วี 150 ของ ตชด ครับ

นับวันยิ่งไป..กันใหญ่..เลยนะคับ..ยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อๆ..ไม่มีท่าทีว่า..จะจบ..

ยังดีนะครับ..ที่แค่ได้รับ..บาดเจ็บ..กันเท่านนั้น..

นี่ V-150 ยังตะแคงข้าง...ถ้าเป็น ฮัมวี่..สงสัยคงล้อชีฟ้า..สูญเสีย..มากกว่านี้..

เฮ้อ.อ...อ...

รถเกราะหนัก 7 ตัน กระเด็นกลิ้งโค่โล่ล้อ-เพลา ไปทั้งดุ้นเลย..........มันเป็นระเบิดแสวงเครื่องที่ทำจากอะไรก็ช่าง แต่เมื่อเทียบอำนาจการทำลายแล้วเท่าๆระเบิดดักรถถัง.................นับวันยิ่งเพิ่มความรุนแรงยิ่งหนัข้อ ไม่หมูซะแล้วงานนี้ ยังไงก็อย่าถึงกับต้องเอาเอ็ม-60ออกไปวิ่งกันนะครับ (หมายเหตุ เอ็ม-41 ไม่เก่งในพื้นที่แบบนั้น)

น่ากลัวครับ เล่นซะล้อหายเลย ว่าแต่เราไม่สามารถตรวจสอบเส้นทางก่อนได้เลยหรือครับ เป็นกำลังใจให้ผู้ปฏิบัติหน้าที่ครับ

....ระเบิดเป็นอาวุธที่ป้องกันได้ยาก...ไม่รู้ว่าจะโผล่ที่ไหนบ้าง อย่าว่าแต่เอ็ม.60 เลยคับ ต่อให้เอแบร่มส์ยังมีสิทธิ์นอนหงายท้องดูดาวได้ถ้าโดนจัง ๆ แบ่บลูกใหญ่ ๆ....

....ขนาดสหรัฐส่องดาวเทียมเป็นสิบ ๆ ดวงตลอด 24 เหนืออิรักและอาฟกานิสถาน ยังโดนบอมบ์ไม่เว้นแต่ละวัน...นับประสาอะไรกับเรา...

....การป้องกันระเบิดที่ได้ผลมากที่สุด คือการข่าว และฐานมวลชนต้องพัฒนากว่านี้ จนฝ่ายตรงข้ามถูกแยกออกจากมวลชนอย่างสิ้นเชิง....

....นี่คือวิธีเดียวที่ป้องกันการลอบวางระเบิดอย่างได้ผล....

....บางที ยุทธวิธีการข่าวแบบหนังไทย (ร้อยตำรวจเอกปลอมตัวมา) อาจจะยังใช้ได้ผลนะคับทั่น....

อย่างที่ผมแนะนำหนังเรือ่ง

2 คน 2 คม(Infernal Affairs)

http://www.movieseer.com/ReviewsBil.asp?moID=2776&rID=361&Channel=1

ล่ะ ครับ เขาส่งสายลับ ตั้งแต่เด็กเลย ประเทศเราทั้งประเทศ มีงบประมาณมากมาย น่าจะคัดคนส่งไปบ้าง

ดูหนังเรือ่งนี้ แล้วรู้เลยว่า ชีวิตสายลับ น่าสงสารมาก

นอนก็ไม่ได้ ลองดูมอสสาด อิสราเอล นั่นไง ครับ

ยังระเบิดผู้ก่อการร้ายตัวเอ้ ด้วยมือถือได้เลย

หนังเรื่อง Munic ก็น่าศึกษา

อีกอย่างรถ ตำรวจ ทหาร ก็โดนระเบิดทุกวัน ท่านๆ ทั้งหลายไม่สนใจ รถช่วยรบของ Loxley หรือครับ ผมจำชื่อไม่ได้  เขาว่าทนระเบิดได้ หรือว่าไม่มีงบประมาณ

