https://weibointl.api.weibo.cn/share/91623823.html?weibo_id=4415090999103713
Website Weibo จีนเผยแพร่ภาพการลงนามสัญญาจัดหาเรืออู่ยกพลขึ้นบก Type 071E ระหว่างกองทัพเรือไทยและจีนเมื่อวันที่ ๙ กันยายน ๒๕๖๒
ค่อนข้างเป็นที่ชัดเจนว่า Type 071E LPD เป็นแบบเรือรุ่นส่งออกของเรือชั้น Type 071 ที่จีนสร้างเข้าประจำการแล้ว ๕ลำ กำลังสร้างอยู่ ๒ลำ
ก่อนหน้านี้มีรายงานออกมาพร้อมกับการผลักดันการจัดหาเรือดำน้ำ S26T ลำที่สองว่า กองทัพเรือไทยจะจัดหาเรือ LPD จากจีน ๑ลำราคาราว ๔,๐๐๐ล้านบาท
ซึ่งน่าจะใช้เป็นเรือพี่เลี้ยงเรือดำน้ำด้วย (https://aagth1.blogspot.com/2019/08/s26t-lpd.html) กำลังรอรายละเอียดเพิ่มเติมต่อไปครับ
Thailand signs for variant of Type 071 amphibious assault ship
https://www.janes.com/article/91060/thailand-signs-for-variant-of-type-071-amphibious-assault-ship
https://aagth1.blogspot.com/2019/09/type-071e-lpd.html
ข้อมูลเพิ่มเติมตอนนี้คือเรือ Type 071E จีนจะส่งมอบให้กองทัพเรือไทยได้ในราวต้นปี 2020s โดยมีวงเงินโครงการรวม ๖,๕๐๐ล้านบาทครับ
https://www.china-arms.com/2019/08/j-10c-to-join-sino-thai-joint-drill/ อาจจะไม่เกี่ยวกับกระทู้นี้ แต่เห็นข้อมูลการซ้อมรบร่วมระหว่างไทยกับจีนที่อุดรเมื่อไม่นานมานี้ ครับ
ผบ.ทร.ให้สัมภาษณ์สื่อครับว่าวงเงินโครงการจัดหาเรืออู่ยกพลขึ้นบก Type 071E จากจีนอยู่ที่ ๖,๑๐๐ล้านบาท
ถ้าเป็นราคานี้จริงเรือ LPD ขนาดใหญ่ถึง 20,000tonnes ในราคา $200 million นี่ถิอว่าถูกทีเดียวครับ และจีนยังส่งออกให้ไทยเป็นประเทศแรกด้วย
ตอนนี้มีข่าวออกมาว่าเรือ Type 071E LPD จีนจะติดอาวุธปล่อยนำวิถีต่อต้านเรือความเร็วเหนือเสียง CX-1
รวมถึงวงเงินตัวเรือที่ ๖,๑๐๐ล้านบาท เป็นเพียงตัวเรือเปล่าไม่รวมเครื่องยนต์ อุปกรณ์ และอาวุธ
ส่วนตัวคิดว่ามันแย่มากนะที่สื่อทหารจริงๆ อย่างนิตยสารสมรภูมิ Tango Topgun หายไปจากสื่อกระแสหลัก
จนเราต้องตามข่าวการจัดหาอาวุธจาก 'นักข่าวสายทหาร' ที่เรียก เรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช ที่เป็นเรือฟริเกตว่า เรืออู่ยกพลขึ้นบก LPD-471
หรือแม้แต่ตัวผู้เขียนเองโดนต่อว่ากระทบไปด้วยว่าปล่อยข่าวมานานแล้วว่าเรือ LPD จะติด ASM มาแทนเรือเร็วโจมตีติดอาวุธนำวิถี FAC(M)
ทั้งๆที่เนื้อข่าวจริงๆคือกองทัพเรือไทยจะเลิกใช้เรือ รจอ. แล้วจะหันไปจัดหาเรือขนาดใหญ่ที่มีขีดความสามารถมากกว่าเช่น เรือฟริเกต หรือเรือ LPD ครับ
(https://aagth1.blogspot.com/2017/01/blog-post_19.html)
จากข่าวที่ออกมาเรือฟรีเกตสมรรถนะสูงลำที่ 2 คงไม่มาแล้ว เสียใจจริงๆครับ
ขี่ช้างจับตั๊กแตน เรือใหญ่ไล่จับเรือประมงต่างด้าวกะจับเรือผู้อพยพ แทนที่จะใช้รจอ.ดันปลดทิ้งซะ
ยุคไหนก็ตาม ที่ ทร.ไทย จัดหา เรือ จากจีนเป็นหลัก....ยุคนั้น ทร. ยุทธศาสตร์มักจะเละเทะ สะเปะสะปะ ไปหมด...ตั้งแต่หาเรือชุด เจ้าพระยา กับ ปัตตานี
แล้วก็ต้องมา เริ่มต้นใหม่...ตามหลัง...
เรือ LPD ขนาด 20,000 ตัน...ยังไม่เห็นความจำเป็นอะไรในตอนนี้...
ถ้าจะจัดหาเรือสนับสนุนการยกพล เรือประเภท LST ที่สามารถใช้ในการช่วยเหลือบรรเทาสาธารณภัย ก็ใช้แบบ อินโดฯ หรือ ฟิลิปปินส์ ก็ได้ ในปริมาณจำนวนเรือไม่ต่ำกว่า 2 ลำ อาจจะได้ถึง 3 ลำ ถ้ามาแต่ตัวเรือ...
ดูการจัดหา ครั้งนี้ เป็นแค่ ต้องการซื้อเรือจากจีน แค่นั้น...แบบเดียวกับ การจัดหา เรือดำน้ำ แบบเรือก็ไม่ได้มีความเหมาะสม และใช้งบประมาณ แบบ มั่ว จน โครงการอื่นๆ เคลื่อนไปหมด...
ช่วงนี้ เลยไป ติดตาม ทร.อินโดฯ กับ ฟิลิปปินส์ แทน...น่าสนุก และน่าสนใจ กว่ากันเยอะ...
ฟิลิปปินส์ ก็ กำลังพัฒนา ค่อย ๆ เดินมา กำลังจะเทียบเคียง ทร.ไทย ในระยะอันใกล้ แล้ว...
ซึ่ง จุดแข็งของ ทร.ฟิลิปปินส์ น่าจะเป็น การบำรุงรักษา และซ่อมแซม ให้ อาวุธ สามารถใช้งานได้นาน แม้จะเก่า หรือมือสองขนาดไหนก็ตาม และมีความพร้อมรบ ตามสถานะงบประมาณที่จำกัด...
กองเรือยามฝั่ง ของ ฟิลิปปินส์ ที่ไม่ได้สังกัด กองทัพเรือ...กำลังจะมีเรือใหม่ๆ เสริมกองเรือ ทั้ง OPV และเรือตรวจการณ์...ซึ่งในอนาคต อาจจะตาม กองเรือยามฝั่งของ มาเลเซีย มาติดๆ....
และหลังจากนั้น เมื่อ ยุทโธปกรณ์ ครบทุก มิติ...ระบบเครือข่าย ก็คงจะตามมา และจะสามารถทำได้อย่างรวดเร็ว เพราะเทคโนโลยี่ ที่พัฒนามานานแล้ว ก็สามารถพร้อมใช้ ในราคาย่อมเยาว์...
ตอนนี้ ก็แค่ รอดู การพัฒนา ของ ทร.อินโดฯ ว่าจะตาม สิงคโปร์ ได้ทันขนาดไหน...
ทร.อินโดฯ จะขึ้นเป็น กองทัพเรือ อันดับ 1 ได้หรือไม่...
ส่วนของ ทร.ไทย ไม่ต้องลุ้น อันดับ 1...ขับเรือดำน้ำ S-26T ในอ่าวไทย ให้คล่องก่อน...และเอา LPD จีน ลำใหญ่ๆ ไปเป็นเรือพี่เลี้ยง ล่อเป้า ให้รู้ว่า...เรือดำน้ำไทย อยู่แถวนั้นนะ...ได้โปรดรับรู็...ฮ่าๆๆๆๆ
ผมไม่ตามข่าวทร.แล้วครับท่านจูดาส เสียสุขภาพจิตเปล่าๆ อยากทำอะไรเชิญ เพียงแต่ไม่อยากคิดว่าจะมีเรือลำอื่นตามมาอีกหรือไม่
พี่ไทยเราชอบไปแซะฟิลิปปินส์กันดีนัก ผมเตือนเท่าไหร่ไม่จำไม่เข็ดไม่สะดุ้ง ถ้าเขาเอาคืนงานนี้ต้องเปิดหน้าให้ต่อยสถานเดียว
ท่าน superboy เรือลำต่อไป คือ เรือ OPV สัญชาติ จีน....มา แหงมๆๆๆๆ...
เรือดำน้ำจีน ลำที่ 2 กับ เรือ OPV จีน...คงเข้าแถว ต่อ คิว ตามมา...
OPV ไทย คงหยุดแค่ ร.ล.ประจวบฯ...
และน่าจะมา พร้อม ๆ กับ รถไฟความเร็วปานกลาง จาก จีน...ตอนนี้ 2.5 ก.ม. ตรงปากช่อง คงจะใกล้เสร็จล่ะ...หลังจากได้ เรือดำน้ำ ลำที่ 1 ไป..
และสรุป คงได้ เงินจาก ทร.ไทย รวมคง ร่วมๆ 50,000 ล้านบาท...เดี๋ยว คงต่อ กิโล รางรถไฟ ให้นะครับ...ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
ท่าน AAG1th อาจจะมี โครงเค้า ข้อมูลอยู่บ้างก็ได้ครับ เห็นใน บางกอกโพสต์ บอกว่า พล.ร.อ.ลือชัย ขอ ออฟชั่น CX-1 Anti Ship Missile ด้วย
อาจจะเป็น LPD ติด ASM แนวดิ่ง ลำแรก ของโลก...ฮ่าๆๆๆๆๆ
ตามภาพประกอบ การทดสอบยิง CM-1 ซึ่งน่าจะเป็นเรือทดสอบ ไม่ใช่เรือรบผิวน้ำ เพราะสะพานเดินเรือ ไม่เหมือน เรือ DDG หรือ FFG
ถ้าเป็นแบบรูปนี้ จะเรียกว่า เรืออะไรดี ? ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ
ทีแรกผมว่าจะเขียนบทความราชนาวีไทยหลังสงครามโลกครั้งทีสอง แต่ตอนนี้หมดอารมณ์ขอพักยาวๆ เลยแล้วกัน ไปแต่งนิยายออนไลน์ดีกว่าสบายใจกว่ากันเยอะ
เกรงว่านอกจากจะได้เรือ OPV แล้วเรายังจะได้เรือรบจากจีนมาด้วยสิครับ เรือฟริเกต DF3000F คงมีแค่ลำเดียว พอผ่อนเรือดำน้ำครบ 3 ลำก็เป็นเรือฟริเกตจีนต่อกันไปเลย สอรฝ.ก็ใช้จรวดจีน เฮลิคอปเตอร์ปราบเรือดำน้ำจีน รถถังลอยน้ำจีน ปืนพกจีน ยังมีอะไรซื้อจากจีนได้อีก อ้อ...ยังขาดก็แต่เฮลิคอปเตอร์ VIP จีน
ลำหลังสุดอยากให้มาก่อนแซงคิวได้ไหมเอ่ย
เรือขนาด 2 หมื่นตัน อู่"ยูนิไทย" ก็สามารถสร้างได้สบายๆ ครับ อู่ลอยและเครนก็มีพร้อม และอู่งานลดน้อยลงไปมากในช่วง 3-4 ปีมานี้
เนื่องจากงานผลิตฐานผลิตก๊าซและน้ำมันในอ่าวลดลงไปจนหมดแล้ว
ส่วนงานซ่อมเรือขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ที่ยาว 200-300 เมตรก็หายไปหมด เพราะถูกอู่ซ่อมและต่อเรือที่เกาหลีไปลงทุนในฟิลิปปินแย่งไปกว่า 80% เหลือเรือให้ซ่อมอยู่ทีละลำเดียวตลอด จากเมื่อก่อนนี้มีอย่างน้อยก็ 5-6 ลำ ช่างเชื่อมต้องว่างงานกันมานานมากแล้ว
ตอนนี้อู่เรือใน "ปิน" ก็ว่างงานเหมือนกัน เพราะเกาหลีเอางานต่อเรือกลับคืนไปทำเองหมด เหลือไว้แต่งานซ่อมเรือให้ "ปิน" จำนวนหนึ่งเท่านั้น เนื่องจากงานต่อเรือและซ่อมเรือลดน้อยลงไปมากในช่วงนี้
งานซ่อมเรือในสิงคโปร์ ก็ลดลงไปมาก แต่ก็ถือว่ายังมีงานมากอยู่ เพราะที่นั่นมีอู่จำนวนมาก อู่ต่างๆ ก็ลดราคากันลงมาพอสมควรแล้ว
ถ้าคิดเป็น มีความรู้จริง และเข้าใจ สถานะการณ์จริง ก็คงรู้ว่าควรตัดสินใจทำอะไรดี ในตอนนี้
แรงจูงใจเรื่องจรวดแซม กับ ครุ้ยมิสซาย มันมีผลผลักดันมากทีเดียว 5555
ในการจัดหา "เรือพิฆาตโจมตียกพลขึ้นบก" ซึ่งเป็นเรือชั้นใหม่ ในยุค 4.0 นี้
โครตชอบคำจำกัดความท่าน Airy จริงๆ "เรือพิฆาตโจมตียกพลขึ้นบก" ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
เรื่องคนไทยเอาภาพ เอาข้อมูลไปอวด ในเวบ "ปิน" หรือเวบต่างชาติอื่นๆ
ผมมีความเห็นว่า เป็นเรื่องไม่สมควรอย่างยิ่ง ที่ผมเห็นมามันมีการแสดงในเชิงโอ้อวดอยู่นะ เพราะเขียนแสดงความรู้สึกภาคภูมิใจมาก และมีการระดมโพร์สรูปอย่างมากมายจนเกินสมควร ในบล็อกไทยมีกี่รูปก็ก็อปไปโพร์สจนหมด คัดรูปออกข่าวออกสื่อก็ยังทำไม่เป็น มันไปกระตุ้นแรงผลักดันให้พวกเค้าเปล่าๆ ทำให้เกิดการแข่งขันกัน (ต่างชาตินะ เค้าไม่ได้ภูมิใจด้วยหรอก และมันก็เป็นสิ่งที่สมควรต้องปกปิดบ้าง)
