........ผมโพสรูปเรือฟรีเกตชั้นเจียงเหว่ย 2 ไม่ขึ้น ต้องขออภัยด้วย และขอพยายามโพสใหม่ ภาพก็โพสไม่ขึ้นเช่นเดิม............ครับ/สกายนาย

............ส่วนตัวผมกลับมองในแง่ที่ว่า .......................ในกรณีที่เป็นส่งมอบเป็นเรือฟรีเกตชั้นเจียงเหว่ยมือสอง ตัวเก่าที่ทางทร.จีนได้ปลดประจำการ แล้วนำตัวเรือนั้นนำมารีโนเวทปรับปรุงใหม่ แล้วส่งมอบให้แก่ไทนนั้น ก็จะมีข้อดีตรงที่ว่า ตัวโครงเรือเป็นเรือที่จีนใช้เอง ตัวเรือคงแข็งแรงกว่าโครงตัวเรือในรุ่นที่จีนส่งออก  และทร.ไทยคงได้รับมอบเรือมาประจำการได้โดยเร็ววันกว่าต่อเรือใหม่ทั้งลำ....................แต่ถ้าหากเป็นในกรณีที่จีนต่อเรือขึ้นมาใหม่ทั้งลำ แล้วจึงนำเรือมาแลกกับทร.ไทยนั้น......ผมก็มองว่า ทร.ไทย คงมีการต่อรองเล่นแร่แปรธาตุทำการปรังปรุงแก้ไขแบบขึ้นเรือใหม่ให้มีความทันสมัยยิ่งขึ้น...ถ้าจำไม่ผิดก็คงเหมือนดั่งเช่นตอนที่ทร.ไทยทำการต่อเรือฟรีเกตสมรรถนะสูง เรือรบหลวงภูมิพลอดุลยเดช ที่ทร.ไทยได้ต่อเรือจัดหามาจากเกาหลีใต้นั้น ก่อนมีการต่อเรือทร.ไทยก็ได้มีการแก้ปรับปรุงแบบขนานใหญ่โดยพัฒนาแบบขึ้นมา จากแบบเรือรบชั้นควังแกโทมหาราช (KDX-I)ของเกาหลีใต้ จนแบบเรือดีขึ้นมากจนแทบไม่เหลือเค้าโครงของเรือเดิมเลย..............ครับ/สกายนาย

........ของฟรีก็น่าจะรับไว้ก่อน นะครับ......เพื่อไม่ให้เสีย มิตรภาพ และไมตรีอันดีต่อกัน...ครับ

........เนื่องจากเรือเจียงหูเจ้าพระยา  น่าจะเป็นเรือครู  ที่ทำให้อุตสากรรมต่อเรือจีนได้ก้าวกระโดดจากการต่อเรือที่ยุกค์เก่า  เข้าสู่สากล  จากการใช้เครื่องยนต์ และเพลาใบจักรจากตะวันตก  ซึ่งมันมีชิ้นส่วนที่มากกว่า และมีความเที่ยงตรงสูงกว่ามาก และมันเป็นเทคโนโลยี่ใหม่ ที่แตกต่างกันสิ้นเชิงกับเทคโนโลยีจีน  ที่ได้รับมาจากยูเครน และรัสเซีย  ( รัสเซียไม่ได้ถ่ายทอดสุดยอด วิชาให้กับจีน แน่ๆ)

........ส่วนการต่อเรือนเรศาร...ซึ่งเป็นแบบเรือ  ที่ย่อส่วนจาก เบรเมน โดยทหารเรือไทย โดยใช้ที่ปรึกษาเยอรมันในยุกค์นั้นออกแบบ  ก็เป็นแบบครู  ให้วิศวกรต่อเรือจีนได้เรียนรู้  และพัฒนาแบบเรือจีนออกมาได้ทันสมัย  ทันยุกค์ตะวันตก ก้าวพ้นความล้าหลังได้ทันที 

เรือที่จีนออกแบบและต่อออกมาหลังเรือนเรศวรทั้งหมด  จึงเป็นการขยายแบบ  เรือครูลำนี้ละครับ....เพราะคอนเซปมันได้  แบบที่....ที่จีนรอคอย.....มานานแสนนานเลย  ละครับ.....

........ดูหลักฐานได้เลยครับ....เรือจีนก่อนหน้านี้   ไม่มีลำไหนดูดีเลย  สมถรรนะก็ไม่ได้เรื่อง  สามวันดี สี่วันไข้ ....

........เพราะเหตุนี้กระมั่ง  จึงทำให้  จีน  ระลึกอยู่ในใจ....และอยากขอบคุณไทย....เป็นอย่างยิ่ง (ที่เป็นผู้เปิดสักหลาดยุกค์ใหม่ ให้กับอุตสาหกรรมต่อเรือจีน  และกองทัพจีน)

........สำหรับตัวลำเรือ HULL ของเรือนเรศวร  เป็นของจีนที่ลอกแบบมาจากเรือรัสเซีย  อีกทีหนึ่ง  ครับ  ซึ่งถือเป็น Hull รุ่นใหม่ของจีนในยุกด์นั้น  แต่ภายในถูกออกแบบใหม่ตามมาตรฐานตะวันตก...ครับ  (ซึ่งเข้าใจว่ารัสเซีย ก็น่าจะลอกการบ้านจาก เบรเมน เยอรมัน มาอีกต่อหนึ่งเหมือนกัน)

.......ในตอนนั้น  ทางกองทัพเรือไทยได้ส่งนายทหารเรือ...ไปศึกษาการออกแบบเรือ  และศึกษาการต่อเรือที่ประเทศจีน  หลายนายครับ  และนายทหารเรือ (วิศวกร) เหล่านั้น...คือผู้ออกแบบเรือ...นเรศวร   (ตัวจริง)

.......ซึ่งมีนายทหารบางท่าน  ได้เคยไปดูงานและศึกษาด้านการออกแบบเรือจากทางตะวันตกมาก่อน  หน้านั้นแล้ว   ปัจจุบันท่านเหล่านั้นได้เกศียรไปหมดแล้ว  ครับ......ไปเป็น "บุพการี แห่งกองทัพเรือ"  ที่แทบจะไม่มีใครได้เอยถึงอีกเลย.....แม้แต่กองทัพเรือเอง ....

ขอโทษครับ  ผมต้องขอย้ายคำถามให้ตรง กับกระทู้ ครับ (โพร์สผิดกระทู้ ...ครับ)

ขอโทษด้วยครับ  .....ผมย้ายกระทู้ให้ตรงตามคำถามครับ

Type 053H3 Jiangwei-II Class

The Type 053H3 (NATO code name: Jiangwei-II class) is the multirole missile frigate introduced in the 1990s as a follow-on to the Type 053H2G (Jiangwei class). The Type 053H3 was based on the hull design of the Type 053H2G, but fitted with improved weapon systems and sensors. Despite being known as a ‘multirole’ frigate, the Type 053 is only capable of coastal patrol role, with limited air defence and anti-submarine warfare capabilities.

Programme

Construction of the first-of-class of the Type 053H3 began at the Shanghai-based Hudong Shipyard in 1998, and the production was later expanded to the Guangzhou-based Huangpu Shipyard. A total of 10 hulls (521—524, 527, 528, 564—567) were built for the PLA Navy between 1998 and 2005, with the last three hulls (567, 527, and 528) in slightly different weapon and radar configuration.

Design

Air Defence

The primary air defence weapon is the HHQ-7 (Crotale copy) short-range SAM system, with an 8-cell launcher located on the bow deck behind the main gun and ahead of the bridge. Directed by the H/LJP-345 (Castor CTM copy) fire-control system, the missile is designed to engage aircraft in all-weather, day/night conditions at a maximum range of 8—12 km with line-of-sight guidance. The missile also has limited capability to intercept sea-skimming anti-ship missiles at a range of 4—6 km.

There are also four Type 76A dual-37mm anti-aircraft artillery guns, capable of firing 1.42 kg shells at a rate of 180 rounds per minute to a range of 8.5 km against airborne targets. The AAA guns are directed by an H/LJP-341 fire-control radar.

Anti-Surface

The Type 053H3 is armed with eight YJ-83 subsonic sea-skimming anti-ship cruise missiles (ASCM), with two quadruple launchers installed at the mid-ship position. The missile uses active radar-homing to deliver a 165 kg warhead to a range in excess of 180 km.

An H/PJ-33B (Type 79B) dual-barrel 100mm/56-calibre gun with an angular-lined turret for reduced radar cross section (RCS) is installed on the bow deck, in front of the SAM launcher. The gun is capable of firing 15 kg shells at a rate of 18 rounds per minute to a range of 22 km.

Anti-Submarine Warfare

2x 6-cell Type 87 240 mm anti-submarine rocket launcher, firing the Type 81G rocket-propelled depth charge with a 34 kg warhead to a range of 1,200 m, with 36 rounds.

2x depth charge racks and launcher.

Sensors

Air/surface search is provided by an H/LJQ-360 radar mounted on top of the main mask. The radar operates in the E/F-band, with a maximum range of 150 km to aircraft and 50 km to sea-skimming missile.

A Type 517H-1 (‘Knife Rest’) radar working in the A-band on the aft deck provides long-range air surveillance and early warning.

The H/LJP-345 system consisting of a J-band radar and an electro-optical director (EOD) provides target direction for the HHQ-7 SAM.

A Type 343GA installed on top of bridge operating in the X- and Ku-band provides fire-control for the dual-100 mm main gun and YJ-83 anti-ship missiles. On later hulls this was replaced by an H/LJP-344A operating in the I/J-band.

An H/LJP-341 (‘Rice Lamp’) installed on top of the helicopter hangar operating in the I-band provides fire-control for the Type 76A AAA guns.

The frigate has a JM-83H electro-optical director (EOD) consisting of laser rangefinder, TV tracker, and infrared/thermal imaging, in case of electronic jamming of the gun radar.

For navigation, the frigate has two RM-1290 (Racal Decca 1290) navigation radars located on the foremast yardarms.

The frigate is equipped with an SJD-7 hull-mounted medium-frequency sonar for active/passive search and attack.

Electronic Countermeasures

The Type 053H3 frigate’s electronic warfare suite include the RWD-8 (‘Jug Pair’) intercept, Type 981-3 jammer, SR-210 radar warning receiver, TM-053 laser warning receiver, HZ-100 electronic intelligence (ELINT) system, Type 651A IFF, two H/RJZ-946 (PJ-46) 15-barrelled 122 mm chaff/decoy launchers, and two 26-barrelled chaff launchers.

Command & Control

The Type 053H3 frigate is fitted with an indigenous ZJK-3C combat data system developed from the French TAVITAC. The system is based on the 10Mbps common bus architecture, and is capable of supporting operations such as air defence, anti-submarine warfare, electronic warfare, navigation, and communications.

Aviation

The frigate has a helicopter hangar and deck at the stern capable of operating a medium-sized helicopter, such as the Eurocopter AS 365 Panther or its Chinese copy Harbin Z-9C. The flight deck is fitted with the helicopter handling system.

Propulsion

The frigate is powered by a combined diesel and diesel (CODAD) arrangement, with two 18E390VA diesels rated at 14,000 hp (17.6 kW) and two MTU diesels rated at 8,840 hp (6.5 MW). Two shafts drive controllable pitch propellers. The propulsion system provides a maximum speed of 26~27 knots and, at an economical speed of 15 knots, the range is 5,000 nautical miles.

