หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ทร. มีแผนจัดหาอวป.นำวิถีระยะไกลเข้าประจำการเพื่อทดแทนปืนใหญ่เพื่อตอสนองต่อภัยคุกคามในอนาคต เนื่องจากอวป.มีระยะไกลกว่าและแม่นยำกว่าปืนใหญ่มาก โดยอยู่ในช่วงคัดเลือกแบบอยู่
http://www.janes.com/article/56447/thailand-to-replace-coastal-guns-with-long-range-missiles
มาลุ้นกันว่าจะเป็นมิสไซล์ประเภทไหน ต่อต้านเรือรบประเภทฮาร์พูน (หรืออาจะได้ของจีน) หรือเปล่า
ผมสงสัยแล้วปืนใหญ่ที่เรามีในปัจจุบันมันกะไว้ยิงอะไร สำหรับต่อต้านการยกพลขึ้นบก? ยิงเรือระบายพลที่เคลื่อนที่เข้าหาด หรือทหารกับยานยนต์ที่เข้ายึดสถาปนาที่มั่นบนหาด? คงไม่ใช่ยิงเรือรบหรือเปล่า ถ้าจะเป็นไปได้ก็คือยิงเรือลำเลียงที่กำลังขนถ่ายพลทหารกับยานยนต์ลงเรือระบาย หรือใช้ระดมยิงก่อกวนได้ เพราะเป้าหมายเคลื่อนที่คงยิงไม่ได้แน่นอน ระยะปืนก็ไม่ไกลมากและก็คงต้องตั้งลึกเข้าไปในฝั่งด้วย
จริงๆปืนใหญ่ยังมีประโยชน์นะ แต่มันต้องใช้ของอื่นร่วมเพื่อให่ทำการยิงได้สมบูรณ์
อย่าง GHN-45 ของเราก็ใช้เรดาห์ตรวจพื้นน้ำBOR-A550(ที่เคยเห็นในรูปนะ) ในการเกาะติดเป้าหมายเรือใหญ่ๆไกลฝั่งตรวจจับได้ที่ระยะ57ก.ม. เพียงพอจะกำหนดการยิงปืนใหญ่ได้อยู่ แล้วเพิ่มกระสุนคัสเตอร์ กระสุนพิเศษอื่นๆก็เพียงพอจะทำความเสียหายได้
ทีเด็ดของ จีเอชเอ็น-45 ของ ต่อสู้อากาศยาน รักษาฝั่ง ที่ต่างไปจากในครอบครองของ นย. และ ทบ. ก็คือ กระสุนดาวกระจายครับ กระสุนตัวนี้ยิงพร้อมกัน 1 กองร้อย แตกเป็นลูกย่อยได้หลายสนามฟุตบอล ............... ดังนี้จะเห็นว่า ทีเด็ดคือ เอาไว้ต่อตีคลื่นขบวนยกพลขึ้นหาด ยิ่งถ้าเป็นเรือระบายพลหลังคาเปิดด้วยแล้ว กินเรียบสบายแฮ................ครั้นจะต่อตีเรื่อรบ ที่ยิงระดมฝั่ง หมัดต่อหมัด จริงอยู่ 155 ขนาด 45 คาลิเบอร์ ถือว่าเขื่อง แต่ถ้าเจอปืนใหญ่เรือ รุ่นเขื่องๆเหมือนกัน อย่าง 5 นิ้ว 54 คาลิเบอร์ หรือรุ่นใหม่ๆ 60 คาลิเบอร์ วัดกัน ได้เปรียบหรือเปล่าไม่ค่อยชัด แต่ถ้าเป็น ลูกยาว จรวดติดหัวรบหนักเป็นร้อยกิโล แถมยิงได้ตั้งแต่ขบวนเรือห่างฝั่งไกลเป็นโยช อันนี้ แฟนบนล็อค ให้ต่อหลายสิบช่วงครับ.............
หมายเหตุ ดาวกระจายที่ว่า แตกได้หลายแบบนะครับ ไม่จำเป็นแค่แตกอากาศ ............