จริงอยู่ว่าบล็อกต่างชาติก็เข้ามาก็อปภาพและข่าวสารของบล็อกไทยอยู่แล้ว แต่ไม่สมควรที่เราจะเอาข่าวที่เราไม่ได้หาเอง ทำเอง ไประดมอัดลงในเวบต่างชาติอย่างนั้น ผมเห็นทำมาจะ 10 ปีแล้วนะ (จะทำก็ได้แค่ข่าวสั้นๆ และภาพเพียงภาพเดียวก็พอ น้อยๆอย่ามาก) ยังไงก็ทั้งภาพและข่าวก็ไม่ใช่ของเรา เป็นผู้อ่านและสนทนาดีกว่าไหม
การคัดภาพที่ดี และการเขียนข่าวสั้นๆที่ดี เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ในการทำประชาสัมพันธ์ที่ดี ภาพแสดงจุดอ่อน ความไม่สมบูรณ์ ไม่พร้อมงานระหว่างทำ การใช้ชิ้นส่วนเก่านำมาประกอบ อย่าเอาลงไปครับ
เดี๋ยวมีคอร์เวตรัสเซียระวางขับน้ำราวๆ 2000 ตัน มาให้ปวดหัวอีกลำครับ มันเละซะยิ่งกว่าเละ นี่แหละครับ Stop the past .Start the fucking new
ฮ๋า ๆ ๆ ๆ ถ้าเป็นไปตามข่าวของท่าน ausangi คงต้องร้อง ซี๊ดดดดด มากกกก...
อนาคต ทร. คงต้องปรับการหาสรรหา ผบ.ทร. ใหม่ ล่ะครับ...ผมว่า ดีล ที่เกิดขึ้นในตอนนี้ ทั้ง LPD และ เรือดำน้ำ จีน ลำที่ 2 น่าจะมาจาก ผบ.ทร. โดยตรง...รวมถึง ถ้าได้ คอร์เวต จาก รัสเซีย มาด้วยอีก...คงใช้ความเห็นส่วนตัวในการจัดซื้อล้วน ๆ...ไม่น่าจะผ่านคณะทำงานการจัดหา หรือ วางยุทธศาสตร์....
ประเด็น คือ เดี๋ยวนี้ กองทัพเรือ นึกจะซื้อ ก็ซื้ออะไรมาได้ง่าย ๆ อย่างนี้เลยหรือ ?
ST. PETERSBURG, July 12. /TASS/. Military delegations from the United Arab Emirates (UAE), Saudi Arabia, Thailand and Vietnam have displayed interest in the Russian-made frigate Gepard-3.9 and Project 22800 ‘Karakurt’ missile corvettes at the St. Petersburg International Maritime Defense Show, the press office of the Zelenodolsk Shipyard reported on Friday.
The military attache from Nigeria, the delegations of the UAE, Saudi and Vietnamese navies and the armed forces of Namibia, Ghana, Thailand and other countries viewed the exposition at the St. Petersburg naval show, the press office said.
"The visitors displayed a special interest in the frigate Gepard-3.9, Project 22800 small missile ships, Project 22160 patrol vessels, Project 21980 anti-subversion boats and Project A223 amphibious assault boats," the Shipyard’s representatives said.
The visitors of the St. Petersburg naval show could also view the Project 21631 small missile ship, the Project 21980 special-purpose boat and the Project 22160 patrol vessel built by the Zelenodolsk Shipyard, the statement said.
Project 22800 Karakurt-class missile corvettes are a Russian series of green-water multipurpose missile/artillery warships. The corvettes of this class developed by specialists of the St. Petersburg-based Almaz Central Design Bureau for Marine Engineering displace about 800 tonnes and develop a speed of over 30 knots.
Karakurt-class corvettes are armed with Kalibr or Oniks missiles, and also with the modernized AK-176MA 76.2mm artillery system. The corvettes’ endurance is 15 days.
Overall, the shipbuilders are planning to build 18 warships of this Project for the Russian Navy.
The Project 11661 Gepard-3.9 frigate is designated to carry out patrol missions and protect state maritime borders and exclusive economic zones, support maritime operations and be present in the areas of national interest.
The Project 11661 frigate has a displacement of 1,500 tonnes. It is equipped with artillery guns, anti-ship, air defense and anti-submarine warfare weapons.
The ninth International Maritime Defense Show runs at the Lenexpo Exhibition Center in St. Petersburg on July 10-14. The naval show has been organized by the Industry and Trade Ministry with the support of the Defense Ministry, the Foreign Ministry, the Federal Service for Military and Technical Cooperation, the state arms exporter Rosoboronexport and the St. Petersburg government. A total of 353 companies, including 28 foreign firms from 19 countries are taking part in the naval show.
