อันไหนจะอร่อยกว่ากัน
อาจจะไม่ใช่ทั้งสองก็ได้มั้ง 555+
แต่ได้ของชาติไหนก็ได้ ผมไม่เกี่ยง
จากดีลเรือดำน้ำ ผมชักไม่แน่ใจว่า T-50 และ M-346 จะมาได้แล้วนะ ก็อย่างความเห็นอันก่อนครับ ไม่ yak-130 เผลอๆ L-15 เข้าวินหน้าตาเฉยอีกรายไป แต่ให้ yak-130 มาก่อนล่ะ เพราะเห็น SU-35 ลงหน้าปกหนังสือและมีคนพูดถึงบ่อยจัดในช่วงนี้
L-15 โผล่มาที่ ทอ. อีกจ้าว รับรองว่ามีคนร้องไห้หนักมากจนถึงมากที่สุดอีกครั้ง รวมถึงผมด้วยอีกคนหนึ่ง
ล่าสุด ก็ LY -80E ผมว่าทางที่ดีกองทัพอากาศพับโครงการจัดหาเครื่องบินฝึกใหม่ไปก่อนเลยจะดีกว่า ถ้ายังดันทุรังจะจัดหาในช่วงนี้ โดน L-15 พ่วงพร้อมกับเรือดำน้ำของกองทัพเรือแน่ๆ
จีนมาฮาแตกแน่ครับ อย่างเรือดำน้ำผมยังงงเลย นึกว่าทร.เคยเจอประสบการที่ไม่ดีเกี่ยวกับของจีนแล้วจะไม่เอา ที่ไหนได้ แซงโค้งสะงั้น
ส่วนตัวไม่ได้คิดว่าของจีนไม่ดีนะครับ ทั้งน้ำ ทั้งอากาศ แต่อยากให้ประเทศได้ของดีจริงๆครับ
ฟริเกตใหม่ เกาหลีได้ไปแล้ว งบเป็นหมื่นล้าน
เรือ ส. + SAM จีนได้ไปแล้ว งบเป็นหลักหมื่นล้านเช่นกัน
มาถึง Lead-in Fighter ดีลน่าจะเป็นของอิตาลีหรือรัสเซียแล้วละครับ
โดยเฉพาะรัสเซีย ยังไม่ได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอันจากไทยเราเลย นอกจากดีล Mi-17 3+2 ลำ
เอ จะว่าไปจริงๆ แล้วอิตาลีก็ได้ดีล AW-139 ไปแล้วนะ แถมอนาคตสดใส มีแววว่าจะมีรีพีทออเดอร์จาก ทบ.อีก แทนโครงการลาโกต้าที่เดิมตั้งใจจะเอามาแทนฟลีตฮิวอี้ แต่สั่งไปแค่ 6 ตัว ก็เปลี่ยนไปเป็น EC-145 กับ AW-139 แทน ว่ากันว่าเป็นเพราะไม่มีให้ซื้อพ่วงกับเมกันแล้ว เพราะเมกันได้รับครบทุกเครื่องตามโครงการแล้ว แต่ข่าวล่าสุดเมื่อเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา ทบ. เมกัน ดันสั่งลาโกต้าเพิ่มอีก 41 ตัว เลยชักงงๆ แล้วว่า เป็นเพราะไม่มีให้ซื้อพ่วงเพิ่ม หรือสมถรรนะเครื่องไม่ค่อยตรงกับที่เราต้องการกันแน่
เอาเป็นว่า ขออนุญาตฟันธงละกันครับว่า M-346 กับ Yak-130 ยังคงวิ่งเบียดกันมาติดๆ เพียงแค่ 2 ม้า ยังดูไม่ออกว่าม้าตัวไหนแรงปลายใครจะดีกว่ากัน เดิมพันอย่างน้อย 16 ตัวเป็นเงินที่มากพอดู คงต้องฟันกันอีกหลายยก งบก้อนแรกอนุมัติมาแล้ว 4 ลำ อีกไม่กี่อึดใจรับรองได้เห็นหน้าม้าที่เข้าวินแน่ๆ ครับ (เชียร์ทั้งคู่ ใครก็ได้ ไม่มีผิดหวังต้องร้องไห้มากๆๆๆๆ เหมือนดีลเรือ ส. ครับ)
ผมไปเจอกระทู้หน้าสนใจมากครับเกี่ยวกับการเปรียบเทียบระหว่าง M-346 vs t-50 ตามลิ้งค์นี้เลยครับ http://m.pantip.com/topic/33866848? อ่านเลยได้รู้อะไรเยอะเลย
ยุกค์นี้...หวย ออกได้แต่...."กิมจิ" กับ "กิมจ้อ" เท่านั้น ครับ
ออกหน้าอื่นไม่ได้ครับ....(เน้น ไม่ได้จริงๆ ครับ) และต้องผ่าน.......ด้วย ครับ
....ไม่โดนอัด..หรอก ครับ ก็แค่ไม่เสนอ อนุมัติ....ครับ....
