|
|||
4 กันยายน 2558 10:20 น. (แก้ไขล่าสุด 4 กันยายน 2558 10:31 น.) |
ASTVผู้จัดการออนไลน์ - อินโดนีเซียตัดสินใจซื้อเครื่องบินรบ Su-35 ที่ผลิตในรัสเซีย 1 ฝูง จำนวน 16 ลำ โดยจะมีการเซ็นข้อตกลงต่างๆ ในเดือน ก.ย.นี้ เพื่อนำเข้าประจำการแทนฝูง F-5E “ไทเกอร์ II” ที่จะต้องปลดระวางประจำการในระยะไม่นานข้างหน้า เนื่องจากใช้งานมานานกว่า 30 ปี รัฐมนตรีกลาโหมอินโดนีเซีย รีอามิซาร์ด รีอาคูดู (Ryamizard Ryacudu) เปิดเผยเรื่องนี้วันพุธ 2 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้อินโดนีเซียเป็นลูกค้ารายแรกในโลกของเครื่องบินรบยุค 4++ ที่ออกแบบ และผลิตโดยบริษัทซูคอย ตามรายงานของอันตารา (Antara) สำนักข่าวทางการ กระทรวงกลาโหม และผู้บัญชาการกองทัพอากาศได้ตัดสินใจจัดหา Su-35 จำนวน 16 ลำ หรือ 1 ฝูง แต่การจัดซื้อจะต้องปรับแต่งเข้ากับขีดความสามารถทางการเงินของประเทศ ซึ่งหมายความถึงการทยอยจัดซื้อเป็นล็อต สาเหตุหนึ่งที่ทำให้กระทรวงกลาโหม กับกองทัพอากาศเลือก Su-35 ก็เนื่องจากนักบินคุ้นเคยเครื่องบินรบของซูคอยเป็นอย่างดี ปัจจุบัน อินโดนีเซียมี Su-27 ประจำการอยู่ 5 ลำ และ Su-30 อีก 11 ลำ ที่จัดซื้อเป็นหลายล็อตในช่วงหลายปีมานี้ นอกเหนือจากเครื่องบินของค่ายโซเวียต/รัสเซียแล้ว ก็ยังมี F-16C/D บล็อก 52 ที่ได้รับบริจาคจากสหรัฐอีก 24 ลำ และอยู่ระหว่างทยอยอัปเกรดระบบต่างๆ และ T-50 “โกลเดนอีเกิล” ที่ซื้อจากเกาหลีอีกจำนวนหนึ่ง พล.อ.รีอาคูดู ซึ่งเป็นอดีตเสนาธิการทหารบกอินโดนีเซีย เปิดเผยอีกว่า การเซ็นความตกลงเกี่ยวกับการซื้อขาย Su-35 กับรัสเซีย จะมีขึ้นภายในเดือน ก.ย.นี้ . . . . อันตารา ยังรายงานอ้างเจ้าหน้าที่ระดับสูงอีกผู้หนึ่งว่า รัสเซียพร้อมถ่ายทอดเทคโนโลยีให้แก่อินโดนีเซียด้วย ซึ่งเป็นข้อกำหนดหนึ่งของรัฐบาลในการซื้ออาวุธยุทธภัณฑ์ต่างๆ จากต่างประเทศ นอกจากนั้น ก็กำลังจะมีการเจรจากันเพิ่มเติมในบางเรื่อง รวมทั้งเงื่อนไขทางการด้านการเงินที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากจะเป็นการซื้อเครื่องบินพร้อมระบบอาวุธต่างๆ อย่างครบถ้วน เพื่อให้เป็นเครื่องบินรบที่ทำได้หลายภารกิจ ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดใดๆ เกี่ยวกับมูลค่าเครื่องบินทั้ง 16 ลำ ออปชันต่างๆ พร้อมทั้งระบบอาวุธ ตลอดจนเงื่อนไขเกี่ยวกับการซื้อขาย ซึ่งที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการซื้อ Su-30 จำนวน 6 ลำล่าสุด รัสเซียได้ให้สินเชื่อแก่อินโดนีเซียเพื่อการนี้โดยเฉพาะ การประกาศซื้อ Su-35 ได้ทำให้การคาดการของบรรดานักวิเคราะห์เกี่ยวกับระบบอาวุธในภูมิภาคนี้ยุติ ลง เนื่องจากก่อนหน้านี้ ได้มีการเจรจาอย่างกว้างขวางกับผู้ผลิตเครื่องบินรบหลายรุ่น รวมทั้งไต้ฝุ่น (Typhoon) จากอังกฤษ และ JAS-39 “กริพเพน” โดยกลุ่มซาบแห่งสวีเดนด้วย ปัจจุบัน Su-35 เป็นเครื่องบินรบทันสมัยที่สุดของกองทัพรัสเซีย ในขณะที่ T-50 PAK FA เครื่องบินรบยุคที่ 5 เทคโนโลยี “สเตลธ์” ยังอยู่ระหว่างการพัฒนา ซึ่งต้องใช้งบประมาณอีกมหาศาล เป็นเจ้าของฉายา “ซูเปอร์แฟล็งเคอร์” (Super Flanker) ที่กลุ่มนาโต้เรียกขาน Su-35 เริ่มอยู่ในสายตาของหลายประเทศทั่งโลก ตั้งแต่ครั้งไปร่วมงานปารีสแอร์โชว์ปี 2556 ซึ่งนักบินรัสเซียได้แสดงให้เห็นขีดความสามารถด้านต่างๆ ของเครื่องบิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีความคล่องตัวที่สูงมากในการบินผาดแผลง เป็นที่ประทับใจผู้ที่ไปร่วมงาน Su-35 ขึ้นบินแสดงอีกครั้งหนึ่งในงาน “มอสโกแอร์โชว์” หรือ MAKS 2015 จัดขึ้นที่เมืองซูคอฟสกี้ ชานกรุงมอสโก ในสัปดาห์ผปลายเดือนที่ผ่านมา . |
||||
2 รัสเซีย กับจีนเจรจาซื้อขาย Su-35 มาหลายปี และยังไม่มีกำหนดเวลาเซ็นสัญญากันในขณะนี้ ซึ่ง Lenta.Ru สำนักข่าวกึ่งทางการในรัสเซีย รายงานว่า รัสเซียยื่นเงื่อนไขให้จีนซื้อถึง 48 ลำ ในขณะที่ฝ่ายจีนต่อรองลงเหลือเพียงไม่กี่ลำ ซึ่งรัสเซียมองว่าจีนต้องการเพียงซื้อไปเพื่อทำ “รีเวิร์สเอ็นจิเนีย” ซึ่งก็คือ การก๊อบปี้จากต้นแบบนั่นเอง สื่อของรัสเซีย กล่าวว่า รัสเซียเองไม่เคยไว้ใจจีนในเรื่องนี้ เนื่องจากมีประวัติที่เลวร้ายในการก๊อบปี้ Su-27 โดยนำไปผลิตในประเทศ อ้างเป็นของตนเอง โดยเรียกว่า J-11 ในที่สุด รัสเซียได้ยอมลดเงื่อนไขเรื่องจำนวนลงเหลือเพียง 24 ลำ แต่ผู้ที่อยู่วงในกล่าวว่า สองฝ่ายยังคงติดขัดในเรื่องเครื่องยนต์ กับระบบเอวิโอนิกต่างๆ ซึ่งจีนต้องการให้เป็นรุ่นเดียวกับที่ติดตั้งใน Su-35 ที่ประจำการในกองทัพอากาศจีนทั้งหมด ซึ่งบริษัทผู้ผลิตวิตกว่า