5555 ไหนๆก็ไหนๆ เล่าเรื่องทะลึ่งหน่อย สมัยเรียนปี 5 (หลักสูตร4ปี เพื่อความแน่นเพิ่มอีกปี) เล่นดนตรีกึ่งอาชีพ วันนึงก็ซ้อมกันตามปกติ แต่มือเบสดูเลื่อนลอย เล่นผิดบ่อยๆ.... ด้วยความรำคาญ ขี้เกียจซ้อมหลายเท้ค จึงถามว่า ท่านเป็นอะไร???? หนุ่มอำ้อึ้ง อึกอัก ก่อนที่เพื่อนอีกคนที่นั่งดูซ้อม ซึ่งมื่อคืนคงออกซิ่งด้วยกัน มันตอบแทนว่า " มันกำลังหลอน เมื่อคืนมันยิงกระหน่ำ ลูกปืนดันเจาะเกราะหัวระเบิด" โอ่พระเจ้า ซวยอ่ะท่าน เจาะแล้วเข้าไประเบิดข้างใน ...... นี่แหล่ะ อุทาหร เลือกลูกปืนไม่สมดุลย์ลำกล้อง......... คราวหน้า เลือก แบบแตกอากาศ ก็ปลอดภัยเหมือนกันนะ............ ผลงานเป็นไงไม่ทราบ เพราะหลังจากนั้นไม่นาน ครึ่งวงเรียนจบ วงก็แตกปริยาย..... ไม่ได้ถามข่าวคราว เพื่อนยังอยู่ดีอย่างไร เล่นเบสส์ที่ผับไหน เราคิดถึงนะเฟ้ย...........
ระเบิดดาวกระจายหรือกระสุนCargo นี่เคยเห็นภาพสมัยWing21 นั้นน่ะไม่แน่ใจว่าท่านใดลงไว้ เป็นกระสุนที่เราวิจัยเอง
จริงๆอย่างDTI เราก็ใช้ได้นะ รัสเซียใช้BM21 ร่วมกับปืนใหญ่ไว้ยิงถล่มกินพื้นที่มากๆในการป้องกันต่อจากจรวดนำวิถี
แถมBM-21ยังยิงแล้วย้ายให้เรือไม่ทันตอบโต้ประมาณนั้น
เห็นข่าวนี้มาหลายวันเหมือนกัน เพียงแต่มองไม่เห็นความชัดเจนของโครงการซักเท่าไหร่ ทันทีที่เห็นผมคิดถึงเรือคอร์เวตของรัสเซียชั้น Buyan ที่กำลังโด่งดังอยู่ในเวลานี้ทันที
เรือมีระวางขับน้ำเพียง 500 ตัน แต่ติดปืนเรือขนาด 100 มม. ระบบ CIWS รุ่นใหม่เอี่ยม 1 ระบบ จรวดต่อสู้อากาศยานระยะใกล้ 2 ระบบ และระบบจรวด 3M-54 Klub ซึ่งมีรุ่นยิงได้ไกลถึง 2500 กม. อีก 8 นัด ทว่าลำที่ผมสนใจไม่ใช่ลำนี้ที่ชื่อ Pr 21631 หรอกครับ เป็น Pr21630 ฝาแฝดกันต่างหาก
เรือรุ่นนี้ไม่มีจรวด 3M-54 Klub และท่อยิงแนวดิ่งกลางเรือ ใช้ระบบ CIWS รุ่นเก่าหน่อย มีแท่นยิงจรวดต่อสู้อากาศยานระยะใกล้เพียง 1 แท่นยิงเท่านั้น ด้านหลังของเรือติดตั้งจรวด 122 มม.รุ่น A-215 Grad-M หรือ BM-21 จำนวน 40 ท่อยิงเข้าไปเอาไว้ถล่มชายฝั่งนี่แหละครับ สามารถโหลดจรวดใหม่ได้ในเวลาประมาณ 1 นาทีเท่านั้นเอง ช๊อบบบ... ชอบ เอามาใส่ด้านท้ายเรือหลวงแหลมสิงห์ของเราแบบไม่ต้องมีระบบโหลดก็ได้ครับ จะได้ถูกลงและไม่ต้องสร้างห้องบรรจุด้านใต้
