ข่าวของ Defense-Studies.Blogspot
Reuters: Vietnam in Talk to Purchase about 12 Gripen or the Rafale Fighter
Theo Reuters, Phía Viแปt Nam ฤã thแปฑc hiแปn các cuแปc ฤàm phán sฦก bแป vแปi tแบญp ฤoàn Saab cแปงa Thแปฅy
Trong bแบฃn tin phát ngày 22/4/2016, hãng tin Reuters (Anh) cho rแบฑng, bแปi vì Trung Quแปc ngày càng có nhแปฏng hành ฤแปng quyแบฟt ฤoán hฦกn trên Biแปn ฤông, nên các quแปc gia ฤông Nam Á sแบฝ ฤแบฉy nhanh hฦกn nแป lแปฑc thay thแบฟ các ฤแปi máy bay chiแบฟn ฤแบฅu lแปi thแปi và mแป ฤฦฐแปng vแปi các giao dแปch nhiแปu tแปท USD có lแปฃi cho nhiแปu tแบญp ฤoàn sแบฃn xuแบฅt vลฉ khí lแปn.
Cลฉng theo Reuters, mแบทc dù ngân sách quแปc phòng cแปงa các quแปc gia trong khu vแปฑc ฤông Nam Á khá eo hแบนp, tuy nhiên hแป ฤang hแบฟt sแปฉc "bแบญn rแปn mua sแบฏm" sau thแปi gian 5 nฤm tแบกm lแบฏng. Nguแปn tin cแบญy tแปซ ngành công nghiแปp quแปc phòng và thân cแบญn vแปi các chính phแปง cho biแบฟt rแบฑng, trong nhแปฏng tháng tiแบฟp theo có thแป chแปฉng kiแบฟn mแปt sแป giao dแปch nhiแปu tแปท USD ฤแบฟn tแปซ Malaysia và Viแปt Nam.
Tแบกi triแปn lãm vลฉ khí ฤฦฐแปฃc tแป chแปฉc tแบกi Kuala Lumpur tuแบงn này sแบฝ thu hút ฤông ฤแบฃo ngฦฐแปi mua và các nhà cung cแบฅp vลฉ khí nhฦฐ Nga, Pháp, Anh, Trung Quแปc, Pakistan và Mแปน. ฤây là sแปฑ kiแปn ฤฦฐแปฃc tแป chแปฉc hai nฤm mแปt lแบงn, nhแปฏng ngฦฐแปi tham dแปฑ ฤฦฐแปฃc cho là sแบฝ "náo nhiแปt" hฦกn bao giแป hแบฟt.
Malaysia ฤang lên kแบฟ hoแบกch thay thแบฟ các máy bay chiแบฟn ฤแบฅu MiG-29, sau nhiแปu nฤm bแป trì hoãn. Kuala Lumpur có thแป ฤแบทt mua ฤแบฟn 18 máy bay phแบฃn lแปฑc, mแปt thแปa thuแบญn có khแบฃ nฤng ฤแบกt trแป giá hฦกn 2,5 tแปท USD, mแปt nguแปn tin ฤáng tin cแบญy tแปซ ngành công nghiแปp quแปc phòng cho biแบฟt vแปi Reuters.
Các tùy chแปn khác bao gแปm các loแบกi máy bay chiแบฟn ฤแบฅu nhฦฐ: Gripen cแปงa Saab, Typhoon cแปงa Eurofighter, Sukhoi Su-30 cแปงa Nga, và JF-17 cแปงa liên doanh Trung Quแปc -Pakistan. Phía Pháp khá lแบกc quan vแป khแบฃ nฤng thแบฏng thแบงu ฤแปi vแปi dòng máy bay Rafales, nhฦฐng các nhà thแบงu khác cลฉng có nhแปฏng hy vแปng cแปงa hแป.
"Chúng tôi ฤang hy vแปng sแบฝ cung cแบฅp cho Malaysia 9 máy bay Typhoon", John Brosnan, ngฦฐแปi ฤแปฉng ฤแบงu tแบญp ฤoàn BAE Systemscho biแบฟt.
Bแป Quแปc phòng Malaysia ฤã không ฤฦฐa ra bình luแบญn nào vแป các cuแปc ฤàm phán.
Reuters cho biแบฟt thêm Viแปt Nam, có thแป cลฉng ฤang lแปฑa chแปn nhà cung cแบฅp mแปi thay vì ฤแปi tác truyแปn thแปng là Nga nên Viแปt Nam sแบฝ là mแปt trong sแป nhแปฏng khách hàng vลฉ khí tiแบฟp theo cแปงa các tแบญp ฤoàn sแบฃn xuแบฅt vลฉ khí phฦฐฦกng Tây.
Mแปt sแป nguแปn tin giแบฅu tên cho biแบฟt, phía Viแปt Nam ฤã thแปฑc hiแปn các cuแปc ฤàm phán sฦก bแป vแปi tแบญp ฤoàn Saab cแปงa Thแปฅy ฤiแปn và Dassault cแปงa Pháp ฤแป lên kแบฟ hoแบกch mua sแบฏm ít nhแบฅt 12 máy bay chiแบฟn ฤแบฅu. Thông tin này rò rแป tแปซ tแปซ các quan chแปฉc trong ngành công nghiแปp quแปc phòng và mแปt nguแปn tin riêng biแปt, quen thuแปc trong các cuแปc ฤàm phán vแปi chính phแปง cho biแบฟt.
