หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


สมรภูมิบ้านร่มเกล้าเอามาให้อ่านเล่นอีกรอบ

โดยคุณ : omaha เมื่อวันที่ : 20/03/2007 17:18:29

สมรภูมิบ้านร่มเกล้า ศึกประวัติศาสตร์ ระหว่างประเทศไทยและประเทศลาว ณ บริเวณ ยุทธภูมิบ้านร่มเกล้า ในช่วง กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2531 จากการสู้รบอย่างหนักต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน ทำให้เกิดการสูญเสียอย่างมากทั้งฝ่ายไทยและลาว และนับเป็นการสูญเสียชีวิตทหารมากที่สุดในการรบของไทยเท่าที่เคยมีมา จากคำบอกเล่าของทหารที่อยู่แนวหน้า ซึ่งทำการรบ ณ ยุทธภูมิบ้านร่มเกล้า ทำให้ทราบว่า ศึกครั้งนี้เราต้องรบกับข้าศึกที่มียุทธภูมิดีกว่า มีอำนาจการยิงสนับสนุนต่อเนื่องและรุนแรง ต้องฟันฝ่าอุปสรรคมากมาย โดยเฉพาะแนวกับระเบิด ทหารหลายนายซึ่งผ่านสมรภูมิมาอย่างโชกโชน กล่าวว่า เป็นการรบที่หนักที่สุดเท่าที่เคยพบเห็นมาในชีวิตการเป็นทหาร โดยเฉพาะบริเวณเนิน 1182 , 1370 , และ 1428 ซึ่งถือว่าเป็นเนินแห่งสมรภูมิเลือดอย่างแท้จริง

ยุทธการบ้านร่มเกล้า ได้เริ่มขึ้นเมื่อ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2531 เมื่อ พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ ผบ.ทบ. (ในขณะนั้น) ประกาศจะผลักดันกองกำลังต่างชาติที่เข้ามายึดครองพื้นที่ในเขตไทยทุกรูปแบบด้วยการใช้กำลังทหาร จึงทำให้เกิดการสู้รบอย่างดุเดือดทหารไทยทั้ง ทหารราบ ทหารม้า ทหารปืนใหญ่ และทหารพราน ได้รุกตอบโต้ยึดที่มั่นต่างๆที่ลาวครองไว้กลับมาได้เ็้ป็นส่วนมาก รวมทั้งได้ทำการโอบล้อมบริเวณตีนเนิน 1428 ไว้ได้ แต่ไม่สามารถบุกขึ้นไปถึงยอดเนินซึ่งทหารลาวใช้เป็นฐานต่อต้านได้ ถึงแม้จะใช้กำลังทางอากาศบินโจมตีทิ้งระเบิดอย่างหนักก็ตาม จนทำให้ ทอ. ไทย ต้องสูญเสียเครื่องบิน เอฟ 5 อี และ โอวี 10 ไปอย่างละ 1 เครื่อง อันเป็นผลมาจากการยิงของฝ่ายลาว ทางภาคพื้นดิน ด้วย ปตอ. และจรวดแซม

หลังจากที่ทหารลาวสูญเสียที่มั่นต่างๆ ได้รวบรวมกำลังพลเข้ารักษาเนิน 1428 ไว้อย่างเหนียวแน่นโดยมีกำลังรบและกำลังสนับสนุนดังนี้คือ กองพลที่ 1 จำนวน 4 กองพัน พร้อมอาวุธหนักปืนใหญ่ 130 มม. 3 กระบอก ปืน 105 มม. 3 กระบอก รถถังอีก 4 คัน รวมกำลังพล 372 คน

กองพลที่ 2 ซึ่งตั้งอยู่ที่หลวงพระบาง จำนวน 4 กองพัน เช่นกัน มีกำลังพลกว่า 418 คน สนับสนุนด้วยปืนใหญ่ 130 มม. 3 กระบอก ปืนใหญ่ 105 มม. 3 กระบอก รถถัง 5 คัน ปืน ค. ขนาด 62 และ 82 มม. รวมทั้ง ปตอ. ด้วย นอกจากนี้กองกำลังหลักซึ่งมีที่ตั้งอยู่ที่ ไชยบุรี มีปืนใหญ่ 130 มม. 2 กระบอก ปืนใหญ่ขนาด 122 มม. อีก 3 กระบอกรวมทั้งหน่วยจรวดต่อสู้อากาศยานแบบ แซม 7 ซึ่งเป็นปืนที่ทหารอากาศมีความเชี่ยวชาญมาก

ภาพเนิน 1428 อดีตสมรภูมิรบอันดุเดือด มุมมองภาพถ่ายจาก อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว
ภาพเนิน 1428 อดีตสมรภูมิรบอันดุเดือด มุมมองภาพถ่ายจาก อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว

