เรือที่มายกลำซ้ายชื่อ Rambiz  เริ่มใช้งานตั้งแต่ปี 1976 โน่น ส่วนลำขวามือชื่อ Gulliver เริ่มใช้งานปี 2018 ถือว่าใหม่มาก

วิธีการทำงานจะแบ่งออกเป็น 3 เฟสด้วยกัน

เฟสที่ 1 ขยับเรือให้ได้ประมาณ 3 เซนติเมตร เพื่อให้กระดูกเรือวางอยู่บนพื้นดิน และสามารถดึงโซ่จำนวน 2 เส้นที่โดนเรือทับกลับคืนได้ จะสามารถดึงเรือให้อยู่ในตำแหน่งที่ต้องการได้

เพสที่ 2 ขยับตำแหน่งเรือกลับมายังโขดหินที่เดิม คือตำแหน่งที่จมอยู่แค่ประมาณครึ่งลำ จากภาพเข้าใจว่ากำลังทำขั้นตอนนี้อยู่

เฟสที่ 3 เรือที่จะมายกหรือเรียกกันสั้นๆ ว่า barge จะจมตัวเองลงไปประมาณ 9 เมตร เพื่อช้อนใต้ท้องเรือฟริเกตและค่อยลอยตัวขึ้นมา อธิบายตามภาพน่าจะเข้าใจชัดเจนกว่านะครับ ไม่ถึงกับเหมือนทั้งหมดแต่ประมาณนี้

หลังจากนี้จะทำอย่างไรกันต่อ

1 กองทัพเรืออยากซ่อมครับ ซึ่งดูจากสภาพน่าจะเป็นความพยายามที่สูญเปล่า แต่พวกเขาจะสำรวจเรืออย่างละเอียดแล้วค่อยตัดสินใจอีกครั้ง เรือมีปัญหาขนาดใหญ่มากที่สะพานเดินเรือ กองทัพเรือให้ความสนใจเรื่องนี้ค่อนข้างมาก เพียงแต่คนทั่วไปไม่รู้ว่าปัญหานี้คืออะไรกันแน่ หรือบางทีอาจไม่ใช่ปัญหาหรือเปล่า

 2 ซื้อเรือฟริเกตใหม่จำนวน 1 ลำ แม้ว่ามีราคาแพงเกินไปจนไม่คุ้มในทุกๆ ด้าน ข้อเสนอนี้เข้าใจว่าเป็นทางเลือกสุดท้ายโน่น

3 ซื้อเรือดำน้ำใหม่จากเยอรมันมากกว่า 4 ลำ ไม่ใช่แฟนแต่ก็พอทดแทนกันได้เนอะ

4 พิจารณาความเป็นไปได้ในการปรับปรุงเรือตรวจการณ์ไกลฝั่งของหน่วยยามฝั่งที่กำลังสร้างอยู่ ให้สามารถติดอาวุธทันสมัยมากขึ้นกว่าเดิม รวมทั้งจรวดต่อสู้เรือรบ NSM นั่นหมายถึงต้องแก้แปลนเรือกันแบบหน้างานเลยทีเดียว

5 เช่าเรือฟริเกตประเทศอื่นมาใช้งาน เพราะเรือที่เหลือเพียง 4 ลำคิดยังไงก็ไม่เพียงพอ มีการยื่นข้อเสนอให้เช่าเรือฟริเกตชั้น Perry จากอมริกาจำนวน 2 ลำ ข้อดีก็คือใช้ระบบโซนาร์ลากท้ายใกล้เคียงกัน เรือขนาดใหญ่ใส่เฮลิคอปเตอร์ได้ถึง 2 ลำ มีเรือจอดรออยู่แล้วแค่ซ่อมสัก 2-3 เดือนก็ใช้งานได้ ข้อเสียก็คือเรือค่อนข้างเก่า ใช้เครื่องยนต์แก๊สโซลีเพรียวๆ จึงไม่ประหยัดเลย 