Nguแปn tin tแปซ ngành công nghiแปp quแปc phòng cho biแบฟt, Viแปt Nam cลฉng ฤang ฤàm phán vแปi Moskva ฤแป trang bแป vài chiแบฟc tiêm kích Su-35. Trong khi ฤó các quan chแปฉc cแปงa tแบญp ฤoàn xuแบฅt khแบฉu vลฉ khí Nga Rosoboronexport ฤã tแปซ chแปi bình luแบญn vแป bแบฅt kแปณ cuแปc ฤàm phán nào vแปi Viแปt Nam.
Các quan chแปฉc Viแปt Nam hiแบฟm khi nhแบญn xét vแป vแบฅn ฤแป mua sแบฏm trang bแป vลฉ khí, và không ฤฦฐa ra bình luแบญn nào vแป các câu hแปi cแปงa Reuters.
Hแป Trung Nghฤฉa (lฦฐแปฃc dแปch)
ซึ่งแบบของ เครื่องบิน ก็คงเป็นระหว่าง JAS-39 กับ Rafale
คราวนี้ เราก็คงต้องลองมา.....เดา.....โดยใช้การวิเคราะห์ ด้วยเหตุผลส่วนตัว...ท่านคิดว่า ใครจะได้ ดีล นี้ไป....
ซึ่งเมื่อผมลองทำข้อมูลดู...ก็นับว่า สูสี กันมาก...สำหรับ...Fighter ลำใหม่ ของ ทอ.เวียดนาม ซึ่งไม่เคยมีใช้ระบบเครื่องบินรบไอพ่นจากฝั่งตะวันตก เลย...
แบบข้อมูลคร่าว ๆ...
ผมให้คะแนน...JAS-39 จะเป็นผู้ได้ดีล นี้ไป...แม้อาจจะต้องสูญเสีย ความสามารถ บางอย่างไปบ้าง แต่ก็ไม่น่าจะหนักหนา สาหัส อะไร...
ด้วยเหตุจำกัดที่ว่า...สหรัฐ จะยอม ขายอาวุธให้กับ เวียดนาม หรือไม่ ?
ข้อได้เปรียบของ Rafale ที่สำคัญ คือ ทอ.เวียดนาม จะมีระบบอาวุธครบทุก มิติ ที่ บ.ขับไล่สมรรถนะสูง จะต้องมี...ซึ่งเป็นข้อ เสียเปรียบของ JAS-39 ที่มีข้อจำกัด ที่ระบบอาวุธหลัก จะต้องผ่านการอนุมัติจาก สหรัฐ...
แต่สิ่งที่ JAS-39 จะสามารถเอาชนะได้อย่าง ฉิวเฉียด คือ การเปลี่ยนแบบจาก บ.ขับไล่ ฝั่ง รัสเซีย ไป ฝั่งตะวันตก...JAS-39 จะเป็น บ.ขับไล่ เปลี่ยนแบบ ที่เหมาะสมกว่า...ทั้งแบบคันบังคับ การซ่อมบำรุง ความยุ่งยาก ซับซ้อน ที่ Rafale คงจะเสียคะแนนตรงนี้ไปให้ JAS-39...
ในเบื้องต้น ที่ ทอ.เวียดนาม หาประสบการณ์ จากการเปลี่ยนแบบ บ.ขับไล่ จาก รัสเซีย เป็น ฝั่ง ตะวันตก...การมีระบบอาวุธพื้นฐาน เช่น AAM คือ IRIS-T (ไม่ต้องพึ่ง AIM-9) กับ ระเบิดขนาดต่าง ๆ และ ASM แบบ RBS-15F ก็น่าจะเพียงพอในคราวแรก...ส่วนที่เหลือ คือ BVR ที่อาจจะใช้ Darby ทดแทน AIM-120 หรือ อาจจะรอ Meteor ก็อาจจะพอดีกับ ความชำนาญของนักบินพร้อมรบที่มีเพียงพอ หลังจากเข้าประจำการแล้ว...แล้วค่อยจัดหาระบบอาวุธ BVR หรือ Smart Bomb ต่าง ๆ เข้ามาเสริมในภายหลัง...
งานนี้รถJASมาวินแหง
ผมคิดว่าเวียดนามน่าจะให้นำ้หนักเรื่องการปรับเปลี่ยนจากค่ายรัสเซียไปเป็นค่ายตะวันตก กับเรื่องการซ่อมบำรุงกับค่าใช้จ่ายมากกว่า เพราะสิ่งที่Rafaleทำได้SU30ที่มีสามารถทำได้ดีกว่า ทำไมจะต้องซื้อมาให้ซำ้ซัอนกัน ที่เวียดนามต้องการน่าจะมาทดแทนMig21มากกว่า
สำหรับ ฝูงนี้ ผมคิดว่า...ทอ.เวียดนาม น่าจะมองเรื่อง ภัยคุกคามในทะเลจีนใต้ จาก หมู่เกาะ สแปรชลี่ย์ เป็นเป้าหลัก...
