17 ส.ค. - เหตุระเบิดแยกราชประสงค์ เวลาประมาณ 19.00 น. ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจปิดทำการจราจรบริเวรแยกราชประสงค์ทั้งหมดเเล้ว ขณะที่ห้างสรรพสินค้าใกล้เคียงยังไม่ปิดทำการ โดยห้างเกษรพลาซ่า จะเปิดบริการถึง 20 .00 น. แต่มีเจ้าหน้าที่มาประจำจุุดเพื่อรักษาความปลอดภัย
รายงานล่าสุดจากผู้สื่อข่าว พบผู้บาดเจ็บ 25 คน พบมีผู้เสียชีวิต 3 คนและอาจมีมากกว่านั้น โดยสภาพผู้เสียชีวิตสภาพชิ้นนื้อผู้เสียชีวิต กระจายอยู่ส่วนต่างๆ บริเวณใกล้ศาลพระพรหมเราวัณ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่กู้ภัยพยายามเข้าไปช่วยเหลือย่างเต็มที่ ขณะที่เจ้าหน้าที่ หน่วยตรวจสอบวัตถุระเบิดกำลังเข้าไปตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุอย่างเร่งด่วน
มีรายงานล่าสุดมีรถยนต์เสียหายกว่า 40 คัน รวมถึงจักรยานยนต์ที่มีรายงานว่าเเตกละเอียด อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ
:มติชนออนไลน์ (ตัวเลขยังไม่แน่นอนนะครับ) สมาชิกขอให้ระมัดระวังพื้นที่ดังกล่าวด้วยครับ
ระเบิดขนาดนี้ไม่ใช่มือสมัครเล่น TNT
ผู้หญิงเสียชีวิต 17 คน R.I.P ครับ
ขอความกรุณาอย่าพึ่งแสดงความคิดเห็นว่าเป็น ฝีมือของใครหรือกลุ่มไหนครับ
และกรุณาอย่าเผยแพร่ภาพของผู้เสียชีวิตต่อๆกันครับ
ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บในเหตุการณ์นี้ครับ /ADMIN
โเตรียมข้อมูลวิเคราะห์ มอไซ ไฟไหม้ กลางสี่แยก ไว้เลยครับ เพราะตอนนี้ ยืนยันว่า เป็นการวางในบริเวณเท่านั้น หนึ่งในการวิเคราะห์ สาเหตุ ของ กอ รมน ตามที่ติดตามในรายการข่าวช่อง Voice TV ความเห็นผมให้น้ำหนักเรื่องการแต่งตั้งโยกย้าย เป็นอันดับหนึ่ง ครับ แล้วรอสักพัก จะเอาข้อมูลมาวิเคราะห์ครับ
23.05 ฟังจากวิทยุ ระเบิดแท่ง 3 กิโล ระยะทำลาย100เมตร วางหน้าศาลครับผม
หวังผลทำลายชีวิต ก่อการร้าย100% ไม่ได้ก่อสถานการณ์แน่นอน
การข่าวไหวรึเปล่า
เท่าผมประมวณข่าวได้ หลังระเบิด
...ตอนแรกข่าวบอกมีเหตุคล้ายเสียงระเบิดบริเวณราชประสงค์....ต่อมาบอกคาดว่าเป็นคาร์บอม...ต่อมาบริเวณเกิดเหตุพบผู้เสียชีวิต2รายชายหนึ่งหญิงหนึ่ง...ต่อมาไม่ใช่คาร์บอมเพราะบริเวณที่เกิดมีรถจยย.เกิดไฟไหม้...ต่อมาบอกเป็นระเบิดแสวงเครื่องแบบ TNT ...อีกคึร่งชั่วโมงมีการแชร์ข้อความว่า คสช.แถลงการณ์สั่งให้ปิดโรงเรียน สถานที่ราชการ ธนาคารในเขตกรุงเทพฯ 1วัน ...ต่อมา คสช..ออกมาปฏิเสธ ..ต่อมาประมาณ1ชั่วโมงมีการแชร์รูปภาพและข้อความที่มีผู้ใช้เฟสบุ๊ครายหนึ่งโพสต์เกี่ยวกับจะมีเหตุระเบิดโดยระบุวันที่....ต่อมามีการบอกจุดเสี่ยงและบอกว่ามีการพบระเบิดอีก3ลูก.....ต่อมาบอกมีแค่ลูกเดียว.....ต่อมามีการแถลงจากโฆษกรัฐบาลว่าเป็นกลุ่มว่าเสียผลประโยชน์และกลุ่มการเมือง....
ข้อสงสัยจุดเกิดเหตุห่างจากหน่วยตำรวจไม่มากแต่ทำไมเจ้าหน้าที่เข้ามาในจุดเกิดเหตุช้ามาก และไม่ได้มีการกันประชาชนให้ออกจากจุดเกิดเหตุ หน่วยที่ไวทุกครั้งจะเป็นหน่วยกู้ภัยเอกชน.....
............................เนื่องด้วยมีหลักฐานเข้ามาใหม่ดังนั้นประเด็นข้อสงสัยก่อนหน้าจึงขอยกเลิกโดยเจ้าของโพสต์ Obeone...............
ให้สังเกตุ คลิป ที่ปรากฎเป็นภาพผู้ชายเสื่อสีเหลืองข้างต้นนะครับ...
1. จะมีผู้ชายใส่เสื้อสีแดง นั่งอยู่ก่อน
2. แล้วผู้ชายใส่เสื้อสีแดง ลุกขึ้น ผู้ชาย ใส่เสื้อสีเหลือง นั่งแทนที่
3. ผู้ชายเสื้่อสีแดง ยืนคุยกับ ผู้ชาย เสื้อสีขาว
4. พอผู้ชายเสื้อสีเหลือง วางกระเป๋า เสร็จ ผู็ชาย เสื้อสีแดง กับ ผู็ชาย เสื้อสีขาว ก็ยืนคุยกัน แล้วเดินออกไป
5. หลังจากนั้น ผู็ชาย เสื้อสีเหลือง ก็ทำอะไรในถุงสีฟ้า แล้วค่อยเดินตามออกมา
งานนี้ น่าจะมี 3 คน หรือเปล่า ? ดูลาดเลา 2 คน โดย ผู้ชายเสื้่อสีแดง นั่ง กัน วางตำแหน่งที่วางกระเป๋า ให้ ?
สื่อต่างประเทศเช่น BBC หรือ รอยเตอร์ ก็วิเคราะห์เอาไว้เป็น 3 ทางครับ (แต่ผมไม่พูดถึงละกันนะครับ)
เมื่อคืนนี้ข่าวปล่อย ข่าวปลอมเต็มไปหมด จะเชื่ออะไรสักข่าวต้องคิดให้มากๆ เวลาอย่างนี้เราคงต้องสามัคคีกันมากกว่าที่เคย ผมไม่อยากให้ระเบิดลูกเดียวระเบิดความเชื่อใจกันของคนไทยให้กระจุยตามไปด้วยเลยครับ
ที่สำคัญ ขอแสดงความเสียใจแก่ผู้สูญเสีย ขอให้กำลังใจกับเจ้าหน้าที่ และขอสาปแช่งคนทำครับ
พบผู้ต้องสงสัยระเบิดกรุงฯ เป็นแขกขาว/โยงกลุ่มอุยกูร์ | เดลินิวส์
http://www.dailynews.co.th/crime/342320
ผมว่าแล้วเชียวระดับมืออาชีพ
ในส่วนที่จะเป็นสาเหตุจาก อุยกูร์...
ผมยังมีข้อขัดแย้งในใจอยู่ว่า...ถ้ามีการ ก่อเหตุ เพื่อสาเหตุ ดังกล่าว...น่าจะทำให้ สถานะการณ์ของคนอุยกูร์ ที่ประเทศจีน ตกอยู่ในสถานะการณ์ลำบาก มากกว่าเดิม ครับ...และ ถ้าเพื่อแก้แค้นจริง ๆ...เป้าหมายที่เยาวราช น่าจะสร้างความเสียหาย ได้มากกว่า...ซึ่งก็ไม่ได้ไกลกันเท่าไหร่...ซึ่งใน บริเวณ ราขประสงค์ นี้...เป็นบริเวณที่กลุ่มเชื้อชาติค่อนข้างหลากหลายมาก...
สว่นหนึ่งในความเห็นของผม คือ มีความผิดพลาดเกิดขึ้นในเรื่องเวลาของการระเบิด...
ข่าว จส. 100
*ผบ.ตร. ยืนยันเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์ยังไม่พบความเชื่อมโยงอุยกูร์
วันนี้, 09:30น.
http://www.js100.com/en/site/news/view/16415
พลตำรวจเอกสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยพลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ / แพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ / ตำรวจชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด หรือ อีโอดี ประชุมศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ ศปก.พร้อมประชุมผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์เพื่อรายงานต่อหน่วยงานความมั่นคง สรุปสถานการณ์เหตุระเบิดบริเวณแยกราชประสงค์เมื่อคืนนี้ ในที่ประชุมมีการรายงานยอดผู้เสียชีวิตขณะนี้จำนวน 20 คน แบ่งเป็นคนไทย 5 คน / ชาวจีน 2คน / ฮ่องกง 2 คน / มาเลเซีย 2 คน / สิงคโปร์ 1 คน / ยังไม่ทราบสัญชาติ 8 คน (เป็นชาย 2 หญิง 5 เด็กหญิง 1)ขณะที่มีผู้บาดเจ็บ 125 คน แบ่งเป็นชาวจีน 28 / มาเลเซีย 2 คน / ฮ่องกง 2 คน / ไทย 42 คน / ญี่ปุ่น 1 คน / สิงคโปร์ 2 คน / อินโดนีเซีย 1 คน / ฟิลิปินส์ 1 คน / โอมาน 1 คน / มัลดีฟ 1 คน และยังไม่ทราบสัญชาติอีก 43 คน
ส่วนกรณีมีกระแสข่าวการก่อเหตุครั้งนี้มีเป้าหมายเป็นชาวจีน จากประเด็นที่ไทยส่งผู้อพยพชาวอุยกูร์ไปให้ประเทศจีน ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่ายังไม่พบความเชื่อมโยง เพราะผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บไม่ได้มีเฉพาะชาวจีนเท่านั้น ทั้งนี้ มีรายงานจากหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด หรือ อีโอดี ว่า วัตถุระเบิดที่คนร้ายใช้ก่อเหตุครั้งนี้ เป็นได้ทั้งชนิดทีเอ็นที หรือซีโฟร์ เป็นระเบิดที่ทำงานสมบูรณ์แบบ โดยไม่ทิ้งร่องรอยหลักฐาน ที่เกิดเหตุยังพบลูกปลายลักษณะกลมคล้ายลูกปืนรถจักรยานมีความกว้าง 0.6มม.เป็นส่วนประกอบระเบิด ส่วนระเบิดมีน้ำหนัก 3-5 ปอนด์ พร้อมสันนิษฐานว่า ระเบิดน่าจะประกอบจากต่างประเทศ ส่วนการจุดชนวนคาดว่าตั้งเวลาไว้
ผู้สื่อข่าว:อภิสุข เวทย์วิศิษฐ์
และในความเห็นผมว่า...น่าจะเป็นข้อผิดพลาด มากกว่า ความตั้งใจ คือ อย่าลืมว่า มันมีน้ำมันเชื้อเพลิงในการใช้จุดไฟบวงสรวง ในบริเวณนั้นอยู่ ปริมาณก็ไม่ควรจะน้อย มันจึงภาพ เพลิงไหม้ เกิดขั้น..ซึ่ง ตามข่าว ก็มีข้อมูลว่า คนที่อยู่ในเหตุการณ์ ได้กลิ่นแก้ส...ซึ่งเข้าใจว่า น่าจะเป็นน้ำมันจุดไฟบวงสรวงมากกว่า...ประกอบกับ ทีมกู้ระเบิด ก็กู้ระเบิดได้จำนวน 1 จุด...ซึ่ง ถ้าใช้การตั้งเวลาระเบิด ผมว่า มันก็ควรจะระเบิดในเวลาเดียวกัน หรือ ใกล้เคียงกัน...ไม่น่าจะมีเวลาเหลือให้ กู้ระเบิดได้...
ถ้าบอกว่าเป็นระเบิดที่ประกอบจากต่างประเทศแล้วมันผ่าน ตม.จากทางไหน
สนามบินไม่น่าจะเป็นได้ น่าจะนำเข้ามา ท่าเรือ เพราะประเด็นนี้มันเคยเกิดขึ้นมาแล้วตอนคดี รถบรรทุกขนระเบิด C4 ตอนจะนำไปก่อวินาสกรรมสถานทูตอิสราเอลแต่ไม่สำเร็จ
อาจประกอบในประเทศเราเนี่ยแหล่ะครับ
เพียงแต่คนประกอบเป็นมืออาชีพจากต่างประเทศ
หากเป็นไปตามรูปการนี้จริง เป็นชาวต่างชาติที่ลงมือทำจริงๆ
หลายฝ่ายงานงอกแน่ครับ
เดินเล่นมือถือหลังจาก เอาเป้สะพายไปแขวนไว้ที่รั้วพระพรหมแล้ว
ใครๆ ก็ไม่รัก............. ศึกในยังระอุ ไฟนอกโหมอีก.................โชคดีขอให้ได้ความสุขคืนกันทุกคนครับ
ยืนยันแบบไม่เป็นทางการ แต่ด้วยหลักฐานในภาพจากกล้อง CCTV ชัดเจนแล้วว่าเป็นชายชาวต่างชาติจริง
ลองลำลับภาพดูนะครับ
ก่อนเกิดระเบิด ได้สะพายกระเป๋าเป้เข้าไปอยู่หลังรั้วจุดที่เกิดระเบิด
แล้วหลังจากนั้นก็ไม่ได้นำกระเป็าเป้สะพายออกมาด้วย
จุดวางกระเป๋าเป้เป็นจุดเดียวกับจุดที่เกิดระเบิด
ล่าสุด เวลา 13.20น ตอนนี้ จนท.ทหาร กำลังทำการปิดถนน ช่วงท่าเรือสาทร และบริเวณ BTS ตากสิน
เพื่อตรวจสอบบริเวณโดยรอบ เพื่อป้องกันการเกิดเหตุซ้ำซ้อน
ผู้เห็นเหตุการณ์ แจ้งว่า คนปา อยู่บนสะพาน ตั้งใจปาลงตรงสะพานคนข้าม บริเวณจุดจอดรถสองแถว ท่าเรือสาทร แต่พลาดเป้า
ติดราวสะพาน ทำให้ระเบิดตกลงน้ำ และระเบิดทำ จึงดันน้ำพุ่งกระจายขึ้นมา ไม่มีผู้บาดเจ็บ หรือเสียชีวิต
ส่วนคนร้ายหนีไปได้ คาดว่าอาจใช้ จยย.มุ่งหน้าไปทางแยกวิทยุ (ว.8 สีลม20)
ภาพ .วรจักร 804
หาคลิป ดูกันเอง นะครับ....กัววววววว
ถ้าระเบิดเกิดจาก กระเป๋า นี้จริง....
น่าสงสาร ผู้หญิงที่นั่งข้าง ๆ กระเป๋า ดูตามภาพ น่าจะมีคนนั่งบนม้าหนั่งอีก 2 คน นั่งคู่กับ กระเป๋า...
ม้านั่ง ดูแล้ว น่าจะนั่งกันได้ 3 คน...
น่าสนใจครับ....ISIS
ผมว่ามันไกลเกินไปสำหรับ ISIS นะท่านจูดาส มันไม่มีเหตุจูงใจให้ไปไกลขนาดนั้น
เอาแค่ อุยกูร์ก็พอแล้วมั้ง
คือที่ว่ามีอาจารย์ท่านหนึ่งในสื่อบอกว่าการวางระเบิดอุยกูร์จะไม่ทำนอกพื้นที่นี้ ผมว่าคิดตื้นเกินไป จะเอาอดีตมาวิเคราะห์รวมกับปัจจุบันได้ยังไง คือเหตุการณ์อาจจะไม่เกิดขึ้นในไทยหากไทยไม่ไปเออออกับจีนเรื่องการส่งชาวอุยกูร์ที่มาลี้ภัยในไทยให้กับจีน
เพราะถ้าเหตุจูงใจมันเลือกที่จะเป็นการแก้แค้นที่ทางฝั่งไทยที่ดันส่งตัวกลุ่มขบวนแบ่งแยกดินแดนชาวอุยกูร์ไปให้จีน และก็แก้แค้นจีนไปด้วยในตัวดูๆแล้วสมเหตุสมผลมากที่สุด
เพราะในสถานที่เกิดเหตุมันมีทั้งคนไทยและชาวต่างชาติที่มีเชื่อสายจีนรวมกันอยู่ตรงจุดนั้นเพื่อสักการะท้าวพระพรหม
เพื่อฉะนั้นการเลือกจุดวางระเบิดมันมีนัยะค่อนข้างจะชัดเจนมาก
เมื่่อกี้ดูการแถลงการณ์ ของนายก ต่อด้วยโฆษก พูดเกี่ยวกัยเรื่องเงินเยียวยาชาวต่างชาติ มีการประกาศ เป็น 3 ภาษา เหมือนจะบอกเป็นนัยๆหล่ะครับ ว่าเราเองให้น้ำหนักในทางใด .............. สำหรับการเลือก เวลา วัน และ สถานที่ ก่อเหตุ มันเข็ดฟัน เหมือนใครมากินมะดันเปรี้ยวๆต่อหน้าจริงๆ เวลาทุ่มนึง คนพลุกพล่าน หวังผลมุ่งหมายถึงหลายๆชีวิต วันที่ 17 เกรงใจ
ในเรื่อง อุยกูร์ ผมก็ค่อนข้างจะติดขัดในใจที่ว่า...ถ้า ก่อเหตุที่ เยาวราช จะตรงเป้าหมาย มากกว่า หรือ เปล่า ? ซึ่ง ห่างออกจากจุดเกิดเหตุไปไม่มาก...