ในระยะแรกของการรบนั้น ทหารไทยใช้ทหารม้าและทหารพรานรุกคืบหน้าเข้าสู่บริเวณเนิน 1428 ซึ่งพบกับการต่อต้านอย่างหนักจากฝ่ายลาวอย่างคาดไม่ถึงโดยเฉพาะกับระเบิดและการยิงปืนใหญ่จากลาวอย่างหนาแน่นและต่อเนื่อง ทำให้การรุกคืบหน้าเป็นไปได้ช้าและสูญเสียอย่างมาก สาเหตุสำคัญที่เราไม่สามารถเผด็จศึกได้อย่างที่คาดหมาย เนื่องจากทหารลาวมีชัยภูมิที่ได้เปรียบ ที่มั่นบนเนิน 1428 มีความแข็งแรง สามารถส่งกำลังบำรุงสนับสนุนอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว การยิงอาวุธหนักของฝ่ายลาวมีความแม่นยำและได้ผลมาก การพิชิตเนิน 1428 ให้ได้นั้น ทางที่สะดวกและรวดเร็วที่สุดคือต้องโอบอ้อมบุกตะลุยขึ้นจากตีนเนินด้านเขตประเทศลาว และสยบฐานปืนใหญ่ที่อยู่ในฝั่งลาวให้เงียบเสียงเสียก่อน ซึ่งในขั้นแรกทหารไทยมีความคิดที่จะผลักดันทหารลาวออกจากดินแดนไทยเท่านั้น การรบจึงจำกัดเขตอยู่แต่ในประเทศไทย แต่หลังจากการรบในช่วงแรกฝ่ายเราไม่ประสบผลสำเร็จดังที่คาดหมายไว้ คณะนายทหารจึงได้ปรับยุทธการรบเสียใหม่ โดยใช้กำลังปืนใหญ่ระยะยิงไกลแบบ เอ็ม 198 และปืนใหญ่แบบต่างๆ ระดมยิงเข้าไปในดินแดนลาว ที่หมายคือการยิงฐานปืนใหญ่และที่ตั้งกำลังทหาร พร้อมทั้งส่งหน่วยรบพิเศษเข้าไปตัดการส่งกำลังสนับสนุนของฝ่ายลาว จนกระทั่งการสนับสนุนการรบของลาวได้ลดประสิทธิภาพลงไปอย่างมาก ซึ่งคาดว่า หลังจากวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2531 เนิน 1428 จะต้องกลับคืนมาเป็นของไทยอย่างแน่นอน แต่แล้ววันที่ 19 กุมภาพันธ์ ก็ได้มีการเจรจายุติศึกแยกกำลังของทั้ง 2 ฝ่ายออกจากกันฝ่ายละ 3 กม. อันเป็นการสิ้นสุดการรบที่ไม่สามารถชี้ชัดไปได้ว่า ใครคือผู้ชนะ

[แก้] ข้อสังเกตจากการรบ

ศึกประวัติศาสตร์ ไทย ? ลาว ถึงแม้จะยุติกันไปนานกว่า 10 ปีแล้ว ท่ามกลางกลิ่นคาวเลือดของนักรบไทยและลาว อันเป็นผลจากการเจรจาของผู้นำทางทหารของแต่ละประเทศ ที่มีถ้อยคำแถลงว่า ต่อไปนี้ไทยและลาวจะไม่ตีรันฟันแทงกันอีกแล้ว เลือดไทย ? ลาว จะไม่มีให้เห็นกันอีกต่อไป สายสัมพันธ์ของทั้ง 2 ชาติจะยั่งยืนเสมือนสายน้ำโขงที่ไม่มีวันเหือดแห้ง แต่คำเหล่านี้ น่าจะได้ยินก่อนที่จะเปิดยุทธการบ้านร่มเกล้า เป็นที่น่าเสียดายที่พวกนักรบที่กล้าหาญได้สังเวยชีพไปแล้วไม่มีวันจะได้ยินคำเหล่านี้ เลือดและวิญญาณของพวกเขาที่ไหลนองและสิงสถิตย์อยู่บนเนินร้าง 1428 คงทำให้เนินนรกแห่งนี้ เป็นดินแดนอาถรรพ์ต่อไปอีกนาน

สรุปสมรภูมิบ้านร่มเกล้า
วันที่: 1-19 กุมภาพันธ์ 2531
สถานที่: ยุทธภูมิบ้านร่มเกล้า
สาเหตุ:
ผลลัพธ์: การเจรจายุติศึกแยกกำลังของทั้ง 2 ฝ่ายออกจากกันฝ่ายละ 3 กม.
สงครามระหว่าง