เอา WIKI มาลงเลยหรือ ...5555

มีท่อนหนึ่งที่ทำให้ตระลึงนิดหน่อยกับ คำว่า Type 053 is only of coastal pastal role

ก็เท่ากับเรือ นเรศวร เป็น coastal pastal ด้วยซิ  ครับ

(มุมมองฝรั่ง กับมุมมองไทย คงไม่เหมือนกันแล้วละ ครับ 55555)

ฝรั่งเห็นเรือต่ำกว่า 3,000 ตัน  เป็นเรือขนาดเล็กหมด จัดกลุ่มเป็น coastal หมด  

..............ถ้าดูข้อมูลจากที่ท่าน momo ได้นำมาโพสไว้นี้ ผมเห็นว่าเมื่อนำมาเปรียบเทียบกับเรือฟรีเกตเจ้าพระยาเก่าของไทยเราที่แต่เดิมเคยจัดหามาจากจีนแล้ว.......เรือฟรีเกตเจ้าพระยาของไทยเราโดยรวมจะล้าสมัยกว่า และไม่มีการติดตั้งระบบอาวุธนำวิถีพื้นสู่อากาศเพื่อป้องกันภัยทางอากาศไว้เลย อีกทั้งไม่มีลานจอดฮ.และโรงเก็บฮ.ไว้......ส่วนเรือฟรีเกตชั้นเจียงเหว่ยที่จีนจะนำมาแลกนี้เป็นเรือรุ่นพัฒนาขึ้นภายหลังกว่าเรือฟรีเกตชั้นเจียงหู่ โดยมีการติดตั้งระบบอาวุธนำวิถีพื้นสู่อากาศพิสัยใกล้ไว้แล้ว และยังมีลานจอดฮ.และโรงเก็บฮ.ไว้อีก......ถ้าผมจำไม่ผิดเรือฟรีเกตชั้นเจียงเหว่ยนี้ เป็นแบบเรือแบบแรกที่จีนพยายามพัฒนาเรือให้ติดระบบอาวุธและระบบอำนวยการรบเหมือนของชาติตะวันตก.......ครับ/สกายนาย

ตอบ ท่าน airy ข้อมูลจาก เวป wikipedia ไม่ได้มีความละเอียดเท่ากับในบทความที่ผมได้พิมพ์ลงไป อีกทั้งถ้าหากท่านได้อ่านข้อมูลจนจบ จะเห็นว่าข้อมูลอาวุธที่ติดตั้งบางรายการมีรหัสที่ไม่ตรงกันกับในเวป wikipedia เนื่องจากข้อมูลจากในเวป wikipedia เป็นข้อมูลที่ใครๆก็สามารถเขียนหรือแก้ไขได้ ซึ่งข้อมูลบางอย่างเป็นข้อมูลที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง 

อยากให้ท่านลองอ่านข้อมูลที่ผมพิมพ์รายละเอียดไว้ทั้งหมด และเทียบกับในเวป wikipedia ครับ 

ลิงค์จากเวป wikipedia  : https://en.wikipedia.org/wiki/Type_053H3_frigate

ลองนำไปเปรียบเทียบข้อมูลครับ

ถ้าแลกกันจริงคงต้องขอเครื่องเยอรมันกะของระบบนาโต้ไว้ใส่กะเรือที่จะมาแลก ของจีนล้วนๆไม่ไหว

ตย.ของจีนดีๆก็รถถังที69 ขนาดเอาที่สำรองกองทัพมาจีนมายังใช้ได้บ้างไม่ได้บ้าง พังเร็วกกว่าที59ของปากีกะบังกลาเทศที่จีนผลิตขายให้อีก ที69(เทคโนโลยียุค80)พัฒนาจากที59(เทคโนโลยียุค50)ที่ลอกแบบกะพัฒนาเอง แถมได้รับเทคโนโลยีจากตะวันตกช่วย ทำไมที69ของใหม่กว่าถึงพังไวกว่าก็ไม่รู้

ขอบคุณท่าน Momo มากครับ...

....ผมอ่าน wiki คร่าวๆ.. เหมือนกัน เลยไม่มีโอกาสเปรียบเทียบครับ  ขอโทษด้วยครับที่เข้าใจผิด 

....wiki มีผิดพอควร  ผมเคยอ่านที่ไหนลืมไปแล้ว กล่าวว่า เรือเจียงหูไทยเป็นมือสองของจีน

....แต่คุ้นๆ บทความนี้เหมือนกัน...ครับ  ก็คงเป็นบทความของท่าน นั่นเอง 

.....อ่านครั้งสุดท้ายน่าจะ ตอนข่าวการซื้อ LPD-071A  เมื่อไม่นานนี้ ครับ...

ในความเห็นส่วนตัวผม ถ้าแลกกันเฉยๆ อันนี้ เห็นด้วย น่าสนใจครับ...

แต่ถ้าต้องเสียค่ารีโนเวท...ก็อยู่ที่ว่า 2 ลำ 100 หรือ 2 ลำ 200 ถ้าเกินกว่านี้...คงหมดความน่าสนใจ...

ในเรื่องคุณภาพ ถ้าเป็นเรือที่ จีน ใช้เอง...ผมให้น้ำหนักว่า คุณภาพ จะดีกว่า ส่งออก...อายุประจำการ ก็ควรไม่น้อยกว่า 15 ปี...

ในเรื่อง ระบบ ก็น่าจะใช้ชุดร่วมกัน กับ ชุดกระบุรี ได้...

และคิดว่า เรือ 2 ลำนี้...คงใช้ร่วมกับ เรือดำน้ำจีน เป็นแน่แท้...มา โทน เดียว กับ ทร.บังคลาเทศ...น่าจะเป็นเรื่องระบบสื่อสาร ระหว่าง เรือดำน้ำจีน กับ ระบบเรือรบผิวน้ำไทย คงใช้ร่วมกันไม่ได้ดี...จึงต้องพึ่ง เจียงเว่ย 2 ไปพลางๆ....ดูแล้ว...ถึงจะไม่อยากได้ แต่ก็จำเป็นต้องเอา...

ตอนนี้ คาดว่า ยุทธศาสตร์ เรือดำน้ำไทย.. คงเทียบเท่ากับ บังคลาเทศ....

ยุทธวิธี สงครามใต้น้ำ

ทร.บังคลาเทศ = เจียงเว่ย II + Ming Class Submarine

ทร.ไทย = เจียงเว่ย II + S26T Class Submarine

ตอบ ท่านsuperboy เรือฟริเกตType 053H3 มีระบบโซน่าร์ รุ่นSJD-7 ซึ่งคล้ายกับโซน่าร์ของเรือหลวงตากสิน ที่ติดตั้งแต่เริ่มเข้าประจำการ และ Type 053H3 รุ่นอัพเกรดสามารถติดตั้งตอร์ปิโดปราบเรือดำน้ำ ขนาด3ท่อยิง จำนวน2แท่น (6 × 12.75 inch torpedo tubes)

Type 053H3 Jiangwei-II Class

ถ้า ทร. จัดหา เรือชุดนี้มาจริง...มาตรฐาน สงครามใต้น้ำ ของ ทร.ไทย ประเมินในความเห็นส่วนตัว ตามภาพประกอบ

ส่วน กองเรือปราบเรือดำน้ำ ของ ทร.ไทย ในปัจจุบัน คงเป็น กองเรือ ที่ไม่สามารถจะสนับสนุน เรือดำน้ำจีน ได้...

ดังนั้น ถ้าประเมินว่า ระบบการสื่อสารข้อมูลระหว่าง เรือรบผิวน้ำไทย กับ เรือดำน้ำจีน S26T ประสิทธิภาพไม่ดีพอ จึงต้องใช้ เรือชุด เจียงเว่ย II แทน...

ดังนั้น ถ้าฝ่ายตรงข้าม เมื่อเห็น เรือชุด เจียงเว่ย II และ/หรือ LPD 071T แถวไหน ก็ให้ เอา วงเวียน มาปักตรงตำแหน่งนั้น แล้วหมุน เป็นวงกลม ได้เลย...

S26T ก็อยู่ไม่ไกลจากแถวนั้น เท่าไหร่...ฮ่าๆๆๆๆๆ

ทร.พม่า ก็สามารถนำไปใช้ได้กับ เรือดำน้ำ บังคลาเทศ ได้นะจ๊ะ...

จะเอาเจียงเหว่ยมาเพื่อปราบ ด.  ทร. ต้องอัพครับ แบบล่าสุดที่นำมาแสดงในงาน defense เจียงเหว่ยอัพเกรดติดแอสร็อคจีนบวกโซนาร์ลากท้ายครับ ซึ่งน่าสนใจมากและจะทำให้สงครามใต้น้ำดีขึ้นโข แต่ ทร.จะมีเงินพอที่จะอัพหรือเปล่านี่สิ  จะเอามาแล้วได้แบบเดมไม่อัพอะไรไม่คุ้มเลยครับ  ไม่อย่างงั้นก็ต้องขอความกรุณาทางจีนช่วยซัพพอร์ตให้โดยเปลี่ยนเป็น 054 ชุดแรกๆสองลำที่กำลังปรับปรุงแทนถ้าได้ ทร. จะมีทรงขึ้นโขเลย

ผมขอภาพเรือเต็มๆ ใส่แท่นยิงตอร์ปิโดได้ไหมครับท่าน momo

จากภาพที่ให้มาเป็นเรือชั้น F-22P ของปากีสถานครับ จะสังเกตได้ว่าติดบนดาดฟ้าเรือชั้นล่างสุด (ภาพที่สองบนเรือหลายเลข 253) ซึ่งเรือปากีสถานเจาะลงไปเพื่อติดแท่นยิง ตอร์ปิโดจะอยู่ต่ำกว่าเสาเรดาร์ค่อนข้างมาก superstructure โรงเก็บเฮลิคอปเตอร์ทรงเหลี่ยม มีเสายาวๆยื่นออกมา 1 ตัวเพื่อติดอะไรสักอย่าง

แต่เรือจีนสร้างsuperstructure ชั้นสองยาวๆ (ภาพที่หนึ่งบนเรือหมายเลข 564) ถ้าเป็นเรือจีนมันติดอยู่ตรงแท่นยิงจรวด C-802 พอดี ตอร์ปิโดจะอยู่ติดเสาเรดาร์กันเลยทีเดียว superstructure โรงเก็บเฮลิคอปเตอร์ทรงกลม ไม่มีเสายาวยื่นออกมา และหมายความว่าเรือลำนั้นต้องถอดจรวดต่อสู้เรือรบออก สังเกตไหมครับว่าภาพอื่นที่ท่าน momo  นำมาลงทั้งภาพจริงและโมเดลไม่มีแท่นยิงตอร์ปิโดเลยแม้แต่ภาพเดียว แล้วมันไปติดอยู่ตรงไหนกันหนอ?

จีนเคยนำเรือรุ่นนี้มาทดสอบติดโซนาร์ลากท้ายกับแท่นยิงตอร์ปิโด ก่อนนำโซนาร์ลากท้ายไปติดตั้งจริงบนเรือฟริเกต Type 054 ของตัวเอง ลำนี้ในภาพปรับปรุงใหม่แล้วผมก็ยังมองไม่เห็นแท่นยิงตอร์ปิโดเลย เรือชั้นนี้ที่ติดตอร์ปิโดเป็นชั้น F-22P ของปากีสถาน เพราะฉะนั้นผมอยากได้ภาพเรือจีนติดแท่นยิงตอร์ปิโดแบบชัดๆ ครับ 

