ยินดีได้เจอเพื่่อนเก่าครับ  ................... คุณ โอเอ สบายดีนะครับ...........

ผมตอบได้ข้อเดียว คือ ข้อแรก เป็นเรือชั้นไต้ฝุ่น ของสหภาพโซเวียต สร้างราวยุค 80 ระวางขับน่าจะประมาณ สามหมื่นตันครับ

1. Typhoon class ของสหภาพโซเวียต สร้างเเละปล่อยลงน้ำครั้งเเรกเมื่อ 30 มิถุนายน 1976 ระวางขับน้ำเมื่ออยู่ที่ผิวน้ำประมาณ 24,500 ตัน ขณะดำน้ำประมาณ 48,000 ตัน

2. ข้อนี้ไม่เเน่ใจครับ คิดว่าคงจะเป็น H.L. Hanley ของกองทัพฝ่ายใต้ในสงครามกลางเมื่องสหรัฐครับ สร้างเเละปล่อยลงน้ำครั้งเเรกช่วงก่อนปี 1863 ระวางขับน้ำประมาณ 6.8 ตัน

3.1 สหรัฐครับ

 มีเรือประเภท Ballistic missile 14 ลำ (Ohio class)

                   Guide missile 4 ลำ (Ohio class)

                   Nuclear Attack 53 ลำ (Los Angeles 43 , Sea Wolf 2 , Virginia 8)

                   Special Mission 1 ลำ (Mystric class)

                 รวมทั้งหมด 72 ลำ ครับ เเละกำลังสร้างเพิ่มเติมด้วย

3.2 ญี่ปุ่น ครับ มี Attack sub. (Soryu class 7 , Oyashio class 10)

                      Training sub. (Asashio class 1)

                  รวมทั้งหมด 18 ลำครับ เเละกำลังสร้างเพิ่ม

4. ตอบไม่ได้จริงๆครับ 5555

อาจจะมีข้อมูลผิดพลาดบ้าง ซึ่งมีเเน่นอนครับเพราะผมทำเเบบค่อนข้างรีบเลย ขออภัยไว้ตรงนี้ด้วยนะครับ

ข้อ 4 ถ้าคิดเป็น % ต่อที่ประจำการ คง ต้องให้ อินเดีย เขาละ 15 ลำ อุบัติเหตุ 4 ครั้ง เคยจมไป 1 ต้องกู้ขึ้นมาซ่อม

แต่ถ้าจะเอามากสุด รวมปลดระวาง แต่ไม่รวม Mini-Sub ก็ รัสเซีย เกิด 7 ครั้ง จมไป 2 ครั้ง, K-159 (ปลดระวางแล้ว) กับ Kursk (K-141)

สวัสดีคุณกบและสมาชิก Thai Fighter ทุกท่านค่ะ หายไปนาน แต่ยังระลึกถึงทุกๆท่านค่ะ ขอบคุณที่เข้ามาร่วมตอบคำถามกันคะ

ข้อ 4 คิดเฉพาะเรือที่ยังประจำการ และเกิดอุบัติเหตุจมค่ะ (คือเกิดอุบัติเหตุแล้ว เรือจม แต่กู้ได้ใหม อีกเรื่องนึง ไม่นับเฉี่ยวชนกับเรือผิวน้ำ แล้วเครื่องยนต์ขัดข้อง แต่ไม่จม หรือไปทำให้เรือชาวบ้านจม แต่ตัวเองไม่เป็นอะไร ประมาณนั้นค่ะ)  รวมเรือดำน้ำทุกชนิดค่ะ Kursk ของรัสเซีย ก็นับได้ค่ะ เพราะเรือเกิดระเบิดจมลงขณะดำใต้น้ำ ปี 2000 แต่ให้เอาจำนวนเรือที่เกิดอุบัติเหตุจม มาเทียบกับจำนวนเรือทั้งหมดค่ะ