แต่พอดูภาพที่เกิดที่ ราชประสงค์...กับ เหตุการณ์ระเบิดที่ บอสตัน...ดูมัน คล้าย ๆ กัน ยังไงไม่รู้้...
ลักษณะเป็นวัยรุ่น และใช้ ระเบิดจากในเป้ เหมือน ๆ กัน...
จาก พันทิพ
http://pantip.com/topic/30416113
เหตุระเบิดที่ บอสตัน การแข่งขันมาราธอน ในปี 2556
มีระเบิดที่ บางแค อีก
ล่าสุด เป็นว่า ไฟไหม้ และภาพนี้ ไม่ใช่ ครับ...ขอโทษ ด้วยครับ...เร็วเกินไป...ไม่เอาล่ะ...(ลบรูปไม่ได้)
ส่วนที่ไม่กระทำการ ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา...ผมวิเคราะห์ว่า เป็นวันที่มีแต่คนไทย มากกว่าครับ...
ถ้าทำการก่อเหตุในวันดังกล่าว...คราวนี้ มันจะเรื่องระหว่างประเทศ คือ กับ ประเทศไทย กับ ผู้ก่อการร้าย เท่านั้น...คือ การพุ่งเป้า ที่ คนไทย เฉพาะเจาะจงเกินไป...
แต่เลือก กระทำการในวันถัดมา...ในเวลาปกติ ที่จะเป็นเวลา ย่อหย่อน ความเคร่งครัด เนื่องจาก เพิ่งผ่านความเข้มงวดมา...เจ้าหน้าที่ จะยังอยู่ในช่วงพักเหนื่อยอยู่...และ เป้าหมาย จะเป็นเป้าหมายที่ หลากหลายเชื้อชาติ ไม่ได้ เฉพาะเจาะจงเฉพาะ คนไทย หรือ คนจีน...
ล่าสุด เช่น ท่าเรือสาธร ซึ่งดูแล้ว น่าจะมีหลายเชื้่อชาติ ใช้งานในท่าเรือดังกล่าว..
โดนหลายเชื้อชาติ น่าจะต้องการให้เป็นข่าวใหญ่และรัฐบาลประเทศที่มีผู้เสียชีวิต กดดันรัฐบาลไทยมากกว่า
ถ้าจะเอาเฉพาะคนไทยจริงๆ มีหลายทีครับ ฝีมือขนาดนี้ เพราะคนไทยไม่เคยพบเคยเจอ
เลยไม่คิดระวังตัว บอลโลกคัดเลือกนัดไทย-อิรัก ถ้าเจอะจงคนไทยจริงๆ ก็คิดเอาสิครับ 49000ที่นั่งขายหมดแล้ว
ตอนกิจกรรมก่อนเข้าสนามคนเยอะขนาดไหน ใครเคยไปจะรู้ดี ความเสียหายไม่ต้องพูดถึง............................
คหสต. น่าจะเกี่ยวข้องกับกลุ่มสนับสนุนการแยกดินแดนของเตอร์กิสถานตะวันออก
ที่ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มก่อการร้ายในตะวันนออกกลาง และมีการสนับสนุนอย่างมากในตุรกี
.....เห็นด้วย..ครับ....เป้าหมายมุ่งไปที่เศรษฐกิจ....รายได้จากการท่องเที่ยวโดยตรง
.....และต้องการให้เป็นข่าวที่...น่าสนใจ (ตกใจ) ไปทั่วโลก
..............................
......ว่าแต่พวก..โรฮิงยา...ที่ทีปจักรยาน ขายถั่วไปทั่วกรุงเทพฯ....ใครอยู่เบื้องหลัง...
ใครต้มถั่วให้ขาย....ใครจัดเตรียมจักรยานให้ใช้......พักอยู่ที่ไหนกันบ้าง.....
ทำไมมันมีมากมาย ขายถั่วไปได้ทั่วกรุงเทพฯ........
แล้วเป้าหมายมันมุ่งขายถั่วจริงๆ หรือเปล่า..........
เห็นมีมานานหลายปีแล้ว....ไม่เห็นใครไปจัดการ....ให้เรียบร้อย....
ดูคลิป แขกขาวเสื้อเหลืองสะพายเป้ มีคลิปนึง ถ่ายตอนที่ชายเสื้อแดงลุกไปคุยชายเสื้อขาว จากนั้นแขกขาวเสื้อเหลือง นั่งลงแทนถอดเป้แล้วลุกขึ้นถ่ายรูปพระพรหม เดินขากไป ชายดังกล่าวเดินไปถึงแยกแล้วเลี้ยวซ้าย "กล้องมีการแพนตาม"................ หมายความว่า ชายคนนี้อยู่ในสายตาของระบบซีเคียวตลอด.................. "ระวังแล้ว แต่ยังโดน" และโดนชนิดเห็นหลัง ไวๆ ด้วย.................... ก่อนหน้านี้มีข่าว สถานฑูตจีน ขอกำลังคุ้มกัน และก็ให้สอดคล้องกับก่อนหน้านี้เกิดระเบิดใหญ่ที่จีน คนตายร่วม 300......................... แหย่รังแตนแท้ๆ เล่นการเมืองกับต่างชาติ มันไม่ง่ายเหมือนในบ้านเรานะท่าน จะหา ยาใจ มา ดาม อกหักจากมะกัน อียู คบหาจีน คราวนี้ได้เรื่อง ..... เครือข่ายเค้าทั่วโลก ไอ้กันยังปวดตับ กุมขมับเรื่องก่อการร้ายทุกวันนี้ .......... เราเป็นใคร?????????
กล้องแพนอัตโนมัติหรือเปล่า แบบ motion detection อะไรอย่างนี้เพราะบางทีกล้อง cctv ทำได้
คน บาน เลยครับ.......... แต่กล้องแพนชายคนนี้
ช่วยตอบหน่อยครับ เรื่องเดียวพอ
ระเบิดเล่นซ้ำสอง แถวท่าเรือสาธรเป็นระเบิดชนิดเดียวกัน... แปลว่า ก่อการร้ายต่างชาติ ตามไประเบิดคนจีนที่นั่น..
เป็นผม ระเบิดในจีน...ไม่ดีกว่าเหรอ เป้าหมายสำคัญเยอะแยะนอกจากมนุษย์ด้วยกัน...
ผมว่าเราขาดไปเรื่องนึง คือ .........."การจุดระเบิด" สารสำคัญของข่าวการวางระเบิดแสวงเครื่องข้อที่หนึ่งคือ ชนิดระเบิด ข้อสอง ขนาดน้ำหนัก ข้อสามการจุดชนวนระเบิด ................ ที่สาธร ทราบว่า จุดแบบชนวนประทัด(แบบนี้ในไทยมีใครเคยทำมั้ย???)...............ส่วนที่ราชประสงค์ ใครทราบบ้าง จุดด้วยอะไร?????????
สัญญาณวิทยุนั้นแหละ ไม่C4 ก็ TNT ไม่ต่ำกว่า3กิโล
ได้เข้าใปอ่านๆดูแล้ว ระเบิดพวกนี้สร้างขึ้นไม่ยากเลย และอนุภาพสูง
ถ้าชนวนปะทัด ฆ่าตัวตายเปล่าๆ ระเบิดตัวง่ายกว่า
ผมว่าระเบิดชนชาตินั้นนอกประเทศเป็นเรื่องปรกติ และมักจะทำในประเทศที่ง่ายกว่า เช่นก่อการร้ายอยากฆ่าคนเมกา การฆ่าคนเมกาในเมกาย่อมยากกว่า ไปฆ่าในตอก ง่ายกว่าเยอะ เป็นต้น ด้งนั้นก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ โดยเฉพาะประเทศจีนก็ไม่ได้เป็นประเทศที่เสรีเท่าไร การพกพาอาวุธหรือมีไว้ในครอบครองก็ไม่ได้ง่ายๆ อีกกรณีคือคนที่ก่อการพวกนี้กลับประเทศตัวเองไม่ได้แล้วเลยต้องมาก่อเหตุนอกประเทศ เช่นเป็นก่อการร้ายโดนแบล็กลิสต์แล้ว อยู่ระหว่างการหลบหนีนอกประเทศแต่ยังแอ็กทีฟอยู่
มันเหมือนหนังคนละม้วนเลย ใส่เป้มาวาง จุดด้วยสัญญาณคลื่นวิทยุ ............. อีกลูก จุดชนวนปะทัด เขวี้ยงจากสะพานลงมา แล้วขี่ มอไซด์หนี.............. เหมือนหนังฝรั่งเกรทสาม เปิดเรื่องอลังการ เอฟเฝคตัดต่อเยี่ยม พอซักหน่อย กลับหน้ามือหลังมือ ฉากแต่ละฉาก ลงทุนแค่สามหมื่นห้า......................
เท่าที่อ่านตามเฟส โดยส่วนใหญ่ ไม่ค่อยมีคนให้น้ำหนักเรื่องการเมืองนัก มีแต่พวกเดิมๆ หน้าเดิมๆ ที่ยังวงเวียนอยู่แถวนั้น ถ้ารัฐบาลเชื่อ ก็ปล่อยเขาไปเถอะครับ เหตุการณ์ในอนาคตมันจะย้อนเข้าตัว แน่นอนครับและอีกข้อสังเกตุ ผู้ชายเสื้อเหลือง น่าจะมีรอยสักที่แขนทั้ง 2 ข้าง จึงใช้ปลอกแขนปกปิดไว้ และอีกอย่างหนึ่ง ถ้าแนวโน้มเป็นฝ่ายการเมืองทำ ป่านนี้ นั่งหน้าสลอน ชี้แจงเป็นฉากๆ ตั้งแต่ เมื่อวานแล้วครับ แต่คราวนี้ กลับเงียบผิดปกติ เหมือนกับ ยัง งงๆ อยู่ ว่าใครทำ
โ
โ
ผมจะให้ข้อสังเกตว่า ถ้าเป็นฝีมือคนไทย ผมเชื่อว่าจะไม่เลือกวางระเบิดสถานที่ที่เป็นสิ่งศักดิสิทธิที่ที่มีผู้คนเคารพบูชาอย่างพระพรหมเพราะคนไทยถูกเสี่ยมมาตั้งแต่เกิดให้เชื่อและเคารพสิ่งศักดิสิทธิ์เสมอมา ถ้าเป็นคนศาสนาอื่นมีความเป็นไปได้มากที่สุด
แต่ถ้าให้น้ำหนักกับชาวต่างชาติดูจะมีภาษีค่อนข้างมาก และอีกอย่าง ผู้ที่ก่อการไม่น่าจะเกี่ยวข้องการแวดทางวงการเมืองในประเทศ เพราะมันทำให้ดูน่าเชื่อและพุ่งเป้าไปที่ตัวบุคคลที่อยู่เบื้องหลังทางการเมืองได้ง่ายดายจนเกินไป (ทำแบบนี้ถ้าถูกจับได้แล้วมีหลักฐานชัดเจนก็เท่ากับฆ่าตัวตายทางการเมืองชัดๆ)
รูปแบบของระเบิดมันสันดาปหมดจดหรือ มันเนียนซะจนเจ้าหน้าที่ มึนไปตามๆกันเพราะเก็บหลักฐานจากเศษซากของตัวระเบิดแทบไม่ได้อะไรมากนัก คือไม่รู้ว่าเป็น TNT หรือ C4 กันแน่ตัวลูกกระจายอย่างลูกปืน ball bearing ที่อยู่ในตลับลูกปืนที่ใช้ในรถยนต์หรือเครื่องจักรในบ้านเราซึ่งมีขนาดเล็กสุด เพียง 2 มม. ในทางการช่างแล้วไซด์ขนาดนี้ไม่นิยมใช้ในประเทศไทย นั้นหมายความว่าไม่มีขายในประเทศไทยและอาจจะมีการนำเข้าจากต่างประเทศเพื่อนำมาผสมกับระเบิด(คนทำระเบิดคนๆนี้มีความเป็นมืออาชีพอย่างมาก) ซึ่งปกติในแวดวงการทำระเบิดในประเทศจะมีแค่สองหน่วยงานเท่านั้นที่มีความชำนาญเรื่องระเบิดก็คือ ตำรวจ และทหาร (ไม่นับรวมกลุ่มผู้ก่อการร้ายภาคใต้) ดังนั้นถ้าเป็นคนในประเทศ วงการนี้มันแคบ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องน่าจะดูปุ้บก็รู้ปั้บว่าเป็นฝีมือใคร
คนวางระเบิดทำเพียงคนเดียว เดินทางมาโดย ตุ้กตุ้กมาลงที่สี่แยกพระพรหม และนำระเบิดไปวางและทำเป็นถ่ายรูปแล้วจากนั้นก็เดินออกมาไปขึ้นรถมอเตอร์ไซด์รับจ้างออกไป ข้อสังเกตมันไม่สวมหมวกหรือสวมแว่นตากันแดดเหมือนการระเบิดป่วนกรุงเทพฯแบบครั้งก่อนๆที่ผ่านมา ปกติจะทำกันเป็นทีมมีรถส่วนตัวมาส่งและมีรถอีกคันมารับไป เหมือนที่เคยเป็นข่าวแต่นายคนนี้ช่างกล้ามากที่มาโดยการอำพรางตัวเองแค่สวมแว่นตาธรรมดาเท่านั้นและดูการปฏิบัติแบบไม่มี เก้ๆกังๆ หรือมีอาการระแวงกล้อง CCTV มากมายเหมือนเหตุการณ์วางระเบิดก่อนหน้านี้(ดูจากคลิปกี่ทีๆ คือเป็นมืออาชีพจริงๆ)
ปัจจุบัน ก็เริ่มมีความกังวล เกี่ยว ISIS ใน เอเซีย...โดยเฉพาะ ประเทศอินโดนีเซีย และ มาเลเซีย...โดยมีข้อมุลว่า มีชายหนุ่มอิสลาม ประมาณ 500 คนจาก อินโดนีเซีย และ 200 คน จาก มาเลเซีย เข้าร่วมกับกลุ่ม ISIS...
ซึ่งถ้าจำไม่ผิด อินโดนีเซีย ก็เริ่มมีความกังวลในเรื่อง ISIS นี่ด้วยอยู่เหมือนกัน...
http://www.express.co.uk/news/world/593810/Asia-next-extremists-PM-Cameron
By MATT GIBSON AND NICK GUTTERIDGE
PUBLISHED: 05:01, Mon, Jul 27, 2015 | UPDATED: 22:13, Mon, Jul 27, 2015
The Prime Minister revealed that the two nations have agreed a series of measures to tackle the "shared enemy" of Isis.
Indonesia has the world’s largest Muslim population, of about 220 million people and Isis has been sending out propaganda in local languages to attract new recruits.
As part of a world-wide crackdown on the extremists 50 Indonesian police officers will be trained in counter-terrorism techniques by experts in the UK. Britain has also promised to help boost airport security in Bali and Jakarta amid fears Islamist extremists may try to target passengers jets packed with western tourists.
About 500 Indonesians are thought to have joined IS in Iraq and Syria as well as 200 from Malaysia.
Mr Cameron announced the measures tonight during a four-day trade mission to Indonesia and Malaysia. It is also hoped that Britain might secure trade deals worth some £750m when the prime minister meets the leaders of the two nations, which bost two of the fastest growing economies in the world.
Speaking at the presidential palace in Jakarta, Mr Cameron, who met with Indonesian President Joko Widodo, said Isis posed an "evil threat" faced by both nations.
He said: "We have agreed to step up our joint efforts both to tackle the terrorist threat and to counter the extremist narrative."
