เนื่องจากกระทู้เดิมชักลากยาวๆ ละขออนุญาตใช้พื้นที่เพิ่มแล้วกันนะครับ...ขอนอกเรื่องสักนิดครับ ก่อนเข้าสู่สาระอีกรอบ
ส่วนใหญ่อาหารเช้าในลาว เขานิยมกิน ?เฝอ? ซึ่งก็คือก๊วยเตี๋ยวน้ำใสบ้านเรานั่นเอง แต่รสชาตอร่อยไม่เท่าบ้านเรา ออกจืด แต่เขาจะมีผักมากล้อมเยอะมาก เฝอ นี้เป็นวัฒนธรรมการกินของคนเวียดนาม ที่ฝังรากลึกลงบนแผ่นดินล้านช้าง และดูเหมือนว่านับวันความผูกพันระหว่างเวียดนามและลาวจะดูราบลื่น คนลาวเขาบอกว่าเวียดนามไม่เคยเอาอะไรจากเขา ส่วนใครเคยเอาอะไรจากเขานั้นผมไม่รู้นะ ...แต่น่าสังเกตว่า คนไทย-คนลาว มีวัฒนธรรม ภาษามีรากเหง้ามาจากที่เดียวกัน คุยกันโดยไม่ต้องใช้ล่าม(ลาวกับเวียดนามยังต้องใช้ล่ามเลย) แล้วทำไมลาวจึงรู้สึกว่าคบกับเวียดนามสนิทใจกว่าคบกับไทย น่าคิดนะ...
ต่อครับต่อ.......
สาเหตุที่ฝรั่งเศสต้องการตัวเจ้าเพชราชมาก เพราะเป็นคนที่คนลาวให้การยอมรับ (ปัจจุบันคนลาวจะศรัทธาเจ้าเพชราชในรูปของความศักสิทธิ์ ปกป้องอันตรายจากภูติผีเหมือนกับคนไทยนับถือกรมหลวงชุมพรฯ) หากนำตัวมาเป็นหุ่นเชิดได้ การเข้ามาครองอำนาจในลาวอีกครั้งก็เป็นเรื่องง่ายขึ้นขณะเดียวกันหากปล่อยให้เจ้าเพชราชหนีไปได้ ก็หมายความว่า โอกาสที่จะเกิดรัฐบาลพลัดถิ่นก็มีอยู่สูง
เจ้าเพชราชนั้น ด้วยมีประสบการณ์ในการท่องป่าเมืองลาวสมัยที่ยังเป็นอาณานิคม ทำให้ท่านรู้จักเส้นทางหลากหลาย การหลบหนีฝรั่งเศสครั้งนี้จึงเลือกเส้นทางค้าฝิ่นของม้ง ผ่านจากหลวงพระบางเจ้าไชยบุรี ซึ่งที่เมืองนี้เอง พันตรีอ้วน ราทิกุล (จะมีบทบาทสำคัญที่จะแบ่งฝ่ายขวาออกจากฝ่ายซ้ายในภายหลัง) และพวกก็เข้ามาสมทบ และเดินทางเข้าไทยที่อำเภอฟากท่า อุตรดิตถ์ เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน ปีเดียวกัน รวมเวลาในการรอนแรมหนีฝรั่งเศสอยู่ 1 เดือนเต็มๆ
ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งคือคณะ ของท้าวคำเหล็กและสมาชิกลาวอิสระ ที่มาโดยเรือถ่อทวนแม่น้ำโขงมาขึ้นที่เมืองเชียงแสน เชียงราย บางส่วนก็แยกออกไปขึ้นที่เมืองเชียงคาน หนองคาย จากนั้นทุกสายก็เดินทางเข้ากรุงเทพฯ โดยเฉพาะเจ้าเพชราชนั้น มีพันเอกช่วง เชวงศักดิ์สงคราม รมว.มหาดไทยในรัฐบาลนายปรีดี ขึ้นไปรับที่อุตรดิตถ์
ถึงตอนนี้ก่อนจะข้ามไป อยากให้สังเกตไว้นิดนึง !! นะครับว่า การเคลื่อนไหวในเบื้องต้นเพื่อกู้อิสรภาพให้ลาวนั้น ไม่ปรากฏชื่อของ นายไกรสอน พรหมวิหาร ผู้นำลาวฝ่ายซ้ายเลย ทั้ง ๆ ที่ในท้ายที่สุดแล้ว คนนี้คือผู้นำตัวจริงเสียงจริงของขบวนการทั้งหมด
การลี้ภัยเข้ามาตั้งขบวนการลาวอิสระในไทยเพื่อหวนกลับไปกู้ชาติเป็นไปด้วยความยากลำบาก โดยเฉพาะทุนรอนในการทำงาน เนื่องจากขณะนั้น เหล่าชาติผู้มีชัยในสงครามกำลังแย่งชิงอำนาจกันเองในเวทีโลก ดังนั้น อะไรที่ไม่ใช่เรื่องใหญ่โต ก็พยายามหยวนๆ กันไว้ เพราะลูกพี่ใหญ่ 2 ชาติคือสหรัฐฯและโซเวียต!!! เริ่มฮึ่มๆ ใส่กันแล้ว
ก็เลยไม่มีใครคิดจะช่วยลาวในการกู้ชาติ ปล่อยให้ฝรั่งเศสกลับไปครองอำนาจอย่างหน้าด้านๆ ตามสบายเหล่าผู้นำลาวอิสระ เมื่ออยู่ในไทย ส่วนหนึ่งก็พยายามที่จะทำงานหาเงินเพื่อเป็นกองทุน เช่น อุ่น ชะนะนิกอน ก็ร่วมกับ จิม ทอมสัน เจ้าหน้าที่ โอ เอส เอส ทำการค้าผ้าไหม
ใครดู ?เรื่องปมไหม? บ้าง ผมดูแต่ไม่ครบทุกตอน ไม่รู้เขาพูดถึงเรื่องที่ จิม ทอมสันป์ร่วมค้าผ้าไหมกับผู้นำลาวคนนี้บ้างหรือเปล่า ตามประวัติบอกว่า จิม ทอมสัน เป็นคนที่แนะนำให้ อุ่น ชะนะนิกอน ได้รู้จักกับนายเตียง ศิริขันธ์ และแนะนำให้กองกำลังลาวอิสระ ย้ายฐานที่มั่นมาอยู่ที่สกลนครและอุดรธานี ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของพลพรรคเสรีไทยสาย เตียง ศิริขันธ์ อยู่ก่อนแล้ว เพื่อให้สะดวกในการรับการสนับสนุน