ไปเจอมาจาก FB Military Technology Lover Forum พอดี ดูจากในภาพเรือหลวงตากสินก็ปรับปรุงเสร็จหมดแล้วนะ เพียงแต่ยังไม่เห็นโดมโซนาร์ตัวใหม่จากเยอรมันที่ต้องใหญ่ขึ้นกว่าของเดิมจากจีนแน่ๆล่ะ เห็นว่ามีนาคมปีหน้าจะติดเครื่องไฟฟ้าเพิ่มเติมด้วย
ได้เท่านี้ส่วนตัวผมว่าดีที่สุดแล้ว ถึงจะไม่มี CIWS แท้ๆติดมาด้วยก็ตาม แต่ท่อยิง MK-41 ก็ยังมีเหลืออยู่ ในอนาคต 5-10 ปีอาจจะนำ RAM Block II VLS มาใส่เพิ่มเติมก็ได้ เป็น 16 ESSM + 16 RAM แหม่.... ฝันกลางวันชัดๆ
เครื่องบินลำนี้คงไม่ต้องพูดอะไรมาก เจ้าของภาพเขาว่าสายตาดีขึ้นกว่าเดิม ส่วนคนอื่นๆเห็นว่าเปลี่ยนเรดาร์ใหม่กับปรับปรุงช่วงลำตัวให้แข็งแรงมากขึ้น กองทัพอากาศปรับปรุงเครื่องบิน F-5 เฟตแรกจำนวน 10 ลำ ในวงเงิน 2,050 ล้านบาท เสร็จเมื่อไหร่คงมีข่าวอย่างเป็นทางการอีกทีมั้งครับ ส่วนเฟส 2 จะมีไหมและอีกเท่าไหร่ ผมโยนให้ท่านเสือใหญ่กับท่านกบตอบแล้วกัน แว๊บบบ.....
F-5 MLU ที่บอกว่าออกแบบมาเพื่อปราบ SU-30 โดยเฉพาะใช่มั้ยครับ
(เอาฮาตามกระทู้ข้างล่างนะครับ)
ไม่แน่นะครับ คลุกวงในกันSu-30 อาจโดนจ้วงหลับกลางอากาศได้นะครับ
ผมว่ามันไม่น่าจะเป็น F-5 MLU มันต้องเป็น F-5 ELU (End Life Upgrade)
สังเกตุ F5 ในรูปเห็นปุ่มสีขาวที่หัวเครื่อง หน้ากระจก มันคืออะไรครับ เพิ่งติดหรือติดมานานแล้ว
สำหรับเรือ นเรศวร ตากสิน ถ้าติดฟาลังค์สักกระบอกนี่จะถือว่าครบเครื่องเลย น่าจะถอดจากเรือพุทธมาใส่น่ะครับ ใช้งบประมาณคงไม่มาก
มีที่ให้ติดไหมล่ะครับ
ฟาลังซ์พร้อมรบหนัก 6.2 ตัน และมีความสุงถึง 4.7 เมตร โรงเก็บฮ.ของเรือเราแบกน้ำหนักขนาดนี้ไม่ไหวหรอกครับ และถ้าปรับปรุงใหม่จนสามารถแบกไหว ความสุงของโดมก็จะไปบดบังเรดาร์ควบคุมการยิง Ceros200 และ EOS 500 ไม่ได้ก็คือไม่ได้แหละครับ
ปล. ผมว่าสภาพภายนอกเรือหลวงพุทธ2ที่ปลดระวางไปแล้ว ยังดูดีกว่าเรือทั้ง2ลำในชั้นนี้อีกนะครับ ฝั่งโน้นแนวตะเข็บหัวเรือยังปิ๊งอยู่เลย ส่วนฝั่งนี้เหมือนเคาะปะผุทำสีใหม่ไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ หวังว่าเรือเกาหลีใต้ของเราจะได้คุณภาพใกล้เคียงกับเรืออเมริกานะครับ
ตัดดาดฟ้าฮ.แล้วติดฟาลังซ์ตรงปลายจะได้ไหม หรือดาดฟ้าจะสั้นไป
ถึงว่าช่วงนี้เห็น F-5 ขึ้นบินทุกวัน แต่ตั่งเช้าเลยแล้ว
วันนี้เห็น Black hawk ลำนึงที่ปลายจมูกมีอะไรติดอยู่ด้วย
ถ้าดูจากภาพจะเห็นว่าท้ายเรือมันดัดแปลงติดฟาลังซ์ไม่ไหวแน่ ความยาวจากท้ายมาถึงโรงเก็บไม่เกิน 23 เมตรเองขณะที่เรือ Formidable ของสิงคโปร์ยาวประมาณ 27 เมตร และถ้าเป็นเรือ Kang Ding ของไต้หวันปาที่เป็นชั้น La Fayette เหมือนกันยาวถึง 33.5 เมตรโน่น ขณะเดียวกันถ้าจะเอาโซนาร์ลากท้ายมาติดชั้นล่างเพดานก็ดูจะเตี้ยเกินไปอีก ไหนจะต้องติดสายลากยาวเป็นสิบๆกิโลใช้รอกตัวใหญ่คำนวนยังไงก็ไม่ไหว
