ผมมองๆหลายต่อหลายอย่าง คุยกับพวกฝรั่ง อ่านตามเว็บ ทะเลาะกันมาก็มาก คุยดีก็น้อย เอ๊ยยย ทะเลาะกันมาคุยดีกันมาก็มากน้อยตามกันไป
ว่าอเมริกาก็มักจะสร้างสารคดี หรือเสนอข่าวเรื่องการ propaganda โฆษณาชวนเชื่อของประเทศจีน เกาหลีเหนือว่า ดีแต่สร้างภาพโกหก โดยจีน เกาหลีเหนือ เป็นพวกบ้าสงคราม ไม่มีเสรี ไม่มีประชาธิปไตย เป็นชาติป่าเถื่อน ประชาชนอดอยาก และเคียดแค้น ประชาชนไร้ความสุข และชิงชัง
แต่มองไปมองมา ไอ้ที่เราได้รับข่าวสารต่างๆนานามานี่ มันก็ไม่ใช่ไอ้ propaganda ของอเมริกันรึไง? ที่พยายามให้เราเชื่ออย่างที่มันอยากให้เชื่อ
กระทู้นี้ ขออย่างนะ ถ้าคิดว่าไทยเป็นอันดับ 1 ก็ขอให้ตอบเป็นอันดับ 2...
อยากให้เลี่ยงการเมือง
ผมอยากทราบว่าตามความเห็นของท่านๆทั่วไปคิดว่าประเทศไหน propaganda เก่งที่สุดในเวทีระดับโลก พร้อมเหตุผลครับ
ตามรีเควสท์ จขกท.ครับ Propaganda ไทยอันดับ2ครับ หุหุ
เล่นเอาแม่ผม เป็นแฟนคมช.ไปซะเลย ตอนนี้คุยกันไม่รู้เรื่องแล้ว 5555
คิดต่างได้ ผมไม่ว่าหรอกครับ แต่อย่าเอามาเป็นประเด็นทะเลาะกัน เอาเป็นว่า คิดต่าง โต้กันได้ แต่พอถึงเวลา ต้องสามัคคี
ผมชอบคนอเมริกันตรงนี้ล่ะ เคารพกติกาสังคมครับ
ส่วนตัวผม ขอเป็นแบบคนไทยไปก่อน ทำอะไรตามใจคือไทยแท้ 555
เซ็งครับ คืออยากจะให้คุยในเวทีโลก แต่ดันมาเรื่องของ คมช
อืม งั้นผมเปิดประเด็นทักษิณ สนธิ กับ 19กันยา กลุ่มรักประชาธิปไตย กลุ่มพีทีวีเลยดีมั้ยครับ? ว่าเป็น propaganda กันหรือไม่
อย่าเลยดีกว่าเนอะ...พาลทะเลาะกันเปล่าๆ
เพราะผมพิมพ์ไว้ว่า
ผมอยากทราบว่าตามความเห็นของท่านๆทั่วไปคิดว่าประเทศไหน propaganda เก่งที่สุดในเวทีระดับโลก พร้อมเหตุผลครับ
เก่งที่สุด ฉนั้นถ้าจะตอบอันดับสองว่าไทย ก็หัดมีจิตสำนึกจะเก็บไว้ในหัวใจของคุณเถอะนะ
เข้าใจดีครับคุณ icy คุณรักประชาธิปไตยจัดแค่ไหน ศาสนาที่ชื่อว่าประชาธิปไตยเองก็มีการ propaganda ของมันเอง ทำเอาคนไทยกว่า 50ล้าน+ คลั่งไคล้ครับ
ที่ผมต่อว่ายาวเหยียดนี่คงเข้าใจนะ...เพราะกระทู้นี้อยากให้คนเข้ามาแสดงความเห็นว่า เกาหลีเหนือ หรือจีน หรืออเมริกาเองนั่นแหละ ที่ propaganda คนทั่วโลกมากที่สุด เพราะอะไร
แต่หากมีประเทศอื่นก็เสนอมาได้ที่คาดไม่ถึงเช่นรัสเซีย ฮอลแลนด์ อินเดีย ปากีสถาน อิสราเอล
