ตั้งแต่มีเหตุการณ์ในสามสี่จังหวัดทางใต้ ไทยเราจำหน่ายไปเท่าใดแล้วครับ ทั้งกำลังพลของเราและยานพาหนะเช่นฮัมวี่ ผมเคยอ่านเจอในเน็ตเห็นว่าทบ. ซื้อฮัมวี่มาประมาณ 600 -700คัน น.ย.มีประมาณ24คัน เห็นข่าวเราจำหน่ายฮัมวี่หลายคันแล้ว ประมาณอาทิตย์ละคันสองคัน หากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ จำนวนกำลังพลและฮัมวี่ที่มีอยู่คงหมดในไม่ช้า อย่างวันก่อนขนาด V-150ของตชด. ยังโดนกับระเบิด กำลังพลเจ็บหลายนาย ซึ่งไม่ทราบว่าจะนำV-150คันนั้นกลับมาใช้งานได้หรือไม่ ตชด.ก็มีV-150อยู่ไม่กี่คัน น่าจะแค่หลักสิบเท่านั้น
ไม่ทราบว่าถึงเวลาหรือยังที่เราต้องนำรถสายพานหุ้มเกราะเช่น M-113 , Type-85 ลงไปปฎิบัติงานในภาคใต้ เพื่อช่วยลดการเสียกำลังพลของเราครับ ผมว่าให้ทหาร และตชด.นั่งในรถสายพานหุ้มเกราะหรือรถหุ้มเกราะล้อยางน่าจะดีกว่าที่จะปล่อยให้นั่งในฮัมวี่และรถกระบะน่ะครับ หากโดนกับระเบิด หนักจะได้เป็นเบา และจะได้หมดปัญหาเรื่องตะปูเรือใบ
แย่น่ะครับท่านกบ หากรัฐห่วงแต่ภาพลักษณ์ สำหรับผมชีวิตทหารและพลเรือนสำคัญกว่าภาพลักษณ์ครับ
" ซื้อใจลูกน้องไม่ได้ รบกี่ครั้งก็แพ้เท่านั้น "
ไม่ต้องรถหุ้มเกราะ ไม่ต้องปืนใหญ่หรอกครับ
ให้ทหารเค้าทำงานแบบทหารดีกว่า ไม่ใช่ให้ทหารทำงานแบบยามเฝ้าหมู่บ้าน
ดุจังเลยท่านเจ้าบ้าน....น่ากลัวน่ะครับ
เออ ท่านCoffeemix ตามที่ท่านกล่าวแสดงว่า บก.ข้างบนไม่อยากจับตัวการหรือปราบปรามซิครับ ฟังดูเหมือน เจ้านายปล่อยๆ ลอยตัวๆยังไงไม่ทราบ ถ้าให้แต่ทหารเฝ้าบ้าน เราก็เป็นเป้าให้พวกมันซ้อมยิงซิครับ.........น่าสงสารเจ้าหน้าที่และประชาชน
อะไรทำนองนั้นแหล่ะครับ Mr.Bean เพราะปัจจุบันทหารก็กลายเป็นยามจริงๆอย่างที่ท่านกาแฟผสมพูด บอกเลยว่าถ้าให้ทหารทำตามรูปแบบที่ถูกต้องของทหาร ปัญหานี้มันจบไปนานแล้วครับ แต่...........เฮ้อ ไม่อยากพูดเลย เซ็ง
ทำตามรูปแบบทหารนี่ คงมะใช่ที่ว่า "ชี้เป้าและออกคำสั่งทำลาย" นะครับ
เพราะไม่งั้นก็จะกลายเป็นแบบอเมริกาแหละ (ไม่จบสักที)
มีวิธีแก้อีกอันนะ