หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


ลำดับความสำคัญในการจัดหาระบบอาวุธของกองทัพไทย

โดยคุณ : Sam เมื่อวันที่ : 24/11/2015 14:17:42

ไม่ทราบว่าผมเข้าใจถูกหรือไม่ว่าธรรมเนียมปฏิบัติแต่ไรมาของการจัดสรร งป กลาโหม คือการจัดอัตราส่วนให้แต่ละกองทัพ  แล้วภายในวงเงินที่ใด้นั้น แต่ละกองทัพก็ไปจัดสรร นำเสนอไปตามระบบระเบียบ

ถ้าเป็นตามนั้น คหสต ผมว่ามันอาจไม่ตอบสนองสถาณการณ์ภัยคุกคามที่มีอยู่จริงในแต่ละช่วงเวลา.... เช่นตามที่มีกระทู้เรื่องการเดินทางของคณะพิจารณาจัดหารถถัง  คือถ้ามองความเร่งด่วนในการจัดหารถถัง  มันไม่น่าจะด่วนเท่ากับ เรือดำน้ำ หรือการปรับปรุงกองเรือที่มีอยู่ 

คือถ้าเอา งป กลาโหมมากองไว้ตรงกลาง แล้วจัดลำดับความสำคัญของโครงการโดยไม่ต้องสนใจว่าเป็นของเหล่าใด  ผมว่าความเร่งด่วนจะไปลงที่กองทัพเรือเป็นลำดับต้นๆ  เช่น เรือดำน้ำ   การจัดหา ฮ มา ปจก บน 911 ให้มีความพร้อมสูงกว่านี้  

ผิดถูกประการใดช่วยชี้แจงด้วยครับ

 

 

 





ความคิดเห็นที่ 1


ขืนทำยังงั้นทร.อาจจะไม่มีโอกาสซื้ออะไรเลย ฮา

ความจริงทำงั้นไม่ได้ครับ แต่ละเหล่าทัพไม่เกี่ยวกัน

อีกอย่างนะครับ ประเด็นปัญหาของเราไม่ใช่ไม่มีงบฯ อย่างรถถังเป็นเรื่องขนขายส่งไม่ได้ตามสัญญา

เรื่องเรือดำน้ำเป็นเรื่องทะเลากันเรื่องแบบเรือ ทร.อยากได้อันนึง กลาโหมจะซื้ออย่างอื่นให้ หรือล่าสุดทร.ยอมเล่นด้วยแล้วแต่เจอกระแสกดดันเนื่องจากเป็นเรือดำน้ำจีน กองเรือดำน้ำไม่อยากเอาแต่โดนปิดปาก ฮา

 

เพิ่มเติม สำหรับถ้าเกิดสถานการณ์มีภัยคุกคามเร่งด่วน ผมว่ารบ.สามารถจัดสรรเพิ่มงบฯได้ ไม่ต้องไปดึงจากหน่วยอื่น

โดยคุณ toeytei เมื่อวันที่ 24/11/2015 10:11:50


ความคิดเห็นที่ 2


เข้าใจความรู้สึกของท่าน Sam ครับ จะว่าไปมันก็ควรจะเป็นอย่างที่ท่านว่านะครับ จัดลำดับความสำคัญการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ตามความจำเป็นเร่งด่วนของสถานการณ์และสภาพความเป็นจริง ถ้าจะทำอย่างนั้นต้องให้ กองทัพไทย เป็นเจ้าภาพดำเนินการ วิเคราะห์ข้อมูลตามที่แต่ละเหล่าทัพเสนอเข้ามาและชี้สรุปว่า อันไหนจำเป็นเร่งด่วนก่อนหลัง แต่จะเป็นการรวมศูนย์ซึ่งให้ทั้งคุณและโทษ แย้งกับแนวทางบริหารปัจจุบันคือแต่ละหน่วยงานไปพิจารณาจัดหากันเองภายใต้กรอบงบประมาณประจำปีที่ได้รับ

อันนี้ไม่เข้าใจนิดหนึ่งครับว่า การจัดซื้อไอเทมไหนหรืองบประมาณขนาดไหน ถึงต้องให้สภากลาโหมหรือนายกรัฐมนตรีหรือ รมต.กลาโหมอนุมัติอีกที ทั้งๆ ที่แต่ละเหล่าทัพก็ใช้งบในส่วนของตนในการจัดซื้อ