ตั้งโครงการ บริจาคก็ได้ ผมยินดีบริจาคครับ

ทางกองทัพ น่าจะหา บ. Marketing เก่งๆ หน่อยน่ะครับ เพื่อสร้างกระแส ให้คนไทยรักชาติ มากกว่านี้

Bushmaster

Bushmaster Video Footage

12 MB MPG file (29mins@56k)

Bushmaster is specially designed to meet the requirements of the Australian Defence Force (ADF) to rapidly deploy battle ready troops in all field conditions. The ADF demanded a highly mobile infantry vehicle providing significant troop protection, all terrain agility and expeditionary capacity. High level crew comfort and mobility ensure rapid deployment and delivery of battle ready troops to critical areas. Bushmaster is the latest generation of High Mobility Infantry Protected vehicles.

The Thales Bushmaster family of vehicles has been developed jointly by Thales Australia and Timoney Technology Limited to provide a unique combination of protection, mobility and comfort.

The integrated vee-shaped armoured hull protects occupants by deflecting mine blasts anywhere under the vehicle. Protection is also provided from side blasts from improvised and roadside explosive devices (IED) and fragment shaped projectiles (FSP).

Windows also carry similar ballistic protection. Bushmaster?s fuel and hydraulic tanks are positioned outside the crew?s compartment to ensure that the crew is protected from possible fires resulting from blasts or ballistic attack. There is also a protected emergency fuel tank.

This combination makes the vehicle ideally suited for a range of applications including policing, peacekeeping, troop transport, weapons platform and protected logistics.

The integral features provide the Bushmaster with a comprehensive range of performance and protection capabilities without the need for costly, bulky and complex add-on kits.

Bushmaster's durability and reliability are proven as a result of over 250,000 km of controlled testing.

The Bushmaster platform has been selected by the Australian Army as the basis for their Infantry Mobility Vehicle. Bushmaster is currently in operational service and in full rate production at Thales Australia?s Bendigo facility.

Thales Australia is supplying 300 Infantry Mobility Vehicles to equip infantry regiments with the capability of safe and rapid deployment incorporating a range of options. The vehicle will be supplied in six variants.

Crew comfort and safety

• Carrying capacity of up to ten fully equipped military personnel including commander and driver
• Ample floor to roof height and generous cabin space accommodating 95th percentile males
• Excellent visibility for driver and crew
• Outstanding levels of integrated ballistic and mine blast protection for the crew
• Advanced seating and safety harness designs
• Passenger amenities include airconditioning and cooled water storage facilities.

High Manoeuvrability

• Excellent cross-country mobility and handling characteristics

  The Bushmaster was designed for the most daunting Australian terrains but is equally suitable in a range of environments and conditions such as highway, mud/snow and sand and emergency conditions.

• Arvin Meritor all wheel drive independent suspension

  Coil springs, wishbones and double acting hydraulic shock absorbers complete the suspension package with differential locks front, centre and rear.

• Caterpillar six cylinder, turbocharged electronically controlled emission compliant diesel engine providing up to 330 hp (240 kW) and exceptional torque at low speeds
• Choice of ZF or Allison automatic transmissions
• A high cruising speed of more than 110 kph (66 mph)
• Extended on road cruise range capacity - only requiring refuelling every 1000 kms (600 miles)
• An optional central tyre inflation system that allows the driver to adjust tyre pressures in transit
• An optional self recovery winch
• Maximum ease of repair and maintenance with modular power pack
• Variants of the Bushmaster include:
  • Troop transporter (standard variant)
  • Command and control
  • Ambulance
  • Direct fire support weapon
  • Combat engineer
  • Mortar.

Related Information

Brochures

Two Page Brochure:
Bushmaster ( 243KB)

Eight Page Brochures:
Bushmaster - Imperial ( 649KB)
Bushmaster - Metric ( 650KB)

ตัวนี้ ครับ น่าขอยืม มาลองระเบิดสักคัน น่ะ หากดีค่อยอุดหนุน โรงงานอยู่ที่พัทยานี่เอง

Logo ภาพพี่ X-1 เหมือน..จะลง..ไปใต้..เองเลย..นะคับ..

