1.ฮ.Ka-52 นั้นเป็น ฮ.ลาดตระเวณ/โจมตี คุมฝูงฮ.โจมตีและตรวจสนามรบ
2.Ka-52K ติดเรดาห์ Zhuk-AE ระยะตรวจจับเป้าหมายในอากาศไกลสุด200ก.ม.
3.ปืนหลัก30มม. นั้นมุมเงย +3 -37องศา มุมส่าย-2 +9องศา
4.ATGM รุ่นใหม่ Hermes-A ระยะยิง20ก.ม. ด้วยความเร็ว1000m/s
5. Ka-50-2 Erdogan สร้างโดยความร่วมมือระหว่างรัสเซียและอิสราเอล เพื่อเข้าคัดเลือกกับโครงการฮ.ของตรุกรี โดยอิสราเอลทำห้องนักบิน ระบบค้นหา/ตรวจจับและมุมของปืนใหม่ สุดท้ายตรุกรีเลือกปรับปรุง AH-1
KA-50 ก็น่าสนใจนะครับ
เพราะ"อาจจะ" เป็นเครื่องที่ทางรัสเซียเสนอมาแต่วันนั้นผมดันผิดพลาดเอารูป KA-52 ไปลงในเพจ ผลคือเป็นอย่างที่เห็นทุกวันนี้ว่า KA-52 กลายเป็นตัวเต็งตามด้วย ฮ.รุ่นต่างๆที่ผมเอาไปลงในเพจ แหะๆ
Ka-50 เป็นเฮลิคอปเตอร์โจมตีที่นั่งเดี่ยวแบบเดียวที่มีสายการผลิตเข้าประจำการจริง
อย่างไรก็ตามในส่วนสายการผลิตสำหรับกองทัพอากาศรัสเซียและที่ส่งออกให้กองทัพอากาศอียิปต์ในปัจจุบันนั้นจะเป็น Ka-52 รุ่นสองที่นั่งครับ
เนื่องการนำ Ka-50 ไปใช้ในปฏิบัติรบจริงเช่นที่ Chechen นั้นพบว่านักบินเพียงนายเดียวจะรับภาระหนักกว่าเครื่องที่มีนักบินสองนาย
ดังนั้นสำหรับแนวทางการส่งของรัสเซียในปัจจุบันจะมีเพียงรุ่น Ka-52 สองที่นั่งครับ
โดยส่วนตัวคิดว่า Ka-52 น่าจะเกิดยากทั้งในไทยและต่างประเทศ(เว้นแต่อียิปต์ จริงๆก็เพราะเป็นฮ.จ.ที่ลงเรือได้)
หลักๆก็การซ่อมบำรุงเช่นเดียวกับเครื่องKa-27/31 เป็นต้น ที่น่าจะสร้างปัญหาให้ชาติที่ไม่คุ้นเคยได้ในระยะยาว
ในขณะเดียวกัน Mi-28/35 ดูจะได้เปรียบเรื่องความคุ้นเคยสำหรับชาติที่ใช้ฮ.อย่าง Mi-24 / 17 มาก่อน และความซับซ้อนของระบบขับเคลื่อนก็ดูน้อยกว่ามาก
แม้ว่า Mi-28NE นั้นจะเป็นเฮลิคอปเตอร์โจมตีที่ใช้เครื่องยนต์ตระกูลเดียวกับ ฮ.ท.๑๗ Mi-17V5 ที่ประจำการในกองทัพบกไทยก็ตาม
แต่การจัดหา Mi-28 นั้น นอกจากตัวเครื่องแล้วยังจำเป็นต้องมีการจัดหาอาวุธและอุปกรณ์ประกอบใหม่ทั้งหมด
โดยไม่สามารถใช้งานร่วมกับระบบอาวุธของ ฮ.จ.๑ AH-1F ที่ประจำการอยู่แล้วได้เลย
อีกทั้งกองทัพบกไทยยังไม่มีความคุ้นเคยกับระบบอาวุธทางอากาศของรัสเซียด้วย(Mi-17 ของ ทบ.ไม่ติดอาวุธ)
ซึ่งตัวเลือก ฮ.โจมตีในปัจจุบันมีหลายแบบที่สามารถใช้ระบบอาวุธร่วมกับ ฮ.ติดอาวุธที่ ศูนย์การบินทหารบกมีอยู่แล้ว
ทั้ง ฮ.จ.๑ AH-1F (ตัวอย่าง Boeing AH-64E และ Bell AH-1Z) และ ฮ.ลว./อว.๕๕๐ AS550 C3 (ตัวอย่าง Airbus Helicopters Tiger)ครับ
ถ้าเป็นอีกแนวล่ะครับ คือ มีประจำการ 2 แบบ จากทั้ง 2 ค่าย เลื่อกฝั่งตะวันตก 1 แบบ ฝั่งจีน รัสเซีย 1 แบบ ผมคิดว่าปกติทาง ทบ. ก็คงซื้ออาวุธ กระสุน จรวด อะไหล่ สำรองไว้ปริมาณไม่มาก ดังนั้นถ้าจะมีแบบใหม่ๆ ต่างค่ายก็คงไม่ยาก ที่อยากให้มี 2 ค่ายเพราะจะได้เปรียบเทียบดู และเรื่องจากวางตัวเป็นกลางไม่เอียงข้างใดข้างหนึ่ง ตัวอย่างก็มีหลายประเทศทำแบบนี้ เช่น ปากีสถาน อียิปต์ เป็นต้น
ฝั่งตะวันตก อาจเป็น Boeing AH-64E หรือ Bell AH-1Z จำนวน 4 เครื่อง
ฝั่งจีน รัสเซีย อาจเป็น Mi-28NE หรือ WZ10 จำนวน 4 เครื่อง
ปล. ไหนๆแล้วในการสั่งของตะวันตกขอรัฐบาล สั่งเพิ่มเผื่อทัพเรือซัก 3 เครื่องไว้ประจำเรือจักรีฯ
เอามาต่างค่ายแถมอย่างละหน่อย จะเอามาจัดแอร์โชว์เหรอครับ แหมๆไหนจะสำรองระบบอาวุธ ระบบอะไหล่ต่างๆอีก ปวดหัวตายกันพอดี