อยากทราบ ว่า ทำไม เครื่องบินขับไล่ ที่มีคุณลักษณะล่องหน ตรง จมูก เครื่อง ยาวไปจนถึง ช่องทางดูดอากาศ เข้าเครื่องยนต์ ต้อง เป็น เหลี่ยม
เมื่อก่อน คิดว่า เครื่องบิน น่าแหลมๆ กลมๆ มนๆ จะแหวกอากาศ ได้ดี กว่า และลด การสะท้อน เรดาร์
แต่ผมคิดผิด
F-22
เพราะมันฉลาด เฮ้ย ไม่ใช่ อิอิ
เอาตามที่คาดเดาละกันครับ เรดาห์ทำงานโดยการส่งคลื่นความถี่ไฟสะท้อน วัตถุ แล้วกลับมายังตัวรับ เพื่อตรวจจับวัตถุ หลักการของเครื่อนบินแบบ ล่องหน ก็จากจะมาจากการทำให้ คลื่นเรดาห์ ที่ส่งมา สะท้อนกลับไปน้อยที่สุด ซึ่งทำได้หลายๆ วิธี สำหรับ รูปทรงที่ออกแบบให้เป็นเหลี่ยม ก็เพื่อให้มันมีมุม ที่จะสามารถสลายคลื่นเรดาห์ ไม่ให้สะท้อนกลับไปได้ หรือให้คลื่นกระจายไปที่อื่น เช่น ลองง่ายๆๆ ถ้าเราตะโกนใส่ผนังผิวเรียบ มันก็จะมีแสงสะท้อนออกมา แต่ถ้าเราตะโกนใส่ผนังที่ลาดเอียง หรือมีมุมแหลม เสียงจะสัท้อนออกมาน้อยลง
เคยอ่าน มาว่า F-22 และ F-35 ไม่มีภัยคุกคาม จาก อาวุธภาคพื้นดิน และ ทางอากาศ ไม่จำเป็นต้อง ใช้ คุณลักษณะ ล่องหน
ใต้ปีก สามารถ ติด AIM-120 AMRAAM หรือ AIM-9X ได้ หรือ สามารถ ติดตั้งระเบิด ได้
อยากทราบว่า ทำไม เมื่อติด อาวุธ ใต้ปีก จะทำให้ คุณลักษณะ STEALTH ด้อยลง
สมมุติว่า JAS-39 GRIPEN ไม่ติด อาวุธ ใต้ปีก มันจะถูกตรวจจับยากมั๊ย ( แบบบินฝึก เฉยๆ )
ขำๆ น่ะครับ
สมมุติ ว่า เอา MAKO ติด BVRAAM ซัก 2 ลูก ไปปล่อย ใส่ตูด คนอื่น พอมันปล่อยอาวุธไป หมดแล้ว ทั้ง 2 ลูก มันก็ จะล่องหน
นักบิน อีกฝ่าย พูด: เฮ้ยใครมายิงตูว่ะ หลบแทบตาย กลับบ้านดีฝ่า น้ำมันหมด ใช้ไปกับการหลบหลีก BVRAAM
เปรียบเทียบง่ายได้ดังนี้ครับ
เราลองเอากระจกมาส่องหน้าตรง ๆ สิครับ เราก้จะเห็นหน้าตัวเอง แต่ถ้าเราเอียงกระจกไปสัก 30 องศา หน้าเราก็จะแหล่งไป
ฉันใดก็ฉันนั้น
คลื่นเรด้าห์ก็คือคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ซึ่งสามารถประพฤติตัวเป็นคลื่นเหมือนคลื่นน้ำได้ ถ้าวัตตุที่เรด้าห์ตกกระทบทำมุมตั้งฉากกับคลื่น 90 องศา คลื่นก็จะสะท้อนกลับทางเดิม เสมือนหนึ่งคลื่นที่กระทบกำแพง แต่ถ้ามุมตกกระทบแตกต่างจากนี้ การสะท้อนก็จะเปลี่ยนไป
นี่จึงเป้นคำตอบที่ว่าทำไมรูปร่างของเครื่อง Stealth มันจึงบิด ๆ เบี้ยว ๆ ไงครับ เพราะในเมื่อมุมตกกระทบไม่ใช่ 90 แล้วล่ะก็ จำนวนการสะท้อนของเรด้าห์ที่จะกลับไปหาแหล่งกำเนิดก็จะน้อยลง