ลักษณะด้านท้ายของเรือชั้นเรือหลวงนเรศวรมาจากยุค1980 (แม้จะต่อในยุค1990 ก็เถอะ) ที่ผมว่าพอจะเอามาติดได้ก็คือตอร์ปิโดปราบเรือดำน้ำขนาด 533 มม.จำนวน 2-4 ท่อยิง น่าจะไม่หนักเกินไปนะเพราะยังไงก็บรรจุเพิ่มเติมเองไม่ได้อยู่แล้ว
จากรูป ถ้ามีงบประมาณ น่าจะติด CIWS ได้ แต่ต้องติดด้านข้างเรือทั้ง 2 ข้าง ผมว่าผมเคยเห็นภาพเรือรบญี่ปุ่นติดฟาลังค์ด้านข้างเรือน่ะครับ แต่คงจะใช้งบประมาณมากพอสมควร ตีว่าเรือ 2 ลำ ฟาลังค์เก่า 2 ใหม่ 2 น่าจะใช้เงินสัก 70 ล้านเหรียญ แต่ถ้ามองถึงอายุการใช้งานของเรือ กับจำนวนเรือรบจริงๆ ที่พอจะไปรบกับชาวบ้านได้ที่มีตอนนี้ก็มีแค่ 2 ลำนี้ ถือว่าคุ้มครับ
การเอาอาวุธหนัก 6.2 ตันติดด้านข้างเรือเป็นงานที่มหาหินสุดๆ เพราะจะส่งผลโดยตรงต่อการทรงตัวของเรือเนื่่องจากสมดุลไม่ดีเหมือนเก่า เราเคยได้ยินเรื่องเรือหลวงชั้นตาปีติดปืน oto 76/62 แล้วต้องถ่วงอับเฉาด้านหลังเรือด้วย แต่งานนี้ปวดหัวหนักกว่าครับ จุดที่จะติดตั้งฟาลังซ์ได้จะต้องได้รับการออกแบบมาแล้วจากแปลนเรือ หรือถ้ามาติดเองใหม่ก็ต้องเป็นจุดที่เรือเลี้ยวแล้วใกล้เคียงของเดิมให้มากที่สุด
ยกตัวอย่างเรือพิฆาตType 42 ขนาด 4,300ตันของอังกฤษ หลังสงครามฟอล์คแลนด์พวกเขาปรับปรุงติดฟาลังซ์ 2 ข้างตามแบบในรูป หลังจากทดสอบติดตั้งอยู่หลายที่ในที่สุดก็พบว่า จุดที่ดีที่สุดคือจุดที่เคยติดตั้งเรือเล็กพร้อมเครนนั่นแหละครับ ก็เลยต้องเอาเรือเล็กและเครนยกออกไปเพื่อติดฟาลังซ์ แล้วใช้เรือยางขนาดเล็กมากพร้อมเครนตัวน้อยทดแทน ความคล่องตัวของเรือในการเลี้ยวไม่ดีเท่าเดิมแล้ว แต่ก็อยู่ในเกณท์ที่พอรับได้ เรือ Type 22 ที่จะติด CIWS บ้างเลยเปลี่ยนใจติดแค่ 1 ระบบในจุดที่น่าเกลียดมาก คือหน้าเสากระโดงหลักของเรือเลย เพราะหาจุดติดด้านข้าง 2 ระบบไม่ได้จริงๆ (ทั้งที่มีระวางขับน้ำมากกว่า Type 42 ด้วยซ้ำ)
ไม่ใช่ว่ามีที่ว่างก็ติดอาวุธได้นะครับ เรือเราไม่ถึง 3,000 ตันเวลาเลี้ยวจะเอียงหนักกว่าของเขาอีก ยิ่งถ้าเจอคลื่นใหญ่ๆเข้าไปนี่ไม่อยากจะติดเลยจริงๆ
ส่วนตัวเชื่อว่า Phalanx อาจมีโอกาสถอดไปติดเรือลำอื่นอยู่เหมือนกันนะครับ เพราะเห็น ทร.มีโครงการจัดหากระสุนมาเพิ่มอยู่ ซึ่งถ้า ทร.ปลด Phalanx พร้อมกับเรือชั้น Knox ก็ไม่น่าจะซื้อกระสุนเพิ่มตอนนี้นะครับ โดย Phalanx ถ้าถอดไปติดเรืออื่นเท่าที่นึกออกก็น่าจะมีเรือชุดสุโขทัยกับเรือหลวงจักรีนฤเบศรนะครับที่น่าจะมีโอกาส (เว้นแต่ซื้อมารอเรือเกาหลี แต่เร็วไปไหม๊ ?)
