การส่งกำลังเข้ายึดครอง เดียนเบียนฟู ตามยุทธการ Castor ได้เริ่มขึ้นเมื่อ 20 พฤศจิกายน พ.ศ.2496 (ค.ศ.1953) เพื่อทำการป้องกันลาว และยังเป็นการเพิ่มความกดดันให้กับ ขบวนการเวียดมินห์ ในเรื่องของเส้นทางการส่งกำลังบำรุง นอกจากนี้บริเวณรอบ ๆ เดียนเบียนฟู นั้นจะเป็นป่ารกทึบ และ รายล้อมไปด้วยภูเขา ทำให้ พล.อ. Naverre และฝ่ายเสนาธิการ ต่างมีความเชื่อมั่นว่า จะเป็นเกราะปราการป้องกันอย่างดีจากการใช้ปืนใหญ่ที่ โจมตีของฝ่ายเวียดมินห์
เดียนเบียนฟู เป็นพื้นสำคัญที่ทำการเชื่อมโยงการคมนาคม จากลาวไปยังไทย พม่า และจีน ซึ่งก็เปรียบเสมือนเส้นทางการส่งกำลังบำรุงหลักของเวียดมินห์ อย่างไรก็ตามที่เดียนเบียนฟูมีกำลังของเวียดมินห์ทำการยึดครองในบางพื้นที่ ตั้งแต่ตุลาคม พ.ศ.2495 (ค.ศ.1952) โดย กองทัพประชาชน กองพันที่ 910 ของ กรมที่ 148 กองพลที่ 316
การส่งกำลังลงยังเดียนเบียนฟู ตามยุทธการ Castor กระทำโดยการส่งทางอากาศ (กระโดดร่มลง) ใช้ระยะเวลา 3 วัน สำหรับการส่งกำลังพลเริ่มแรกลง ณ เดียนเบียนฟู มีกำลังพลทั้งสิ้นรวม 9,000 นาย เพื่อทำการสร้างที่มั่นดัดแปลงแข็งแรง แบ่งออกเป็น 8 ส่วนย่อย ๆ และ 2 สนามบิน นอกจากนี้ทางกองกำลังฝรั่งเศส ยังสถาปนาความมั่นคงเพิ่มเติมด้วยการ เพิ่มฐานปืนใหญ่ และกำลังให้มีความสามารถป้องกันตนเอง จากการโจมตีของขบวนการเวียดมินห์ ในแต่ละส่วน ทั้ง 8 ส่วน การสถาปนาความมั่นคงได้ดำเนินการอย่างตลอดเวลา จนในที่สุดมีกำลังพลประการที่ เดียนเบียนฟู จำนวนถึง 13,000 นาย และมีทั้งนายทหารชั้นผู้ใหญ่ และนักการทูต ผลัดเปลี่ยนกันมาเยี่ยมเยียนอยู่เสมอ ทำให้หลายฝ่ายมีความเชื่อมั่นว่า ฐานที่มั่นแห่งนี้คงจะไม่มีใครสามารถทำลายลงได้
ยุทธการ Castor ได้เริ่มขึ้นเมื่อ 0500 ของเช้าวันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ.2496 (ค.ศ.1953) ด้วยเครื่องบิน C-47 (Dakota) ติดตั้งอุปกรณ์ครบครัน บินขึ้นจากสนามบินฮานอย ทำหน้าที่เป็นกองบังคับการลอยฟ้า มีพล.จ. Jean Gilles ผู้บัญชาการกองกำลังส่งทางอากาศ พล.จ. Jean Dechaux ผู้บัญชาการทางอากาศยุทธวิธี (The Northern Tactical Air Group ในอินโดจีน) และ พล.ท. Pierre Bodet ผู้ช่วยของพล.อ. Navarre โดยสารไปด้วย ทั้ง 3 มีภารกิจในการลาดตระเวณบริเวณเหนือที่หมาย เพื่อทำการตกลงใจส่งกำลังลง ยัง หมู่บ้าน Moung Thanh ตามยุทธการ Castor ในวันนั้น หรือว่าจะเลื่อนการส่งกำลังลง เป็นวันอื่น
สภาพอากาศในวันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ.2496 (ค.ศ.1953) มีหมอกเบาบางเหนือน่านฟ้าเดียนเบียนฟู และจางหายไปในตอนเริ่มแสงทางทหาร (ภาษาทหารแปลง่าย ๆ ว่า สว่างพอที่จะมองเห็น) เอื้ออำนายต่อการส่งกำลังทางอากาศลงยังบริเวณ เขตทิ้งลง (Drop Zone:DZ) ในที่สุดกองบัญชาการลอยฟ้าได้ตัดสินใจ ส่งกำลังส่งทางอากาศลงยัง DZ เมื่อเวลา 0720 ซึ่งเป็นการส่งกำลังทางอากาศที่มีกำลังพลมากที่สุดในอินโดจีนตั้งแต่เคยปรากฏมา