เทคโนโลยีก้าวหน้าเหล่านี้อาจจะถูกจีนก๊อบปี้อีกเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องยนต์ไอพ่นที่ล้ำหน้า สมรรถนะสูงที่เทคโนโลยีจีนยังก้าวไปไม่ถึง อินโดนีเซีย มีชื่ออยู่ในบัญชีลูกค้าของ Su-35 มานานแล้ว ประเทศอื่นๆ ยังรวมทั้งเวเนซุเอลา กับเวียดนามด้วย ซึ่งเคยมีผู้วิเคราะห์ว่า เวียดนามกำลังรอดูการซื้อขายของจีนกับรัสเซีย และถ้าหากรัสเซียยอมขาย Su-35 ให้จีน เวียดนามที่เป็นลูกค้ารายใหญ่ที่สุดของเครื่องบินรัสเซียในย่านเอเชียตะวัน ออกเฉียงใต้ อาจจะหันไปหา JAS-39 Gripen แบบเดียวกับกองทัพอากาศไทย ด้วยข้อเท็จจริงทั่วไปที่ว่า สวีเดนพัฒนา “กริพเพน” ขึ้นมาเพื่อปราบเครื่องบินรัสเซียโดยเฉพาะ สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อไม่นานมานี้ว่า เวียดนามได้เจรจากับผู้ผลิตเครื่องบินรบยุโรปหลายค่าย รวมทั้งกลุ่มซาบแห่งสวีเดน ซึ่งเป็นผู้ผลิต JAS-39 ด้วย. |
สวีเดนพัฒนา “กริพเพน” ขึ้นมาเพื่อปราบเครื่องบินรัสเซียโดยเฉพาะ
ของรัสเซียต้องดูว่ามีการเจรจาจริงแค่ไหน หรือแค่เสนอเขาไป เพราะรัสเซียมีข่าวเยอะมาก ว่าคนนู้นสนใจคนนี้จะซื้อ ซ้ำไปมา สุดท้ายลำนี้ก้ขายไม่ออกซักที นัยว่าเพื่อปั่นกระแส สร้างมูลค่าเครื่องบิน
โพส ท่าน ยูกิกาเซ ผมหล่ะขรรม ไปด้วย จริงๆ ถถถถถถถถถถถถถถ ๆ
เรียกว่าต่อกรดีกว่าครับคงไม่ถึงขั้นปราบปราม
สำนวนที่ว่า กริฟเพน ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อปราบเครื่องบินรันเซียโดยเฉพาะ ผมเคยอ่านเจอครั้งแรกน่าจะในแทงโก ไม่รู้เหมือนกันว่าแทงโกจะเอามาจากไหน ใช่ข้อมูลที่ผู้ผลิตเค้าโฆษณาไว้อีกทีรึเปล่า.... เคยดูพรีเซนเทชั่นของ แจส ไหมล่ะ ยิง ซู เป็นยิงของเล่นเลย 5555
ไม่ได้เปรียบเทียบประสิทธิภาพอะไรอย่างมีนัยสำคัญ แค่เอาภาพลายเส้นมาให้ดูกันเฉยๆ ................. ไม่รุว่า ที่จับคู่กัน ออน สเกว หรือเปล่า.......................
..
..
น่าจะออนสเกลนะครับ เครื่องซูมันบิ๊กเบิ้มอยู่แล้ว
ประเด็นออกแบบมาปราบซู เรียกว่ามาเพื่อรับมือดีกว่า และเป็นไปตามหลักนิยมของประเทศเขาครับ ประเทศเล็กกว่าแรงน้อยกว่าจะชนกันตรงๆไม่ได้ ใช้วิธีการเดียวกันไม่ได้ ต้องหาวิธีอื่นมาต่อกร
รูปของท่าน กบ เคลียร์เลย กระจิดริด ลิตเติลบิ้ท มินิมินิ
ขอคุณท่านกบที่มีข้อมูลดีๆ มาประกอบครับ