สำหรับผมแล้วปืนใหญ่ยังไงก็ยังสำคัญเสมอ แต่ต้องอัพรุ่นใหม่ที่มีขนาดคาริเบอร์เขื่องขึ้นอีกหน่อย แล้วเสริมด้วยขีปนาวุธระยะยิงสัก80-120 กม.+เรดาห์แรงๆ +ขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศระยะกลางพร้อม ปตอ.รุ่นใหม่(ระบบแมนทิส)จะเป็นของจีนหรือสวีเดนก็ได้ หรือจะเอา DTI1G ก็ได้ครับ
ผมเห็นด้วยในการที่จะมีจรวดนำวิถีโจมตีเรือจากชายฝั่ง แต่อยากให้จำกัดวงให้แคบมาโดยเลือกเอามาจากที่มีประจำการอยู่ใน ทร. แล้วมาใช้ สัก 2 แบบ เช่น C-801 , C-802 , Harpoon รุ่นเก่า , Exocet MM38 มาปรับใช้บนบก ส่วนเรือรบก็ปรับปรุงใช้จรวดรุ่นใหม่ที่ทันสมัยกว่า ยิงไกลกว่าแทน เหตุผลเพราะ
1. เรือรบเป็นด่านแรกที่ต้องรบกับฝ่ายตรงข้าม อยู่ไกลจากฝั่ง ,มีความเสี่ยงสูงสุด จึงต้องใช้อาวุธที่ทันสมัยที่สุด หากรบชนะ อาวุธที่ใช้รักษาชายฝั่งก็ไม่มีโอกาสได้ใช้
2. ผมไม่แน่ใจว่า การยกพลขึ้นบก หรือการโจมตีชายฝั่ง ฝ่ายตรงข้ามจะเริ่มโจมตีที่ระยะใด แต่คิดว่าคงไม่น่าเกิน 20 กิโลเมตรจากชายฝั่ง มิเช่นนั้น ยานยกพลขึ้นบกต้องใช้เวลาเดินทางในทะเลนาน ดังนั้น จรวดรุ่นเก่า ที่มีระยะยิงไม่มาก (40-80 กิโลเมตร) น่าจะเพียงพอ
3. จรวดรุ่นเก่า ยังมีคุณค่าในการรบเสมอ อย่างน้อยดีกว่าปืนใหญ่ จรวดอย่าง C801 , Exocet mm38 มีขีดความสามารถทำลายเรือยกพลขึ้นบกที่มีการป้องกันตัวเองต่ำได้สบายๆ
4. ด้านงบประมาณ และ จำนวนระบบจรวดที่ต้องการ การใช้อาวุธเก่า จะทำให้ประหยัดงบประมาณได้มาก และจำนวนระบบก็ได้หลายระบบ เช่น หากนำ C801 , Exocet mm38 น่าจะมีเก็บไว้ หลายสิบลูก (สมมุติว่า 40 ลูก) นำมาเปลี่ยนดินขับ ดินระเบิด นำมาติดบนรถบรรทุกคันล่ะ 2 นัด จำนวนสัก 15 ระบบ สามารถนำไปกระจายใช้งานได้ครอบคลุมตลอดชายฝั่งของประเทศ ในราคาที่ไม่แพงมากนัก และยังเป็นการส่งเสริมการพัฒนาพึ่งตนเองด้วย
สำหรับปืนใหญ่ ผมคิดว่ายังคงต้องใช้ประจำการต่อไป เพราะ จะใช้จรวดยิงเรือทุกลำ ทั้งเล็กและใหญ่ คงมีจรวดไม่พอ เก็บจรวดไว้ยิงเรือขนาดใหญ่ เรือขนาดเล็ก รถลำเลียงพล รถถัง ใช้ปืนใหญ่กระสุนระเบิดดาวกระจายน่าจะคุ้มกว่า
ผมเชียร์มาตลอดเรื่องที่ สอ.รฝ. ควรมีจรวดนำวิถีระยะไกลาใช้งาน แต่ไม่จำเป็นต้องหลายระบบ แต่ควรเป็นแบบที่เคลื่อนย้ายไปยังจุดอื่นได้ง่าย เช่นย้ายจากฝั่งอ่าวไทยไปฝั่งอันดามัน หรือจากภาคตะวันออกไปภาคใต้ได้ง่าย และที่ สอ.รฝ. ควรจะเน้นอีกอย่างคือ จรวดนำวิถีต่อสู่อากาศยานระยะกลางครับ
ถ้างบประมาณไม่ใช่ปัญหา
เชียร์ตัวนี้ครับ Naval Strike Missile (NSM)
ล่าสุดมีข่าว มาเลเซีย จัดหาไปเรียบร้อยแล้ว