คอร์แวตรัสเซียจะมาจริงๆหรือครับ? ถ้ามาจริงนี่มันเกิดอะไรขึ้นกับ ทร. เลื่อนฟรีเกตเกาหลีเพื่อเอาคอร์แวตรัสเซีย มันใช่เรื่องไหมครับเนี่ย
https://www.defnetofficial.com/post/royalthainavy-will-buy-ak306-from-russia
อัพเดตเมื่อ: ก.ค. 20
#DEFNET #AK306 #RoyalThaiNavy #Thailand #เรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่ง
AK-306 | ที่มา : WIkimedia Common
หลังจากกองทัพเรือมีประกาศจัดหาปืนเรือขนาด 30 มม.เพื่อติดตั้งกับเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่งใหม่ จำนวน 2 ลำ มูลค่า 140 ล้านบาท เมื่อเดือนเมษายน พ.ศ.2562
ล่าสุดกองทัพเรือออกเอกสาร การกำหนดร่างขอบเขตของงาน (TOR) เกี่ยวกับระบบควบคุมการยิงปืนเรือที่ติดตั้งกับเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่ง อุปกรณ์ การฝึกอบรม การสนับสนุนอะไหล่และอื่นๆ ระยะเวลาโครงการ 3 ปี มูลค่า 458 ล้านบาท โดยภาคผนวกของเอกสารได้ระบุชื่อชนิดปืนเรือว่าเป็น....
AK-306 เป็นปืนเรือที่ต้นแบบมาจากระบบป้องกันภัยทางอากาศระยะประชิด AK-630 ของประเทศรัสเซีย เพื่อใช้สำหรับป้องกันภัยทั้งทางอากาศและผิวน้ำ โดยมีการออกแบบให้มีน้ำหนักเบาและเหมาะกับการใช้งานบนเรือขนาดเล็ก
ระบบมีน้ำหนักอยู่ที่ 1.1 ตัน ไม่รวมกระสุน
ติดตั้งปืนใหญ่ขนาด 30 มม.แบบ AO-18L 6 ลำกล้อง
ใช้กระสุนขนาด 30x165 มม.
อัตรายิง 600-1000 นัด/นาที
ปืนสามารถปรับมุมยิง ขึ้นลงได้ -12 ถึง +85 องศา
ปืนสามารถหมุนได้ -180 ถึง +180 องศา
ใช้งานควบคุมการยิงด้วย OPU-1 optical sight สามารถจัดการเป้าหมายผิวน้ำได้ในระยะ 5 กม.และจัดการเป้าหมายทางอากาศได้ในระยะ 4 กม.
หากเป็นไปตามแผนงาน นี่จะเป็นอาวุธรัสเซียแบบแรกที่นำมาใช้บนเรือของกองทัพเรือ
เป็นสิ่งที่หลายคนสงสัยว่าทำไมกองทัพเรือถึงจะจัดหาปืนรุ่นนี้เข้ามาใช้งาน ทั้งที่ปกติเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่งที่กองทัพเรือต่อและมีประจำการใช้งานปืนขนาด 20 มม. Denel Land Systems GI-2 บนเรือชุด ต.111 และปืนขนาด 30 มม. DS-30M พร้อมด้วยระบบ Thales Mirador บนเรือชุด ต.991 และ ต.994 ทางเราคาดการว่าเป็นเพราะเพื่อการนำมาประเมินการใช้งาน และ ใช้งานเพื่อตอบสนองภัยคุกคามทางทะเลและการกระทำผิดกฏหมายที่กองทัพเรืออาจจะเจอในอนาคต
หากประสบความสำเร็จนี่อาจจะเป็นการปูทางเพื่อจัดหาระบบปืนเรือยิงเร็วและระบบป้องกันภัยทางอากาศระยะใกล้ชิดที่มีราคาถูกกว่าระบบ Mk.15 Phanlax ที่มีราคาสูง โดยเชื่อมโยงใช้กับระบบของบริษัท Thales ที่กองทัพเรือใช้งานเป็นหลักและใช้กระสุนขนาด 30x165มม. ที่กองทัพเรือมีใช้งานกับยานเกราะล้อยาง 8x8 แบบ BTR-3E1 ที่ประจำการในนาวิกโยธินและมีขีดความสามารถในการทำกระสุน 30มม.ชนิดนี้ได้
ทั้งนี้ด้วยองค์ประกอบของ AK-306 ที่ระบุเอกสาร TOR ไม่ใช่ระบบ CIWS เนื่องจากไม่มีระบบเรดาร์ควบคุมการยิง แต่เป็นระบบ Optical Sight ระบบกล้องอินฟาเรด ระบบวัดระยะด้วยเลเซอร์และกล้อง TV อีกทั้งตัวปืนนั้นไม่มีระบบระบายความร้อนด้วยน้ำแบบ AK-630 ทำให้ไม่สามารถยิงต่อเนื่องได้
กองทัพเรืออาจจะออกมาชี้เเจงเกี่ยวกับการจัดหาปืน AK-306 หรืออาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคต ทั้งนี้หากมีความเคลื่อนไหวใดๆ ทางเราจะนำมาเสนอครับ
รจอ.เก่าหมดสภาพก็ก็อปแบบชุดร.ล.ปราบปรปักษ์หรือชุดร.ล.ราชฤทธิ์ก็ยังได้เพราะเล็กและคล่องตัวยังพอทันสมัยอยู่ เพราะหมดสิทธิบัตรไปละ เรือชั้นนี้ในสมัยสงครามยิวอาหรับ ของทร.อียิปต์ใช้จรวดสติกซ์สอยเรืออิสราเอลที่มีขนาดใหญ่กว่ากะดีกว่าจมทะเลได้มาละ แม้แต่เรือฟรีเกตชั้นน็อกซ์ก็อปมาสร้างใหม่ก็ยังพอใช้งานได้ดีอยู่
ไม่แน่ เรือ LPD อาจจะใช้ อาวุธ และระบบมาจาก รัสเซีย ก็ได้นะเธอออออ....ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ
