เมื่อคืน ดู ชีพจรโลก ทาง ช่อง 9 อ.ส.ม.ท.
เขาสำรวจมาว่า
1.ทรัพยากรณ์ น้ำมัน ทั่วโลก จะหมด ภายใน 41 ปี จะไม่มีให้ ดูดอีกแล้ว
2.แร่ ยูเรเนียม ที่ ใช้ใน โรงไฟฟ้า พลังงานนิวเคลียร์ และ ใช้ผลิต อาวุธ นิวเคลียร์ จะหมดจาก โลก ภายในเวลา 80 ปี
3.ก๊าซ ธรรมชาติ - อันนี้ผมลืม อ่ะ
4.ก๊าซ ชีวมวล - อันนี้ ก็ลืม
5.ถ่านหิน ที่ใช้ใน โรงไฟฟ้า หรือ ใช้กับอย่างอื่นได้หรือเปล่า จะหมดภายใน 160 - 200 ปี
ตอนนี้ มี พลังงาน ทาง เลือก แบบใหม่ ก็คือ Hydrogen
H2 หรือ HYDROGEN ก็คือ น้ำ แต่มัน ไม่เหมือน H2O
ผมไม่ใช่ นักวิทยาศาสตร์ เลย ไม่รู้อะไรมาก
เอา เป็นว่า มันคือ เชื้อเพลิง แบบใหม่ ใน อนาคต
ตอนนี้ BMW กำลัง พัฒนา ระบบ นี้อยู่
แหล่งพลังงาน จาก H2O ยังเป็นไปไม่ได้ในทาง อุตสาหกรรม เนื่องจากพลังงาน ที่ใช้ ในการแยก H2 ออกจากน้ำ ต้องใช้พลังงานไฟฟ้า แล้วพลังงานไฟฟ้ามาจากไหนล่ะครับ ก็โรงไฟฟ้า แล้วโรงไฟฟ้าก็ใช้พลังงาน อย่างที่คุณว่ามา และพลังงานที่ใช้ในการแยก ก็สูงมาก แต่H2 ก็ให้พลังงานที่น้อยกว่า น้ำมัน และให้พลังงานน้อยกว่าพลังงานที่แยกมันออกมา (ภาษาวิทยาศาสตร์ เคา้เรียกว่า การขาดทุนในแง่พลังงานครับ)
ยูเรเนียมจะหมดโลกใน80ปี แต่ถ้าจะเอามาใช้ในเครื่องบินเค้าใช้ ไอโซโทปของธาตุจำพวก ซีเซียม และ โคบอลต์ครับ
ข้อดี ของ Hydrogen เหลว คือ ไม่ก่อมลพิษ ไอเสีย ออกมา ก็เป็น ไอน้ำ
เสียงก็ เงียบด้วย
ใน อนาคต คงจะ เห็น เครื่องบินขับไล่ พลังงาน HYDROGEN
รถยนต์ ใช้ได้ เครื่องบิน ก็ใช้ได้
อ้าว แล้ว เรือ จะใช้อะไร?