ฉนั้นหวังว่าท่านอื่นๆที่คิดจะตอบ ก็ตอบให้เข้าประเด็นในหัวเรื่องผมหน่อยนะครับ
คิดต่างได้ ผมไม่ว่าหรอกครับ แต่อย่าเอามาเป็นประเด็นทะเลาะกัน เอาเป็นว่า คิดต่าง โต้กันได้ แต่พอถึงเวลา ต้องสามัคคี
สำหรับคุณไอซี่ ผมว่ามันไม่เกี่ยวกับประเด็นที่ผมพยายามจำกัดกรอบเลยนะ ผมพยายามเลี่ยง หวังว่าคุณคงเข้าใจจุดประสงค์ผมนะครับ ผมพูดว่าอยากให้หลีกเลี่ยงการเมือง แต่คุณกลับโยงเข้าการเมือง(ในประเทศไทยเสียด้วย)
ทำให้ผมต้องขอบพระคุณมากๆครับ
ผมคงไม่อยากจะตั้งกระทู้ใดๆต่อไปแล้วละครับ เพราะอยากถามความเห็นทีไร ต้องโยงเข้าการเมืองตลอดแบบนี้ ความเห็นต่าง มันต่างได้ แต่ห้ามทะเลาะแล้วให้มาสามัคคี ก็เหมือนสมาชิกท่านอื่นที่ว่า "สมานฉันท์กับมึงไปคนเดียวเหอะ"
ฉนั้นผมว่า ทฤษฎีนี้ดีครับ แต่ยังใช้กับไทยไม่ได้ในตอนนี้ แต่คุณไอซี่หัวก้าวหน้าเกินครับ
รบกวนคุณ WEBMASTER ลบกระทู้นี้ทิ้งเลยครับ ผมเอือม เอ๊ย ปลื้อมปิติในสมาชิกบางท่านครับ ขอบพระคุณมากครับ
....ว่าจะไม่ คอมเม้นท์แล้วนะ....แต่ขอหน่อยเหอะ...
....ในเมื่อ จขกท. เปิดประเด็นที่มันค่อนข้างคาบเกี่ยว และค่อนข้างอ่อนไหวเอง มันก็ช่วยไม่ได้ ที่สมาชิกท่านอื่นจะ ออกความคิดเห็นบ้าง...อย่างว่า ต่างคนต่างความคิด จะบังคับให้คนเราคิดเหมือนกันไม่ได้หรอก มิฉะนั้นแล้ว ประชาธิปไตยจะมีหลักเสียงข้างมากไว้เพื่ออะไร ถ้าคนเราเห็นตรงกันหมด ไม่มีแย้ง...
...ดังนั้นทางที่ดี คุณ จขกท. หรือสมาชิกท่านอื่น ควรที่จะเลี่ยงการตั้งกระทู้ 2 แง่ 2 ง่าม ที่มันโยงการเมืองได้ จะดีกว่าไหม....จะได้ไม่มีปัญหา แล้วมาด่ากันเอง...
...เซ็งมั่ง...
ไม่ทราบครับ....แต่เว็บนี้ก็ไม่ควรตั้งกระทู้เกี่ยวกับการเมืองมากนะครับ เพราะนี่ไม่ใช่เว็บการเมืองนะครับ เป็นเว็บที่เกี่ยวกับการทหารนะครับ
ขอบคุณครับ
การพูดคุย การแสดงความคิดเห็น แต่ละคนมันมีรอยเท้า และการก้าวเดินที่แตกต่าง อาจจะเดินไปคนละทิศทาง แต่ก็น่าจะมาบรรจบกันได้สักครา
แต่ผมจะพูดไว้อย่างนะ อะไรก็อ้างประชาธิปไตยต้องฟังๆ สิ่งที่ผมได้เห็นความวุ่นวายในปัจจุบันส่วนหนึ่งก็เกิดจากประชาธิปไตยที่รักยิ่ง
แต่สิ่งที่ผมต้องการ มิใช่ให้แสดงความเห็นออกมาทั้งหมด โต้งๆ ผมจึงได้มีการจำกัดกรอบออกมา เหมือนประชาธิปไตยที่ยอมรับแนวความคิดอิสระทุกคนมีสิทธิเสรีภาพทางความคิด แต่ก็ยังมีกรอบไว้กำชับไว้จริงไหม?
