30 มกราคม 2013 กองทัพเรือสิงคโปร์สั่งต่อเรือตรวจการณ์ไกลฝั่งรุ่นใหม่ซึ่งได้กำหนดชื่อว่า Littoral Mission Vessel (LMV) จำนวน 8 ลำ จากอู่ต่อเรือ ST Marine โดยมีบริษัท Saab Kockums AB ช่วยออกแบบร่วมในส่วนเสากระโดงหลัก เรือลำแรกสุดใช้เวลาต่อตัวเรือประมาณ 2 ปีก่อนทำพิธีปล่อยเรือลงน้ำในวันที่ 3 กรกฎาคม 2015 และใช้เวลาอีกประมาณ 11 เดือนในการติดตั้งระบบอาวุธและอุปกรณ์ทั้งหมด รวมทั้งการบูรณาการและการทดสอบเรือจนครบทุกขั้นตอน (เท่ากับใช้เวลาต่อเรือ 1 ลำประมาณ 3 ปี) และแล้ววันที่ 26 พฤษภาคม 2016 เรือลำแรกคือ RSS Independence ได้เข้าประจำการกับกองเรือที่ 182 โดยสังกัดอยู่ที่ฐานทัพเรือ Tuas
เรือ LMV ชั้น Independence ลำที่ 2 และ 3 คือ RSS Sovereignty ทำพิธีปล่อยลงน้ำแล้ว และ RSS Unity กำลังต่อตัวเรืออยู่ ส่วนเรืออีก 5 ลำมีแผนจะต่อให้เสร็จ และสามารถเข้าประจำการให้ได้ภายในปี 2020 ( ด้วยศักยภาพของอู่ต่อเรือในปัจจุบัน ผมคาดว่าน่าจะทำได้ทันตามเวลา ) กองทัพเรือสิงคโปร์เคยใช้ชื่อ Independence กับเรือรบของตัวเองมาก่อนแล้ว โดยเป็นเรือตรวจการณ์รุ่นที่ปรับปรุงจากแบบเรือ Vosper's 110 ft อีกที แบ่งออกเป็นรุ่น A ติดตั้งปืน Bofors 40/70 มม.ด้านหน้าและ Oerlikon 20 มม.ด้านท้าย ส่วนรุ่น B ติดตั้งปืน Oto Melara 76/62 Compact ทดแทนปืน Bofors 40/70 มม. เรือทั้ง 6 ลำเข้าประจำการช่วง 1970 ถึง 1972 และปลดระวางปลายทศวรรษที่ 90
คุณสมบัติโดยรวมของเรือ Littoral Mission Vessel (LMV) เป็นไปตามนี้ครับ
Displacement: 1,200 tons
Length: 80 m
Width: 12 m
Speed: 27 knots
Range: 3,000 nmi
Crew: 23-30
Armament:
1 x oto 76mm DP gun
1 x 25mm Mk 38 Mod 2 auto cannon in a stabilized Typhoon mount
2 x 12.7mm machine guns
12 x Mica VL Vertical launch AAW missiles
Aircraft:: Pad for one medium weigh helo (no hanger)
http://www.mindef.gov.sg/imindef/resourcelibrary/cyberpioneer/topics/articles/news/2016/may/27may16_news.html#.V017wCHfrIU
https://web.facebook.com/ngenghen/posts/1030614160365176
ข่าวเรือลำนี้ในอดีตครับ สิงคโปร์จะนำมาทดแทนเรือตรวจการณ์ชั้น Fearless ระวางขับน้ำ 500 ตันซึ่งมีอายุเพียง 20 ปีเท่านั้น ที่ยังใช้ปืน 76/62 รุ่นป้อมปืนกลมอยู่ อาจเป็นรุ่น Refurbished ที่นำของเก่ามาปรับปรังใหม่ก็ได้ สิงคโปร์ใช้ปืนรุ่นนี้ค่อนข้างเยอะน่าจะมีสำรองราชการอยู่พอสมควร
เรือตรวจการณ์เค้าติดอาวุธเยอะมากครับ นี่ถ้าติดจรวดโจมตีเรือเข้าไปจะเป็นเรือคอร์เวตที่ใช้ได้เลยครับ
ทร.สิงคโปร์มีเรือเร็วโจมตี(หรือที่เชาเรียกว่าเรือคอร์เวต)ชั้น Victory จำนวน 6 ลำ สามารถติดตั้งจรวดต่อสู้เรือรบฮาร์พูนได้ลำล่ะสุงสุด 8 นัด รวมเท่ากับ 48 นัด