......................ก่อนอื่นผมต้องขอขอบพระคุณท่านmomo ที่นำข้อมูลภาพเรือฟรีเกตเจียงเหว่ย ที่สวยงามมาโพสให้ชมกัน.......และผมขออนุญาตออกความเห็นส่วนตัวเพิ่มเติมในเรื่องนี้อีกว่า........ในเรื่องการแลกเปลี่ยนเรือฟรีเกตระหว่างจีนกับไทยเรากันดังกล่าวนั้น ปัจจุบันยังหาความชัดเจนยังไม่ได้ เพราะเรื่องราวที่ปรากฏขึ้นนั้น ล้วนเป็นการออกมาให้ข่าวจากฝ่ายจีนแต่เพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น โดยที่ฝ่ายไทยยังเงียบไม่มีการออกมาแถลงยืนยันหรือปฏิเสธแต่อย่างใด.......ต้นเหตุในเรื่องนี้คงเริ่มต้นจากทางฝ่ายจีนมีความต้องการเรือฟรีเกตไปจัดแสดงในพิพิทภัณฑ์ จึงเสนอนำเรือรบจีนมาแลกเปลี่ยนเรือรบดังกล่าวระหว่างกัน.............แม้ว่าจะมีความสัมพันธ์อันดีเป็นมิตรประเทศกัน แต่ข้อเสนอและคำสนองตอบที่จะเกิดขึ้นระหว่างกันนั้น มันจะต้องมีความยินยอมพร้อมใจกันของทั้งสองฝ่าย โดยที่ไทยเราผู้รับคำเสนอจะต้องมองว่าในการแลกเปลี่ยนกันในครั้งนี้ ตนเองต้องไม่เสียผลประโยชน์หรือถูกเอาเปรียบ หรือไม่ใช่ในกรณีถูกนำเอาซากเรือเก่าที่ถูกถอนถอนระบบอาวุธออกไปจนใช้ประโยชน์แทบไม่ได้ แล้วนำซากเรือนั้นมาแสวงหาประโยชน์ แล้วนำมาเสนอมอบเรือให้โดยมีเงือนไงผูกมัดให้ผู้รับเรือต้องจ่ายเงินเป็นจำนวนสูงเพื่อปรับปรุงคืนสภาพเรือให้แก่ฝ่ายตน เสียก่อนที่จะรับมอบเอาเรือไป (ดังเช่นเดิมที่เคยมีประเทศมหามิตรประเทศหนึ่ง เคยเสนอมอบเรือฟรีเกตชั้นโอริเวอร์ฮัทซาดเพอร์รี่ให้ไทยเรา แต่เป็นตัวเรือเปล่าไม่พร้อมกันงาน)......ซึ่งในการแลกเปลี่ยนครั้งนี้ ถ้าหากเรือที่จะนำมาแลกเปลี่ยนไม่ใช้เรือฟรีเกตชั้นเจียงเหว่ยที่ได้มีการปรับปรุงระบบอาวุธขึ้นใหม่เหมือนตามที่ไทยเราต้องการ  แต่กลับเป็นเรือเก่าหรือเรือชั้นเจียงหู่รุ่นเก่า อันเป็นเรือชั้นเดียวกับเรือฟรีเกตเจ้าพระยาเดิม แต่ทางจีนเสนอจะต่อเรือชั้นเจียงหูรุ่นเก่าให้ไทยเราขึ้นใหม่แล้วจึงนำมาแลกนั้น และถ้าฝ่ายไทยเรามองว่าตนไม่ได้ประโยชน์อันดีในการจะแลกเปลี่ยนในครั้งนี้ ผมว่าฝ่ายไทยเราก็ควรเลือกที่ใช้ประจำการเรือฟรีเกตเจ้าพระยาลำเก่าของไทยเรานี้สืบเนื่องต่อไปจนหมดสภาพและปลดประจำการไปในที่สุด แล้วจึงนำเรือฟรีเกตเจ้าพระยานี้ไปตั้งแสดงในพิพิทภัณฑ์ของไทยเราเองก็คงจะดีกว่าทำการแลกเปลี่ยนกันกับจีน  ..........ซึ่งจะเป็นการดีกว่าที่จะมีการแลกเปลี่ยนกับเรือจีนชั้นเจียงหู่รุ่นเก่าที่ล้าสมัย แต่เป็นเรือที่จีนจะต่อขึ้นใหม่มาให้แก่ไทยเรามาทำไมกัน  ........ถ้าเป็นผมจะเสนอแนะให้จีนต่อโมเดล copy เรือฟรีเกตให้เหมือนกับเรือรบของไทยเราที่จีนต้องการขึ้นมาใหม่เอาให้เป็นอัตราส่วน 1 ต่อ 1  แล้วนำเรือโมเดลที่ต่อขึ้นมาใหม่นี้ไปแสดงที่พิพิทภัฑ์ของจีนแทนการแลกเปลี่ยนกับไทยเราในครั้งนี้ก็สิ้นเรื่อง  จะได้ไม่ยุ่งยากแลเป็นภาระะสิ้นเปลืองเงินทองของไทยเรา................

......................ในเรื่องแลกเปลี่ยนเรือรบระหว่างกันนี้ ผมมีความคิดเห็นตรงกับ ท่านjuldas ว่าถ้าหากมีการแลกเปลี่ยนเรือฟรีเกตชั้นเจียงเหว่ยกับจีนในครั้งนี้ คงมีข้อดีตรงที่ว่าไทยเราจะได้มีเรือฟรีเกตที่มีระบบอาวุธครบครันมากขึ้นกว่าเรือฟรีเกตชั้นเจ้าพระยาเดิมๆของไทยเราที่เคยต่อมาจากจีนในอดีต ....และไทยเราก็คงสามารถนำไปใช้คุ้มกันให้กับกองเรือพี่เลี้ยงส่งกำลังบำรุง (เรือยกพลขึ้นบก Type 71E)ให้แก่เรือดำน้ำของไทยที่จะขึ้นประจำการในอนาคต เหมือนดังเช่นทร.บังคลาประเทศได้กระทำกัน (ลำพังสมรรถนะเรือในชั้นนี้ของจีนยังไม่สูงพอเมื่อเทียบกับเรือที่ต่อขึ้นมาในแบบของชาติตะวันตก ปัจจุบันเรือนี้จึงยังคงใช้ประกอบภารกิจทางทหารอื่นได้ไม่มาก)............ถ้าหากมีการแลกเปลี่ยนเรือนี้เกิดขึ้นมาจริง ก็หวังว่าจะมีค่าใช้จ่ายในการจัดหาเรือในครั้งนี้เป็นเงินจำนวนไม่มาก.....แต่ถ้าหากจะต้องมีการควักจ่ายเงินจำนวนมากให้แก่จีน ก็อย่าแลกเปลี่ยนกันเลยดีกว่า...................ให้เรื่องราวครั้งนี้มันผ่านเลยไป.... เหมือนดั่ง ในอดีตที่เคยมีข้อเสนอจะมอบซากเรือฟรีเกตชั้นโอริเวอร์ฮัดซาดเพอร์รี่มาให้ไทยเรา แต่เราไม่เอานั้น......ถ้าข้อเสนอแลกเปลี่ยนในครั้งนี้ของจีน ถ้าหากฝ่ายจีนตอบสนองได้ไม่ตรงตามตามต้องการของฝ่ายไทยเรา ก็ให้ฝ่ายจีนเก็บเรือที่เสนอจะนำมาแลกของตนนี้ไว้ใช้เป็นเป้าซ้อมยิง อวป.เหมือนตามที่ประเทศมหามิตรเคยกระทำในอดีตนั้น คงจะดี...............ครับ/สกายนาย

ภาพจากโมเดลก็เห็นอยู่โต้งๆ ว่าไม่มีแท่นยิงตอร์ปิโด และข้อมูลที่ท่าน momo นำมาลงก็เขียนไว้อย่างชัดเจน

Anti-Submarine Warfare

2x 6-cell Type 87 240 mm anti-submarine rocket launcher, firing the Type 81G rocket-propelled depth charge with a 34 kg warhead to a range of 1,200 m, with 36 rounds.

2x depth charge racks and launcher.

เพราะฉะนั้นถ้าไม่อัพเกรดตามที่ท่าน ausangi ว่ามา ก็ไม่แตกต่างไปจากเรือหลวงเจ้าพระยาของเราเลย

เรือชุด เจียงเว่ย II นี้....ถ้าจะมา จริง ๆ... ผมว่า คงเป็นเรื่อง การสื่อสาร ระหว่าง เรือดำน้ำจีน กับ เรือรบผิวน้ำของ ทร.ไทย ในปัจจุบัน น่าจะไม่สามารถสื่อสารกันได้ แบบตามมาตรฐาน...น่าจะมี จุดด้อยกว่า...

จึงจะเป็นเรื่องที่ จีน นำเสนอมา เพื่อลดจุดด้อยของ เรือดำน้ำจีน จำนวน 1 ลำ นี้...

ในเรื่องความสามารถปราบเรือดำน้ำ....น่าจะเป็น ส่วนสนับสนุน เท่านั้น...

เพราะ เรือดำน้ำ เวลาปฏิบัติการ หรือ เกิดเหตุการณ์เฉพาะหน้า...จึงคงต้องอาศัย เรือรบผิวน้ำ ที่มีความสามารถ บรรทุก ฮ. จะสามารถติดต่อ และส่งบำรุงในเหตุการณ์เฉพาะหน้าได้...ซึ่ง การสื่อสาร ระหว่าง เรือรบผิวน้ำ กับ เรือดำน้ำ ก็ต้องเป็นความลับมากกว่าปกติ...เพื่อนัดจุดหมายกัน...

ซึ่งปัจจุบัน ทร. มีเรือสมรรถนะสูง คือ เรือชุด นเรศวร กับ เรือชุด ภูมิพล....ซึ่ง ยังไม่รู้ในอนาคต ว่า ความสามารถ ติดต่อสื่อสาร กับ เรือดำน้ำจีน ที่สั่งไปนั้น จะสมบูรณ์เพียงพอหรือไม่...ส่วน ชุด กระบุรี ไม่ต้องไปพูดถึง...โซนาร์ น่าจะไม่มีด้วยซ้ำ....

การออกข่าวนำเสนอของ จีน สำหรับ เจียงเว่ย II ในความเห็นผม...คือ การมา กลบ จุดด้อย ตรงนี้ น่าจะเป็นวัตถุประสงค์หลัก...มากกว่า...การมาทดแทน เรือรบผิวน้ำ ที่ขาดแคลน...

ซึ่งผมสังเกตุ จาก ทร.บังคลาเทศ ที่จัดหา เรือดำน้ำ ชั้น Ming มา...ก็ต้องจัดหา เรือรบผิวน้ำ เจียงเว่ย II จากจีน เพิ่ม เพื่อมาสนับสนุน ด้วย...ซึ่งเรือมือสองจาก จีน ที่จัดหา มาก่อนหน้านี้ ก็ดูไม่มีความสามารถ สนับสนุน หรือติดต่อสื่อสารกับ เรือดำน้ำ ได้อยู่แล้ว...

สำหรับ ท่อยิง ตอร์ปิโด สำหรับ เจียงเว่ย II ถ้าจะเพิ่ม กรณี ไม่ได้มีติดมาด้วย...คงไม่น่าจะเรื่องยากอะไร...แต่ถามว่า แล้วเรา ก็ต้องจัดหา ตอร์ปิโด จีน เพิ่มขึ้นมาอีก ใช่หรือไม่ ? อาวุธ ทร. ก็จะ โครต หลากหลาย...พอ ๆ กับ ทบ. ทีเดียวเชียว...

อย่างที่บอกครับเจียงเหว่ยจะเอาต้องโมครับ แอสร็อคจีน+โซนาร์ลากท้ายต้องมา ถ้ามาแบบเดิมๆอย่าเลย สู้กัดฟันไปเอาตัว 054Aที่ปรับปรุงดีกว่า 2 ลำพอดีด้วย 

ตอบ ท่านsuperboy ตอร์ปิโดปราบเรือดำน้ำ ขนาด3ท่อยิง จำนวน2แท่น ไม่ใช่ติดตั้งในเรือฟริเกตType 053H3 มาแต่เริ่มแรกครับ ผมจึงอธิบายว่า "Type 053H3 รุ่นอัพเกรดสามารถติดตั้งตอร์ปิโดปราบเรือดำน้ำ ขนาด3ท่อยิง จำนวน2แท่น (6 × 12.75 inch torpedo tubes)" พิมพ์ระบุไว้ชัดเจนครับ ลองท่านอ่านเพื่อพิจารณาข้อความดูอีกรอบครับ 

China hands over two ex-PLAN frigates to Bangladeshi Navy
https://www.janes.com/article/93346/china-hands-over-two-ex-plan-frigates-to-bangladeshi-navy
https://aagth1.blogspot.com/2019/12/type-053h3-2.html

๑.เรือฟริเกตชุด ร.ล.เจ้าพระยาทั้งสองลำคือ ร.ล.เจ้าพระยา และ ร.ล.บางปะกง เท่าที่ทราบมาเบื้องต้นเข้าใจว่ากองทัพเรือไทยไม่น่ามีแผนจะปลดประจำการในเวลาอันใกล้

๒.เรือฟริเกตชั้น Type 053H ที่ NATO กำหนดรหัสชั้นเรือว่าชั้น "Jianghu" ประกอบด้วย Type 053H Jianghu-I, Type 053H1 Jianghu-II และ Type 053H2 Jianghu-III

ปัจจุบันกองทัพเรือปลดปล่อยประชาชนจีนได้ปลดประจำการเรือฟริเกตชั้น Type 053H ลงทั้งหมดแล้ว เช่นเดียวกับเรือฟริเกตชั้น  Type 053H1 และเรือฟริเกตชั้น Type 053H2 ที่เหลือไม่เพียงกี่ลำและน่าจะปลดประจำลงทั้งหมดในช่วงปี 2020s

เรือส่วนใหญ่ถ้าไม่ขายต่อให้ประเทศอื่น เช่น พม่ากับบังคลาเทศ ก็ถูกดัดแปลงเรือและโอนให้หน่วยยามฝั่งจีนหรือเป็นเรือฝึกหรือถูกแยกชิ้นส่วนไปแล้ว

๓.เรือฟริเกตชั้น Type 053H2G ที่ NATO กำหนดรหัสชั้นเรือว่าชั้น "Jiangwei-I" ถูกสร้างขึ้นมา ๔ลำ ปัจจุบัน ๓ลำถูกดัดแปลงเรือแล้วโอนไปหน่วยยามฝั่งจีนแล้ว อีก ๑ลำถูกส่งมอบให้ศรีลังกาแล้ว

