หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


ฮ.พระที่นั่ง SUPER PUMA กับเครื่องบิน ?ไทยคู่ฟ้า?-ทักษิณ

โดยคุณ : โต้ง เมื่อวันที่ : 14/04/2007 06:34:53

ขอร้องนะครับ โปรดแสดงความคิดเห็น กับข้อความที่ผมนำมาจาก Web ผู้จัดการนี้ ตามกติกามารยาท ที่ TFC กำหนดไว้

กติกาและมารยาท

หมายเหตุ ออกตัวไว้ก่อนว่า ผมมิได้ชื่นชอบ Web. ผู้จัดการ แต่ผมก็เข้าไปอ่านเป็นประจำ อ่านแล้วก็ใช้วิจารณญาน ของตนเองว่าจะเชื่อหรือไม่ และชอบนำคอลัมภ์ของ สปาย หมายเลขหก มาให้เพื่อน ๆ จับผิด เพื่อพิจารณาว่า มีอะไรบ้างที่เป็นข้อมูลจริง และอะไรบ้างที่เต้าข่าว ซึ่งก็มีทั้งจริง และเต้าข่าว ครับ

ฮ.พระที่นั่ง SUPER PUMA กับเครื่องบิน ?ไทยคู่ฟ้า?-ทักษิณ
โดย สปาย หมายเลขหก 12 เมษายน 2550 15:12 น.
       เมื่อนายเสริมเกียรติ วรดิษฐ์ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญา มีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพรวม 3 คดีขั้นตอนตามการปฏิบัติ คือ ต้องส่งสำนวนการสอบสวนและความเห็นไปให้ทางตำรวจที่เป็นพนักงานสอบสวน โดย พล.ต.ต.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส รักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะเป็นผู้พิจารณาสำนวนในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน ถ้าหาก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ มีความเห็นแย้งคือเห็นว่า สมควรสั่งฟ้อง เพราะคดีมีน้ำหนักหลักฐานแน่นหนาพอ ก็ต้องเข้าสู่การพิจารณาของผู้เป็นอัยการสูงสุด และความเห็นของอัยการสูงสุดถือเป็นเด็ดขาด แต่หากว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เห็นพ้องไม่มีการแย้ง เรื่องก็จบ, โดยคดีเหล่านี้ยังมีขั้นตอนอยู่อีกระหว่างตำรวจและอัยการ แต่อย่างไรก็ตาม คำวินิจฉัยของอัยการก็มีการกล่าวถึงว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ใช้คำพูดที่ไม่สมควรและหมิ่นเหม่ ซึ่งก็น่าจะเป็นความพอใจในระดับหนึ่ง และสะท้อนให้เห็นบางอย่างได้มาก เพราะผู้ที่พูด หรือผู้ต้องหาที่ถูกกล่าวหานี้ เป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ในขณะที่พูดหรือกระทำนั้น
       
        สิ่งที่เป็นบรรทัดฐานในขณะนี้, คือ การที่อัยการเห็นว่า เป็นคำพูดหรือการกระทำที่ไม่เหมาะสมของอดีตนายกรัฐมนตรี
       
        มีอยู่บางเรื่องซึ่งเห็นว่า ?ไม่เหมาะสม? โดยสังคมเป็นผู้พิจารณาแล้วจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต ซึ่งเป็นข่าวเปิด คือมีการกล่าวถึง เป็นข่าวสาธารณะออกไปแล้วในช่วงนั้น เช่น มีการนำ เฮลิคอปเตอร์ ของกองทัพอากาศ คือ ซูเปอร์พูม่า (SUPER PUMA) ที่ทหารอากาศเรียกว่า ?ฮ. 9? ไปเป็นพาหนะของนายกรัฐมนตรี และต่อมา ฮ. 9 จำนวน 2 เครื่อง ที่ถูกนำไปตีราคา และนำมูลค่าของการตีราคานี้ไปบวกกับเงินงบประมาณอีกก้อนหนึ่ง เพื่อการสั่งซื้อเครื่องบินโดยสารแอร์บัสจากฝรั่งเศส แล้วเข้ามาเป็นพาหนะสำหรับนายกรัฐมนตรี ซึ่งรู้จักกันดีว่า คือเครื่องบินที่ชื่อ ?ไทยคู่ฟ้า? ติดเครื่องหมายสำนักนายกรัฐมนตรี แทนที่จะเป็นเครื่องหมายอื่นๆ โดยมีกองทัพอากาศเป็นผู้ดูแล เครื่องบินประจำตัวนายกรัฐมนตรีผู้นี้ มีผู้เรียกว่าเป็นแอร์ ฟอร์ซ วัน (AIR FORCE 1) แบบเดียวกับที่เรียกกับเครื่องบินประจำตัวประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา แต่ทางสหรัฐฯ ก็ใช้รหัสคำเรียกขานว่าเป็นเครื่องบินของกองทัพอากาศ ไม่ได้ตั้งชื่อว่า ?ไวท์ เฮาส์? แต่อย่างใด ไม่เหมือนกับของเราที่ใช้ชื่อว่า ไทยคู่ฟ้า
       
