ผมขอยืม Icon คุณ... จำไม่ได้ แกสบี้ ล่ะ

ผู้ตอบระวัง กระทู้นี้หายไปด้วยน่ะครับ อิอิ

....หึหึ...เข้าใจความนัยของทั้ง 2 ท่านนะฮะ แต่โนคอมเม้นท์ อิอิ....

แล้วคนแรกโดนไล่ออกจากบริษัทอย่างถาวรรึยังครับ ถ้ายัง ผมว่าก็น่าสนใจนะครับ เพราะผลงานที่เขาทำให้บริษัท จัดว่า บริษัทก็ยังคงมีกำไรอยู่ถูกมั๊ยครับถึงเขาจะแบ่งจากบริษัทไปบ้างแต่บริษัทก็ดำเนินธุรกิจได้สวยอยู่เป็นหน้าเป็นตาบริษัท ก็ถ้าเราเป็นเจ้าของบริษัท ก็ควรจะบอกเขาว่า ญาติพี่น้อง พวกพ้อง ส่วนตัว อย่าเอามาเกี่ยวข้องกับบริษัทอีกเลย สิ่งที่หยิบฉวยของบริษัทไปก็นำมาคืนซะ อะไรผิดก็ว่าไปตามผิดดีกว่านะครับ แยกออกจากกันโดยสิ้นเชิง ถ้าคนแรกทำได้แบบนี้ ก็ควรจะจ้างเขาทำงานต่อไปครับ

กรั่กๆๆๆๆๆๆๆๆ

ฮามากเลยพี่ คิดได้ไงน่ะ

เอาเหอะ ผมไม่โทษเด็กคนที่สองที่จะจ้างมาทำงานหรอก

แต่ผมจะด่าไอ้คนฝากงานต่างหาก เอาใครมาวะ  ทำงานไม่เป็น บลาๆๆๆๆ

ปล. ถูกอุ้มชัวร์

แหม.......เข้าใจเล่นนะท่าน 2 รอบกว่าจะเข้าใจ

 "ได้ตราตั้งการรันตีมาจากสมาคมผู้มากอำนาจ"

คิดได้ยังไงคำนี้

ทำไปได้นะ ท่านกบ ผมอ่านตอนแรกยัง งง ๆ มารอบ 2 ถึงกับปล่อย ก๊าก เลย  ทำไปได้นะ

ปล. ระวังเหมือนที่ท่านว็บมาสเตอร์บอกไว้นะครับ  อิอิ

ลืม

ท่านกบครับ ผมว่า คนแรกไม่ได้แค่ "ชอบหยิบชิ้นกินแบ่ง" นะครับ

ผมว่าคนแรกเข้าขั้น "มูมมาม" เลยล่ะ

คนแรกก็สุดโต่ง คนที่สองก็ร้องเพลงสไมล์บัฟฯ (ดีเกินไป) แต่เมื่อเทียบกันแล้วหากมองอย่างที่เจ้าของกิจการจะเลือกส่วนใหญ่คงเลือกคนแรกแต่คนนี้ต้องคุมด้วยระบบเซ็นทรัลล๊อค (หรือเปล่า) ชั้นเยี่ยมไม่งั้นก็ไม่เหลืออะไรเหมือนกัน เมื่อมันเลยช่วงเวลานั้นมาแล้วมาดูปัจจุบันหากเจ้าของกิจการยังมีสมบัติก็น่าลุ้นค่ะ ถึงยังไงยังไม่แตกผั๊วะก่อนหลายสิ่งหายอย่างคงผ่านได้ (แบบไหนไม่รู้) ดูแค่จุดเดียวตั้งแต่วันเด็กปลายปีที่แล้วมานั้นหากคุณเป็นเจ้าของกิจการคุณมีทางเลือกที่ 3 หรือเปล่าคุณมีคำตอบตัวเลือกมากแค่ไหนกัน มีใครกันในใจ ?

 กติกาและมรรยาท

ต้องศึกษาประเภทของธุรกิจ อาจมีการตั้งคณะกรรมการคัดสรรก็ได้คับจะได้เป็นการส่งเสริมประชาธิปไตยในองค์กรณ์ เมื่อได้ประชามติ เอ๊ย.. มติที่ประชุมแล้วจะได้ข้อสรุปคับ  

ปล. ตรวจสอบผู้ถือหุ้นรึเปล่าคับ...

