ระดับ สามหมื่นห้า ถ้าเป็นหลังสงครามโลก เค้าจะเรียกเรือบรรทุกเครื่องบินคุ้มกัน ถามว่าคุ้มกันอะไร ก็คงคุ้มกันกองเรือจากการโจมตีทางอากาศ ............... เข้าสู่ยุคสงครามเย็น  มะกัน ให้ความสำคัญต่อการยกพลขึ้นหาดมาก เพราะการจะเป็น "เจ้าโลก" อันแข็งแกร่งผงาด เบ่งใหญ่ได้คับโลก การเคลื่อนพลไปในที่ต่างๆถือเป็นภารกิจสำคัญ การยกพลสมัยใหม่ใช้การขนส่งทางอากาศ(ไม่เชิงพลร่ม) แต่การยกพลแบบคลาสสิคก็ทิ้งไม่ได้..........สมัยก่อนการประกอบกำลังกระบวนยกพลขึ้นบกใช้เรือมากมายเหมือนขบวนแห่เทียนเมืองอุบล  ต่อเมื่อวิวัฒนาการเข้่าสู่จับฮ.ลงเรือ รวมทั้งเจ็ทขึ้นลงทางดิ่ง จึงเกิดเรือ โจมตีสะเทิ้นน้ำบก   ................. จีนกำลังจะก้าวไปสู่มหาอำนาจคัดง้างกับมะกัน  ดังนั้นจึงต้องเสริมเรือพวกนี้ .................. ส่วนพวก หกหมื่น เก้าหมื่นตันนั้น จัดเป็นเรือบรรทุก บ.โจมตี  ภารกิจหลักคือ  ส่งเครื่องบินรบครองความเป็นเจ้าอากาศเหนือพื้นที่การรบ จัดกำลังทางอากาศโจมตีขัดขวางแบบสะเทือนเลื่อนลั่นแผ่นดินข้าศึก...............จะเห็นว่า มะกันนิยมใช้เรือบรรทุก บ. ในการแก้ไขปัญหาวิกฤติขัดแย้งต่างๆ  เพราะ เมือ่เธอลอยลำไปไหน จะมีฝูงบินรบไปกัยเธอรวมแล้วไม่ต่ำกว่า แปดสิบลำ  .....มากมายขนาดทัดเทียมกับกองทัพอากาศเราหนึ่งกองทัพเลย..............มันน่ากลัวมั๊ยหล่่ะ????????

ถามว่าน่ากลัวไหมก็ใช่ครับ แต่ถ้าเรือจมเครื่องบิน80ลำก็ไร้ความหมาย อเมริกาจึงต้องมีกองเรือคุ้มกันที่มีประสิทธิภาพสุงมาก ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามากพอรับมือภัยคุกคามในตอนนี้ได้จริงๆไหม แต่ค่าใช้จ่ายในการต่อเรือซื้ออาวุธและการปฎิบัติการต่างๆสุงลิบมากจนถึงมากที่สุด

ถ้าจีนจะทำตามบ้างก็ต้องทำแบบที่ว่านี่ อย่างแรกสุดเลยจีนจะต้องมีอาวุธระดับhi-end ที่ผลิตได้เองในประเทศทั้งหมดก่อน และอาวุธที่ว่าต้องมีประสิทธิภาพสุงมากที่จะปกป้องไข่ในหินลำนี้ ที่ว่ากันตรงๆก็คือจะต้องโดนรุมยำจากทุกทิศทางอย่างแน่นอน จรวดต่อสู้อากาศยานประจำเรือที่มีความทันสมัยเทียบเท่า SM-3,6 มีแล้วหรือยังและจีนผลิตได้เองจริงๆทั้งหมดหรือเปล่า ถ้ามีแล้วจรวดที่ว่านี้ใช้งานจริงมาแล้วมากน้อยแค่ไหนรวมทั้งเรดาร์ตรวจจับ และควบคุมการยิงซึ่งสำคัญมากดีแค่ไหนแล้ว ผมเคยเห็นเรือฟริเกตป้องกันภัยทางอากาศลำใหม่ของจีนแล้วนะมีเสป็กที่สุงใช้ ได้ แต่ในอดีตมีอาวุธจำนวนมากที่เทพในกระดาษกว่านี้เยอะแต่ออกรบจริงห่วยแตกบรม

