.....ขอตอบตามความรู้พอมีอ่ะครับ

1. ที่จำได้ปืนใหญ่สนาม เอาที่ว่าใหญ่จริงๆในยุคสงครามโลกเริ่มที่ 150 ม.ม. แบบลากจูงอ่ะ ต่อมาพัฒนามาใช้ถล่มป้อมก็ จำได้อยู่2รุ่นคือ สโกดา และ บิ๊กเบอร์ธ่า ของเยอรมัน ขนาดลำกล้อง 350 ขึ้นประมาณเนี้ย  และส่วนใหญ่ในยุคนั้นก็เน้นขนาดไม่ต่างจากนี้เท่าไร พอมายุคสงครามโลกปืนใหญ่เริ่มเป็นมาตราฐานมากขึ้น ด้วยขนาดลำกล้องที่ใช้ตลอดสงคราม ปืนใหญ่ รถไฟโดร่า ผมไม่รู้ว่าเรียกเป็นปืนใหญ่สนามหรือไม่ เพราะขนาดใหญ่ที่สุดในนั้นเลยด้วยขนาดลำกล้อง 31 นิ้ว

5.ผมว่าขึ้นอยู่กับ ชนิดของกระสุนที่ใช้แล้วก็การออกแบบ รังเพลิง ขนาดความยาวของลำกล้องน่ะครับ ส่วนในสมัยสงครามโลกที่เราเห็นจนชินก็มี 88 ม.ม. ของเยอรมันที่ยิงได้ทั้งรถถังและเครื่องบิน เพียงเปลี่ยนกระสุนเท่านั้นเอง ถ้าเอาปืนใหญ่สนามมายิง ก็ไม่รุจะปรับมุมเงยกันยังไงแล้วขนาดตั้ง 155 ม.ม. ขนาดสงครามโลก อย่างมากก็ 88 ถึง 105 ม.ม. ที่ใช้กันเป็นส่วนใหญ่ 

.....อื่นๆให้พี่ๆเขามาตอบล่ะกัน

ปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานขนาดลำกล้องใหญ่ๆที่ใช้ในช่วงสงครามโลกอย่าง Flak 88 ของเยอรมันนีนั้นจะเป็นปืนที่มีมุมยิงสูงครับคือกระดกขึ้นได้เกือบ 90องศาถ้าจำไม่ผิดและจะใช้กระสุนแตกอากาศซึ่งเมื่อตั้งชนวนทำการยิงขึ้นไปในระดับสูงใกล้เป้าหมายที่กำหนดกระสุนจะระเบิดแตกสะเก็ดทำความเสียหายให้เป้าหมายเป็นบริเวณกว้างครับ

ซึ่งปืนใหญ่สนามแบบ Howitzer บางแบบก็กระดกมุมได้สูงใกล้เคียงขนาดนั้นครับแต่ปัจจุบันคงไม่มีกระสุนที่ใช้เป็น ปตอ.แล้วครับ เพราะใช้ขีปนาวุธต่อสู้อากาศยานแทนแล้วสำหรับการต่อต้านอากาศยานพิสัยไกลเพดานสูงครับ

ปืนใหญ่แบบ M-46 ของรัสเซีย หรือ Type 59 ของจีน เป็นปืนใหญ่วิถีราบ ขนาด 130 มม. ระยะยิงไกลสุด 38,000 เมตรครับ ก็เลยไกลกว่าเจ้า 155 บางตัวที่เป็นวิถีโค้ง

Type-59/M-46