ดุดัน..จริง..จริง..

การตรวจสอบ..การป้องกัน..ก็ยิ่งทำได้ยาก..คับ

ยิ่งภูมิประเทศ..แบบภาคใต้ด้วยแล้ว..ยิ่งยากต่อการป้องกัน

ซ้ายก็ป่า..ขวาก็สวนยาง..

อย่างที่คุณ X-1 ว่ามามันก็ถูกต้องนะคับ..แต่การปฏิบัตินั้น..มั๊นก็ยาก..แสนยากส์..ส่วนนึงก็มาจากชาวบ้านเองไม่ให้ความร่วมมือ (อาจเพราะเกรงกลัวอิทธิพลของพวกฝ่ายตรงข้ามบ้าง มีอคติกับจนท.ของรัฐบ้าง และฯลฯ) และต้องใช้เวลานาน..แต่ต้องทำ..เพราะ..

ฝ่ายตรงข้ามเค้าปลูกฝัง..ความเชื่อที่ผิดๆ บิดเบือนหลักศาสนา วางแผนกันมานานหลายปี..เหมือนฝีที่มันอักเสบ..แล้วมันก็ระเบิด..ออกมาแล้วตอนนี้..โพละ..

เอาใจช่วย จนท.ในการ..แก้ปัญหาครับ..

อย่าให้ต้อง..ขับรถ..แบบงูเลื้อย..เพื่อหลบ..ระเบิด..ครับ..

เอาใจช่วยครับ..สักวันต้องเป็น..ของเราบ้าง..

ไม่อยากคิดเลยว่ามันจะเป็นระเบิดอะไร

หรือว่ามันเป็นกับดักรถถังจริงๆ ครับ???????

ตามข่าวว่าเป็น "เป็นระเบิดแสวงเครื่อง น้ำหนัก 20กิโลกรัม " ฝังไว้กลางถนน จุดชนวนโดยรีโมทครับ

ครั้งแรกเป็นการจุดระเบิดทำร้ายหน่วยทหารพรานที่กำลังลาดตระเวน

หลังเกิดเหตุ ทางตชดได้ส่งรถวี 150 มาตรวจสอบ

(เข้าทางและแผนที่คนร้ายวางไว้) ก็ถูกลอบวางระเบิดดังที่เป็นข่าวครับ

แถมรูปม้อบจัดตั้งที่จะมาปิดล้อม สภต ทุกครั้งที่มีการจับกุมผู้ต้องสงสัย

เพื่อกดดันไห้ทางรัฐ ปล่อยผู้ต้องสงสัย

ตามรายงานข่าว..ม้อบจัดตั้งพวกนี้ ไม่ไช่ชาวบ้านท้องถิ่น

ไม่ทราบมาจากใหน...ก่อตั้งและสลายตัวเร็วมาก

...

โชคดีที่ V-150 ทนแรงระเบิดได้ตัวรถไม่ได้รับความเสียหายอะไร

ระเบิดที่นิยมกันใช้ในหมู่ผู้ก่อการร้ายผมว่าน่าจะเป็น IDE ที่จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ เราน่าจะมีการติดตั้งตัวตัดคลื่นสัญญานมือถือบนรถลาดตระเวณทุกคันนะครับ

ผมขอออกความเห็นแบบไม่มีความรู้นะครับ ถ้าทหาร/ตชด ออกตรวจการณ์โดยใช้กล้องตรวจจับความร้อน ตรวจสอบสองข้างทาง ไม่ทราบว่าเวลากลางวันเจ้ากล้องพวกนี้สามารถใช้ได้หรือไม่ครับ และระยะตรวจจับไกลประมาณเท่าไรครับ

.....แนวความคิดของท่าน SAM ก้อดีนะคับ แต่ก้ออีกแหล่ะ ขึ้นชื่อว่าระเบิดแล้วมันไม่มีรูปแบบที่แน่นอน กระทั่งวัตถุดิบที่มีอยู่ทั่วไป หาซื้อได้ในราคาไม่แพงและถูกกฎหมายด้วย ก้อสามารถนำมาผสมเป็นระเบิดได้ เชื่อมั๊ยครับว่าแม้แต่กระทั่งสบู่ที่เราใช้ถูหน้าถูตัวกันทุกวัน ๆ ก้อสามารถเอามาทำระเบิดได้...