กรอบที่ว่าของผมคืออะไร? กรอบที่ว่าของผมคืออยากให้คุยถึงของต่างประเทศในเรื่องโฆษณาชวนเชื่อ โดยหลีกเลี่ยงการพูดถึงภายในประเทศ รังแต่จะเกิดความขัดแย้ง ซึ่งก็ดีครับ พูดดีด้วยผมดีด้วย แต่หากว่าเป็นฉนวนนำพาให้เกิดความแตกแยก ซึ่งคุณรู้ได้อย่างไรว่าคนทั่วไปคนอื่นๆนี่จะยอมรับโดยดีไม่มีอารมณ์เข้ามายุ่งเกี่ยว โดยเฉพาะอารมณ์รัก ศรัทธาที่ขนาดเทิดทูนบูชาได้
การเมืองกับศาสนาเองก็เถอะ ต่างกันแค่เสี้ยวเดียวเท่านั้น แต่ทำไมทุกคนถึงหลีกเลี่ยงไม่พูดประเด็นนี้เสียละ?
กฎหมายจึงมีขึ้นมาเพื่อกำหนดกรอบทิศทางของสังคม ไม่ให้มีอิสระมากเกินไป ผมเองจึงพยายามขีดกรอบตรงจุดนั้นไว้
แต่หากว่าการที่ผมขีดกรอบเป็ฯเหมือนชี้โพรงให้กระรอก ให้เป็นชนวนให้เกิดเหตุที่จินตนาการพามาเข้าวกเข้าเรื่องการเมือง ผมเองก็ขออภัย
เพราะผมเองเชื่อมั่นและศรัทธาเกินไปว่าคนในเว็บไซต์นี้ส่วนใหญ่จะมีสติปัญญาดีพอที่จะเข้าใจในจุดประสงค์ และพูดกันรู้เรื่องดีว่า อะไรน่าจะมาคุยและควรเลี่ยงการคุยเรื่องใดกัน เหมือนพระพุทธทาสที่ยังคุยกับโต๊ะครูของชาวมุสลิมได้ โดยหลีกเลี่ยงการเชื่อมั่นและหลักความถูกต้องที่แท้จริงกัน โดยเลี่ยงเรื่องการพูดว่าพระเจ้ามีจริงควรยึดถือ หรือว่าเรื่องอริยะสัจ 4 คือความจริงที่ถูกต้อง
เข้าใจมั้ย? แต่พวกท่านกลับมาคุยกันว่า อะไรที่จะทำให้หลายศาสนาอยู๋ร่วมกัน และอะไรทำให้ชาวมุสลิมคิดแบบนั้น ทำให้ชาวพุทธคิดแบบนี้
กระทู้ผมไม่ได้พยายามตั้งสองแง่สองง่ามเลย เรื่องการเมืองมันก็มีทุกประเทศ แต่หมายถึงการเมืองระดับชาติต่อชาติ คืออเมริการุกจีน จีนรุกตะวันตก เกาหลีเหนือด่าอเมริกา อามาดิเนจัดด่าว่าพวกอเมริกา และใช้เวทีโลก propraganda ชนะอังกฤษในกรณีจับกุมนายทหารได้(ขาดลอย)
ถามว่าทำไมคำถามเหล่านี้คิดกันไม่ได้คิดกันไม่เป็น คิดได้แต่เรื่องใกล้ๆอย่างการเมืองภายในงี้เหรอครับ
ผมประเมินพลาดไปจริงๆ
ผมเองผิดเองครับ ต่อจากนี้ไปคงจะต้องนั่งอ่านอย่างเดียวแล้วกระมังดังเช่นอดีตที่ผ่านมา
ผมพลาดไปจริงๆ ขออภัย WEBMASTER ครับ หากมาไวหน่อยก็ดีครับ ลบได้ไวเท่าไหร่ยิ่งดีครับ