เราต้องดูความเป็นจริงของกองเรือยกพลขึ้นบกและยุทธบริการด้วยครับว่า ตั้งแต่ที่กองทัพเรือปลดประจำการเรือยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่ชุด ร.ล.อ่างทอง(ลำที่๒)
ที่ประกอบด้วย คือ ร.ล.อ่างทอง(ลำที่๒), ร.ล.ช้าง(ลำที่๒), ร.ล.พงัน(ลำที่๒), ร.ล.ลันตา และ ร.ล.พระทอง ทั้ง ๕ลำที่เป็นเรือ LST สหรัฐฯเก่าสมัยสงครามโลกครั้งที่๒
ในการทดแทนเรือ LST ที่ล้าสมัย กยพ.ได้เลือกจัดหาเรือประเภทเรืออู่ยกพลขึ้นบก LPD คือ ร.ล.อ่างทอง(ลำที่๓) มาแทน
แต่ก็อย่างที่ทราบว่าเรือ LPD ที่มีพื้นฐานจากเรือชั้น Endurance สิงคโปร์นี้ใช้เวลาในการแก้แบบให้ตรงความต้องการของกองทัพเรือไทยนานพอสมควร
และด้วยข้อจำกัดของแบบแผนเรือในข้างต้น กองทัพเรือจึงมีเรือ LPD เพียง ๑ลำมาแทนเรือ LST ที่ปลดไป ๕ลำ
ซึ่งเรือ LPD มีความซับซ้อนกว่าเรือ LST เช่น ชุด ร.ล.สีชัง ที่ไทยเราต่อเองในประเทศมาก อย่างถ้าจะต่อเรือ LPD ในประเทศ เราต้องซื้อแบบจากต่างประเทศอยู่ดี
ฉะนั้นถ้ามองว่าเรือ LPD ขนาดใหญ่ เช่น Type 071E จีน เพียงลำเดียจะแทนเรือ LST เก่าได้ถึง ๔ลำ และมีขีดความสามารถสูงกว่า ก็น่าจะมีเหตุผลที่น่าพิจารณาได้อยู่ครับ
แล้วอีกอย่างคือสื่อกระแสหลักในไทย เช่น Bangkok Post ที่เอามาลงอ้างอิงในข้างต้นนั้น ก็มีคนเขียนข่าวทางทหารแบบนี้เพียงแค่รายหลัก ๑-๒คน
ซึ่งเป็นพวก 'นักข่าวสายทหาร' ที่รู้ดีว่าใครเป็นพี่น้องใครสายไหนจะได้ตำแหน่งอะไร แต่ไม่รู้อะไรเลยเรื่องอาวุธยุทโธปกรณ์ แค่ฟังนายทหารพูดให้ฟังไม่กี่คำก็จับเอาไปเขียนอะไรพาดหัวให้หวือหวาเป็นตุเป็นตะเรียกคนอ่านได้แล้วนี้
การที่เอา Type 071E LPD มาปนกับ CX-1 ที่จริงๆอาจจะเป็นโครงการอาวุธพื้นสู่พื้นของ สอ.รฝ. หรืออย่างอื่นที่ไม่เกี่ยวกันเลยก็ได้นั้น ก็ไม่ใช่พฤติกรรมทำนองนี้ครั้งแรกของ 'นักข่าวสายทหาร' พวกนี้ครับ
?
ของเมกาผิด ของจีนไม่ผิดเลย? ตั้งแต่สมัยจิ๋วหวานเจี้ยบละ
ล่าสุดเป็นการวัดกำลังภายในของคอร์เวตสองสัญชาติ จะหมี หรือ อาหมวย รอลุ้นกันครับ เร็วๆนี้ 5555555 ใครอยู่ฝ่ายไหนเข้ามาเชียร์กัน
เปรียบเทียบให้เห็นครับ
ระหว่าง โครงการ LPD ของ ทร.ไทย ที่หวยออก Type-71E โดยวิธีพิเศษ ไม่มีการเปิดประมูลราคา ซึ่งน่าจะเป็น งบกลาง ของรัฐบาล ไม่ใช่ งบของ กองทัพเรือ
กับ ของ ทร.ฟิลิปปินส์ ที่เปิดโครงการให้ประมูล มูลค่า 107.5 ล้านเหรียญ จำนวน 2 ลำ ซึ่งตามสเปคแล้ว น่าจะเท่า Enforcer 7000 ของ Damen
ถ้าเรามองที่ ศักยภาพของ กองเรือยกพลขึ้นบก ของไทย ที่สูญเสียไป จากแผ่นภาพนี้ จะพอเห็นได้ว่า ทร.ฟิลิปปินส์ จะสามารถจัดหา เรือ LPD ที่ สมรรถนะการขนส่ง เทียบเท่า ของ LPD ทร.ไทย ในราคาเพียง ครึ่ง เดียว...(แผ่นภาพที่ 1)
แล้วถ้าเราเอาเงินใน จำนวนเดียวกัน ที่จัดหา Type-71E อาจจะสามารถจัดหา LPD ของ ฟิลิปปินส์ ได้ถึง 4 ลำ และความสามารถในการบรรทุก จะมากกว่า 1 เท่าตัว...(แผ่นภาพที่ 2)
พม่าคงไม่ได้ต่อเรือ LPD เพียงลำเดียวอย่างแน่นอน !
หากพม่าต่อเรือ LPD ลำที่ 3, 4, ในประเทศเอง ซึ่งเป็นไปได้สูงมาก
การประชาสัมพันธ์เรื่องเศรษฐกิจพอเพียง ของกองทัพเรือไทยจะเป็นอย่างไร ?
......ใครจะเชื่อ (คำพูดที่ฟังดูดีมากนะ......)
ท่าน airy ผมกำลังสงสัยว่า Dsit สัญชาติ อิสราเอล ที่มีข่าวขาย Sonar ไม่ระบุสัญชาติในประเทศอาเซียน ล่าสุด นี่...ขายให้ อินโดฯ หรือ พม่า...
ถ้า สมมติ...สมมติ...นะครับ...ขายให้ พม่า...
ผมว่า LPD จากเกาหลีใต้ ขายให้ พม่า...อาจจะติด Sonar เพื่อ รองรับ การจัดหา เรือดำน้ำ ของ พม่า...
แต่จากข้อมูล ปริมาณ ผมให้น้ำหนัก ที่ อินโดนีเซีย...ซึ่งจะสอดคล้องกับ เรือชุด Damen จำนวน 4 ลำ ชุดแรก ก่อนหน้า กับ เรือดำน้ำใหม่ ที่ประกอบในอินโดฯ...
และการจัดหา เรือ LPD ของ ทร.ไทย ครั้งนี้...ไม่มีการ ประมูล ตามปกติ...ซึ่งผมว่า ประเมินว่า ใช้งบกลางของ สำนักนายกฯ ไม่ใช่ งบของกองทัพเรือ ของกระทรวงกลาโหม...เช่นเดียวกับ การจัดหา AH-6i ของ ทบ.
