สูญเสีย Gabrielle
หลังจากเวลา 0230 วันที่ 15 มีนาคม พ.ศ.2497 (ค.ศ.1954) เมื่อฝ่ายเวียดมินห์ได้ทำการหยุดยิงปืนใหญ่ ลงบริเวณ Gabrielle พ.ต.De Mecquenem ได้รายงานความสูญเสียขั้นต้นกับ พ.อ.Christian ผบ.ค่ายเดียนเบียนฟู และได้ทำการส่งมอบหน้าที่ ผู้บังคับกองพันให้กับ พ.ต.Kah ผู้ซึ่งมารับตำแหน่งใหม่ พร้อม ๆ กับการเข้าตีของฝ่ายเวียดมินห์
ต่อมาเวลา 0300 ในวันเดียวกัน ฝ่ายเวียดมินห์ เริ่มทำการระดมยิงด้วยปืนใหญ่อีกครั้ง หลังจากรวบรวมกำลังเพื่อทำการเข้าตีในระลอกที่สอง กำลังฝ่ายเวียดมินห์ก็เขาตีเจาะผ่านแนวเดิม คือบริเวณ กองร้อยที่ 4 (ร้อย.4) และได้ตีผ่านเลยไปยัง พื้นที่ตั้งรับของ ร้อย.1 และ ที่บังคับการ (ทก.พัน.) กองพันที่ 5 กรมทหารราบที่ 7 อัลจีเลีย (ร.7 พัน.5 อล.) (ดูภาพประกอบจะเห็นชัดขึ้นครับ)
ทางร้อย. 1 ได้ทำการยิงต้านทางอย่างเหนียวแน่นด้วยปืนกลทำให้กำลังกองทัพประชาชน (เวียดมินห์) ไม่สามารถรุกคืบหน้าไปได้ ทำให้ Pham Van Tuy ทหารเวียดมินห์ตัดสินใจลากเครื่องยิงจรวด ขนาด 75 มม.ลากจูง เข้าไปใกล้บริเวณรังปืนกล ในระยะ 150 หลา และได้ใช้เครื่องยิงจรวดดังกล่าวยิง ฐานปืนกล 3 แห่งส่งผลให้ เสียงปืนกลสงบลง (จากการปฏิบัติในครั้งนี้ Pham Van Tuy ได้รับเหรียญ Combat Star ชั้นที่ 1 และ ชั้นที่ 3 ก็ไม่ทราบว่าทำไมได้ 2 เหรียญ อาจจะรวมกับการรบครั้งอื่นด้วย)
เมื่อทางร้อย.1 สูญเสียปืนกล ก็ตกเป็นฝ่ายที่เริ่มเสียเปรียบ ประกอบกำลังพลนั้นบาดเจ็บ และตายจำนวนมาก เหลือกำลังที่พอจะสู้รบได้จำนวน 2 หมวด ทางตอนเหนือ ภายใต้การบังคับบัญชาของ ส.อ.Nourddine และ ส.อ.Abderrahman
ถัดมาหลังจากรังปืนกลบริเวณ ร้อย.1 ถูกทำลายลง ที่บริเวณ ทก.พัน.ทั้ง ค.81 มม. และ ค.120 มม. ก็ได้ถูกทำลายลงจากการยิงปืนใหญ่ของฝ่ายเวียดมินห์ ทาง พ.ต.De Mecquenem ผบ.พัน.คนเก่าซึ่งนอนพักอยู่ในที่พักบริเวณที่บังคับการกองพัน ได้ตื่นขึ้น และได้วิทยุติดต่อไปยัง พ.อ.Christian ผบ.ค่ายเดียนเบียนฟู ร้องขอปืนใหญ่ ให้ช่วยทำการยิงสนับสนุน และ ร้องขอรถถังสำหรับการตีโต้ตอบ จากนั้นกลับไปยัง ทก.พัน.เพื่อช่วย พ.ต.Kah และฝ่ายอำนวยการของกองพันบัญชาการรบ
เมื่อนายทหารหลัก และฝ่ายอำนวยการมารวมกัน ด้วยความประจวบเหมาะ กระสุนปืนใหญ่ได้ตกลงยัง ทก.พัน. ส่งผลให้ พ.ต.Kah ผู้เพิ่งมารับตำแหน่ง ผบ.พัน. ขาขาดทันที 1 ข้าง (ต่อมาเสียชีวิตเมื่อวันที่ 27 มี.ค.2497 (ค.ศ.1954) ด้วยฝีมือทหารเวียดมินห์) พ.ต.De Mecquenem หมดสติจากแรงระเบิด ฝ่ายอำนาวยการที่เหลือต่างก็บาดเจ็บสาหัส นอกจากนี้ชุดวิทยุสื่อสารก็ถูทำลาย ส่งผลให้ Gabrielle ขาดผู้บังคับบัญชาในทันที