        ฮ. 9 หรือซูเปอร์พูม่านั้น เป็นเฮลิคอปเตอร์พระราชพาหนะที่ใช้งบประมาณจัดหามาโดยเฉพาะ และได้ถวายทรงใช้งานเป็นเที่ยวบินแรก ก็ประสบเหตุที่สะเทือนใจเป็นอย่างยิ่ง เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2540 เวลา 19.42 น. ที่ยอดเขาบ้านไอกาเปาะ ตำบลภูเขาทอง อำเภอสุคิริน จังหวัดนราธิวาส บริเวณพิกัด 05 องศา 89 ลิปดา 33 ฟิลิปดาเหนือ และ 100 องศา 43 ลิปดา 40 ฟิลิปดาตะวันออก โดยเฮลิคอปเตอร์หมายเลข 2 ในขบวนเสด็จฯ ของ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ชนกับภูเขาที่มีความสูง 830 ฟุต จุดชนต่ำกว่ายอดเขาประมาณ 30 ฟุต นักบินและข้าราชบริพารผู้ตามเสด็จฯ รวมทั้งทหารราชองครักษ์เสียชีวิต 14 คน บาดเจ็บสาหัส 7 คน เฮลิคอปเตอร์ ฮ. 9 หมายเลขกองทัพอากาศ 3/40 เสียหายขั้นจำหน่าย
       
        ต่อจากนั้น ฮ.ซูเปอร์พูม่า หมายเลข 1 ซึ่งเป็น ฮ.พระที่นั่งฯ และหมายเลข 3 ที่ยังเหลืออยู่ก็ไม่ได้ขึ้นบินเป็นพระราชพาหนะอีกเลย, จนกระทั่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มาเป็นนายกรัฐมนตรี พล.อ.อ.คงศักดิ์ วันทนา ผู้บัญชาการทหารอากาศในขณะนั้น ได้เสนอว่า สมควรที่จะมีการปรับปรุง และนำมาเป็นเฮลิคอปเตอร์พาหนะของนายกรัฐมนตรี และบุคคลสำคัญ (ฮ. VIP) ได้มีการใช้เงินก้อนใหญ่เพื่อการปรับปรุงดังกล่าว และ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ใช้เป็นพาหนะในการเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และใช้อยู่เพียงเที่ยวบินเดียวคือ ไป-กลับ, ก็ไม่ได้มีการใช้อีก ฮ. 9 จำนวน 2 เครื่องนั้นไปจอดเก็บอยู่ที่ฝูงบิน 202 กองบิน 2 จังหวัดลพบุรี ที่สังกัดอยู่ เนื่องจากเป็นเครื่องใหม่ จะต้องมีหน้าที่และภารกิจทางกองทัพอากาศ จึงจัดไว้เป็นเฮลิคอปเตอร์พยาบาลและสนับสนุนการกู้ภัยทางอากาศไปพลางก่อน แต่มิได้นำออกปฏิบัติการเช่นว่านั้นเลย ได้รับการดูแลปรนนิบัติบำรุงเป็นเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งอยู่ตามปกติ มีความพร้อมที่จะปฏิบัติตามพระราชประสงค์เมื่อทรงเรียกใช้อีก
       
        ความ ?ใหม่? ของเฮลิคอปเตอร์ฝูงนี้ที่มีอยู่ทั้งสิ้น 3 เครื่อง ประสบอุบัติเหตุชนภูเขาไป 1 เครื่องดังกล่าว จึงเหลืออยู่ 2 เครื่อง พอจะเปรียบเทียบกับเครื่องที่ตกได้ ซึ่งมีประวัติอากาศยานปรากฏอยู่ คือ
       
        เป็นเฮลิคอปเตอร์แบบที่ 9 (SUPER PUMA) หมายเลขลำดับ (S/N) 2455 หมายเลขกองทัพอากาศ 3/40 บรรจุเข้าประจำการในกองทัพอากาศ เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2540 อายุการใช้งานนับแต่สร้าง 41.2 ชั่วโมง เครื่องยนต์แบบ TURBOMECA MAKILA จำนวน 2 เครื่องยนต์, โดยเครื่องยนต์ที่ 1 หมายเลขลำดับ 3055 เครื่องยนต์ที่ 2 หมายเลขลำดับ 3056 มีอายุการใช้งานนับแต่วันสร้างจนถึงวันเกิดอุบัติเหตุ (TIME SINCE NEW) 41.2 ชั่วโมง
       
        เฮลิคอปเตอร์ใหม่ทั้ง 2 เครื่อง คือหมายเลข 1 ซึ่งเป็นเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่ง และหมายเลข 3 ซึ่งใช้เป็นพาหนะในขบวนเสด็จฯ ได้มีการปรับการใช้งานเป็นเฮลิคอปเตอร์ของนายกรัฐมนตรีไป 1 เครื่อง และอีก 1 เครื่องเป็นเครื่องสำรอง ได้มีการใช้งานจริง คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นำไปใช้ในการเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปหัวหิน-หัวหินกลับกรุงเทพฯ และไม่ได้ใช้งานอีก เพราะมีการทักท้วงวิพากษ์วิจารณ์กันมากเรื่อง ?ความเหมาะสม?
       
        พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งขณะนั้นเป็นรองนายกรัฐมนตรีในรัฐบาล ?ทักษิณ? ได้แสดงออกถึงความไม่พอใจในสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ ด้วยการให้สัมภาษณ์แบบพาดพิง หรือเกือบจะเป็นการตรงตัวเชิงตำหนิว่า
       
        ตนเองไม่กล้าที่จะนำ ฮ.พระที่นั่งไปใช้ กลัวเหากินหัว...
       
        ต่อจากนั้น, เฮลิคอปเตอร์ซูเปอร์พูม่าทั้ง 2 เครื่อง ก็ได้ถูกสำนักนายกรัฐมนตรี และกองทัพอากาศซึ่ง พล.อ.คงศักดิ์ วันทนา เป็นผู้บัญชาการทหารอากาศในขณะนั้น นำเข้าสู่การจัดหาเครื่องบินพาหนะของนายกรัฐมนตรีและบุคคลสำคัญ ด้วยการที่สำนักนายกรัฐมนตรีจัดงบประมาณมาก้อนหนึ่ง และกองทัพอากาศได้นำฮ.ซูเปอร์พูม่าที่มีอยู่ 2 เครื่อง ให้บริษัทแอร์บัสของฝรั่งเศสประเมินเป็นราคา แล้วนำเงินเข้าสมทบกับงบประมาณของสำนักนายกรัฐมนตรี จัดเข้าเป็นเงินก้อนแรกในการจัดหา เท่ากับว่า ฮ.ซูเปอร์พูม่า 2 เครื่องนั้นถูกขาย และนำเงินมาสมทบจัดหาเครื่องบินให้เป็นพาหนะของนายกรัฐมนตรี โดยที่บริษัทผู้สร้างซูเปอร์พูม่าก็เป็นของฝรั่งเศส, แอร์บัสก็เป็นของฝรั่งเศส จึงตกลงกันได้โดยง่าย อันเป็นที่มาของเครื่องบิน ?ไทยคู่ฟ้า?
       
        สำหรับสนนราคาของ ฮ.ซูเปอร์พูม่า 2 เครื่องนั้น ทั้งๆ ที่เป็นของใหม่ ชั่วโมงบินยังไม่ถึง 50 ชั่วโมง ได้ถูกตีราคาเป็นของเก่า ราคาที่ได้มานั้นอยู่ประมาณเศษหนึ่งส่วนสามของราคาที่ซื้อมาครั้งแรก
       
        แต่ไม่ใช่เพราะราคาที่ไม่เหมาะสม ถูกตีราคาต่ำกว่าเป็นจริงมาก, ความเหมาะสมอยู่ที่ว่าควรจะมีวิธีการ หรือการกระทำเช่นนั้นหรือไม่ต่างหาก
       
        รายงาน ?ลึก-หกสิบ, ลับ-สี่สิบ? นี้, ขอกล่าวถึงแต่ในประเด็นความเหมาะสมเท่านั้น ซึ่งถือเป็นประเด็นสำคัญที่ต้องมีคำถามต่อสำนักนายกรัฐมนตรีและกองทัพอากาศว่า ดำเนินการไปอย่างเหมาะสม รอบคอบ ถูกควรอย่างไร? ผู้ที่จะให้คำตอบอย่างตรงๆ ได้ก็เห็นจะเป็น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และ พล.อ.อ.คงศักดิ์ วันทนา ผู้บัญชาการทหารอากาศในขณะนั้น ซึ่งต่อมาได้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในรัฐบาลระบอบทักษิณ จนถึงช่วงสุดท้ายหรือถึงวาระสุดท้ายไปด้วยกัน
       
        สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ ไม่เป็นเรื่องที่ได้รับการกล่าวถึงกันมากนัก ซึ่งอาจจะเป็นเพราะขณะที่มีการกระทำอยู่นั้น กระแสของอำนาจระบอบทักษิณมีอยู่อย่างเต็มที่อย่างหนึ่ง, และอีกอย่างหนึ่งคือ เป็นเรื่องภายในของทหารที่ข้อมูลรายละเอียดต่างๆ ออกมาภายนอกได้ยาก เหตุการณ์จึงผ่านไปโดยเกือบจะกลายเป็นเรื่องปกติ ทั้งๆ ที่ใน 2 ประเด็นข้างต้นนี้ มีความเพียงพอที่จะกล่าวถึงในประเด็นที่อ่อนหรือจางที่สุดคือ เป็นการกระทำที่มีความเหมาะสมหรือไม่? ซึ่งถึงเวลาที่จะต้องย้อนกลับมาพิจารณากันถึงเรื่องนี้อย่างละเอียด จากสิ่งที่เกิดขึ้น
       
