สงครามโคโซโว (Kosovo War) มักจะกล่าวรวมถึงเหตุการณ์สองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโคโซโว เขตที่อยู่ทางตอนใต้ของเซอร์เบีย คือ
บนดินแดนแห่งความขัดแย้งทางเชื้อชาติของชาวยูโกสลาเวียเดิม (ประกอบด้วย เซอร์เบีย โครเอเซีย สโลวีเนีย มาเซโดเนีย บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา มณฑลวอยวอดีนา และมณฑลคอโซโว) รัฐเซอร์เบียมีเชื้อสายส่วนใหญ่เป็นชาวเซิร์บเชื้อสายเดียวกับสลาฟ (ใกล้ชิดกับรัสเซียนับถือคริสต์นิกายออร์ทอดอกซ์) และมีชนกลุ่มน้อยที่เป็นมุสลิมอันได้แก่ มาเซโดเนีย บอสเนียเฮอร์เซโกวีนา และโคโซโว
ในอดีตที่ผ่านมายูโกสลาเวียปกครองด้วยระบบคอมมิวนิสต์ มีผู้นำที่มีความสามารถในการปกครองและผสานความเป็นสมานฉันท์ระหว่างเชื้อชาติ คือพลเอกโจซีป บรอซ ตีโต ทำให้ความขัดแย้งทางเชื้อชาติไม่มีปัญหามากนัก จนกระทั่งเปลี่ยนแปลงผู้นำเมื่อตีโตถึงแก่กรรม ผู้นำที่ขึ้นมาสืบทอดตำแหน่ง คือ สโลโบดัน มิโลเชวิช ซึ่งเป็นคนเชื้อสายเซิร์บหัวรุนแรง ทำให้ก่อชนวนปัญหาเชื้อชาติเกิดขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อระบบคอมมิวนิสต์ในรัสเซียล่มสลายปลายปี พ.ศ. 2534 ทำให้ก่อเกิดสาธารณรัฐที่ต้องการแยกเป็นอิสระ ซึ่งประเทศที่สามารถแยกตัวได้สำเร็จได้แก่ โครเอเชีย สโลวีเนีย มาเซโดเนีย และบอสเนียฯ ตามลำดับ
ประเทศที่แยกตัวไปส่วนใหญ่จะมีปัญหาเนื่องจากชนเชื้อสายเซิร์บในประเทศไม่ต้องการแยกประเทศทำให้เกิดการปะทะในหลายพื้นที่ แต่ท้ายที่สุด โครเอเซีย สโลวีเนีย มาเซโดเนีย ก็สามารถแยกตัวได้สำเร็จและได้รับรองจากนานาชาติในการจัดตั้งรัฐบาลของตนเอง
บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนาเองก็ต้องการแยกตัวออกไปเป็นประเทศใหม่ แต่ก็เป็นประเทศที่มีปัญหามาที่สุดเพราะชาวเซิร์บที่อยู่ในประเทศนั้นมีจำนวนมากกว่าประเทศอื่นๆ จึงมีการรวมกำลังต่อต้านการแยกประเทศเพื่อจะเข้ารวมกับรัฐเซอร์เบีย ท้ายสุดปัญหาก็รุนแรงมากในช่วงปี พ.ศ. 2538 ซึ่งการต่อต้านและปะทะกันอย่างรุนแรงนั้นนำมาสู่การสังหารหมู่เพื่อฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ จน UN ต้องเข้ามาไกล่เกลี่ยและยุติศึก
มาถึงคราวของโคโซโวจะแยกตัวบ้างเพื่อไปรวมกับอัลเบเนีย ทางรัฐบาลเซิร์บไม่ยินยอม จึงทำการโจมตีและขับไล่ชาวมุสลิมเชื้อสายอัลบาเนียในโคโซโวอย่างโหดร้ายทารุณ ในปี พ.ศ. 2542 ทำให้กองกำลังชาติพันธมิตรนำโดยนาโต้และสหรัฐอเมริกาเข้ายับยั้ง โดยทำการโจมตียูโกสลาเวียทางอากาศอย่างหนักหน่วงเป็นเวลากว่า 90 วัน กดดันให้นายมิโลเซวิชยอมถอนทหาร และอนุญาตให้ผู้ลี้ภัยชาวมุสลิมเชื้อสายอัลบาเนียกลับเข้ามาตั้งถิ่นฐานใหม่ได้ โดยมีกองกำลังชาติพันธมิตรคุ้มครองจนกระทั่งปัจจุบัน แต่ปัญหาความรุนแรงในโคโซโวก็ยังไม่จบสิ้น แม้ว่านายมิโลเซวิชจะถูกจับกุม และตัดสินลงโทษโดยศาลโลกในฐานะอาชญากรสงครามแล้วก็ตาม การก่อการร้ายวินาศกรรมในโคโซโวยังมีอยู่ต่อเนื่อง