ผมมีแนวคิดว่าทำไมทร.ไทยเราไม่ลองใช้เรือฟรีเกตชั้น perry มาเป็นเรือฟรีเกตหลัก ดูจากสเปกเรือแล้ว ใช้เครื่องยนต์ LM-2500 แบบเดียวกับที่ทร.เราใช้ในเรือชั้นนเรศวร ระบบเรด้าร์ก็ยังคงทันสมัยอยู่ รองรับฮ. 10 ตันแบบ LAMP-3 ซึ่งเราก็มีใช้อยู่ในเรือจักรี มีความสามารถในการต่อต้านเรือดำน้ำได้ดี ส่วนการป้องกันภัยทางอากาศก็ดีใช้ได้ ทร.อาจจะทำการเปลี่ยนไปใช้ระบบ VLS Mk-41 แบบเดียวกับที่ทร.ออสเตเรียทำก้ได้ ส่วนปืน 76 มม. ก็ถอดออกไปแล้วติดตั้ง RAM แบบแท่นยิง 21 นัดแทน ผมว่ามันยังเป็นเรือที่ทันสมัยอยู่และคุ้มค่าที่จะปรับปรุงให้ทันสมัยเพื่อนำมาเป็นม้าใช้งานหลักของทร.ไทยเรา ซื้อมือสองมาราคาคงไม่แพง(เอารุ่นตัวเรือยาว) เพราะเรือชั้นนี้ถูกสร้างออกมาเป็นจำนวนมาก ทำให้ราคาต่อหน่วยถูกมาก
เห็นทร.ไต้หวันทำการซื้อสิทธิบัตรนำมาต่อเองโดยใช้อุปกรณือิเลคทรอนิครุ่นใหม่ ถือว่าทันสมัยทีเดียว เคยแม้แต่พยายามจะเอาระบบอำนวยการรบ Agis ชุดเล็กใส่เข้าไป(แต่เรือเล็กเกินไป) ผมไม่สนับสนุนให้ต่อเองใหม่ แต่สนับสนุนให้ซื้อมือสองสภาพดีมาใช้ครับ กองเรือฟรีเกตยังขาดเรือฟรีเกตอีก 8 ลำ ผมว่าเรือชั้นนี้ดูจะลงตัวกับทร.เรามากเลยนะครับ ทำการ Upgrade สักหน่อยก็หรูแล้วสำหรับทร.อาเซียน
ช่วยกันออกความคิดเห็นทีครับ และช่วยเปรียบเทียบกับแนวคิดขยายแบบเรือชั้นปัตตานีให้ใหญ่ขึ้นมาเป็น 2,000 -2,500 ตัน(ซึ่งมีขนาดเล็กกว่ามาก) แล้วต่อเองให้เป็นเรือฟรีเกตหลักของทร.เรา (แบบว่าต่อตัวเรือเอามามากๆไว้ก่อนสัก 8 ลำ มีตังค์ค่อยติดอาวุธให้ครบ) ถ้าทำแบบนี้ผมว่าทร.เราดูจะมีเรือที่เป็นแบบเดียวกันจำนวนมากและง่ายในการซ่อมบำรุงและมีระบบอาวุธเป็นมาตรฐานเดียวกัน ผมชอบแนวคิดทร.ออสเตเรียที่มีเรือฟรีเกตหลักเพียงแค่ 2 แบบเท่านั้น และเมื่อทำการต่อใหม่เพื่อทดแทนก็สามารถทำเป็นโปรเจ็คหลักในการพัฒนาอุตสาหกรรมต่อเรือได้เลย เพราะต้องต่อใหม่ทีเดียวหลายๆลำ