ไทย
ดึงข้อมูลจาก " http://th.wikipedia.org




ความคิดเห็นที่ 1


ผมจำได้ว่า เมื่อตอนสงครามร่มเกล้าจบลงได้สัก 1-2 ปี ทางช่อง 7 ได้นำภาพยนต์ฝรั่งเข้ามาฉาย ชื่อเรื่อง "สูงเสียดฟ้าข้าก็จะยึด" เป็นเรื่องของทหารไอ้กันรบกับเวียตนาม โดยฝ่ายไอ้กันเป็นฝ่ายเข้าตี ชัยภูมิตั้งรับของเวียตกงอยูสูงเข้าตีลำบากและกับระเบิดมีมาก ในเรื่องได้นำเสนอรูปแบบและความกล้าหาญและพยายามของทหารไอ้กัน ที่จะเข้าตีและยึดให้ได้แม้ต้องสู้ด้วยความยากเย็นแสนสาหัส ฉากการสู้รบดุเดือดเลือดพล่านไอ้กันตกเป็นรองด้วยภูมิประเทศที่รุกคืบได้ยากเย็นแสนเข็ญและท้ายสุดก็ล้มเหลวแตกพ่ายลงมาทุกๆครั้ง(โดยเฉพาะภาพเวลาทหารแพ้แตกและเดินเป็นกลุ่มกลับมาจากยอดเนินนั้น แบกปืนอาวุธลงมาเหมือนกลับจากทำนาทำสวนในไร่ (อารามว่าชิน)) รอรวมพลสนธิกำลังแล้วเข้าตีใหม่............ คิดว่า ทางช่อง 7 คงอยากจะสื่อให้เห็นอะไรบางอย่างเกี่ยวกับการรบที่ร่มเกล้าจากหนังเรื่องนี้ ........... อ่านหนังสือบางทีวาดภาพไม่ออก ลองเช่าหนังมาดูน่าจะจินตนาการได้ดีขึ้น..............
โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 20/03/2007 11:48:39


ความคิดเห็นที่ 2


รบกวนถามท่านกบครับว่าหนังเรื่อง"สูงเสียดฟ้าข้าก็จะยึด"นี้มีชื่อภาษาอังกฤษว่าอะไรขอบคุณครับ

โดยคุณ tan02 เมื่อวันที่ 20/03/2007 14:34:26


ความคิดเห็นที่ 3


แฮมเบเกอร์ ฮิลล์ (Hambager Hill) ครับ
โดยคุณ nok เมื่อวันที่ 20/03/2007 16:31:37


ความคิดเห็นที่ 4


ผมอ่านเรื่องบ้านร่มเกล้าแล้วมาดูหนังเรื่องนี้ นึกว่าเค้าสร้างเลียนแบบเราซะอีก......................มีฉาก ทหารจีไอ โดนนาปาล์มจากเอฟ-105 ย่างสดด้วย................
โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 20/03/2007 16:54:19


ความคิดเห็นที่ 5


ขอบคุณครับคุณnok ก็ว่าคุ้นๆอยู่เหมือนกัน จำได้ตอนที่พอเครื่องบินสหรัฐมาทิ้งนาปาล์มเวียดกงก็รีบมุดเข้ารูปลอดภัย แต่สงสัยทำไมพลปืนกลฮ.สหรัฐตาถั่วยิงโดนพวกเดียวกันตายเรียบ

โดยคุณ tan02 เมื่อวันที่ 20/03/2007 17:06:11


ความคิดเห็นที่ 6


ผมจำได้คลับคล้ายคลับคลา .............. มีหนังไอ้กันอีกเรื่อง........... ซึ่งตามเนื้อเรื่องเป็นการกลับกัน คือฝ่ายไอ้กันตกอยู่ในวงล้อมเวียตกง................ผมจำเนื้อเรื่องอย่างเลือนลางว่า มีจ่ากองร้อยกับพวกราวๆสิบกว่าคนถูกตีแตกมาจากไหนม่ทราบ ถอยร่นและเข้าไปสมทบกับกองร้อยหนึ่ง ซึ่งขุดคูเหลดตั้งรับการปิดล้อมของเวียตกงอยู่............... จุดที่ผมจำได้ขึ้นใจคือ ผบ.ร้อย ฮื้บ หนักไปหน่อย สภาพเลยเพี้ยนๆ คือไม่ยอมออกจากคูเหลต วันๆแก้ผ้าล่อนจ้อนฮื้บกัญชากอดรูปนางแบบอยู่ข้างใน จ่าเลยจัดการยิงขาให้บาดเจ็บแล้วส่งกลับ(ฉากตอนฮ.มารับก็ฮาไม่น้อย) พร้อมสถาปนาตัวเองเป็นหัวหน้า ..................... การรับมือเป็นไปอย่างดุเดือดเลือดพล่าน ด้วยจำนวนข้าศึกที่เข้าตีเป็นกองพัน สู้กันยิบตา ตีปีกซ้ายร่นปีกขวา จวนเจียนหวิดจะถูกตะลุมบอนแต่ก็รอดได้ทุกครั้ง อีกฉากที่จำได้คือ ปืน 105 ที่มีอยู่กระบอกเดียว ซัลโวแบบ 5 วินาทีต่อนัด จนสุดท้ายลำกล้องรังเพลิงหลุดจากชุดรับแรงถอยหมดสภาพ.........................จำไม่ได้ว่าชื่อเรื่องอะไร แต่ยอมรับว่านั่งขยุ่มก้นเอาใจช่วยพระเอก แต่ถ้าเป็นตอนนี้คงเฉยๆ เลิกเชียร์นานแล้ว.............................

โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 20/03/2007 17:18:29