ขออภัยจริงๆครับ ผมอ่านกระทู้ไม่ละเอียดเอง ยินดีน้อมรับคำวิจารณ์ ครับ
น้องกองหนุน ไม่ออนเอ็มเลย อยากคุยด้วยนะนี่
อีกอันนะ เพราะกระทู้นี้ผมตั้งใจโพสต์เกี่ยวกับทหารด้วยก็คือโฆษณาชวนเชื่อหรือ propaganda warfare ซึ่งเกาหลีเหนือ จีน พยายามสร้างในการต่อสู้กับอเมริกามาตลอดยามศึกสงคราม
การโฆษณาชวนเชื่อนี่ผมไม่เชื่อหรอกนะว่ามันเป็นเรื่องของการเมืองอย่างเดียว แต่ยามศึกสงคราม มันเป็นอาวุธชั้นเลิศที่โซเวียตเคยใช้นำมันมาเพื่อให้ชาวสลาฟสามารถต่อสู้กับพวกเยอรมันได้อย่างห้าวหาญมาแล้ว
และนายหนวดจิ๋มฮิตเลอร์เองก็ใช้พลังนี้เองในการสร้างหน่วยทหารชั้นอ๋อง อย่างPANZER และ ยุวชนนาซี (เกรียนเทพ)
ผมมองในแง่มุมในทหารนะ แต่กลับมองกันในมุมการเมืองเอง อันนี้ผมก็นะ...
ถ้าแยกให้ออกจากกันได้มันก็ดีไป อย่างว่า ผมพลาดไปแล้วครับ
แล้วยามใดมาเลเซียสั่งซื้ออาวุธ จะพูดให้เข้าการเมืองไทยเองก็ยังได้
แล้วยามใดเกาหลีใต้ทำรถถังดำน้ำสำเร็จ จะพูดให้เข้าการเมืองไทยเอง ก็ยังได้
อยู่ที่ว่าคุณจะพยายามโยงหรือไม่นั่นน่ะแหละ...ทั้งที่ผมพยายามแยกให้ออก แต่ก็นะ...ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าบอร์ดแห่งนี้...ผมพลาดไปจริงๆ
ขออภัยทุกคนด้วยครับ โดยเฉพาะคุณ WEBMASTER
ผมคงไม่กลับมาตอบกระทู้นี้ละครับ ใครพูดอะไรด้านล่างต่อไป ผมคงไมได้อ่านนะ
หวังว่าเข้าใจครับ พูดกันรู้เรื่องก็จบกระทู้นี้ซะ ไม่ต้องมีpost ต่อมา รอ WEBMASTER มาลบเสียเท่านั้นคงพอนะครับ ผมเองก็จะได้หายไปเสียที จะได้อ่านอย่างเดียวขี้เกียจที่จะมาพยายามตั้งกระทู้ลับสมองฟังความเห็น(ที่นอกเรื่องประจำ) เพราะการทหารทั้งหลายก็โยงการเมือง(ไทย)ได้เสมอ...
...ขออภัยทุกท่านที่เบี่ยงเบนประเด็นครับ ขอประทานโทษท่าน จขกท. อย่างสูงมา ณ ที่นี้ด้วย...
.../me หวัดดีปีใหม่ไทยครับพี่ไอซี่ ช่วงนี้ยุ่ง ๆ เรื่องมิดเทอมอีกแล้วฮะ...แอบแว๊บมาดูบอร์ดนิดนึง เจอกระทู้คัน ๆ เข้าเลยต้องเข้ามาเกาอ่ะครับ...เดี๋ยวสอบเสร็จแล้วอาจจะได้ออนนะครับ...