เรือชั้น Oliver Hazard Perry ในรุ่นลำตัวเรือยาวนั้นเริ่มต่อมาตั้งแต่ช่วงปลายปี 1970ถึงปลายปี 1980 ครับโดยเรือในชุดนี้นั้นยังจะคงประจำการในกองทัพเรือสหรัฐไปไม่น้อยกว่า 15-20ปีครับ (สหรัฐฯปลดเรือรุ่นลำตัวสั้นหมดแล้วและทำการขายต่อให้มิตรประเทศไปแล้วส่วนหนึ่ง)
การต่อเรือใหม่ที่มีการออกแบบตัวเรือที่ทันสมัยกว่า ทั้งคุณสมบัติในการลดการตรวจจับและพื้นที่ติดตั้งอาวุธนั้น น่าจะเป็นแนวทางที่ดูคุ้มค่ากว่าในระยะยาวครับ
แนวคิดการต่อเรือฟริเกตเองหลาย ๆ ลำ เริ่มตั้งแต่ต่อเรือชุด ร.ล.เจ้าพระยา ปัจจุบันยังไม่เห็นภาพฝันลาง ๆ เลยครับ...ผมเลยค่อนข้างจะยังไม่เห็นแนวโน้มในจุดนี้...เพราะแม้แต่อุตสาหกรรมการต่อเรือยกพลขึ้นบก กองทัพเรือก็สนับสนุนอู่ต่อเรือภายในประเทศ เช่น ร.ล.สุรินทร์ โดย บริษัท อู่กรุงเทพ จำกัด...แต่ก็ยังไม่สามารถพัฒนาไปจนถึง เรือสนับสนุนแบบ ร.ล.สิมิลัน ที่ต้องไปว่าจ้าง ประเทศจีน ได้...ในระยะอันใกล้ ผมว่า คงต้องว่าจ้างประเทศอื่นต่อเรือฟริเกตต่อไป...และด้วยจำนวนประมาณกว่า 8 ลำ ในนโยบายซื้อเงินสดแบบปัจจุบัน...ผมว่าถ้าได้ใหม่ ๆ สัก 2 ลำ คงจะอลังการงบประมาณน่าดูเชียวครับ...
สุดท้าย ผมว่า นโยบายซื้อเรือเก่า คงยังจะต้องใช้ต่อไปในระยะอันใกล้นี้ ในจำนวน 2-4 ลำ ที่แต่เดิม เราเคยต้องการเรือชั้น น๊อกซ์ ถึง 4 ลำ แต่มีงบประมาณจัดหามาได้แค่ 2 ลำ ทั้ง ๆ ที่ ถ้าผมเข้าไม่ผิดจ่ายตังค์แค่ลำเดียวประมาณ 17 ล้านเหรียญ ส่วนอีกลำ เขาให้ฟรี...ในช่วงเวลานั้นที่เกิดภาวะวิกฤตช่วงปี 2539-2540...กองทัพเรือก็จัดหามาได้แค่นั้นคือ 2 ลำ....ซึ่งผมก็มองอนาคตเศรษฐกิจอนาคตข้างหน้า คงจะหวังไม่ค่อยได้สำหรับงบประมาณเรือใหม่ ในจำนวนที่มากกว่า 2 ลำ....
เรือรบเก่า ผมว่าคงต้องมาแน่ ๆ ตอนนี้ผมขอเดาว่า เรือรบเก่า อังกฤษ น่าจะอยู่ในสายตาพอสมควร แต่ผมขอไปหาข้อมูลก่อนครับ...จะได้เป็นตัวเลือก แต่ถ้าท่านใดทราบข้อมูล เรืออังกฤษ ก็ช่วยชี้แจงด้วยครับ...เพราะผมก็ชักขี้เกียจหาเหมือนกัน 5 5 5 5 5....