ผมว่าอาจจะได้ของรัสเซียไม่ก็จีนมั้ง 555+
ถ้าพูดถึงเรื่องงบ ผมว่า สอ.รฝ. คงกำหนดวงเงินไว้แล้ว ทีนี้ก็คงจะเลือกแบบที่ตรงตามต้องการแล้วยื่นเสนอขอซื้อ แต่ส่วนตัวผม สังหรณ์จว่าจีนมา
ด้วยจำนวนงบประมาณ และความจำเป็น ถ้าได้ C802 ผมคิดว่าก็ถือว่ายอมรับได้ครับ C802 ที่ประจำการใน ทร. ยังไม่เคยยิงจริง แต่ถ้าดูจากผลการยิงรุ่นก่อนหน้าคือ C801 ก็เข้าเป้าทุกครั้ง และเมื่อจีนได้ระบบจรวดป้องกันชายฝั่งไปแล้ว อาจตามมาด้วยระบบจรวดต่อสู้อากาศยานรักษาฝั่งก็ได้ แล้วเรือดำน้ำก็เปลี่ยนเป็นของเกาหลีแทนน่าจะดีกว่า
ก็ใช้ MARTE-ER ซิครับ....
ผมว่า C-802 มันจะล้าสมัยไปแล้ว...การซ่อมบำรุงก็สูง...อายุใช้งานก็น้อย...
ถ้า ทร. ตัดสินใจ จะเลือก MARTE-ER สำหรับ ร.ล.กระบี่ แล้ว...ก็จัดหาพร้อมกับระบบ ป้องกันชายฝั่ง ไปเลย...
ทร. ก็จะมี อาวุธนำวิถี เพียง 3 แบบ และในอนาคต จะเหลือเพียง 2 แบบ...หรือถ้าในอนาคต ทร. จัดหา ฮ. Wildcat ก็สามารถใช้งานได้อีก แต่จัดหารุ่น MK-2 แทน...
1. Harpoon + Harpoon Block II or III (เรือชุด นเรศวร,รัตนโกสินทร์ กับ เรือฟริเกต ชุดใหม่)
2. C-802A (เรือชุด สายบุรี = รอปลดประจำการ)
3. MARTE-ER (สำหรับเรือ OPV กับ เรือเร็วโจมตี) + MARTE-MK2 (สำหรับ ป้องกันชายฝั่ง + เรือระวางขนาดเล็ก + ฮ.Widcat + บ.ตผ.แบบใหม่)
MARTE-ER ใช้ระบบการยิงจาก MARTE-MK2 โดยจะเพิ่มอุปกรณ์บางอย่างเพิ่มเติม
ซิลค์วอร์ม (หนอนไหม) ของจีน จรวดทำเลียนแบบ เอชวาย-2 สติกซ์ ........ ย้อนไป 30 ปีที่แล้ว จรวดชนิดนี้ทำอุณหภูมิอ่าวเปอร์เซีย ระอุ เนื่องจากจีนขายจรวดให้อิหร่านลับๆ มะกันเป็นกริ้ว................ ปัจจุบัน ยังประจำการและใช้งานได้ ................. แม้จะโบราณ และมีวิถีโคจรไม่เรียดน้ำ แต่ก็ยังสร้างความครั่นคร้ามให้กองเรือที่คิดจะเกยหาด ได้มีการบ้านไปคิดหนัก................... เสริช ยูทู้บ ดูความคลาสสิคสิครับ ....ผมงี้ ขนลุกซ์
SS-N2 ถึงรูปทรงโบราณแต่ปัจจุบันที่รัสเซียใช้ในหน่วยยิงรักษาฝั่ง ถูกปรับปรุงทั้งระยะยิงและระบบนำวิถีมีทั้งเรดาห์/หัวIR
ขนาดปรับปรุงเพดานโคจรจากระดับ200เมตรเหลือ25-50เมตร แต่ก็มากอยู่ดี
ระบบจากจีนถ้าใหม่ๆก็C-803 C705KD อะไรแบบนี้ ยิงไกล น้ำหนักเบา
ถ้าดูถึงระบบป้องกันชายฝั่ง ของ รัสเซีย ก็น่าจะต้องมองไปที่ Club-M กับ Bal-E ที่ รัสเซีย เสนอขายให้กับ กองทัพเรือบังคลาเทศ เมื่อต้นปีนี้..