The prime minister added that Britain would "seek to learn" from Indonesia's approach to countering extremism "with an exchange programme between religious and community leaders here and in the UK to foster a better understanding of what works".
Before meeting Mr Widodo he had told reporters: "Isil is one of the biggest threats our world has faced. We will only defeat these brutal terrorists if we take action at home, overseas and online and if we unite with countries around the world against this common enemy.
"Last Monday I set out what more we need to do at home to tackle this extremist ideology and build a stronger, more cohesive society. This week, I’ll be talking to leaders in south-east Asia about what they’re doing to keep their country safe from these Islamist extremists.
"All of us face a threat from foreign fighters and from increasing radicalisation within our countries and it’s right that we look at what help we can provide to one another.
“I think Britain can offer expertise on practical counter-terrorism work – dealing with the threat from foreign fighters and investigating potential terrorist plots.
"And I think Britain can learn from Indonesia and Malaysia on the work they have done to tackle the extremist ideology and to build tolerant and resilient societies.”
In 2002, 202 people including 27 Britons were killed in explosions on the Indonesian island of Bali.
The bombings were the handiwork of Jemaah Islamiah, an extremist Islamic group in south-east Asia dedicated to establishing a Muslim caliphate in the region.
Last month Singapore Prime Minister Lee Hsien Loong warned: “South-east Asia is a key recruitment centre for IS."
ผมมองประเด็นที่การโจมตีนักท่องเที่ยวชาวจีนนะครับ คิดว่าไม่ไปเยาวราชแต่ที่เลือกเป้าหมายเป็นพระพรหม อาจเป็นเพราะอยู่ใกล้จุดที่กบดานซี่งเป็นที่ประกอบระเบิดรึเปล่า โดยเฉพาะแถวนานา ซึ่งเป็นจุดที่กลุ่มตะวันออกกลางมาพักอาศัยอยู่มาก และเนื่องจากใกล้ทำให้การดูลาดเลาได้ง่ายและเส้นทางหลบหนีง่ายไม่เป็นที่ผิดสังเกต ถ้าเช็คกล้องวงจรปิดตามเส้นทางกลับไปนานา รวมทั้งภาพกล้องวงจรปิดในพื้นที่แยกราชประสงค์ย้อนหลังซัก1เดือน น่าจะได้ข้อมูลเพิ่มรวมทั้งอาจจะเห็นหน้าคนร้ายก็ได้
ประเทศไทยดำรงค์อยู่ได้ทุกวันนี้ รอดปากเหยี่ยวปากกาไปได้ ไม่ว่าชาติ ศาสนา ก็ล้วนแต่มีเทวดาคุ้มครอง................... วันนี้เทวดาสั่งสอนไม่คุ้มครองก็เจ็บกันไป...................... โอม พระอเมริกาเทวาธิราช จงเจริญ......................
ประเทศไทย...อาจจะกลายเป็น สถานที่ ฝึกฝีมือ หรือ สถานที่ ฝึีกงาน...ของกลุ่ม ก่อการร้าย ISIS จาก South East Asia ในอนาคต ก็ได้ครับ...
ถ้า ภาครัฐ มีแนวโน้มว่าจะแสดงท่าที โกหกตัวเอง แบบไม่เลิก....
ถ้าให้สรุปตอนนี้ สรุปได้เลยไหมครับว่า ISIS แน่ๆ
ฝ่ายความมั่นคงวิเคราะห์ เหตุระเบิดราชประสงค์น่าจะเป็นคนไทยที่ถูกว่าจ้างมาก่อเหตุ ลั่นไม่ใช่ชาวต่างชาติ
แหล่งข่าวด้านความมั่นคง ได้วิเคราะห์เหตุการณ์ระเบิดที่บริเวณสี่แยกราชประสงค์ จากการประมวลเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มั่นใจว่าเป็นฝีมือของคนไทยที่ได้รับการว่าจ้างให้มาก่อเหตุความรุนแรงซึ่ง ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับชาวอุยกูร์ ที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตุตามที่มีการเผยแพร่ภาพออกมา ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวคล้ายคลึงกับเหตุการณ์เมื่อปี 2549 โดยจุดมุ่งหวังและมูลเหตุเหมือนกันเพียงแต่ความรุนแรงของระเบิดเหตุการณ์ ครั้งนี้จะรุนแรงกว่า
ดังนั้นไม่อยากให้ดึงต่างชาติเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะหากไปดึงเข้ามาเกี่ยวข้องแล้ว จะทำให้เกิดผลกระทบตามมาเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะจะเข้าข่ายสนธิสัญญาว่าด้วยการก่อการร้ายข้ามชาติ โดยจะมีประเทศสมาชิกภาคีกว่าร้อยชาติจะเข้ามาแทรกแซงผลของการสืบสวนสอบสวน ทั้งหมดของประเทศไทย ซึ่งตรงนี้ถือเป็นสัญญาณอันตรายมาก
แหล่งข่าวความมั่นคง มองว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีการทำกันเป็นอย่างระบบ โดยขั้นตอนแรก คือการทำให้เกิดความวุ่นวายและมุ่งหวังเอาชีวิต โดยเฉพาะทำให้เกิดความปั่นป่วนและสร้างควาหวาดกลัวให้กับประชาชน แต่เมื่อรัฐบาลและหน่วยงานด้านความมั่นคงสามารถเข้าไปคลี่คลายสถานการณ์ รวมถึงการขอร้องประชาชนหยุดการแชร์ภาพเพื่อไม่ให้เกิดความหวาดกลัว จึงทำให้แผนของผู้ก่อเหตุไม่ประสบผลสำเร็จ
"ขบวนการต้องการล้มระบอบเผด็จการที่มีทหารบริหารประเทศอยู่ในเวลานี้ ดังนั้นเมื่อแผนการขั้นแรกไม่ประสบความสำเร็จ จึงได้มีการปล่อยแผนที่สอง คือการนำภาพถ่ายจากกล้องวงจรปิดมาเปิดเผย โดยเฉพาะการสร้างความสับสน ที่เอาชาวต่างชาติเข้ามาโยงเพื่อให้เป็นการยกระดับว่าเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นการก่อการร้าย โดยเฉพาะการเอาภาพที่มีชาวต่างชาติมานั่งเดินอยู่บริเวณศาลพระพรหม นำมาผูก โยงกัน ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่มีการนำระเบิดมาวางไว้ก่อนที่จะระเบิดภายใน 1 นาที ไม่น่าเป็นไปได้ เพราะระเบิดจะมีวงรอบของมัน ตั้งแต่ 3-6 ชั่วโมง หรือ 24 ชั่วโมง ดังนั้นเชื่อได้ว่า น่าจะเป็นคนไทยที่ถูกว่าจ้างมาก่อเหตุอย่างแน่นอน เนื่องจากมีการวางแผนมาเป็นอย่างดีเพราะหลักการระเบิดจะต้องใช้ระยะเวลาและ คนวางระเบิดจะต้องรู้ทิศทางและอนุภาพ รวมถึงรัศมีระยะใกล้ไกล และที่สำคัญคนวางจะต้องทำตัวให้กลมกลืน ดังนั้น เชื่อได้ว่ามีระยะเวลาในการก่อเหตุโดยเฉพาะวัตถุประสงค์ต้องการให้เหตุการณ์ มีการพัฒนาไปถึงเรื่องการก่อการร้ายสากลเพื่อต้องการให้ต่างชาติเข้ามา"
แหล่งข่าวความมั่นคง กล่าวว่า หลังจากที่แผน 1 และ แผน 2 ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะประชาชนมีการตื่นตัว และไม่แตกตื่น กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้เวลานี้ต่างชาติเริ่มมองเหตุการณ์ความรุนแรงที่ีเกิดขึ้นในประเทศ มีความแปลกเพราะแทนที่ประชาชนจะเกิดความหวาดกลัว แตกตื่น แต่กลับตรงกันข้ามคือ ประชาชนพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือกัน
"ยืนยันว่า ไม่ใช่ชาวต่างชาติ เป็นผู้ก่อเหตุ และชาวต่างชาติจะไปเอาระเบิดมาจากไหน หรือ นำมาประกอบระเบิดเพื่อมาวางในจุดสำคัญของพื้นที่กรุงเทพฯ ดังนั้น ต้องมีปัจจัยหลายอย่าง ดังนั้น จึงเชื่อได้ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีความเชื่อมโยงกับฝ่ายการเมืองแน่นอน ซึ่งเป็นฝ่ายตรงข้าม กับรัฐบาล ซึ่งเหตุการณ์เหมือนกับปี 2549"
แหล่งข่าวด้านความมั่นคง กล่าวอีกว่า สิ่งสำคัญที่จะสามารถคลี่คลายได้ทั้งหมดต้องไปดูส่วนประกอบ และดินระเบิด ของวัตถุระเบิดดังกล่าว ซึ่งเป็น ไปป์บอม และอดีตที่ผ่านมาส่วนมากจะมีใช้ก่อเหตุในพื้นที่ จังหวัดชายแดนภาคใต้ และอานุภาพในการทำลายล้าง ก็จะมีความสูงประมาณไม่เกินตึกสามชั้นและ มีความสั่นสะเทือน
credit http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/661483
คนไทยผสมโรงไวจัง แถมผลิตระเบิดที่เหมือนๆกัน และใช้ในวันรุ่งขึ้นเลย โดยไม่เกรงกลัว.....
“แกว่งเท้าหาเสี้ยน“เป็นสุภาษิตหมายถึง คนที่ชอบรนหาที่ หาเรื่องใส่ตัว ไปยุ่งกับเรื่องของคนอื่นโดยไม่จำเป็น จนตัวเองอาจได้รับความเดือดร้อน คนไทยนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ ....... ตรรกะนี้ก็ไม่น่าใช่
สาธร + ราชประสงค์ # เจ้าของเดียวโปรเจคเดียวกันแน่ๆ = ตั้งใจทำจริงเพื่อให้ไทยเสียหาย ชัดเจนสำหรับข้อนี้
โอเค อาจจะไม่ใช่คนไทย(ตามไปพบศพได้เมื่อไหร่เดี๋ยวก็รู้ ไทยหรือเทศ) แต่คือคนชั่ว........แถมชาติชั่ว ของแท้ รวมคนจ้างด้วย
ปล.ยินดีและเปิดใจ พร้อมที่จะเชื่อข้อมูลใหม่ๆครับ ถ้ามีเหตุผล วัตถุพยาน เหตุจูงใจหรือรูปคดีที่อาจเปลี่ยนไป
ต้องถาม แหล่งข่าวความมั่นคงว่า...แล้ว ภาพกล้องวงจรปิด นี่...เป็นภาพจากกล้อง CCTV ของ รัฐ หรือ เอกชน ครับ ?
แล้ว หลุด มาได้อย่างไร ?
หรือ เป็นการ จงใจ ของ ภาครัฐ เพื่อให้เหตุการณ์ เป็นไปตามที่ แหล่งข่าวความมั่นคง อ้าง ?
หรือ ข้อสันนิษฐาน ของผมในเบื้องต้น ในต้น ๆ กระทู้ ว่า...เล่นกันเอง...จะเป็นจริง ขึ้นมา...อุตส่าห์ ตัด ประเด็น ไปแล้วนะเนี่ย...5 5 5 5 5
ผมขอวิเคราะห์บ้างนะครับ
1. ISIS อัลไคดา ผมว่าตัดไปได้เลยเพราะถ้าพวกนี้ทำ ป่านนี้ออกมาบอกแล้วว่าข้าทำ แต่นี่เงียบกริบ
2. อูกุ้ย ผมว่าไม่น่าใช่เพราะอย่างใครสักคนพูด เขาไม่เคยทำในจีนและ เอาจริงๆ กัมพูชาก็เคยส่งตัวอูกุ้ยกลับทำไมไม่เคยโดนอะไร อีกอย่างรูปที่ให้ดูกันชายเสื้อเหลือง ผมว่าถ้าตัดประเด็นอูกุ้ยออกดูยังไงก็ไม่เหมือนแขกขาว อีกอย่างผมเห็นด้วยตามท่านจูดาสพูด
3. ประเด็นการเมือง... อันนี้พอเป็นไปได้แต่อาจไม่ใช่การเมืองในประเทศเพราะ ถ้ายังจำกันได้ก่อนหน้านี้มีข่าวชาวอิหร่านทำระเบิดลั่นในกทม เหมื่อไม่กีปีก่อน ซึ่งเป็นประเด็นว่า ตกลงอิหร่านจะไปถล่มยิว หรือ ยืวสร้างฉากใส่ร้ายอิหร่าน สำหรับประเด็นการเมืองในประเทศอันนั้นแล้วแต่ว่าใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อ ครับ
แถลงข่าวล่าสุด มีจุดน่าสงสัยเพียบเลยครับ
ตามที่ท่านจูสังเกต ก้ใช่ครับ
หรือจะเป็นเรื่องชนิดชนวนระบิด ช่วงเวลาคาบเกี่ยวในการวาง
ซึ่งมันไม่ชัดเจน แล้วพยายามรีบสรุป
เหมือนจะพยายามรีบตัดประเด็นชาวต่างชาติออกไป
ถ้าตัดประเด็นโจรใต้ออกไปและต่างชาติออกไปอีก
ถ้ารัฐบาลปักใจเชื่ออย่างนั้น ก็อย่างที่บอก วงการระเบิดมันแคบ มีหน่วยงานอยู่ สองหน่วย งานเท่านั้น คือ ทหาร กับตำรวจเท่านั้นที่เกี่ยวข้องในประเทศไทยมันมีอยู่ไม่กี่คนหรอก ควานหากันให้เจอแล้วกัน
สิ่งที่น่าคิดอีกอย่างคือ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐแถลงว่าที่ ทำเนียบขาว เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่าอย่าพึ่งสรุปว่าเป็นฝีมือของขบวนการก่อการร้ายข้ามชาติ และชงกันเองว่ายังไม่ได้รับการติดต่อให้ช่วยเหลือจากทางฝั่งไทยแต่อย่างใด เสมือนกับว่าทาง CIA เค้ารู้อะไรๆดีแต่ไม่ยอมบอกเรา
แต่ละท่านที่วิเคราะห์เหตุการณ์และชี้ว่าฝ่ายใดเป็นคนกระทำหรือน่าจะกระทำ กับเหตุระเบิดจุดสักการะพระพรหมแยกราชประสงค์
มีความรู้ความสามารถดีน๊ะครับ ควรที่จะเดินทางไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่เพื่อให้ข้อมูลอันเป็นประโยชน์มากขึ้นกับการสืบสวนหาตัว
ผู้กระทำผิด ข้อมูลบางอย่างที่สำคัญของพวกท่านบางครั้งมาเปิดเผยในที่นี้ อาจเป็นผลกระทบรูปคดีได้
เอาแค่ผู้ไม่หวังดี เข้าถึงข้อมูลของกล้อง CCTV ของรัฐและเอกชนในพื้นที่ได้อย่างไรครับ??
หากเป็นไปตามที่แถลง ผู้ไม่หวังดี ต้องมีอำนาจพอตัว ถึงเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ได้ก่อน จนท.ของรัฐที่เกี่ยวข้อง
แล้วข้อมูลดังกล่าวถูกส่งไปให้สื่อหลัก สื่อโซเชียลในประเทศ
ทางหน่วยงานความมั่นคง มีมาตรการตามมาอย่างไรกับเรื่องนี้ครับ
เพราะถ้าแถลงแบบนี้ ก้ต้องชี้แจงได้ด้วยครับ
ขอมองต่างสักนิดครับ จากเหตุการณ์ระเบิดเมื่อวันที่17ที่ผ่านมามองได้2ด้านคือ การก่อการร้าย กับการสร้างสถานการณ์ภายในประเทศ(เรื่องการเมือง) เพราะช่วงนี้การเมืองกำลังมีหลายประเด็นที่กำลังเป็นประเด็นร้อน ขอไม่เข้ารายละเอียดครับน่าจะทราบกันดีว่ามีประเด็นไหนบ้าง
ถ้าเป็นการก่อการร้ายจริง อะไรคือเหตุจูงใจให้มาก่อเหตุที่ไทย 1.การที่รัฐบาลไทยส่งชาวอุยกูร์ที่หลบหนีเข้าเมืองให้รัฐบาลจีน 2.เป็นการตอบโต้จากการที่ทหารได้จับแนวร่วมและสังหารแนวร่วมที่ชายแดนใต้ 3.หรือไอซิสต้องการสร้างแนวรบใหม่หรือหาแนวร่วมใหม่ในภูมิภาคนี้....
