ช่วงนี้ห่างหายกันไปนานครับ กลับมาคราวนี้จึงขอชดเชยด้วยการนำเสนอเรื่องเล่าประสบการณ์ชีวิตการฝึกในเรือดำน้ำนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ เขียนโดยท่าน ช.ชาย '66 ที่ได้มีโอกาสไปร่วมการฝึก Guardian Sea ที่ภูเก็ตเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งผมได้ขออนุญาตผู้เขียนนำมาให้อ่านกันก่อนที่จะลงพิมพ์ในนิตยสาร "กระดูกงู" ของกองเรือยุทธการครับ (เนื้อหาค่อนข้างยาว ขอเกริ่นนำแล้ว link ไปอ่านฉบับเต็มในบล็อกส่วนตัวครับ)
เกริ่นนำ
ผู้เขียนได้มีโอกาสเข้าร่วมการฝึก Guardian Sea ประจำปี งป.๕๘ ในส่วนของกองเรือดำน้ำ สำหรับปีนี้ถือว่าเป็นโอกาสอันดีที่ผู้เข้ารับการฝึกในส่วนของกองเรือดำน้ำ ได้รับอนุญาตให้ลงปฏิบัติงานในเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ของ ทร.สหรัฐฯ ในฐานะ Submarine Rider ตลอดช่วงระยะเวลาการฝึกในทะเล ทำให้มีโอกาสได้ใช้ชีวิตในเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ และได้สังเกตการณ์การปฏิบัติต่าง ๆ ภายในเรือดำน้ำอย่างใกล้ชิด จึงมีความคิดที่จะนำประสบการณ์ที่ได้รับมาเล่าสู่ชาวเรือให้ได้รับทราบกัน ถือว่าเป็นการถ่ายทอดภาพความเป็นอยู่และการปฏิบัติต่าง ๆ ภายในเรือดำน้ำ ให้กับผู้ที่สนใจเพื่อจะได้เตรียมร่างกายและจิตใจ เผื่อว่า ทร.จะได้รับอนุมัติให้จัดหาเรือดำน้ำมาประจำการต่อไปในอนาคตอันใกล้นี้
การฝึก Guardian Sea 2015 ระหว่างเรือดำน้ำสหรัฐฯ กับ ทร.ไทย
การฝึก Guardian Sea
การฝึก Guardian Sea เป็นการฝึกผสมระหว่าง ทร.ไทย กับ ทร.สหรัฐ มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการฝึกปราบเรือดำน้ำและการปฏิบัติการเรือดำน้ำ โดยในปีงบประมาณ ๕๘ ได้จัดให้มีการฝึกในห้วงเวลา ๙ – ๒๙ พ.ค.๕๘ ใช้พื้นที่การฝึกในฝั่งทะเลอันดามัน บริเวณจังหวัดภูเก็ต ซึ่งกองเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ได้รับมอบหมายให้เป็นหน่วยรับผิดชอบการฝึก มีหน่วยกำลังที่เข้าร่วมการฝึก ฝ่ายไทยประกอบด้วย ร.ล.อ่างทอง ร.ล.สุโขทัย ร.ล.ทยานชล และเฮลิคอปเตอร์ปราบเรือดำน้ำจำนวน ๒ เครื่อง ส่วนกำลังฝ่ายสหรัฐฯ ประกอบด้วย เรือดำน้ำ USS Key West (SSN 722) และเครื่องบินลาดตระเวนทางทะเล P-3C จำนวน ๑ เครื่อง โดยตั้งหมู่เรือฝึกบน ร.ล.อ่างทอง
การฝึก Guardian Sea ในปีนี้ แบ่งการฝึกเป็น ๓ ขั้น ขั้นแรก ตั้งแต่ ๙ – ๑๔ พ.ค.๕๘ เป็นการเดินทางเข้าพื้นที่การฝึก ซึ่งเรือที่เข้าร่วมฝึกในขั้นนี้ ประกอบด้วย ร.ล.อ่างทอง และ ร.ล.สุโขทัย โดยในระหว่างการเดินทางเข้าพื้นที่การฝึก ฯ (จาก ฐท.สส. – จว.ภูเก็ต) จะมีการฝึกในหัวข้อและสถานการณ์ฝึกต่าง ๆ เพื่อเป็นการเตรียมการและเพิ่มพูนทักษะ ความชำนาญ สำหรับการฝึกร่วมกับเรือดำน้ำและหน่วยบิน สำหรับขั้นที่สอง ตั้งแต่ ๑๕ – ๒๐ พ.