คือถ้าเหล่าทัพมีอิสระในการจัดซื้อเองจริงๆ ป่านนี้ ทร. คงนั่งรอเรือ ส. จากเยอรมัน หรือ สวีเดน ไปแล้ว ไม่ต้องมานั่งมึนงงว่าจะเดินหมากอย่างไรดีจึงจะได้เรือ ส. มาใช้กับเค้าบ้าง

อีกอย่าง ขอแชร์เพื่อนสมาชิกด้วยครับว่า ท่านคิดเห็นอย่างไรกับการให้แต่ละเหล่าทัพร่วมกันจัดซื้ออาวุธสิ่งอุปกรณ์ต่างๆ ร่วมกันบ้าง จะได้ทั้งปริมาณที่จะทำให้มีอำนาจต่อรองกับผู้ขายและงบต่อหน่วยที่ถูกลง แทนการที่ต่างคนต่างซื้อ เอาเฉพาะที่ใช้ร่วมกันได้นะครับ เช่น ยานยนต์บรรทุกขนาดต่างๆ ปืนพกสั้น ปืนเล็กยาวอัตโนมัติ ฯลฯ เป็นต้น ไม่ต้องทำทุกรายการ เอาเท่าที่ถ้ารวมกันได้ทั้งสี่ห้าเหล่าทัพแล้วได้ปริมาณมากๆ คุณสมบัติการใช้งานตรงตามความต้องการโดยรวมของทุกเหล่าทัพ น่าจะเป็นการบริหารทรัพยากรและงบประมาณที่คุ้มค่ากว่าที่เป็นอยู่นะครับ

อะไรที่ต้องมีคุณสมบัติการใช้งานเฉพาะทาง แต่ละเหล่าก็ไปจัดทำโครงการซื้อหากันเองแบบที่เป็นอยู่ ไม่ต้องมาทำโครงการจัดซื้อร่วมกับเหล่าอื่นครับ

 

 

โดยคุณ เสือใหญ่ เมื่อวันที่ 24/11/2015 11:25:34


ความคิดเห็นที่ 3


ขอบคุณท่านทั้งสองท่ี่ร่วมแสดงความคิดเห็นครับ... ผมขอเพิ่มเติมนิดนึงเพื่อความกระจ่างในประเด็นนะครับ   คือผมเข้าใจว่าการไปดูรถถังคราวนี้คงเป็นเรื่องต่อเนื่องมาจากการที่เราใด้ oplot มาไม่ครบสักที  แต่ถ้ามองย้อนไปตั้งแต่ก่อนมีโครงการ oplot แล้วถามว่าเมื่อมองภัยคุกคามทางบกทุกทิศทางแล้ว... ตอนนี้เราจำเป็นต้องอัพเกรดรถถังหรือ  คหสต ผมใด้คำตอบว่าไม่น่าจะใช่น่ะครับ คหสต อีก  ผมว่าอีก 5 -10 ปีก็ยังเอาอยู่  เพราะการรบในลักษณะยึดเอาดินแดนแบบช่วงแผ่อิทธิพลคอมมิวนิสต์ ก็หมดไปแล้ว   มองไปรอบๆ  รถถังเราก็ไม่ใด้เป็นรองทั้งทางปริมาณและประสิทธิภาพ  การปรับปรุงซ่อมบำรุง FCS และ Reactive Armor ก็น่าจะทำให้สามารถตอบสนองความต้องการไปใด้อีก 10 - 15 ปี...

ในประเด็นที่ท่านเสือใหญ่ถามว่าควรมีการกำหนดสเปคร่วมของระบบอาวุธที่มีวัตถุประสงค์/ประเภทเดียวกันเป็นมาตรฐานทุกเหล่าทัพนั้นดีหรือไม่  ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งครับ   เราจัดหาอาวุธแบบตัวไครตัวมันมานานเกินไป...

 

 

 

โดยคุณ Sam เมื่อวันที่ 24/11/2015 12:06:40


ความคิดเห็นที่ 4


ขอแย้งท่านเสือใหญ่ครับ เรื่องซื้ออาวุธต้องผ่านสภา

ขืนให้อิสระทำอะไรก็ได้ ก็เละสิครับ เข้าใจว่ามันทำให้เกิดปัญหาที่ว่ามา แต่ในทางหลักการแล้วต้องทำไปในทิศทางเดียวกันใต้นโยบายของรัฐบาล/กลาโหม เพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ

ไม่อย่างนั้นเกิดทอ.อยากซื้อ เอฟ 5 เก่าๆ สักสามร้อยลำ หรือทบ.จะซื้อนิวเคลียร์จากปากีสถาน อะไรแบบนี้เละพอดี

