ช่วง 1-2 ปีนี้ทำไมมีแต่คนพูดถึง MEKO A-100 กัน ทั้งๆที่ปี 2004 มีการแสดงตัวของคู่แข่งที่จัดว่าสมน้ำสมเนื้อกัน นั่นคือ Gowind Class corvette ซึ่งมีระวาง ระบบอาวุธ ระบบอำนวยการรบ เทคโนโลยีเสตลธ์ไม่ได้ด้อยไปกว่า ดังนั้นวันนี้ผมขอทำหน้าที่เปิดตัวและเป็นเซลแมนขายอาวุธให้อู่ต่อเรือ DCN แล้วกันนะครับ เพื่อนๆท่านใดมีข้อมูลเพิ่มเติมมานำเสนอด้วยก็ดีครับ
เรือชั้นนี้มี 3 รุ่น คือ Gowind 120 Gowind 170 Gowind 200 โดยมีสเปกดังนี้ครับ
Gowind 120
Length: 80 m
Beam: 12 m
Displacement: 1250 tns
Maximum Speed: >30 kts
Distance Franchissable: 2 000 mn (at 15 kts)
Endurance: 10 days
Complement: 52 (+8)
Helicopter: flight deck, 5t helicopter
Propulsion: Option, CODAD
Gowind 170
Length: 95 m
Beam: 14 m
Displacement: 1700 t
Maximum Speed: > 30 kts
Distance Franchissable: 3.000 nm (at 15 kts)
Endurance: > 20 days
Complement: 65 (+15)
Helicopter: flight deck & hangar, 5 t helicopter
Propulsion: Option, CODAD
Gowind 200
Length: 103 m
Beam: 14,2 m
Displacement: 1950 t
Maximum Speed: > 30 kts
Distance Franchissable: 3.000 nm (at 15 kts)
Endurance: 20 days
Complement: 70 (+15)
Helicopter: flight deck & hangar, 10 t helicopter
Propulsion: Option : CODAD
เรือชั้นนี้ถูกออกแบบมาให้ลดหน้าตัดเรด้าร์เฉกเช่นเดียวกับเรือชั้น MEKO ลดความดังของสัญญาณเสียง อินฟาเรดที่จะแพร่ออกไปจากตัวเรือ เรือคอร์เวตรุ่นนี้ใช้ระบบอำนวยการรบที่ประสบความสำเร็จของฝรั่งเศส คือ Setis เห็นคุยว่าเป็นระบบอำนวยการรบระดับ state-of-the-art รูปร่างหน้าตาของเรือชั้นนี้จะหน้าตาใกล้ๆกับเรือ FREMM เพียงแต่เสาสัญญาณจะเป็นเสาเดี่ยว ระบบขับเคลื่อนของเรือจะเป็นแบบ Combined Diesel and Diesel (CODAD) ผมไม่ค่อยรู้เรื่องนี้เลย เพื่อนท่านใดเข้าใจช่วยขยายความด้วยครับ และนอกจากนี้ยังมีระบบขับเคลื่อนแบบ water-jets ให้อีกด้วย ผมว่าระบบ water-jets น่าจะเป็น Option มากกว่า
ระบบอาวุธนั้น รุ่นเล็กสุด Gowind 120 จะถูกออกแบบมาเพื่อการรบระหว่างเรือผิวน้ำด้วยกันเป็นหลัก คือ สามารถใช้ Exocet MM40 หรือ Harpoon ได้ 8 ลูก ติดตั้งปืน 76 มม. เป็นปืนหลักทั้งสามรุ่น และปืนรองขนาด 20 มม. สำหรับรุ่นเล็ก และ 30 มม. สำหรับรุ่น Gowind 170 และ Gowind 200 ส่วนการป้องกันตัวเองทางอากาศจะใช้แค่ MICA VLS 16 ท่อยิงได้กับทุกรุ่น ส่วนรุ่น Gowind 170 และ Gowind 200 จะสามารถใช้ ASTER-15 ซึ่งจะติดตั้งด้วย VLS แบบสลิปเวอร์ 45 (จะเป็นออปชั่นเน้อ) และรุ่น Gowind 200 จะสามารถติดตั้งท่อยิงตอร์ปิโดแบบ 3 ท่อยิงได้ 2 แท่น ซึ่งรุ่นอื่นๆไม่มี