        ในฐานะที่เป็น ?นายกรัฐมนตรี? ผู้บริหารราชการแผ่นดิน ย่อมจะต้องเป็นผู้รู้หลักการแบบธรรมเนียมความผิดถูกโดยสามัญสำนึก ซึ่งความถูกต้องเหมาะสมเป็นสิ่งที่ตนเองบอกกับตนเองได้
       
        นับตั้งแต่การที่ได้นำ ฮ.ซูเปอร์พูม่า เครื่องหนึ่งมาปรับปรุงตกแต่ง และนำมาใช้งาน แม้ว่าทางกองทัพอากาศจะเป็นผู้จัดแจงในเรื่องนี้ แต่งบประมาณเป็นของสำนักนายกรัฐมนตรีที่ต้องผ่านความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีต้องรู้อยู่ว่า ฮ.ที่จะนำมาปรับปรุงนั้น อยู่ในฐานะใด?
       
        แม้ว่าจะไม่ได้ใช้งานจอดเฉยๆ อยู่ก็ตาม ก็ไม่สมควรที่ผู้อื่นจะนำไปใช้งานได
       
        ประเด็นที่เกี่ยวกับการนำ ฮ.ซูเปอร์พูม่าที่เหลืออยู่ 2 เครื่องไปแปรงสภาพเป็นเงินสำหรับการจัดหาเครื่องบินแอร์บัส ?ไทยคู่ฟ้า? ก็มีความชัดเจนอยู่ว่า ฮ.นั้นเป็น ฮ.ที่มีภารกิจอะไรถึงแม้ว่าจะยังไม่มีการนำมาใช้ใหม่อีก แต่ควรจะปฏิบัติอย่างถูกต้องสมควร และด้วยความเคารพ ว่าสมควรที่จะนำไปแลกหรือตีราคาสำหรับมาเป็นเครื่องบิน ?ไทยคู่ฟ้า? หรือไม่?
       
        อีกทั้งมีข้อมูลที่เพิ่งจะมีการหลุดออกมาจากกรอบของการ ?ปกปิด?

       
        ในเรื่องการจัดหา ฮ.พระที่นั่งนี้, ซึ่งกองทัพอากาศได้พิจารณามาเป็นการล่วงหน้าเป็นเวลานาน และด้วยความรอบคอบมีการกำหนดว่า เมื่อถึงเวลาที่จะต้องจัดหาให้ยึด ฮ.แบบ ?EH-1H? แต่แล้ว เมื่อถึงเวลาที่ต้องพิจารณาจัดหากลับมาเป็น ฮ.ของฝรั่งเศสแบบ ?ซูเปอร์พูม่า? ท่ามกลางเสียงคัดค้านจำนวนมากว่าไม่เหมาะสมนั้น
       
        มี ?สิงคโปร์? เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่?
       
        โดยที่กองทัพอากาศสิงคโปร์ใช้เครื่องบินตระกูล ?พูม่า? ของฝรั่งเศสเป็นหลักอยู่ ทางผู้ผลิตในฝรั่งเศสต้องการจะให้ ?พูม่า? เข้ามาทำตลาดในเอเชียแทนเครื่องบินของสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะของเบลล์ (BELL) ซึ่งครองตลาดอยู่ สิงคโปร์ได้พยายามหรือมีส่วนช่วยในการให้กองทัพอากาศไทยตัดสินใจเลือกแบบ ฮ.พระที่นั่งเป็นแบบซูเปอร์พูม่านี้หรือไม่? และที่สำคัญที่สุด คือ มีนักธุรกิจคนไทยคนหนึ่ง ซึ่งมีการติดต่ออยู่กับบริษัทในสิงคโปร์อย่างแนบแน่นใกล้ชิด ได้มีส่วนช่วยสนับสนุนให้มีการเลือกแบบเป็นซูเปอร์พูม่านี้หรือไม่?
       
        นักธุรกิจที่ติดต่อประสานอยู่กับสิงคโปร์จะเป็นอย่างที่มีการพูดถึงหรือสืบสาวกันไปประการใดเป็นเรื่องที่ต้องยกเว้นไว้ ไม่มีการกล่าวถึงอย่างชัดเจนได้ นอกเสียจากจะเป็นการตั้งข้อสังเกตไว้ในชั้นแรกเพียงเท่านี้ ถ้าหากว่าไม่มีความเกี่ยวข้องรู้เห็น หรือเป็นผู้ประสานในการขาย หรือการตกลงใจเลือกแบบ ก็แล้วไป...
       