แนะนำเว็บนี้ครับเป็นเว็บที่รวบรวมพวกโฆษณาชวนเชื่อไว้มากมายตั้งแต่ยุคสงครามโลกจนปัจจุบันเลยละครับ
ในความคิดผมนะคุณ Blood royal ชาติแรกที่ดูจะใช้ได้ผลและประสพความสำเร็จในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองและดูเหมือนเป็นต้นฉบับของยุคปัจจุบัน ผมว่า น่าจะเป็นเยอรมันและรัสเซีย โดยเฉพาะเยอรมันนั้น ฮิตเลอร์สามารถทำสงครามโฆษณาชวนเชื่อและสามารถล้มอำนาจพรรคคอมมิวนิสต์ในเยอรมันได้อย่างราบคาบ
แต่ผู้ที่นำมาใช้และประสพความสำเร็จรวดเร็วมากที่สุดคงเป็นสหภาพโซเวียต สามารถแพร่กระจายลัทธิคอมมิวนิสต์ออกไปอย่างรวดเร็วจนน่าตกใจ โดยเฉพาะการโฆษณาว่าถ้าเป็นระบบการปกครองแบบคอมมิวนิสต์ คนทุกชั้นจะมีความเท่าเทียมกันจริงและสามารถรุ่งเรืองและแบ่งปันความรุ่งเรืองให้แก่คนทั้งประเทศได้โดยที่ความรุ่งเรืองนั้นจะไม่ตกแก่ชนชั้นบางกลุ่มดังเช่นในโลกทุนนิยมและโลกศักดินา โดยนำเสนอความสำเร็จของระบบเศรษฐกิจแบบมีการวางแผนจากส่วนกลาง เขาก็จะยกตัวอย่างความสำเร็จในการพัฒนาอุตสาหกรรมและกระจายความมั่งคั่งให้แก่ชนทุกชั้นในช่วงที่โซเวียตประสพความสำเร็จทางเศรษฐกิจจากเศรษฐศาสตร์การวางแผนจากส่วนกลาง ( 10 ปีแห่งความมหัศจรรย์แห่งสหภาพโซเวียต)
แม้อเมริกาเห็นความสำคัญทางด้านนี้ตามหลังโซเวียต แต่ตอนจบสงครามโลกครั้งที่สองใหม่ๆ ทางรัฐบาลอเมริกายุคนั้นก็จับตัวรัฐมนตรีด้านโฆษณาชวนเชื่อได้รวมถึงบุคคลบางคนที่มีส่วนในงานโฆษณาชวนเชื่อที่สำคัญของเยอรมันและยอมรับให้ช่วยงานให้แก่รัฐฐาลอเมริกา โดยเฉพาะมาตื่นตัวสุดๆในยุคที่คอมมิวนิสต์เติบโตอย่างรวดเร็วจนยากที่จะควบคุม
ปัจจุบันดูเหมือนไม่มีประเทศไหนโดดเด่นเหนือกว่ากันเลย (แย่พอๆกัน) ไม่เจ๋งแบบยุคสงครามโลกครั้งที่สองและยุคสงครามคอมมิวนิสต์
ว่าจะไม่ตอบๆกลับ...แต่คิดว่าปล่อยให้เข้าใจผิดๆกันไปเรื่อยๆงี้ไม่ดีแน่
แยกกันให้ออกสิครับอะไรปลาทูอะไรปลารัง
ปลาทูตัวป้อมๆสั้นๆ อร่อยกว่า พวกแม่ค้าขี้โกงจะเอาปลารังมาจะยาวๆคล้ายๆปลาทูรสก็คล้ายๆแต่จะอร่อยไม่เท่า
ส่วน Propaganda ก็ Propaganda ครับ Hegemony ก็คือ Hegemony สิครับ