จีน จะต้องใช้งบประมาณก้อนใหญ่อภิมหาศาลสำหรับ1กองเรือบรรทุกเครื่องบิน และมีแนวโน้มสุงมากๆว่าจะประสบความผิดพลาดเหมือนในอดีตที่อเมริกา ญีปุ่น อังกฤษ และชาติอื่นๆก็เคยเจอมา เป็นผมจะยังไม่ต่อเรือบรรทุกเครื่องบินถ้าไม่แน่ใจว่าตัวเองสามารถป้องกัน เขาได้ คือยังไงดีล่ะ....  วิธีการที่จะพิสูจน์ว่าจรวดต่อสู้อากาศยานของตัวเองสามารถใช้งานได้ดีจริงๆ ก็ต้องเอาเข้าสนามรบล่ะครับ เพราะฉะนั้นจีนจะต้องทำสงครามก่อนเป็นอย่างแรกสุดเพื่อพัฒนาจรวดของตัวเองให้ใช้งานได้ดีจริงๆ คนเราต้องรู้จักล้มก่อนถึงจะลุกขึ้นยืนแล้วเอาชนะได้ แต่จีนจะไม่ทำสงครามในช่วงเวลาเร็วๆนี้โดยเฉพาะสงครามใหญ่เพราะส่งผลเสียกับการพัฒนาประเทศโดยรวม ก็จะมีแต่ผลการทดสอบเท่านั้นซึ่งมันก็ดีแหละแต่ไม่เพียงพอ อเมริกาเองก็ทดสอบเหมือนๆกันนี่แหละแต่ที่แตกต่างคือเขาส่งอาวุธไปทดสอบที่ สนามรบจริงด้วย อาจจะไม่ได้ยิงจริงๆเท่าไหร่แต่ได้รายละเอียดมาปรับปรุงแก้ไขเยอะพอสมควร

ความเห็นส่วนตัวของผมที่มีต่อจีนมันก็วนไปวนมาอยู่ประมาณนี้แหละครับ  ไม่จำเป็นต้องเชื่อหรอกครับเพราะไม่มีอะไรมายืนยัน ชาติที่ต่อเรือบรรทุกเครื่องบินเองที่น่าสนใจมากก็คืออินเดีย ซึ่งเป็นประเทศที่แปลกมากเพราะโครงการของทบ.และทอ.ล้วนแล้วแต่ไม่ได้เรื่องแต่กับทร.นี่วิ่งฉิวมากและมีมาตราฐานดีจนน่าอิจฉา

อุปมาอุปมัยเหมือนกับที่ ร๊อคกี้ บาโบล บอกกับลูกชายในภาคท้ายสุดว่า "ไม่ได้อยู่ที่ว่าเรามีหมัดรุนแรงหนักหน่วงแค่ไหน แต่อยู่ที่ว่าเราทนรับหมัดได้มากแค่ไหนต่างหาก" เรือบรรทุกเครื่องบินเองก็เช่นกัน เพราะใต้เรือลงไปมันเป็นทะเลลึก ถ้าเรือจมทุกอย่างก็จมตามลงไปด้วย