นั่น หมายถึง การสื่อสาร ระหว่าง สหรัฐ ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย และ ฟิลิปปินส์...หรือ การรบร่วม กรณีเกิดความตึงเครียดใน บริเวณกับ ประเทศจีน น่ะครับ...
ส่วน SU-27 และ SU-30 คงเป็นกำลังหลักของ กองทัพอากาศ ในภัยคุกคามเฉพาะภายใน เน้น การป้องกันตนเอง...
คงจะได้เห็นการฝึกร่วม ระหว่าง
F-18 ของ สหรัฐ ออสเตรเลีย มาเลเซีย
F-16 ของ อินโดนีเซีย
F/A-50 ของ ฟิลิปปินส์
และ JAS-39 หรือ Rafale ของ เวียดนาม
ส่วน ไทย คงเป็นหนังหน้า ให้ จีน...แต่ไม่ใช่ หนังหน้าของ AEC...(เพราะ เรากำลังได้เรือดำน้ำจีน มา...เป็นความภาคภูมิใจของ กองทัพเรือ...ซึ่ง เมื่อ พันธมิตรใน AEC และ Nato จับ ความเคลื่อนไหวของเรือดำน้ำได้...คงสงสัยว่า เป็น เรือดำน้ำ ไทย หรือ จีน น่ะ...)
ผมว่าตอนนี้เวียดนามไม่มีปัญหากับการซื้อของอเมริกาแน่นอน
กลับมาจู๋จี๋กันได้พักนึงแล้ว
หลังๆมานี้เวียดนามปรับการซื้ออาวุธจากค่ายตะวันตกเยอะขึ้น ยังมีที่ซื้อจากรัสเซียหลักๆคือเรือดำน้ำกับเรือรบ ซึ่งเป็นดีลทำมานานสักพักแล้ว
ราฟาลดูจะแหวกแนวไปหน่อย เนื่องจากไม่เคยซื้ออะไรของฝัรงเศสเลย
สำหรับ อาวุธ จาก สหรัฐ ที่จะขายให้ เวียดนาม ผมว่า คงเป็น อาวุธพื้นฐาน เช่น P-3 สำหรับ ลาดตระเวณ ทางทะเล..อย่าง ระบบอาวุธ มิสไซด์ ต่าง ๆ คิดว่า สหรัฐ คงยังไม่น่าจะรองรับให้ขนาดนั้น ครับ...แต่อาจจะให้ไปจัดหาแบบ อ้อม ๆ จากประเทศพันธมิตร สหรัฐ...เช่น อุปกรณ์ชิ้นส่วนบางอย่างที่เป็นส่วนประกอบ ก็อาจจะอนุโลมไป...แต่ไม่น่าจะใช่ Made in USA...น่ะครับ...
นอกเรื่องนิดเดียวแต่ไม่นอกประเทศ ขอแจมเลยแล้วกันนะครับ
Gepard-class 3.9 frigate ลำที่ 3 และ 4 ของเวียตนามสร้างในรัสเซียใกล้เสร็จสมบรูณ์แล้ว เหมือนเดิมครับคือยังไม่มีอาวุธปราบเรือดำน้ำและโซนาร์ สามารถทำการรบได้ 2 มิติเช่นเคย
ส่วนนี่คือเรือOPV DN-2000 Class ขนาด 2,500 ตันลำที่ 4 ซึ่งต่อเองภายในประเทศ ลำแรกปล่อยลงน้ำน่าจะทีหลังเรือหลวงกระบี่ด้วยซ้ำไป เหอๆๆๆๆ
ข่าวต่อไปฟังหูไว้หูครับ เครื่องบินลาดตระเวณทางทะเล+ปราบเรือดำน้ำ S-3 Viking ที่สำรองราชการอยู่ในทะเลทราย อาจจะได้กลับมาอีกครั้ง โดยมีลูกค้า 2 รายในเอเชียให้ความสนใจคือ เกาหลีใต้(เป็นเรื่องเป็นราวมาก)และเวียตนาม ก็ว่ากันไปครับ
ข่าวที่น่าแปลกใจคือ กองทัพเรือเวียตนามสนใจซื้อเรือฟริเกต(คอร์เวตหรือพิฆาตซักอย่างสิน่า)ปราบเรือดำน้ำชั้น P28 หรือ Kamorta จากอินเดียมากถึง 6 ลำ ใช้คำว่า ordered ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าซื้อแล้วหรือไม่
http://www.todaynews24h.com/vietnam-ordered-stealth-destroyers-p28-of-india/
ดูทรงน่าจะต้องการแค่1-2ฝูงในภารกิจโจมตีทางทะเล เพราะบนบกเวียดนามเลือกทั้งระบบSAMและเครื่องบินจากรัสเซียเป็นกำลังหลัก
จริงๆระยะปฏิบัติการก็ไม่มากจากฝั่งก็ได้ทั้งสองแบบ แต่ถ้าเป็นบินไปยิงแล้วกลับบ้านเลยก็ใช้กริเพ้นก็ได้ แต่ถ้าต้องมีคุ้มกันหรือครองอากาศ กริเพ้นเป็นรอง ราฟาล
เวียดนามคงไม่อยากใช้อาวุธปล่อยของรัสเซียที่จีนก็มีใช้ เพราะอาจประเมินศักยภาพได้ จึงเลือกจากยุโรปที่แถบนี้ไม่ค่อยมีใช้กัน
ซึ่งถ้าเอาแบบจีนกดดันไม่ได้คงมีแต่ฝรั่งเศสมั้ง เพราะจีนก็เคยกดดันสหรัฐกรณีไต้หวันมาบ้าง
ส่วนเรืออินเดียก็โดยเฉพาะระบบอาวุธก็เหมือนกับที่เวียดนามมีแล
แหมม...ท่าน superboy...สำหรับ S-3 ไวกิ้ง...เห็นมีข่าวลือ กาลครั้งหนึ่ง นานมาแล้ว...นอกจากมี เกาหลีใต้ ที่สนใจแล้ว...