.....การจุดระเบิดก้อเช่นเดียวกัน เมื่อเรามุ่งไปที่มือถือ เค้าก้อเอาอย่างอื่นมาจุด แค่มีเชื้อประทุไฟฟ้าดอกเดียวเอาถ่านไฟฉายมาจุดก้อได้ เหรือเอาเชื้อประทุธรรมดาจุดด้วยไฟแช็กก้อได้ จุดด้วยรีโมท นาฬิกาปลุก กระทั่งฝังพรางใต้ผิวดินให้รถมาเหยียบเอาก้อได้ การป้องกันระเบิดจึงตายตัวไม่ได้เช่นกัน....

.....การให้ทหาร-ตำรวจใส่เสื้อเกราะ ใช้รถฮัมวี่ รถหุ้มเกราะแบบต่าง ๆ นั้น วัตถุประสงค์เพื่อต้องการลดความสูญเสียด้านชีวิตเจ้าหน้าที่ซึ่งก้อได้ผลนะคับ ถึงรถจะพังแต่ไม่มีใครถึงแก่ชีวิตก้อดีมาก ๆ แล้ว....

....รถพังซื้อใหม่ได้ แต่ชิวิตคนที่ฝึกการรบมาเป็นอย่างดีมันสร้างทดแทนกันไม่ได้ในเวลาอันสั้น...

....ระเบิดของฝ่ายผู้ไม่หวังดี ส่วนใหญ่เป็นประเภทไนตาม่อน ที่แรงระเบิดส่วนใหญ่จะอัดลงดิน รถจึงไม่ได้รับความเสียหายมากนัก ที่หงายท้องล้อหลุดก้อเพราะโดนแรงอัดสะท้อนจากดินอย่างรุนแรงจนยกลอยแล้วกลิ้งไปทั้งคัน จึงไม่มีร่องรอยบุบสลายด้านข้างตัวรถ และที่สงสัยนะคับ รถน่าจะไปเหยียบเอาระเบิดเข้าด้วยน่ะคับ ล้อที่เหยียบถึงหายไปล้อนึงอ่ะ....

....ถ้าเป็นระเบิดอย่างอื่นละก้อลำบากเหมือนกันอ่ะคับ ขนาดเอแบร่มส์ยังกันไม่อยู่เหมือนกัน....

....สรุปแล้ว ช่วยกันคิดแก้ปัญหาด้านมวลชนดีกว่าคับ เวลานี้ฝ่ายตรงข้ามมันบล็อกมวลชนอยู่เกือบทุกจุดแล้ว ทหาร-ตำรวจจะไปทางไหนมันวางระเบิดดักถูกหมด แต่ฝ่ายเจ้าหน้าที่กลับไม่รู้เลยว่าพวกมันเอาระเบิดไปวางไว้ที่ไหนบ้าง....

....แก้ปัญหาด้วยการสร้างมวลชนยั่งยืนดีกว่าคับ.... 

......ตอบคำถามท่านเล็กนะคับ กล้องจับภาพด้วยความร้อนนั้น กลางวันไม่ได้ผลคับเพราะแหล่งความร้อนตามธรรมชาติอย่างเช่นแสงแดดจะกลบความร้อนที่มาจากตัวคน หรือวัตถุที่กำเนิดความร้อนเสียหมด มองด้วยตาเปล่า หรือกล้องส่องทางไกลธรรมดาดีกว่าคับ....