สัญญาณแสดงมาให้เห็นชัดเจนแจ่มแจ้ง...ขนาดนี้แล้ว...ถ้ายัง... ไม่.. รู้.. ฟัง.. อีก
....ก็...ไม่ต้องหวัง อนาคตแล้ว... ครับ ท่าน
ความเห็นในพันทิปมีข้อมูลผิดพลาดทั้งเรื่องแรงขับและความเร็วของ M-346 ครับ
ส่วนระบบการฝึกเทพๆ นั้นก็มีเฉพาะรุ่นที่ใช้ใน ทอ. อิสราเอล ครับ คือยิวเค้ามักพัฒนาอะไรเองใส่เครื่องที่เค้าใช้งานอยู่แล้วครับ ถ้าเราจะเอาเหมือนเค้าต้องซื้อเพิ่ม เหมือนไวเปอร์หลังอูฐของสิงค์โปร์แหละครับ ซื้อเครื่องจากเมกันมาแล้วต้องมาม๊อดต่อเองหรือให้ยิวทำให้
แต่ความเห็นในพันทิปนี้ทำให้ผมนึกขึ้นมาได้ว่า บางทีม้าโคเรียนตัวนี้อาจเป็นตัวสอดแทรกได้ คือที่ผ่านมามันมีข่าวออกมาหลายครั้งว่า บางคนอยากได้เจ้านี่มากๆ ทั้งๆ ที่เฉพาะในภารกิจลีด-อิน ไฟเตอร์ โอเปอร์เรติ้งคอส์ทมันสูงที่สุดเมื่อเทียบกับคู่เปรียบ ทั้งค่าน้ำมันต่อชั่วโมงบิน ความสึกหรอของเครื่องยนต์ที่มากกว่าเนื่องจากแรงขับสูงระดับ บ.รบ ซึ่งหมายถึงการต้องการการซ่อมบำรุงต่อชั่วโมงบินที่มากกว่า น้องๆ นบ. บางคนบอกว่า ให้คิดซะว่าซื้อเครื่องเมกันผลิตในเกาหลีละกัน จะได้ไม่ปวดตับ แต่ผมว่าสมถรรนะและค่าใช้จ่ายในการบินมันสูงเกินภารกิจที่ ทอ. ตั้งไว้อ่ะครับ ยกเว้นว่าเรากำลังมองหา บ.ขับไล่โจมตีเบา อันนี้ดูจะเหมาะสมกับม้าเกาหลีตัวนี้มากกว่าครับ
ผมขอ "เดาก็แล้วกัน" ว่า 4 เครื่องที่จะซื้อใหม่นี่ ไม่ได้เอามา Lead in ครับ....(ไม่มีเหตุผล สนับสนุน ครับ)
น่าจะเอามาให้มือ Fighter เก๋าๆ ทั้งหลายได้บรรเลงกัน แทน F-16 มากกว่า ครับ....
เพราะมันประหยัด ค่าน้ำมัน ได้มากกว่า ครับ...........สามารถเพิ่มชั่วโมงบินได้มากขึ้น ครับ
แล้วเอาออกลุย...ได้อีกด้วย...ถ้าติด เรด้า มาด้วย....