ก็เห็นว่า ทีมช้างเผือก ก็สนใจอยู่เหมือนกัน...แต่ไฉนสุดท้าย ชื่อกลายเป็น เวียดนาม ไปได้ซะนี่...
ตอนนั้น ก็จิ้นกันไป...จำไม่ได้แล้วว่า สมาชิกท่านใด มาปล่อยข่าวลือ...ฮ่า ๆ ๆ ๆ
ส่วนเรือรบจาก อินเดีย...ผมว่า เวียดนาม สนใจ...บรามอส...มากกว่า หรือเปล่า ? ก็เลยซื้อเรือรบ อินเดีย ซะ..เพราะ ระบบอาวุธอื่น ๆ ก็ ผสม ๆ ตะวันตก กับ รัสเซีย อยู่แล้ว...
ส่วนเรื่องใต้น้ำ คงปล่อยให้เป็นหน้าที่หลักของ เรือดำน้ำ ชั้น กิโล...ไปเลย...ก็อาจจะมองได้ ระบบบูรณาการของ ทร.เวียดนาม ยังไม่มีเท่าไหร่นัก...
ซื้ออาวุธแบบ หน้าที่ใด หน้าที่หนึ่ง ไปเลย...ดังนั้น...สิ่งที่ น่ากังวล สำหรับ กองทัพเรือเวียดนาม ก็น่าจะเป็น ระบบตรวจจับ ที่จะสามารถพิสูจน์ ความเป็นภัยคุกคามได้ ทันต่อการเข้าควบคุมสถานะการณ์...แม้ จะมี เรือดำน้ำ มาต่อกรณ์ กับ เรือดำน้ำ ฝ่ายตรงข้าม...แต่ถ้า ไม่สามารถตรวจจับได้ว่า..มีเรือดำน้ำมาเพ่นพ่าน อยู่ปากทางแล้ว...เรือดำน้ำ ที่มีอยู่ ก็อาจจะไม่มีประโยชน์เลยก็ได้...
ดังนั้น กำลังทางอากาศประสิทธิภาพสูง ในทะเล จึงอาจจะเป็นคำตอบ สำหรับรองรับ ความผิดพลาดที่เกิดจาก ช่องโหว่ ในความสามารถตรวจจับทางทะเล ก็ได้ครับ...S-3 ไวกิ้ง...จึงอาจจะเป็นทางเลือกที่ดีในช่องโหว่ ข้างต้น....
ส่วนตัวก็สงสัยเช่นกันจำเป็นต้อง S-3 ด้วยรึ ใช้C-295 ก็น่าจะได้มั้งซ่อมบำรุง ค่าเชื้อเพลิงน่าจะถูกกว่า ขาดแค่เรื่องความคล่องตัว
S-3 ไวกิ้ง...เป็น บ.ไอพ่น ปราบเรือดำน้ำ ที่ เอนกประสงค์มากครับ...
การเอาตัวรอด สูงกว่า P-3 และ C-295 นะครับ...ทั้งในเรื่องความเร็ว ที่น่าจะตอบสนองกับเหตุการณ์...รวมถึงระยะการปฏิบัติการที่ก็เพียงพอ...
ซึ่งผมว่า P-8 ก็คงพัฒนาคุณลักษณะต่อยอดมาจากกคุณสมบัติเด่นของ S-3...
รวมถึงใช้อาวุธได้หลากหลาย ตั้งแต่ ทุ่นระเบิด ตอร์ปิโด ฮาร์พูน มาเวอริค ระเบิด Rocket Pod รวมถึงการปล่อย โซโนบุย...
รวมถึงติดตั้ง กระเปาะต่อต้านอิเลคทรอนิคส์ ได้อีก...ผมว่า คล้ายกับเป็น A-10 ในทะเล ที่ A-10 จะเป็น บ.ต่อต้านรถถัง...ส่วน S-3 ก็เป็น บ.ต่อต้านเรือดำน้ำ....
ผมมองดูว่า S-3 จำนวน 1 ลำ นี่ ก็เหมือนได้ทั้ง S-2 + P-3 อยู่ใน 1 ลำ...แถมติดตั้งตอร์ปิโดในลำตัว...มีท่อยิง โซโนบุย ท้ายเครื่อง...ดูแล้วเป็น นักล่า...มากกว่า ลาดตระเวณติดอาวุธ...