......สมัยสงครามเวียดนาม สหรัฐนำกล้องมองกลางคืนชนิดขยายแสง ขนาดแค่แสงดาวยังสามารถขยายให้สว่างพอเห็นได้ เรียกว่ากล้อง Starlite ปัจจุบันไม่นิยมใช้ เพราะถ้าคนไม่รู้หยิบมาส่องตอนกลางวันตาจะบอดทันทีคับ....

......อีกอย่าง ยุทธวิธีสงครามทุ่นระเบิดนั้น เน้นที่การซ่อนพราง จึงเป็นการยากต่อการตรวจการณ์ในระยะไกล ขนาดใช้ Polan 180 ตรวจยังต้องเอาเหล็กแหลมแทงดูให้แน่ใจอ่ะคับว่าเป็นทุ่นระเบิดจริงรึเปล่า เพราะบางทีตะปูตัวเดียวมันก้อวี๊ดขึ้นมาแล้ว....

......ดีที่สุดคือการลาดตะเวนด้วยเท้า แต่ก้อเสี่ยงกับการสูญเสียมาก....

......สรุปแล้วรบกับระเบิดมันเป็นเรื่องยากมากคับ....

....ผมคิดว่านะ พื่นที่ ๆ มีปัญหาเรื่องระเบิดมาก ๆ น่าจะใช้ยุทธวิธีลาดตะเวนทางอากาศกดดันข่มพื้นที่ โดยใช้ ฮ.ติดอาวุธ ถึงจะเก็บรายละเอียดสู้การลาดตระเวนทางพื้นดินไม่ได้ แต่ก้อยังมีผลทางจิตวิทยาที่ทำให้ฝ่ายตรงข้ามไม่กล้าลงมือง่าย ๆ....

....ฝ่ายตรงข้ามพยายามใช้แผนล่อเสือออกจากถ้ำ ด้วยการยิงคนมั่ง วางระเบิดมั่ง ปล่อยข่าวลวงเพื่อให้เจ้าหน้าที่ออกไปตรวจสอบมั่ง แล้วก้อเข้าทางมันทุกที....

....ครั้นจะไม่ออกไปก้อไม่ได้ เป็นเจ้าหน้าที่ต้องรับแจ้งความ ต้องปฏิบัติ ไม่งั้นผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานละเว้นฯอีก มันลำบากตรงนี้ ในขณะที่ฝ่ายตรงข้ามมันไม่มีกฎหมายอะไรไปบังคับมันได้นี่คับ มันก้อเลยทำได้ทุกอย่างตามชอบใจของมัน....

....ลำพังพี่น้องไทยมุสลิมภาคใต้ ผมเชื่อว่าเค้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเท่าไร แต่จากการที่ถูกมองด้วยสายตาที่หวาดระแวงเค้าก้อต้องนิ่ง ต้องระวังทั้งสองด้าน ก้อเวลายิงกันโดนแต่คนไทยพุทธข้างเดียวม่ะไรอ่ะคับ มุสลิมก้อโดนไม่ใช่น้อย สมาชิกเว็บบอร์ดที่ผมดูและอยู่ เค้าอยู่ที่ จ.ยะลา เอ็มมาคุยกะผมทุกวัน พักนี้หายไปนานมากจนรู้สึกเป็นห่วง เค้าเป็นครูอ่ะคับ แฟนเค้าอยู่สาธารณสุขจังหวัด เวลาระเบิดลงหนัก ๆ ต้องหอบลูกหนีไปตั้งหลักที่หาดใหญ่ ลำบากมากคับ...

....ทุกวันได้แต่สวดมนต์ขอบารมีพระสยามเทวาธิราช จงช่วยปกป้องอภิบาลเจ้าหน้าที่ และพี่น้องประชาชน 3 จ.ชายแดนภาคใต้ให้ปลอดภัย และขอให้ความสงบร่มเย็นจงบังเกิดโดยเร็วที่สุดเถิด...