ข้อมูลไม่ค่อยมั่นใจนะครับ อาจมีผิดพลาดบ้าง
1 เรือดำน้ำขนาดใหญ่ที่สุดในโลกเท่าที่เคยมีการสร้างมา 
Typhoon-class submarine
สร้างโดย สหภาพโซเวียต
เมื่อ 30 มิถุนายน  1976
ขนาด (ระวางขับน้ำ):    23200-24500 ตัน ที่ผิวน้ำ
33800-48000 ตัน ขณะดำ
2 เรือดำน้ำขนาดเล็กที่สุดในโลกเท่าที่เคยมีการสร้างมา
H. L. Hunley   Displacement: ระวางขับน้ำ 6.8 ตัน
สร้างเมื่อ ต้นๆปี คศ 1863
โดย สมาพันธรัฐอเมริกา   (ฝ่ายใต้ ช่วงสงครามกลางเมืองอเมริกา)

3.1 สหรัฐครับ USA  มีทั้งหมด 72 ลำ  
Los Angeles-class submarine  39
Ohio-class submarine    18
Seawolf-class submarine     3 
Virginia-class submarine  12  
 

3.2 จีนครับ รวมที่สร้างเอง 58 ลำ (ต่อยอดจากของโซเวียตหลายคลาสอยู่เหมือนกันครับ)

Type 094 submarine   4
Type 092 submarine   1
Type 095 submarine   1
Type 093 submarine   2
Type 091 submarine   3
Type 039A submarine  15
Type 039 submarine   13
Type 035 submarine   17   
Type 032 submarine   1
Type 031 submarine   1

4. ของรัสเซียครับ จมไปสองลำ 
K-141 Kursk ระเบิด ตายไป118 นาย  ปี 2000
K-159 จม ตายไปเก้านาย  ปี 2003
คิดเป็นประมาณ 4 %

ขอเฉลยประมาณช่วงกลางๆเดือนธันวาคม นะคะ ^_^

จะทะยอยเฉลยคำตอบทีละข้อนะคะ  .. ช่วงนี้ป่วยยาว ตั้งแต่ 10 ธันวาคม เลยไม่ได้เรียบเรียงข้อมูลเท่าที่ควร  

เฉลย ข้อที่ 1 ข้อนี้ง่าย เพราะมีหลายเว็บไซด์จัดอันดับสถิติไว้แล้ว เรือดำน้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คือ เรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ ชั้น Typhoon ของรัสเซีย ขนาดระวางขับน้ำประมาณ 48,000 ตัน ความยาวเรือ 175 เมตร ส่วนที่กว้างสุดของเรือ 23 เมตร ขึ้นระวางประจำการในปี 1981 (ขณะนี้ยังคงประจำการในกองทัพเรือรัสเซีย) เรือดำน้ำที่ใหญ่เป็นลำดับที่ 2 ของโลก คือ เรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ ชั้น Borei Class เป็นของประเทศรัสเซีย เช่นกัน ขนาดระวางขับน้ำ 24,000 ตัน ความยาวเรือ 170 เมตร ส่วนที่กว้างที่สุดของเรือ เมตร 13.5 เมตร ขึ้นระวางประจำการในปี 2013 (จะเห็นว่าความยาวเรือใกล้เคียง Typhoon Class แต่น้ำหนักต่างกันเท่าหนึ่ง) เรือดำน้ำขนาดใหญ่อันดับ 3 ของโลก คิอ เรือดำน้ำ ชั้น Ohio Class ของสหรัฐอเมริกา ขนาดระวางขับน้ำ 18,750 ตัน ความยาวและบีมเรือใกล้เคียงกับ Borei Class คือยาว 170 เมตร ส่วนที่กว้างที่สุด 13 เมตร  สหรัฐอเมริกาประจำการเรือดำน้ำชั้นนี้ 18 ลำ ลำดับ 4 คือ เรือดำน้ำ ชั้น Delta Class ของรัสเซีย ขนาดระวางขับน้ำ 18,200 ตัน และลำดับที่ 5 คือ เรือดำน้ำ ชั้น Vanguard Class ประเทศอังกฤษ ขนาดระวางขับน้ำ 15,900 ตัน (Reference :   (ดูเพิ่มเติมเรือดำน้ำขนาดใหญ่ที่สุดในโลก 10 อันดับแรก) ) 