6 เริ่มต้นโครงการเรือคอร์เวตขนาด 1,000 ตันให้เร็วกว่าเดิม (จากที่เคยจะยกเลิกโครงนี้ไปแล้วด้วยซ้ำ) ติดตั้งจรวดต่อสู้อากาศยานเพิ่มเติมเข้าไปด้วย เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่กำลังมาแรงแซงทางโค้ง

เครดิตจากคุณ heuhen ครับ  http://www.shipbucket.com/forums/viewtopic.php?f=3&t=9031

ที่มาที่ไปของเรือจมอยู่ที่ตรงนี้ครับ ---->  กรณีเรือฟริเกต HNoMS Helge Ingstad ของกองทัพเรือนอร์เวย์

อัพเดทเวลา 19.36 วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2019 เรือฟริเกตถูกยกขึ้นมากพอสมควรแล้ว เผยให้เห็นบาดแผลจากการโดนเรือน้ำมันพุ่งเฉี่ยวสีข้างอย่างชัดเจน ไม่ใหญ่แต่ยาวและลึก เหมือนโดนมีดกรีดต้นขาถึงหัวเข่านั่นแหละครับ

เนื่องจากช่วงนี้ไม่มีปรากฎการณ์พระอาทิตย์เที่ยงคืน นอร์เวย์จึงมีแสงสว่างแค่ 5 โมงเย็น 38 นาที เวลาอีกไม่กี่ชั่วโมงไม่รู้จะทำกันเสร็จหรือเปล่า ส่วนตัวคิดว่าทันแต่เป็นการเดาสุ่มแบบไม่มีเหตุผล

ผมแถมให้อีกลิงคฺไว้ดูถ่ายทอดสดแล้วกันนะครับ

https://www.tu.no/artikler/folg-hevingen-av-fregatten-helge-ingstad/457300

อัพเดทวันที่ 1 มีนาคม 2019 เรือฟริเกตมาจอดเทียบท่าเป็นที่เรียบร้อย การเดินทางไม่ได้ใช้เรือ barge ตามแผนแรกนะครับ ใช้เรือเครนทั้ง 2 ลำนี่แหละลากมาจนถึงฝั่งและผูกติดไว้แบบนี้ไปเรื่อยๆ ก่อน ตอนนี้ภายในเรือแห้งน่าจะหมดแล้ว เพราะมีการสูบน้ำออกตั้งแต่เดินทางมาถึง จะมีการสำรวจอย่างจริงจังกันต่อไป จนกว่าจะได้ข้อสรุปซึ่งก็คงไม่เกินเดือนมีนาคมนี้แหละ  จากนั้นกองทัพเรือนอร์เวย์จะตัดสินใจแล้วแจ้งไปทางรัฐบาลอีกที

สภาพตัวเรือผมว่าดีกว่าที่คิดเยอะเลย แช่น้ำตั้งหลายสิบวันนึกว่าสนิมถามหาทั้งลำไปแล้ว แต่จะยังไงต่อไม่กล้าคาดเดาครับ

โครงสร้างเรือที่เป็นเหล็กน่าจะซ่อมได้ ถ้าซ่อมมาใช้ก็น่าจะประหยัดค่าโครงเรือได้ราว 2000 ล้าน. ส่วนไส้ในต้องเปลี่ยนหมด. รวมราคาเป็นหมื่นล้าน ไม่รู้ว่าคุ้มไหม. ส่วนตัวคิดว่าถ้าโครงเรือไม่เสียหายมากก็น่านำมาใช้

ลงรายละเอียดเพิ่มเติมเล็กน้อย จากนี้ไปทีมงานจะสำรวจอุปกรณ์เครื่องกลกับอุปกรณ์ไฟฟ้าจำนวน 1,400 รายการ ว่ามีอะไรที่สามารถนำกลับมาใช้งานได้อีกหรือไม่ มีกฎระเบียบง่ายๆ ดังนี้ครับ