ส่วนประเด็นเรื่องการสร้างสถานการณืในประเทศ(การเมือง)ขอไม่พูดครับมันล่อแหลมเกินไป ให้ได้ผลสรุปจากผู้มีอำนาจดีกว่า
อีกอย่างการก่อเหตุวางระเบิดแบบนี้เป้าประสงค์จริงๆเราคงไม่รู้มากไปกว่าการวิเคราะห์จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเท่านั้น หืออาจจะเป็นการกระทำของมือที่สามเพื่อสร้างความปั่นป่วนในระบบเศรษฐกิจไทยที่กำลังดิ่งเหวอยู่ในขณะนี้ให้ดิ่งเหวยิ่งกว่าเก่ากรือเปล่า...
คหสต. ผมว่าเราค่อนข้างมีปัญหาเรื่องการข่าว กับมีปัญหาเรื่องของการประสานงาน และการปฎิบัติงานกันระหว่างเจ้าหน้าที่ค่อนข้างล่าช้ามากๆครับ
เพราะตั้งแต่ตอนที่เกิดเหตุจนถึงการเข้าเคลียรพื้นที่ของเจ้าหน้าที่ ค่อนข้างจะใช้เวลามาก รวมไปถึงการเก็บรวบรวมหลักฐานและพยานแวดล้อมต่างๆ แล้วทำการสรุปผลว่า เกิดอะไรขึ้น ระเบิดเป็นแบบไหน และ ผู้ต้องสงสัยเป็นใครนั้น ผู้กระทำผิดก็ได้หลบหนีออกไปจากพื้นที่ไปนานแล้วครับ
ซึ่งเมื่อดูจากในคลิปแล้วคิดว่า ผู้กระทำผิด น่าจะทำงานคนเดียว แต่มีการวางแผนล่วงหน้ามาเป็นอย่างดี นั้นหมายความ ผู้กระทำผิดได้มาดูสถานที่ และเส้นทางหลบหนีหลายครั้งแล้วครับ จึงทราบว่า ช่วงเวลาไหนจึงเหมาะสมที่สุด…. จริงอยู่ว่าชายเสื้อแดง กับชายเสื้อขาว และหญิงเสื้อดำ ดูเหมือนจะมีส่วนร่วมด้วย แต่ถ้าสังเกตุดีๆ ทั้งสามคน เป็นคนเอเชียครับ และไม่ได้มีการอำพรางหรือปลอมตัว เหมือนผู้กระทำผิด อีกอย่างเราตัดสินจากสิ่งที่เราเห็น แค่สิ่งที่เค้าส่งต่อๆกันมาให้เราดูกัน จึงตัดสินอย่างนั้นไม่ได้ เพราะเราไม่ได้เห็นสภาพแวดล้อมทั้งหมด หรือเหตุการณ์ก่อนหน้านั้น และหลังจากนั้น ว่าเป็นอย่างไร ครับ
ดังนั้นผมจึงคิดว่า ผู้กระทำผิด จึงน่าจะลงมือคนเดียว เพื่อความสะดวกในการหลบหนี และเป็นการจำกัดผู้มีส่วนรู้เห็นเพื่อลดความเสี่ยงเรื่องการข่าว ครับ รวมไปถึง ถ้าผู้กระทำผิดเป็นชาวต่างชาติ ก็อาจใช้ Passport ปลอม และอาจมีหลายเล่มก็ได้ครับ
สิ่งที่ผมกังวลคือ ผู้กระทำผิดได้เดินทาง ออกนอกประเทศไปแล้วจริงหรือไม่?? หรือ ผู้กระทำผิดยังคงอยู่ในประเทศ เพื่อรอปฎิบัติการ รอบสอง หรือสาม ต่ออีกหรือไม่?? อันนี้น่าคิดครับ… แต่ถ้าเป็นผม ผมถอนตัวออกไปนอกประเทศครับ... ไม่ขออยู่ต่อในประเทศแน่ๆ คือไม่อยากอยู่ต่อเพื่อให้โดนตำรวจจับ กับโดนผู้ว่าจ้างตามเก็บ เพื่อตัดตอน ครับ
สุดท้ายผมขอตั้งข้อสมมติฐานเอาไว้ว่า ถ้าเจ้าหน้าที่สามารถรู้ได้รวดเร็ว ว่าผู้ต้องสงสัยมีลักษณะเป็นอย่างไร และทราบว่า ผู้กระทำผิด ได้เดินทางไปที่สนามบินเพื่อทำการหลบหนี เราก็มีโอกาสที่จะติดตามตัว หรือทำการจับกุมตัวได้ทันครับ เพราะโดยปรกติแล้ว เวลาเราเดินทางไปต่างประเทศ เราจำเป็นต้องเดินทางไปถึงสนามบินก่อนกำหนดเวลาประมาณ 2-3 ชม. ก่อนเครื่องจะออก นั้นหมายความว่า เราพอมีเวลา และมีโอกาสสูง ที่จะจับกุมผู้กระทำผิดได้ที่สนามบิน ครับ
ขอเสนอข้อคิดเห็นหน่อยครับ เท่าที่ดูภาพที่ออกจากกล้อง cctv นั้นส่วนมากมาจากเอกชน เนื่องจากแถบนั้นเอกชนได้อัพเกรดกล้องตัวเองขึ้นเยอะและติดตั้งมากขึ้น คงจะทราบนะครับว่าทำไม ถ้าสังเกตุจากหลายคลิป จะมาจากกล้องมือถือที่ผู้เห็นเหตุการณ์ถ่ายเองแล้วแชร์ กับ กล้อง cctv เอกชน อันนี้จะมีมาจากคลิปหนึ่งที่จะเห็นว่ามีการใช้กล้องมือถือถ่ายจากภาพในจอมอนิเตอร์ cctv ต่ออีกทีหนึ่ง ผมยังไม่เห็นคลิปไหนมาจากรัฐบาล. ตามที่ผมทราบกล้อง cctv ส่วนใหญ่มีความชัดแต่อาจจะลดรายละเอียดลงเพื่อพื้นที่การเก็บ รายละเอียดเยอะต้องใช้หน่วยความจำเยอะ แต่จะถูกปรับให้เพียงพอในการที่ตำรวจจะนำไปใช้ได้. เพิ่มเติมภาพจะปรับความชัดได้โดยเจ้าหน้าที่ครับ แล้วเรื่องใหญ่ขนาดคนต่างชาติเสียชีวิต รัฐบาลเก็บเรื่องเงียบไม่ได้หรอกครับ มีหลายชาติไม่ยอมแน่นอน และก็ แค่้อคิดเห็นนะครับ ถ้าต่างชาติหรือก่อการร้ายเขาจะออกมาแสดงตัว และก็ไม่จำเป็นต้องออกข่าวลวง เพราะพวกนี้ต้องการให้เป็นข่าวและแสดงจุดประสงค์การทำ แต่นี่ไม่มี เขาถึงมุ่งประเด็นเป็นเรื่องภายใน.
การก่อการร้ายสมัยนี้มันไม่จำเป็นต้องออกมาแสดงความรับผิดชอบหรอกครับ ขนาด วางระเบิดภาคใต้ ยังไม่มีมีกลุ่มไหนออกมาแสดงความรับผิดชอบเลย เพราะกลัวทางการจะเช็คบิลถูกตัวงัยละครับ
คือในเมืองไทยผมเชื่อหน่วยข่าวกรองรู้ความเคลื่อนไหวในเรื่องการเดินทางเข้าออกของประเทศไทยของสมาชิกกลุ่มผู้ก่อการร้ายสากลทั่วโลกหมดล่ะโดยเฉพาะในประเทศไทยเรา ผมเชื่อว่ารู้ แต่ไม่ดำเนินการจับ ถ้าไม่มีการร้องขอจากต่างประเทศ อย่างเช่นตอนจับตัว นายวิคเตอร์บูต ถามว่าก่อนถูกจับแล้วส่งให้สหรัฐ เคยเข้าออกประเทศไทยไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว
แต่ประเด็นการวางระเบิดครั้งนี้มันมีเงื่อนงำหลายอย่างที่ทางการไม่ค่อยจะออกมาเปิดเผยข้อมูลอะไรเลย มีแต่บอกว่ารู้ตัวแล้ว รู้อะไรฮึ
และแถมพุ่งเป้าที่การเมืองในประเทศอย่างเดียวเลย ทั้งๆที่ชายที่วางระเบิด มีพยานบุคคลและหลักฐานด้วยภาพ มันชี้ชัดว่าเป็นชาวต่างชาติ คือมัวแต่จะระวังหน้าอย่างเดียวโดยไม่คิดระวังหลังเลยใช้ไหม???
แล้วก็พุ่งเป้าแต่เพียงว่าน่าจะมีการว่าจ้างคนทำและวางระเบิดจากต่อประเทศโดยบุคคลที่เป็น อดีตนายก แต่ไม่คิดจะพุ่งเป้า ไปยังกลุ่มอื่น คือ ผมยังไม่ตัดประเด็นชาวอุยกูร์ออกไปนะ เพราะคนกลุ่มนี้เวลามันแค้นใครแล้วแค้นฝั่งลึกนะครับ(โดยเฉพาะพวกเติร์กที่ตุรกีใครจะไปรู้งานนี้อาจช่วยแก้แค้นแทนให้กันก็ได้ไม่อย่างนั้นจะให้ที่ลี้ภัยกับชาวอุยกูร์ได้หรือ) โมโหถึงขนาดบุกเข้าไปในสถานกงศุลอารมณ์คนพวกนี้ก็ไม่ใช่เล่นๆแล้ว เหตุที่มันไม่ออกมาประกาศตัวก็เพราะว่ามันยังต้องการใช้ไทยเป็นฐานเพื่อขอลี้ภัยอยู่ใช่หรือไม่??? แต่ที่ทำอยู่นี้ คือต้องการจะตบสั่งสอนคนไทยว่าอย่าแส่เรื่องชาวบ้านแล้วในขณะเดียวกันก็หวังผลไปถึงทางการจีนด้วย
ข้อสังเกตการวางระเบิดเชิงสัญญลักษณ์แถวสี่แยกราชประสงค์มันมีจุดที่น่าให้วางระเบิดเยอะแยะไปหมด แต่ทำไมต้องเลือกที่ศาลพระพรหม เพราะบริเวณนั้นมีชาวจีนที่หยุดพักหยุดเดินเพื่อเข้าไปกราบสัการะบูชาและยืนถ่ายรูป หรือยังเป็นจุดหรือสถานที่ที่สะดวกสำหรับสำหรับจะเรียกรถแท็คซี่เพื่อเดินทางไปยังสนามบินได้เลย หรือเปล่า เมื่อเปรียบเทียบกับแถวเยาวราชซึ่งแถวนั้น การจราจรย่ำแย่สุดสุดและระยะทางไปสนามบินก็ไกลกว่าแถวสี่แยกราชประสงค์ด้วย
ยังไงๆผมก็ไม่เชื่อว่าจะมีคนไทยหน้าไหนจะกล้าไปวางระเบิดในสถานที่ที่คนเค้าเคารพบูชาอย่างศาลพระพรหมหน้าโรงแรมเอราวัณแน่ๆ(ยกเว้นโจรมุสลิมภาคใต้)
จากวิดิโอกล้องวงจรปิด ที่ผมเห็นตรงใต้จอมันมีสัญญลักษณ์ของตำรวจนะครับ เพราะงั้นต่อให้เทปมาจากเอกชนแต่ไอ้ที่ถ่ายจอนั่นมันของตำรวจ ก็ปล่อยให้มีการหลุดออกมาเอง
เรื่องตัวผู้ก่อการร้ายมันก็มีความเป็นไปได้ว่าเราจะรู้ แต่มันก็เฉพาะของอินเตอร์โพลกับที่แต่ละประเทศส่งข้อมูลมาให้เราช่วยจับ
เพราะบางคนบางประเทศแปะป้ายว่าเป็นก่อการร้ายแต่บางประเทศก็ไม่ยอมรับ เช่นวิคเตอร์ บูท ก็มีอเมริกาเรียกคนเดียว
อย่างประเทศนึงทางเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็มีคนโดนหมายจับก่อการร้ายสากลหลายร้อยคนฐานบุกสนามบิน เผาตึก ฮา แต่ผมไม่คิดว่าประเทศอื่นเขาจะเรียกพวกนี้ว่าเป็นผู้ก่อการร้ายนะ
เรื่องคลิปนี่จริงอย่างหลายท่านว่า ส่วนหนึ่งก็ความไม่เป็นมืออาชีพหรือเป็นมนุษย์โซเชียลชอบ like ชอบ แชร์ จนมีคลิปหลุดออกมาแชร์....หรือตั้งใจหวังผลอะไร...อันนี้แล้วแต่ความคิดของแต่ละท่านละกันครับย�
เรื่องการแสดงความรับผิดชอบ...ผมมีข้อสงสัยครับ เรื่องที่ภาคใต้ผมเข้าใจครับว่าทำไมเขาไม่ออกมาแสดงตน ร่วมสิบปีเรารู้กันแล้วว่ายังไง ไม่ต้องแสดงความรับผิดชอบเราก็รู้ๆกันอยู่แล้วย� แต่เหตุการณ์นี้ มันใช่เหรอครับที่จะทำการระเบิด คนตาย19 บาดเจ็บเป็นร้อยย�ข่าวดังไปทั่วโลก แต่ไม่ออกมาแสดงตัวว่าตัวทำ ทำไปเพราะอะไรย�คือเข้าใจมั้ยครับ สมมุติว่าถ้าเหตุจากชาวอุยกูรย์ ถ้ามันไม่บอกเราว่าที่ระเบิดเนี่ยเพราะเราส่งชาวอุยกูรย์ไปจีน เราจะรู้มั้ย? เราไม่รู้ครับ ก่อการร้ายไม่ได้มีแค่องค์กรเดียวมีนับร้อยองค์กร ถ้ามีชาวอุยกูรย์มาอีกเราก็จะยังส่งไปจีนอีก เพราะอะไร เพราะเราไม่รู้นี่ครับที่ระเบิดเพราะอะไร เกี่ยวกับอุยกูรย์หรือเปล่า เราจะกลัวมั้ยถ้าเราไม่รู้?? ย� มันจะเป็นการระเบิดที่ไร้ประโยชน์ย�ซึ่งพวกนี้จะไม่ทำครับ ก่อการร้ายถึงไม่แสดงตนแต่จะบอกเจตจำนงค์ว่าทำไปเพราะอะไรแน่นอน แต่นี่ไม่มีอะไรออกมาเลย หลายชาติถึงวิแคะออกมาว่าไม่น่าใช่การก่อการร้าย.ย�หลายท่านคิดว่าเป็น isis ถ้าท่านวิแคะให้ดี นี่ไม่ใช่แบบ isis ถ้า isis มันจะแสดงตัวพร้อมคลิปเลือดสาดหัวขาดกระเด็นแน่นอน ไม่นิ่งแบบนี้แน่นอน. ถ้าไม่แสดงเพราะเหตุอันใดละก็ ก็มองได้ประเด็นทำลายความน่าเชื่อถือรัฐบาล ประเทศ และเศรษฐกิจ..ถ้าใครเก่งเรื่อง เศรษฐกิจ.จะรู้ว่าหลักๆเราเหบือแค่การท่องเที่ยว.ซึ่งตอนนี้แทบไม่เหลือ กว่าจะฟื้นก็หลายเดือน
ผมว่าภาคใต้เขามีใบปลิวนะ. แต่อย่างที่ท่านข้างบนบอกที่ภาคใต้ถึงมันไม่บอกก็รู้ว่าเรื่องอะไร อีกอย่างถ้าดูในคลิปมีการพันผ้าที่แขน แปลว่ามีอะไรบางอย่างที่แขนทั้งสองข้าง หากรอยนั้นเป็นรอยสัก ก็แปลกเพราะอิสลามเขาห้ามสัก หากเป็นผู้ก่อการร้ายที่เป็นพวกคลั่งศาสนาก็ไม่น่าจะสัก...