ภาพประกอบ เรือดำน้ำ ชั้น Typhoon มีจำนวนหลายภาพในอินเตอร์เน็ต คงหาชมกันได้ไม่ยาก จึงนำภาพที่ชอบเป็นการส่วนตัวมาให้ชมคะ เรือดำน้ำ Typhoon กับเหมียว จากเว็บไซด์ http://macsog.org/?p=938

http://www.naval-technology.com/features/feature-the-worlds-biggest-submarines/

Reference เรือดำน้ำขนาดใหญ่ที่สุดของโลก ค่ะ

ขอเฉลยข้อที่ 3 ก่อนนะคะ

จำนวนเรือดำน้ำที่ประจำการในกองทัพเรือต่างๆ จะพบว่าข้อมูลจากเว็บไซด์ต่างๆ ไม่ตรงกันแน่นอน หากจะจัดสถิติ เฉพาะจำนวนเรือดำน้ำที่ประจำการ (ไม่แยกว่าต่อภายในประเทศ หรือนำเข้า) ว่าประเทศใดมีเรือดำน้ำประจำการมากที่สุด (นับถึงช่วงปลายปี พ.ศ.2558) จะเกาะกลุ่มกันมา 3 ประเทศ คือ ประเทศสหรัฐอเมริกา ประเทศเกาหลีเหนือ และประเทศรัสเซีย โดยสื่อออนไลน์ส่วนใหญ่จะระบุว่าเกาหลีเหนือมีเรือดำน้ำประจำการมากที่สุด อย่างไรก็ตาม จำนวนเรือดำน้ำของประเทศเกาหลีเหนือที่เผยแพร่ในสื่อออนไลน์ มาจากการประมาณการหรือคาดคะเน ผสมอยู่ด้วย

โดยส่วนตัวจากการศึกษาเอกสารต่างๆ ประเทศที่มีเรือดำน้ำประจำการมากที่สุดในปัจจุบัน (ไม่แยกเรือที่ต่อเองในประเทศ หรือนำเข้า) คือ ประเทศสหรัฐอเมริกา จำนวน 80 ลำ ตามด้วยประเทศเกาหลีเหนือ จำนวนประมาณ 72 ลำ ขึ้นไป และสหภาพโซเวียตรัสเซีย จำนวนประมาณ 71 ลำ ซึ่งสถิตินี้ หากท่านใดมีข้อมูลที่ขัดแย้ง หรือเพิ่มเติม สามารถเสนอนะคะ เพื่อความชัดเจนในการทำสถิติข้อมูล)

คราวนี้มาดูในส่วนของคำตอบของข้อที่ 3  จากคำถามที่ว่าประเทศใดมีเรือดำน้ำที่ต่อเองในประเทศประจำการมากที่สุด ประกอบด้วย เรือดำน้ำประเภทใดบ้าง อย่างละกี่ลำ    

คำตอบ คือ ประเทศที่ปัจจุบันมีเรือดำน้ำที่ต่อเองในประเทศมากที่สุด คือ ประเทศสหรัฐอเมริกา

ประเทศสหรัฐอเมริกา ไม่มีการสั่งซื้อเรือดำน้ำจากต่างประเทศมาประจำการ เป็นเรือที่ต่อเองในประเทศทั้งหมด (Reference: United States Submarine Import and Export Behavior

http://www.nti.org/analysis/articles/united-states-submarine-import-and-export-behavior/ )

เรือดำน้ำของกองทัพเรือสหรัฐอเมริกา ปัจจุบันมีจำนวน 80 ลำ ทั้งหมดเป็นเรือดำน้ำขับเคลื่อนพลังงานนิวเคลียร์ ประกอบด้วย  