ถ้าเราสังเกตุ เรือบรรทุกเครื่องบินของสหรัฐ ในอนาคต...จะไม่เห็น บ.ไอพ่น ปราบเรือดำน้ำ แบบ S-3 ประจำบนเรือแล้ว...ซึ่ง ผมคิดว่า เขาคงมอบหน้าที่ให้กับ P-8 แทน S-3...เพื่อลดความสิ้นเปลืองในเรื่องปริมาณ แทน...
เพราะ P-8 คงจะสามารถบินได้นาน และระยะไกลเพียงพอ กับ การใช้ฐานบินบนฝั่ง เพื่อไปสนับสนุนกับ กองเรือบรรทุกเครื่องบิน...ซึ่ง การใช้ P-8 จำนวน 1 ลำ อาจจะประสิทธิภาพเทียบเท่ากับ ปฏิบัติการด้วย S-3 จำนวน 4 ลำ (1 ฝูงบิน) (คิดเอาเอง)
ดังนั้น ผมว่า ประเทศที่เบี้ยน้อย ไม่สามารถจัดหา P-8 ได้...ถ้าได้ S-3 มาแทน ก็น่าจะดีกว่าครับ...คือ มอบภาระกิจ ปราบเรือดำน้ำให้ไปเลย...
ส่วน C-295 ก็ใช้ในการ ลาดตระเวณ เพียงอย่างเดียว สำหรับการขยายระยะปฏิบัติการให้ครอบคลุม...
Do-228 หรือ C-295 ตรวจพบบริเวณต้องสงสัย โดยในขณะนั้น ทำหน้าที่ ลาดตระเวณ อยู่ ไม่ได้ติดอาวุธไปด้วย...เป็นภาระกิจลาดตระเวณปกติ...
กองบินทหารเรือ ก็สามารถส่ง S-3 ออกไป ล่าทำลาย ติด โซโนบุย กับ ตอร์ปิโดในห้องเก็บ โดยใช้เวลาที่ไม่นาน ด้วยความเร็วของ เครื่องยนต์ไอพ่น...ถ้า เทียบกับต้องส่ง C-295 ขึ้นไปอีกลำ เพื่อให้ไปถึงจุดต้องสงสัย...ใครจะถึงข้าศึก ก่อนกัน....
ความเร็วสูงสุด S-3 ที่ 440 นอต
ความเร็วสูงสุด C-295 ที่ 331 นอต
ความเร็วสูงสุด P-3 ที่ 411 นอต ( เพราะใช้ 4 เครื่องยนต์ )
ดูแล้ว หลักนิยม ของ บ.ปราบเรือดำน้ำ ความเร็ว มีส่วนสำคัญอยู่เหมือนกัน
บ.ปราบเรือดำน้ำ ที่ ครบเครื่อง...
แล้ว su-35 ละครับ.... เวียดนามยังจะจัดหาอยู่หรือเปล่า ถ้าเวียดนามเลือก jas-39 จริงก็คงรุ่น C/D ทอ เรานี่หมดเอกลักษณ์เลย 5555 ที่มีเครื่องปีกสามเหลี่ยมประจำการที่เดียวในแถบนี้ กองทัพเพื่อนบ้านนี่ยิ่งใหญ่ขึ้นทุกวัน
C235 C295 ก็ครบเครื่องนา แต่ราคาก็เอาเรื่องถ้าจะเอาครบ บังคลาเทศจัดเต็มก็ราวๆุ60ล้านเหรียญต่อลำ
เป็นรองเรื่องความคล่องตัวกับเรื่องอาวุธบางส่วน ถ้ากลุ่มอาวุธหลักเช่นระเบิด จรวดต่อต้านเรือ ตอร์ปิโด โซโนบุย นี่ก็พกไปได้ในลำเดียว แต่เรื่องความทันสมัยและระบบการเชื่อมโยงข้อมูลในการรบนี่อัดเต็มลำ
ก็น่าจะความคุ้นเคยและยุทธวิธีที่ไม่เหมือนกัน ตอนนี้หลายชาติหันไปใช้เครื่องบินใบพัดใส่ระบบเยอะๆกันมาก
ถ้าเป็นการรบอย่างเต็มรูปแแบบเหมือนสมัยสงครามเย็น เครื่องบินปราบเรือดำน้ำที่สามารถเอาตัวรอดได้จริงก็ S-3 Viking นี่แหละครับ ใครไม่เชื่อให้อม Black lable แล้วมาบ้วนใส่หน้าผมได้เลย จัดไป
แต่ที่ปัจจุบันเครื่องบินมันเปลี่ยนไปโดยใช้เครื่องบินลำเลียงมาทำหน้าที่แทน เพราะความน่าจะเป็นที่จะเกิดสหภาพโซเวียตและสนธิสัญญาวอร์ซอมันไม่มีแล้ว ไอ้ประเภทกองเรือดำน้ำมาพร้อมเรือรบและฝูงบินนี่คงไม่มีหรอก ใช้คำว่าทั้งโลกเลยไม่เอาเครื่องบินแบบ S-3 อีกแล้วก็ได้ (แต่เกาหลียังประกาศสงครามอยู่เลย ผมว่าก็เหมาะสมดีนะ) ฝ่ายจีนก็เลยเอาอย่างค่ายตะวันตกไปด้วยซึ่งหลายประเทศก็เน้นใหญ่ ใหญ่ แล้วก็ใหญ่ไว้ก่อนเพื่อจะได้ออกบินได้ยาวนาน P-3 Orion นี่บางประเทศบอกว่าไม่ใหญ่พอนะครับ