        การตั้งข้อสังเกตนี้ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญมาก
       
        เพราะในการบินถวายฯ เที่ยวแรก และ ฮ.ในขบวนเสด็จฯ ของ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ นั้น คือ ฮ.หมายเลข 1 ของขบวนก็เสียความสูงหรืออยู่ในลักษณะที่น่าตระหนกอย่างยิ่ง ฮ.หมายเลข 1 ซึ่งเป็น ฮ.พระที่นั่ง ก็เกือบจะประสบอุบัติเหตุ หรือเกิดอุบัติเหตุขึ้นแล้ว แต่มีความเสียหายไม่มากนัก จากการที่ส่วนหางของ ฮ.พระที่นั่ง ได้เฉี่ยวยอดไม้จนชำรุดเสียหาย แต่ก็ยังทำการบินต่อไปได้อย่างปลอดภัยด้วยเดชะพระบารมี แต่ ฮ.หมายเลข 2 ที่บินตามมา ได้พุ่งเข้าชนภูเขาดังกล่าว
       
        ทั้งหมดเป็นอุบัติการที่เกิดขึ้น ที่จะโยงใยมาถึงการปฏิบัติอย่าง ?ไม่เหมาะสม? ในเวลาต่อมา ดังที่เป็นรายงานข้างต้นนี้แล้ว โดยที่รายงานนี้มุ่งแต่ประเด็น 2 ประการในการปฏิบัติอย่างไม่เหมาะสมเท่านั้น แต่ต้องมีสิ่งอื่นๆ เข้ามาประกอบเพื่อให้เห็นความเป็นมาตามสมควรต่อความเข้าใจเท่านั้น





ความคิดเห็นที่ 1


ผมว่ากรณีนี้ตอบยากนะครับท่านโต้ง จะไม่อิงการเมือง แต่ข้อความทั้งหมดก็โจมตีเรื่องการเมืองเป็นสำคัญ

ถ้ามองในมุมมองผม ก็ตอบได้ว่า

ผมไม่เห็นว่าจะทำอะไรที่ผิดพลาดร้ายแรงครับ ในเมื่อ ฮ ทั้ง 2 เครื่องที่เหลืออยู่แม้จะเป็นเครื่องพระราชพาหนะ แต่ในเมื่อประสบอุบัติเหตุ 1 เครื่อง ซึ่งตอนนั้นทราบว่าเครื่องเสียเลยตกลง ไม่ใช่บินไปชน (ถ้าผิดขออภัย) ดังนั้นจึงระงับบินหมดทั้ง 2 เครื่องที่เหลือ ถ้าเป็นผมเอง ผมก็ไม่กล้าที่จะนำมาใช้งานในภารกิจเดิมแล้วครับ ดังนั้นการนำ ฮ ที่เราประเมินแล้วว่าไม่เหมาะสมกับภารกิจ มาใช้ในทางอื่นผมว่า ไม่น่าใช่ความผิด แล้วการนำไปขาย เพื่อเปลี่ยนเป็นเครื่องบินไทยคู่ฟ้าผมเองก็มองว่าไม่ใช่เรื่องแปลก ในเมื่อต่างประเทศก็มีเพื่อความคล่องตัว

แต่สิงที่ผมสังเกตุเห็นคือ ไม่มีการพูดถึงเรื่องเครื่องบินราชพาหนะลำใหม่ ที่กำลังจะเข้าประจำการเลย มันดูเหมือนการตั้งใจจะทำให้เป็นความผิดมากกว่า

โดยคุณ TIGGER03 เมื่อวันที่ 12/04/2007 23:37:16


ความคิดเห็นที่ 2


โดยส่วนตัวผมมองประเด็นที่ว่า ในขณะนั้น ฮ.9 ได้ถูกถอดออกจากการเป็นพระราชพาหนะ แล้วหรือยัง  แม้จะไม่เหมาะสมต่อภารกิจ แต่คำถามคือ ได้ถูกถอดแล้วหรือยัง มีการจำหน่ายออกไปยังส่วนอื่นแล้วหรือยัง  ถ้าทำแล้ว แน่นอนไม่มีปัญหา แต่ถ้ายัง ก็ไม่เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง ที่อดีตนายก จะนำมาใช้เอง