ถ้าเป็นเช่นนั้น...ก็ สมควร ที่จะถูก สังคม...ตำหนิ...เรื่อง ต้องวิ่งหาเงินซื้อเครื่องมือแพทย์...ต้องออกรายการ รับบริจาค เพื่อช่วยน้ำท่วม...
สมควร...ถูก ประนาม ครับ...
การจัดหาเรือ LPD ขนาดระวางขับน้ำประมาณ 8,000tonnes เช่น เรือชั้น Endurance ที่เป็นพื้นฐานของ ร.ล.อ่างทอง(ลำที่๓) ของกองทัพเรือไทย
หรือแบบเรือ LPD ของ Daesun เกาหลีใต้ที่ส่งออกอินโดเซียในชื่อชั้น Makassar พร้อมสิทธิบัตรการผลิตโดย PT PAL ที่ต่อส่งออกฟิลิปปินส์ในชื่อชั้น Tarlac
ส่งออกให้เปรูพร้อมสิทธิบัตรการผลิตแก่ SIMA ในชื่อชั้น Pisco และล่าสุดต่อในเกาหลีใต้ส่งออกให้พม่าในชื่อ UMS Moattama
(https://aagth1.blogspot.com/2019/09/lpd-mottama.html)
ความต้องการทดแทนเรือ ยพญ.ชุด ร.ล.อ่างทอง(ลำที่๒) LST ทั้ง ๕ลำ ด้วยเรือ LPD นั้นกองทัพเรือไทยจะมีอย่างน้อย ๔ลำ
แต่ในความเป็นจริงด้วยข้อจำกัดด้านงบประมาณทำให้หลายสิบปีที่ผ่านมากองทัพเรือไทยจัดหาเรือใหม่แต่ละแบบได้แค่คราวละ ๑ลำเท่านั้น
ในกรณีของเรือ LPD ถ้ากองทัพเรือจะจัดหาเรือ LPD ขนาด 8,000tonnes อีกสัก ๓ลำมาเสริม ร.ล.อ่างทอง(ลำที่๓) คิดว่าจะต้องใช้เวลาจัดหาต่อเนื่องกี่ปีถึงจะครบครับ?
และถ้าเป็นการต่อเรือ LPD เองในประเทศ ถ้าดูจากศักยภาพการต่อเรือขนาดใหญ่ที่มีความซับซ้อน ก็จะใช้เวลานานขึ้นไปอีก ถ้าดูจากปัญหาที่ผ่านมาของ ร.ล.กระบี่ และ ร.ล.ประจวบคีรีขันธ์
การจัดหาเรือ Type 071E LPD จากจีน ซึ่งนอกจากจะทำหน้าที่เป็นเรืออู่ยกพลขึ้นบกทดแทนเรือยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่ LST เก่าที่ล้าสมัยแล้ว ยังทำหน้าที่เป็นเรือสนับสนุนเรือดำน้ำ S26T ที่จัดหาจากจีนด้วย
นับว่ากองเรือยกพลขึ้นบกและยุทธบริการ จะได้เรือใหม่แม้จะเพียง ๑ลำ แต่ก็สามารถทำงานได้เอนกประสงค์ครอบคลุม จึงคุ้มค่าต่องบประมาณที่จำกัดและพิจารณาความเหมาะสมมาแล้วครับ
อีกอย่างคือ กองทัพเรือ ก็เป็นเหล่าทัพหนึ่งที่ตกเป็นเป้าโจมตีของสื่อไร้จรรยาบรรณที่เขียนข่าวแบบมีการวาง 'บท' ไว้ล่วงหน้าเพื่อพยายามทำลายความน่าเชื่อถือมาตลอด
อย่างตอนที่มีโครงการเรือฟริเกตสมรรถณะสูง DW3000H จาก DSME เกาหลีใต้ ใหม่ๆ ก็มีการปล่อยเอกสารโจมตีว่าเป็นเรือที่ไม่ได้มีสมรรถนะสูงจริง
แต่จนถึงช่วงที่ ร.ล.ภูมิพลอดุลยเดช ประจำการ ก็ปล่อยข่าวใหม่ว่าการจัดหาเรือ Type 071E LPD ทำให้ต้องยกเลิกการจัดหาเรือฟริเกตลำที่สองที่จะต่อในไทยแทนไปเสียแล้ว
เรือดำน้ำนั้นเป็นอีกโครงการที่ทราบกันดีตั้งแต่ U206A เยอรมนี DSME 1400 เกาหลีใต้ และ S26T จีน ก็มีการอัดเงินให้ข่าวปล่อยเอกสารหลุดโจมตีกันอย่างต่อเนื่อง
ดังคำกล่าวของครูทหารเรือเก่าที่ว่า "ทหารเรือยืนบนฝั่งได้ไม่มั่นคงเท่ากับตอนที่ยืนอยู่ในเรือ"
การโจมตีกองทัพเรือไทยจากผู้ไม่หวังดีเหล่านี้นั้นมีรูปแบบการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง
สมัยก่อนก็บัตรสนเท่ห์ ต่อมาก็จ้างข่าวสื่อให้เขียนข่าวตามที่ตนเองต้องการ ต่อมายุคใกล้ๆมานี้ก็โจมตีผ่าน Webboard และล่าสุดก็ปล่อยข่าวทาง Page Facebook
จึงไม่มีประโยชน์แต่อย่างใดที่จะชี้แจงทำความเข้าใจกับเหล่าผู้คนที่มีธงในใจตนแล้ว
อย่างไรเสียกองทัพเรือก็ยังคงต้องทำหน้าที่ของตนท่ามกลางข้อครหาที่ไม่เป็นธรรมต่างๆนี้ต่อไปอยู่ดีครับ
การลบข้อครหา ไม่เป็นธรรม คือ การเปิดประมูล ครับ...
ไม่ใช่ วิธีการพิเศษ
เงิน 6000 ล้าน สามารถหาเรือ LPD ตรงตามความต้องการได้ ขั้นต่ำ 2 ลำ ในเวลาที่เท่ากัน ประเทศฟิลิปปินส์ คือ คำตอบ...
เพราะไม่สามารถตอบคำถาม กับ สิ่งที่เกิดขึ้นจริง และเทียบเคียงได้ จึงใช้ วิธีการพิเศษ ไม่เปิดการประมูล...เพราะจะเกิดการครหา...
สมควรและเหมาะสม...ถ้าจะถูก ประชาชน ผู้เสียภาษี ประนาม และถูก ครหา...ครับ...
เพราะวิธีการจัดหาไม่โปร่งใส...และแม้แต่คนที่เห็นสมควรใน ดีล นี้...ก็ยังไม่รู้เลยว่ามันเหมาะสม เพราะอะไร ?
