 โมงกว่า ไปถึงก็ยังมีการยิงกันประปรายอยู่เราก็ปิดล้อมไว้ เมื่อผมไปถึงนั้นผมทราบว่า ก็พบรองผู้บัญชาการภูธรภาค 9 พล.ต.ต.ธานี ทวิชศรี นะครับ และ พ.อ.มนัส คงแป้น ผู้บัญชาการปัตตานี และการ พล.ต.ฟ้อย ซึ่งเป็นรองฝ่ายทหารของ จ.ปัตตานีอยู่ที่นั่น ผมก็ถามถึงเหตุการณ์ว่าเป็นจริงไหม เขาบอกว่าไม่ใช่หรอกครับ เป็นชาวบ้านแล้วปล่อยออกมาแล้ว
       
       สำราญ ? ที่ถูกยึดตัวประกันนะครับ
       
       พล.อ.พัลลภ ? ครับ เป็นชาวบ้านปล่อยออกมาแล้ว ผมก็ถามว่าได้ดำเนินการอะไรไปบ้างแล้ว เขาบอกว่าพยายามทุกอย่างนะครับ พยายามส่งกำลังเข้าไปเจรจาก็ถูกยิงมา อย่างเช่น ส.อ.สามารถนี่ เป็นหน่วยรบพิเศษนะครับ พอไปเจรจาก็ถูกยิงแสกหน้าเสียชีวิตทันที ลักษณะแบบนั้น ช่วงผมไปถึงนี่ครับ ของเรานี่เสียชีวิต 3 บาดเจ็บสาหัส 7 นะครับที่รายล้อมมัสยิดอยู่ ขณะที่ผมกำลังเจรจาอยู่นั้น ก็ตำรวจบาดเจ็บสาหัสไปอีกคนหนึ่ง คือมีการยิงประปรายอยู่เรื่องนะครับ ผมก็ถามว่าทำอะไรไป เขาก็บอกว่าพยายามยิงแก๊สน้ำตานะครับเพื่อจะจับเป็น
       แต่ปรากฏว่ายิงไม่เข้าเพราะมัสยิดกรือเซะนี่นะครับมีกรงเหล็ก และก็เขาเอาผ้าใบลง เพราะฉะนั้นแก๊สน้ำตายิงไม่เข้า เมื่อเป็นดังนั้นผมก็บอกว่า พ.อ.มนัส บอกขอ ฮ. ผมกะจะมายิงให้หลังคามันเปิดแล้วยิงแก๊สน้ำตาเข้าไป เพื่อจะจับเป็น ปรากฏเมื่อขอ ฮ. มาแล้วนี่ ปรากฏไม่ได้ครับ เพราะประชาชนที่มามุงดูนี่นะครับเข้ามาใกล้เกินระยะ 100 เมตร เพราะระยะนิรภัยเราจะต้อง 100 เมตร นี่เข้ามาเพียงถนนขวางเท่านั้นเองไม่ถึง 100 เมตร ผมก็เกรงว่าถ้าใช้ไปมันพลาดปั๊บ มันจะโดนประชาชน ปัญหาใหญ่ตามมา ผมก็สั่งระงับใช้
