หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


5 อาวุธสุดอันตรายของกองทัพเรือรัสเซีย

โดยคุณ : p55 เมื่อวันที่ : 21/05/2015 13:02:30

มือใหม่ แปลผิดๆถูกๆ อย่างไร ต้องขออภัยและขอคำชี้แนะด้วยนะครับ 

5 อาวุธสุดอันตรายของกองทัพเรือรัสเซีย ตามความคิดของสื่ออเมริกัน

แปลจากบทความของ sputniknews.com

หลังจากที่นิตยสารรายสองเดือนของสหรัฐที่ชื่อ The National Interest ได้วิเคราะห์ไว้ว่าทำไมสหรัฐจึงควรต้องเกรงกลัวต่อรถถัง อามาตะ T-14 ที่ใหม่ล่าสุดของรัสเซีย นิตยสารฉบับเดียวกันนี้ ก็ได้จัดทำรายการขึ้นใหม่อีกหนึ่งเรื่อง ชื่อว่า “5 อาวุธสงครามสุดอันตรายของกองทัพเรือรัสเซีย” และต่อไปนี้คือสิ่งที่ข้อเขียนนั้นได้อ้างว่า สหรัฐควรต้องวิตกกังวล ในบรรดาอาวุธต่างๆนั้น ที่น่าหวาดกลัวที่สุด ได้แก่

