มติชน 8 ตุลา 49
อดีตผู้นำมาเลย์งงข้อเสนอ ไม่แยกดินแดนขอแค่สันติ
"เบอร์นามา"อ้างรองนายกฯมาเลย์ยืนยัน"มหาธีร์"คนกลางจัดหารือกลุ่มป่วนใต้กับกองทัพไทยจริง ชี้เป็นความคิดเอ็นจีโอ รบ.มาเลเซียไม่เกี่ยว คาดนั่งคุยต้นพฤศจิกายนนี้
**อ้างพ.ย."มหาธีร์"คนกลางคุยกลุ่มป่วนใต้
วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลมาเลเซียเปิดเผยกับ "มติชน" ว่า มีความเป็น ไปได้สูงมากที่ ดร.มหาธีร์ โมฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย จะเป็นตัวกลางในการจัดการเจรจาระหว่างขบวนการก่อความไม่สงบทางภาคใต้กับรัฐบาลไทยในราวต้นเดือนพฤศจิกายนนี้ หลังจากเคยจัดให้มีการพบหารือระหว่างนายทหารของไทยกับแกนนำของกลุ่มต่อต้านมาแล้วอย่างน้อย 2 ครั้งก่อนหน้านี้ที่เกาะลังกาวี อย่างไรก็ตาม รัฐบาลมาเลเซียไม่สามารถเข้าไปเกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าวได้ ตราบเท่าที่ยังไม่ได้รับคำเชิญให้เข้ามามีส่วนร่วมอย่างเป็นทางการจากฝ่ายไทย เพราะถือว่ากรณีนี้เป็นกิจการภายในของไทย
**รองนายกฯมาเลย์ยันจัดพบหารือจริง
ในขณะเดียวกันสำนักข่าวเบอร์นามาของทางการมาเลเซียรายงานว่า ดะโต๊ะ ซรี นาจิบ ตุน ราซัก รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกลาโหมให้สัมภาษณ์ยืนยันว่ามีการจัดการพบหารือกันระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองทัพไทยและแกนนำของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบทางภาคใต้ขึ้นจริง แต่ทั้งหมดเป็นการดำเนินของอดีตนายกรัฐมนตรีมหาธีร์ ในฐานะประธานขององค์การพัฒนาเอกชน (เอ็นจีโอ) ชื่อ ยายาซาน เพอร์ดานา หรือมูลนิธิเพอร์ดานาโกลบอล พีซ ออร์แกไนเซชั่น (พีจีพีโอ) ที่ ดร.มหาธีร์ดำรงตำแหน่งประธานอยู่ ถือเป็นความริเริ่มเพื่อหาหนทางไปสู่สันติภาพในภาคใต้ของไทย โดยมีแกนนำของกลุ่มมุสลิมที่อยู่ในพื้นที่ภาคใต้ของไทยเข้าร่วม อย่างไรก็ตามรองนายกรัฐมนตรีมาเลเซียไม่ได้ระบุว่ามีกลุ่มใดบ้างเข้าร่วมในการเจรจาดังกล่าว
**ระบุความคิดเอ็นจีโอ-รบ.มาเลย์ไม่เกี่ยว
"การเจรจาดังกล่าวดูเหมือนเป็นความคิดริเริ่มที่ดำเนินการโดยผู้ที่มีสถานะเป็นเอ็นจีโอ เพื่อหาทางดูว่าจะมีทางออกอะไรบ้าง สำหรับรัฐบาลมาเลเซียแล้ว เราไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงกิจ การภายในของประเทศเพื่อนบ้านได้ถ้าหากไม่มีการเชื้อเชิญอย่างเปิดเผยให้เข้าไปช่วยเหลือ ในกรณีนี้ก็ขึ้นอยู่กับทางไทยว่าจะตัดสินใจอย่างไรกับเรื่องนี้" รองนายกรัฐมนตรีมาเลเซียกล่าว และว่า "เท่าที่เรารู้กัน ตอนที่ยังอยู่ภายใต้รัฐบาลชุดเก่า เป็นเรื่องยากที่การพูดคุยกันระหว่างฝ่ายต่างๆ ในความขัดแย้งครั้งนี้จะจัดให้มีขึ้นได้ หวังอย่างยิ่งว่าสันติภาพและสมานฉันท์จะเกิดขึ้นในภาคใต้ของไทยได้ภายใต้ผู้นำใหม่ของไทย"
**"มหาธีร์"เผยเคยส่งแผนสันติภาพให้"ชิดชัย"
วันเดียวกัน หนังสือพิมพ์เดอะ สตาร์ของมาเลเซีย ตีพิมพ์คำให้สัมภาษณ์ของ ดร.มหาธีร์ ยืนยันว่าในอดีตที่ผ่านมาได้เป็นตัวกลางจัดให้มีการพบหารือกันจริง แต่ถือว่าได้ทำหน้าที่ในส่วนของตนตามที่ได้รับการร้องขอเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ขึ้นอยู่กับทางฝ่ายไทยว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป โดยอดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซียเปิดเผยด้วยว่าได้จัดทำแผนสันติภาพและการพัฒนาร่วมสำหรับพื้นที่ภาคใต้ของไทย (Joint Peace and Development for South Thailand) โดยจัดทำสำเนาชุดหนึ่งส่งมอบให้กับ พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ อดีตรองนายกรัฐมนตรีไปแล้วเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา 10 เดือนหลังจากทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการเจรจาดังกล่าว