       ขณะนั้นเราก็สังเกตว่าประชาชนนี่เพิ่มขึ้นเร็วเหลือเกินนะครับ ตอนผมไปถึงตอน 11 โมงนี่ ผมสังเกตทางทิศตะวันออกนะครับ มีอยู่ประมาณ 300-400 คนนะครับ ผู้คนที่มาดู และทางทิศเหนือก็ไล่เลียงกันนะครับ หลังจากนั้นก็ทั้ง 2 กลุ่มนี่มารวมกันทางทิศตะวันออกเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อสถานการณ์เป็นแบบนี้นะครับ อีกอย่างหนึ่งเมื่อเรายิงตอบโต้นี่ครับ แล้วเราประกาศให้โจรวางอาวุธนี่นะครับ ชาวบ้านจะโห่ร้อง แต่พอโจรยิงเราตบมือครับ อันนี้ผมก็มองสถานการณ์ออก ในฐานะที่ผมเรียนตั้งแต่ต้นแล้วว่า ผมนี่เคยเป็นผู้พันปัตตานีมา 4 ปี แล้วผมเคยต่อสู้พวกนี้มาทั้ง 4 ปี ผมรู้เลยว่าอะไรจะเกิดขึ้น
       ผมก็สั่ง พ.อ.มนัสบอกไปเอากำลังมาเพิ่ม เพื่อคุมฝูงชนพวกนี้นะครับ ปรากฏว่าวันนั้นกำลังที่ส่งมาให้ผมได้ 30 คน คุณลองคิดว่าคน 30 คนจะคุมคน 3000-4000 คนได้อย่างไร ใช่ไหมครับ เมื่อสถานการณ์เป็นแบบนั้นผมก็มองแล้วว่า เราไม่มีทางเลือกอย่างอื่นหรอกครับ ผมดูแล้วขณะนั้นผมมีทางเลือก 2 ทาง ทางแรกคือผมถอนกำลังทหาร ตำรวจออกเลยนะครับ คุณลองคิดดูครับว่าอะไรจะเกิดขึ้น ถ้าผมทำแบบนั้นอำนาจรัฐใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นี่จะจบเลย ใช่ไหมครับ อีกอย่างหนึ่งเกียรติภูมิทหาร ตำรวจจะเหลือที่ไหน เป็นหน่วยรบพิเศษ หน่วยคอมมาโดวิ่งหนีโจร มันก็จบเลย ผมก็คิดว่าถ้าผมจะทำอย่างนี้ ผมยอมตายที่มัสยิดกรือเซะดีกว่า
       อันที่สองผมมองว่าถ้าผมปิดล้อมไว้จนกระทั่งเย็นนะครับ และประชาชนฮือเข้ามา ผมก็จำเป็นต้องใช้อาวุธใช่ไหมครับ เมื่อผมใช้อาวุธอะไรจะเกิดขึ้นครับ ก็จะบาดเจ็บล้มตายเป็นร้อยเป็นพันเลย ก็จะเกิดจลาจลขึ้นเลย ก็จะเข้าตามล็อคที่เขาวาง ที่ผมพูดเข้าตามล็อคเขาวางเพราะอะไร เพราะว่าโจรพวกนี้ตอนมาปล้นด่านตำรวจที่กรือเซะเมื่อตี 5 แล้ว ถ้าเขาไม่มีแผนการที่จะทำอะไรต่อไปนี่ เขาเพียงแต่เดินไปทางทิศตะวันตกข้ามถนนไป 200 เมตรกว่าได้ ก็จะเข้าป่าสวนยางขึ้นเขาไปได้เลย ทำไมเขามายึดมัสยิดกรือเซะไว้ เขามีแผนตัวนี้ครับ ต้องการตัวนี้ครับ
       