๔.เรือฟริเกตชั้น Type 053H3 ที่ NATO กำหนดรหัสชั้นเรือว่าชั้น "Jiangwei-II" จีนสร้างขึ้นมา ๑๐ลำ มี ๒ลำถูกส่งมอบให้บังคลาเทศแล้วตามข่าวในข้างต้น

โดยบังคลาเทศได้ลงนามจัดหาเรือฟริเกตชั้น Type 053H3 มือสองจากจีน ๒ลำในเดือนมิถุนายน 2018 และได้รับมอบในเดือนธันวาคม 2019 นี้ ต่อมาในเดือนกันยายน 2019 บังคลาเทศได้ลงนามสัญญาจัดหาเรือฟริเกตชั้น Type 053H3 เพิ่มอีก ๒ลำ

๕.เรารู้เรื่องกับหลักนิยมในการปฏิบัติการของเรือดำน้ำจีนน้อยมาก แต่เท่าที่ทราบกองเรือผิวน้ำจีนกับกองเรือดำน้ำจีนไม่มีระบบใดๆสามารถติดต่อสื่อสารกันโดยตรงได้ ซึ่งตามปกติเรือดำน้ำเองจะไม่ประกอบกำลังเป็นส่วนหนึ่งของกองเรือผิวน้ำด้วย

๖.ข้อเสนอเรือฟริเกตมือสองจากจีน แลกกับเรือฟริเกตเก่าของไทยที่ปลดประจำการแล้วเพื่อไปทำเป็นพิพิธภัณฑ์นั้น มีที่มาจาก นโยบายผู้บัญชาการกองทัพเรือ ปี พ.ศ.๒๕๖๓

แต่ในชุมชน Online จีนมีผู้วิเคราะห์ว่า จีนไม่ได้อยากได้เรือฟริเกตชุด ร.ล.เจ้าพระยา(Type 053HT) ของไทย ซึ่งเรือของไทยเป็นรุ่นที่มีการปรับปรุงจากที่จีนบางอย่างแต่ก็ไม่มาก เพราะจีนมีเรือชั้นนี้เป็นจำนวนมากพอที่จะนำมาเป็นพิพิธภัณฑ์อยู่แล้ว

จริงๆแล้วจีนอยากได้เรือฟริเกตชุด ร.ล.พุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ๒ลำคือ ร.ล.พุทธยอดฟ้าจุฬาโลก(https://aagth1.blogspot.com/2017/09/blog-post_30.html) และ ร.ล.พุทธเลิศหล้านภาลัย(https://aagth1.blogspot.com/2015/04/blog-post_17.html) ที่ปลดประจำการแล้วจากไทยต่างหาก

เพื่อเอาไปศึกษา Technology แม้ว่าจะเก่ามากแล้วก็ตาม แน่นอนสหรัฐฯไม่ยอมให้กองทัพเรือไทยมอบเรือฟริเกตชั้น Knox เก่าของตนให้จีนแน่ เพราะผิดข้อกำหนดการอนุญาตส่งมอบเรือให้ไทย และทางไทยมีแผนจะนำเรือไปเป็นพิพิธภัณฑ์ในไทยอยู่แล้ว

ยกเว้นแต่ว่ากองทัพเรือไทยเลือกที่จะแตกหักกับสหรัฐฯด้วยการส่งมอบเรือให้จีน ซึ่งไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะเรือรบผิวน้ำของไทยหลายชุดใช้ระบบอาวุธและอุปกรณ์ของสหรัฐฯ การเลือกทำแบบนั้นกองทัพเรือไทยจะเสียหายมาก

อีกทั้งกองทัพเรือสหรัฐฯพึ่งจะส่งเครื่องบินลาดตระเวนทางทะเล P-8A Poseidon ของตนมาที่สนามบินอู่ตะเภาเพื่อทำการฝึก SEASURVEX(Sea Surveillance Exercise) กับกองทัพเรือไทยนอกรอบการฝึก Cobra Gold หรือ CARAT ด้วย(https://aagth1.blogspot.com/2019/12/p-8a.html)

๗.เข้าใจว่าทั้งหมดยังอยู่ในขั้นต้นของการเจรจา ซึ่งเป็นสิ่งที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ในอนาคตกองทัพเรือไทยอาจจะไม่ได้รับมอบเรือฟริเกตมือสองหรือเรือดำน้ำต่อใหม่จากจีนก็ได้ครับ

054a 2 ลำ ที่เข้าปรับปรุงทางจีนมีแผนขายครับโดยมีบังคลาเทศที่สนใจอยู่ อ้ออีกอย่างในเอกสาร ทร.ปี63 ระบุมาแค่ว่าเจียงเหว่ย ไม่ใช่เจียงเหว่ย II ซึ่งไม่รู้ว่ามีลับลวงพลางอะไรอีก  และแผนนการที่จีนจะเอา KNOX นี่ไม่มีทางเป้นไปได้เลยเพราะล่าสุด ทร. เอามาปรับสภาพเพื่อจะทำเป็นพิพิธภัณฑ์แล้ว  สรุปคิดว่า เรือจีนไม่มาครับ เพราะ ทร. จะไปเอาสาวรัสเซียแทน 555555

......................ขอขอบพระคุณท่าน AA_th1 อย่างสูงที่ได้มาโพสให้ข้อมูลเพิ่ม..........แต่ผมฟังดูแล้ว ข้อเรียกร้องขอแลกเปลี่ยนเรือรบหลวงชั้นพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกของไทยเรา ทั้ง 2 ลำนั้น กับเรือของตี๋ใหญ่ดังกล่าว .......ฟังดูแล้ว ตี๋ใหญ่มันเรียกร้องมากเกินไปหรือเปล่า.....ถ้าหากเราทำไปประเทศมหามิตรเจ้าของเรือเดิม มันจะไม่ด่าและแซงชั่น กับเราหรือไง  (คราวก่อนเราที่ส่งพวกอุยกูร์คืนให้ตี๋ใหญ่ เราก็ถูกประเทศมหามิตร มันด่าเอามาที่หนึ่งแล้ว ทั้งที่พวกอุยกร์ก็ไม่ใช่คนของมันแต่อย่างใด)  .....(ว่าแล้วถ้าอยากได้จริงๆก็ให้ เฮียสี ไปคุยขอกับลุงทรัมป์ก่อน ได้เรื่องอย่างไร ก็ค่อยมาแลกใหม่กับน้องไทยอีกที)...........แต่ถ้าอยากจบเรื่องนี้เร็วๆ จะแลกเปลี่ยนกับเรือหางยาวบรรทุกทุเรียนหมอนทองเต็มลำ สัก 2 ลำ.....ไม่ทราบว่าตี๋ใหญ่ จะสนใจแลกกับผมไหม.........ครับ/สกายนาย

เรือฟริเกตชั้น knox ปัจจุบันไต้หวันยังมีใช้งานอยู่นะครับ ถ้าพี่ไทยมอบให้จีนคงมองหน้าคนทั้งโลกไม่ได้แน่นอน คิดให้ลึกคิดให้ยาว...และอย่าคิดถึงแต่ผลประโยชน์ตัวเอง

คิดๆ ดูอีกทีผมเปลี่ยนใจแล้ว ถ้าจีนอยากเอาเจียงเหว่ยมาแลกเจียงหูก็แลกไป เราหาเงินมาติดโซนาร์ลากท้ายกับแอสรอคจีนตามแผนท่าน ausangi โดยไม่ต้องติดตอร์ปิเบาหรอกไร้ประโยชน์ จากนั้นเอาเจียงหูที่เหลืออีก 2 ลำไปอัพเกรด ติดโซนาร์ลากท้ายกับแอสรอคจีนให้เหมือนกันเลยจะได้ common fleet แล้วซื้อเฮลิคอปเตอร์ปราบเรือดำน้ำจีนพร้อมโซนาร์ชักหย่อน เท่านี้เองเราก็จะมีเรือฟริเกตปราบเรือดำน้ำตระกูลเจียงพร้อมลูกยาว ทำงานควบคู่กับอากาศยานตรงรุ่นที่สุดถึง 4 ลำด้วยกัน ใช้งานได้ 20 ปีถือว่าคุ้มค่าแล้ว ราคารวมทั้งหมดจะสักเท่าไรก็ไม่เป็นไร เพราะเราจะขอโปรโมชันผอนยาว 10 ปีจากท่านผู้นำ

.....กลัวเรือฟรีเกตไทย .....จะถล่มเรือดำน้ำไทย .....พวกเดียวกันเอง..!!!...(ขออย่าให้ประวัติศาสตร์ ซ้ำรอยเลย..ครับ)

เรื่องประเด็นระบบเครือข่ายการสื่อสารใต้น้ำ มีบทความเกี่ยวกับระบบเครือข่ายสงครามใต้น้ำมาให้ทุกท่านได้อ่านครับ

Networked Enabled Combat for the Enhancement of the Underwater Common Operating

Abstract – Defence R&D Canada – Atlantic’s Networked Underwater Warfare technology demonstration project is conducting a trial to investigate the potential for enhanced effectiveness in producing an underwater common operating picture under field conditions. The trial consists of nodes including ships, aircraft, submarines and additional reach back to shore support centres. The trial objectives are threefold; as a vehicle to develop fusion technologies, as a means to improve underwater warfare effectiveness and to demonstrate that faster formation of the underwater common operating picture can be produced using networked shared information. One of the products that has been developed is the Networked Enabled Combat System (NECS).

Keywords: Net-centric warfare, data fusion, reach-back analysis, command and control, communication, integration and collaboration.

1 Introduction

In order to provide enhanced effectiveness to underwater warfare that uses new sensors and platforms to maximum effectiveness, networking of platforms is required. Currently, Defence R&D Canada - Atlantic has been engaged in a demonstration project of a Networked Underwater Warfare system as shown in Figure 1. The system utilizes sensors on a distributed multi-platform ad-hoc network to establish a local common operating picture [1]. A reach back capability to a Shore Support Centre (SSC) via satellite using the Canadian Forces Experimental Network (CFXNet) will demonstrate the engagement of a virtual team using reach-back analysis provided by Subject Matter experts.

Figure 1: Networked Underwater Warfare Concept The development of a virtual team environment is one of the key concepts stipulated for the conduct of Net-Centric Warfare (NCW). A Net-centric warfare definition is as follows [2]; “Network-centric warfare is the linking of platforms into one shared-awareness network in order to obtain information superiority, get inside the opponent's decision cycle, and end conflict quickly.” In business, as in other areas of collaboration such as collaborative engineering, the use of distributed teams means the footprint of resources required at one site has been eliminated in favour of an ad-hoc and flexible team approach that results in a fundamental organizational transformation [3]. Defence models still retain command and control structures but require this flexibility. Other examples exist currently within Defence R&D Canada (DRDC), and the Collaborative Capability Definition, Engineering and Management (CapDEM) project is an example of the necessity to move towards a flexible team approach [4].

Knowledge management as expressed by the Harvard business school [5] have been promoting for a number of years the use of different structures for business that allow better knowledge management by bring together Subject Matter experts (SME) as required in order to facilitate a particular project or business venture. Recently the net- entric warfare construct is also taking advantage of this approach and the development of the NUW project is one demonstration of the future collaboration in this area.

The NUW project objectives are three fold;

• Develop and demonstrate technologies to fuse tactical sensor information to form and maintain an improved ASW portion of the Common Tactical Undersea Picture

• Improve the effectiveness of Underwater Warfare by investigating a flexible information/knowledge management architecture that can support several sonar systems and include land/air based sensors

• To demonstrate that the formation of the underwater portion of the COP (Common Operating Picture) can be done faster and more accurately by sharing information

2 Trial Overview 

Figure 1 shows the 6 nodes that are part of the network. The network is established using a Sub-Net Relay (SNR) over a UHF radio link between the platforms. In addition a satellite link allows use of reach back to CFXnet and the Maritime Command Operational Information Network (MCOIN). Through CFXNET, a reach back is establish to the Canadian Forces Maritime Warfare Centre  (CFMWC) and the Meteorological Ocean Centre (METOC) There are several expectations from the trial. The focus of the trial is on networking and the expected benefits that result from sharing information. It is expected that collaboration among the units will enhance the overall effectiveness in the conduct of this particular application, which is Anti-submarine warfare (ASW). By using the systems provided to interact with other platforms and users, the situational awareness will generate an underwater common operating picture (COP). User will be able to extract information form the systems to help in their work or analysis.

Overall, the demonstration would show that the force would be able to detect, track and localize an underwater target more effectively by networking than by the use of stand-alone or non-networked systems.