ระบบตรวจจับสามารถเลือกใช้ระบบเรด้าร์ 3 มิติของตะวันตกแบบใดก็ได้ และสามารถรองรับระบบเรด้าร์เดินเรือ 2 มิติ ได้ 2 ระบบ พร้อมรองรับระบบพิสูจน์ฝ่าย IFF
แต่ระบบโซน่าร์นั้น รุ่นเล็กจะรองรับแค่โซน่าร์ที่เรียกว่า Mine Avoidance Sonar ในขณะที่รุ่น Gowind 170 จะรองรับระบบตรวจจับภัยคุกคามจากตอร์ปิโดด้วย ส่วนรุ่น Gowind 200 จะมีระบบ Hull Mount Sonar และระบบ Variable depth Sonar ผมไม่เข้าใจว่ามันต่างกันอะหยั่ง
Gowind 120 และ 170 จะสามารถรองรับฮ.ขนาด 5 ตันได้ ในขณะที่รุ่น Gowind 200 จะรองรับฮ.ขนาด 10 ตันได้สบาย รุ่นเล็ก 2 รุ่นสามารถปฏิบัติการด้วย UAV สำหรับการใช้งานทางทะเลได้ด้วยครับ
จากการออกแบบตัวเรือที่ยอดเยี่ยม แม้จะใช้ระบบขับเคลื่อนแบบ CODAD ก็จะสามารถทำความเร็วได้มากกว่า 30 น๊อต(เร็วพอๆกับเรือฟรีเกต) และถ้าใช้ระบบขับเคลื่อนแบบ CODAG จะสามารถทำความเร็วได้มากกว่า 35 ทีเดียว เร็วพอๆกับเรือเร็วโจมตี แต่ในเพรสรีลีสกับเสนอแต่ระบบ CODAD ผมว่าถ้าจะเอาระบบ CODAG ก็คงจะได้แต่ต้องเพิ่มเงิน อะไรเทือกนั้น
เห็นบอกว่าขายได้แล้ว 2 ประเทศ คือ จอร์เจียและบัลแกเรีย โดยจอร์เจียต้องการ 2 ลำ และ บัลแกเรีย ต้องการ 4 ลำ ราคาที่บัลแกเรียจ่ายสำหรับ 4 ลำ คือ 750 ล้านยูโร หรือตกลำละประมาณ 8,000 ล้านบาท! ราคาแพงกว่า MEKO A-100 ที่มาเลย์ซื้อ ซึ่งมาเลย์ซื้อมาตกลำละประมาณ 5,600 ล้านบาท แต่ไม่ได้ติดตั้งระบบ RAM มาด้วย ราคานี้แพงกว่า Formindable ที่มีระวางขับน้ำและสามารถติดตั้ง ASTER -15 ได้ 32 ลูกซะอีก แต่อย่างว่า ระบบอำนวยการรบของ Formindable จะใช้ของสิงคโปร์ทำเอง ราคาเลยถูกลงมาก
รูปหน้านี้เสาอากาศเสาสัญญาณที่แปลกตาของเรือชั้นนี้
ข้อมูลและรูปเพิ่มเติมดูได้ที่นี่ครับ
ข้อมูลส่วนมากเอามาจากเพรสรีลีสอันนี้ ซึ่งมีรูปสวยๆตรึม ใครตัดภาพออกมาเป็น ผมขอฝากแรงตัดให้ด้วยนะครับ ผมไม่ค่อยถนัดนักในเรื่องนี้
http://www.mindef.gov.sg/imindef/mindef_websites/atozlistings/navy/microsites/npts/npts_2005_papers.-imindefPars-0006-DownloadFile.tmp/Day2Session1Paper1-DCN-Gowind.pdf
ส่วนอันนี้เป็นภาพกราฟฟิกเคลื่อนไหวมี่สวยมากๆ ของเวป DCN
http://www.dcn.fr/us/offre/batiments_surface/gowind200.html
ในความคิดของผมว่าถ้าเราจะจัดหาเรือฟรีเกตหรือคอร์เวตใหม่ ผมว่าเรือชั้นนี้ก็ไม่เลว แต่ราคาเลวร้ายสำหรับกระเป๋าตังค์จังเลย โดยเฉพาะรุ่น Gowind 200 ซึ่งสามารถจัดหา Aster-15 มาติดตั้งได้ ถ้าได้เครื่องยนต์ CODAG ด้วยจะสุดยอด ระวางขับน้ำราวๆ 2000 ตันนี่เหมาะสมกับกองเรือตรวจอ่าวเราเราครับ
ถ้าเราใช้เรือ อคร์เวตชั้น Gowind 200 และเรือฟรีเกต Formindable เป็นเรือรบหลักของกองเรือ ผมว่าเราคงง่ายในการเตรียมความพร้อมของกองเรือเราน่ะครับ เพราะเป็นเรือที่อยู่ในซีรีย์ถัดกันไป เหมือนใช้ BMW 300 ซีรีย์ กับ 500 ซีรีย์ พร้อมกันในบ้าน