1. เรือดำน้ำ ประเภท Attack Submarine (SSN – เรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ โจมตี ติดตั้งอาวุธตอร์ปิโด) รวม 62 ลำ ประกอบด้วย  เรือดำน้ำ ชั้น Los Angeles Class จำนวน 38 ลำ เรือดำน้ำ ชั้น Seawolf Class จำนวน 3 ลำ และเรือดำน้ำ ชั้น Virginia Class จำนวน 21 ลำ

2. เรือดำน้ำ ประเภท Ballistic Missile Submarine (SSBN – เรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ ติดตั้งขีปนาวุธระยะไกล) เป็นเรือดำน้ำ ชั้น Ohio Class จำนวน 14 ลำ

3. เรือดำน้ำประเภท Guided Missile Submarine (SSGN – เรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ติดตั้งอาวุธปล่อยใต้น้ำ-สู่-พื้น) เป็นเรือดำน้ำ ชั้น Ohio Class จำนวน 4 ลำ

แผนภาพจาก Reference ที่แนบ คือ “2015 SHIPS AND SUBMARINES OF THE UNITED STATES NAVY”  http://www.raytheon.com/capabilities/rtnwcm/groups/ids/documents/content/rtn_242005.pdf

คิดว่าเป็นข้อมูลที่ค่อนข้างจะเที่ยงตรงที่สุด แต่จะนับจำนวนเรือดำน้ำในแผนภาพ จะได้ 80 ลำ โดยลำที่ไม่มีในแผนภาพ เพราะพึ่งปลดระวางไป เป็นเรือดำน้ำชั้นลอสแอนเจลลิส จำนวน 3 ลำ คือ USS Portsmouth (SSN-707 ปลดระวาง 1 กันยายน 2558) USS Houston (SSN-713 ปลดระวาง 21 กันยายน 2558) และ USS Salt Lake City (SSN-716 ปลดระวาง 30 กันยายน 2558) และในปีหน้า (พ.ศ.2559) เรือดำน้ำ ชั้น Los Angeles Class จะปลดระวางอีก 1 ลำ คือ USS City of Corpus Christi (SSN-705)

ประเภทของเรือดำน้ำที่ประจำการในกองทัพเรือสหรัฐอเมริกา ต่างจากประเทศเกาหลีเหนือ ปัจจุบัน สหรัฐอเมริกา ไม่มีเรือดำน้ำพลังงานดีเซล – ไฟฟ้า ประจำการ ทุกลำขับเคลื่อนพลังงานนิวเคลียร์ โดยเรือดำน้ำพลังงานดีเซล – ไฟฟ้า ลำสุดท้าย ของอเมริกา คือ USS Blueback (SS-581) ชั้น Barbel Class ปลดระวางประจำการเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ.2533 แต่เรือดำน้ำของเกาหลีเหนือในปัจจุบัน เป็นเรือดำน้ำดีเซล – ไฟฟ้า ทั้งหมดค่ะ   

ขออนุญาตแจ้งชื่อผู้ได้รับรางวัลก่อนนะคะ เพราะเจ้าของกระทู้ช่วงนี้ไม่ค่อยอยู่กับร่องกับรอย หายตัวบ่อย กว่าจะเฉลยครบหลายท่านคงรอนาน ไม่มีท่านที่ตอบถูกทุกข้อ แต่ขออนุญาตให้ท่านที่ตอบถูกมากที่สุดค่ะ คือ คุณ miwapiwat กรุณาแจ้งชื่อและที่อยู่ที่จะส่งของรางวัลไปให้ทาง Inbok อีเมล์ piawattana แอด hotmail ดอท คอม  คะ ขอส่งให้ช่วงต้นเดือนมกราคม 2559 หลังปีใหม่ค่ะ ขอบคุณค่ะ