H2 นั้น ข้อจำกัดเรื่องการสูญเสียในระหว่างการเก็บสูงมากด้วยครับ ประมาณ 70-80% ที่ผลิตได้ จะสูญเสียในระหว่างขนส่งครับ และการขนส่งที่ยุ่งยาก
ผมว่าประมาณ 20ปีข้างหน้า H2 ยังไม่ใช่พลังงานหลักในรถยนต์แน่นอนครับ
ถ่านหิน ในอนาคต อาจจะกลับมาเป็นพลังงานหลักของโลก แต่จะมาในรูปน้ำมันถ่านหินหรือCoal oil ครับ http://en.wikipedia.org/wiki/Coal_oil
น้ำมันหมด ก็ยังมี แหล่งน้ำมันคุณภาพต่ำจำพวก ทรายน้ำมัน หินน้ำมัน
http://en.wikipedia.org/wiki/Oil_sand
พูดง่ายๆคือ แหล่งพลังงานจากฟอสซิล น่าจะเป็นพลังงานหลักของโลกต่อไปครับ
น้ำมันดิบยังมีอีกไม่น้อย เพียงแต่ต้องเจาะลึกลงไปอีก ต้นทุนสำรวจ ขุดเจาะขึ้นมามันจะทำให้ราคาสูงขึ้น จนกระทั่งเปลี่ยนไปใช้อย่างอื่นที่คุ้มกว่า หรือเทคโนที่พัฒนาขึ้น ทำให้การใช้เชื้อเพลิงชนิดอื่นเป็นไปได้ ในราคาที่ถูกลง
เรื่องน้ำท่วมโลก, WWIII ดาวหางพุ่งชน มันก็เป็นเช่นนั้นเองครับ เค้าว่า ให้ทำบุญ ทำทาน ฝึกจิต ปฏิบัติธรรมกันไว้นะ เอิ้กๆ
ถ้าขยันแปล ลองอ่านบทความนี้ดูครับ แล้วจะรู้ว่า H2 มันยุ่งยากในการ จัดเก็บขนส่ง ขนาดไหนครับ
ผมว่าน้ำมันไม่ทันจะหมดโลก น้ำคงจะท่วมโลกเสียก่อน ถึงวันนั้นคงยุ่งน่าดู อย่างประเทศไทย พื้นที่ภาคกลางก็คงถูกน้ำท่วมไม่เสียหมด จะเหลือพื้นที่เฉพาะ ภาคอีสาน , ภาคเหนือ กับภาคใต้ส่วนที่เป็นภูเขาเท่านั้น พูดได้ ว่าที่ราบหายไปหมด เหลือแต่ที่ราบภาคอีสานเท่านั้น ถึงวันนั้น อย่าว่าแต่พื้นที่ที่จะเอามาปลูกอ้อยผลิตเมทานอลเลย พื้นที่ปลูกข้าวเลี้ยงประชากรไทย ไม่รู้จะพอหรือเปล่าเลย เพราะคิดว่า น้ำคงค่อยๆ มีระดับสูงขึ้นพอให้คนจากกรุงเทพและภาคกลางอพยพขึ้นไปอยู่ในที่สูงได้ แต่ถึงวันนั้นสิ่งที่วิกฤตคืออาหารที่จะเลี้ยงพลเมืองครับ สนามบินในประเทศคงเหลือแต่ที่ภาคเหนือและภาคอีสาน ของที่อื่นจมน้ำทะเลหมด ถ้าพื้นที่ที่เหลืออยู่ต้องเอามาผลิตอาหาร คงไม่เหลือพื้นที่ที่จะเอามาผลิตเอทานอลเพื่อเติมในรถยนต์หรือเครื่องบินแน่
ลองคิดดูดิครับ ถ้ามีบริษัทผลิตรถยักษ์ใหญ่เข็นเครื่องยนต์แบบ E-80 ที่ใช้แอลกอฮอล 8 ส่วน น้ำมัน 2 ส่วน โดยที่การสึกกร่อนไม่สูงหรือพอๆกับเครื่องยนต์น้ำมัน ก็เท่ากับว่ามนุษย์เราสามารถยืดอายุการใช้น้ำมันไปอีก 5 เท่าตัว หรือกว่า 200 ปีนะครับ