ค.๕๘ เป็นการฝึกในพื้นที่ฝั่งทะเลอันดามัน บริเวณ จว.ภูเก็ต โดยหน่วยกำลังที่เดินทางจาก ฐท.สส. ได้ประกอบกำลังร่วมกับหน่วยฝึกต่าง ๆ ได้แก่ ร.ล.ทยานชล จากทัพเรือภาคที่ ๓ และเรือดำน้ำ USS Key West กับเครื่องบิน P-3C ของ ทร.สหรัฐฯ ซึ่งการฝึกในขั้นนี้แบ่งย่อยเป็นการฝึกในท่า ประกอบด้วยการประชุมเตรียมการฝึก กับการอบรมและสัมมนาแลกเปลี่ยนในห้องเรียน และการฝึกในทะเลของหน่วยกำลังต่าง ๆ ส่วนการฝึกขั้นสุดท้ายเป็นการฝึกเดินทางกลับที่ตั้งปกติระหว่าง ๒๑ – ๒๙ พ.ค.๕๘
ในส่วนของกำลังพล Submarine Rider ได้เข้าร่วมการฝึกในขั้นที่ ๒ ประกอบด้วยกำลังพลจากกองเรือดำน้ำ จำนวน ๗ นาย และนายทหารสหรัฐฯ จาก JUSMAGTHAI ซึ่งเคยเป็นอดีตกำลังพลเรือดำน้ำสหรัฐฯ อีก ๑ นาย ทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงและผู้ประสานงานภายในเรือ ซึ่งกำลังพล Submarine Rider ได้เข้าร่วมการอบรมและสัมมนาแลกเปลี่ยนในห้องเรียนบน ร.ล.อ่างทอง เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนการลงฝึกในเรือดำน้ำจริง โดยวันแรกของการฝึกในทะเลเริ่มขึ้นใน ๑๗ พ.ค.๕๘ กำลังพล Submarine Rider ทั้งหมดได้เดินทางจาก ร.ล.อ่างทอง โดยเรือ RIB ของ ร.ล.สุโขทัย ไปยังเรือดำน้ำ USS Key West ที่เทียบอยู่กับเรือพี่เลี้ยงซึ่งจอดทอดสมออยู่ในบริเวณใกล้เคียงกัน เมื่อ Submarine Rider เดินทางถึงเรือดำน้ำ USS Key West ก็ได้รับการต้อนรับจาก ผบ.เรือ ต้นเรือ และสรั่งเรือ (Chief of the Boat) โดย ผบ.เรือ ได้กล่าวต้อนรับและชี้แจงแนวทางการปฏิบัติภายในเรือดำน้ำ และได้มอบหมายให้นายทหารพลาธิการเป็นผู้ดูแลความเป็นอยู่ของคณะ Submarine Rider โดยสิ่งแรกที่ต้องทำเมื่อลงไปในเรือดำน้ำ คือการส่งมอบโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิด ที่สามารถบันทึกภาพได้ให้แก่นายทหารพลาธิการโดยไม่มีเงื่อนไข เพื่อป้องกันการบันทึกภาพต่าง ๆ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุให้ความลับของเรือรั่วไหลได้
กำลังพล Submarine Rider ของกองเรือดำน้ำ
เรือดำน้ำ USS Key West (SSN-722)
เรือดำน้ำ ทร.สหรัฐฯ ที่เข้าร่วมฝึกในครั้งนี้ คือ เรือดำน้ำ USS Key West ตั้งชื่อตามเกาะ Key West มลรัฐฟลอริด้า เป็นเรือดำน้ำชั้นลอสแองเจลลิส ขับเคลื่อนด้วยพลังงานนิวเคลียร์ วางกระดูกงู เมื่อ ๖ ก.ค.๑๙๘๓ ปล่อยเรือลงน้ำ เมื่อ ๒๐ ก.ค.๑๙๘๕ และขึ้นระวางประจำการ เมื่อ ๑๒ ก.ย.๑๙๘๗ ยาว ๑๑๐ เมตร กว้าง ๙.๗๕ เมตร กินน้ำลึก ๙.