From the perspective of measurement, it is less apparent how in fact the effectiveness of such systems can be demonstrated. The NUW TDP is making use of a double blind experiment in which a networked operator on the Canadian Forces Auxiliary Vessel (CFAV) QUEST is compared to a stand-alone system operator who has access to radio and conventional communications to determine the effectiveness at one node of the system. Measurement of the effectiveness of the system overall is more problematic.

A number of metrics have been developed that extend the use of Intelligence, Surveillance and reconnaissance (ISR) to the NUW project and also utilize the sensor effectiveness measures that are traditionally used in antisubmarine warfare [6].

One of the biggest challenges will be to measure in some form the situational awareness of the reach back cell and of the network in total. Situational awareness can be measured through operator observations and recorded by observers but is deeply complex as it pertains more to what the operator, SME or commander perceives rather that a demonstration of events and times that these were recorded or noted. Perception has been a troublesome prospect and delves more into the physiology and mind- set of the participants. This type of Human factors is a level of analysis that is undergoing development.

3 Networked Enabled Combat System (NECS)

Figure 2 shows a picture of the Net-Enabled Combat System (NECS) at different nodes including the aircraft, ship, and at the Shore Support Centre. The NECS system is based upon the System Test Bed architecture that was originally developed for the Towed Integrated Active Passive Sonar (TIAPS). The latest system provides both sensor processing and an integrated data management with display extensions for a networked environment. [7]

Figure 2: Networked Enabled Combat System Some of the features of the NECS system are the chart display that is based on the Global Command and Control System – Maritime (GCSS-M) architecture used by the Canadian Navy. The system can display both organic and other platform sensor information including active and passive acoustic sonar, Automatic Identification System (AIS) information from ships and aircraft, radar contact information, and a blue force tracking system to allow other platforms to convey their positions.

บทความที่เหลืออีกครึ่ง ตอนที่ 4-6 เกี่ยวกับการเชื่อมโยงระบบ จะลงต่อให้วันพรุ่งนี้นะครับ วันนี้ขอตัวนอนก่อนครับ ขอบคุณทุกท่านสำหรับการรับชมครับ

........ไอ้....ย่า....อาเฮีย.......แบบนี้นี่เอง  (กองทัพเรือน่าจะปวดตับ......อยู่แน่.ๆ ...)

.........เพราะจำเป็นต้องไปถอย  Y-9  KJ-500  AEW  ก่อน....P-8  เพราะเรือดำน้ำลำเดียวนี่ นะ........แม่เจ้า

.........จะเอาเงินที่ไหนไปซื้อ.....ละ...ครับ    เพราะต้องมีทั้งสองอย่าง  (บทเรียนที่ แสนจะไม่คุ้มค่า....)

In addition, each node will have automatic web-page publishing facilities from their combat systems for enhanced situational awareness and relay historical information. This information will be available both within each platform or accessed from other nodes so that off-platform pages can viewed. The NECS system produces a COP from these disparate sensors types as shown in Figure 3. The chart display lies underneath and has features that can be turned on individually. Information includes liens of passive sonar bearing contacts, Passive Target Motion Algorithms (TMAs), active sonar return positional information, and incorporates various data association and fusion algorithms. Tome tactical decision aids are included and acoustic prediction, radar tracks and of course bathymetry can also be displayed.

Figure 3: NECS Chart Display

For example, Figure 4 shows the typical passive sonar board band display of a time series, while Figure 5 shows the display of Bearing Time Intensity (BTI). Figure 6 shows how the active contacts can be displayed on the chart. Figure 7 shows the bearing range indicator and the plan position indicator displays. Each of these displays can be opened as separate windows from any of the nodes.

Figure 4: Passive Sonar Broad Band Time Series

Figure 5: Bearing Time Intensity (BTI) Display

Figure 6: Active Contact Chart

Figure 7: Bearing Range Intensity; Plan Position Indicator

บทความที่เหลืออีกครึ่ง ตอนที่ 4-6 เกี่ยวกับการเชื่อมโยงระบบ จะลงต่อให้วันพรุ่งนี้นะครับ วันนี้ขอตัวนอนก่อนครับ ขอบคุณทุกท่านสำหรับการรับชมครับ

....ยังมีเทคนิคที่จีนติดอก ติดใจอีก อย่างครับ.........เป็นเทคนิคง่ายๆ  ที่ไทยได้มาจากเรือตาปี   แล้วเอาไปแบ่งปันจีน

.....คือ...การออกแบบที่เอากาบเรือด้านข้างที่เป็นเหล็กไหล  ไปปิดบังอาคารซุฟเปอร์สตักเจอร์ชั้นล่างของเรือ......

.....มันมาจากอเมริกาล้วนๆ   เพราะฉนั้น  เรื่องอยากวิเคราะห์เรือน๊อก  น่าจะมีน้ำหนักมากที่เดียว

.....ผมนอนหลับ..ฝันกลางวัน ครับ

.....ว่า...ที่จีนอยากได้เรือเจ้าพระยา  สองลำนี่  เพราะว่า จีนแอบติดยันตร์ (ฮู้) เอาไว้ในเรือนี่เอง ครับ.....

.....เป็นยันตร์  "กวนอู กระทืบสมุทร มหาอุตต. สุดหล่านภากาศ ปราบศักดาเวหาสิบทิศ"  นี่เอง

เพื่อไปถอดเอายันตร์ 2 อัน  ไปติดเรือ บรรทุกเครื่องบินใหม่จีน 2 ลำ  ไม่งั้นทหารจีนและกองทัพเรือจีนไม่มั่นใจในพลานุภาพของเรือ

เพราะอาจารย์สุดยอดวิชา ปลุกเศกยันต์นี้  ได้จากไปนานมากแล้ว  อาจารย์ที่มีอยู่ฝีมือไม่ถึง.....ครับ (งานนี้เท่าไร เท่ากัน..ครับ)

ฮู้นี้  หาอีกไม่ได้แล้ว.....

.....เพราะตกุดในเรือตาปี ของท่านกบแท้ๆ.....  

.............ทำให้ผมคิดมาก....จนนอนฝัน

 "คำเตือน"

    "ผู้ใหญ่ที่โตแล้ว และผู้สูงอายุ โปรดใช้วิจารณาญาน ในการลูบคลำ" 

..............ถ้าหากตี๋ใหญ่ยินยอมแลกเรือฟรีเกตชั้นเจียงเหว่ย กับฮู้ ของท่าน Airy และยินยอมติดโซนาร์พร้อมแอสรอคจีนเพิ่มเติมให้เหมือนตามที่ท่าน ausangi และท่าน superboy เสนอความเห็นมาด้วยนั้น...........ผมจะยอมเสียสละมอบ พระสมเด็จพิมพ์ใหญ่ บวก หลวงพ่อทวด ปี 2505 พิมพ์เตารีด และเหรียญหลวงพ่อเงิน พิมพ์จอบใหญ่ ให้แก่ตี๋ใหญ่ ด้วย.....ไม่ทราบว่าตี๋ใหญ่จะสนใจแลกด้วยไหม ........แต่ถ้าหากตี๋ใหญ่อยากได้ ตะกรุด ของท่านกบ เพิ่ม ก็ให้ตี๋ใหญ่ ไปขอกับท่านกบ เอาเอง.............ครับ/สกายนาย

แนวทางการปฏิบัติตามนโยบายผู้บัญชาการทหารเรือ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๓
****

แนวทางและแผนงานรองรับการส่งมอบเรือฟริเกต (ฟก.) ที่กองทัพเรือปลดประจำการให้กับสาธารณรัฐประชาชนจีน (สปจ.) เพื่อนำกลับไปทำพิพิธภัณฑ์
- เชิญหน่วยเกี่ยวข้องประชุมจัดทำแนวทางและแผนงานรองรับการส่งมอบเรือ ฟก. ฯ (ภายใน ธ.ค.๖๒)
- จัดทำแนวทางและแผนงานรองรับฯ (ภายใน มี.ค.๖๓)
- เสนอ ทร.ขออนุมัติแนวทางและแผนงานรองรับฯ (ภายใน มิ.ย.๖๓)
- ทร.อนุมัติแนวทางฯ (ภายใน ก.ย.๖๓)

ทร. เห็นชอบ/อนุมัติแนวทางและแผนงานการส่งมอบเรือ ฟก.ที่ ทร. ปลดประจำการ ให้กับ สปจ. เพื่อนำกลับไปทำพิพิธภัณฑ์

ไม่น่าจะเกินเดือนมิถุนายน-กันยายน ๒๕๖๓(2020) ก็คงได้รู้ว่าผลข้อสรุปจะออกมาแบบใดครับ

.........................ดูจากหมายกำหนดการประชุมที่จะจัดส่งเรือฟรีเกตปลดประจำการของไทยเรา ไปให้ตี๋ใหญ่ ตั้งแสดงในพิพิทภัณฑ์ ตามที่ท่าน AAG_TH1 ได้โพสข้อความมานี้........แต่เดิม ผมคิดว่า ผมคงลุ้นเเพียงว่า ไทยเราจะแลกเปลี่ยนได้เรือฟรีเกตชั้นเจียงเหว่ยมาโดยมีระบบอาวุธอะไรติดตั้งเพิ่มเติมกับเรือมาจากตี๋ใหญ่บ้าง..................แต่ปัจจุบันผมคงจะต้องมาลุ้นเพิ่มอีกว่า ไทยเราจะส่งเรือฟรีเกตอะไร ไปแลกกับตี๋ใหญ่ด้วย.....ระหว่าง เรือติด ฮู้ ของท่าน airy หรือเรือแขวน ตะกรุด ของท่านกบ หรือเรือชั้น knox (ร.ล.พุทธฯ) กันแน่....แต่ถ้าตี๋ใหญ่ สนใจแลกกับเรือหางยาว บรรทุกทุเรียนหมอนทองเต็มลำของผม ผมก็เต็มใจแลก .................ทั้งนี้ทั้งนั้นคงต้องรอฟังผล การแลกเปลี่ยนครั้งนี้ในช่วง กลางปี 2563 อีกที.........................เชื่อว่าข่าวกลางแลกเปลี่ยนในครั้งนี้ จะดังไปทั่วโลก...........ว่าแล้ว เมื่อตาแก่ทรัมป์รู้เข้า เขาจะตัดจีเอสพีกับไทยเราอีกหรือเปล่าวะ ที่ไทยเราดันไปสอยเรือฟรีเกตเจียงเหว่ยของตี๋ใหญ่มา.........ผมจึงอยากร้องเพลงลูกทุ่งไทยทอนหนึ่ง ให้ตาแก่ทรัมป์ ฟังชัดๆว่า "หนูเปล่านา.....เขามาเอง.....หนูเปล่าชวนมา.....เขามาเอง"  (แต่ในทางกลับกัน ผมเองอดสงสัยไม่ได้ว่า......หรือว่าเขาแอบตาม เรือดำน้ำตี๋ใหญ่ ลำที่ 2 และลำที่ 3 มาเอง).....................ครับ/สกายนาย

มาเลเคยแอบเอาเครื่องยนต์เอฟ5ใหม่เอี่ยมให้? ผลที่ได้รับมีสองอย่างที่ได้คือ? คนที่ได้รับผลสุดคือประชาชนตาดำๆซวยไป ถ้าจะเอาซากน็อกก็มีให้เลือกหลายที่ ตุรกีมีแยะ ไม่ก็ไปเอาที่สเปนเพราะสเปนยังเอาไปตัดซากขายเลย ถ้าแลกกะน็อกไทยคือวัดใจว่าไทยจะเลือกข้างไหนกันแน่ 

จีนกวาดทร.แถบมหาสมุทรอินเดียกะทะเลอันดามันไปหมดละ ปากี,บังกลาเทศ,ครีลังกา,พม่า จะเอาทร.ไทยอีกซักที่คงได้อยู่ รออีกซักนิดเล่นตัวหน่อย อินเดียอาจมาโดดเล่นเกมบ้าง อินเดียคงไม่อยากให้ต่างถิ่นมายุ่งถิ่นตน อินเดียอาจจะเอาเรือเก่าแลกแบบจีนก็ได้ ข้อเสนออาจดีกว่าและแลกแบบไม่ต้องมีข้อกังวลแบบจีน เพราะอินเดียก็อยากครองแถบนี้อยู่ต่อไป