F -16 ก็ จะได้ไม่ต้องรับบทหนัก...จะได้อยู่ประจำการได้ ยาวๆๆ
หวยจึงน่าจะออกที่ "กิมจิ" แน่ๆ ครับ (เดา ครับ)
ที่ว่ามาแน่ๆยังโดนแซงตกกระป๋องได้เลยเหมือนเรื่องดำน้ำ ทอ.เขาไม่ได้จะมีมุมมองแคบขนาดนั้นนะครับ L-39 ก็จะถูกปลดประจำการเร็วๆนี้แล้ว จะมาใช้ภาษีประชาชนเพื่อซื้อบ.ขับไล่โจมตีเบา "เก๋าๆ" คงไม่ถูกต้องแน่ครับ
ขอถามเอาความรู้จากท่านสมาชิกว่า มันจะมีข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้างครับถ้าเราเอาเครื่องบินที่มีแอเฟรมดีๆ (เช่น f16. หรือ กริปเพน) เวอร์ชั่นสตริปดาวน์. คือเอาเฉพาะสิ่งที่จำเป็นในภารกิจฝึกบิน ระบบควบคุมอาวุธ ดาต้าลิ้งค์ เรดาร์ ฯลฯ เอาออกหมด มันจะยังแพงเกินไปหรือไม่. ที่ถามนี่คือผมจิ้นเอาว่าการที่เราลงหลักปักฐานไปกับ บ แบบใดแบบหนึ่งไปเลย มันจะทำให้เรามี economic of scale และมันอาจจะมากพอที่จะให้เราจัดโครงการความร่วมมือระหว่าง บ ผู้ผลิตในบางส่วน(หรือส่วนใหญ่) เช่นถ้าเราเลือก grippen strip down version. รุ่น 2 ที่นั่งมาเป็น บ ฝึก. มีความต้องการตลอดโครงการ 20-25 เครื่อง มันน่าจะดึงเอาสายการผลิตบางอย่าง/ส่วนมาก มาทำในประเทศใด้บ้าง. มโนมากไป?
ดูตัวอย่างการซื้อเรือดำน้ำ ผมว่าตอนนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้ เพราะ L 15 ก็อยู่ในลิสต์ของ ทอ.เค้าเหมือนกัน ขนาดซุปเปอร์เจ็ทก็ยังมาได้เลย
เครื่องบินเจ็ทขับไล่ค่าบินแพงกว่าเครื่องฝึกทุกอย่าง เครื่องแรงกว่าเยอะ และออกแบบมาให้บินที่ความเร็วสูง แถมแค่ค่าเครื่องก็แพงกว่าแล้ว ดังนั้นซื้อเครื่องฝึกยังไงก็คุ้มในความเห็นของผม
หากท่าออกมาบอกว่าเรืออาจจะไม่ได้ดีที่สุด แต่สำหรับกรณีนี้เหมาะสมสุดก็ว่าไปอย่าง นี่พูดชัดเจนเลยว่าเรือดีที่สุดเพราะของสวีเดนยังไม่ได้สร้าง แล้วลำนี้มันมีสร้างแล้ว?
การจัดซื้อคือการเริ่มต้นครับ สิ่งที่ตามมาคือค่าใช้จ่ายในการใช้ฝึกและการบำรุงรักษา นี่แหละคือของจริงครับ ถึงแม้ว่าจะนำ F16 หรือ Gripen มาถอดทุกอย่างให้เป็นเครื่องฝึก แต่เครื่องยนต์ก็ยังเป็นเครื่องยนต์แบบ fighter อัตราสิ้นเปลืองมหาศาลและต้องการการซ่อมบำรุงอยู่ตลอดเพราะเป็นเครื่องยนต์แบบ single engine ซึ่งต้องการความ reliability สูง ยิ่งถ้านำมาเพื่อฝึกนักบินฝึกหัดมือใหม่ละก็ ยิ่งต้องบำรุงรักษาหนักเลย เหมือนกับเอา supercar มาสอนมือใหม่หัดขับ ซึ่งแน่นอนว่ามันไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้เครื่องที่แรง มี afterburner มาเผาน้ำมันเล่นเพื่อฝึก การฝึกแทนที่จะให้เป็นเร็ว ให้นักเรียนอยู่บนอากาศได้นานและคุ้มค่าที่สุด กลับจะได้บินแค่แป๊บเดียวก็ต้องรีบลงมา จะทำให้เป็นช้าลงซะด้วยซ้ำยิ่งเปลืองเงินเข้าไปใหญ่เลย ถ้าทำแล้วมันดี ประหยัด และสอนให้นักเรียนฝึกหัดเป็นเร็ว ผมเชื่อว่าประเทศอื่นๆเค้าคงทำแบบนี้กันไปหมดแล้วครับ
โอเคมันอาจจะเป็นเหตุผลเรื่อง common spare parts แต่ลองคิดดูครับ common spare part ราคาที่ได้แน่นอนมันจะถูกและง่ายต่อการซ่อมบำรุง แต่ถ้าต้องเปลี่ยนอะไหร่ในจำนวนที่บ่อยครั้งขึ้น + กับอัตราสิ้นเปลืองมหาศาลที่ต้องแบก รับรองครับกินข้าวคลุกน้ำปลาแน่ครับทอ.