เฉลย คร่าวๆ ต่อ 3.2 ประเทศในเอเชียที่มีเรือดำน้ำต่อเองในประเทศมากที่สุด คือ ประเทศเกาหลีเหนือ ตามด้วยจีนแผ่นดินใหญ่ / ข้อ 2 ส่วนใหญ่ จะตอบเรือดำน้ำฮันลีย์ หรือฮันเลย์ ของสหรัฐอเมริกา ระวางขับน้ำประมาณ 6 ตัน ช่วงสงครามกลางเมือง แต่จริงๆแล้ว เรือดำน้ำขนาดจิ๋วๆ มันจะมีอยู่ด้วยกัน 3 ประเภท เท่าที่พบข้อมูลค่ะ คือ 1.Midget Submarine เรือดำน้ำจิ๋ว (ลองค้นดู ระวางต่ำสุดประมาณ 3.5 ตัน ของญี่ปุ่นช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง) / 2.DSRV ยานช่วยชีวิตจากการจมลึก - ที่ใช้ค้นหาเรือดำน้ำจม และตอร์ปิโดมนุษย์ หรือ 3.Human torpedo / manned torpedo เป็นยานใต้น้ำประเภท rideable submarine - ขับขี่โดยนักประดาน้ำบรรทุกตอร์ปิโดลอบเข้าไปทำลายเรือเป้าหมาย จะมีขนาดระวางขับน้ำเหนือน้ำไม่ถึงตัน ใต้น้ำประมาณ 1 ตัน จึงมีขนาดเล็กที่สุดในทั้ง 3 ประเภท ค่ะ รายละเอียดค่อยลงให้อีกทีค่ะ

ประเทศที่มีเรือดำน้ำต่อเองในประเทศมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก คือ สหภาพโซเวียตรัสเซีย
ใน ปัจจุบันกองทัพเรือรัสเซีย มีเรือดำน้ำประจำการ 71 ลำ ในจำนวนนี้ เป็นเรือดำน้ำที่ปฏิบัติงานตามปรกติ ประมาณ 48 – 50 ลำ นอกนั้นเป็นเรือที่อยู่ระหว่างการซ่อมแซม ปรับปรุงให้ทันสมัยขึ้น หรือมีสภาพเก่าเป็นเรือสำรอง เตรียมปลดระวางประจำการ ทั้งหมดเป็นเรือดำน้ำที่ต่อเองในประเทศ รัสเซียไม่มีการสั่งซื้อเรือดำน้ำจากต่างประเทศมาประจำการ แต่ผลิตเรือดำน้ำส่งออกด้วย ซึ่งข้อมูลประกอบดูได้ที่ Reference: Russia Submarine Import and Export Behavior http://www.nti.org/.../russia-submarine-import-and.../
เรือดำน้ำทั้ง 71 ลำ ประกอบด้วย
1. เรือดำน้ำขับเคลื่อนพลังงานนิวเคลียร์ จำนวน 45 ลำ ประกอบด้วย
1.1 เรือดำน้ำ ประเภท Attack Submarine (SSN – เรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ โจมตี ติดตั้งอาวุธตอร์ปิโด) จำนวน 21 ลำ ประกอบด้วย - เรือดำน้ำ ชั้น Sierra I โปรเจ็ค 945 จำนวน 2 ลำ - เรือดำน้ำ ชั้น Sierra II โปรเจ็ค 945A จำนวน 2 ลำ - เรือดำน้ำ ชั้น Victor III โปรเจ็ค 671RTMK จำนวน 4 ลำ - เรือดำน้ำ ชั้น Akula โปรเจ็ค 971 จำนวน 10 ลำ (ปฏิบัติงานตามปรกติ 4 ลำ อยู่ระหว่างการซ่อมแซมและปรับปรุงใหม่ 6 ลำ) - เรือดำน้ำ ชั้น Akula โปรเจ็ค โปรเจ็ค 971I จำนวน 1 ลำ - เรือดำน้ำ ชั้น Akula III โปรเจ็ค 971M จำนวน 1 ลำ - เรือดำน้ำ ชั้น Yasen โปรเจ็ค 885 จำนวน 1 ลำ
1.2 เรือดำน้ำ ประเภท Ballistic Missile Submarine (SSBN – เรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ ติดตั้งขีปนาวุธระยะไกล) จำนวน 16 ลำ ประกอบด้วย - เรือดำน้ำ ชั้น Delta III โปรเจ็ค 667BDR จำนวน 3 ลำ - เรือดำน้ำ ชั้น Typhoon โปรเจ็ค 941 จำนวน 2 ลำ (ขณะนี้เรือทั้ง 2 ลำ ถูกจัดเป็นเรือสำรอง และอาวุธบางส่วนถูกถอดออกแล้ว เตรียมปลดระวางประจำการใน พ.ศ.2562) - เรือดำน้ำ ชั้น Typhoon โปรเจ็ค 941UM จำนวน 1 ลำ - เรือดำน้ำ ชั้น Delta IV โปรเจ็ค 667BDRM จำนวน 6 ลำ - เรือดำน้ำ ชั้น Borei โปรเจ็ค 955 จำนวน 3 ลำ (1 ลำ ปฏิบัติงานตามปรกติ อีก 2 ลำ อยู่ระหว่างซ่อมแซม – ปรับปรุงใหม่) - เรือดำน้ำ ชั้น Yasen II โปรเจ็ค 885M ทร รัฐเซีย มีแผนการสร้าง 9 ลำ ขึ้นระวางแล้ว 1 ลำ คือ Severodvinsk (K-650)                                                                                   1.3 เรือดำน้ำประเภท Cruise Missile Submarine (SLCM – เรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ติดตั้งอาวุธ Cruise Missile) พจนานุกรมศัพท์ทหารเรือ ให้ความหมายภาษาไทยของ Cruise Missile ว่า ขีปนาวุธติดปีกขนาดเล็ก ในขณะที่สื่อทั่วไปจะให้ความหมายว่า จรวดร่อน) จำนวน 8 ลำ เป็นเรือดำน้ำ ชั้น Oscar II โปรเจ็ค 949A (ปฏิบัติงานตามปรกติ 5 ลำ อยู่ระหว่างการซ่อมแซมและปรับปรุงใหม่ 3 ลำ)