แต่ดูเหมือนเรือชั้น Gowind จะไม่ประสบความสำเร็จเหมือนเรือ ฟรีเกต ชั้น La Fayette เลย ในขณะที่คู่แข่งสำคัญคือ MEKO กับประสบความสำเร็จทั้งเรือคอร์เวตและเรือฟรีเกต อาจจะเป็นเพราะราคามั๊งครับ
สะพานเดินเรือของเรือรุ่นนี้มองได้รอบตัว 360 องศาแน่ะครับ ส่วนปืน 20 , 30 มม. บนหลังคาโรงเก็บฮ. น่าจะสามารถเปลี่ยนเป็นระบบ CIWS ใดๆของตะวันตกได้น่ะครับ
เพิ่มเติมท่าน neosiamese ครับ....ของมาเลย์ที่ถูกนั้นเห็นเค้าว่าอาวุธมันมาแต่ปืนเรือกับปืนรองอ่ะครับผม
รูปร่างสวยจังเลยครับ
สามารถ สอยนก ได้ด้วย
MICA VLS รัศมี ยิง 18 กิโลเมตร
ASTER 15 รัศมี ยิงตั้งแต่ 7 กิโลเมตร ถึง 30 กิโลเมตร
ASTER 30 รัศมียิงตั้งแต่ 3 กิโลเมตร ถีง 120 กิโลเมตร
ก็ดีน่ะ อยากได้
Main characteristics | Aster 15 | Aster 30 |
Terminal Velocity | 1,000 metres/sec (Mach 3.5) |
1,400 metres/sec (Mach 4.5) |
Propulsion | Solid propellant, two stage | |
Manoeuvrability | > 50 G's | |
Guidance | Continuous updating of target position via automatic up-link from radar. Active radar seeker for terminal phase | |
Steering | PIF/PAF | |
Fuse | EM proximity fuse | |
Length | 4.0 m | 4.8 m |
Weight | 300 kg | 445 kg |
Terminal dart | diameter 180 mm ; weight 100 kg. at intercept | |
Maximum range | 30 km | 100 km |
Minimum intercept range | 1.7 km | 3 km |
Maximum altitude of interception | 10,000 m | 20,000 m |
Other features | High resistance to ECM Focused fragment warhead Ready-to-fire container |
จากnavy-matters.beedall.com/
จะว่าไปถ้าดูจากข้อมูลนี้แล้ว aster30มีระยะยิงที่ไกลกว่า ESSM กว่าครึ่งนี่ครับ ทำไม่ ทร.ไม่สนใจที่จะนำมาติดตั้งร่วมกับ sadral ที่มีข่าวว่าจะติดตั้งกับเรือชั้นนเรศวร เลยล่ะครับหรือจะนำมาติดตั้งกับ 911 เราเลยก็ได้นี่ครับไหนๆก็กลายเป็นเรือบรรทุก ฮ. แล้ว เอา aster30 มาติดนี่ก็จะสมบูรณ์แบบเลย เอาไว้ป้องกันตัวเองได้อย่างดีป้องกันกองเรือได้อีกต่างหาก และตัวอาวุธมาจากแหล่งกำเนิดเดิยวกันน่าจะทำงานเข้าขากันนะครับ หรือว่ามันจะแพงกว่า ESSM อาวุธทางเรือเราก็มาจาก 3 ชาติหลักอยู่แล้วคือจีน สหรัฐ และฝรั่งเศษ
Aster 30 มีประสิทธิภาพเทียบได้กับ SM-2MR ครับ ซึ่งราคาก็น่าจะมีความใกล้เคียงกัน(คือแพง)
ในขณะที่ Aster 15 นั้นเป็นอาวุธป้องกันภัยทางอากาศทีมีพิสัยสั้นกว่าซึ่งเทียบได้กับ ESSM แต่อย่างไรก็ตาม ESSM มีพิสัยกว่ายิงไกลกว่า Aster 15 คือประมาณ 27nm หรือ 50กว่ากิโลเมตรครับ(Aster 15 ระยะยิงเพียง 30กิโลเมตร)