.............หากเราจะนำเข้าประจำการเรือชั้นนี้เป็นเรือหลักแทนการต่อเรือใหม่เข้ามา คงไม่คุ้มในการอัพเกรดนะผมว่าในระยะยาว เช่นแบบที่คุณ AAG_th1 และ juldas กล่าวไว้น่ะครับ แต่หากต้องพึ่งเรือกลางเก่าแบบนี้จริงๆ( ไม่เน้นจากว่ามาจากอังกฤษหรือ อเมริกา )ควรนำเข้าประจำการ2ถึง 4ลำก็พอมั้งครับโดยรวมๆกล่าวถึงเรือยุคหน้าที่มีระบบลดการตรวจจับเรดาห์ที่เรือชั้นนี้ไม่มี แล้วใช้ต่อเรือจากจีนก็ได้ แบบเรือชุด นเรศวร ให้มีการลดการตรวจจับเรดาห์ลงไป แต่วางระบบการติดตั้งอาวุธแต่ล่ะจุดให้ดี อย่าให้ทับเส้นกันแบบที่ผ่านๆมา
.....ความเห็นส่วนตัวครับ
ขอบคุณครับสำหรับทุกความเห็น ที่ผมเสนอเรื่องนี้ขึ้นมานั้นเพราะมานั่งคิดแล้ว ไม่นานเราคงต้องจัดหาเรือฟรีเกตมาใหม่เพราะ "อาจจะมีความจำเป็น" และเห็นตัวเลขจำนวนเรือที่ต้องปลดและจำนวนเรือที่ยังขาดไปจากเป้าเดิมแล้วน่าจะอยู่แถวๆนี้
แต่ราคา 17 ล้านเหรียญสำหรับสองลำนี่ถูกเป็นขี้เลย ราคาพอๆกับ AH-1S เพียงลำเดียว ดังนั้นถ้างบประมาณขัดสนและเกิดความจำเป็นเร่งด่วนจะต้องใช้ขึ้นมา ผมสนับสนุนเรือชั้นนี้ครับ แต่ถ้าการเงินสะดวกและไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนกระทันหัน ผมก็ขอสนับสนุนการต่อเรือใหม่เองครับ
เห็นด้วยกะคุณนีโอสยาม เรือชั้นโอลิเวอร์ฯ ยังมีดีอีกมาก อย่าดูถูกกาน ขนาดชั้นน๊อกซ์เก่ากว่าอุปกรณ์ยังเจ๋งอ่ะ ระบบอาวุธดูน่าเกรงขาม แม้อาจไม่เท่าของทัพเรือพี่มาเลเซียกะพี่ลอดช่องก็ตามเหอะ แต่ถ้าวางกำลังให้เหมาะสมก็สามารถคุ้มครองดูแลทะเลฝั่งที่ติดกะพี่หม่องได้อย่างไม่ยากเย็น แถมเอาไปร่วมฝึกปฎิบัติการกะมหามิตรได้อย่างเข้าอกเข้าจายกานดี
ส่วนถ้ามีงบประมาณพอสมควร สมควรนำเอาแบบเรือปัตตานี และนเรศวรมาปรับปรุงต่อเองภายในประเทศ อย่าเพิ่งคาดหวังว่ามานจาออกมาได้ตามหวังทั้งร้อย แต่ถ้าหากไม่เริ่มเราก็ต้องเอาจมูกจีนจมูกฝรั่งมาหายใจอยู่ร่ำไป กองทัพเรือที่ควรจะแข็งแกร่งก็โดนตอนให้แคระแกน เราต้องมีประสบการณ์ต่อเรือกันเองบ้างเกาหลี ญี่ปุ่น จีน ก็เริ่มจากตรงนี้ หากไม่ยอมเริ่มเสียก็ไม่มีวันเกิด
อู่ต่อเรือเอกชนอ่ะสนใจอยู่แล้ว แต่ขอปริมาณที่มากหน่อยพอที่จะทำให้ธุรกิจมีกำลังมากขึ้นพร้อมลงทุนพัฒนามากขึ้น ต่อชั้นละ 8-10 ลำ แล้วพัฒนาการติดตั้งอาวุธไปเรื่อยๆ รับรองเราทำได้แน่ๆ อนาคตเราจะเห็นกองทัพเรือของเรากลับมาเชิดหน้าชูตา อย่าลืมว่าทุกวันนี้ผลประโยชน์ของชาติทางทะเลมากขึ้น ต้องคอยดูแล แม้ไม่ได้รบกันจริงๆ แค่เห็นเรือเราน่าเกรงข้ามจำนวนมากๆ เค้าก็เกรงใจแล้ว
ไปดูเรือเก่าอังกฤษมาแล้ว...แพงจัง...