ก่อนไปสู่เรื่องของข้อมูลเรือดำน้ำ สาธารณรัฐประชาชนจีน (จีนแผ่นดินใหญ่) ประเทศที่มีเรือดำน้ำประจำการมากเป็นอันดับ 4 ของโลก และมีเรือดำน้ำที่ต่อเองในประเทศมากเป็นอันดับที่ 2 ของเอเชีย ขอนำภาพน่ารักๆมาให้ชมกันก่อนค่ะ (พอดียังพิมพ์ข้อมูลไม่เสร็จ แฮ่ๆๆ) เป็นภาพเปรียบเทียบความเหมือนของเรือดำน้ำรัสเซีย กับเหมียวและตุ๊กตาแมวน้ำ (ไม่แน่ใจว่าเป็น Oscar หรือปล่าว? .. ภาพเรือดำน้ำรัสเซียที่ค้นเจอ มักมีรูปเหมียวเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ไม่รู้เพราะอัลไล..)

2. เรือดำน้ำขับเคลื่อนพลังงานดีเซล – ไฟฟ้า จำนวน 23 ลำ มีรายละเอียดดังนี้ 2.1 เรือดำน้ำ Conventional Attack Submarines (SS – เรือดำน้ำโจมตี ใช้ระบบขับเคลื่อนดีเซล – ไฟฟ้า อาวุธหลักคือตอร์ปิโด) รวม 23 ลำ ประกอบด้วย - เรือดำน้ำ ชั้น Kilo Class โปรเจ็ค 877 จำนวน 15 ลำ (ปฏิบัติงานตามปรกติ 11 ลำ อยู่ระหว่างการซ่อมแซม 3 ลำ และสถานะไม่แน่ชัดว่าปลดระวางแล้วหรือไม่ 1 ลำ) - เรือดำน้ำ ชั้น Kilo Class โปรเจ็ค 877EKM จำนวน 1 ลำ - เรือดำน้ำ ชั้น Kilo Class โปรเจ็ค 877LPMB จำนวน 1 ลำ - เรือดำน้ำ ชั้น Kilo Class โปรเจ็ค 877V จำนวน 1 ลำ (อยู่ระหว่างการซ่อมแซม) - เรือดำน้ำชั้น Kilo ปรับปรุงใหม่ โปรเจ็ค 636 จำนวน 4 ลำ - เรือดำน้ำ ชั้น Tango โปรเจ็ค 641B จำนวน 1 ลำ ( Svyatoy Knyaz Georgiy (B-380) – ปัจจุบันอยู่ระหว่างการปรับปรุงให้ทันสมัยขึ้น)
2.3 เรือดำน้ำสำหรับปฏิบัติภารกิจเฉพาะ (Special Purposed Submarines) จำนวนประมาณ 3 ลำ ซึ่งประเภทของเรือไม่แน่นอน บางแหล่งข่าวระบุว่าใช้ระบบขับเคลื่อนดีเซล – ไฟฟ้า ในขณะที่บางแหล่งข่าวระบุว่าใช้ระบบขับเคลื่อนพลังงานนิวเคลียร์ หรืออาจนำเทคโนโลยีใหม่ๆมาทดลองใช้ และปฏิบัติภารกิจพิเศษ เช่น เป็นเรือดำน้ำทดลองทางด้านวิทยาศาสตร์ หรือเป็นเรือดำน้ำสอดแนม (เช่น เรือดำน้ำ โปรเจ็ค 20120 Sarov / โปรเจ็ค 09786)