แค่ใช้ ความเชื่อ...เท่านั้น...และเป็น นามธรรม...เท่านั้น...
แต่ไม่เคยใช้ความรู้ของตัวเอง คิด วิเคราะห์ แยกแยะ...ว่า...มัน เหมาะสม สมควร ไหม...
จัดหาเรือ Type-71E 1 ลำ ถามจริง ๆ เหอะ...เวลาต้องเข้าอู่ตามวงรอบ...ความสามารถหายหมดเกลี้ยง...กองพัน นาวิกฯ 800 นาย อยู่ในอู่เรือ ซะแล้ว...เพราะเข้าซ่อมตามวงรอบ...แต่ถ้าจัดหาเรือขนาดเล็ก จำนวน 3 ลำ เข้าอู่ซ่อม 1 ลำ ยังเหลืออีก 2 ลำ สำหรับ กองพัน นาวิกฯ 400 นาย...เลขคณิต คิดง่ายๆ...ไม่ใช่...ความเชื่อ...ปราศจาก ความคิด วิเคราะห์ แยกแยะ...
Type 075 LHD compared to Type 071 LPD
https://aagth1.blogspot.com/2019/09/type-075-lhd.html
เปรียบเทียบขนาดเรืออู่ยกพลขึ้นบกบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ชั้น Type 075 LHD ลำแรกของจีน กับเรืออู่ยกพลขึ้นบกชั้น Type 071 LPD ที่อู่เรือ Hudong-Zhonghua ใน Shanghai จีน
เรือชั้น Type 075 LHD ลำแรกของจีนถูกปล่อยลงน้ำเมื่อ ๒๕ กันยายน 2019 และเรือลำที่สองกำลังถูกสร้างด้วยความรวดเร็วอย่างมาก
นอกจากที่อู่เรือ Hudong-Zhonghua กำลังสร้างเรือ Type 075 LHD ไปพร้อมๆกับเรือ Type 071 LPD แล้ว
CSSC หนึ่งในสองรัฐวิสาหกิจอู่ต่อเรือจีนที่เป็นบริษัทแม่ของอู่เรือ Hudong-Zhonghua ยังได้รับสัญญาสร้างเรือ Type 071E LPD ให้กองทัพเรือไทยด้วยครับ
ผมฝันไปถึงอนาคตครับ
เรื่องการประมูลอาวุธแบบไร้สเปคครับ
บอกแค่ต้องการซื้ออะไร เท่าไร แค่นั้น ที่เหลือเป็นเรื่องผู้ขายเสนอมาทั้งหมด ทั้งสเปคและราคา (จะเสนอจำนวนด้วยก็ได้ จะแถมอะไรก็บอก)
แล้วคณะกรรมการที่เชี่ยวชาญจริง ทรงคุณวุฒิ และทรงคุณธรรมจริง เป็นผู้พิจารณาตรวจสอบ ชมการสาธิต ประเมินผล และตัดสินใจว่าอยากได้ อยากใช้อาวุธของใคร ในราคาเท่าไร
ซึ่งอาจต้องของอนุมัติจากคณะรัฐมณตรี 2 ครั้ง คือ ครั้งแรกขอมติจัดหา และครั้งที่ 2 ขอมติจัดซื้อ
(หากไม่เป็นที่พอใจก็ไม่ประกาศผลการคัดเลือกจัดหา ให้รอการประมูลครั้งต่อไป)
ถ้ามีความยุติธรรมจริงจะได้ราคาต่ำสมเหตุผลแน่นอน และที่สำคัญจะได้อาวุธที่เล็งไว้ในใจอันดับต้นๆ ด้วย
แต่คนของเรายังไปไม่ถึงขั้นนั้นครับ (กรรมการจัดหาของเรายัง.......) ปัญหามันอยู่ที่คณะกรรมการจัดหานี่แหละ ครับ
มันไม่มีอะไรมากหรอกครับ ตอนพี่เป็นใหญ่พี่ทำแนวทางไว้ ทำเสร็จแล้วก็ออกไปตามวาระ พอน้องขึ้นมาเป็นใหญ่บ้างไม่ชอบสิ่งที่พี่ทำ ก็รื้อทำใหม่ตามแนวทางตัวเอง วนลูปกันไป ปีไหนพี่กับน้องมาสายเดียวกัน ถูกคอกันก็รื้อน้อยหน่อย ปีไหนพี่กับน้องมาคนละสาย ไม่ถูกกันก็รื้อบานตะเกียง แถมถ้าอึดหน่อย ฮึดหน่อย ก็ต้านฝ่ายการเมืองที่เข้ามาแทรกแซงได้ อ่อนแหน่อยก้ต้านเค้าไม่อยู่ ทำใจกันไปครับ ส่วนไอ้เรื่องยุทธศาสตร์ balance power ระบบ network มันเอามาไว้เป็นเหตุผลโก้ๆให้ดูมีน้ำหนักเท่านั้นแหละครับ เป็นกันทุกเหล่า 5555 ทบ. แต่งตัวไม่เสร็จ เดี๋ยวจีน เดี๋ยวเมกา , ทร. นี่เดี๋ยวจีน เดี๋ยวยุโรป , ส่วน ทอ. ไม่ค่อยมีข่าวสักเท่าไหร่ ผู้ใหญ่เค้าเล่นเกมส์กันข้างบน ผู้น้อยก็ได้แต่มองปลิบๆ ก้มหน้าก้มตาสนองนโยบายกันไป เฮ้อออออ ......... บ่นเยอะนะเนี่ย
ใช่แล้วครับ.....