Propaganda ทำไมไม่มีใครมองเรื่องอิหร่านกันเลยยุคนี้ จับทหารอังกฤษไป แถมยังโบ้ยความผิดให้กับอังกฤษได้ตั้งแต่เริ่มต้นจนจบได้อย่างเนียน ชนิดเรียกว่าเนียนสุดยอด จนอังกฤษนี่แพ้ราบคาบ แบบ งี่เง่าไปเลย
กลับมองกันแต่กระบวนการครอบงำสังคมHegemony ซะงั้น
ผมพูดถึง Propaganda นะครับ ไอ้ลำโพง(น่าจะเรียกว่าอาคารมากกว่าลำโพง -*-)ตัวเป้งๆที่เส้นแบ่งแยกดินแดนเกาหลีเหนือ-ใต้ อะ ว่าแต่มะไหร่ท่าน WEBMASTER จะมาลบครับเนี่ย แง้
ดูท่าคนเข้าใจผิดตีความไปโน่นไปนี่กันได้สนุกสนานจริงๆ
คราวนี้ผมเห็นใจคุณ Blood royal แฮะ เข้าใจน่ะว่าจุดประสงค์เพื่อถามเรื่องสงครามโฆษณาชวนเชื่อ ต้องการเน้นเรื่องวิชาการเป็นหลัก แต่ตัวกระทู้มันก็ล่อเป้าสำหรับเพื่อนๆบางคนไปหน่อย ผมก้พยายามให้อยู่ในหลักการของเวปนี้เป็นที่สุดแล้วครับ
เรื่องโฆษณาชวนเชื่อนี่ มันก็ใช้ได้ในทุกวงการนิครับทั้งการเมืองการทหาร ต่างประเทศ ธุรกิจการค้า มันก็ต้องใช้การโฆษณาด้วยกันทั้งนั้น ขนาดผมเองขายยาขายเวชภัณฑ์ รักษาชีวิตคนมันก็ต้องใช้ แต่ตรงนี้ผมก็ยังเข้าใจเจ้าของกระทู้ที่พูดถึงการโฆษณาชวนเชื่อทางทหารนิครับ
ส่วนตัวผมคิดว่า สหรัฐอเมริกานะครับ
เพราะธุรกิจภาพยนตร์ เพลง หรือในแวดวงสื่อสารมวลชน (เช่นข่าวที่ออกมาจากสำนักข่าวต่าง ๆ ) ส่วนหนึ่งก็เป็นการชวนเชื่อไปในที อิทธิพลของสื่อจากทางตะวันตก โดยเฉพาะสหรัฐ มีบทบาทมากในสังคมโลกปัจจุบัน
แต่ทั้งนี้ผมก็มองว่าทุกๆ ประเทศ ก็ต้องชวนเชื่อเหมือน ๆ กันอยู่แล้ว ต่างฝ่ายใครจะบอกว่าตัวเองทำอะไรผิดอยู่ล่ะครับ ก็ต้องบอกแต่ด้านดีของตัวเองทั้งนั้น ข่าวสารพวกนี้ก็รับใช้ผู้สร้างมันขึ้นมานั่นแหละครับ ส่วนที่เป็นความจริงมันก็เรียกว่าข่าวกรองหรือข้อเท็จจริงไม่ใช่เหรอครับ
กรณีอิหร่านนี่ก็ใช่เลยครับ ทั้งอังกฤษทั้งอิหร่าน ขนาดรมต.อิรักเอง ก็ยังไม่แน่ใจเลยว่าน่านน้ำนั้นมันอยู่เขตอิรักหรืออิหร่าน ความจริงเป็นอย่างไร ก็คงมีแต่ผู้ปฎิบัติ (ทั้งสองฝ่ายนั้น) ที่รู้ นอกจากรัฐบาลทั้งสองประเทศจะเอาตรงนี้ไปใช้เป็นประโยชน์แล้ว ขนาดทหารอังกฤษบางคนเองก็ใช้ประโยชน์โดยการขายข่าวแลกเงินด้วย