แล้วเอาอะไรมายืนยันว่าผ้ารัดแขนที่เค้าใส่มันปกปิดรอยสักครับ คือมันไม่สามารถนำมาใช้เป็นข้อสันนิฐานอะไรได้เลยนะ พวกที่เค้าชอบเดินออกกำลังกายเค้าก็ใส่ไว้เพื่อซับเหงื่อกับเยอะแยะยิ่งที่ฟิตช์เน็ตนี่ใส่กันหลายคนเลยนะ แล้วการที่ไม่ออกมาประกาศก็ไม่ได้หมายความว่าสื่อสารอะไรบางอย่างให้กับทางการไทยไม่ได้นะครับ บางทีมันไม่จำเป็นต้องออกมาประกาศให้โลกรับรู้หรอก ก็ที่บอกไปแล้วว่าชาวอุยกูรยังต้องใช้ไทยเป็นทางผ่านเพื่อลี้ภัยมันก็คงจะฉลาดพอที่จะไม่ออกมาเผยตัวเองให้ทราบหรอกไม่งั่นพวกที่ยังอาศัยอยู่ในเมืองไทยเวลานี้ก็โดนอับเปหิส่งไปจีน ทั้งหมดสิครับ
เมื่อครู่ได้ดูช่อง TNN นักข่าวได้ลองจำลองการแกะรอยคนร้ายวางระเบิดตามที่ตำรวจได้แจ้งข้อมูลมากับทางนักข่าว
คนร้ายเป็นชาวต่างชาติแน่นอน เพราะพยานมอเตอร์ไซด์รับจ้างได้รับคนร้ายดังกล่าวได้พูดคุยกันเป็นภาษาอังกฤษและรูปพรรณสัณฐานเป็นชาวต่างชาติจริง แล้วได้บอกกับคนขี่มอเตอร์ไซด์รับจ้างว่าไปลง ที่ ลุมพินีพาร์ค (ชาวต่างชาติใช้พูด) ถ้าเป็นคนไทยจะใช้ว่า ไปสวนลุมฯ
ส่วนที่ว่าจะมีคนไทยร่วมมือด้วยไหมยังไม่มีหลักฐานที่ชี้ชัดตรงจุดนั้น เชื่อว่าน่าจะทำงานกันเป็นทีม คือมีมากกว่า 1 คน
ถ้าท่านบอกว่าที่ไม่ประกาศว่าเป็นอู๋กุ้ยทำเพราะยังต้องอาศัยเราเป็นทางผ่าน. ก็ยิ่งไม่ควรทำหรือเปล่าครับ. ทำไปก็ไม่รู้ขืนรู้ก็ซ่วยจะทำทำไม. ส่วนเรื่องปลอกแขนคือมือระเบิดมันจะไปฟิตเนตหรือไปออกกำลังกายหรือจะไปเดินเล่นให้เหงื่อออกก่อนไปวางระเบิดหรือครับ. สแล้วจะใส่เพื่อ? นอกจากจะปกปิดอะไรบางอย่างเช่นรอยสักหรือแผลเป็น. ส่วนเรื่องหากเป็นเรื่องการเมืองคงไม่มีคนพุทธกล้าทำกับพระพรหม ก่อนหน้านี้ก็มีเหตุการณ์ทำลายพระพรหม ไล่ๆกับทำลายเทวรูปในพนมรุ้ง แหละอื่นๆอีกนิครับ. แต่ผมไม่ได้บอกว่าผมเชื่อว่าเป็นการเมืองในประเทศนะ. อีกอย่างหน้าตาผู้ต้องสงสัยผมว่าก็เหมือนฝรั่งทั่วไปไม่ได้เจาะจงว่าจะเป็นแขกเป็นฝรั่งเศษ อิตาลี รัสเซีย ฯลฯ ปมว่าเป็นแขกขาวนี่มาจากการเดาพอๆกัน
ผมว่ามันนานาจิตตังค์นะ ซึ่งแต่ละท่านก็มีเหตุผลในความคิดแต่ละคน แตกต่างกัน ฟันธงได้ยาก บางข่าวบอกว่าคนร้ายหนีขึ้นเครื่องบินออกนอกประเทศไปแล้วก็มี ว่องไวขนาดนั้นเชียว ในโลกโซเชียลตอนนี้ต้องฟังหูไว้หูครับ
ตอนนี้ตำรวจและทหารยังมืดแปดด้านกันอยู่เลย ยังสืบกันอยู่แต่ดูๆแล้วไม่คืบหน้ามากนัก แต่อย่างที่ ผบ.ตร บอกไว้นั้นแหละยังไม่สามารถตัดประเด็นใดประเด็นหนึ่งออกไปไม่ได้ อาจเป็นได้ทั้งคนในประเทศ และจากนอกประเทศ
มันอาจเป็นไปได้ว่ามีการ ว่าจ้างชาวต่างชาติเข้าร่วมก่อการร้ายเพื่ออำพรางคดีทำให้การสืบสวนและสอบสวนทำได้ยากมากขึ้นไปอีกเพราะฉะนั้นคนกลุ่มนี้มีความเป็นมืออาชีพมากกว่าทุกครั้งผ่านมา หรือชายคนดังกล่าวปลอมตัวเป็นชาวต่างชาติ โดยยังไม่ปักใจเชื่อ 100 % ผมว่าเรา รอ รอ รอ แล้วรอ กันต่อดีกว่า เหมือนเรือดำน้ำนั้นแหละ 555
จริงพูดถูก มันด่วนที่จะสรุป............. แต่รัฐบาลโดยโฆษก ตีตราไปแล้วว่าเป็นการเมือง โยงถึงอำนาจเก่า ..................... ซ้ำร้ายหลังระเบิดหนึ่งวัน กทม. เข้าทำความสะอาด เก็บกวาดฉีดน้ำล้างเอี่ยม !!!!!!!!! สมแล้ว ที่ต่างชาติออกมาติง ให้ทางการไทย ดำเนินการสืบสวน สอบสวน ให้เป็นมาตรฐาน ถ้าเคยชินด้วยความเป็นมนุษย์กะลาอาจรู้สึกเฉยๆ แต่โดยความหมายมันแทบเอาเท้าตบหน้า......
บ้านผมเรียก "ส่อนปล่า" คือทำ ทำนบ รอบแล้ววิดน้ำจับปลา นี่ก็พยายามจนเห็นว่า ได้ท่อแป้บแล้วนี่ครับ สภาพสมบูรณ์เลยทีเดียว สงสัยนิติเวชคงกำลังพิสูจน์นายนิ้วมือบนท่อแป้บอยู่ คงได้ผู้ต้องหาโดยเร็วไว .......55555
ข้อตั้งข้อสังเกตุอีกอย่างครับ....
กล้องวงจรปิด ของ กทม. ใช้ได้จริงหรือเปล่า ?
ข้อมูลที่ ปรากฎ ในโลกออนไลน์ ตอนนี้...คิดว่า เป็นกล้องของผู้ประกอบการในบริเวณนั้น จำนวน 75 ตัว และตามข้อมุลในข่าว มีกล้องวงจรปิดในบริเวณนั้นรวมแล้วกว่า 1500 ตัว...(น่าจะรวมของ กทม. ด้วย)
ตามข้อมูลข่าว มีกล้องของ กทม. ในบริเวณนั้นกว่า 500 ตัว...เป็นของ กทม. 100 ตัว ของ เอกชน 400 ตัว
ผมว่า ถ้ากล้อง กทม. ถ้ามันใช้ได้จริง ๆ...ข้อมูล คงไม่มีแค่นี้แน่ ๆ ครับ...
ข้อมูลที่ได้ตาม social หรือในทีวี จริงหรือลวงประการใดผมว่ายากที่จะสรุปจริงๆ ครับ
มีประเด็นที่ผมสงสัยโดยส่วนตัว คือ
1.ทำไม..กล้องวงจรปิดจึงมีการแพนตามชายเสื้อเหลือง?
หากจะบอกว่ากล้องใช้การแพน ติดตามแบบ motion sensor มันก็แปลกอีกตรงที่ว่าบริเวณที่มีคนพลุกพล่านขนาดนั้น
ทำไมกล้องถึงแพนเฉพาะชายเสื้อเหลืองเท่านั้น? ถ้าไม่ใช่การทำงานแบบอัตโนมัติ มันคือการจงใจจับภาพหรือไม่!? โดยวิธีอะไร?
(manual, remote)
2.กล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุปกติมัน fix กับที่หรือแพนไปมาแบบ auto?
ความเห็นส่วนตัวโดยปกติมันน่าจะ fix นะเพราะที่เกิดเหตุมันมีกล้องหลายตัวมากน่าจะครอบคลุมทุกมุมจึงไม่น่าจะมีเหตุผล
ที่ต้องให้กล้องมีการแพนตลอดเวลา และมันช่วยหักล้างข้อสงสัยในข้อ 1 ว่ากล้องมันแพนตามชายเสื้อเหลืองคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่
3.จากข่าว, social, TV เราจะเห็นเฉพาะภาพชายเสื้อเหลืองเดินไปวางกระเป๋าเป้ที่บริเวณ"ม้านั่ง" จากกล้องวงจรปิด แต่....
กล้องบริเวณนั้นมันไม่ได้มีตัวเดียวไม่ใช่เหรอครับ ทำไมไม่มีภาพจากกล้องตัวอื่นเลย.....
ก็อาจจะเป็นไปได้ว่าภาพจากกล้องตัวอื่นๆจับภาพไม่ได้ แต่มันดูจะยากไปหน่อยนะในความคิดผม
ความเป็นไปได้: อาจไม่มีภาพจากกล้องตัวอื่นเลยจึงไม่มีการนำเสนอภาพ หรือ
อาจมีภาพจากกล้องตัวอื่น แต่ไม่ได้นำออกมานำเสนอ เพราะ ๑.ไม่ชัดเจน ๒.ไม่อยากนำเสนอเพราะจะเปิดเผยข้อมูล บางอย่าง
4.กล้องเยอะแยะ มีการบันทึกภาพก่อนวางระเบิด แต่...ทำไมภาพขณะระเบิดกลับไม่มี!? ไม่ต้องอะไรมาก ภาพจากกล้องตัวเดิมที่จับภาพชายเสื้อเหลืองได้นั่นแหละ แปลกดีนะผมว่า
ความเป็นจริง: อาจมีภาพขณะระเบิดนั่นแหละแต่ไม่ได้เปิดเผย หรืออาจจับภาพไม่ได้
ประเด็นว่าจับภาพไม่ได้ผมว่าเป็นไปได้น้อยมากเพราะถึงแม้ตัวกล้องอาจพังเสียหายจากแรงระเบิดแต่ file ที่บันทึกข้อมูลมันคนละส่วนกันยังไงก็ไม่เสียหาย
ส่วนกรณีมึภาพแต่ไม่ได้เปิดเผย ท่านๆคิดว่าเกิดจากอะไรได้บ้าง ส่วนตัวผมคิดได้ดังนี้ครับ
A.ขัดแย้งกับข้อมูลที่ว่าเป็นชายชุดเหลือง
B.ภาพภายหลังจากระเบิดสูญหายไปแล้ว!
แค่ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ
คิดว่า กล้องในบริเวณศาลพระพรหม คงถูกทำลายไปพร้อม ๆ กับ การระเบิด ครับ...
ส่วนที่ว่ากล้อง ซูม เฉพาะผู้ชายเสื้อเหลืองนั้น...ผมดูว่า มันเป็น คลิป จาก มือถือ ที่ซูม จากภาพของกล้องวงจรปิดอีกที มากกว่าครับ...ไม่ได้เป็นว่า กล้องวงจรปิดซูม ตามผู้ชายเสื้อเหลือง ครับ...ภาพในคลิป จึงออกมา เบลอ ๆ ...แต่ภาพจริง ๆ น่าจะมีความคมชัด อยู่ในระดับหนึ่งครับ...
ผมว่า ข้อมูลภาพที่ ปรากฎ ในโลกออนไลน์ ในขณะนี้ น่าจะเป็นเศษ ๆ ข้อมูล จากของจริง มากกว่าครับ...
ผมว่า ตำรวจ น่าจะมีข้อมูลที่ชัดเจน จากกล้องวงจรปิด มากกว่านี้ เยอะครับ...ก็คิดคล้าย ๆ กันครับ...ทำไม เขานำภาพจาก โลก ออนไลน์ มาเป็นหลักในการเสนอข่าว ? ซึ่งน่าจะใช้ ข้อมูล ที่ความคมชัดกว่านี้ มาขอความร่วมมือประชาชนในการติดตาม...บางที ลักษณะท่าทาง เสื้อผ้า การแต่งกาย ที่มีความชัดเจน อาจจะทำให้คนจำลักษณะได้ง่ายในเบื้องต้น แล้วค่อยใช้ ภาพสเก็ตส์หน้า มาขยายผล ยินยันตัวตน อีกทีหนึ่ง...
บางคนใส่ปลอกแขนกันแดดยังมีเลยครับ ผมว่าใส่กันทั่วไปเยอะแยะ
เพิ่มเติมข้อสงสัยจากก่อนหน้านี้อีกหน่อยครับ
"4.กล้องเยอะแยะ มีการบันทึกภาพก่อนวางระเบิด แต่...ทำไมภาพขณะระเบิดกลับไม่มี!? ไม่ต้องอะไรมาก ภาพจากกล้องตัวเดิมที่จับภาพชายเสื้อเหลืองได้นั่นแหละ แปลกดีนะผมว่า"
ตรงนี้สำคัญมากนะครับ (บางทีทางการอาจยังไม่เปิดเผยเพราะอาจทำให้เสียรูปคดีมั้ง) เพราะว่ามันสามารถยืนยัน
ได้ครับว่าระเบิดมาจากเป้ใบที่ชายชุดเหลืองวางหรือไม่?
ถ้าไม่หลักฐานมายืนยันมันก็อาจจะเกิดระเบิดจากกระเป๋าใบข้างๆ ข้างล่างที่นั่งตรงนั้นก็ได้โดยอาจเกิดขึ้นก่อนหรือหลังจากการมาของ
ชายชุดเหลืองก็ได้
อีกประเด็น ผมสงสัยเรื่องหลุมระเบิดครับ จากภาพตามข่าวมันเป็นหลุมลึกประมาณ 20 cm. ตรงบริเวณม้านั่งที่ชายชุดเหลืองทิ้งเป้ไว้
แรงระเบิดดังกล่าว ถามท่านผู้รู้ครับว่าเป็นความเสียหายจากการวางระเบิดบนพื้นหรือวางบนเก้าอี้ ตรงนี้ก็จะช่วยยืนยันตัวบุคคลที่วางระเบิดได้ครับ ผมลอง serch google "surface burst" ได้ตามภาพครับ
Burst ground air
ถ้าตอนนี้ ทางเจ้าหน้าที่มีภาพเหตุการณ์ในวันนั้นจริง ทำไมจึงไม่ชี้แจง หรือแสดงหลักฐานจากกล้องวงจรปิดให้ ปชช. ได้รับทราบ เพราะตอนนี้ มีแต่ข้อสันนิฐานต่างๆนานา แต่ไม่ได้มีการแสดงหลักฐานจริงๆมาสนับสนุน แบบชัดๆ (เอาภาพแบบช็อตต่อช็อตเลยครับ)..... เหตุผลไม่มีอะไรมากครับ คือ ผมอยากรู้ (ฮาฮา)
ที่สำคัญ อย่าลืมและอย่าพึ่งหลงประเด็นกันนะครับ ว่าภาพเหตุการณ์ในวันนั้น บอกเราได้แค่ว่า ในวันนั้นมันเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น อย่างไง ตอนไหน และใครเป็นคนกระทำ ซึ่งภาพมันไม่สามารถบอก ได้ถึงเบื้องหลังหรือเจตนาของผู้กระทำผิดว่าผู้กระทำผิด ต้องการทำไปเผื่อจุดประสงค์อะไร จนกว่าทางเจ้าหน้าที่จะสามารถทำการจับกุมตัว ผู้กระทำผิด (ตัวจริง) มาสวบสวนหาข้อเท็จจริง ครับ
คหสต. จริงอยู่ว่า ในอดีตประเทศไทยไม่เคยมีเหตุการณ์ที่รุนแรงลักษณะนี้มาก่อน แต่ผมก็อยากให้ทางเจ้าหน้าที่ ได้จัดทำแผนฉุกเฉิน หรือมีมาตราการบางอย่างมารองรับ สำหรับกรณีที่เกิดเหตุการณ์รุนแรงอย่างนี้ อย่างเป็นขั้นเป็นตอน และเป็นระบบระเบียบ หรือมีแบบแผนที่ชัดเจน มากกว่านี้ ครับ… จริงอยู่ว่าในปัจจุบัน เราก็มีมาตราการมาใช้รับมือกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่แล้ว แต่มันก็พิสูจน์ในวันนี้ แล้วใช่มัยครับ ว่ามันทันต่อภัยคุกครามในปัจจุบันหรือไม่?
เพราะไม่มีใครรู้หรอกครับว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร และจะเกิดอะไรขึ้น แต่เราก็ควรที่จะเตรียมความพร้อมเอาไว้อยู่เสมอ…. ไม่ดีกว่าเหรอ ครับ
เรื่องในคดี รู้มาต่างกันครับแต่หลักฐานตำรวจน่าจะมีแล้ว............