๑๔ เมตร ระวางขับน้ำ ๖,๐๗๒ ตัน กำลังพลประจำเรือ ๑๓๔ นาย ความเร็วผิวน้ำ ๑๘ น๊อต ความเร็วใต้น้ำ ๓๐ น๊อต รัศมีทำการไกลไม่จำกัด มีท่อยิงตอร์ปิโด ๔ ท่อยิง และท่อยิงอาวุธนำวิถี Tomahawk ๑๒ ท่อยิง สามารถเก็บตอร์ปิโดและอาวุธปล่อยนำวิถีภายในเรือได้รวม ๒๗ ลูก ตัวเรือภายในแบ่งออกเป็น ๒ ห้องผนึกความดัน (Pressure-Tight Compartment) และมีดาดฟ้า ๓ ชั้น คือ ดาดฟ้าชั้นบน ดาดฟ้าหลัก และดาดฟ้าชั้นล่าง จากการสังเกตอาจจะเป็นเพราะมีการซ่อมบำรุงเรือเป็นอย่างดี ประกอบกับการปฏิบัติของเวรทำความสะอาดที่ค่อนข้างเข้มงวด ทำให้สภาพภายในเรือสะอาดมาก ทั้งที่เรือลำมีอายุเกือบ ๓๐ ปีแล้ว
อ่านต่อ - https://kapitaennem0.wordpress.com/2015/08/13/submarine_life/
แม้ระยะเวลาจะไม่กี่วัน แต่ทหารเรือกลุ่มนี้ได้เรียนรู้ประสบการณ์สูงล้ำ....ที่มิอาจคำนวนเป็นเงินได้
โดยส่วนตัวแล้วผมมองว่าการฝึกครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่คนของ ทร.ได้ลงไปฝึกในเรือดำน้ำสหรัฐฯ ระหว่างการปฏิบัติงานจริง ไม่ใช่แค่ลงไปเยี่ยมชมเรือขณะเรือจอดในท่า ซึ่งนับเป็นประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญที่ไม่เคยมีมาก่อน จึงได้ขออนุญาตท่านผู้เขียนเอามาเผยแพร่ในช่องทางอื่นนอกเหนือจากนิตยสารภายในของกองเรือยุทธการ แต่น่าเสียดายที่ ทร.ดูจะเฉยๆ กับเรื่องนี้ และไม่ค่อยโปรโมทเท่าที่ควรทั้งที่กำลังมีโครงการซื้อเรือดำน้ำอยู่ ถ้าเป็นทหารอากาศขึ้นไปบินในเครื่อง F-15 E ของ ทอ.สหรัฐฯ ป่านนี้คงเป็นข่าวดังไปแล้ว
แค่สงสัยมากๆๆๆ สับสนด้วย ความสัมพันธ์ไทยสหรัฐดีขึ้นแล้วหรือ จึงมีโปรเจคนี้...... หรือเขาทำใจได้แล้ว
ความสัมพันธ์ทางทหารไม่มีอะไรกันอยู่แล้วครับ
อันนั้นเป็นเรื่องการเมืองภายในประเทศของเขาเอง ต้องหลอกประชาชนหน่อยว่าตูโปรโมทประชาธิปไตยนะ
ถ้าไม่ออกข่าวประชาชนเขาไม่รู้เขาไม่สนหรอกครับ
ความสัมพันธ์ระดับหน่วยงานผู้ปฏิบัติไม่ได้กระทบอะไรมากตั้งแต่แรกแล้วครับ จะมีรุนแแรงสุดก็คือการยุติการฝึก CARAT ก่อนกำหนดเมื่อปีที่แล้ว เนื่องจากเหตุการณ์รัฐประหารเกิดขึ้นระหว่างการฝึกพอดี และได้รับคำสั่งจากระดับการเมืองให้แสดงท่าทีที่ชัดเจน
ส่วนการแสดงท่าทีอื่นๆ ก็เป็นไปตามที่ท่าน toeytei กล่าวไว้ครับ ส่วนในทางทหารยังคงมีการฝึกและกิจกรรมอื่นๆ ซึ่งไม่ได้กระทบอะไร เรือรบและเรือช่วยรบสหรัฐฯ ยังคงจอดพักที่ไทย การฝึก Cobra Gold และ CARAT ก็ยังคงมีอยู่ และล่าสุด ทร.ก็เพิ่งส่งคนไปเรียนหลักสูตรเรือดำน้ำนานาชาติที่สหรัฐฯ เป็นครั้งแรกอีกด้วย แต่ก็ไม่แน่ใจว่าหาก ทร.ซื้อเรือดำน้ำจีนแล้วจะส่งผลอย่างไรกับการฝึกและหลักสูตรในส่วนของ ทร.สหรัฐฯ บ้าง โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับเรือดำน้ำ
