หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


การรบที่เดียนเบียนฟู ตอนที่9

โดยคุณ : min_linkin เมื่อวันที่ : 15/02/2007 10:37:24

หลังการสูญเสีย Gabrielle 
            หลังจากที่ทางฝ่ายฝรั่งเศสสูญเสียที่มั่น Gabrielle ให้กับกองกำลังฝ่ายเวียดมินห์ ได้สร้างความตระหนกอีกครั้งให้กับผู้บังคับบัญชาในทุกระดับชั้นของฝรั่งเศส การรบที่ผ่านมา ทั้งสองฝ่ายต่างก็สูญเสียอย่างหนัก 

            จากรายงานการดัดฟังวิทยุเวียดมินห์ ของฝรั่งเศส ได้ความว่า พล.อ.เกี๊ยบ ได้สั่งการให้เสริมกำลังอย่างเร่งด่วนให้กับ กองทัพประชาชน กรมที่ 88 และ 102 ของกองพล 308 พร้อมทั้งส่งกำลังอาวุธ-กระสุน อย่างต่อเนื่อง มีการกล่าวกันว่า ทหารที่เข้าตี Gabrielle ต่างก็สาบานกับ โฮจิมินห์ ว่าจะตี Gabrielle ให้แตกให้จงได้ ทางโฮจิมินห์เลยมอบ ธงสีแดงมีคำเขียนเป็นภาษาเวียดนามมีใจความว่า "รบและชนะ"

           ซึ่งธงนี้เองได้ถูกนำมาปักไว้ที่ Gabrielle เวลา 0700 ในวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ.2497 (ค.ศ.1954) โดย ส.อ.Tran Ngoc Doan สังกัด กรมที่ 88 ผู้มีอายุ 25 ปี ธงได้ถูกปักเหนือที่บังคับการกองพัน (ทก.พัน) ของ พ.ต.De Mecquenem แต่ก่อนที่จะปักธงได้ ทหารใต้การบังคับบัญชาของ ส.อ.Doan บาดเจ็บไปถึง 4 นาย 
ทางฝ่ายฝรั่งเศสนั้นมีความได้เปรียบในเรื่องของ อาวุธยุทโธปกรณ์ เป็นอย่างมากในเดียนเบียนฟู ในวันดังกล่าวมีเครื่องบินรบจอดอยู่สองเครื่อง (Savart Blue) กำลังจอดซ่อมแซม สภาพอากาศที่เดียนเบียนฟู ฐานเมฆอยู่ในระดับต่ำทัศนวิสัย์ไม่ค่อยดีนัก นักบินก็ได้พยายามนำเครื่องขึ้น เพื่อไปสนับการรบที่ Gabrielle เครื่องแรกขึ้นได้ พร้อมกับนำระเบิดไปทิ้งทางเหนือของสนามบินประมาณ 6.5 กม. แต่ก็ไม่สามารถรอดพ้นการยิงจาก ปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน (ปตอ.) ได้ นักบินเสียชีวิต ทันที เครื่องที่สองทิ้งระเบิดทางเหนือของสนามบิน ประมาณ 5 กม. สามารถรอดพ้นจากการยิงของปตอ.ได้แต่ก็ประสบอุบัติเหตุตอนนำเครื่องลง เพราะว่าหอบังคับการบินถูกทำลาย สนามบินอยู่ในสภาพที่แย่มาก แต่นักยินก็สามารถรอดชีวิตมาได้

            ข่าวร้ายของฝรั่งเศสไม่ได้มีเพียงเท่านี้ ย้อนกลับไปที่ผู้บังคับทหารปืนใหญ่ พ.อ.Charles Piroth ผู้ซึ่งมีแขนข้างเดียว (ไม่ทราบสาเหตุ -- พิการก่อนมาประจำที่เดียนเบียนฟู)  ได้เคยกล่าวไว้ว่า (ในตอนที่ 7) ไม่มีทางที่ Gabrielle  จะถูกทำลายลงด้วยปืนใหญ่ได้ เมื่อการรบที่ Gabrielle เกิดขึ้นปรากฏว่ากำลังปืนใหญ่ภายใต้การบังคับบัญชาของเขาไม่สามารถ ทำการยิงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปืนใหญ่ขนาด 105 มม. 2 กระบอกพร้อมพลประจำปืนถูกทำลาย ปืนใหญ่ขนาด 155 มม. 1 ใน 4 กระบอกเสียหายจนใช้งานไม่ได้ กองร้อยเครื่องยิงลูกระเบิดหนัก (ร้อย.ค.หนัก) ละลายทั้งกองร้อย 