ฉะนั้น การออกแบบจำเป็นต้องคำนึงถึงรูปร่างมาก ๆ ครับ
ดูจากของจริง
ไม่มีอะไรลึกล้ำครับ ฟิสิกส์ม. 4
ที่คุณสกายแมนพูดถูกต้องแล้วครับ ใครเล่นเครื่องเสียงระดับไฮเอนด์บ้างครับ ถ้าใครเล่นต้องรู้ว่าห้องฟังนั้นต้องออกแบบให้มีการสะท้อนเสียงน้อย ซึ่งห้องฟังก็ต้องออกแบบให้เป็นเหลี่ยมมุนไม่ขนานกัน เพื่อให้หัวคลื่นแตกและไม่เกิดอาการเรโซแนนซ์ภายในห้องขึ้น(เพราะมันจะมารบกวนเสียงจากตัวลำโพง ทำให้คุณภาพเสียงเมื่อมาถึงตัวเรานั้นลดคุณภาพลง) และตัวสำคัญอีกอันหนึ่งคือ ฟองน้ำดูดซับเสียง จะมีลักษณะเป็นแท่งสี่เหลี่ยมแหลมขนมเปียกปูนยื่นออกมาเหมือนตะปูเต็มพรืดไปหมด (แผ่นหนึ่งราคาร้องจ๊าก ติดทั้งห้องราคาหลายหมื่นถึงหลักแสนบาท! ) มันจะทำหน้าที่ทำให้หัวคลื่นแตกกระจายออกไปแล้วตัวฟองน้ำจะทำการดูดกลืนคลื่นเหล่านั้นจนหมดครับ
ถ้าอยู่ในเวปนี้นานๆบางท่านจะเคยเห็นภาพทดสอบการสะท้อนเรด้าร์ของเครื่องบินรบในห้องทดสอบ จะเห็นว่าในห้องนั้นจะติดตั้งแผ่นฟองน้ำที่จะมีหน้าตาคล้ายๆแผ่นฟองน้ำดูดซับเสียงเลยครับ แต่หนามของฟองน้ำจะใหญ่และยาวกว่าของฟองน้ำซับเสียงมาก มันทำหน้าที่ดูดซับสัญญาณเรด้าร์ที่ใช้ในการทดสอบเครื่องบินน่ะครับ
เครื่องบินรบที่มีคุณลักษณะเสตลธ์ ก็ใช้หลักการนี้แหล่ะครับ เพราะคลื่นเสียงกับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจะมีลักษณะหลายประการคล้ายๆกันมากครับ ตอนเรียน Classical wave ก้ต้องเรียนทั้งคลื่นเสียง คลื่นน้ำ ส่วนคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าก็จะจำลองด้วยคลื่นน้ำเช่นกันครับ
ลองกลับไปหาฟองน้ำซับเสียงดูสิครับ แล้วมองหนามแหลมๆของมันเปรียบเทียบกับมองภาพวิวหน้าตรงของ F-35 F-22 จะเห็นว่าคล้ายๆกันเลยครับ
ครับสาเหตุหลัก ๆ ที่สะท้อน Radar มากขึ้นมาจากสองส่วนคือ
1.ตัว Pylon เอง(คือฐานที่ต่อประกอบกับปีกเครื่องบินเพื่อติดอาวุธครับ)
2. ตัวอาวุธเอง ซึ่งส่วนใหญ่ การออกแบบจะเน้นให้มีคุณลักษณะทางอากาศพลศาสตร์ดี และเหมาะสมกับการใช้งาน เป็นอันดับแรก ๆ จึงจะเห็นได้ว่าจรวดส่วนใหญ่จะมีครีบ หรือแพนหางต่าง ๆ อยู่เต็มไปหมด
รูปประกอบPylon จาก
http://www.afmc.af.mil/news/story.asp?storyID=123014211 ครับ
อีกรูปครับ
ตัวอาวุธเองรุ่นใหม่ ๆ ก็จะมีการลดหน้าตัดสะท้อนเรดาร์ เหมือนกันครับ หรือแม้กระทั้งออกแบบให้พับครีบหรือปีกตอนที่ยังไม่ใช้งานเลยก็มี ดูตัวอย่างที่ลูกใหญ่ ๆ ครับ