.........................ฟังอุบายตี๋ใหญ่ เล่นวางหมากล้อม ขาว-ดำ ..............ผมว่าไม่หน้ากลัว สักเท่าไหร่ ต่อให้ตี๋ใหญ่ ไปปลุก ผีชีซี.....ผีขงเบ้ง...ผีบังทอง.......หรือ ผีสุมาอี้ เหมือนตามที่เป็นตัวละครในนิยายสามก๊ก มาเป็นผู้เล่นเกมนี้ก็ตาม........แต่ถ้ามาเจอลูกหลานของ ศรีธนญชัย ของไทยเราแล้วจะหนาว เพราะใช้ลิ้นสามนิ้ว ทั้งพูดกล่อม ทั้งพูดจีบ และพูดมัดใจคนได้เก่งมาก จนฝ่ายฝรั่งตาน้ำขาวถึงกับตั้งศัพท์แสลงในทำนองที่ว่า ระวังจะเป็นคำพูดสยาม (เก่งถึงขนาดว่า นกที่มีสองหัว หรือสามหัว ยังต้องอาย)...........ดังเคยมีเหตุการณ์ในอดีต ภายหลังจากประเทศญวนเหนือยกกำลังทหารบุกประเทศญวนใต้จนชนะ รวมประเทศได้สำเร็จ.....ญวนเหนือยังเหิมเกริมหนักยกกลังทหารของตนจำนวนหลายสิบหมื่น ผ่านลาวและเขมรมาประชิดชายแดนไทย หวังยึดแบ่งแผ่นดินบางส่วนไป......และนายพลทหารของญวนเหนือยังคุยโว้ว่า.....ญวนเหนือสามารถจะนำทหารของตนยกมาทานอาหารที่ท้องสนามหลวงได้ภายในไม่กี่วัน.........ไทยจึงส่งนายทหาร มีชื่อว่า  บิก.....(คือชื่อบิกไม่ใหญ่) เพียงจำนวนหนึ่งนาย ไปใช้ลิ้นสามนิ้ว พูดจากล่อมตี๋ใหญ่.....จนตี๋ใหญ่หยุดการสนับสนุน ผกค.ในไทย แล้วยกกำลังทหารจำนวนหลายสิบหมื่นของตี๋ใหญ่ข้ามพรมแดน มาทำสงครามสั่งสอน ดับฝันของญวนเหนือ โดยทหารตี๋ใหญ่สามารถตีทหารของญวนเหนือจนแตกพ่าย ถอยล่นลงมาจวนจะถึงเมืองหลวงฮานอย (ซึ่งเป็นสงครามครั้งใหญ่ที่ตี๋ใหญ่ ยิงปืนใหญ่ของตนถล่มญวนเหนือ เป็นจำนวนลูกปืนมากมายมหาศาล ทำเอาทั้งทหารและบ้านเมืองญวนเหนือในตอนเหนือของประเทศพังพินาศล้มตายไปเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้เพื่อประสงค์ทำลายศักยภาพทางการทหารของญวนเหนือลง).....ทำให้ญวนเหนือจำเป็นต้องใช้กำลังทหารของตน โดยได้ถอนทหารของญวนเหนือที่ประชิดชายแดนดังกล่าวข้างต้น กลับประเทศไปใช้ต่อสู้ยันกับทหารของตี๋ใหญ่.........ไทยเราจึงสามารถสลายกำลังทหารญวนที่ประชิดชายแดนไทย....โดยใช้กำลังทหารทำภารกิจนี้ เพียงหนึ่งนาย...........ส่วนทั้งญวนเหนือและตี๋ใหญ่ มีทหารของตนล้มตายไปในสงครามครั้งนี้ฝ่ายละจำนวนหลายหมื่นนาย.....พฤติการณ์คล้ายในนิยายเรื่องสามก๊ก ในตอนที่ฝ่ายโจโฉได้ยกทัพทหารจำนวนแปดสิบถึงร้อยหมื่นนายมาตีฝ่ายเล่าปี่ด้วย และโจโฉยังได้ชักชวนทางฝ่ายซุนกวนร่วมกันนำทหารยกกำลังมาตีฝ่ายเล่าปี่เช่นกัน........... แต่ฝ่ายเล่าปี่จึงส่ง กุนซือของเล่าปี่ ชื่อว่า ขงเบ้ง เพียงหนึ่งคน ไปใช้ลิ้นสามนิ้วไปพูดจากล่อมซุนกวนและแม่ทัพใหญ่ของซุนกวน ชื่อว่า จิวยี่ จนทำให้ฝ่ายซุนกวนตัดสินใจทำการส่งแม่ทัพจิวยี่นำกำลังทหารของตนยกไปตีทำสงครามกับทัพทหารฝ่ายโจโฉ  จนในที่สุดทหารฝ่ายโจโฉแตกพ่าย จนเหลือทหารกลับไปได้เพียงหลักร้อยนาย .........จากวีรกรรมความสามารถของนายทหารเพียงหนึ่งนายของไทยเราด้งกล่าว ........ที่สามารถพูดจาให้ตี๋ใหญ่ทำการยกทัพไปตีญวนเหนือจนแตกพ่ายแทนได้เช่นนี้ นายทหารไทยท่านผู้นี้ จึงได้รับชื่นชม จนได้รับสมญานามว่า "ขงเบ้งแห่งกองทัพไทย".......................จากเหตุการณ์ดังกล่าวในอดีต...คงจะเห็นความสามารถของไทยเราแล้ว ว่าใช่ย่อย (ไม่เชื่อลองเอา มะกอกสามตะกร้า มาปาดู ......เชื่อว่า ปาอย่างไงก็ไม่ถูก)...ทหารไทยเราจึงไม่ใช่รบเก่งแต่เพียงอย่างเดียว จีบคนก็เก่งด้วย บ้านไหนมีลูกสาวสวยๆก็พึงจะระวังทหารไทยไว้บ้าง เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน...................................ผมจึงเชื่อว่า หมากเกมนี้ คงไม่ยากเกินกำลังที่ไทยเราจะร่วมเล่น.............ครับ/สกายนาย

หนี้เขมรน่าจะน้อยกว่าลาว ลาวโดนอธิปไตยรอบทางรถไฟจีน10กิโลเป็นเวลา99ปี ทางทหารเวียดนามครอบงำ ทางเศรษฐกิจจีนครอบงำ ซวยสองเด้ง 

เวียดนามก็อิสราเอลมาแซมๆบ้างๆ ปรับปรุงรถถังที54/55/62ของเวียดนามหมด แถมสายการผลิตกาลิลให้อีก เวียดนามเลยยกกาลิลให้ลาวอีก ซักวันเอฟ5กะซี130เวียดนามคงบินได้ละมั้ง อินเดียก็เริ่มมาเวียดนามเพื่อคานอำนาจกะจีนบ้างละ

แถวนี้แหล่งพ่อค้าอาวุธหลากหลายที่จัง

......เวียตนามก็ได้รับเรือเร็ว (Cutter Pastal) ชั้น  Hamilton 2 ลำ เหมือนกัน   มันอาจจะมีค่าพอที่จะไปแลกเรือรบจากโซเวียตใหม่ๆ ก็ได้  (แค่ 1 ลำก็ล้ำค่าแล้ว)  เพราะรัสเซียนี่ก็เป็นแช้มลอกการบ้านระดับผู้นำโลกในอดีต (แต่มันเก่าเกินไปหรือเปล่าน่า?) เหลืออีกลำเอาไว้หลอกมะกัน  ตอนช้อมรบก็พอ ......5555

.....ส่วนเขมร ถ้ามีแนวโน้มว่า  มีแหล่งน้ำมันหรือแก๊สมากพอ  ก็อาจมีสิทธิได้ เรือเร็ว Hamilton class  เหมือนกัน....เอาไว้ซ้อมรบกับเรือมะกัน..แก้เหงาฮุนเซ็น  ดีกว่ามานั่งเลี้ยงหลาน...55555

T55 ของพี่เหงียน ล่าสุดไม่ได้ปรับปรุงโดยอิสราเอลแล้วครับ ดีลนั้นยกเลิก  ส่วนการแลกเรือถ้าตามเอกสารของ ทร. นี่ชุดเจ้าพระยาสองลำไปแน่ๆ แต่ข่าวทางจีนเงียบ ถึงเงียบที่สุด ในบอร์ดจีนไม่มีการพูดถึงเลยด้วยซ้ำ

....................................ก่อนอื่นผมขอขอบพระคุณเพื่อนๆทุกท่าน ที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นตอบกระทู้นี้......จากข้อมูลที่ท่านAAG_th1 ได้เข้ามาตอบกระทู้นี้โดยให้ข้อมูลพิ่มเติ่มในกระทู้นี้ และเมื่อนำมารวมกับข้อมูลจากเพื่อนๆท่านอื่นๆ มารวมกันพอจะฟังเป็นข้อเท็จจริงบางส่วนได้ว่า ................ในขณะช่วงเวลาระยะเวลานี้ ทางไทยเราเริ่มมีการประชุมจะดำเนินการแลกเปลี่ยนเรือฟรีเกตไทยเรา กับเรือฟรีเกตชั้นเจียงเหว่ย II กับทางจีน จำนวน 2ลำ(หรืออาจจะได้เป็นรุ่นเรือฟรีเกตเจียงเหวย รุ่นธรรมดา ไม่ใช่รุ่น II ก็ได้) โดยต่อเรือขึ้นใหม่ทั้งลำ  ในลักษณะเรือที่มีลานจอดฮ.ท้ายเรือ มีสภาพเหมือนกับเรือฟรีเกตกระบุรี .......... ซึ่งความชัดเจนถูกต้องของข่าวนี้ คงจะปรากฏออกมาให้ทราบได้ประมาณ กลางปีหน้า คือกลางปี พศ.2563 เป็นต้นไป......................ผมจึงขอออกความคิดเห็นเพิ่มเติมอีกว่า.......ไหนๆไทยเราก็ชลอการต่อเรือฟรีเกต 472 ใหม่จากเกาหลีใต้ เพื่อนำเงินก้อนนี้นำไปต่อเรือดำน้ำลำที่  2 ,ลำที่ 3 และเรือยกพลขึ้นบก Type 71E เพิ่มจากจีนแล้ว...............แต่ทั้งนี้ตัวผมมองว่า ปัจจุบันไทยเรายังต้องมี เรือฟรีเกตที่จะนำไปใช้เป็นคุ้มกันให้เรือลำใหญ่ๆของไทยเรา ในการประกอบภารกิจทางทะเล เช่น เรือจักรกรีฯ, เรือสิมีรัน, เรืออ่างทอง และเรือพี่เลี้ยงเรือดำน้ำ(เรือยกพลขึ้นบก Type 71E ที่กำลังต่อขึ้นใหม่จากจีน).......เพื่อให้ไทยเราพอจะมีเรือฟรีเกตสมรรถนะพอประมาณ เพียงพอที่จะทำภารกิจในกองเรือคุ้มกันให้แก่เรือลำใหญ่ๆดังกล่าวได้......ผมจึงอยากเสนอทร.ไทย สละเงินงบประมาณเพิ่มอีกสักหน่อย มาทำการปรับปรุงเพิ่มความสามารถเรือฟรีเกตุชั้นเจียงเหว่ย ที่จะได้รับมาจากจีนนี้ ให้เป็นไปในลักษณะที่มีความสามารถรบได้ 3 มิติ.....คือ นอกจากติดตั้งระะบอาวุธนำวิถี พื้นสู่พื้น แบบ C 802A แล้ว ยังควรทำการปรังปรุงติดตั้งอาวุนำวิถีป้องกันภัยทางอากาศ พื้นสู่อากาศ, ปรับปรุงติดตั้งระบบโซนาร์ ตรวจการณ์ใต้น้ำประจำเรือ และ มีการติดตั้งระบบอาวุธต่อต้านทำลายเรือดำน้ำเช่น ระบบจรวดแอสรอทของจีน หรือตอร์ปิโดนำวิถีล่าทำลายเรือดำน้ำของจีน ไปพร้อมๆกัน ถึงระบบอาวุธของจีนมันจะไม่ดีเทียบเท่ากับของชาติตะวันตก แต่ด้วยเหตุที่มันมีราคาถูกและเข้ากันได้ง่ายกับเรือรบจีน ที่ไทยเราจะได้รับมอบมานี้ นอกกันนี้ยังเป็นการง่ายกว่าการที่จะจัดหามาจากชาติตะวันตก......สรุปคือว่า ไทยเราไม่ควรรับเรือมาฟรีๆในสภาพเดิมๆ........แต่ควรสละเงินงบประมาณอีกนิดทำการรีโนเวทเรือ เพิ่มเติมเสริมสมรรถนะเรือใหสูงขึ้นด้วย........................................ครับ/สกายนาย