  1. เรือดำน้ำรุ่นปรับปรุง ชั้น วาร์เชฟยังกา (โครงการ 636.3 หรือที่นาโต้เรียกว่า ชั้นกิโลที่ได้รับการปรับปรุง) ซึ่งเป็นเรือดำน้ำแบบอเนกประสงค์ เสียงไม่ดัง และปราดเปรียวคล่องแคล่วเป็นอย่างมาก
    อาวุธประจำเรือประกอบด้วย ตอร์ปิโด 18 ลูก และจรวด คลับ จากพื้นสู่อากาศ 8 ลูก โครงการ 636.3 มีวัตถุประสงค์เพื่อภารกิจหลักในการต่อต้านเรือผิวน้ำและเรือดำน้ำ ในบริเวณน่านน้ำที่ค่อนข้างตื้น ระยะทำการได้ถูกยืดออก และสามารถโจมตีเป้าหมาย ทั้งบนผิวน้ำ ใต้น้ำ และบนบก
    เรือนี้มีเสียงเบา จึงเหมาะกับการการยุทธในย่านชายฝั่ง ที่เสียงจากก้นทะเลจะช่วยกำบังไม่ให้ถูกตรวจจับได้
    เรือในชั้นนี้ 4 ลำที่ได้ประจำการแล้ว ได้แก่ โนโวรอสซิส รอสทอฟ-ออน-ดอน สตารี่ออสคอล และคราสโนดาร์
    อีกสองลำสุดท้าย คือ เวลีคี่ นอฟโกรอด และ โคลพิโน จะเข้าประจำการในปี 2016 ซึ่งเรือเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นสำหรับประจำการในกองเรือทะเลดำ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศในย่านเมดิเตอเรเนียน
  2. อีกหนึ่งในรายการได้แก่เรือชั้น ลาด้า แบบ 677 หรือในชื่อที่รู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งว่าชั้น เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
    เรือในชั้นนี้เป็นรุ่นที่จะรับช่วงต่อจากเรือชั้น กิโล แต่ระวางขับน้ำกลับน้อยกว่ากันเกือบครึ่ง อย่างไรก็ดี ระบบอาวุธที่ติดตั้งไว้กลับมีจำนวนและรูปแบบมากกว่าปกติ ซึ่งนอกเหนือจากตอร์ปิโดและทุ่นระเบิดแล้ว (ท่อตอร์ปิโดขนาด 533 ม.ม. จำนวน 6 ท่อ พร้อมตอร์ปิโด/ทุ่นระเบิด 18 ลูก) โครงการ 677 ยังเป็นเรือดำน้ำที่ไม่ใช้พลังงานนิวเคลียร์แบบแรกของโลกที่ติดตั้งท่ออาวุธปล่อยนำวิถีแนวดิ่ง (จำนวน 10 ท่อยิง ในส่วนกลางลำเรือ) อาวุธปล่อยนำวิถีนี้สามารถใช้ได้ทั้งในเชิงยุทธวิธี และเป็นอาวุธระยะไกลสำหรับทำลายเป้าหมายที่อยู่ลึกเข้าไปในเขตแดนของศัตรู
    เรือชั้น ลาด้า ถูกออกแบบมาเพื่อภารกิจ ปกป้องแนวชายฝั่งจากเรือผิวน้ำและเรือดำน้ำ สืบหาข่าวกรองและลาดตระเวณ และเป็นฐานสำหรับหน่วยรบพิเศษ
    ลักษณะที่โดดเด่นที่สุดของเรือในชั้นนี้ ได้แก่ระบบขับเคลื่อนที่ไม่ใช้อากาศรุ่นใหม่ ที่จะช่วยให้เรือสามารถดำน้ำได้ถึง 25 วัน ซึ่งนานกว่าเรือของโครงการ 636.3 เกือบ 10 เท่าตัว และยังมีเสียงที่เงียบกว่า
    เรือลำแรกของชั้นนี้ ที่ได้แก่ B-585 เซนท์ ปีเตอร์สเบิร์ก นั้น กำลังอยู่ในระหว่างการทดสอบการปฏิบัติการ แต่เรือในลำดับถัดมาจะถูกปรับปรุงเปลี่ยนแปลงไปอีกอย่างมาก เรือ B-586 ครอนแสตดท์ มีกำหนดเข้าประจำการในปี 2017 และเรือ B-587 เวลสิคีย์ ลูคิ จะประจำการในปี 2018
  3. เรือดำน้ำติดขีปนาวุธทางยุทธศาสตร์ ชั้น บอเร (แบบ 955)
    เรือชั้นบอเร ได้ถูกกำหนดให้เข้าทดแทนเรือในชั้น เดลต้า 3 เดลต้า 4 และชั้นไต้ฝุ่น ที่กำลังเก่าขึ้นเรื่อยๆ และจะเป็นแกนหลักของกองทัพรัสเซียในภารกิจหยุดยั้งการโจมตีทางทะเล
    เรือชั้นนี้บรรทุกขีปนาวุธปล่อยจากเรือดำน้ำ บูลาวา จำนวน 16 ลูก (เป็นรุ่นใช้งานทางทะเลของ โทโปล-เอ็ม (หรือที่นาโต้เรียกว่า SS-N-30) แต่ละลูกบรรทุกหัวรบเทอร์โมนิวเคลียร์จำนวน 6-10 หัวรบ หรือเท่ากับ 96-196 หัวรบต่อเรือหนึ่งลำ
    ขีปนาวุธนี้มีระยะยิง 8,000 ก.ม. และนิตยสาร The National Interest ได้แสดงความวิตกกังวลว่า สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าเรือดำน้ำในทะเลแบเร้นท์และในทะเลออกฮอทค์ –ที่เป็นบริเวณที่กองเรือของรัสเซียใช้หลบซ่อนเรือดำน้ำติดขีปนาวุธ- จะสามารถยิงได้ถึงทุกจุดบนทวีปอเมริกา
    เรือ 3 ลำของชั้นนี้ คือ ยูรี โดโกรูกี้ (K-535) อเล็กซานเดอร์ เนฟสกี้ (K-550) และ วลาดิเมียร์ โมโนแมก ได้เข้าประจำการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
    กองทัพเรือรัสเซียมีแผนที่จะนำเอาเรือดำน้ำติดขีปนาวุธชั้นบอเร เข้าประจำการทั้งหมดจำนวน 8 ลำ ให้ได้ภายในปี 2020
    คาดว่าเรือเหล่านี้จะประจำการอยู่กับ กองเรือแอตแลนติคเหนือ และกองเรือแปซิฟิค
  4. เรือยกพลขึ้นบกชั้น อิวาน เกรน (โครงการ 11711)
    เป็นเรือที่มีวัตถุประสงค์เพื่อลำเลียงนาวิกโยธินเข้าสู่ชายฝั่งที่ไม่เป็นมิตร
    เรือแต่ละลำจะสามารถบรรทุกรถถังได้ 13 ลำ หรือยานลำเลียงพลหุ้มเกราะ 36 ลำ และกำลังพล 350 นาย และยังมีลานจอดเฮลิคอปเตอร์อีกด้วย
    เรือในชั้นนี้สองลำ จะสามาถส่งกองพันยานเกราะ หรือหน่วยรบที่ประกอบด้วย กองร้อยยานเกราะ พร้อมปืนใหญ่อัตราจร และกองร้อยยานเกราะ
    อาวุธของเรือชั้น เกรน ประกอบด้วย แท่นปล่อยจรวดหลายลำกล้อง WM-18 จำนวน 2 แท่น เพื่อกวาดล้างอุปสรรคตามแนวชายฝั่ง ปืนขนาด 76 ม.ม. หนึ่งกระบอก และระบบอาวุธระยะใกล้ AK-176M สองระบบ เพื่อป้องกันตัว
    เรือลำแรกของชั้นนี้มีชื่อว่า อิวาน เกรน ส่งมอบได้ในปี 2015 ซึ่งล่าช้ากว่ากำหนดการเดิม ส่วนลำที่สองที่ชื่อว่า ปีเตอร์ มอร์กูนอฟ ได้เริ่มการจัดสร้างในเดือนตุลาคม 2014
    มีแผนการสร้างเรือในชั้นนี้เป็นจำนวน 6 ลำ ซึ่งจะถูกนำเข้าประจำการในจำนวนเท่าๆกัน ทั้งในกองเรือภาคเหนือ/บอลติค ทะเลดำ และแปซิฟิค
    นิตยสารฉบับนี้ยังได้แสดงความกังวลว่า การยกเลิกการจัดซื้อเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์มิสตรัลจากฝรั่งเศส จะเป็นการกระตุ้นให้รัสเซียสร้างเรือในชั้นนี้มากขึ้น เพราะไม่ถูกจำกัดจากการคว่ำบาตรของต่างประเทศ
  5. และท้ายที่สุดได้แก่ เรือบรรทุกเครื่องบินลำใหม่ของรัสเซีย
    ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับเรือบรรทุกเครื่องบินลำใหม่ที่กำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนานี้มากนัก เรือนี้ถูกกำหนดให้มีระวางขับน้ำ 100,000 ตัน ซึ่งเทียบเท่ากับเรือบรรทุกเครื่องบินสมัยใหม่ของสหรัฐ และสามารถบรรทุกอากาศยานได้ 100 ลำ ศูนย์วิจัยไครลอฟของรัฐ ได้จัดทำแบบจำลองของเรือขึ้น ซึ่งประกอบด้วยลานบินแบบทำมุมกับลำตัวเรือ ลิฟท์ขนอากาศยาน 3 เครื่อง หอบังคับการ 2 หอ และ Ski jumpsเพื่อช่วยส่งเครื่องบินขึ้นสู่อากาศ
    อากาศยานที่จะประจำอยู่บนเรือบรรทุกเครื่องบินนี้ ประกอบด้วยเครื่องบินรบล่องหนรุ่นที่ 5 แบบ PAK-FA ที่ปีกพับได้ รุ่นใช้งานทางทะเล เครื่องบินรบหลายหน้าที่สำหรับกองทัพเรือ แบบมิก-35 เฮลิคอปเตอร์คาร์มอฟ และเครื่องบินเตือนภัยล่วงหน้าที่คล้ายกับเครื่อง E-2D ฮอค์อาย และจากความก้าวหน้าด้านอากาศยานแบบไร้คนขับ ก็อาจเป็นไปได้ว่าจะมี UAV เข้าประจำการเป็นส่วนหนึ่งของกองกำลังทางอากาศนาวีด้วย