ปล. ทร.ซื้อมีโครงการซื้อกระสุน 76 mm vulcano รุ่น EBR แล้วนะครับ...น่าสนใจว่าจะเอามาใช้กับเรือลำไหน...
ท่าน tow หลังจากข่าวเรือดำน้ำเงียบไป ดูเหมือน ท.ร.จะใช้เงินไปซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ เพิ่ม ซื้อกระสุน 76 mm vulcano รุ่น EBR ลูก ESSM และมีข่าวหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ทร. มีแผนจัดหาอวป.นำวิถีระยะไกลเข้าประจำการ เรือหลวงพุทธจะคงยังไม่ปลดอีก 2-4 ปี คงรอเรือ นเรศวร ตากสิน เสร็จเรียบร้อยก่อนถ้าเรือหลวงพุทธคงอยู่ไหวครับ
นึกว่าเรือหลวงชั้นพุทธฯปลดไปหมดแล้วซะอีก??
ตามข้อมูลท่านเอก "เดิมทีนั้นกองทัพเรือมีความต้องการในการจัดหาเรือฟริเกตชั้น Knox จำนวน ๔-๖ลำในช่วงก่อนปี ๒๕๔๐ แต่ได้ปรับลดเหลือเพียง ๒ลำ
โดยก่อนหน้านั้นกองทัพเรือต้องการจัดหาเรือพิฆาตชั้น Charles F. Adams มือสองจากสหรัฐฯ ซึ่งปลดประจำการในช่วงใกล้เคียงกัน
เนื่องจากต้องการเรือที่มีแท่นยิง Mk13 สำหรับยิงอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่อากาศแบบ RIM-66 Standard SM-1
แต่ทางสหรัฐฯได้เสนอเรือฟริเกตชั้น Knox ซึ่งตัวเรือมีอายุการใช้งานน้อยกว่าให้กองทัพเรือแทน
ทั้งนี้สหรัฐฯยังได้ปฏิเสธที่จะเสนอเรือฟริเกตชั้น Knox ที่เป็นรุ่นติดตั้งแท่นยิง Mk25 สำหรับ RIM-7 Sea Sparrow ด้วย
เหตุผลที่กองทัพเรือปลดประจำการ ร.ล.พุทธเลิศหล้านภาลัย ก่อน ร.ล.พุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ก็เนื่องจากอายุการใช้งานตัวเรือโดยรวมที่มากกว่าครับ
เพราะเดิมนั้น FF-1077 USS Ouellet นั้นเข้าประจำการในกองทัพเรือสหรัฐฯช่วงปี 1970–1993
ซึ่งตัวเรือได้ผ่านการปรับปรุงตัวเรือใหม่มาระยะหนึ่งก่อนที่จะส่งมอบให้กองทัพเรือไทยประจำการเป็น ร.ล.พุทธเลิศหล้านภาลัย
ขณะที่ FF-1095 USS Truett นั้นเข้าประจำการในกองทัพเรือสหรัฐฯช่วงปี 1974–1994
และส่งมอบให้กองทัพเรือไทยแบบ Hot Transfer ในปีเดียวกันที่ปลดคือ พ.ศ.๒๕๓๗
ซึ่ง ร.ล.พุทธยอดฟ้าจุฬาโลก นั่นมีกำหนดจะปลดประจำการถัดไปในปี พ.ศ.๒๕๖๐"
ดูข้อมูลเต็มและที่มาได้ที่