วันที่ 2 มิถุนายน 2016 อู่ต่อเรือ DSME ได้มีพิธีเรือฟริเกต FFX-II หรือชื่อเรือชั้น Daegu ลงน้ำ
http://www.navyrecognition.com/index.php?option=com_content&task=view&id=4067
http://www.janes.com/article/61012/dsme-launches-south-korea-s-first-ffx-ii-frigate
FFX-II พัฒนาต่อจากแบบเรือมาจากเรือฟริเกต FFX-I หรือเรือชั้น Incheon ยาว 122 เมตร กว้าง 14 เมตร ระวางขับน้ำสุงสุด 3,600 ตัน ใช้ระบบขับเคลื่อนแบบ CODLOG ทำความเร็วสุงสุดได้ 30 น๊อต
อาวุธที่ติดตั้งประกอบไปด้วย ปืนหลักขนาด 5 นิ้ว Mk.45 Mod 4 1 กระบอก Phalanx Block 1B CIWS 1 กระบอก ระบบแท่นยงทางดิ่ง KVLS จำนวน 16 cells (สำหรับจรวดปราบเรือดำน้ำ K-ASROC และจรวดต่อสู้อากาศยาน K-SAM ในอนาคต) นอกจากนี้ก็มีแท่นยิงตอร์ปิโดเบาแฝด 3 จำนวน 2 แท่น แท่นยิงจรวดต่อสู้เรือรบ SSM-700K Haeseong แฝด 4 จำนวน 2 แท่นยิง ลานจอดและโรงเก็บปรับปรุงให้รองรับเฮลิคอปเตอร์ปราบเรือดำน้ำขนาด 10 ตัน ( FFX-I ได้แค่ 7 ตัน) ชมภาพดีกว่าครับ เดี๋ยวคงมีตามมาอีกเพียบ
เรือฟริเกตของไทยหน้าตาประมาณนี้แหละครับ ที่น่าสังเกตคือตอนเราเซ็นสัญญาซื้อเรือเมื่อ 3 ปีก่อนโครงการนี้ยังไปไม่ถึงไหนเลย มาวันนี้เรือลำแรกต่อเสร็จแล้ว ส่วนของเราหลังจากแก้แบบเรืออยู่ 2 ปีกว่าก็เพิ่งทำพิธีวางกระดูกงู มันจะช้ามากไปนะทร.ที่รัก
ปล. อยากได้ปืน 5 นิ้วแท้หล่าวใใใ เห็นในเรือหลวงนเรศวรแล้วงามหยด มาเจอลำนี้ยิ่งชอบใจใหญ่ แต่คงหมดหวังแล้วใช้ Oto 76/62 ต่อไป >_<
ของเรากว่าจะสรุปกว่าจะแก้แบบใช้เวลาเยอะจริงๆ แต่ลำที่สองคงจะเร็วกว่านี้ครับ
ป.ล.งานของอู่เกาหลีเค้าดีจริงๆ
ลำที่สองนี่อยากให้ต่อในบ้านเราจังครับจะได้มั้ยน้อ แล้วของเรากับลำนี้มีอะไรแตกต่างกันตรงใหนบ้างอะครับ
ทร.ออกข่าวว่าจะมีการประกอบเรือลำที่ 2 .ในประเทศเรา แต่ไม่รู้ระดับไหนนะ เพราะเวลาเปลี่ยนใจคนเปลี่ยน
ส่วนตัวผมอยากได้เรือฟริเกตที่พร้อมรบเต็มที่ทันทีที่เข้าประจำการ ไม่ใช่เรือป่วยใช้งานไปซ่อมไปเพราะการสร้างมีปัญหา เนื่องจากต่อจากอู่ต่อเรือที่มีอุปกรณ์ไม่ได้มาตรฐาน อาวุธมีไว้ใช้ไม่ได้มีไว้ซ่อม
ประกอบเรือฟริเกตในบ้านเราแค่ 1 ลำ จะได้อะไรล่ะครับ ผมมองไม่เห็นเลยซักนิดเดียว ไว้อีก 5-10 ปีเราพร้อมจริงๆ ค่อยขึ้นโครงการต่อเรือคอร์เวตขนาด 2,500 ตันจำนวน 4 ลำ แบบนี้จะเป็นเรื่องเป็นราวมากกว่านะครับ
ผมว่ามันน่าจะเทียบเท่าไม่ก็เหนือกว่าฟริเกตเราหรือเปล่าครับ 5555 คงไม่น่าจะด้อยกว่า