นอกจาก นี้ยังมีเรือดำน้ำที่สถานะไม่แน่นอนว่าประจำการหรือไม่ จึงยังไม่นำมารวมไว้ เช่น อดีตเรือดำน้ำ ชั้น Delta IV โปรเจ็ค 09787 ปลดระวางประจำการไปเมื่อ พ.ศ.2542 และอยู่ระหว่างการปรับปรุงใหม่ให้ทันสมัยขึ้น เรือดำน้ำ Belgorod (K-329) ชั้น Oscar II โปรเจ็ค 949A ซึ่งมีพิธีปล่อยเรือลงน้ำไปแล้ว และทดสอบการแล่นเรือในทะเล เมื่อ พ.ศ. 2554 มีกำหนดขึ้นระวางประจำการในปีที่แล้ว แต่สถานะปัจจุบันยังไม่แน่ชัด รวมถึงเรือดำน้ำประเภท Ballistic Missile Submarines ชั้น Borei II โปรเจ็ค 955A ซึ่งเว็บไซด์ Naval Technology (http://www.naval-technology.com/projects/borei-class/) ระบุว่า ทร. รัสเซีย มีแผนการต่อเรือชั้นนี้ จำนวน 7 ลำ และ 3 ใน 7 ลำ จะประจำการในปี พ.ศ.2558

ประเทศเกาหลีเหนือ หลายแหล่งข่าวจัดอันดับให้เป็นประเทศที่มีเรือดำน้ำประจำการมากที่สุดในโลก รวมจำนวนเรือดำน้ำ ประมาณ 72 - 78 ลำ อย่างไรก็ตามข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนเรือดำน้ำ มาจากการคาดคะเนประกอบด้วย ในความคิดเห็นของหนูตี่ (OA) ประเทศที่มีเรือดำน้ำประจำการมากที่สุดในโลก จึงเป็นประเทศสหรัฐอเมริกา ตามข้อมูลที่เสนอไปข้างต้น (แต่หากท่านใดมีข้อมูลเพิ่มเติม สามารถแสดงความคิดเห็นได้ค่ะ) เรือดำน้ำของเกาหลีเหนือ ทั้งหมดเป็นเรือดำน้ำขับเคลื่อนพลังงานดีเซล – ไฟฟ้า โดยเน้นความสำคัญในการสร้าง-จัดหาเรือดำน้ำขนาดกลาง เรือดำน้ำขนาดเล็ก สำหรับการลาดตระเวนชายฝั่ง และเรือดำน้ำจิ๋ว (midget submarine) ประกอบด้วย เรือดำน้ำที่ต่อขึ้นเองในประเทศ และเรือดำน้ำที่สั่งซื้อจากรัสเซีย และจีนแผ่นดินใหญ่ (มีทั้งสั่งซื้อทั้งลำ หรือสั่งซื้อชิ้นส่วนจากจีนมาประกอบเอง) โดยเรือดำน้ำที่ต่อเองในประเทศมีจำนวน 68 ลำ เกาหลีเหนือ จึงเป็นประเทศในเอเชียที่มีเรือดำน้ำที่ต่อเองในประเทศมากที่สุด ซึ่งเป็นคำตอบของ ข้อที่ 3.2    