ส่วนของประเทศเราผมแนะนำ S-2 Tracker ครับท่านจูดาส (แบบบราซิลเลย) จะเอาจากทะเลทรายหรือที่ของเราเองที่จอดเป็นซากอยู่มาปรับปรุงใหญ่เปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่ใช้งานได้อีก 20 ปี ผมนี่เคยมโนถึงตั้งแต่ปีที่แล้วเชียวนะ ค่าใช้จ่ายต่อเทียวน่าจะไม่แพง หรือมีเงินก็ดัดแปลงเป็น AEW ไปเลย วุ วุ วุ
http://thaimilitary.blogspot.com/2015/01/tracker-trader-tracer.html
S-3 นี่ถ้าเอาจริงจะประจำการได้สักกี่ปีครับ
เรื่อง Su-35 ผมว่าเวียดนามไม่เคยคิดจะซื้อเลยครับ มีแต่รัสเซียนั่งเทียนว่าประเทศนู้นนี้จะซื้อๆๆๆๆ จีนนี่มีข่าวปีละสองครั้งก็ไม่เห็นจะมีใครซื้อ
เท่าที่จำได้S-3จำนวนมากชั่วโมงบินยังไม่เยอะตัวถังยังดีอยู่ (ก๊ากกก...) อเมริกาจึงยังสำรองราชการเผื่อไว้ ปัญหาอาจจะอยู่ตรงเครื่องยนต์มากกว่า ว่าจะเลือกซ่อมบำรุงของเดิมซึ่งอย่างเก่งก็10 ปี หรือจะเปลี่ยนใหม่ไปเลยก็ 20 ปี หรืออีก 10 ปีค่อยเปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่ก็ว่ากันไปครับ
ส่วนเรื่องอุปกรณ์ตรวจจับและอาวุธติดตั้ง คงเป็นออปชั่นที่ต้องคุยกับอเมริกากันเป็นรายๆแหละครับ
จริงๆถ้าไม่เจอกองเรือระดับมหาอำนาจที่มีฝูงบินหรือSAMระยะไกลมาครองอากาศ ส่วนตัวก็ว่าไม่อาจต้องใช้แบบS-3
บ.โดยสารเครื่องไอพ่นแบบGlobal 5000/6000 นี่กำลังแจ่ม บินได้นาน ไกลและเร็วพอที่จะเข้าที่หมายและถอนตัวออกมา
ยิ่งใส่ชุดSwordfishจะแจ่มมาก จะได้ทำงานร่วมกับระบบกองทัพเรือเป็นเหมือนฐานลอยฟ้าด้วย คอยบินเก็บและตรวจจับข้อมูล
ทร. เอามาเถอะครับ 6 ตัว ไม่ต้องคิดมาก เปลี่ยนเครื่องยนต์ซะให้เรียบร้อย ปรับปรุงโครงสร้าง ไวร์ริ่งสายไฟต่างๆ อุปกรณ์ช่วยบิน ระบบตรวจจับ ระบบอาวุธ เอาให้ครบ ใช้ไปอีกยี่สิบปี คู่ไปกับดอร์เนียร์ ปีกตรึงแค่ 2 แบบ + อีอาร์เจ อีก 1 แบบพอแล้วครับ (ที-337 ปลด พี-3 ปลด ฟลอคเกอร์ ปลด) มีโมฯ 1/48 ของ Italiary อยู่ตัวนึงจะได้ฤกษ์เอามาปั้นซะที ได้มาตั้งกะปี 2004 ป่านนี้สติ๊กเกอร์วายวอดหมดแล้ว
เงินก็เอามาจากโครงการเรือ ส. จีนที่จะถูกยกเลิกในไม่ช้านี้ (แช่งครับ) เอามาซื้อ บ. ซื้อ ฮ. ซื้อเรือผิวน้ำ ได้ตั้งหลายลำ แถมด้วยปรับปรุงบ้านพักบ้านแถวของกำลังพลในฐานได้หลายร้อยยูนิตเลยนะครับ
ส่วนโครงการเรือ ส. เว้นวรรคไปสัก 4-5 ปี ค่อยมาปัดฝุ่นกันใหม่ น่าจะมีตัวเลือกที่เหมาะสมมากขึ้นด้วย สวดมนต์ไหว์พระขอพรให้กระแสเรือจีนใน ทร. หรือ กห. จางหายไปโดยเร็วด้วยเทอญ เพี้ยง !