มรรยาท มีครับ

Source :ราชบัณฑิตยสถาน

เอ่อ ก็แล้วแต่จะคิดกันไปนะครับ

ส่วนตัวผมคิด( อย่างไตร่ตรองแล้ว ) ว่า คนแรกไม่ใช่แค่หยิบชิ้นกินแบ่งหรอกครับ เขาอาจจะดูเหมือนหยิบชิ้นกินแบ่งก็จริงเพราะเขาก็เอาตัวเลขมาให้เราดูทุก ๆ ปีงบประมาณ แต่คิดว่า เขา (กับพวก)จะมาฮุบกิจการของเราไปเป็นของตัวเองต่างหาก

ถ้ามีทางเลือกที่ดีกว่านี้ ก็ควรจะให้คนที่ดีกว่านี้มาทำ ไม่ใช่แค่สองตัวเลือกนี้

ฮึม....... คนที่ 1 ถ้าให้ทำงานต่อ อย่างน้อยก็ยังพอได้เห็นหน้าเห็นหลัง.... หมายถึง บริษัทผมอาจจะโตได้บ้าง ไม่แน่ อีก 4-5 ปี "บริษัทจำกัด"ของผมอาจจะได้เป็น"บริษัทมหาชน" กับเค้าก็เป็นได้ .... แต่ ... ผมคงต้องเคียวหน่อย .... ประมาณว่า หยิบกินแบ่งกันได้ แต่ต้องไม่มากมายนัก.... เพราะภาพรวมแล้ว อีตาคนที่ 1 เนี้ย ... ก็ทำให้บริษัทผมพัฒนาได้...อันนี้ให้เป็นผู้บริหารได้...

คนที่ 2 น่าเก็บไว้ใช้งานแต่ ให้มาเป็นผู้บริหารไม่ได้ดอก ... เนื่องจากว่า ไม่มีความสามารถที่จะพัฒนาบริษัทของผมได้ ... อย่างเก่งก็แค่ รักษาสภาพ บริษัทจำกัดไว้ ... แต่ถ้าไม่ได้เรื่อง "บริษัทจำกัด" ของผมอาจจะ ถอยไปอยู่ในสถานภาพ "ห้างหุ้นส่วนจำกัด" ก็เป็นได้... ดังนั้น เนื่องด้วย สักยภาพที่ ไม่ใคร่จะเหมาะสมให้เป็นผู้บริหารที่จะนำพา บริษัทของผมก้าวหน้าได้ .... ดังนั้น ผมจึงเห็นว่า คนที่2 นี้ น่าจะรับมาเพื่อเป็น ผู้จัดการฝ่ายบัญชี - การเงิน แค่นี้ก็พอแล้ววว(เออ ว่าแต่งานแค่นี้จะทำได้มั้ยเนี้ย) ....

ปล... ป๋ากบครับ รับผมไปเป็นคนขับรถให้ป๋าซักคนมั้ยครับ...

ข้อ ๓ ครับ ถูกทุกข้อ...เอ้า   เฮๆๆๆ

ล้อเล่นครับ ตอบจริงๆละ

ก่อนอื่นผมจะไล่ ทีม รปภ.หัวหงอก ออกก่อนครับข้อหา ทำความเสียหายร้ายแรงแก่บริษัท เอาไปขังคุกขี้ไก่

ส่วนเรื่องใครจะมาบริหารผมว่า มันไม่มีคำตอบที่ถูกที่สุดหรอกครับ มีข้อดีข้อเสียทั้งคู่แต่เรื่องเอา รปภ. ไปขังคุกนี่ผมอยากให้เป็นจริงจังเลย

ปล.เป็นเหตุการณ์สมมุติ ณ บริษัทแห่งหนึ่งไม่เกียวกับประเทศ สารขัณฑ์

ผู้บริหารคนที่สองฝืนโลกเกินไป คิดดูระบบทุนเขาใช้ทั่วโลก บริษัทค้อนเคียวยังล้ม บริษัทม่านไม้ไผ่ยังยอมลู่ตามลม ขนาดบริษัทเอหม่องที่ว่าปิดบริษัทไม่ค้าขายกะใครสุดท้ายก็ต้องแอบๆค้าขายกะเค้า

แล้วท่านมาใช้นโยบายบริหารแบบนี้จะไปรอดเหรอ หันก้นให้คนอื่นฝืนโลกแบบนี้ ดูซิเข้ามาแป๊บเดียวทรุดกันไม่เป็นท่าซ่าไม่ออกบอกไม่ถูกพูดไม่ได้...แบะๆ