ตามแผนเดิมที่มีมานั้นเรือชั้นนเรศวรจะติดตั้งท่อยิง Mk 41 VLS จำนวนสองชุดแต่ละชุดมีท่อยิง8ท่อรวม 16ท่อยิงซึ่ง ESSM ที่ติดตั้งในแท่นบรรจุจรวดแบบ Mk 25 Quad Pack นั้นสามารถบรรจุจรวดได้ถึง4นัดภายในท่อยิงเดียวครับเพราะฉนั้น เรือชั้นนเรศวรสามารถติด ESSM ได้ถึง64นัดเลยทีเดียว ในขณะที่ Aster 15 และ Aster 30 นั้นต้องใช้ท่อยิงเฉพาะของตนเองซึ่งท่อยิง1ก็บรรจุได้แค่ 1นัดเท่านั้นครับ
ของไทยก็สร้างเองครับ แต่เป็นชื่อ Gone with the Wind
-*- เฮ้อ อะรไก็ได้ครับ แต่ขอให้มันมาทีเถอะเรือฟรีเกตป้องกันภัยทางอากาศ
จากกระทู้ข้างบนของคุณ zeroman ผมว่าเราพัฒนาลำนี้ดีกว่าครับ
Project F25T Naresuan Class
ตามแผนเดิมที่มีมานั้นเรือชั้นนเรศวรจะติดตั้งท่อยิง Mk 41 VLS จำนวนสองชุดแต่ละชุดมีท่อยิง8ท่อรวม 16ท่อยิงซึ่ง ESSM ที่ติดตั้งในแท่นบรรจุจรวดแบบ Mk 25 Quad Pack นั้นสามารถบรรจุจรวดได้ถึง4นัดภายในท่อยิงเดียวครับเพราะฉนั้น เรือชั้นนเรศวรสามารถติด ESSM ได้ถึง64นัดเลยทีเดียว
รบกวนถามเป็นความรู้นิดนึงครับ ESSM นี่เป็นจรวดที่ชาติไหนผลิตหรือครับแล้วมีใช้ในเรืออะไรบ้าง เพราะที่ได้ยินมา เรือ นเรศวร วางแผนว่าจะติด sea sparrowและติดได้แค่8 นัด ระยะยิงประมาณ 10 kmเองไม่ใช่หรือครับและ usa ปฏิเสธที่จะขายให้เรา พร้อมทั้งฟาลังค์ด้วย ทำให้เราต้องไปซื้อ sadral มาติดแทนนี่ครับ แล้ว quad pack นี่เรียงกันตามยาวหรือเปล่าครับ
ถ้ามีข้อมูล essm หรือ รูปภาพหรือ link รบกวนขอข้อมูลด้วยครับ ขอบคุณมากครับ
ESSM ก็ย่อมาจาก Evolved Sea Sparrow Missile (RIM-162)ครับ เป็นสายพันธุ์ Sea Sparrow เหมือนกัน ตอนเรือนเรศวรมาใหม่ๆผมก็ได้ข่าวว่าจะติดแค่ Sea Sparrow เหมือนกันครับ แต่อย่าลืมนะครับว่า mk-41 vls มันใส่ได้หลายอย่าง อีก 10 ปีเราอาจจะได้ sm-2 มาใส่เรือด้วยก็ได้(ตอนมันตกรุ่น)555 สงสัยต้องลุ้นให้ติด mk-41 ก่อนอย่างอื่น
http://en.wikipedia.org/wiki/ESSM ข้อมูลครับ
Mk25 Quad-packed
SM-2 รุ่นปัจจุบันที่สหรัฐฯส่งออกให้กับมิตรประเทศนั้นส่วนใหญ่จะเป็นรุ่น SM-2 Block IIIA ซึ่งเป็นรุ่นพิสัยยิงปานกลางครับ ส่วนรุ่น SM-2ER ซึ่งมีระยะยิงไกลกว่านั้นจำเป็นต้องใช้ท่อยิง Mk41 รุ่นท่อยาวครับซึ่งเรือที่มีระวางขับน้ำไม่ใหญ่มากอาจจะไม่มีพื้นที่พอติดตั้งได้ครับ
แถมด้วยรูปม้าใช้งานหลักของทร.สิงคโปร์ formindable
ถ้าดาดฟ้าเรือด้านหน้าที่เป็นพื้นที่ว่างเอามาติดตั้ง MK-41 หรือ สลิปเวอร์-เอ50 โฮ่ะๆๆๆๆเอาแท่น 16 ท่อยิงด้วยนะ......... จะได้มี ESSM 64 ลูกหรือ aster 30 สัก 16 ลูก
จรวจโครเทลจิ๊บๆถอดออกซะ ไปติดฟาลังก์ หรือโกลคีปเปอร์ล่ะก็ เจ๋ง............
เปลี่ยนเรด้าร์เป็น SPY-1 K และเอจีสชุดเล็ก เท่านี้เรือป้องกันภัยทางอากาศสุดสวยเปี่ยมประสิทธิภาพก็จะเกิดขึ้น...........ลูกครึ่งอเมริกัน-ฝรั่งเศส 5555 สวยโคตรๆๆเลย
เรือฟรีเกตป้องกันภัยทางอากาศ .......2 ลำ หน้าตาคล้ายๆแบบนี้จะดีมาก