เรือชั้นKamortaเดิมๆไม่มีอาวุธต่อต้านเรือผิวน้ำเลย ถ้าจะปรับปรุงให้ติดBrahMosผมว่าต้องขยับขยายเยอะนะครับ สู้ไปซื้อเรือชั้น Grigorovich มาจากรัสเซียเหมือนGepardดีกว่า
ผมเดาว่าต้องการเสริมประสิทธิภาพการต่อต้านเรือดำน้ำนี่ล่ะครับ เพราะKamortaเป็นเรือที่ออกแบบมาปราบเรือดำน้ำโดยตรง
ส่วนบ.MPAพี่ไทยอาจจะมีอีกตัวเลือกนะครับ SC-130J ไง เผื่อทอ.ซื้อC-130Jจะได้พอช่วยเรื่องการฝึกการซ่อมบำรุงอะไรได้ (เอาฮานะครับ เพราะSC-130Jดูท่าจะขายไม่ออก)
S-3 A มือสองไม่ค่อยเห็นด้วยครับ มีปัญหาเรื่องอะไหล่ในระยะยาวแน่ๆกลัวซ้ำรอย A-7 สู้เอา พวก MPA อย่าง CN 295 หรือ sword fish ไปเลยยังดีกว่าครับ แช่งให้เรือดำน้ำจีนมันจม แล้วจัดอากาศยานปราบ ด แท้ๆซัก 3-4 ลำ ดีเสียกว่าครับ
ที่เชียร์ S-3B เพราะ หามาเพียง 1...บ.แบบ ทูคาโน่ ก็ไม่ต้องจัดหา...การสนับสนุน นาวิกฯ ยกพล ขึ้นหาด...ใช้ S-3 เปิดหาด บินโจมตี ทิ้งระเบิด เอาไปผสมกับ ทอ. อาจจะเท่ กว่า เพราะ C-295 ทำไม่ได้...กรณี เกิดสงคราม เรือผิวน้ำ ติดภาระกิจ ไม่สามารถมารักษาปากน้ำได้...ก็ให้ S-3B ติด ฮาร์พูน ไป ยิงเรือข้าศึก...ผมว่าก็เท่กว่า C-295 แน่...เพราะ มีระบบป้องกันตัวเองสูง
หรือถ้า ทร. ยังจัดหา เรือดำน้ำ ไม่ได้....เกิดปรากฎ เรือดำน้ำ ไม่ปรากฎสัญชาติ มาโผล่กล้องตาเรือ ในอ่าวไทย....ก็ส่ง เรือชุด นเรศวร และเรือฟริเกตสมรรถนะสูง ออกไล่ล่าด้วย โดยมี S-3B ผสมการไล่ล่าด้วย...ผมว่า มันน่ากลัวกว่า C-295 นะ...เพราะ ความเร็วเดินทาง ของ S-3B ก็ประมาณ 300 กว่านอต เกือบเท่าความเร็วสูงสุดของ C-295 แล้ว...ความครอบคลุม การตรวจจับเป้าหมายจะทำได้เร็วกว่า...คือ ถ้าฝ่ายไม่ปรากฎสัญชาติหนีช้า อาจจะซวยได้...ในขณะที่ C-295 กว่าจะไปถึงที่เกิดเหตุ...ฝ่ายที่ไม่ปรากฎสัญชาติ อาจจะหนีออกน่านน้ำไปแล้วก็ได้ครับ...
ความคิดต่างกันได้ ยกเว้นที่เหมือนกันคือ...
แช่ง..แช่ง..แช่ง เรือจีนให้ล่ม ครับ ฮ่ะๆๆๆๆ
อืมม ชักเห็นด้วยแล้วละครับ ว่าโยกงบที่จะจัดหาโรงงิ้ว มาเล่นที่อ่าวไทย เอาไปปรับปรุงส่วนอื่นดีกว่าครับ
เช่นเอางบไปจัดหา VLS มาติดที่ รล.จักรีฯปรับปรุงให้สามารถทำการรบหรือบัญช่การรบได้ทั้ง 3 มิติ เหมาะกับเป็นเรือหลวง หาฮ.ที่ติดอาวุธปราบเรือดำน้ำที่สมบูรณ์ครบถ้วน มาจอดบนเรือจักรีฯ หรือ เอางบมาต่อ LPD เพิ่มเติม จาก ร.อ่างทองก็ดีครับ ผ่านไป 4-5 ปี อาจจะมีตัวเลือกเรือดำน้ำที่ดีกว่านี้ ไม่จำเป็นต้องมากล้ำกลืนฝืนทนใช้ของที่ไม่รู้ว่าคุณภาพจะดีขนาดไหน
การจะให้ยกเลิกโครงการ ส. จีนแล้วเอาเงินมาจัดโครงการอื่นคงยากละครับ เพราะมีคนอยากจะให้ทร. ระงับโครงการต่างๆ ของตัวเองเพื่อจะได้โยกเงินมาซื้อเรือดำน้ำเทพๆ สามลำครับ สามารถดำน้ำไม่โผล่ได้ 21 วัน ยังครับ ยังไม่จบแค่นั้น วันที่ 22 ผ่านไป วันที่ 23 ผ่านไปก็ยังไม่โผล่ จนหนึ่งเดือนก็แล้ว สองเดือนก็แล้วก็ยังไม่โผล่ ฮา อันหลังนี่ล้อเล่นนะครับ
ผมเห็นตอนนี้ตัวเลือกเรือดำน้ำดีๆก็มีเยอะนะ แต่ไม่เอาเอง...