แต่ไม่ใช่เคสนี้นะ เคสนี้ ท.ร. เขาอยากได้ลำนี้จริงๆ เขาเห็นตัวจริงแล้วปิ้งเลย เค้าไม่คิดเยอะ
ไม่คิดไกล เพราะไม่ใช่หน้าอะไรของเค้า จะต้องเสียเวลาคิดมาก
เค้าไม่รู้ว่าของดีๆ แบบนี้ ไทยเราทำได้สบายๆ ไม่ใช่เรื่องยาก ถ้าคุณอยู่ในวงการผลิตครับ
ถึงรู้เค้าก็กลัวปัญหาอื่นๆ ที่เค้ามองไม่เห็นจะเกิดชึ้น เค้าเลือกทางเดินง่ายๆ ดีกว่า สบายใจเค้า
หลายคนก็สงสัยว่าจริงหรือไม่ เอาหลักฐานมากางหน่อยซิ ถ้าคุณเป็นวิศวกร และมีข้อมูล
ของผู้ผลิตซัพพลายชิ้นส่วนต่างๆ ในโลก คุณจะเห็นว่ามันก็เหลือแค่เลือกเทคโนโลยี่แล้วเอามาประกอบกัน
แต่มันก็มีปัญหาจริงๆ ละครับ เรื่องต่อในประเทศนี่ ทำไมราคามันดันแพงกว่าจีน 55555 (จริงคุยกันได้เรื่องราคาคนไทยด้วยกัน)
ที่ผมสนใจ และเสียดายคือ การใช้เครื่องยนต์ดีเซลไฟฟ้า LPD ของ Enforcer ของเนเธอแลนด์ น่าเหมาะสมที่สุด
จริงแล้วผมไม่อยากออกความคิดเห็นอะไรมาก เพราะผมเชื่อว่า มี อิเหนา ตะเลง ญวน ปิน ดูอยู่
สิ่งสำคัญคือ เราต้องอ่านความคิดเพื่อนบ้านให้เป็น ด้วยครับ
ขณะนี้ผมเชื่อว่า ญว กำลังคิดสร้าง Enforcer ของ Damen อยู่ แค่ว่าจะลงมือเมื่อใด เท่านั้น (เพราะต้องใช้สตางค์)
ถ้าไม่คิดอะไรมากก็ สบายใจไทยแลนด์ ครับ (ไม่คิดไม่เป็นไร)
แต่ถ้าหยุดคิดลึกๆ บ้าง ตะเลง ญว เดินหน้าเมื่อไร ก็เท่ากับไทยแลนด์สอบตก แต่ ตะเลง อิเหนา ญว สอบผ่านหมดครับ เรื่อง LPD
เรื่องความคิดนี้เป็นเรื่องสำคัญมากไม่คิดก็ได้ครับ เราจะคิดแบบไหนมันก็ถูกหมดก็จริงครับ แต่ผลได้จะต่างกันแบบฟ้ากับดิน
ความคิดผมตอนนี้ ผมสรุป ได้สองแบบครับ คือ
1. คิดแบบสามล้อถูกหวย คิดแบบนี้เวลาผ่านไปซักปี มันอาจจะเหลือแค่ สามล้อใหม่ๆ ซักคัน ให้ทำมาหากินกันต่อไป แต่ลูกหลานยังมองไม่เห็นอนาคตครับ
2. คิดแบบเสือผืนหมอนใบ ลูกหลานจะมีความเจริญมั่นคงในอนาคต ตัวอย่างมีให้เห็นทั่วเมืองไทย เจ้าสัวเล็ก กลาง ใหญ่
อย่าคิดอะไรมาก ครับ "สบายใจไทยแลนด์" บาย บ่าย
ก่อนอื่นต้องขอบอกว่าผมไม่ได้ชอบหรือไม่ชอบโครงการเรือ type 071E น่ะครับ แต่อยากให้ใช้เรือสิมิลันเป็นเรือพี่เลี้ยงเรือดำน้ำมากกว่า
แต่ในความเห็นส่วนตัวก็เสียดายเรือฟริเกตลำที่ 2 ที่ยกเลิกไปก่อน แต่ถ้ามองดูภัยคุกคามรอบบ้านก็น่าจะพอมีเหตุผล ดังนี้
1.รอบบ้านมีเรือดำน้ำกันหมดแล้ว ดังนั้นควรเร่งจัดหาเรือดำน้ำให้ครบ 3 ลำโดยเร็ว
2. ยกเลิกจัดหาเรือฟริเกตลำที่ 2 แล้วนำเงิน 15,000 ล้านบาทไปทำอย่างอื่นที่ขาดแคลนหนักกว่า คือ
2.1. ปรับปรุงเรือฟริเกตเก่าจากจีน 4 ลำให้สามารถใช้จรวดต่อสู้อากาศยานและมีระบบ CIW ทุกลำ ตีราคา 10,000 ล้านบาท
2.2 ปรับปรุงเครื่องบินปราบเรือดำน้ำ F27 ฟรอกเกอร์ ให้ทันสมัยและยืดอายุการใช้งาน ตีราคา 3,000 ล้านบาท
2.3 ต่อเรือตรวจการไกลฝั่งชุดประจวบคีรีขันธ์ 1 ลำ 2,000 + งบมาจากส่วนอื่นอีก 3,600 ล้านบาท
ส่วนเรือจำพวกลำเลียงผมคิดว่ามีมากพอแล้ว คือ เรือหลวงสุรินทร์ สีชัง อ่างทอง เรือ type 71E
ส่วนเรือฟริเกตก็จะมีรวม 7 ลำ สมรรถนะสูงของเราก็พอบอกได้ว่ามี 3 ลำ คือ เรือนเรศวร เรือตากสิน เรือภูมิพล และเรือฟริเกตที่พอไปวัดไปวาได้ 4 ลำ แถมเรือคอเวตร์ 2 ลำ คือ เรือรัตนโกสินทร์ สุโขทัย (ทั้ง 2 ลำ ควรหางบปรับปรุงให้ทันสมัยและยืดอายุการใช้งานออกไปอีก)
เท่านี้เมื่อบวกกับเรือดำน้ำอีก 3 ลำ ก็พอจะพูดได้ว่าขีดความสามารถทัพเรือไทยก็พอสู้เพื่อนบ้านได้พอสมควร แต่ไม่ได้เหนือกว่า ครับ
ปล. ถ้า ทร. ยังพอจะมีงบเหลือก็ขออีก 4 โครงการ เพื่อให้มั่นใจว่า ทร. ไทยสามารถสู้เพื่อนบ้านได้ คือ
1. ปรับปรุงเรือตรวจการไกลฝั่ง ปัตตานี นราธิวาส กระบี่ให้ติดตั้งจรวดฮาพูน
2. จัดซื้อ ฮ. AH-1W มือสอง 6 เครื่อง
3. รื้อฟื้นโครงการความช่วยเหลือเรือชั้น Olever Hazard perry จากสหรัฐ จำนวน 2-3 ลำ พร้อมทำการ upgrade ระบบใหม่ ราว 10,000-13,000 ล้านบาท (เข้าใจว่าน่าจะยังมีเหลือ)
4. ปรับปรุง ฮ. ปราบเรือดำน้ำซีฮอกอีก 3 เครื่อง (ที่ยังไม่ได้ปรับปรุง) พร้อมติดตั้งจรวดโจมตีเรือผิวน้ำแบบเพนกวิน