จุดที่น่าจะพิจารณา ก็คือ การจัดหา ภายในปี 2560 และต้องใช้บริการไปอีก 20 - 30 ปี...ก็คงต้องมองไปถึงปี 2580 - 2590...
ก็เลยมองว่า แม้แต่ harpoon หรือ C-802 ก็ดูน่าจะว่า จะมีอุปกรณ์สำรองรองรับหรือไม่...และที่มองว่า เก่า ก็คือ ในอีก 20 ปี ข้างหน้า อาวุธนำวิถีทั้ง 2 แบบ ประเทศผู้ผลิต ก็คงไม่มีการคิดค้นเทคโนโลยี่ใหม่ มารองรับแล้ว...
ในยุคนี้ หลาย ๆ ค่าย จึงเสนอ Exocet Block III หรือ NSM เป็นระบบป้องกันชายฝั่ง ซึ่ง MARTE ก็ยังเป็นระบบใหม่ ซึ่งประเทศผู้ผลิต คงยังมีการพัฒนา และคงสรรหาเทคโนโลยี่ในอนาคต ที่จะมารองรับได้อีก...
ไหน ๆ...สอ.รฝ. จะเปลี่ยนหลักนิยมแล้ว...ก็เอาที่มัน ทันสมัย ไปเลย และเผื่อรองรับ เทคโนโลยี่ในอนาคต ที่ผู้ขาย คงสรรหา มาให้ อัพเกรด กันอีกแน่ ๆ น่ะครับ...ซึ่งมันดูจะประหยัดกว่า หาระบบที่มันกำลังจะ เก่า...แล้วอีกสัก 10 - 15 ปี มันก็จะล้าหลังไปแล้ว แล้วสุดท้าย ก็ต้องไปหา ระบบอาวุธ เทคโนโลยี่ใหม่ให้เท่าเทียมประเทศเพื่อนบ้าน อีกครั้ง...แทนที่ เมื่อถึงเวลาอีก 20 ปีข้างหน้า สอ.รฝ. ก็แค่ทำการ อัพเกรด แค่นั้น...ถ้าจัดหาระบบที่มันสมัยใหม่ในตอนนี้ไปเลย...
ถ้าจะซื้อ SS-N2 หรือ MARTE-ER ผมว่าไปเซ้ง Sea Killer เจ้าคุณลุงของ MARTE-ER มากจากอิหร่านและลิเบียดีกว่าไหมครับ ราคาถูกเหมือนได้เปล่าแต่จะยังมีอายุการใช้งานไหมนั่น
ทร.น่าจะออกทุนให้DTI สร้างโดยใช้แบบจากC-801/802 เหมือนอิหร่านทำนะครับ อย่างน้อยใช้ยิงจากฝั่ง จากเรือ(พวกเรือเร็วโจมตี) จากเครื่องบินในเหล่าทหารเรือเองก็ยังดี
ผมว่าถ้าจัดหาพร้อมออฟเซ็ทถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อในการผลิตที่ DTI ได้ก็ดีครับ