ปล.ขอกราบทั่นซุปเปอร์บอยที่สามารถลากกระทู้จาก saab & dassault มาสู่เรือดำน้ำ ฮา
ขำท่าน tongwarit มันจะดำกันอะไรนานปานนั้น ;)
แหม่.... ผมก็ไม่คิดว่าเรือดำน้ำไทยจะตามมาหลอกหลอนกระทู้นี่ได้แฮะ ฮ่าๆๆๆ
ติดตามข่าวสารบ้านเมืองรอบโลก เป็นที่รู้กันว่า ตอนนี้ ทั้งโลก ต่างร่วมมือกันอัดจีน .................. การณ์นี้ ละแวกทะเลจีนใต้ นำทีมโดยพี่ใหญ่ กับลิ่วล้อซึ่งส่วนใหญ่ก็ขัดแย้งกรณีแย่งพื้นที่ .................. เวียตนามแม้อดีต จะเคยรบทัพอัดกับมะกันขนาดสาดเลือดเข้าตา แต่เวลานี้ขอบอกว่า จีนกลับกลายเป็นภัยคุกคามที่น่าสะพรึงเป็นที่สุด .................. กระทู้บน ทราบว่า ญี่ปุ่นใจดี สมนาคุณ บ.ตรวจการณ์พิสัยไกล(ขึ้น)ให้ฟิลิปินส์ บินตรวจหาเรือข้าศึกในทะเล ......................... ดังนั้น นาทีนี้ เป็นเรื่องง่ายมาก ที่มะกัน จะไฟเขียว สมนาคุณเวียตนามด้วย อินเตอร์เซปเตอร์ยุคที่4 อย่าง กริเป้น ไปครอง....................
หากมองย้อนไป ท่าทีของฝรั่งเศส ต่อ เหล่าพี่เบิ้มตะวันตก ดูแปลกๆ................เห็นได้จากความร่วมมือการพัฒนาอาวุธ ลุ่มๆดอนๆ ............เคยวิจัยพัฒนา บ.สลาตันทอร์เนโด ก็ถอนตัว มาทำมิราจ 2000 ล่าสุด โครงการณ์ไต้ฝุ่น ก็ทิ้ง ชาติยุโรปอื่น มาทำ ราฟาล................. ครั้งสงครามฟลอคแลนด์ ท่ามกลางความตึงเครียด รัฐบาลปารีส อนุมัติขาย บ.ซุปแปร์ เอตองดาร์ด ให้อาเยนติน่า จนผู้ดีต้องอึ้ง ได้แต่ลืมตาปริบๆ ................... แต่ที่สุดแสบไปกว่าคือ ทีมงานเดินทางไปแบบลับๆเพื่อ ให้เจ้านกเหล็ก มีขีดความสามารถติดตั้ง ปลาบินเพชฆาต เอ็มๆ-39 ได้เสย(เฉย) ชนิดเรื่องแดงทีหลัง ผู้ดีก็เสียเรือไปถึง 2 ลำ........................ เมื่อก่อน ทอ.ไทย แห่เจ้าต่อ มหาภัยแปดลำ แต่วอชิงตันปฏิเสธติด อำรามมาด้วย รัฐบาลไทยขู่ฟ่อ ถ้าไม่สนองนี้ซ ไอ จะหันไปหา มิราจ2000 ติดไมก้า.............
ผมว่า งานนี้ พี่เวียต แกฉลาด ที่จะเซ็ตตัวตั้งมาเป็นเครื่องต่อรอง...................... ถ้า ยู ไม่จัด กริเป้น ติดอำราม มาให้ ไอ จะหันไปหา ราฟาลติดไมก้า.................... แหม่ ฟังคล้ายๆบางประเทศ .... แต่น่าเศร้าเล็กๆ ตรงประเทศนั้นสุดท้ายก็ได้ เอฟ-16 มือสองไปครอง
ท่าน superboy...ข่าวใน Jane's บอกว่า เรือ Gepard ลำที่ 3 กับ 4 เป็น ชั้น ปราบเรือดำน้ำ นะครับ...
จะมีโซนาร์ ใต้ท้องเรือ และท่อยิงตอร์ปิโด แท่นคู่ กราบเรือ ซ้าย-ขวา และไม่แน่อาจจะมี VDS โซนาร์ ท้ายเรือ...
Ridzwan Rahmat, Singapore - IHS Jane's Navy International
29 April 2016
Russia's Zelenodolsk Shipyard has launched the first anti-submarine warfare (ASW) variant of the Modified Gepard (Project 11661E)-class guided-missile frigate for the People's Army of Vietnam (PAVN) Navy.
According to Russian and Vietnamese media reports on 28 April, the vessel was launched the previous day at Zelenodolsk's facilities in Tatarstan, in a ceremony attended by senior PAVN Navy personnel.
While the ship will be the first ASW variant, it will be the third Gepard-class frigate to be operated by the PAVN Navy.
.
เวียดนาม เล่นวางตัวดี ชงแล้วตบ ใครก่อวิ่งมาหา
ผิดกับเพื่อนบ้าน ประเทศหนึ่ง