ทร.สิงคโปร์มีเรือฟริเกตชั้น Formidable จำนวน 6 ลำ สามารถติดตั้งจรวดต่อสู้เรือรบฮาร์พูนได้ลำล่ะสุงสุด 24 นัด รวมเท่ากับ 144 นัด
เรือรบ 12 ลำสามารถติดตั้งจรวดต่อสู้เรือรบฮาร์พูนได้สุงสุด 48 + 144 = 192 นัด เอวัง
เรือตรวจการณ์รุ่นใหม่ของเขาจึงไม่จำเป็นต้องติดตั้งจรวดต่อสู้เรือรบ แต่อย่างใด
เสียดายที่ระบบ VLS บนเรือ Formidable ของเขาเป็นรุ่น Sylver A50 ไม่ใช่ Sylver A70 ไม่อย่างนั้นจะสามารถใส่จรวดร่อนโจมตีชายฝั่ง SCALP Naval ได้อีกนะเนี่ย เหอๆๆๆ
ภัยคุกคามน่ากลัวที่สุดสำหรับเรือตรวจการณ์ มิใช่เรือดำน้ำ หรือเรือเร็วโจมตีดอกครับ แต่เป็นเครื่องบินรบ ...................... เรือดำน้ำ มีไว้สกัดกองเรือที่มุ่งมิดีมิร้ายต่ออาณาบริเวณทะเลหรือแผ่นดินเป็นหลัก ส่วนเรือเร็วโจมตี ถ้าเปรียบเป็นเจ็ทก็คล้าย อินเทอร์เซปเตอร์ ..................
ถ้ามองเขี้ยวเล็บทางอากาศในภูมิภาค ไม่ว่า เวียตนาม มาเลย์ สิงคโปร์ และไทย ต่างมีอาวุธปราบเรือที่ยิงจากอากาศได้ทั้งนั้น .................... ภัยคุกคามของเรือตรวจการไกลฝั่ง จึงมิใช่จากเรือรบอีกต่อไป ความเสียหายจากเจ็ทความเร็วสูงติดอาวุธปล่อยนั้น รวดเร็ว และมีพิสัยไกลมากๆ ...................... ดังนั้น การเพิ่มขีดความสามารถการป้องกันภัยทางอากาศ จึงเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจการณ์ เข้าสู่พื้นที่ล่อแหลมชนิด ถากๆบริเวณพื้นที่โซนสีแดงได้เลยทีเดียว.................
นี่พี่สิงเล่นติดไมก้า ยิงตั้งให้ด้วย กริเปน หรือ เอฟ-18 ที่คิดจะตอแยกับพวกเธอคงต้องคิดหนัก เพราะเธอสอยโดรนบินเรียดน้ำที่ระยะ 12 กิโลเมตรลงได้ ใครคิดว่าหมูก็บ้าแล้ว................
เพิ่มเติมภายหลัง................ แนวความคิดในการใช้เรือตรวจการไกลฝั่ง(คอร์เวต)
1.ภารกิจยามสงบ ใช้ในการตรวจการณ์เพื่อความเรียบร้อยทางทะเล (ปราบปรามโจรสลัด)
2. ภารกิจป้องปราม ลว. ป้องกัน ในพื้นที่ขัดแย้ง ทำลายกองกำลังฝ่ายตรงข้ามลักษณะแทรกซึม สามารถป้องกันตัวเองจากการโจมตีทางอากาศ ได้ในระดับป้องกันภัยทางอากาศเป็นจุด
3.ภารกิจรบ จัดกำลังเป็นเรือป้องกันภัยทางอากาศของกองเรือ .....................
มันเยี่ยมจริงๆ
ต้องยอมรับครับว่า เสธฯ ที่วางแนวความคิดของสิงคโปร์นี่ เขามืออาชีพ มองศิลปการสงครามได้ขาดจริงๆ ...................... ผมรู้สึกชื่นชมตั้งแต่แนวความคิดในการจัดหาเรือ แอลพีดี ชุดใหญ่ มันลงตัวมากกับการงานทั้งภารกิจสงคราม และกึ่งสงครามอย่างเยี่ยมยอด ตามด้วยการจัดหาฟรีเกตสมรรถนสูงหนึ่งชุด ที่สมรรถนะโคตรสูงจริงๆ ชนิดรับมือสามมิติบ่มียั่น และท้ายสุดคือการจัดหาเรือตรวจการณ์ ข้อนี้คงต้องชมสุดๆ เพราะประเมินภัยคุกคามได้สอดคล้องเป็นจริง ................ ถ้าไม่นับอากาศนาวี และ เรือดำน้ำ ต้องยอมรับว่า เรือสามชนิดนี้ ทำให้สิงคโปร์ มีนาวานุภาพที่ก้าวล้ำกว่าเพื่อนบ้านจริงๆ............