สาธุขอให้เป็นไปทางนั้นเถอะ ประเทศที่มีพื้นที่การเกษตรที่อุดมสมบูรณ์อย่างประเทศเรา จะได้การเป็นผู้ผลิตเชื้อเพลิงรายใหญ่ของโลกแทน OPEC กันล่ะครับ
เหมือนที่คุณ icy พูดน่ะครับ ไฮโดรเจนที่จะแยกมาจากน้ำต้องใช้ไฟฟ้าแยก แต่ผมไม่แน่ใจว่าพลังงานไฟฟ้าที่ใช้แยกจะคุ้มค่ากับพลังที่ได้จากการนำไฮโดรเจนที่ได้ไปใช้
ข้อเสียอีกข้อของไฮโดรเจนคือ การกักเก็บที่ยากมาก เพราะไฮโดรเจนมีขนาดเล็กมาก จึงสามารถแทรกและเล็ดลอดออกจากถังเก็บได้ง่ายมาก จึงหนีหายจากถังเก็บเกือบหมด และถ้านำมันไปใช้ในเรือดำน้ำ มันจะหนีออกจากถังไปค้างอยู่ในตัวเรือดำน้ำ และถ้ามีประกายไฟล่ะก็..........บรึ้มมมม
จึงต้องหาวิธีเก็บไฮโดรเจนที่วุ่นวายตั้งแต่ใช้วัสดุที่เป็นเมมเบรนในการกักเก็บ แล้วพอจะใช้จึงค่อยดึงออกมา ก็ระบบ Fuel cell ใช้อยู่นี่ครับ ยุ่งยากและราคามหาโหด
บางเจ้าก็เก็บมันอยู่ในรูปของ CH4 มันซะเลย กักเก็บง่าย และที่สำคัญ.....ไม่ต้องมานั่งสร้างให้วุ่นวาย เพราะได้มาจากก๊าซธรรมชาติ............อ่าวไทยมีเพียบ ดังนั้นจึงมี Fuel cell ที่ใช้ระบบของก๊าซ เช่น ระบบแมสม่า
ผมว่าคู่แข่งที่สำคัญที่สุดของเชื้อเพลิง H ก็คือ เชื้อเพลิงแอลกอฮอลครับ เพราะแอลกอฮอลเองก็ถูกนำไปใช้ในเครื่องบินใบพัดแข่งขัน แม้ว่ามันจะให้ค่าพลังงานต่ำกว่าน้ำมันเชื้อเพลิง(เมททิลแอลกอฮอล) แต่มันเก็บง่าย ราคาถูกกว่าน้ำมันและที่สำคัญที่สุด คือ การผลิตนั้นได้มาจากการปลูกพืชที่นำไปสร้างแอลกอฮอลล์ได้ เช่น อ้อย มันสำปะหลัง (เอททิลแอลกอฮอล)
ยุคแรกๆของจรวด เขาก็ใช้แอลกอฮอลมาผสมกับสารบางตัวซึ่งผมจำไม่ได้แล้ว ก็จะได้เชื้อเพลิงที่เหนียวหนับๆเหมือนแป้งกวน
ปัญหาอยู่ที่ว่า ประเทศเกษตรกรรมอย่างเราจะดูมีอนาคตทันทีที่เชื้อเพลิงแอลกอฮอลได้รับความนิยมขึ้นมา.............ปลูกอ้อยรวยพอๆกับมีบ่อน้ำมันหลังบ้าน แต่ชาติอุตสาหกรรมเช่นญี่ปุ่นนั้น ไม่มีพื้นที่สำหรับการเกษตรมากนัก น้ำกลับหาง่ายมาก เพราะประเทศเป็นเกาะ...น้ำล้อมรอบประเทศ ........... นั่นคือมีเชื้อเพลิงล้อมรอบประเทศ ไฟฟ้าได้จากนิวเคลียร์แล้วเอาไปแยกน้ำด้วยไฟฟ้าได้ H ดังนั้นคิดหรือว่าชาติอุตสาหกรรมจะยอมเข็นเครื่องยนต์แอลกอฮอลมาใช้ครับ ยกเว้นต้องมีการพัฒนาแยกชนิดเครื่องยนต์เพื่อส่งออกกันล่ะครับ
ผมว่าถ้าทรัพยากรของโลกคงหมดไม่เกิน 200 ปี (ถึงตอนนั้นน้ำอาจจะท่วมโลกซะก่อน)มนุษย์ชาติคงต้องคิดหาทางไปอวกาศให้ได้เพื่อหาทรัพยากรมาทดแทน