       สำราญ ? ก็เลยตัดสินใจ
       
       พล.อ.พัลลภ ? เมื่อเป็นแบบนี้ผมก็พยายามทุกอย่าง พยายามพูดอะไรต่ออะไร ก่อนจะเข้าผมก็เรียกกำนันมานะครับ กำนันที่อยู่ในพื้นที่นั้น ผมถามบอกว่ากำนันรู้จักไหม คนที่อยู่ในพื้นที่นั้น กำนันได้ยืนยันกับผมบอกว่าไม่รู้จัก เป็นคนต่างพื้นที่ ไม่ใช่คนในพื้นที่เขต อ.เมือง ปัตตานี
       
       บัณฑิต ? หมายถึงคนที่มาล้อมหรือครับ
       
       พล.อ.พัลลภ ? ไม่ใช่ คนที่อยู่ในมัสยิด
       
       บัณฑิต ? มองเห็นหรือครับ
       
       พล.อ.พัลลภ ? กำนันเขาเห็นครับ เขาเข้าไป กำนันเป็นคนมุสลิมที่นั่น ผมเรียกกำนันมาแล้วครับก็ถาม จนกระทั่งครั้งสุดท้ายผมดูว่า ถ้าผมปล่อยไปมันก็จะเกิดปัญหาอย่างที่ว่านี่นะครับ ผมก็ต้องตัดสินใจ ก็รายงานให้ พล.อ.ชวลิตท่านทราบถึงสถานการณ์ เพราะสถานการณ์เป็นแบบนี้ เราไม่มีทางเลือกอย่างอื่นแล้ว ถ้าปล่อยไว้ค่ำปั๊บก็จะเข้าแผนเขา จะเกิดการจลาจลแน่นอน ผมบอกว่าผมจำเป็นต้องกวาดล้าง
       ท่านก็ท้วงมาคำเดียวครับ ท่านไม่ได้ท้วงว่าห้ามไม่ให้ผมเข้ากวาดล้าง ท่านบอกว่า อย่า เดี๋ยวมัสยิดจะพัง ท่านกลัวมัสยิดจะพัง ท่านบอกว่าท่านกำลังจะซ่อมอยู่ เมื่อเป็นดังนี้ผมก็คิดในใจว่า ผมทำได้ไม่ให้มันพัง ก่อนผมจะยกพลเข้า ผมก็ให้โอกาสเขาครั้งสุดท้าย ผมเอา RPG 40 ยิงเข้าไปที่ฐานมัสยิด 5 นัด ผมรู้ว่า 40 นี่ไม่สามารถทำลายมัสยิดได้หรอก เพราะว่าเขาสร้างมาสำหรับเหล็ก รถถังอะไรพวกนี้ ยิงบังเกอร์นะครับ ผมยิงเตือนครับ ยิงไป 5 นัดที่ฐานมัสยิด
       ผมรู้อยู่แล้วว่าทำอะไรไม่ได้ เพราะว่าอิฐ ไม้นี่ RPG ทำอะไรไม่ได้ เสียงดังอย่างกับฟ้าผ่า แต่ที่เขาตอบผมมาคืออะไรครับ เสียงเขาประกาศมา เขาก็สวดมนต์ เสียงสวดมนต์แล้วประกาศจีฮัจญ์ พร้อมที่ยอมตาย เขาประกาศออกมาอย่างนั้นไม่พอ เขาประกาศประชาชนให้มาร่วมกับเขาอีก เมื่อเป็นดังนั้นผมไม่มีทางอื่นนะครับ ผมก็จำเป็นต้องสั่งให้กำลังเข้ากวาดล้าง กำลังเข้ากวาดล้างนี่ผมใช้หน่วยรบพิเศษพูดง่ายๆเพียง 17 คนเท่านั้นเอง แบ่งออกเป็น 2 ชุด อีกชุดหนึ่งเข้าทางทิศเหนือเป็นฐานยิง อีกทิศหนึ่ง 5 คนนะครับเข้าทางทิศตะวันตก
       
       สำราญ ? เป็นทหารมาจากหน่วยอะไรครับ
       
       พล.อ.พัลลภ ? หน่วยรบพิเศษลพบุรีครับ ผมใช้แค่นั้นเอง จะเห็นว่าถ้าผมนี่ต้องการให้โจรตายนะ ช่วงผมเอา RPG ยิงที่ฐาน ผมยิงเข้าหน้าต่างเลยครับ ตายหมดแหละครับ เพียง 5 นัดนี่ตายหมดเลย ผมว่าเหล็กดัดนี่ทาน RPG ผมไม่อยู่หรอกครับ แต่ผมก็ไม่ได้ทำ ผมพยายามให้โอกาสเขาครั้งสุดท้าย
       
       สำราญ ? ตกลงใช้ 17 คน 2 ชุด
       
       พล.อ.พัลลภ ? 2 ชุดครับ แต่ว่าเข้าไปนั้นมัสยิดจริงๆเพียง 5 คนเท่านั้นเอง ที่เหลือเป็นฐานยิงอยู่ข้างนอก เราใช้เวลาประมาณ 20 นาทีครับ ทุกอย่างก็ยุติ
       