            พ.อ.Piroth ตกอยู่ในสภาพที่เครียดและกดดันอย่างหนัก เขาออกเดินไปตาม ที่บังคับการหน่วยต่าง ๆ ภายใต้การยิงของข้าศึก เพื่อไปขอโทษ ที่เขาไม่สามารถทำการยิงคุ้มครองได้ นอกจากนี้ เขาได้ไปหา พ.อ.Trancart เพื่อนสนิทของเขาผู้ซึ่งเป็น ผู้บังคับการค่ายเดียเบียนฟูทางตอนเหนือ ด้วยสภาพที่อิดโรย และมีน้ำตาคลอเบ้า และพูดกับเพื่อนเขาว่า
"ผมไม่มีเกียรติอะไรเหลืออีกแล้ว ผมรับปาก ผบ.ค่าย (พ.อ.Christian de la Croix de Castries) ว่าจะไม่มีปืนใหญ่ของใครสามารถแตะฐานที่มั่นของเราได้ มาถึงตอนนี้เรากำลังจะแพ้สงคราม ผมไปล่ะ"




ความคิดเห็นที่ 1


 จากคำบอกเล่าของ พ.อ.Trancart ได้กล่าวว่า หลังจากนั้น พ.อ.Piroth ก็เดินออกจาก บังเกอร์ของ พ.อ.Trancart ผู้เป็นเพื่อนของเขาด้วยสภาพที่หมดอาลัยตายอยาก เดินกลับไปยังที่พักของเขา ด้วยความที่ พ.อ.Piroth เป็นคนที่มีแขนเพียงข้างเดียว ทำให้ไม่สะดวกในการหยิบปืนออกจากซองปืน แต่เขาก็มีความสามารถพอที่จะจับลูกระเบิดมือ เขานอนลงบนเตียงของเขา แล้วใช้ฟันดึงสลักนิรภัย จากนั้นก็นำระเบิดมามาไว้ที่หน้าอก และเสียงระเบิดก็ดังขึ้นพร้อมกับคร่าชีวิตของ พ.อ.Charles Piroth ผู้มีแขนข้างเดียวไป

            สถานการณ์ที่เดียนเบียนฟูเริ่มเลวร้ายลงเรื่อย ๆ จนผู้บัญชาการแค้วนตังเกี๋ย พล.จ.René Cogny กล่าวกับฝ่ายเสนธิการ และนักหนังสือพิมพ์ที่ไปทำข่าวในอินโดจีนว่า ผมเคยบอกกับ พล.อ.Naverre ว่าที่เดียนเบียนฟูไม่มีอะไร แต่ตอนนี้มันไม่ใช่ มันเป็นกับดักหนูชัด ๆ เลย นอกจากนี้ พล.จ.Cogny ยังรายงานความสูญเสียกลับไปยังกองบัญชาการกองทัพบกที่ฝรั่งเศสอีกด้วย การรบที่เดียนเบียนฟูยังคงมีต่อไปเรื่อย ๆ เพราะการรบที่ผ่านมาเป็นเพียงแค่เริ่มต้น แต่ก็เป็นการเริ่มต้นที่สร้างความสูญเสียอย่างหนักต่อกองกำลังทั้งสองฝ่าย และยังเป็นการบั่นทอนขวัญและกำลังใจของกองกำลังฝรั่งเศสให้ตกต่ำลงไปเรื่อย ๆ 
โดยคุณ min_linkin เมื่อวันที่ 15/02/2007 10:38:45