-อุปกรณ์ตัวไหนแช่น้ำทะเลทั้งชิ้น มีแนวโน้มว่าจะนำกลับมาใช้งานได้ใหม่ อาจต้องเปลี่ยนอะไหล่หรือล้างทำความสะอาดบ้าง 

-อุปกรณ์ตัวไหนแช่น้ำครึ่งชิ้นและโดนอากาศอีกครึ่งชิ้น (หรือจะแค่หน่อยเดียวก็เถอะ) โยนทิ้งลงถังขยะได้เลย

ผมไม่ใช่วิศวกรเครื่องกลหรือไฟฟ้าจึงไม่กล้าอธิบายรายละเอียด แต่นอร์เวย์เขาว่าแบบนี้ก็คงประมาณนี้ ถ้าสรุปว่าไม่ซ่อมเรือก็คงเอาไปเป็นอะไหล่ต่อไปล่ะครัย

สถานะปัจจุบัน วันที่ 3 มีนาคม 2019 เวลา 21.01 น. เรือขึ้นมานั่งแท่นเป็นที่เรียบร้อย จากนี้ไปจะเป็นงานหมูตู้เสียแล้วล่ะ

กลางดึกที่ผ่านมาเกิดคดีลักพาตัว เรือฟริเกตถูกกองทัพเรือนอร์เวย์พาไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง

โดนลักพาตัวไปไหนหว่า?

สมัยก่อน เค้าเริ่มมีการประมูลรถยนต์กันใหม่ๆ   เอ็มดี ของ บริษัทสับ ไปประมูล ฟอร์ดเลเซอร์มาได้คันนึง ราคาราวๆสองแสนแก่ๆ   สภาพกริ๊ป.............   มาขับได้ซักพัก ไฟรวน ตอนแรกก็พวกหน้ปัด ไฟท้าย  หนักๆเข้า ลามไป กล่องควบคุม..................   รื้อพรม ถอดประตูดู จึงรู้ว่าจมน้ำมา  มิน่าราคาหายไปเป็นแสน............................

ระบบไฟที่จมน้ำมา สำหรับรถหรือเรือนี่  ถือว่าแทบจะตีเป็นมูลค่าซาก   ความไว้ใจได้หมดเหลือเป็น ๐      .................. เรือลำนี้   ระบบไฟฟ้ามีอยู่สถานเดียวครับ    คือแกะรื้อใหม่หมด และเดินใหม่..................... แค่คำว่าแกะรื้อนี่ก็  สะท้านแล้วนะครับ   คอนโซล กล่อง ตู้ สวิทช์ สายไฟทุกเส้น เลาะออกหมด...............   ส่วนตัวเรือนั้น   ถ้าท่าทางการพลิกไม่พิศดานมาก  กระดูกงูโครงสร้างไม่บิดเสียรูปก็น่าจะใช้ได้   คือถ้าจมลงไปหมดทั้งลำโดยไม่มีโพรงอากาศ อันนี้โมเมนต์ดัดคงน้อย     แต่ถ้าจมครึ่ง หรือดันมีโพรงอากาศครึ่งลำ   นึกว่าระวางขับ สามพันตัน   น้ำเข้าครึ่งลำนี่ ล่อไปพันห้าร้อย   น้ำหนักขนาดนี้ ถ้าแนวแรงไม่อยู่ในส่วนแข็ง ก็อาจทำให้โครงสร้างบิดได้     เหมือเรือเวลาจม ยกล้อเอาหน้าขึ้น  ด้านหลังแปร้น้ำ ถึงขนาดทำให้หักกลาง......................... ส่วนเครื่องยนต์หลัก  เครื่องปั่นไฟ........... กรณีจมน้ำจืดเดือนสองเดือน คงพอมาขัดมาถู ฟื้นสภาพ    แต่เจอน้ำทะเล  ไมารู้ว่าเกลือจะกัดเป็นหลุมมั้ย...............