 

 

Russia’s 5 most deadly weapons as seen by US media

 

After having analyzed why the US should fear Russia's new Armata T-14 tank, the US bimonthly magazine The National Interest has come up with another list, this time it is “The Russian Navy's 5 Most Deadly Weapons of War”: here is what it claims the US should be concerned about.

Among the most feared weapons is an improved version of the Varshavyanka-class (Project 636.3) submarine (NATO reporting name is Improved Kilo-class). It is a multipurpose, low-noise and highly maneuverable submarine.

Armed with 18 torpedoes and eight surface-to-air Club missiles, Project 636.3 submarines are mainly intended for anti-shipping and anti-submarine missions in relatively shallow waters. They have an extended combat range and can strike surface, underwater and land-based targets.

© SPUTNIK/ VITALIY ANKOV

A diesel-powered Varshavyanka-class submarine during the celebrations of the Russian Navy Day in Vladivostok

Submarines produce a low acoustic signature and, therefore, are most suitable for littoral warfare where their presence can be easily masked against the shallow sea bed.

Four of the six submarines, the Novorossiysk, the Rostov-on-Don, the Stary Oskol and the Krasnodar have been already been launched.

The last two submarines, the Veliky Novgorod and the Kolpino are to join the fleet by 2016. The submarines are built for Russia’s Black Sea fleet, allowing it to protect the country’s interests in the Mediterranean.

Another Item on the List is the Type 677 Lada-class, also Referred to as the Petersburg-class Submarine.

This one is a successor to the Kilo-class, but its displacement is almost half that of the Varshavyanka. However, its array of armaments is unusually large. In addition to traditional mine and torpedo weapons (six 533-mm torpedo tubes, 18 torpedoes or mines), Project 667 is the world's first non-nuclear submarine to be equipped with specialized launchers for cruise missiles (ten vertical launchers in the middle part of the body). These cruise missiles can be both tactical and long-range missiles designed to destroy strategic targets deep into enemy territory.

© SPUTNIK/ ALEXEI DANICHEV

Open-water trials of the diesel submarine "St. Petersburg" during project Lada

The Ladas are designed to defend coastlines against ships and other submarines, perform intelligence, provide surveillance and reconnaissance missions, and act as a mother ship for special forces.

The most important feature of the submarine is the new air-independent propulsion plant. With these power plants, a Lada submarine  be submerged for up to 25 days, that is almost ten times longer than Project 636.3, and will be even less noisy.