จีนไม่มีเรือฟริเกตชั้น Type 053H2G Jiangwei-I ในสภาพที่พร้อมส่งออกเพื่อใช้เป็นเรือรบแล้วครับ โดยเรือฟริเกตชั้น Jiangwei-I ที่ถูกสร้างขึ้นมา ๔ลำประกอบด้วย

FFG-539 Anqing, FFG-540 Huainan และ FFG-541 Huaibei ถูกดัดแปลงเรือและโอนย้ายไปให้หน่วยยามฝั่งจีนแล้วทั้ง ๓ลำตั้งแต่ปี 2015

Sri Lanka Navy commissions former PLAN frigate
https://www.navalnews.com/naval-news/2019/07/sri-lanka-navy-commissions-former-plan-frigate/

ขณะที่ FFG-542 Tongling ถูกส่งมอบให้กองทัพเรือศรีลังกาแล้วในชื่อ P625 SLNS Parakramabahu เมื่อเดือนกันยายน 2018 โดยใช้ในรูปแบบเรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง

สรุปคือจีนไม่มีเรือฟริเกตชั้น Jiangwei-I ที่ในรูปแบบเรือรบที่จะส่งมอบให้ประเทศอื่นแล้วครับ

จีนสร้างเรือฟริเกตชั้น Type 053H3 Jiangwei-II ขึ้นมา ๑๐ลำ เข้าประจำการในช่วงปี 1998-2005 ประกอบด้วย

FFG-521 Jiaxing และ FFG-522 Lianyungang ทั้งสองลำถูกส่งมอบให้กองทัพเรือบังคลาเทศในชื่อ F16 BNS Umer Farroq และ F19 BNS Abu Ubaidah

FFG-523 Putian คาดว่าจะถูกขายให้กองทัพเรือบังคลาเทศในชื่อ BNS Khalid Bin Walid โดยบังคลาเทศลงนามจัดหาเรือฟริเกตชั้น Jiangwei-II จากจีนเพิ่มเติม ๒ลำจากข้างต้น

FFG-524 Sanming

FFG-527 Luoyang

FFG-528 Mianyang

FFG-564 Yichang

FFG-565 Huludao

FFG-566 Huaihua

FFG-567 Xiangyang

สรุปคือจีนยังมีเรือฟริเกตเรือฟริเกตชั้น Jiangwei-II อยู่อีก ๖ลำ ที่ยังไม่ได้ขายให้ประเทศอื่นครับ

China to overhaul military export regime
https://www.janes.com/article/93377/china-to-overhaul-military-export-regime
https://aagth1.blogspot.com/2019/12/blog-post_28.html

ล่าสุดจีนกำลังจะเสนอ (ร่าง)กฎหมายควบคุมการส่งออกแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน เข้าสู่ คณะกรรมาธิการประจำสภาประชาชนแห่งชาติจีน ซึ่งเป็นฝ่ายนิติบัญญัติของรัฐบาลจีน

ร่างกฎหมายดังกล่าวจะมาแทนที่กฎระเบียบที่ล้าสมัยหลายฉบับที่ควบคุมการส่งออกอาวุธยุทโธปกรณ์แก่ต่างประเทศของจีนในปัจจุบัน

ซึ่งกฎหมายที่คาดว่าจะถูกนำมาบังคับใช้ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ไม่แน่ใจว่าจะส่งผลกระทบต่อลูกค้าอาวุธของจีนที่รวมถึงไทยด้วยหรือไม่ครับ

.............ผมขอเข้ามาขอบพระคุณท่านAAG_th1 อีกครั้งที่นำเอาข้อมูลเรือฟรีเกตชั้นเจียงเหว่ย II ที่ทางจีนยังคงเหลือมีอยู่ในประจำการ มาโพสให้ทราบกัน.............แต่ในส่วนที่ทางสภานิติบัญญัติของจีนได้ผ่านกฎหมายในลักษณะ ห้ามการส่งออกอาวุธยุทโธปกรณ์ของจีนแก่ต่างชาติมาบังคับใช้นั้น........ผมมองว่า หามีผลกระทบกับไทยเราสักเท่าไหร่ เนื่องจากจีนมีนโยบายแผ่ขยายหามิตรประเทศของตนเพิ่มเติมให้แก่จีน ผ่านทางนโยบายส่งออกอาวุธยุทโธปกรณ์ที่จีนผลิตให้แก่ต่างชาตินั้น(หาพักพวกชาติบริวารผ่านการขายอาวุธให้  เพื่อเป็นผู้นำครอบงำให้ประเทศอื่นๆที่ซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ของจีนไปใช้ ให้ต้องพีงพาจีน ให้เกรงใจและฟังจีน เหมือนมหาอำนาจตะวันตกเคยกระทำในอดีต)..............แต่สภาพกายภาพในการปกครองของจีน เป็นการปกครองโดยรัฐที่เป็นเผด็จการคอมมูลนิสต์ มีพรรคคอมมูลนิสต์เป็นรัฐบาลบริหารการปกครองของประเทศ ส่วนสภานิติบัญญัติของจีน ล้วนมีสมาชิกสภามาจากพรรคเพียงพรรคเดียว ก็คือพรรคคอมมูลนิสต์ ซึ่งก็อยู่ภายใต้การครอบงำของรัฐบาลพรรคมูลนิสต์จีนอยู่ ...............ดังนั้น การออกกฎหมายนี้ คงเป็นการออกตามนโยบายของรัฐบาลคอมมูลนิสต์จีน เพื่อที่จีนประสงค์จะใช้กฎหมายนี้ ในทางที่เป็นข้ออ้างจะปิดกันไม่ถ่ายทอดเทคโนโลยีและส่งออกระบบอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัยและเป็นความลับทางทหารต่างๆที่สำคัญให้แก่ชาติพันธมิตรของจีน ยกตัวอย่างเช่น  เทคโนโลยีระบบอาวุธนิวเคลียส์ หรือ เครื่องบินรบล่องหน บ.เฉิงตู J-20 ของจีนเป็นต้น (หากเช่นพันธมิตรจีนเช่น เกาหลีเหนือ, อิหร่าน หรือ ปากีสถาน จะร้องขอมา จีนก็จะอ้างเอากฎหมายนี้มาใช้ปฏิเสธ)............ส่วนอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ไทยเราจัดหามาจากจีน ล้วนเป็นรุ่นส่งออกของจีน(รุ่น E ) อันเป็นรุ่นหย่อนสมรรถนะ ไม่ใช่รุ่นที่จีนใช้ประจำการ หรือไม่ก็เป็นรุ่นที่จีนมีประจำการมานานมากแล้ว ไม่ใช่รุ่นที่มีคววามทันสมัยของจีน และจีนกำลังจะปลดประจำการ ยกตัวอย่างเรือยกพลขึ้นบกจีนใช้ประจำการรุ่น Type 71 แต่จีนขายให้ไทยในรุ่น Type 71E ซึ่งมีสมรรถนะแตกต่างกับที่จีนใช้ประจำการ และอีกตัวอย่างเช่น ไทยเราจัดหารถถังรุ่น VT 4 ผลิตจากจีนมาประจำการ แต่ปัจจุบันทางทหารจีน ไม่ได้ผลิต รถถังVT 4 ออกมาใช้ประจำการในกองทัพของจีนเองแม้แต่คันเดียว เพียงผลิตส่งออกขายให้ต่างชาติเท่านั้น............ถ้าหากจีนจะไม่ส่งออกขายอาวุธยุทโธปกรณ์ที่จีนผลิตให้แก่ต่างชาติอื่นๆเลย จีนก็จะขาดไม่มีเครืองมือในการใช้ในการแผ่ขยายหามิตรประเทศของจีนเพิ่มได้......................ครับ/สกายนาย

..........................ผมขออนุญาตเพื่อนๆแสดงความคิดเห็นนอกเรื่อง นอกราวของกระทู้นี้สักนิดหนึ่ง...............ถึงในกรณีที่ ทร.ไทยชลอต่อเรือฟรีเกตสมรรถนะสูง ลำที่ 2 (หมายเลข 472) จากทางเกาหลีใต้เพิ่ม แล้วนำงบประมาณไปทุ่มต่อเรือดำน้ำ ลำที่ 2 และ ลำที่ 3 จากจีน มาพร้อมๆกันนั้น........ในเรื่องดังกล่าวในทางส่วนตัวผมมองว่า ทร.ไทย คงให้ความสำคัญกับกรณีที่ประเทศต่างๆในอาเซียนต่างเร่งรัดการจัดหาให้ตนมีเรือดำน้ำมาประจำการ(เช่นในกรณี พม่าและฟิลิปปิน) หรือไม่ก็ทำการเพิ่มจำนวนเรือดำน้ำประจำการของตนให้มากขึ้น(เช่นในกรณี อินโดนีเซีย, สิงคโปร และมาเลยเซีย)  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พม่าที่มีพรมแดนทางทะเลติดไทยทางทิศตะวันตก ซึ่งปัจจุบันพม่าก็ได้รับการส่งมอบเรือดำน้ำชั้นกิโลมือสองจากอินเดีย มาประจำการแล้วก่อนหน้าไทย และพม่ากำลังจัดหาเรือดำน้ำใหม่ชั้นนี้จากรัสเซียมาเพิ่มเติม........เพื่อป้องกันและป้องปรามภัยจากเรือดำน้ำดังกล่าว ไทยเราคงต้องเร่งรัดให้มีเรือดำน้ำมาประจำการให้ครบ 3 ลำ เหมือนตามที่คณะรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดก่อนเคยอนุมัติโครงการไว้โดยเร็วด้วย........นอกจากนี้ ในส่วนตัวผมยังมองว่า ไทยเราคงจะได้รับมอบเรือดำน้ำลำแรกจากจีน ประมาณปี พศ.2566  ส่วนลำที่ 2 และลำที่ 3 คงได้รับการส่งมอบหลังจากเวลานั้นนับเวลาเป็นปีขึ้นไป.......เพื่อความไม่ล้าช้า ทันทีที่รับมอบเรือดำน้ำลำแรก ไทยเราคงจะต้องเร่งรัดการฝึกให้ ผบ.เรือ และลูกเรือดำน้ำ ทั้ง 3 ลำดังกล่าว ให้ฝึกหาความชำนาญในยุทธวิธีการดำน้ำ จากการใช้เรือดำน้ำลำแรก อย่างรวดเร็วและเต็มที่ เพื่อให้มี ผบ.เรือ และลูกเรือดำน้ำ พร้อมสำหรับเรือนี้ ทั้งในผบ.เรือและลูกเรือดำน้ำในชุดลำแรก ทั้งในชุดเรือดำน้ำลำที่ 2 และชุดเรือดำน้ำลำที่ 3 โดยเร็ว ...............โดยมีสถานที่ฝึกเป็นในทะเลลึก ไม่ใช้ทะเลชายฝั่ง โดยมีเรือพี่เลี้ยงเรือดำน้ำไปลอยลำอยู่กลางทะเลลึก เพื่อคอยส่งกำลังบำรุงเสบียง, เชื้อเพลิง และผลัดเปลี่ยนกำลัง ผบ.เรือ และลูกเรือดำน้ำในชุดต่อๆไปในทะเลลึกนั้น ส่วนการเดินทางผลัดเปลี่ยนกำลังของ ผบ.เรือและลูกเรือดำน้ำในแต่ละชุด ระหว่างเรือพี่เลี้ยงกลับมายังฐานทัพชายฝั่งนั้น นั้นคงใช้ ฮ.เป็นพาหนะในการเดินทางลำเรียงขนย้ายผลัดเปลี่ยนกำลังกัน...... โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีการนำเรือดำน้ำลำแรก แล่นย้อนกลับเข้ามาจอดที่ฐานทัพชายฝั่ง เพื่อรับเสบียง, เชื้อเพลิง และผลัดเปลี่ยนกำลัง ผบ.เรือและลูกเรือดำน้ำชุดใหม่กันอีก...........ทั้งนี้การที่มีเรือพี่เลี้ยงเรือดำน้ำออกไปลอยลำในทะเลลึกโดยลำพัง มันไม่เป็นสิ่งพึงกระทำ เพราะอาจถูกโจมตีทำลายได้ง่าย ........จำเป็นต้องมีเรือฟรีเกตมาประกอบกำลังเป็นกองเรือให้การคุ้มกันภัยให้แก่เรือพี่เลี้ยงนี้ด้วย.......ซึ่งปัจจุบันไทยเราได้ปลดประจำการเรือฟรีเกตชั้นพุทธฯ(KNOX) ไปแล้ว 2 ลำ  แต่ได้ต่อเรือฟรีเกตเข้าประจำการใหม่ได้เพียงอีก 1 ลำ เป็นเรือฟรีเกตภูมิพลฯ จึงยังขาดอัตราเรือฟรีเกตที่จำเป็นต้องใช้ประจำการอยู่อีก...........(ที่กล่าวมานี้ เป็นความคิดเห็นส่วนตัวผมล้วนๆ ไม่เกี่ยวกับข้อมูลของส่วนราชการใดเลย)........