ทร.ชิลี ซื้อ 3 ลำ Type 23 มูลค่า 350 ล้านเหรียญ ปัจจุบันอัตราแลกเปลี่ยนที่ 32.55 บาท/เหรียญ ก็เท่ากับ 11,400 ล้านบาท ตกลำละ 3,800 ล้านบาท เรือเก่าเขา 1 ลำ เท่ากับ ร.ล.นเรศวร 2 ลำ ไม่มีออฟชั่นเชียว...เอ...หรือว่า เราซื้อของถูกจนเคยตัวหว่า....
กลับไปหาข้อมูลมา..
มาเลเซีย ซื้อเรือดำน้ำชั้น Scorpene จำนวน 3 ลำ มูลค่า 1,100 ล้านเหรียญสหรัฐ อัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบัน 1 เหรียญ เท่ากับ 32.55 บาท ก็ตกประมาณ 35,800 ล้านบาท ตกลำละประมาณ 11,900 ล้านบาท (สมัยทำสัญญาเงินบาทน่าจะอยู่ประมาณ 40 กว่าบาท อู้วววส์)
มาเลเซีย จัดหาเรือคอร์เวต ชั้น Meko A-100 จำนวน มูลค่า 5,350 ล้านริงกิตมาเลเซีย อัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบัน 1 ริงกิตมาเลเซีย เท่ากับ 9.46 บาท ก็ตกประมาณ 50,590 ล้านบาท ตกลำละประมาณ 8,430 ล้านบาท (สมัยทำสัญญาไม่ทราบว่าอัตราแลกเปลี่ยนเท่าไหร่)
เดี๋ยวนี้ เรือฟริเกต ใหม่ ๆ ลำหนึ่ง เกือบ 10,000 ล้านบาท แล้วเหรอครับเนี่ย....ผมไม่ได้สนใจขนาดนี้เชียววววว...คิดแล้วผมเหนื่อยเจงงงงงง ๆ...อนาคต ตรูจะถูกรีดภาษีอีกเท่าใดฟร่ะเนี่ยยยยยยย.....เฮ่ออออ...อนาคตถ้ารัฐบาลหาเงินไม่เก่งซะแล้ว....สงสัย ทหารเรือขัดสนิมเรือเก่า...กันหัวบาน หน้าด๊ำ..ดำ เชียวล่ะ....
ข่าวว่า ทร.เคยพิจารณาข้อเสนอเกี่ยวกับเรือ OHP มาเมื่อเกือบสิบปีที่แล้ว ตอนเมกาทยอยปลดประจำการใหม่ๆ ถึงแม้ว่าเรือจะไม่กี่ตังค์ แต่ operating cost มหาศาล เพราะเครื่องจักรใหญ่เป็นแก้สเทอร์ไบน์ LM2500 ทั้งคู่ (เป็นCOGAG-ไม่มีเครื่องดีเซลสำหรับทำความเร็วมัธยัสถ์ (เรือชุดนเรศวร,จักรีฯ เป็น CODOG ชุด รล.เจ้าพระยาเป็น CODAD เมกาลงเครื่อง Gas Turbine ทั้งคู่โดยหวังให้ manneuver มีประสิทธิภาพเต็มที่ในการต่อกรกับเรือ ด.ใหม่ๆของค่ายหมีในขณะนั้น) ทร.งบน้อยๆอย่างไทยคงต้องพึ่งการใช้เรือใหญ่ ย.ดีเซลในการลาดตระเวณไปก่อน เอวังเลยมีด้วยประการฉะนี้ครับ