The first submarine of this generation, the B-585 Sankt Peterburg, is now undergoing a trial operation, but subsequent vessels have been heavily re-designed.
The B-586 Kronstadt is set to join the Navy in 2017 and the B-587 Velikiye Luki – in 2018.

Borei-class ballistic-missile submarine (Type 955)

The Borei class is set to replace ageing Russian Delta III, Delta IV and Typhoon class ballistic missile submarines and will form the core of the Russian naval deterrent.

The Borei class submarine carries 16 Bulava submarine-launched ballistic missiles; each is a naval version of theTopol-M,(NATO Designation SS-N-30) and is equipped with 6-10 thermonuclear warheads, for a total of 96 to 196 warheads per submarine.

© JSC PO SEVMASH

Strategic nuclear submarine Boreas

This ballistic missile has a range of 8,000 km and The National Interest is concerned that this means submarines in the Barents Sea and Sea of Okhotsk—where the Russian Fleet hides its ballistic missile submarines—could reach any point in the continental United States.

Three of the class, the Yury Dolgoruky  (K-535), Alexandr Nevsky (K-550) and Vladimir Monomakh,  are currently in service.

By 2020,the Russian Navy plans to operate a total of eight Borei class ballistic missile submarines.

The vessels are expected to serve with the Northern (Atlantic) Fleet and with the Pacific Fleet.

Ivan Gren Landing Ship (Project 11711)

This Russian vessel will have a very specific purpose: landing marines on hostile shores.

Each Gren will have a cargo capacity of 13 tanks or 36 armored personnel carriers, as well as up to 350 troops. The class will also feature a helicopter deck.

Two Ivan Gren landing ships will be able to land an entire naval motorized infantry battalion, or a battalion task force consisting of a naval motorized infantry company reinforced with self-propelled artillery and a company of tanks.

© SPUTNIK/ VIKTOR GUSEINOV

Landing craft "Ivan Gren" at Yantar Shipyard

Armament for the Ivan Gren class is primarily defensive and consists of two WM-18 multiple rocket launchers for clearing beach obstacles, a 76-millimeter gun, and two AK-176M close-in weapon systems.

The delivery of the first in the class, the Ivan Gren, was delayed until 2015 while the second ship in the class, the Petr Morgunov  began construction in October 2014.

Six Ivan Gren-class ships are planned, and are likely to be distributed evenly among the Northern/Baltic, Black Sea, and Pacific Fleets.

The cancellation of the purchase of French Mistral helicopter carriers, the magazine fears, is likely to prompt Russia to build more of the ships, which would not be subject to any foreign sanctions.

Finally, the publication lists Russia's New Aircraft Carrier.

Not much is yet known about the carrier, which is still under development. It is set to weigh 100,000 tons, as much as a modern US supercarrier, and carry up to 100 aircraft. The Krylov State Research Center has made a small model of the vessel, which features an angled flight deck, three aircraft elevators, a split, two structure bridge and ski jumps to assist takeoffs.

© KRYLOV STATE RESEARCH CENTER

Russia's government-owned Krylov State Research Center is on its way towards developing Russia's latest aircraft carrier

The air wing for the carrier appears to consist of a navalized version of the new PAK-FA 5th generation stealth fighter with folding wings, MiG-35 multi-role naval fighters, Kamov helicopters and an airborne early warning aircraft similar to the E-2D Hawkeye. Given advances in unmanned aerial vehicles, it seems likely UAVs will form part of any future Russian air wing.

 


Kilo Class


Borei Class



Ivan Gren Class


New Russian Aircraft Carrier








ความคิดเห็นที่ 1


หวังว่าจะได้เห็นในเร็วๆนี้นะครับ ฮาๆๆๆ

ถ้ากระทรวงการคลังรัสเซีย ไม่เล่นกระทรวงกลาโหมก่อนนะ 

โดยคุณ aomphet เมื่อวันที่ 18/05/2015 18:15:29


ความคิดเห็นที่ 2


เรื่องเรือบรรทุกเครื่องบินลำใหม่มีชื่อรหัส แล้วนะครับ Project 23000E

http://en.wikipedia.org/wiki/Project_23000E

 

โดยคุณ premsk127 เมื่อวันที่ 18/05/2015 19:58:38


ความคิดเห็นที่ 3


90,000 - 100,000 tons

อ้าวรูปไม่มา

http://www.themoscowtimes.com/business/article/russia-to-unveil-aircraft-super-carrier-design-amid-navy-buildup/520849.html

http://www.janes.com/article/51452/russia-developing-shtorm-supercarrier

โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 21/05/2015 12:54:10


ความคิดเห็นที่ 4


เพิ่ม infographics ของเรือ Borey Class ครับ จาก Sputniknews.com


โดยคุณ p55 เมื่อวันที่ 21/05/2015 13:02:30