เรือดำน้ำทั้ง 68 ลำ เป็นเรือดำน้ำขับเคลื่อนพลังงานดีเซล – ไฟฟ้า อาวุธหลักคือตอร์ปิโด และสามารถวางทุ่นระเบิดได้ด้วย  มีรายละเอียดดังนี้                                                                                                                                                                                      1. เรือดำน้ำชั้น Sang-O เป็นเรือดำน้ำชายฝั่งขนาดเล็ก (coastal submarine) ระวางขับน้ำ 275 ตัน เหนือน้ำ / 370 ตัน ใต้น้ำ มีจำนวนประมาณ 40 ลำ หรือมากกว่า (เรือดำน้ำชั้นนี้ เกาหลีเหนือผลิตขายให้กับประเทศอิหร่านด้วย)                                                                                                                                                                    2. เรือดำน้ำ ชั้น Yono เป็นเรือดำน้ำจิ๋ว (midget submarine)  ระวางขับน้ำ 76 - 95 ตัน เหนือน้ำ / 130 ตัน ใต้น้ำ สร้างขึ้นทดแทนเรือดำน้ำจิ๋ว ชั้น Yugo ที่ปลดระวางไป มีจำนวนประมาณ 10 ลำ (เกาหลีเหนือ ผลิตเรือดำน้ำชั้น Yono ขายให้ประเทศอิหร่าน ภายใต้ชื่อ ชั้น Ghadir Class และเคยเกิดกรณีเรือคอร์เวต ชั้น Pohang ของเกาหลีใต้จม ซึ่งสันนิฐานกันว่ามาจากตอร์ปิโด เรือดำน้ำ ชั้น Yono ของเกาหลีเหนือด้วย)                                                                                                                    3. เรือดำน้ำ ชั้น Romeo ไทป์ 033 ขนาดระวางขับน้ำ 1,475 ตัน เหนือน้ำ / 1,830 ตัน ใต้น้ำ มีต้นกำเนิดจากประเทศรัสเซีย เกาหลีเหนือเริ่มประจำการเรือดำน้ำ ชั้นนี้ ตั้งแต่ ปี 1973 ซึ่งข่าวระบุว่าในอดีตเกาหลีเหนือเคยประจำการเรือดำน้ำชั้นนี้มากถึง 77 ลำ โดยสั่งซื้อจากรัสเซียและจีนแผ่นดินใหญ่ ก่อนที่จะต่อเองในประเทศ ปัจจุบันเกาหลีเหนือ ประจำการ เรือดำน้ำ ชั้น Romeo ไทป์ 033 จำนวน 22 ลำ เป็นเรือดำน้ำที่ต่อเองในประเทศ ที่อู่ต่อเรือ Mayang-do ของกองทัพเรือ (แต่ชิ้นส่วนนำเข้าจากจีนแผ่นดินใหญ่) จำนวน 18 ลำ และสั่งซื้อจากจีนแผ่นดินใหญ่ 4 ลำ  

นอกจากนี้ เกาหลีเหนือ กำลังต่อเรือดำน้ำ ชั้น Sinpo  จำนวน 1 ลำ แต่ยังไม่เข้าประจำการ จึงไม่ได้นำมารวมไว้