เรื่องนี้เหมือนกันกับบรรยากาศระหว่าง ปชช ของ สหรัฐ-ไทยครับ ปชช สหรัฐไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับการที่รัฐบาลสหรัฐไปทำเจ้ากี้เจ้าการทุกเรื่อง-ทุกที่ในโลก เพราะเค้ามองว่าเอาเงินไปถมกับการทำสงครามที่ ปชช สรอ เองไม่ใด้ประโยชน์อะไร นอกจากการขายอาวุธ แต่ไม่ว่าจะเลือกพรรคไหน ผล/นโยบายต่างประเทศก็จะออกมาแบบนี้เหมือนกันหมด.... รบ สรอ ปรับแนวนิยมการทำสงครามนอกอาณาเขตโดยลดอัตราการสูญเสียชีวิตทหารอเมริกันผ่านการใช้อาวุธไฮเทคฯ เราเลยไม่เห็นการจต่อต้านจาก ปชช รุนแรงเหมือนสมัยสงครามเวียตนาม
ความสัมพันธ์ไทยกับอเมริกา เป็นแบบตัวละครพ่อลูกลูเธอร์ในซีรี่เรื่อง ชุปเปอร์แมนแห่งสมอลวิลล์(เลค ลูเธอร์กับไลโอเนล ลูเธอร์)...ละเมอล่ะ ^_^
มันเป็นท่าทีที่ชัเเจนของการแสดงออกแลพส่งสัญญาณออกไปว่าฉันไม่ค่อยพอใจนะ แต่ข้างในเรายังเหมือนเดิม
เรื่องการฝึกถือว่าเป็นเรื่องดีครับเราจะได้เห็นของจริง จับจริง(หรือเปล่า)
http://www.navedu.navy.mi.th/stg/tnssc/pdf/82-3v.pdf
ทหารเรือลงไปสังเกตุการณ์ในเรือดำน้ำอเมริกันมานานแล้ว แต่ไม่แน่ใจว่า ด.นิวเคลียร์ด้วยหรือไม่ เรื่องนี้เขียนเมื่อ4-5 ปีมาแล้ว แต่เล่าถึงความหลังเมื่อประมาณ 30 กว่าปีมาแล้ว ผู้เขียนคงเขียนจากความทรงจำ(ซึ่งขณะนั้นมียศแค่ ร.ท.) ชื่อเรือ ที่ถูกต้องคงจะเป็น USS Grayback และระวางขับน้ำ 2-3000ตัน ไม่ใช่ 400 ตัน ในสมัยนั้นฝึกปราบ ด.กับสหรัฐฯเกือบทุกปี แต่ปีนั้นเป็นปีที่ บ. S 2F ตก ขณะที่กำลังฝึก และผู้ที่ช่วยชีวิตลูกเรือบางส่วนไว้ได้ทันควันก็คือเรือดำน้ำที่โผล่ขึ้นช้อนแพชูชีพไว้ได้เลย
เอามาลงให้อ่านเล่นสนุกๆครับ
ขอบคุณครับ กรณีนี้น่าจะเป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของความ "เงียบ" ในการประชาสัมพันธ์ของ ทร.เอง ซึ่งถ้าท่าน sboot ไม่ช่วยนำมาเผยแพร่ก็คงไม่มีใครได้รู้ว่า ทร.เราเคยส่งคนไปลงเรือดำน้ำสหรัฐฯ เมื่อหลายสิบปีมาแล้ว (น่าจะในสมัยที่ยัง ทร.สหรัฐฯ ยังใช้เรือดำน้ำดีเซล-ไฟฟ้า)
คงต้องชั่งน้ำหนักกระมังครับว่าจะโปรโมทดีหรือไม่ดี ข้อดีคือ แสดงให้เห็นว่า ทร. มีความสนใจในเทคโนโลยีเรือดำน้ำมาอย่างต่อเนื่อง แต่ในอีกด้าน ยิ่งแสดงให้เห็นว่า เราฝึกกับเรือตะวันตกมา ซึ่งไม่สอดคล้องกับการเลือกเรือจีน ถ้าโปรโมทไปอาจจะสวนทางกับนโยบายได้
เอ่ ผมคิดมากไปป่าว
ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรนะครับ เพราะเราก็เน้นฝึกและการไปเรียนหลักสูตรต่างๆ กับค่ายตะวันตกมาตลอด ไม่ใช่แค่เรื่องเรือดำน้ำ และเท่าที่ทราบจนถึงปัจจุบันเรายังไม่เคยฝึกการปฏิบัติการทางเรือกับจีนเลย มีแต่การฝึก นย.บนบก (ใครมีข้อมูลว่าเราเคยฝึกกับ ทร.จีนเชิญเข้ามาแนะนำได้ครับ) ซึ่งจะว่าไปแล้วสิ่งที่ดูขัดแย้งและไม่เข้าพวกไม่ใช่การฝึกกับเรือตะวันตก แต่เป็นการเลือกเรือจีนมากกว่า