เช่น ที่บอกว่าให้ส่งลุมพินีพาร์ค (ชาวต่างชาติใช้พูด) อีกข่าว ก็บอกว่า เขายื่นกระดาษที่เขียนให้อ่าน
ส่วนเรื่องกล้อง.....เช่นกัน เขาคงไม่อยากให้เห็นตอนระเบิด ภาพคงน่าอดสู (เค้าเลยไม่โชว์) และข้อมูลใน DVR มันมีอยู่แน่ๆ และปลอดภัย มันเป็นตัวบันทึกที่อยู่ในอาคาร....... บ้านผมก็ติดกล้องเองแล้วลากสายเข้ามาบันทึกในอาคารส่วนใหญ่ทุกที่ทุกส่วนราชการและเอกชน ก็ทำอย่างนั้น
และตำรวจคงไม่เอามาชี้แจงประชาชนครับ แต่เอาไปยื่นประกอบขอหมายศาลเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ...รอดูต่อไป
แต่ผมเชื่อ เสื้อเหลืองนั่นแหละ..... ถ้ามันไม่ได้ทำ มันรีบเข้ามารายงานตัวแล้ว.....
ผมขอนอกเรื่องดีกว่า........ รพ. ตำรวจอยู่ใกล้ๆ มีเหตุผลอะไรจึงไม่ส่งผู้ได้รับบาดเจ็บรักษาตัวที่นั่นหรืออาจส่งแล้ว...หลังจากนั้นซัก 2-3 ชม.ก็ส่งไป รพ.อื่นๆ หมดทุกราย..... น่าคิดนะ...หรือเขาจะรักษาเฉพาะนักโทษ ญาติตำรวจ หรือแพทย์ไม่มี ก็คงไม่ใช่....นี้ไงคือระบบการทำงานที่น่าคิดมาอย่างดีแล้ว เพื่อความปลอดภัย.......สำหรับสถานการณ์เลวร้ายที่เกิดเหตุใกล้ๆเท่านั้น หรือมันคือเกณฑ์ปฏิบัติที่ประชาชนทั่วไป ก็ไม่รู้กัน...
ตามไปดู link นี้
https://www.yaklai.com/news/hot-news/bomb-timeline/
"ส่วนเรื่องกล้อง.....เช่นกัน เขาคงไม่อยากให้เห็นตอนระเบิด ภาพคงน่าอดสู (เค้าเลยไม่โชว์)"
----> ผมหมายถึงวินาทีที่มีการระเบิดซึ่งสามารถ snapshot ได้ก็น่าจะตอบคำถามได้อย่างกระจ่างแล้วครับคงยังไม่มีภาพที่น่าสยดสยอง
หรือกรณีที่มีก็สามารถเซ็นเซอร์ภาพได้ครับ
ส่วนตาม link https://www.yaklai.com/news/hot-news/bomb-timeline/ ที่แสดงภาพทีละ shot
มันก็ชวนให้ผมสงสัยตรงจุดเดิมก็คือภาพจากกล้องตัวเดิม มุมเดิม ทำไมไม่แสดงภาพ "วินาที"ที่ระเบิดล่ะ?
กลับไปเอาภาพจากกล้องตัวอื่นซึ่งอยู่คะละที่มายืนยัน"เวลา"ในการระเบิด ถ้าจะยืนยันควรใช้ภาพจากกล้องตัวเดิม มุมเดิมถึงจะถูกครับ
เหมือนเลี่ยงที่จะแสดงภาพจากกล้องตัวนั้น
เวลาตามในภาพนะครับ : (ตาม link ข้างบน)
วางระเบิด : 18:53:00
ระเบิดทำงาน : 18:55:49 -----> ส่วนต่าง ราวๆ 2:49 mins
จากเวลาดังกล่าวทำให้ผมสงสัยถัดมาดังนี้ครับ
1). ถ้าคุณเป็นมือวางระเบิดหรือเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด คุณจะมีอาการอย่างไรหลังวาง "ระเบิด" หรือ "ของที่ไม่ใช่ระเบิดแต่โดนตีความว่าเป็นระเบิด" ไปแล้วและรู้ว่าในพื้นที่สังหารมีระเบิด
- ต้องมีการดูเวลาเพื่อ countdown ไม่ว่าจะเป็นจากโทรศัพท์ หรือ นาฬิกา จากรูปมีหรือไม่?
เท่าที่ดูมี 1 ภาพที่ดูเหมือนว่า มือข้างขวา โดนยกขึ้นมา (ภาพ ณ เวลา 18:53:44) และโดยปกติถ้า
คุณจะต้องวางระเบิดและรู้ว่าระเบิดจะระเบิดในไม่อีกกี่วินาทีข้างหน้าคุณจะมีอาการแบบว่าเตรียมเอามืออุดหู ย่อตัวหรือไม่?
ผมว่าภาพในกล้องน่าจะจับอาการต่างๆเหล่านี้ได้นะครับกรณีที่ชายคนนี้เป็นมือวางระเบิดหรือสมรู้ร่วมคิดจริงๆ
2). ไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆทั้งสิ้น มันก็คงไม่มีอาการพิรุธใดๆทั้งสิ้น ภาพในกล้องนั่นแหละจะเป็นตัวยืนยันครับ
Before
มีข้อสงสัยว่าหลุุมระเบิดที่เกิดจากการระเบิดโดยมีความลึกประมาณ20ซม.(ไม่แน่ใจผมลืมถ้าผิดช่วยแก้ด้วยครับ)
...ถ้าเป็นระเบิด TNT หนัก 3ปอนด์ใส่เป้วางไว้บนเก้าอี้จะทำให้เกิดหลุมลึกเท่าไหร่
...แล้วถ้ามันวางไว้ใต้เก้าอี้ล่ะมันจะลึกเท่าไหร่(ตามที่สมาชิกท่านหนึ่งเอารูปแบบการระเบิดแบบต่างๆมาาให้ดู)
...ผมก็สงสัยเหมือนกันว่าทำไมไม่มีภาพช่วงวินาทีที่ระเบิดทำงานทั้งที่มีกล้องหลายตัวน่าจะจับภาพได้ ถึงกล้องจะเสียแต่ส่วนของเมโมรี่หรือการบันทึกน่าจะอยู่ที่คอมหลักที่เชื่อต่อ
มีจุดที่ผมเองก็ยังสงสัยอยู่ คือ ถ้าระเบิดเป็นระเบิดแบบตั้งเวลาจริง ต่อให้เป็นมืออาชีพจริงผมไม่เชื่อว่า มือวางระเบิด จะตั้งเวลาเอาไว้ล่วงหน้าแค่ 3-5 นาที เพราะมันเสี่ยงเกินไป อย่างน้อยก็ต้อง 10 นาที
เท่าที่ดูในคลิปตั้งแต่เดินลงจากรถตุ๊กๆ ไปถึงที่นั่งมันเอาเวลาไหนกดและเซ็ตเวลาระเบิด
- เท่าที่สังเกตุคือชายคนเสื้อเหลืองเมื่อนั่งที่ม้านั่งจะมีผู้หญิงที่เป็นเหยื่อนั่งอยู่ด้วย มันไม่กล้าเปิดกระเป๋าเพื่อกดเวลาระเบิดแน่ พอมันวางเสร็จก็ลุกขึ้นและยืนถ่ายรูปและก็เดินออกไปทันที
- ถ้าบอกว่ามันเซ็ตเวลาตั้งแต่อยู่บนรถตุ๊กๆยิ่งแล้วเลย (เสี่ยงอย่างมาก) แล้วมันจะรู้ได้อย่างไรว่าชายเสื้อสีแดงมันจะลุกให้ให้นั่งเลยทันที (หรือสมรู้ร่วมคิดจริงๆ แต่มันก็ยังดูเสี่ยงอยู่ดีนี้นแหละ)
ถ้าสมมุติมันเป็นระเบิดใช้รีโหมดโดยใช้สัญญาณมือถือล่ะ เพราะเท่าที่สังเกตุถ้ามือวางระเบิดเป็นชายเสื้อเหลือง ตอนเดินออกมาผมเห็นเค้าจดจ่ออยู่กับมือถือตลอดคือเมื่อออกมาพ้นรัศมีระเบิดแล้วจึงค่อยกดระเบิดหรือเปล่า??? และอีกอย่างไม่มีมือวางระเบิดหน้าโง่คนยอมให้คนอื่นเป็นคนกดระเบิดแน่ เพื่อป้องกันการฆ่าปิดปาก
และข้อสังเกตุดูทางการโดยตำรวจจะปักใจเชื่อและบอกต่อสื่อและปชช. ว่ามันคือระเบิดแบบตั้งเวลา ตัดประเด็นเรื่องการใช้สัญญาณรีโหมดด้วยมือถือได้ยังไงกัน
มีสิครับภาพระเบิดจากกล้องตัวเดิมในศาลพระพรหม คือดูแล้ว กล้องแต่ละโซนเวลาจะไม่ตรงกัน. แต่ดูกล้องพระเอกที่ขึ้นหมายเลข 5 สิครับ ชายเสื้อเหลืองวางเป้แล้วเดินออกไปเวลา 18 53 20. แล้วก็บึ้ม เวลา 18 56 18. ใช้เวลาเดินหนี สองนาที ห้าบแปดวิ. ถ้าบอกว่าเป็นการตั้งเวลาระเบิด. ไอ้หมอนี่ ใจมันนิ่งกว่าเจมบอนส์007 อีกครับ. ข้อนี้ยืนยันได้ว่า เป็นการสั่งจุดชนวนแบบรีโมต. จะโดนตัวเอง หรือคนอื่นก็ต้องว่ากัน. ตรงนี้ทางตำรวจพยายามเบี่ยงเบนอะไรหรือเปล่า????
อย่าลืมครับ. สาระสำคัญมีอยู่สามอย่าง ชนิดของดินระเบิด. น้ำหนักขนาด. และการจุดชนวน. วันนี้ยังไม่มีคำตอบเลยว่าดินเป็นชนิดใด ทีเอ็นที หรือ ซีโฟร์. ชนวนนี่ก็ไม่เคลียร์ บอกตั้งเวลา บ้างก็บอกรีโมท ที่สาทรบอกชนวนปะทัด. แต่ที่แน่ๆ ล้างทำความสะอาดเรี่ยมตั้งแต่วันแรกแล้ว...........
"ถ้าบอกว่าเป็นการตั้งเวลาระเบิด. ไอ้หมอนี่ ใจมันนิ่งกว่าเจมบอนส์007 อีกครับ"
ผมเห็นด้วยกับท่านกบครับในประเด็นนี้
แต่สำหรับภาพจากกล้องที่จับภาพชายชุดเหลืองได้ถ้าจะให้กระจ่าง 100% ทำไมไม่ snap ภาพก่อนระเบิดสัก 1-2 วินาที
เพื่อยืนยันว่าเป็นกล้องตัวเดิม มุมเดิม ประมาณว่าย้อนกลับไปที่ 18:56:15 18:56:16 18:56:17 บึ้มมมมม
หรือไม่ก็ภาพจากกล้องตัวอื่นก็ได้นิครับ
ภาพมุมสูง
ข้อสงสัยทั้งหมดนี้ เป็นหน้าที่ ที่เจ้าหน้าที่จะต้องเคลียร์ครับ......................... ล่าสุด บีบีซี ลงข่าว นักข่าวเก็บชิ้นส่วนระเบิดได้ เอาไปแจ้งตำรวจ ตำรวจไม่รับ บอกหมดเวลา................... ประเด็นไหนเป็นประเด็นไหนก็ว่ากันไป มโนกันไปล่ะครับ............... จะว่ามีคนต่างแดนจ้างก็คิดได้ เอาที่สบายใจ ท้ายที่สุด หลักฐาน พยาญ จริงๆที่ประจักษ์ มันจะเป็นตัวตัดสินเอง......................
ทำเป็นเล่น ตั้งข้อสงสัยว่า ว่าจ้าง เอาเข้าจริงจะไม่ใช่แดนไกลนะครับ มันจะเข้ากลายเป็นแดนใกล้ไปซะฉิบ..................นี่คือเหตุผลที่ราวิเคราะห์กันกับสิ่งที่เราเห็นครับ เอาว่า เห็นจริงด้วยตา 60 มโน 40 ................. ถ้าจะเอามโนกันเต็มๆ ผมก็แถให้เป็นแดนใกล้ได้ครับ...........