เวลา 0845 ทหารพลร่มฝรั่งเศสจำนวน 2 กองพัน และ 1 กองร้อยทหารช่างสนาม หย่อนกำลัง (ร้อย.ช.สนาม (-)) คือ กองพันที่ 6 Colonial Parachutists (Colonial parachutists 6th battalion: 6th BPC) มี พ.ต.Marcel Bigeard เป็นผู้บังคับกองพัน กองพันที่ 2 จาก กรมทหารพลร่มเบาที่ 1 (2nd battalion of the lst Regiment of Light Riflemen parachutists: พร.เบา 1 พัน.2) มี พ.ต.Jean Brechignac เป็นผู้บังคับกองพัน รวมพลพร้อมยัง สนามบินที่ฮานอย บน Dakota จำนวน 65 เครื่อง หลังจากนั้นประมาณ 2 ชม.กำลังพลชุดแรกก็ถูกปล่อยลง ยังเดียนเบียนฟู
6th BPC ถูกปล่อยลงยัง DZ ชื่อ Natacha ทางบริเวณตะวันตกเฉียงเหนือของเดียนเบียนฟู ส่วน พร.เบา 1 พัน.2 ถูกส่งลงที่ DZ ชื่อ Simone บริเวณทางใต้ของ เดียนเบียนฟู พร้อมกับกองร้อยช่างสนาม (หย่อนกำลัง) ในการส่งลง DZ ชุดแรก มีบางส่วนของ 6th BPC และ ร้อย.ช.สนาม (-) ตกลงห่างจาก DZ ไปลงใกล้กับหน่วยทหารของขบวนการเวียดมินห์ ทำให้เกิดการปะทะกันขึ้น ในการนี้ ทำให้นายแพทย์สนาม (แพทย์ผ่าตัด) ร.อ. Jean Raymond เสียชีวิต ซึ่งเป็นการกำลังพลที่เสียชีวิตคนแรก ของยุทธการ Costor
ในตอนเย็นของวันแรก ทหารพลร่มฝรั่งเศส เสียกำลังพลไปจำนวน 15 นาย บาดเจ็บ 34 นายจากการสู้รบกับเวียดมินห์ และ เสียชีวิต 1 นาย บาดเจ็บ 13 นายจากการกระโดดร่ม ส่วนทางฝ่ายเวียดมินห์ เสียชีวิต 115 นาย และ บาดเจ็บ 4 นาย โดบถูกจับตัวเป็นเชลยศึก ยึดอาวุธได้ 40 ชิ้น
หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง กำลังพลชุดที่ 2 ก็ถูกส่งลงยังเดียนเบียนฟู ด้วยเครื่อง Dakota จำนวน 41 เครื่อง ซึ่งประกอบกำลังไปด้วย
-
กองพันที่ 1 Colonial Parachutists (Colonial parachutists 1st battalion: 1st BPC) จำนวน 750 นาย
-
ปืนไร้แรงสะท้อนถอยหลัง (ปรส.) ขนาด 75 มม. จาก กรมทหารปืนใหญ่สนามส่งทางอากาศที่ 35 (35th Airborne Artillery Rigiment: 35 RALP) จำนวน 2 กองร้อย
-
กองร้อยเครื่องยิงลูกระเบิด ขนาด 120 มม. (ร้อย ค.หนัก) จำนวน 1 กองรอ้ย
-
เสนารักษ์สนาม 1 ชุด
รุ่งขึ้นในวันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ.2496 (ค.ศ.1953) ทหารพลร่มฝรั่งเศส ระลอกที่ 3 ได้ถูกส่งลงยัง DZ Natacha จำนวน 2 เที่ยวบิน (เที่ยวแรก 29 เครื่อง เที่ยวที่สอง 28 เครื่อง) ประกอบกำลังไปด้วย
-
กองพันที่ 1 Foreign Legion Parachute (1st Foreign Legion Parachute: 1st BEP) จำนวน 675 นาย
-
กองพันที่ 8 Parachute Assult (8th Parachute Assult: 8th BPC) จำนวน 700 นาย
-
กองบังคับการ และบางส่วนของทหารช่าง จำนวน 25 นาย
การกระโดดร่มในระลอกนี้ มีนายทหารอาวุโสจำนวน 2 นายร่วมกระโดดด้วย คือ พล.จ.Gilles ผบ.กองกำลังส่งทางอากาศ ผู้จบการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยฝรั่งเศส (Saint-Cyr) ได้กระโดดลงพร้อมกับกำลังพล ถึงแม้เขาจะมีอายุถึง 49 ปี และเป็นโรคหัวใจ แต่ก็ได้แสดงออกถึงความเป็นผู้นำเป็นอย่างดี นอกจากนี้ พ.ท.Pierre Charles Langlais ผู้มีอายุ 44 ปี แต่เขาก็บาดเจ็บเล็กน้อยที่บริเวณข้อเท้าจากการลงพื้น
ตอนเช้าวันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ.2496 (ค.ศ.1953) กองพันพลร่มที่ 5 ของเวียดนาม ได้ถูกส่งล่งที่ DZ ชื่อ Bawouan เข้าไปสมทบกับกองกำลังฝรั่งเศส ในตอนเย็นของวันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ.2496 (ค.ศ.1953) ก็มีทหารทั้งของฝรั่งเศส และเวียดนาม เข้าประจำการในเดียนเบียนฟูจำนวน 4,195 นาย