" ต่อจากนั้น ฮ.ซูเปอร์พูม่า หมายเลข 1 ซึ่งเป็น ฮ.พระที่นั่งฯ และหมายเลข 3 ที่ยังเหลืออยู่ก็ไม่ได้ขึ้นบินเป็นพระราชพาหนะอีกเลย, จนกระทั่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มาเป็นนายกรัฐมนตรี พล.อ.อ.คงศักดิ์ วันทนา ผู้บัญชาการทหารอากาศในขณะนั้น ได้เสนอว่า สมควรที่จะมีการปรับปรุง และนำมาเป็นเฮลิคอปเตอร์พาหนะของนายกรัฐมนตรี และบุคคลสำคัญ (ฮ. VIP) ได้มีการใช้เงินก้อนใหญ่เพื่อการปรับปรุงดังกล่าว และ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ใช้เป็นพาหนะในการเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และใช้อยู่เพียงเที่ยวบินเดียวคือ ไป-กลับ, ก็ไม่ได้มีการใช้อีก ฮ. 9 จำนวน 2 เครื่องนั้นไปจอดเก็บอยู่ที่ฝูงบิน 202 กองบิน 2 จังหวัดลพบุรี ที่สังกัดอยู่ เนื่องจากเป็นเครื่องใหม่ จะต้องมีหน้าที่และภารกิจทางกองทัพอากาศ จึงจัดไว้เป็นเฮลิคอปเตอร์พยาบาลและสนับสนุนการกู้ภัยทางอากาศไปพลางก่อน แต่มิได้นำออกปฏิบัติการเช่นว่านั้นเลย ได้รับการดูแลปรนนิบัติบำรุงเป็นเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งอยู่ตามปกติ มีความพร้อมที่จะปฏิบัติตามพระราชประสงค์เมื่อทรงเรียกใช้อีก   " 

ผมให้ความสำคัญกับเนื้อความตอนนี้ครับ
ถ้ายังคงเป็นเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งอยู่ เหตุใด บุคคลอื่นจึงสามารถนำไปใช้ได้

ต้องมีหลักฐานหรือเหตุผลอธิบายว่า เฮลิคอปเตอร์ได้ถูกจำหน่ายจากการเป็นเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งแล้วอันนี้ถึงจะมีเหตุมีผลในการนำไปใช้ได้

ถ้าจริง ก็จะยอมรับว่า เป็นเรื่องโจมตีทางการเมือง

ถ้าเพียงแต่บอกว่า ได้ถูกนำไปใช้ในภารกิจอื่น แต่ยังขึ้นทะเบียนเป็นเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งอยู่ อันนี้ไม่ใช่เรื่องการเมือง  แต่เป็นเรื่องมิบังควร และควรเป็นความผิดด้วย

ส่วนเรื่อง การนำ ฮ.9 ไปรวม กับงบจัดซื้อเครื่องไทยคู่ฟ้า ข่าวนี้เคยอ่านนานมากแล้ว ขณะนั้นก็กำลังมีการจัดหาเครื่องบินพระที่นั่งลำใหม่ด้วยเหมือนกัน เหตุใดจึงไม่นำ ฮ.9 ไปรวมกับงบจัดหา เครื่องบินพระที่นั่งลำใหม่ แต่กลับไปรวมกับเครื่องไทยคู่ฟ้า

การมีเครื่องไทยคู่ฟ้า นั้น ผมไม่ได้มองว่าเป็นเรื่องผิดอะไร ถ้าหากจำเป็นต้องมี ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก การจัดหาก็ใช้งบของสำนักนายก สิครับ แต่เรื่องการนำ ฮ. 9 ไปแปลง บวกเงินได้เครื่องไทยคู่ฟ้ามา แปลกมากกว่า

เหตุที่ไม่มีการกล่าวถึงเรื่องเครื่องบินราชพาหนะลำใหม่นั้น ผมมองว่า เรื่องนี้ตั้งใจนำเสนอเรื่อง ฮ.9 กับเครื่องไทยคู่ฟ้า ไม่ได้จงใจนำเสนอเรื่องเครื่องบินราชพาหนะลำใหม่   การไม่มีเรื่องดังกล่าว จึงไม่ใช่เรื่องแปลก และไม่คิดว่าเป็นการโจมตีทางการเมืองแต่อย่างใดครับ

โดยคุณ ลุงหมี เมื่อวันที่ 13/04/2007 00:30:38


ความคิดเห็นที่ 3


เอ ความจริงเครื่องบินพระที่นั่งที่ถูกลดระดับลงมาเพราะอายุเกิน 10 ปีก็จะให้บุคคลสำคัญตั้งแต่นายกรัฐมนตรีนั่งไปได้น่ะครับ (เป้นเครื่องบินลำเลียงบุคคลสำคัญ) โดยยังคงเป็นเครื่องบินพระที่นั่งสำรองอีกด้วย และยังประจำการอยู่ในฝูงบินเดิม เพียงแต่อาจจะเปลี่ยนหมายเลขออกไป

อย่างสมัยอดีตนายกก็เคยใช้นั่งไปอินโดนิเซียหรือไงนี่แหละครับ ส่วนในสมัยรัฐบาลปัจจุบันท่านนายกรัฐมนตรีก็ใช้นั่งไปญี่ปุ่นเมื่อเร็ว ๆ นี้

ไม่ได้การเมืองนะครับ อันนี้พูดเรื่องวิชาการล้วน ๆ แต่ถ้าความเห็นของผมผิด ยังไงช่วยตรวจแก้ด้วยครับ