**เผยเหตุเข้าร่วมตามคำแนะนำ"อานันท์"
ดร.มหาธีร์เปิดเผยว่า การทำหน้าที่ดังกล่าวมีที่มาจากการพบหารือกับนายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย ซึ่งได้รับมอบหมายให้เป็นประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แห่งชาติและกำลังศึกษาวิกฤตการณ์ในภาคใต้ของไทย อยู่ในเวลานั้น หลังจากนั้นอดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซียได้ขอพระราชทานพระบรมราชวโรกาสเข้าเฝ้าฯพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพล อดุลยเดช
"ผมขอเข้าเฝ้าฯพระองค์ในเดือนตุลาคม (2548) หลังจากได้รับคำแนะนำจากคุณอานันท์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเห็นพ้องกับข้อเสนอแนะของคุณอานันท์ที่ว่าผมน่าจะเข้าไปมีส่วนร่วมในการริเริ่มเพื่อสันติในภาคใต้ของไทย" อดีตผู้นำมาเลเซียระบุถึงที่มาของการแสดงบทบาทดังกล่าว
**ชี้"พล.ท.ไวพจน์"เหมาะสมเจรจาสันติ
ดร.มหาธีร์ชี้ด้วยว่า พล.ท.ไวพจน์ ศรีนวล ผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ เป็นบุคคลที่เหมาะสมที่สุดในกระบวนการเจรจาเพื่อสันติภาพต่อเนื่องต่อไปเพราะเป็นผู้เข้าใจสาเหตุที่เกิดความขัดแย้งขึ้นมาได้เป็นอย่างดี
"คุณไวพจน์กับผู้นำมุสลิมสามารถทำงานร่วมกันได้ และแสวงหาความช่วยเหลือจากทาง การมาเลเซียเพื่อให้ทำหน้าที่ตัวกลางของกระบวนการสันติภาพต่อไป" ดร.มหาธีร์กล่าว แต่เสริมด้วยว่า "เราต้องจำไว้ว่าการลงนามในข้อตกลง สันติภาพใดๆ ไม่แน่ว่าจะยุติความรุนแรงในภาคใต้ของไทยลงได้ เพราะสถานการณ์ที่ผันผวนที่นั่นมีเชื้อมาจากหลายๆ องค์ประกอบด้วยกัน ซึ่งรวมถึงพฤติกรรมที่เป็นอาชญากรรมต่างๆ ด้วย"
**งง!กลุ่มต้านแค่ขอสันติ-ไม่คิดแยกอิสระ
อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซียบอกกับเดอะสตาร์ว่า รู้สึกประหลาดใจอย่างมากที่ไม่มีผู้นำไทยมุสลิมคนไหนเรียกร้องที่จะแยกตัวออกเป็นอิสระ หรือแม้แต่การจัดตั้งเขตปกครองตนเองขึ้นเลย "พวกนี้แค่ต้องการสันติ, ต้องการนโยบายด้านการศึกษาที่ดีขึ้นกว่าเดิม, การพัฒนาที่เสมอภาคเท่าเทียมกับที่อื่นๆ และต้องการโอกาสที่ภาคใต้จะเจริญรุ่งเรืองเท่านั้นเอง" พร้อมกันนั้นอดีตผู้นำมาเลเซียยืนยันว่าข้อเรียกร้องของบรรดาแกนนำมุสลิมเหล่านั้นเป็นเพียงข้อเรียกร้องพื้นๆ และน่าจะง่ายต่อการดำเนินการ
**หวังให้นิรโทษกรรมเริ่มต้นชีวิตใหม่
ในขณะที่ดะโต๊ะ มุคริซ มหาธีร์ ผู้อำนวยการบริหารของพีจีพีโอ เปิดเผยด้วยว่า กลุ่มต่อต้านหวังด้วยว่าจะมีการประกาศนิรโทษกรรมเพื่อที่ทุกคนจะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ได้
ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวเอเอฟพีอ้างคำกล่าวของเจ้าหน้าที่ไทยซึ่งไม่ขอเปิดเผยชื่อผู้หนึ่งระบุว่า แกนนำขององค์การกู้อิสรภาพสหรัฐปัตตานี (พูโล) และเบอร์ซาตู ได้ติดต่อกับทางการไทยผ่านทางบุคคลระดับอาวุโสของมาเลเซียเพื่อให้มีการเจรจา โดยการเจรจาดังกล่าวคาดว่าจะเกิดขึ้นราว 1 เดือนหลังจากมีคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ซึ่งเป็นไปได้ว่าจะเป็นราวต้นเดือนพฤศจิกายน และการเจรจากันจะมีขึ้นในประเทศเป็นกลาง เช่น สิงคโปร์ เป็นต้น
...............................
มหาเธ่ห์ นี่ตัวดีเลยครับ
รัฐบาลกลางมาเลย์
สนับสนุนการแยกดินแดน โดนส่งเจ้า
หน้าที่มาอย่างเป็นทางการปี 2538
ใครที่หลงเชื่อ ข้อมูลว่า พวกเขาไม่ได้
หวังอะไรคุณ กำลังถูกหลอก ในเกมนี้
แล้ว