กระทู้นี้ผมเห็นด้วยกับทั่นกบเกือบหมดทุกข้อ
โดยเฉพาะการทำลายหลักฐาน กับเรื่องตั้งเวลาระเบิด
โอโฮ. ...........เงียบกันกริ๊บเลยทีนี้. ยังกะเด็กอนุบาลเห็นครูใหญ่. ............. ชนวนเป็นแบบตั้งเวลา."วันทัช". ก่อนจะกดต้องมั่นใจว่าเชือกรองเท้าผูกแน่น ไม่ใช่กดปุ๊บลุกขึ้นยืนสะดุดขาตัวเองล้ม .................สังเกตุว่ามั่นใจแล้ว ลุกขึ้นแล้ว เดินไปได้แน่ๆ กอเซ็ทเวลาวันทัช ทำฟอร์มถ่ายรูปนิดหน่อย เดินจากไปแบบเนียนๆ "3นาที บุ้มมมมม". ดังนั้น สรุป ชนวนตั้งเวลา 3 นาที
ท้ายนี้ อยากให้ทุกท่านวางอคติ แล้วมโนตามผมนะครับ........ ท่านเอาคนที่ท่านคิดว่าน่าจะเป็นคนทำ หรือสั่งให้ทำมาวางไว้ตรงหน้า แล้วพิจารณาดังต่อไปนี้........... ข้อแรกเป้าหมายคือพระพรหม สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อ ข้อสอง เป้าหมายส่วนใหญ่เป็นผู้คนที่ไม่ได้มีส่วนร่วมทางความขัดแย้งภายในประเทศ จากนั้นลองกลับมาดูสิว่า คนที่ท่านสงสัยนั้น มีพื้นเพทางความเชื่ออย่างไร เค้าอาจไม่เข้าวัดทำบุญ แต่เขายังมีความเชื่อเรื่องศักดิ์สิทธิ์ เชื่อเรื่องปลุกเสก ของขลังหรือไม่ ภาษาทางจิตวิทยา มูลเหตุจูงใจ ซึ่งจะสัมพันธ์ด้วยลัทธิและความเชื่อ...........ผมดูแล้ว ยังไม่เห็นคนไทยดังๆกลั่นๆคนไหนที่กล้าทำอย่างนี้เลยครับ
แล้วกรณีคนเมาหรือบ้าไปตีพระพรหมเมื่อหลายปีก่อนนั่นถือเป็นตัวอย่างได้ไหม ผมจำรายละเอียดไม่ได้แต่เหมือนมีบุคคลาที่มีบทบาททางการเมืองช่วงนั้นออกมาทำนายทายทักอะไรนี่แหละ มีบุคคลอีกคนไปทำพิธีอะไรช่วงนั้นพอดี
หน่วยงานลับ ของลูกพี่ใหญ่ เนี่ยรู้ดีจังน่ะครับ
หวังว่าคงไม่ใช่ร้อนตัว
โรงงานสารเคมีจีน ก็ ชื้นง้ายง่าย ฝนตกทีก็ระเบิดที
~~โผล่แล้วพยานปากสำคัญ
โชเฟอร์ แท็กซี่สีเขียว-เหลือง รับตัวชายสวมเสื้อเหลืองมือบึมจากย่านพระราม 4 ไปลงที่หัวลำโพงก่อนเกิดเหตุ เจ้าตัวระบุคล้ายในภาพสเกตช์รูปพรรณลักษณะคล้ายแขกขาว พูดไทยได้นิดหน่อย ผบ.ตร.บอกคดีคืบไปมากสอดรับกับ “บิ๊กแป๊ะ” ที่นำนักสืบมือดีถกเครียด มั่นใจว่าจะสามารถจับคนร้ายได้ ขณะที่กรุงเทพมหานคร โต้ประเด็นกล้องวงจรปิดยังใช้ได้ดีมีเพียงบางตัวชำรุดอย่าเหมารวม นายกฯไฟเขียวให้จัดซื้อ “ไบโอเมทริกซ์” ด่วน ด้านสื่อนอกบอกจับตาดูหัวรุนแรงเติร์กกลุ่มเกรย์ วูล์ฟส (Grey Wolves) ที่เคยบุกสถานกงสุลไทยในนครอิสตันบูล ตุรกี
ยังเป็นประเด็นที่ต้องติดตามสำหรับคนไทยทั้งประเทศ จากเหตุระเบิดระทึกขวัญศาลพระพรหม เอราวัณ สี่แยกราชประสงค์ เมื่อค่ำวันที่ 17 ส.ค. มีผู้เสียชีวิต 20 คนและบาดเจ็บนับร้อยราย ถัดมาอีกวันเกิดเหตุระเบิดซ้ำอีกที่ท่าน้ำสาทร ใต้สะพานสมเด็จ พระเจ้าตากสิน ไม่พบความสูญเสีย หลังเกิดเหตุหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประเมินสถานการณ์ว่า ทั้งสองเหตุเชื่อมโยงกันแต่ไม่สามารถสรุปสาเหตุเกิดจากเรื่องใดทั้งประเด็นการเมืองในและต่างประเทศ ขณะที่ ผบ.ตร.สั่งปิดเมืองปูพรมล่าตัวผู้ก่อเหตุไปพร้อมๆ กับชุดสืบสวนของ บช.ก. และ บช.น.เร่งตามตัวละครที่เกี่ยวข้องทั้งโชเฟอร์แท็กซี่ สามล้อเครื่องที่ปรากฏในภาพของกล้องวงจรปิดมาสอบปากคำคลี่คลายคดี
ผบ.ตร.บอกคดีคืบหน้า
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 25 ส.ค. พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร.กล่าวว่า ขณะนี้การสืบสวนคดีมีคืบหน้าไปมาก แต่ปัญหาอุปสรรคเป็นเรื่องอุปกรณ์ โดยเฉพาะกล้องวงจรปิดไม่มีความต่อเนื่องเพราะใช้การไม่ได้จำนวนมาก ทำให้การพิสูจน์ทราบไม่ต่อเนื่องครอบคลุมพื้นที่ เป็นอุปสรรคในการคลี่คลายคดี ส่วนการประสานตำรวจสากล เป็นการดำเนินงานของชุดสืบสวนรายละเอียดยังบอกไม่ได้ ส่วนที่ระบุว่าเหตุระเบิดราชประสงค์และท่าน้ำสาทรเชื่อมโยงกันเป็นเพราะรูปแบบและการประกอบวัตถุระเบิดคล้ายกัน วัสดุที่ใช้ประกอบระเบิดคล้ายกัน แต่ชนิดระเบิด และวิธีการจุดชนวนระเบิดยังบอกไม่ได้ เบื้องต้นคาดเป็นคนกลุ่มเดียวกัน ทำเป็นขบวนการแบ่งหน้าที่ตระเตรียม สนับสนุน มีผู้สำรวจเส้นทาง จัดหา ที่พัก ผู้ก่อเหตุ วัตถุระเบิด กรณีสื่อต่างประเทศมองว่าเกี่ยวข้องกับปัญหาชนชาติอุยกูร์ ขณะนี้ยังไม่ทราบบอกได้ว่าเกี่ยวข้องหรือไม่
“บิ๊กแป๊ะ”–ชุดสืบถกเครียด
ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล เวลา 15.30 น. พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผบช.ส. พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวช รอง ผบช.น. พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.จิตติ รอดบางยาง รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.อัคราเดช พิมลศรี ผบก.ป. พล.ต.ต.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข ผบก.พฐก. พล.ต.ต.วราวุธ ทวีชัยการ ผบก.สส.สตม. ร่วมประชุมชุดสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีคนร้ายวางระเบิดที่ศาลพระพรหม เอราวัณและคดีระเบิดที่ท่าน้ำสาทร เพื่อสรุปความคืบหน้าของคดี
ระดมหาภาพกล้องวงจรปิด
พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า ได้เรียกประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าคดีนี้ทั้งในส่วนของ บช.น. และ บช.ก. ที่มีการสืบสวนสอบสวนมา 7 วันแล้ว พร้อมประสานไปที่ กทม. ขอแผ่นพิมพ์เขียวเพื่อไล่เก็บภาพกล้องวงจรบริเวณจุดที่ขาดหายไป เพราะภาพจากกล้องวงจรปิดทุกตัวจะเป็นตัวชี้วัดอย่างหนึ่งว่าคดีจะไปทิศทางใด การดำเนินการที่ผ่านมายังขาดบางส่วน ส่วนกรณีรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับชายใส่เสื้อสีฟ้าก่อเหตุระเบิดท่าน้ำสาทรนั้นยังอยู่ระหว่างดำเนินการ เมื่อถึงเวลาคงออกหมายจับเหมือน กับผู้ต้องหาบริเวณที่ราชประสงค์ ขณะนี้ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง
ต้องวิเคราะห์คำให้การทั้งหมด
พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวต่ออีกว่า จากการสอบปากคำคนขับรถแท็กซี่ที่รับคนร้ายเสื้อสีเหลืองไปส่งที่หัวลำโพงก็ให้การเป็นประโยชน์ โดย ผบช.น.เป็นผู้สอบปากคำด้วยตัวเอง เบื้องต้นได้ตรวจยึดรถแท็กซี่ส่งให้ทางเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานกลางตรวจพิสูจน์อยู่ ส่วนคนขับแท็กซี่ยืนยันว่าคนร้ายเป็นคนไทยหรือชาวต่างชาติหรือไม่ ยังให้ข้อมูลไม่ได้ขอสงวนไว้ก่อน เพราะบางครั้งให้ไปเสียรูปคดี มีการ ไปชี้นำต่างๆ เชื่อว่าคนร้ายดูการทำงานของตำรวจอยู่ทุกวัน เมื่อถามว่าคนขับรถตุ๊กตุ๊กกับคนขับรถแท็กซี่ให้การสอดคล้องกันหรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า ยังอยู่ระหว่างวิเคราะห์ ส่วนการออกหมายจับผู้ต้องสงสัยเหตุระเบิดท่าน้ำสาทร ต้องรอการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ความชัดเจนต่างๆ เพราะภาพจากกล้องวงจรปิดบางตัวภาพไม่ครบถ้วน ชายใส่เสื้อสีฟ้าเป็นผู้หย่อนระเบิดลงไปในแม่น้ำจะใช่คนร้ายจริงหรือไม่ ขณะนี้ไม่มีบุคคลอื่นที่มีพฤติกรรมอย่างนั้น เพราะฉะนั้นอาจจะใช่หรือไม่ใช่ก็ได้ ยังไม่ตั้งข้อกล่าวหาแต่อย่างใด
ไม่แน่ว่ายังอยู่ในไทย
พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวด้วยว่า คนร้ายที่ออกหมายจับยังอยู่ในประเทศหรือไม่ ตอบไม่ได้ ส่วนการตรวจสอบดีเอ็นเอจากธนบัตรค่าโดยสารคนร้ายเสื้อเหลืองจ่ายเงินให้รถ จยย.รับจ้าง อยู่ระหว่างดำเนินการ ขณะนี้ผลดีเอ็นเอยังไม่ออกเพราะยังมีขั้นตอนการตรวจสอบอยู่ ส่วนประเด็นการวางระเบิดยังไม่ทราบเหมือนกัน รู้อย่างเดียวคือเมื่อเกิดเหตุแล้วต้องหาตัวคนร้ายให้ได้จึงจะทราบสาเหตุ สาเหตุมีหลาย ประเด็น พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. เคยตอบไปแล้ว คดีไม่ใช่ไม่คืบหน้า เหตุระเบิดสี่แยกราชประสงค์ก็สามารถออกหมายจับคนร้ายแล้ว คดีพวกนี้ไม่ใช่คดี ระดับประเทศ แต่เป็นคดีระดับโลก ไม่ได้นิ่งนอนใจ ตำรวจทำงานกันเต็มที่ไม่ได้หลับไม่ได้นอน ชุดสืบสวนจะมีการขอภาพวงจรปิดจาก รพ.จุฬาลงกรณ์ และ กทม. เพื่อขอภาพจากกล้องวงจรปิดทุกตัว
มั่นใจเต็มร้อยจับได้แน่
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มั่นใจกี่เปอร์เซ็นต์ว่าจะสามารถจับคนร้ายได้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ตอบว่าถ้าถามตนก็ต้องมั่นใจ 100 เปอร์เซ็นต์ จะไม่มั่นใจในทีมงานของตนได้อย่างไร ในเมื่อคดียังเดินได้ต่อ มีสิ่งที่สามารถเดินหน้าได้อยู่ ส่วนการออกหมายจับ คนร้ายที่ก่อเหตุวางระเบิดที่ท่าน้ำสาทร ต้องพูดคุยความคืบหน้ากับชุดสืบสวนที่มีกระแสข่าวว่าคนร้ายเข้าไปใน รพ.จุฬาลงกรณ์ เปลี่ยนเสื้อสีเหลืองเป็นเสื้อสีเทา อยู่ระหว่างตรวจสอบและพิสูจน์ทราบ ส่วนกล้องวงจรปิดพบจุดสุดท้ายของคนร้ายทั้ง 2 คนที่ใดนั้นไม่ขอเปิดเผย อาจทำให้รูปคดีเสียหาย
เปอร์เซ็นต์สูงเชื่อมโยงกัน
ต่อข้อถามที่ว่า คนร้ายที่ก่อเหตุวางระเบิดทั้ง 2 แห่งมีความเชื่อมโยงและเกี่ยวข้องกันหรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า มีความเป็นไปได้สูง เพราะส่วนประกอบระเบิดบางตัวคล้ายกัน บางคนสรุปเองว่าเหมือนกัน หรือบ้างก็บอกว่าคนละแบบ เนื่องจากขนาดของลูกปืนหรือบอลแบริ่งต่างกันนิดหน่อย ส่วนการนำเทคโนโลยีที่ต่างประเทศสนับสนุนจะทันใช้ทำคดีหรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า มีหลายหน่วยอยากให้ความช่วยเหลือตนปรึกษากับท่าน ผบ.ตร.แล้ว ก็จะขอเฉพาะเครื่องมือมาเพราะพอมีความรู้อยู่แล้ว
เตรียมจำลองระเบิดที่ อ.ชะอำ
ทั้งนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวเพิ่มเติมหลังการประชุมนาน 2 ชม.ว่า สั่งการให้ชุดสืบสวนหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมโดยเฉพาะกล้องวงจรปิด และจำลองทำระเบิดจริงๆ ทั้ง 2 จุด ที่ศาลพระพรหม และท่าน้ำสาทร โดยให้จำลองเหตุการณ์ทั้งบนบกและในน้ำ เทียบเคียงดูอานุภาพของระเบิดเพื่อความรอบคอบทางคดี เบื้องต้นมีรายงานการตรวจสอบระเบิดทั้ง 2 จุด น่าจะเป็นระเบิดทีเอ็นที แต่ไม่ยืนยันชัดเจน จึงต้องหาวัสดุลักษณะเดียวกันไปทดสอบเพิ่ม โดยจะจำลองเหตุระเบิดที่สนามหุบสบู่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ส่วนคนร้ายชายเสื้อฟ้าที่ก่อเหตุวางระเบิดที่ท่าน้ำสาทร มั่นใจว่าสามารถออกหมายจับได้ ต้องรอการรวบรวมพยานหลักฐาน คาดว่าใช้เวลานานประมาณ 1 สัปดาห์ รวมทั้งต้องรอผลการหารือจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำหรับภาพสเกตช์อยู่ในขั้นตอนการดำเนินการ
โชเฟอร์แท็กซี่เขียว–เหลืองโผล่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 14.00 น. นายเฉลิม คำเพ็ง อายุ 40 ปี โชเฟอร์แท็กซี่โตโยต้า สีเขียวเหลือง ทะเบียน มฎ 2835 กรุงเทพมหานคร ที่รับชายสวมเสื้อเหลืองผู้ก่อเหตุวางระเบิดบริเวณศาลพระพรหม เอราวัณ แยกราชประสงค์ เดินทางมาพร้อมกับตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ลุมพินี เข้าพบกับ พล.ต.ต.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข ผบก.กองพิสูจน์หลักฐานกลาง เพื่อนำรถแท็กซี่คันดังกล่าวให้ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบเก็บลายนิ้วมือแฝง โดยนายเฉลิมเข้าให้ปากคำกับ พงส.สน.ลุมพินี ตำรวจ กก.สส.บก.น.6 และ บก.สส.บช.น. ตั้งแต่กลางดึกที่ผ่านมา
ระบุคนร้ายคล้ายแขกขาว
นายเฉลิมเผยว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อเวลาประมาณ 16.30 น. ของวันที่ 17 ส.ค. รับชายผู้ต้องสงสัยว่าจะเป็นผู้ก่อเหตุวางระเบิดจากหน้าตึกชาญอิสระทาวน์เวอร์ 1 ถนนพระราม 4 ไปส่งสถานีรถไฟหัวลำโพง ด้านริมคลองผดุงกรุงเกษม จำได้ว่าชายคนดังกล่าวพูดภาษาไทย แต่สำเนียงเป็นชาวต่างชาติ บอกจุดหมายปลายทางเพียงคำว่า “หัวลำโพง” ลักษณะใบหน้ารูปพรรณสัณฐานคล้ายแขกขาว อายุประมาณ 30 ปี สูงประมาณ 178 ซม. ไม่ทราบสัญชาติ ผมหยิกสีน้ำตาล สวมแว่นตากรอบดำ เสื้อยืดคอกลมสีเหลือง กางเกงสามส่วน สวมรองเท้าผ้าใบลายดำ-แดง ใส่ปลอกแขนคล้ายต้องการอำพรางรอยสักหรือตำหนิ นั่งอยู่เบาะหลังด้านซ้าย ระหว่างทางไม่มีการติดต่อทางโทรศัพท์กับผู้ใด ไม่ได้สังเกตว่านำกระเป๋าเป้มาด้วยหรือไม่ พอถึงที่หมายก็พูดภาษาไทยสำเนียงภาษาอังกฤษบอกว่า “จอด” มิเตอร์คิดค่าโดยสาร 61 บาท ก่อนจ่ายค่ารถเป็นธนบัตรใบละ 100 บาทให้ และได้รับเงินทอนไป 20 บาท จากนั้นจึงขับรถกลับบ้านย่านฝั่งธนฯ ทั้งนี้ไม่ทราบเรื่องการก่อเหตุ เพิ่งมาทราบเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ภายหลังตำรวจประสานกับพี่สาว จึงรีบเดินทางเข้าให้การในฐานะพยาน พร้อมนำรถเข้าตรวจหาหลักฐาน
ยอดนักท่องเที่ยวยังปกติ
วันเดียวกัน พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษก คสช.แถลงถึงสถานการณ์หลังเหตุระเบิดผ่านทางสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจว่า เป็นที่น่ายินดีที่บรรยากาศโดยรวมของการท่องเที่ยวในประเทศอยู่ในระดับปกติ จำนวนนักท่องเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดคงมีอยู่จำนวนมาก ทั้งนี้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาแจ้งว่า สถิติจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาประเทศไทยยังอยู่ในระดับปกติ ส่วนการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่เมื่อเย็นวันที่ 25 ส.ค.กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง และครอบคลุมในทุกพื้นที่โดยเฉพาะใน กทม. อาทิ เอเชียทีค ประตูน้ำ และสถานที่ท่องเที่ยวรอบเกาะรัตนโกสินทร์ รวมทั้งการประสานความร่วมมือกับรถ จยย.รับจ้าง และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของเอกชน เพื่อช่วยเจ้าหน้าที่แจ้งเตือนภัยและชี้เบาะแสต่างๆ
วอนเอกชนติดกล้องเพิ่ม
โฆษก คสช.ยังกล่าวต่ออีกว่า ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติขอความร่วมมือไปยังสถานที่ราชการ สถานประกอบการและเจ้าของอาคารต่างๆ ช่วยตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่มีอยู่ให้สามารถใช้การได้จริง รวมทั้งปรับมุมกล้องและความละเอียดของภาพให้สามารถใช้ตรวจสอบบุคคลได้อย่างชัดเจน หากเป็นไปได้อาจให้ติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มเติม เพื่อให้สังคมและประชาชนมีความปลอดภัยทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เจ้าหน้าที่อาจมีความจำเป็นต้องเพิ่มมาตรการในการตรวจค้นบุคคล ประชาชนอาจไม่ได้รับความสะดวกบ้างในบางกรณี
เตรียมเช็กบิลพวกโทร.ป่วน
“สำหรับความห่วงใยเกี่ยวกับความคืบหน้าของการสืบสวนคดี ขอขอบคุณในความห่วงใยดังกล่าว แต่เนื่องจากการดำเนินการจะต้องกระทำอย่างรอบคอบและต้องพิจารณาให้ครอบคลุมในทุกมิติ ความคืบหน้าในบางประเด็นไม่สามารถที่จะเปิดเผยให้ทราบ เนื่องจากมีความละเอียดอ่อนอาจส่งผลต่อรูปคดี อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลที่ได้รับทั้งของเจ้าหน้าที่และข้อมูลที่ได้รับจากหน่วยข่าวมิตรประเทศทำให้การสืบสวนคดีมีความก้าวหน้าตามลำดับ และขอขอบคุณในความร่วมมือของประชาชนที่ได้กรุณาแจ้งข้อมูลที่เป็นประโยชน์มายังเบอร์โทรศัพท์สายด่วน 1515 สำหรับผู้ที่โทรศัพท์มาก่อกวนหรือเจตนาให้ข้อมูลที่เป็นเท็จ เจ้าหน้าที่จะบันทึกและตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์เหล่านั้นไว้เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย” พ.อ.วินธัยกล่าว
ต้องยกเครื่องระบบ รปภ.ใหม่
พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร. และโฆษก ตร. กล่าวถึงกรณีของงบติดตั้งระบบไบโอเมทริกซ์ ว่า ในเรื่องเครื่องมือได้พูดขออนุมัติงบประมาณมานานแต่ไม่เคยได้รับ ส่วนเหตุระเบิดครั้งนี้สะท้อนวิกฤตการณ์ยกเครื่องระบบความปลอดภัยเป็นปัญหาหมักหมมมานาน เครื่องมืออุปกรณ์มีไม่เพียงพอ กล้องวงจรปิดไม่มี ภาพที่ได้ออกมาไม่ชัดเจน เจ้าหน้าที่ใช้ประโยชน์กล้องวงจรปิดไม่ได้เต็มที่ ไม่เหมือนต่างประเทศที่มีการนำเครื่องมือที่ทันสมัยมาใช้ในการจับภาพคนร้ายและกล้องเตือนวัตถุต้องสงสัย เพื่อใช้ในการป้องกันเหตุมากกว่ารอให้เกิดเหตุมาแล้วค่อยติดตามคนร้าย ขอมาหลายรัฐบาลไม่เคยได้ ผบ.ตร.อยากสะท้อนให้เห็นว่าตำรวจมีปัญหาเรื่องใดบ้าง ต้องการใช้วิกฤติเป็นโอกาสยกเครื่องประสิทธิภาพในระบบการป้องกันมากขึ้น อย่าปล่อยให้มีเหตุแล้วมาแก้ไขกัน โดยเฉพาะเครื่องมือที่ทันสมัยมาใช้ในพื้นที่เซฟตี้โซนแยกราชประสงค์ แหล่งชุมชน การไฟฟ้า รถใต้ดิน เป้าหมายพื้นที่เสี่ยงเหมือนกับในต่างประเทศที่ให้ความสำคัญกับอุปกรณ์ที่ทันสมัย
ยันมือบึมไป รพ.จุฬาฯจริง
พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวต่ออีกว่า ที่ผ่านมามีการแจ้งเบาะแสคนร้ายมาที่ตำรวจ แต่ตรวจสอบรูปพรรณ ลักษณะคนร้ายไม่ได้ เนื่องจากภาพที่ได้ไม่ชัดเจน ระบุไม่ได้ว่าเป็นผู้หญิง ชาย หรือชาวต่างชาติจะ พยายามทำให้คมชัด แต่ด้วยอุปกรณ์กล้องที่ทำได้แค่นั้น ทำให้ไม่เคยบอกว่าเป็นชาวต่างชาติ เนื่องจากพยานหลักฐานไม่ชัดเจน ส่วนภาพคนร้ายเข้าไปใน รพ.จุฬาลงกรณ์ มีรายงานว่าชุดสืบสวนมีข้อมูลคนร้ายไปอยู่ใน รพ.จุฬาลงกรณ์จริง แต่ไม่มีภาพกล้องวงจรปิดของ รพ.จุฬาลงกรณ์ ซึ่งเป็นข้อมูลในการสืบสวนขยายผลเกี่ยวกับคนร้าย
ตรวจสอบแฮกโยงบึม กทม.