โดยคุณ Skyman เมื่อวันที่ 13/04/2007 00:49:43


ความคิดเห็นที่ 4


ฮ.9 เข้าประจำการปี 2540 นิครับ

แต่นั่นก็มิใช่ประเด็นหรอกครับ ประเด็นตรงเป้า ก็คือ ได้มีการลดระดับ แล้วหรือยัง

ถ้ามีการลดระดับแล้ว ก็ไม่มีปัญหาแต่อย่างใดครับ

โดยคุณ ลุงหมี เมื่อวันที่ 13/04/2007 01:34:38


ความคิดเห็นที่ 5


อืมม อันนี้ผมหมายถึงเครื่องบินปีกตรึงครับ...ส่วนเรื่องการลดระดับของ ฮ.9 นี่แค่ได้ยินเค้าว่า...ไม่ทราบว่าลดเป็นทางการหรือเปล่า...ยังไงท่านใดมีข้อมูลช่วยด้วยครับ
โดยคุณ Skyman เมื่อวันที่ 13/04/2007 01:46:13


ความคิดเห็นที่ 6


ตามบทความมันก็มีคำตอบในตัวอยู่แล้วนี่ครับ

+++ใช้อยู่เพียงเที่ยวบินเดียวคือ ไป-กลับ, ก็ไม่ได้มีการใช้อีก ฮ. 9 จำนวน 2 เครื่องนั้นไปจอดเก็บอยู่ที่ฝูงบิน 202 กองบิน 2 จังหวัดลพบุรี ที่สังกัดอยู่ เนื่องจากเป็นเครื่องใหม่ จะต้องมีหน้าที่และภารกิจทางกองทัพอากาศ จึงจัดไว้เป็นเฮลิคอปเตอร์พยาบาลและสนับสนุนการกู้ภัยทางอากาศไปพลางก่อน แต่มิได้นำออกปฏิบัติการเช่นว่านั้นเลย ได้รับการดูแลปรนนิบัติบำรุงเป็นเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งอยู่ตามปกติ มีความพร้อมที่จะปฏิบัติตามพระราชประสงค์เมื่อทรงเรียกใช้อีก+++

------------------------------------------------------------

อีกอย่าง อ.ทั้งสองลำเข้าประจำการสิงหาคม 2540 ประสบอุบัติเหตุตก19 กันยายน 2540แล้วก็ไม่ได้ใช้งานอีกเลย

ดร.ทักษิณเข้ารับตำแหน่ง9กุมภาพันธ์2544 พล.อ.อ.คงศักดิ์ได้เรื่มนำมาใช้ตอนเป็นผบ.ทอ.  ซึ่งพล.อ.อ.คงศักดิ์เข้ารับตำแหน่งผบ.ทอ.เมื่อปี2545  แสดงว่า ฮ.ทั้งสองลำไม่ได้ถูกใช้งานในภารกิจใดเลยตลอดระยะเวลา5ปี 

จากที่จัดไว้เพื่อเป็น ฮ.พยาบาลและสนับสนุนกู้ภัย แล้วไม่ได้ใช้ นำมาใช้เป็นฮ.VIPผมก็คิดว่าเหมาะสมแล้ว

 

 


โดยคุณ wap เมื่อวันที่ 13/04/2007 02:07:29


ความคิดเห็นที่ 7


ถ้าคิดในแง่ชาวบ้าน ของซื้อมาแพง แต่ไม่ได้ใช้ ตั้งไว้เฉย ๆ มันก็เสื่อมลงไป จะให้ใครเอาไปใช้ก็คิดว่าไม่มี(ของเคยสูง) สู้ขายไปดีกว่า