       บัณฑิต ? คือยิง RPG เข้าไปในนั้น
       
       พล.อ.พัลลภ ? ไม่ได้ยิงครับ RPG ผมยิงที่ฐานเพื่อขู่ ยิงขู่เพื่อให้เขาวางอาวุธ
       
       บัณฑิต ? แล้วคนร้ายส่วนใหญ่ตายเพราะอะไรครับ
       
       พล.อ.พัลลภ ? ก็ตายเพราะระเบิดมือครับ คือระเบิดมือกับอาวุธประจำกายคือ M-16 คืออย่างนี้ครับ ทุกคนไปมองว่า พูดง่ายๆอย่างคณะกรรมการที่สอบสวนผมนี่ครับ ก็สรุปมาตอนหนึ่งว่าผมใช้เกินกว่าเหตุ คือใช้ระเบิดมือถึง 9 ลูก อันนี้ผมไม่ได้โทษท่านหรอก เพราะอันนี้ต้องเข้าใจว่าเป็นยุทธวิธีทางการทหารนะครับ ในเมื่อข้าศึกนี่อยู่ในบังเกอร์ที่แข็งแรง และก็อาวุธประจำกายทหารเราคือ M-16 เป็นอาวุธยิงตรงใช่ไหมครับ ไม่สามารถยิงทะลุกำแพง ไม่สามารถจะทำลายข้าศึกได้ เพราะฉะนั้นในเมื่อเราจะจู่โจมเข้ากวาดล้างนี่ครับ เราก็ต้องใช้ระเบิดมือใช่ไหมครับนำเข้าไป เสร็จแล้วเราวิ่งชาร์ทเข้าไป อันนี้เป็นยุทธวิธีทางทหารครับ ทีนี้คนที่พูดนี่ท่านไม่เข้าใจวิธีทางการทหาร คุณไปดูได้ครับในหนังสงคราม หรือว่าทหารทุกประเทศในโลกนี้ ถ้าสถานการณ์แบบนี้ เขาจะใช้แบบนี้ทั้งนั้นแหละครับ ขว้างเข้าไปเพียง 9 ลูก ไม่ใช่เอา RPG ยิงเข้าไปในมัสยิด
       
       สำราญ ? ตกลงกี่ศพครับข้างใน
       
       พล.อ.พัลลภ ? 32 ศพครับ
       
       สำราญ ? อยู่กันกี่คนทั้งหมด
       
       พล.อ.พัลลภ ? หมดน่ะครับ หมดเลยครับ คือที่ตายหมดอย่างนี้มีบางคนบอกว่า ไปดูศพแล้วอย่างที่เห็นที่นอนนี่
       
       สำราญ ? เอาว่าแต่งกายมีสัญลักษณ์อะไรชัดเจน
       
       พล.อ.พัลลภ ? คือศพที่ตายนี่ต้องไปมองว่า คล้ายๆว่าผมยิงทิ้ง เพราะมันโดนระหว่างอกกับศีรษะทั้งนั้น ใช่ไหมครับ ที่จริงในข้อเท็จจริงต้องเข้าใจนะครับ พวกนี้เขาหมอบอยู่ในบังเกอร์ ในมัสยิดใช่ไหมครับ เพราะฉะนั้นส่วนใหญ่เขาที่สุดคือหัวกับอก เมื่อเราชาร์ทเข้าไปทหารจะยิงมันก็ต้องเข้าเป้าหัวกับอก ไปโดนขาไม่ได้เพราะว่าขามันหมอบอยู่ อันนี้ข้อเท็จจริงคนไม่เข้าใจครับเรื่องนี้ คือการแต่งกายของเขานี่บ่งชัด เขาจะนั่งกางเกงยีนส์ ใส่เสื้อยืดไม่สีเขียวก็สีดำนะครับ และก็อาบน้ำมันมีผ้าโพกสีแดง มีกำไลห้อยคอนะครับ และหน้าอกจะเขียนว่าจีฮัจญ์นะครับเหมือนกันหมด อันนี้เป็นการพิสูจน์ได้ว่า โจรก่อการร้ายทั้ง 32 คนนี่ ผมยืนยันว่าไม่ใช่ประชาชนบริสุทธิ์ที่มา อย่างเขาว่าก็มาละหมาดอยู่ในมัสยิดไม่ใช่ครับ เพราะการแต่งกายชัดมากครับ
       
       บัณฑิต ? ที่เขียนไว้นี่เขียนว่าจีฮัจญ์
       
       สำราญ ? ก็สุดท้ายอย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุแล้วนี่ ท่านก็โดยเด้งมาใช่ไหมครับ
       
       พล.อ.พัลลภ ? ครับ ผมโดนย้ายข้อหาขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชา
       
       สำราญ ? คำสั่งท่านบิ๊กจิ๋วที่ว่า มัสยิดจะพังนะครับ
       
       พล.อ.พัลลภ ? แต่ว่ามัสยิดก็ไม่ได้พังครับ เป็นเพียงแต่ที่รอยพื้นนี่ก็กระเบื้องแตกนิดหน่อย รอยระเบิดมือแค่นั้น




ความคิดเห็นที่ 1


สนใจอ่านเพิ่มเติมได้ในหนังสือ

ผมผิดหรือที่ยึดกรือเซะ

....


โดยคุณ dboy เมื่อวันที่ 21/04/2007 08:36:32