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุสิษฐ คุณากร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ให้สัมภาษณ์กรณีกลุ่มอ้างตัวเป็นมุสลิมตูนิเซียเข้าแฮกเว็บไซต์ของหน่วยงานราชการไทยว่า การเข้าไปเจาะข้อมูลหรือแฮกข้อมูลทางเว็บไซต์สามารถเกิดขึ้นได้ การแฮกข้อมูลไม่ได้ทำให้เกิดความเสียหายกับข้อมูล กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ต้องเฝ้าระวังและดูแลป้องกันภัยคุกคามลักษณะนี้ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ยังไม่สามารถบอกได้ว่าเชื่อมโยงเหตุระเบิดแยกราชประสงค์หรือไม่ คสช.ต้องทำการตรวจสอบต่อไป ไม่อยากให้ตื่นตระหนก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีการขยายความหรือตีความในทางที่ไม่ถูกต้อง จะยิ่งเป็นประโยชน์กับผู้ก่อเหตุ
นายกฯไม่หวั่นข้อมูลโดนแฮก
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. กล่าวถึงกรณีกลุ่มที่อ้างตัวว่าเป็นกลุ่มมุสลิมตูนิเซียแฮกข้อมูลเข้าไปในเว็บไซต์หน่วยงานภาครัฐว่า ได้รับรายงานแล้ว สั่งการให้ตรวจสอบไปแล้วว่าจริงหรือไม่ ใครเป็นผู้กระทำ ข้อมูลในประเทศไทยบางอย่างไม่ได้มีความลับอะไรมากมายขนาดนั้น อะไรที่เป็นความลับมีระบบป้องกันไม่ สามารถแฮกเข้าได้ จากนี้ไปต้องหามาตรการเพิ่มเติม อาทิ เครื่องมือป้องกันดูแลเรื่องเหล่านี้ โดยเฉพาะเกี่ยวกับโซเชียลมีเดีย
ไฟเขียวซื้อ “ไบโอเมทริกซ์”
ส่วนความเป็นไปได้ในการจัดซื้อเครื่องไบโอเมทริกซ์ สำหรับตรวจสอบรูปหน้า ลายพิมพ์ นิ้วมือ และแววตาของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า จะเร่งให้เร็วที่สุด มีเสนอมาแล้ว อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมการ สั่งการให้คณะกรรมการไอซีทีไปดูคุณภาพ ประสิทธิภาพดีครบถ้วนหรือไม่ ระยะที่ 1 ควรมีแค่ไหน ต้องพร้อมเพิ่มเติมในระยะ 2-3 ต่อไปในอนาคตด้วย ไม่ใช่ซื้อทีเดียวจบ วันหน้าจะซื้อใหม่อีกทั้งระบบไม่ได้ ต่อไปนี้ต้องเป็นระบบหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการใช้เทคโนโลยีเพราะปรับกระทรวงไอซีทีใหม่แล้ว ดังนั้นไอซีทีจะเป็นคนดูแลเรื่องเหล่านี้ ตนกำชับไปแล้ว
กทม.ยันกล้องใช้การได้ดี
พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม. นายทวีศักดิ์ เลิศประพันธ์ ผอ. สำนักการจราจรและขนส่ง กทม. ร่วมชี้แจงกรณีกล้องโทรทัศน์วงจรปิด ของ กทม. ว่าจากเหตุการณ์ระเบิดที่แยกราชประสงค์ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. ได้สั่งการให้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อสนับสนุนการทำงานของฝ่ายความมั่นคง บริเวณที่เกิดเหตุมีกล้องวงจรปิดทั้งหมด 107 ตัว มีชำรุด 4 ตัว ตามอายุการใช้งานและซ่อมแซมไม่ได้ชำรุดมากหรือไม่มีประสิทธิภาพ โดยที่เกิดเหตุชำรุดเพียง 1 ตัว ไม่ได้ทำให้รูปคดีเสีย โปรดอย่าเอาความบกพร่องของกล้องบางจุดมาตีความว่ากล้องวงจรปิดทั่ว กทม.ไร้ประสิทธิภาพ ส่วนที่เห็นภาพไม่ชัดเจนน่าจะขึ้นอยู่กับตำแหน่งและระยะห่าง ประเภทของกล้อง เช่น กล้องวงจรปิดเพื่อความมั่นคง และกล้องวงจรปิดเพื่อการจราจร ยืนยันว่ากล้องทั้งหมดของ กทม.มีมาตรฐาน สัปดาห์ที่ผ่านมา ได้สนับสนุนภาพกล้องวงจรปิดแก่ฝ่ายความมั่นคงอย่างเต็มที่ตามที่ร้องขอ 48 ครั้ง เพื่อใช้ในการสืบสวนและนำไปประกอบคดี ส่วนนายทวีศักดิ์กล่าวว่า กทม.มีทีม ซ่อมแซมออกตรวจพื้นที่ทั้งหมด 5 ทีม สลับหมุนเวียนกันทุก 15 วัน
มท.1 เหน็บอย่ารอให้สั่ง
ขณะที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีกล้องวงจรปิดบริเวณพื้นที่เกิดเหตุระเบิดชำรุดเสียหายหลายตัว จนทำให้การติดตามเบาะแสคนร้ายเป็นไปได้ยากว่าจะรับเรื่องดังกล่าวไปดูแลและสั่งการให้ตรวจสอบความพร้อมใช้งาน ทั้งนี้เมื่อกล้องเสียก็ควรซ่อมอยู่แล้ว โดยไม่จำเป็นต้องให้ตนไปสั่งการ
จัดระเบียบสื่อและประชาชน
อีกด้าน ที่ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล พล.ต. สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังประชุม ครม.ว่า ในที่ประชุม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. กล่าวถึงเหตุการณ์ระเบิดว่า เป็นบทเรียนและประสบการณ์ที่สำคัญ สำหรับเจ้าหน้าที่ทั้งทหาร ตำรวจ อาสาสมัคร สำนักข่าวกรองแห่งชาติและสภาความมั่นคงแห่งชาติ ขณะนี้พยายามจัดการสถานการณ์ต่างๆ ให้กลับคืนสู่ปกติอย่างรวดเร็ว สร้างสภาพแวดล้อมให้มีความปลอดภัย ทำงานได้สะดวก กันพื้นที่ บริหารจัดการข่าว แต่ยังประสบปัญหาการปฏิบัติของสื่อมวลชนและประชาชน ปลูกจิตสำนึกไม่ขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ ทั้งการเข้าไปทำข่าว-ภาพ โดยไม่ลิดรอนสิทธิผู้อื่น ส่วนประชาชนต้องตระหนักทำอย่างไรไม่เข้าไปมีส่วนทำให้ข่าวลือแพร่สะพัดสร้างความสับสน
สั่งปรับมาตรฐานเงินเยียวยา
พล.ต.สรรเสริญกล่าวต่ออีกว่า ส่วนการเยียวยาผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เป็นที่ทราบกันชาวต่างชาติที่เสียชีวิตจะได้รับการช่วยเหลือจากรัฐบาลไทยเป็นจำนวนเงินที่สูงกว่าผู้เสียชีวิตที่เป็นชาวไทยมากพอสมควร นายกฯต้อง การให้ดูแลคนไทยและคนต่างชาติอย่างเท่าเทียมกัน จึงมอบหมายให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปศึกษารายละเอียดเพื่อให้ได้รับการดูแลในอัตราส่วนใกล้เคียงกัน รวมถึงการดูแลที่ต่อเนื่อง เช่น เจ็บป่วย ทุพพลภาพที่ต้องกลับไปรักษาตัวที่บ้านเกิด การแบ่งเบาภาระการเดินทาง ส่วนผู้ที่รักษาตัวในไทย ต้องช่วยเหลือด้านที่พัก ค่าเดินทางญาติ คำนึงถึง 3 ประเด็นคือ 1.จำนวนเงินจะต้องมีมากพอ ไม่ให้รู้สึกว่าน้อยเกินไปต่อสิ่งที่สูญเสีย 2.จากจำนวนเงินที่มากขึ้นนั้นมีกฎหมายใดรองรับ และ 3.ผู้บาดเจ็บ พิการ ทุพพลภาพจะช่วยเหลืออย่างไร โดยจะบูรณาการจากแหล่งเงินเยียวยาของกระทรวงยุติธรรม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงมหาดไทยและสำนักนายกรัฐมนตรี
เตรียมบูรณะศาลพระพรหม
ที่ศาลพระพรหม เอราวัณ แยกราชประสงค์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้ามืด มูลนิธิทุนท่านท้าวมหาพรหมโรงแรมเอราวัณ ได้สั่งให้ทีมช่างนำนั่งร้านมาตั้งรอบองค์ท้าวมหาพรหม และนำผ้าขาวมาปิด เพื่อเตรียมสถานที่รอทีมช่างสิบหมู่ของกรมศิลปากรมาบูรณะในวันที่ 26 ส.ค. พร้อมทั้งเปิดให้ประชาชนได้มาสักการะตามปกติ จึงมีพลังศรัทธาจากชาวไทยและต่างชาติเดินทางมากราบไหว้ ถวายสิ่งของเพื่อขอพรองค์พระพรหมกันอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่หนาแน่นเท่าช่วงก่อนเกิดเหตุ โดยมีทหารเฝ้าพื้นที่รักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด
สื่อนอกจับตาหัวรุนแรงเติร์ก
มีรายงานว่าวันเดียวกัน เว็บไซต์ข่าววอยซ์ออฟอเมริกา หรือวีโอเอ รวมถึงนิตยสารฟอร์บส์ของสหรัฐฯ เปิดเผยการวิเคราะห์กรณีเหตุลอบวางระเบิดบริเวณศาลพระพรหม แยกราชประสงค์ ใน กทม. ของ นายแอนโทนี่ เดวิส นักวิเคราะห์ด้านความมั่นคงของวารสารความมั่นคงไอเอชเอส เจน’ส ของสหรัฐฯ ในระหว่างการประชุมสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย หรือเอฟซีซีที โดยมองว่าทางการไทยควรจับตากลุ่มชาตินิยมฝ่ายขวาหัวรุนแรงในตุรกี ที่เรียกว่ากลุ่มเกรย์ วูล์ฟส (Grey Wolves) ว่ามีส่วนเชื่อมโยงในเหตุระเบิดครั้งนี้หรือไม่ เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเห็นได้ชัดว่าตั้งใจโจมตีสถานที่ยอดนิยมของนักท่องเที่ยวชาวจีน และกลุ่มเกรย์ วูล์ฟส เคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์บุกสถานกงสุลไทยในนครอิสตันบูล ตุรกี เมื่อวันที่ 9 ก.ค. เพื่อแสดงความไม่พอใจที่ทางการไทยส่งตัวผู้อพยพชาวมุสลิมอุยกูร์กลับจีน 109 คน ทั้งนี้ นายเดวิสยังกล่าวด้วยว่า เหตุที่กลุ่มเกรย์ วูล์ฟส มีความเชื่อมโยงมากกว่ากลุ่มหัวรุนแรงหลักๆ อาทิ กองกำลังรัฐอิสลามไอเอส หรืออัล-เคดา เป็นเพราะกลุ่มหลักๆเหล่านั้นจะรีบประกาศตัวว่าอยู่เบื้องหลังการก่อเหตุทันที ต่างจากเหตุระเบิดครั้งนี้ยังไม่มีกลุ่มใดออกมาแสดงตัวรับผิดชอบ
อาเซียนร่วมต้านก่อการร้าย
เย็นวันเดียวกัน อาเซียนออกแถลงการณ์ร่วมต่อเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์ ระบุว่าประเทศสมาชิกอาเซียน ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อรัฐบาลและประชาชนชาวไทย รวมทั้งครอบครัวของเหยื่อจากเหตุการณ์ พร้อมขอประณามการกระทำดังกล่าว เช่นเดียวกับที่ประณามการก่อการร้ายทุกรูปแบบไม่ว่าจะมีแรงจูงใจจากสาเหตุใด ที่ใดและเมื่อไร จากกลุ่มคนใดก็ตาม ทั้งนี้อาเซียนจะร่วมมือกับประชาคมโลกเพื่อเสริมสร้างการต่อต้านการก่อการร้ายในทุกรูปแบบ พร้อมแสดงความเป็นหนึ่งเดียว กับรัฐบาลและประชาชนชาวไทย สนับสนุนความพยายามในการนำตัวผู้ก่อเหตุครั้งนี้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
http://www.thairath.co.th/content/520813
ผมว่าไม่เห็นต้องจ้างเลยครับ
ตอนสถานทูตไทยโดนยำที่ตุรกีก็ไม่เห็นต้องจ้าง
เค้าพวกกันอยู่แล้วครับ
แค่สถานกงศุลประจำเมืองเท่านั้น คุง Toeylei ถ้าบุกสถานทูตปานนี้เป็นเรื่องราวใหญ่โตไปแล้วครับ
ส่วนที่ว่าเป็นเติร์กจะจ้างหรือแก้แค้นแทนกันให้กับอุยกูร์ ถ้าพิสูจน์ได้ว่าจริง
คิดว่างานนี้รัฐบาลมีส่วนต้องรับผิดชอบ เพราะชักศึกเข้าบ้านเต็มๆ คนที่เข้ามาขอลี้ภัย ถ้าไม่รับการลี้ภัยก็ควรจะผลักดันออกไปโดนให้ประเทศที่สมัครใจรับผู้ลี้ภัย (ตุรกี) มารับตัวไป ไม่ใช้จับส่งตัวให้ จีน มันผิดมารยาทตามหลักสากลอย่างแรง