ผูกเชือกให้เป็นปม
โดยคุณ น้ำเค็ม เมื่อวันที่ 13/04/2007 13:10:46


ความคิดเห็นที่ 8


จริงๆเคยมีคนในนี้หรือที่ Wing21 เคยพูดไว้นานแล้วนะครับ ไม่คิดว่าประเด๋นนี้จะกลับมาอีก
 เรื่อง Super PUMA อายุใช้งานน้อยจริงเพราะใช้ฝึกบินไม่นานก็ถูกนำมาใช้รับเสด็จ ครั้งแรกก็ประสบอุบัตเหต
จึงถอดออกไปสำรองดังที่หลายๆคนในนี้ได้พูดไว้ครับ
ด้วยเหตุนี้จึงถูกจอดเก็บไว้เป็นเครื่องพระที่นั่งสำรองก็คือถูกลดความสำคัญไปแล้ว ทีนี้ทักษิณเห็นว่าต้องออกไปใหนมาใหนบ่อยๆก็จะจัดหาเครื่องใช้สำหรับ VIP แทนที่จะไปใช้้เครื่องพระที่นั่งซึ่งก็เหมาะสมแล้ว ที่จะมีไทยคู่ฟ้า เพราะก่อนนี้ใช้เครื่องพระที่นั่งที่ว่างๆกันอยู นายกทุกคนที่ผ่านๆมาก็มีบ่อยๆ่ การที่เอาเครื่อง PUMA ไปใเทอร์นเพราะว่ายังได้ราคาอยู่ แล้วประวัติไม่ดีไม่น่าเก็บไว้ เหมือนรถซื้อมาก็ชนหนักเลย แบบนี้ต้องขาย แล้วยุคทักษิณทำอะไรต้องแลกเปลีี่ยน ซึ่งมีมติคณะรัฐมณตรีเรื่องการค้าต่างตอบแทนชัดเจน  ซื้อเครื่องบินเอ็ง เอ็งเอาไก่ข้าไปช่วยขายด้วย แบบนี้  อีกอย่างการประเมิณราคาอะไรก็ตามเขาคิดตามปี+สภาพครับ ไม่ไช่แค่นับชั่วโมงบินอย่างเดียว เครื่องบินใช้แล้วราคาจะตกมากอยุ่แล้วเพราะมีข้อกำหนด
การบินเยอะแยะ  เกี่ยวกับอายุเครื่อง คุณเข้า WEB ขายเครื่ื่องบินมือ 2 เทียบดูใด้ การจัดซื้อก็ไม่ได้ซื้อแค่ของสำนักนายก มีการจัดซื้อเครื่องพระราชพาหณะใหม่ด้วย แต่มาคนละปีเพราะเครื่องเก่ายังไม่หมดอายุ ก็ใช้ไปก่อน ผมว่ามันแล้วแต่มองกันนะเพราะบางทีไปราชการเหมาเครื่องไปมันก็ไม่สะดวก ยิ่งรีบๆ จองเครื่องไม่ใช่เรียกแท็กซี่นะต้องเตรียมการบางที วัน-2 วัน ถามคนการบินไทยได่เรื่องการเช่าเหมาลำต่างๆ แต่เครื่องของสำนักนายกเรียกใช้ได้ไวกว่า จะไปเย็น บอกเช้าเตรียมเครื่องไปได้เลย แล้วไม่ต้องไปกวนเครื่องพระราชพาหณะด้วยเพราะจริงๆมันไม่บังควรเท่าไหร่ถึงจะจำเป็นก็เถอะ
แล้วยิ่งดูเครื่องของ บน 6 เครื่อง VIP ไม่มีหรอกมีแต่เครื่องพระราชพาหณะทั้งนั้น ซื้อสักลำก็ดีแยกกันไป เหมือนรถราชการ กับรถยนต์หลวงต่างๆนั่นแหละ ก็เหมาะแล้ว
แล้วเรื่องชื่อนี้ เครื่องการบินไทยมีชื่อพระราชทานเยอะแยะไป การตั้งชื่อเครื่องบินก็แล้วแต่ประเทศไครประเทศมัน ไม่น่าเอามาเป็นประเด็นหรอก WEB นั้นคุณอย่าไปเชื่ออะไรที่ยกมาเลย มันพูดความจริงส่วนเข้าข้างตัวเองทั้งนั้น ผมเลิกเชื่อตั้งแต่ เรื่องเชอร์แมนกับ SU-30 แล้ว ไครจำได้บ้าง
แล้วรู้มั้ยทุกวันนี้เราสูญเสียอะไรไปบ้างตั้งแต่ศาสดาคุณออกมาอาละวาดน่ะครับ

โดยคุณ ssk เมื่อวันที่ 13/04/2007 15:50:07


ความคิดเห็นที่ 9


เรื่องไม่เป็นเรื่อง คนบางกลุ่มก็พยายามเอามาทำให้เป็นเรื่องครับ ราวกับว่าประเทศเราไม่มีอะไรที่มันต้องเป็นห่วง ต้องมาถกกันมากกว่านี้แล้วอย่างนั้นแหละ

เอาพลัง เอาสมอง มาคิดกันว่าจะอยู่รอดผ่านเศรษฐกิจแบบนี้ไปอย่างไร, การเมืองจะเป็นอย่างไร, ภาคใต้จะเป็นอย่างไร ดีกว่าไหมครับ

โดยคุณ Trinity เมื่อวันที่ 14/04/2007 04:57:12


ความคิดเห็นที่ 10


เท่าที่อ่านมารู้สึกว่าคนเขียนพยายามอย่างยิ่งที่จะบอกรายละเอยีดทุกด้านแต่พยามยามให้คนอ่านคล้อยตามและเข้าใจคลาดเคลื่อน

อ่านดูก็วกวนไปมา แต่หาสาระไม่ค่อยได้ มีแต่การอ้างในเรื่องที่คล้องจองกันความต้องการของผู้เขียน

ผมว่าอ่านชินจัง ยังดูดีมีสาระกว่า อ่านผู้จัดการ

 

โดยคุณ ++++ เมื่อวันที่ 14/04/2007 06:34:53