ผมไม่ได้มีความรู้อะไรเกี่ยวกับทางทหารมากนัก ผมรู้แต่เพียงว่า สิงคโปร์เป็นชาติที่ไม่จริงใจกับประเทศอื่นๆในฐานะเพื่อนบ้านเท่าไหร่ และมักเอาผลประโยชน์ประเทศของตนเองเป็นหลัก แม้ทำให้ชาติอื่นฉิบหายก็ตาม ประเทศเล็กๆที่มีเรื่องแสบๆคันๆกับประเทศอื่นๆเสมอมา โดยเฉพาะประเทศไทย แม้นักกีฬาก็โอนสัญชาติมาสู้ชาติอื่นๆ ............นี่แหละสิงคโปร์
ครับ... ซึ่งก็คงมีไทยเพียงประเทศเดียวนี่แหล่ะครับ ที่จริงใจกับทุกประเทศไปหมด ไม่ว่ากับ ลาว เขมร พม่า และชาติอื่นๆ....
ประเทศไหนแถวนี้ (หรือที่จริงทั้งโลกเลยก็ได้) จริงใจกันบ้าง ก็หาประโยชน์เข้าประเทศทั้งนั้น (โดยมากประเทศที่พัฒนา/ทุจริตเยอะจะหาผลประโยชน์เข้ากลุ่มคนเล็กๆในประเทศ ฮา)
เรื่องนักกีฬาโอนสัญชาติก็เรื่องปกติหรือเปล่าครับ นักกีฬางั้นๆในบ้านเกิดตัวเองแต่อยากติดทีมชาติก็ไปเล่นให้ชาติอื่น เลยมีฝรั่งยุโรป/อเมริกาใต้แตะบอลให้ประเทศเอเชีย กับคนชื่อจี๊นจีน หน้าตาจี๊นจีนแต่เลนแบตเล่นปิงปองให้ประเทศในยุโรป ฮา
ติอาโก้ คุนญ่า คงไปเบียดตำแหน่งกับเนย์มาร์ลำบาก ไม่งั้นไม่มาเล่นให้ติมอร์ตะวันออกหรอกครับ
เอาเป็นว่าเป็นเจ้าภาพไม่ตัดสินโกงๆ (ไทยก็โกง) ก็ดีแล้ว ส่วนจะเอาชาวดาวอังคารมาเล่นก็ไม่ว่ากัน ฮา
เข้ามาเพิ่มลิงค์ที่ลงข้อมูลเรือลำนี้อย่างละเอียดที่สุด แต่ก็มีข้อผิดพลาดนิดๆหน่อยๆเช่นกันซึ่งเป็นเรื่องปรกติ ชอบระบบตรวจจับ 360 องศาเขานี้แหละ รวมทั้งเรดาร์ Thales NS100 3D surveillance radar ที่อยู่ใน อุตส่าห์ให้ SAAB มาช่วยจัดการเสากระโดงต้องมีดีสิน่า
http://daisetsuzan.blogspot.com/2015/07/bigger-meaner-and-leaner-singapores.html
VL-MICA vertical launch system ซึ่งออกแบบมาใช้งานโดยเฉพาะ ติดตั้งจรวดได้ 6, 12, 24 ท่อยิง ราคาถูกว่า Sylver VLS
เพิ่มเติม มีเรือตรวจการณ์ขนาด 550 ตัน ของ UAE ชั้น Falaj 2 ที่ติด VL Mica แบบ 3 ท่อยิงไว้ 2 ฝั่งรวมเป็น 6 ท่อยิง เพราะฉะนั้นรุ่นน้อยสุดก็น่าจะเป็น trio vertical launch units แหละครับ เรือลำนี้โหดมากใช้อาวุธและอุปกรณ์รุ่นที่ดีที่สุด ป้อมปืน 76/62 แบบ Full Stealth เชียวนะ ราคาก็โหดตามด้วยคือ 136 ล้านเหรียญ
พึ่งจะเห็นรูปท้ายเรือ มันสามารถปล่อยเรือเล็กลงทะเลได้อีก2ลำ (ถึงว่าลานจอดฮ. มันมาอยู่กลางๆลำเรือแปลกๆ) แนวคิดดีเลยครับ