fighter คือ fighter วันยังค่ำครับ นำมาเป็นเครื่องบินฝึกหัดไม่เหมาะหรอกครับ เชื่อผมเถอะประเทศไทยเรารวยพอที่จะซื้อ บ. Lead in ที่ดี แต่แค่ต้องเลือกให้ดีเพราะระยะยาวอาจทำให้จนได้ครับ
ท้ายสุด จบด้วย L-39NG เอาไปอัพเกรด ราคาเป็นมิตรที่สุดแล้ว เอวัง....
ที 50 ไม่มีอาวุธนะครับถ้าจะพูดถึงใช้อาวุธได้ต้องเป็นทีเอ 50 เท่านั้นซึ่งราคาแพงกว่าเยอะครับ
KAI ดูท่าจะเสนอ TA-50 นะครับ เพราะถ้าเสนอ T-50 ที่เป็นตัวฝึกธรรมดาคงไม่มีทางสู้ M-346 ได้เพราะระบบการฝึกดีไม่เท่าถึงแม้ราคาจะพอๆกัน พอมาเป็น TA-50 ก็ดูจะมีโอกาศมากขึ้นเพราะมีระบบอาวุธ แต่ที่สำคัญคือ จะสู้เรื่องราคาได้ไหม ??? ผมมองว่ายากครับ ลำพังแค่ T-50 ก็ราคาแพงกว่า M-346 แล้ว แต่ไม่แน่ KAI อาจจะเล่นกลอะไรบางอย่าง
ด้วยงบประมาณในการจัดซื้อ ผมเชื่อว่า KAI คงเสนอได้แค่ T-50 และถ้า T-50 ถูกเลือก มีความเป็นไปได้สูงมากที่ทอ.จะต้องเสียเงินเพิ่มอีกเยอะเพื่อ upgrade ซื้อ radar และติดตั้งระบบอาวุธให้ใช้ได้ในระดับหนึ่ง ถ้าอยากให้เป็น dual role สุดทายยังไงก็ต้องเสียเงินสองต่ออยู่ดี ไม่มีทางที่จะจบได้ภายในดีลนี้แน่นอน
สปาเก็ตตี้ก็เลี่ยน
เอาจีนเลยละกันครับ ลด แลก แจก แถม
"ปิน" ซื้อ FA-50 จำนวน 12 เครื่อง ราคา $ 420 ล้าน ตกเครื่องละ $ 35 ล้าน
ใชัเรด้า EL/M -2032 คิดเป็นเงินบาทก็ประมาณเครื่องละ 1,120 ล้านบาท
งบประมาณที่กองทัพอากาศตั้งไว้ 3,700 ล้านบาท สำหรับ 4 เครื่อง
ตกเครื่องละ 925 ล้านบาท เกินงบไปเครื่องละ 195 ล้าน
(เกินงบไปเล็กน้อย)
ถ้าซื้อแบบไม่ติดเรด้า เอามาติดที่หลัง ก็สบายๆ ชิวๆ เลย... งบพอเลย
แต่ถ้าเลือกตัวนี้ ....."แมงป่อง" ผู้พัฒนาเอง ก็ยังไม่มีโรงงานผลิตเลย
คาดว่าได้ Order เมื่อไหร่ ค่อยหาโรงงานผลิต...เพราะโรงงานผลิตเครื่องบิน ในอเมริกันมีเยาะ
น่าจะชวนมาตั้งโรงงานในเมืองไทยเสียเลย แถว "อู่ตะเภา" พอมีที่ว่างให้เช่าอยู่นะ
Order ไปเลยซัก 40 เครื่อง แต่ต้องมาผลิตในเมืองไทย คงเป็นไปได้อยู่นะ
(แบบนี้ก็ได้...เฮ..เฮ...เฮ... จริงๆ เสียที ครับ)
แบบเดียวกับที่เค้าให้ข้อเสนอ กับ "อินตะระเดีย" ถ้าซื้อจะมาผลิตที่ อินตะระเดีย
หรือให้โรงงานใน อินตะระเดีย เป็นผู้ผลิตเอง.....
จบ ที่ เกาหลี แน่นอน... หรือ อย่าง ฝืด ก็ L39 NG
ผมก็เริ่มเห็นเค้าลาง กิมจิ แล้วสิครับ