หรือมองกลับกัน ทร.อยากได้เรือจีน แต่รัฐบาลอยากได้เรือสวีเดน หรือเยอรมัน คงมีคนยกมือสนับสนุนรัฐบาลมากกว่านะครับ

ส่วนเรื่องการจัดหาของร่วมกัน ถ้าเป็นของทั่วๆไปก็ดี แต่ถ้าเป็นของที่ต้องการสเป็คต่างกัน เป็นของจำเพาะก็อย่าเลย เพราะมันจะไปจำกัดประสิทธิภาพจากเป้าประสงค์ของแต่ละเหล่าทัพ ตอนนี้เอาในเหล่าทัพตัวเองให้เหมือนๆกันให้ได้ก่อน

โดยคุณ toeytei เมื่อวันที่ 24/11/2015 13:36:00


ความคิดเห็นที่ 5


น่าจะถึงเวลาที่เราจะมีคณะกรรมการตรวสสอบการจัดซื้อของกองทัพได้แล้ว (หรือกน่วยงานรัฐอื่นๆ ที่เป็นรูปธรรมเสียที) คล้ายๆ กับ gao ของสหรัฐ) เพื่อทำการรีวิว ให้คำแนะนำและตรวจสอบ ซึ่งถ้ามีป่านนี้การซื้อแบบเสียเปรียบหรือเสี่ยงไม่ได้ของคงไม่ผ่าน คนตัดสินใจจะได้ได้รับคำแนะนำและตักเตือนต่างๆ ประกอบการตัดสินใจ ประชาชนจะได้รับรู้รายละเอียดด้วยเพื่อความโปร่งใสด้วยอะไรด้วย เพราะสุดท้ายแล้วมันก็ภาษีเราๆ ท่านๆ นอกจากนี้การจัดซื้อจะได้มียุทธศาสตร์ในภาพรวม มีการบูรณาการณ์และสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของชาติด้วยในด้านอื่นๆ ด้วยเช่นเศรษฐกิจและต่างประเทศ ไม่ใช่กระจัดกระจายตัวใครตัวมันแบบนี้
โดยคุณ tongwarit เมื่อวันที่ 24/11/2015 13:36:25


ความคิดเห็นที่ 6


ท่าน Toeytei ครับ คือผมหมายถึงว่า อาวุธแบบไหน หรืองบประมาณตั้งแต่เท่าไหร่ ถึงต้องเสนอให้สภากลาโหมหรือ ฯลฯ พิจารณาอนุมัติครับ

อย่างที่บอกไปนะครับ ถ้าไม่มีกรอบงบประมาณว่าเท่านั้นเท่านี้ต้องเสนอสภาฯ แต่ละเหล่าคงจะเลือกซื้อของตามที่ตนเห็นควร ซึ่งอาจจะไปซื้อเรือ ส. เยอรมันหรือสวีเดน (กรณี ทร.) หรือไปซื้อเรือไก่กาอะไรมาก็ได้ หรืออย่าง ทอ. ดันไปซื้อ เอฟ-5 เก่า อย่างที่ท่าน Toeytei ให้ความเห็น คือผมเห็นด้วยครับว่าจะต้องมีการกลั่นกรองโดยกลาโหม เพียงแต่ว่างบแค่ไหน หรือไอเท็มอะไรบ้างที่ต้องผ่านกลาโหมก่อน หรือว่าทุกรายการต้องขออนุมัติสภาฯ หมด

ขณะเดียวกันก็ต้องคำนึงถึงด้วยครับ ว่าถ้าสภาฯ ไม่โปร่งใส มีวาระซ่อนเร้น บังคับให้เหล่าทัพต้องเลือกจัดซื้อระบบอาวุธที่สภาฯ ต้องการ (คนละแบบกับที่เหล่าทัพต้องการ) ผลมันก็จะออกมาคล้ายๆ กันกับการซื้อโดยไม่มีการกลั่นกรองครับ

ไปๆ มาๆ อาจต้องมีอีกปาร์ตี้เข้ามาคานหรือเปล่า ป้องกันไม่ให้ถูกรังแกหรือฮั้วกันของเหล่าทัพและสภาฯ ส่วนที่ว่าควรจะต้องเป็นหน่วยงานไหน ผมก็นึกไม่ออกเหมือนกันครับ

โดยคุณ เสือใหญ่ เมื่อวันที่ 24/11/2015 14:10:44


ความคิดเห็นที่ 7


ส่วนเรื่องโครงการจัดซื้อร่วมระหว่างเหล่าทัพ เราเห็นตรงกันอยู่แล้วครับ

โดยคุณ เสือใหญ่ เมื่อวันที่ 24/11/2015 14:17:42