..................................จากสาเหตุดังกล่าวข้างต้น ถ้าหากไทยเราจะต้องชลอการต่อเรือฟรีเกต 472 ขึ้นใหม่ จำนวน 1 ลำ.......แต่สามารถนำเงินงบประมาณนี้ ไปจัดหาเรือดำน้ำ ลำที่ 2 และลำที่ 3, ไปจัดหาเรือพี่เลี้ยงเรือดำน้ำ(เรือยกพลขึ้นบกชั้น Type 71E) และใช้เพื่อรับมอบ เรือฟรีเกตชั้นเจียงเหว่ย อีก 2 ลำ  รวมเป็นได้เรือเพิ่มเติมมากขึ้น อีกจำนวน 5ลำ ...................ผมก็เห็นว่าการชลอการต่อเรือฟรีเกต 472 ขึ้นใหม่ดังกล่าวไปก่อน  ก็มีเหตุผลพอสมควรที่จะกระทำ..................ครับ/สกายนาย

เจียงเหว่ย  เป็นโปรโมชั่น  กะตุ้นการขาย  ส่งท้ายปีเก่า  ต้อนรับปีใหม่  (คงมีเงื่อนไข พอควร ถึงจะเข้าเกณฑ์)

ตามทึ่ท่านสกายนายตั้งข้อสังเกตุในย่อหน้าสุดท้าย.  ฟริเกตสมรรถนะสูงลำเดียวคงแลกเรืออื่นใด้ไม่ถึง 5 ลำกระมังครับ  ผมเดาทางว่า ทร. เริ่มปรับหลักนิยมกำลังรบทางเรือ ด้านการข่าว/ลาดตระเวณบูรณาการกับ ทอ และเรือที่อัพเกรด ดาต้าลิงค์  ดังที่เคยแสดงศักยภาพแสกนทั่วอ่าวไทยในเวลาไม่กี่ชั่วโมง  กำลังในพท ทางทะเล เน้นไปที่เรือขนาดกลาง เช่นเรือตรวจการไกลฝั่งที่ติดอาวุธเต็ม อย่าง รล. ประจวบคีรีขันธ์. ต่อเอง สาธารณชนต่อต้านน้อย.  เรืออเนกประสงค์ อย่างเรืออู่ สำหรับพี่เลี้ยง ด. /บรรเทาภัยพิบัติ.  ส่วนเรือดำนำ้รับเต็มเรื่องป้องปรามและการข่าว.  

กล่าวมาถึงตรงนี้ มีท่านใดทราบมั้ยครับว่าเวลาที่ชาติใดชาติหนึ่งซื้อ ด.   จะใด้ฐานข้อมูลของ คลื่นเสียงจำเพาะ acoustic signature ของเรือต่างๆมาด้วยหรือไม่ครับ.   แล้วที่ท่าน AAG_TH ขมวดท้ายในข้อ 7 นี่ทำเอาผมสะดุ้งเชียวครับว่ามันจะเป็นใด้ถึงขนาดนั้นหรือครับ

ส่วนเรื่องการแลกเรือ. ผมตีความในแง่ดีว่า “ส่งกลับไปเป็นพิพิธภัณฑ์”  คือ ส่งเรือที่ผลิตในจีน “กลับ”      มันจะผิดมารยาทเอามากๆถ้าเอาเรือที่ สรอ. ให้มา ส่งไปให้ชาติอื่น. 

หลักนิยมสากลในการปฏิบัติการของเรือดำน้ำที่เกี่ยวข้องกับการติดต่อสื่อสารคือ

เรือดำน้ำจะติดต่อสื่อสารโดยตรงกับศูนย์ยุทธการเรือดำน้ำผ่านช่องทางสื่อสารเฉพาะเท่านั้น จะไม่มีการติดต่อกับเรือผิวน้ำหรือหน่วยอื่นๆถ้าไม่มีการกำหนดเป็นการเฉพาะในภารกิจเรือ

โดยเรือดำน้ำจะมีตารางเวลาที่กำหนดเวลาให้เรือลอยลำขึ้นมาใกล้ผิวน้ำเพื่อชักสายอากาศวิทยุรับ-ส่งข้อมูลสู่กองบัญชาการภาคพื้นดิน

ดังนั้นก็ต้องย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า การกล่าวว่าการจัดหาเรือฟริเกตจีนเพื่อมาใช้ปฏิบัติการร่วมกับเรือดำน้ำจีนนั้นเป็นความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง

เพราะหลักปฏิบัติการตามปกติเรือดำน้ำจะไม่มีการติดสื่อสารกับกองเรือผิวน้ำโดยตรงครับ

ภารกิจของเรือดำน้ำโจมตีดีเซล-ไฟฟ้า SSK มี ๔ภารกิจหลัก

๑.การรบผิวน้ำ(AsuW: Anti-Surface Warfare)

๒.การวางทุ่นระเบิด(Sea Mine Laying)

๓.ลาดตระเวนตรวจการณ์ข่าวกรอง(Intelligence Surveillance)

๔.สนับสนุนหน่วยปฏิบัติการพิเศษ(Special Operation)

โดยปกติเรือดำน้ำดีเซล-ไฟฟ้าจะไม่มีภารกิจโดยตรงในการต่อสู้กับเรือดำน้ำด้วยกัน เพราะว่ามีข้อจำกัดด้านพลังงานถ้าเทียบกับเรือดำน้ำโจมตีนิวเคลียร์ SSN แม้ว่าเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์จะมีเสียงดังกว่าจนมีโอกาสถูกตรวจจับได้ง่ายกว่าเรือดำน้ำดีเซล-ไฟฟ้าก็ตาม

ในส่วนของการรบเรือผิวน้ำอาวุธประจำเรือทั้ง Torpedo หนัก รวมถึงอาวุธปล่อยนำวิถีต่อต้านเรือผิวน้ำ เรือดำน้ำโจมตียุคใหม่ขีดความสามารถด้านระบบตรวจจับและระบบอำนวยรบที่สามารถค้นหา, วิเคราะห์,  กำหนด, และโจมตีเป้าหมายเรือผิวน้ำด้วยตนเองอยู่แล้ว

ดังนั้นเรือดำน้ำไม่มีความเป็นเลยที่จะต้องประกอบกำลังรวมกับเรือผิวน้ำเพื่อให้เรือผิวน้ำส่งข้อมูลเป้าหมายไปให้ คำกล่าวจากหลายๆแหล่ง เช่น การเอาเรือดำน้ำ(ดีเซล-ไฟฟ้า)มาต่อต้านเรือดำน้ำ หรือเอาเรือฟริเกตมาสนับสนุนเรือดำน้ำ เป็นเรื่องที่ดูจะคาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริงครับ

Adidas Ultra Fabric
Women's Mulberry
Christian Louboutin Boots
Bape Jackets
Ecco Outdoor
Jimmy Choo Sandals
Nike Soccer Jerseys Online
Oakley Sunglasses Outlet
Tory Burch Handbags
Swarovski Rings
Balenciaga Triple S
Ed Hardy Reliable Quality
Pandora Charms
Cheap Oakley Wholesaleus
Fashion Air Max 97 Store
Slim Fit Adidas Shoes
Air Jordan Black And Yellow
Asics Gel Kayano
Pandora Official Site
Nike Blazer Ship Japan
Adidas Yeezy Boost Sale
Asics Sneakers
adidas shoes
Bape T Shirt
Cheap Pandora Earrings
Sale Birkenstock USA
Swarovski Jewelry
Fjallraven Kanken Backpack
Ferragamo Outlet
Skechers Shoes
Christian Louboutin Peep Toe Pumps
Adidas Yeezy Boost Sale
Fitflop Sale
Salomon GTX
Nike Blazer USA Factory
Ed Hardy Jeans outlet shop online
Jimmy Choo Outlet
Ferragamo Outlet
adidas neo shoes
Ed Hardy Shop Online
Golden Goose High Tops
Birkenstock Riva
Soccer Jersey Outlet
New Ed Hardy Products
Fitflop Sale
Cheap True Religion
USA Adidas Ultra Boost UK
Salomon Shop
Puma Pace Cat
Longchamp Backpack
Nike Blazer Top Designer Collections
Newest Adidas Ultra Boost
Snapbacks Outlet
Salomon Speedcross Plus
Salomon Boots
Adidas Boost Outlet Sale
Huge Ed Hardy Discount
Adidas Outlet
Jimmy Choo Sandals
Snapback Caps
Tods Sneakers
Womens True Religion
Adidas Shoes USA Factory Outlet
Large Discount Golden Goose Francy
Ralph Lauren Outlet Online
Golden Goose $150
Ralph Lauren Cheap Prices
Longchamp Bags
Tods Sneakers
salomon boots
Oakley Sunglasses Factory Outlet
Ralph Lauren USA UK
Super Quality Ralph Lauren Womens Shirts
Polo Ralph Lauren Black White
MontBlanc Outlet
Golden Goose Sneakers
Fjallraven For Sale
Ralph Lauren Polo outfit for women
Fjallraven Kanken Dual Colour
Ecco Kids
Nike Blazer Buy White
Balenciagas USA UK
Cheap Nike Jordan
Pandora Earrings Sale
High Quality Ed Hardy Online Store
Christian Louboutin Shoes
Balenciaga Outlet
Shop Ralph Lauren Polos Best Sellers
ECCO Sandals
NFL Jerseys Cheap
Nike Air Jordan New York
Pandora Gifts Amazing Selection
Toms Lace Ups
Nike Air Max US Top For Women
PRL Jackets Outlet Locations
Pandora Charms 14K
ralph lauren outlet online
Adidas Indoor Soccer Shoes
Fitflop Sandals
Birkenstock Rio
polo outlet online
Ed Hardy Love Kill Slowly
Discount Oakley Sunglasses
NFL Jerseys Wholesale
Jimmy Choo Outlet
New York Nike Blazer On Sale
Air Jordan Low For Cheap
Polo Ralph Lauren Competitive Price
Adidas Mercurial Superfly
Skechers Outlet
Pandora Earrings
Soccer Jerseys Online Shop
Pandora Gift Official Site
Juicy Couture Jewelry
A Bathing Ape Clothing
Salomon Speedcross GTX for men
Special Soccer Offers
Nike Air Max 90 For Women
Polo Ralph Lauren UK Outlet
Ed Hardy For Women
Large Discount Nike Air Jordan 1 High
Oakley Eyeglasses USA
polo ralph lauren outlet
Longchamp Bags
Longchamp Backpack
Italy Soccer Jerseys
Pandora Charms Sale Clearance
Balenciaga Speed Trainer
Polo Ralph Lauren Jackets
Tory Burch Handbags
ralph lauren polo
White Converse Shoes
Salomon Outlet Shoes
Fitflop Sandals Outlet
Christian Audigier Online
Bape Clothing
Fjallraven Outlet
Ralph Lauren Jackets
Mulberry Handbags
Snapback Caps Outlet
Pandora Necklaces Free Shipping
Official Nike Soccer Jerseys Online
USA Adidas NMD Boost For Women
Toms Wedges
Exclusive Range Air Jordan
Birkenstock Shoes
Ferragamo Belts
Asics Mexico 66
yeezy boost 350 v2
Fitflop Clearance
Jordan Shoes Store
Polo Clothing Outlet
Salvatore Ferragamo Outlet
US Mens Nike Kobe Shoes
Nike Phantom Soccer
Ralph Lauren Polo
Fila Sneakers
Outlet Adidas NMD Online
Asics Outlet
Pandora Necklaces
Converse Unisex All Star
Nike Shoes For Women
Nike Air Jordan USA
Adidas Crazy Quick
Air Jordan 1 High New Style
Montblanc Cufflinks
49ers NFL Jerseys
Nike Football Jerseys Outlet
Longchamp Backpack
Nike Air Max US In Store
Snapbacks Hats Outlet
Golden Goose Shoes
Nike Air Shoes Outlet
Red And Black Nike Air Jordan
Puma Shoes
Juicy Couture Crossbody Bags
Nike Soccer Outlet
Longchamp Outlet
Nike Air Max Shoes Big Size