ทุกอย่างมันอยู่ที่เงิน วันนี้ คิดว่า จีนมีปัญญาทำได้มั้ย อันนี้ตอบเอง  ...................... เทคโนโลยี่ จีนคงยังไม่ถึงขั้นอเมริกา  แต่ก็คงไม่ห่างลิบลับขนาดแตะหลังกันไม่ถึง   ................ สิ่งที่น่าเป็นห่วงกว่า ไม่ใช่ เรือธง หมู่เรือคุ้มกัน หรือ ฝูงเครื่องบินบนเรือหรอก   มันอยู่ที่ประสบการณ์..... อเมริกาใช้เรือบรรทุกเครื่องบินเป็นมาหลายทศวรรตแล้ว  แต่จีนพึ่งเริ่ม.............ถึงวันนี้ไม่เร่มก็คงไม่ได้  มันถึงเวลาบังคับให้จีนต้องทำแล้ว   หมาตัวผู้สองตัวอยู่บ้านเดียวกัน ตัวมันเท่าๆกัน ต่างคิดว่าฟัดกันได้  เหมือนมันจะถูกบังคับโดยอีกฝ่ายให้ตาขวางใส่กัน................. เชื่อเหอะ ในสิบปีต่อไปนี้ จีนต้องมีกองเรือบรรทุกเครื่องบินอย่างน้อยสองกองเรือด้วยเรือบรรทุก บ. ไม่ต่ำกว่า 4 ลำ  เรือพิฆาต ลาดตระเวณ อีกโขลง...... ไม่งั้นภาษามวยเค้าเรียกมวยรองบ่อน ไม่มีราคา

เรื่องที่จีนจะไม่ก่อสงครามกับมหาอำนาจเองนั้นก็น่าจะจริงครับ

แต่ถ้าอาจถูกลากเข้าสู่สงครามก็ได้นะครับเพราะตอนนี้จีนสำรองทองคำแท่ง

ประมาณ 16,000 ตัน มากที่สุดในโลก เงินหยวนจึงน่าจะผงาดในเวทีโลกในไม่ช้าเพราะมีทองหนุนหลัง

รัสเซียเองก็ทำสัญญาซื้อขาย gas กับจีนโดยใช้เงินรูเบิ้ล-หยวน แทนการใช้ dollar, dollar จึงถูกท้าทาย

และลดทอนค่าลงทุกวันแถมทองคำแท่งสำรองมีหรือเปล่าก็ไม่ทราบครับ ทุกวันนี้สงครามการเงินมันก็เกี่ยวข้องกับสงคราม

ที่ใช้อาวุธสู้กัน

เป็นเพียงอีกหนึ่งมุมมองนะครับ

เรื่องความต่างของเทคโนโลยี โซเวียตเคยเคลมว่าะทคโนโลยีของตนนำหน้าอเมริกาถึง 30 ปี ก็ยังพลาดท่าให้กับคำว่าเศรษฐกิจมาแล้ว ผมมองว่าเงินและงบประมาณเป็นปัจจัยหลัก ของความสำเร็จในโครงการต่างๆมากกว่าเทคโนโลยีเสียอีก แล้วถ้ามองเศรษฐกิจ ผมว่าจีนยังโตได้อีกเยอะ ดูจะมีภาษีดีกว่าอเมริกันนิดหน่อย ผมว่าต้องดูกันยาวๆว่าโครงการเรือ บรรทุกเครื่องบินของจีนนี้จะออกมาเป็นยังไง

เรือบรรทุกเครื่องบินจะไม่น่ากลัวถ้าฝ่ายตรงข้ามมีปืนเลเซอร์แล้วฝ่ายจีนไม่มีเครื่องบินสงครามอิเล็กทรอนิกส์ เพราะไม่มีเครื่องบินสงครามอิเล็กทรอนิกส์เรือก็เป็นเป้าอันใหญ่ให้ปืนเลเซอร์ยิงเล่นจากระยะเกือบพันกีโลเมตร ยิงไปเรื่อยๆจนจบสู่มหาสมุทรอันกว้างใหญ่ ไอ้กันมีปืนเลเซอร์ติดเรือแล้ว