ผู้บริหารคนก่อนโดนยามแฉว่ามีนอกมีในแล้วเป็นไง สร้างลานจอดรถแล้วยามมาบอกทางวิ่งใช้ไม่ได้ ตรวจสอบแล้วเป็นไงวัสดุดีกว่าเสป็กอีก นี่ยังมีอีกหลายเรื่องที่ยามมาฟ้องแล้วตรวจสอบภายในหาไม่ได้ ถึงหาได้จริงมันก็ซักกี่ตังค์ ยามมาบอกว่ากินเป็นหมื่น ถึงเป็นหมื่นจริงก็กำไรอยู่ดี 

แล้วตอนนี้ใกล้จะล้มกันเต็มที่ปิดข่าวไปเถอะ บอกมาตรงๆเลยดีกว่าว่าเงินบริษัท1.5ล้านเอาออกไปซื้อดอลน่ะจะวิกฤติอีกเมื่อไหร่   เงินล้านน่ะเท่ากับค่าใช้จ่ายทั้งบริษัทหนึ่งปี ปกติปีๆนึงก็หมุนแล้วหมุนอีกมาเจอแบบนี้จะรอดเหรอ

เป็นผมผมยอมเสียเงินหมื่นดีกว่าเสียเงินล้าน เอาคนแรกมาบริหารแล้วปรับระบบตรวจสอบภายในก็พอแล้ว

ผู้บริหารคนแรก ตอนต้น  ผมแพ้โหวต เสียงส่วนใหญ่ แต่ ก็นึกชมว่า เอาvision ที่ดีๆ หลายอย่าง มาปรับแต่งบริษัทให้ดีขึ้น

 แต่ว่า ทำไปหลายปีชักรู้สึกว่า มันแหม่งๆ พอไปบอก ฝ่ายตรวจสอบ ก็ กลายเป็นพวกผู้บริหารคนแรกไปแล้ว

สินทรัพย์ บริษัท พี่แกจะขาย ไปหมด โดยเอาเงินที่ไซฟ่อน ของบริษัท ไปซื้อไว้เอง ที่สำคัญดันขายสินทรัพย์บริษัทในราคาต่ำ ตัวเอง ให้ เพื่อนๆ มาซื้อ ไป กินกันอร่อย

 ส่วนผู้บริหารคนที่สอง จริงๆเค้าเป็นได้แค่ หัวหน้ายาม เคย ดูแลความสงบบริษัท ตามสมควรได้ชื่อว่าซื่อสัตย์ เคยมีวิวาทกับบริษัทข้างๆ  เกือบจะตีกันตาย  ผู้บริหารคนแรกมาบอก หัวหน้ายามว่า อย่า overreact  หัวหน้ายามเลย รีไทร์ ตอน 60  ไปบวชศึกษาธรรรมะ  ผลบุญเลยได้เป็น ผุ้บริหารขขัดตาทัพ

 ถ้าให้เลือก  ไม่เอาทั้งคู่  เพราะผมเชื่อว่า ผู้บริหารที่ ดี มีความสามารถ ควบคู่กับคุณธรรม ทำเพื่อนบริษัทอย่างแท้จริง คงได้ ไม่ใช่ว่า  เอะอะอะไร ก็ ขาดผุ้บริหารคนแรก ไม่ได้ 

อืมมมมมม  ผมไม่มีข้อมูลเลยครับ ว่าแต่ละคนสามารถทำให้พนักงานในบริษัทอยู่ดีกินดี มีชีวิตพอเพียง ไม่มีหนี้สิน ไม่ฟุ้งเฟ้อกันได้บ้างหรือเปล่า ส่วนตัวผมอยู่บริษัทนี้ต้องทำใจครับ อย่ารังแกกันมากก้อพอ

** หลังจากคุณลุงกบโพส คุณลุงกบก็โดนอุ้มแน่เลย หายไปไหนแระ ? !! **

(ชังกล้าพูดเหนาะป๋ากบ ) 

ปัง ปัง 2นัด เข้าหัว จับลงถังมะตอย น้ำมันลาด ตามด้วยยางรถ ปิดฝา รอไฟดับแล้ว ปิดฝาถังให้แน่น แล้วนำไปถ่วงนำ

สูตรทำอาหารอร่อย  (ถังแดง)