ทอ. ออสเตรเลีย ได้ยื่นข้อเสนอขอซื้อ บ.ขับไล่ F/A-18F Super Hornet จำนวน 24 เครื่อง ให้กับกระทรวงกลาโหมของสหรํฐฯ มูลค่า 3.1 พันล้านยูเอสดอลลาร์ โดยมีรายการดังนี้ คือ
บ.ขับไล่ F/A-18F จำนวน 24 เครื่อง
เครื่องยนต์ GE F414 จำนวน 48 เครื่อง พร้อมอะไหล่อีก 6 เครื่อง
ระบบ data-link แบบ AN/USQ-140 MIDS-LVT (link 16) จำนวน 24 ชุด
ระบบ RWR แบบ AN/ALR-67(V)3 จำนวน 30 ชุด
การติดตั้งระบบปล่อยเป้าลวงแบบ AN/ALE-47
รางปล่อยอาวุธนำวิถีแบบ LAU-127 (สำหรับอาวุธนำวิถี AIM-9/AIM-120) จำนวน 145 ชุด
กล้องมองกลางคืนแบบ AN/PVS-9 จำนวน 30 ชุด
ระบบวางแผนภารกิจร่วม จำนวน 12 ระบบ
เป้าลวงแบบ AN/ALE-55 FOTD
การติดตั้งและทดสอบระบบ, การพัฒนาและติดตั้งซอฟแวร์, อุปกรณ์ตรวจสอบและสนับสนุน, อะไหล่, การฝึกการซ่อมบำรุงและการฝึกนักบิน, การสนับสนุนเกี่ยวกับซอฟแวร์ และเอกสารทางเทคนิค
ทอ.ออสเตรเลีย ต้องการนำ F/A-18F ไปใช้งานทดแทน F-111 ที่จะปลดประจำการในปี 2010 และเป็นการอุดช่องว่างก่อนที่จะได้รับมอบ F-35 ในปี 2018 เป็นต้นไป เนื่องจากการซื้อ F-35 ในช่วงปี 2013-2016 จะมีราคาเครื่องละ 100 ล้านดอลลาร์เป็นอย่างน้อย เพราะ เป็นเครื่องที่ผลิตในล็อตต้นๆ (ซึ่งออสเตรเลียสามารถซื้อได้ เนื่องจากเป็นหุ้นส่วนในโครงการ)
กองทัพอากาศออสเตรเลียนั้นก็มี บ.F/A-18A/B ประจำการอยู่แล้วประมาณ70กว่าลำครับ(สูญเสียไปจากอุบัติเหตุแล้วส่วนหนึ่ง) ซึ่ง บ.F/A-18 รุ่นนี้คาดว่าจะปลดประจำการหลังจากที่ได้รับมอบ F-35 ครับ
ออสเตรเลียเขาเลือกสิ่งที่เหมาะสมกับเขามาก สำหรับประเทศที่เป็นเกาะมีทะเลร้อมรอบ ก็ต้องเป็นเครื่องบินแนวนี้ สองเครื่องยนต์สามารถโจมตีเรือได้ ส่วนที่เลือก F/A-18F นั้นก็น่าจะเนื่องจากใช้ F-18 มาตั้งแต่รุ่นแรกๆ และค่อนข้างจะอิงอเมริกามากกว่าจะเป็นทางฝั่งยุโรป หรือแทบจะผูกขาดเครื่องบินอเมริกาด้วยซ้ำ(เหมือนประเทศสารขันธ์ อิ อิ) การที่ออสเตรเลียมี F/A-18F เข้าประจำการนั้นทำให้ออสเตรเลียมีขีดความสามารถทางอากาศสูงมาก