หน้าที่ในการบังคับบัญชาจึงตกมาเป็นของ ร.อ.Gendre ผู้บังคับกองร้อยที่ 3 (ร.อ.Gendre ทำการแทน ผบ.พัน. เวลาประมาณ 0500 ) ในขณะเดียวกัน ร.ท.Clergé ผู้บังคับกองร้อย ค.ที่รอดชีวิตจากการโจมตีครั้งแรก ต้องทำหน้าที่ นายทหารติดต่อ ปืนใหญ่สนาม แทน ร.ท.Colin ที่ได้รับบาดเจ็บ ได้ทำการร้องขอกำลังกองหนุนเพื่อทำการตีโต้ตอบจากหน่วยเหนือ ทางหน่วยเหนือก็รับปากว่าจะส่งกำลังกองหนุนมาช่วย พร้อมด้วยรถถัง และสั่งการให้ กำลังพลที่อยู่ที่ Gabrielle ทำการต้านทานให้นานที่สุด ไม่ว่าจะสูญเสียมากแค่ไหนก็ตาม
กำลังกองหนุนได้เคลื่อนย้ายจากส่วนกลางของเดียนเบียนฟูเวลา 0530 ในวันเดียวกัน ภายใต้การนำของ พ.ต.Séguin-Pazzis เวลา 0700 กองหนุนเคลื่อนที่มาถึง Ban ké Phai ทางใต้ห่างจาก Gabrielle เพียงเล็กน้อย ก็ถูกระดมยิงด้วยปืนใหญ่จากฝ่ายเวียดมินห์อย่างหนัก ทำให้ความหวังในการทำการตีโต้ตอบกองทัพประชาชน (ฝ่ายเวียดมินห์) ก็ดูเลือนลางไปทุกขณะ
สถานการณ์ทางบริเวณ ทก.พัน. เวลา 0730 หลังจาก พ.ต.De Mecquenem ได้สติ พยายามช่วย พ.ต.Kah จึงตัดสินใจจะไปหาคนมาช่วย ก่อนไปก็บอกกับ พ.ต.Kah ว่าเขาจะไปที่บริเวณ ร้อย.2 เพื่อหาคนมาช่วย จากนั้นเขาก็ออกวิ่งไปทางใต้ แต่วิ่งไปไม่ได้ไกลสักเท่าไหร่ ก็โดนทหารเวียดมินห์ที่ซุ่มอยู่กระโดดตะครุบตัว และถูกจับเป็นเชลยศึกไป
ด้วยความสับสนจากการสั่งการของหน่วยเหนือ และระบบการติดต่อสื่อสาร ทำให้เกิดความเข้าใจผิด ร.อ.Gendre จึงได้สั่งการให้ กำลังทุกส่วนใน Gabrielle ถอนตัวจาก Gabrielle ในเวลา 0800 กำลังส่วนต่าง ๆ ก็เริ่มทะยอยถอนตัว ไปสมทบกับกำลังกองหนุนที่ Ban ké Phai จากนั้นกำลังพลที่รอดชีวิตทั้งหมดก็เคลื่อนย้ายไปยัง ที่มั่น Anne-Marie และ Huguette
การรบในครั้งนี้ ร.7 พัน.5 อล.กำลังพลสูญหาย 500 นาย เสียชีวิต 80นาย ผบ.พัน.ทั้งคนเก่าและใหม่ถูกจับเป็นเชลยศึก กำลังพลของฝรั่งเศสทั้งหมดที่ปฏิบัติการในการรบครั้งนี้ สูญเสียถึงกว่า 1,000 นายภายใน 1 คืน ฝ่ายเวียดมินห์เสียชีวิตประมาณ 1,000 นาย และบาดเจ็บ 2,000 - 3,000 นาย เพียงชั่วระยะเวลาเพียง 2 วัน 2 คืน ฝรั่งเศสสูญเสีย Béatrice และ Gabrielle ไปพร้อมด้วยความเสียหายอย่างหนักของทั้งสองฝ่าย