ผมชอบนโยบายของรัสเซียนะ เน้นระบบมิสไซด์ ป้องกันตนเอง เชิงรุกได้ด้วย เมื่อแข็งแกร่งดีแล้ว ค่อยสร้างกองเรือ บ. ออกไปกร่างนอกบ้านได้ มองจีน ผมก็อยากให้เอาแนวทางรัสเซีย จับมือกันได้ก็จะยิ่งลดระยะเวลาการพัฒนา อเมริกาดูดีกว่าแน่ๆ รวมถึงพรรคพวก Nato แต่ตอนนี้ไม่มีใครอยากเปิดสงครามเต็มตัวหรอก มีแต่พังกับพัง อย่างมากก็สงครามตัวแทนที่น่าจะมีมาให้เห็นเรื่อยๆ

ลองมองในแง่ความอ่อนตัวสิ.............. กองเรือบรรทุกเครื่องบินอ่อนตัวมากๆ........................นับตั้งแต่วิกฤตเหตุการณ์ระดับโลก ยกตัวอย่าง สงครามอิรัค มะกันก็ส่งกองเรือบรรทุกเครื่องบินเป็นกองหน้า ...................... วิกฤตความขัดแย้งระดับปานกลาง ก็ไม่พ้นกองเรือบรรทุกเครื่องบิน............... หรือเหตุการณ์หน่อมแน้มแบบเด็กฟันน้ำนม ยกตัวอย่างประเทศนึงมีความขัดแย้งภายใน เหมือนว่าผู้มีกำลังในมือเริ่มคิดการใหญ่ จะกำหราบเสี้ยนหนามให้หมดรากถอนโคน  เรือบรรทุกเครื่องบินมาลอยลำเล่นๆนอกอ่าว เหมือนห้ามทัพ เท่านั้น ก็เป็นอันล้มเลิกแผน................. อ่อนตัวจั๊ดนัก ขอบอก.....................

ปืนเลเซอร์ยิงใส่เรือจากระยะพันกิโลฯนี่มันต้องยิงอ้อมเส้นขอบฟ้าเลยนะครับนั่น ว่าแต่มันตัวไหนที่พูดถึง

ที่อเมริกามีตอนนี้เป็นอาวุธป้องกันตัวมากกว่า ใช้ยิงเป้าหมายขนาดเล็ก หรือโดรน

ของหนักมันก็ต้องทำอะไรแบบหนักๆ  ซัดทีเดียวให้คว่ำ    ....... บางที่ก็แค่ต้องการแบบ หมาหยอกไก่  แต่ก็มีเขี้ยวเล็บพอที่จะงาบได้...... เรียงลำดับอาวุธหนักมหาอำนาจทหาร

 1. ขีปนาวุธข้ามทวีป ติดหัวรบนิวเคลียร์  ........ จีน / อเมริกา เสมอกัน เพราะถ้ายิงใส่กัน ตายกันหมดเหลือแค่แมลงสาป (สัตว์นะ)

 2. ดอดำน้ำ ติดขีปนาวุธนิวเคลียร์ ............. จีน ก็คงไม่กลัว อเมริกา

3. กองเรือบรรทุกเครื่องบินพลังงานนิวเคลียร์  คือขับเคลื่อนด้วยนิวเคลียร์นะ คนละเรื่องกับอาวุธนิวเคลียร์ ทั้งนี้เพื่อปฏิบัติการได้ไกลสุดขอบฟ้า  ตัวนี้แหล่ะ ที่บอกว่า หมาหยอกไก่ก็ได้ หรือจะเอาจริงก็ได้  เพราะ บนเรือ ยังมี โตมาฮอว์คติดนิวเคลียร์ย่อมๆ   หรือถ้าเป็นเมื่อก่อน ทอมแคต ก็ติดฟินิกซ์ จรวด อากาศ-อากาศ พิสัยโคตรไกล ติดนิวเคลียร์จิ๋ว แบบ ยิงทีเดียวเครื่องข้าศึกตายยกฝูงเลย นั่นก็มี............... จะเห็นว่า จะให้เจ๋งจริงเป็นพี่เบิ้มคุ้มกะลาหัวน้องๆ  ต้องมีอย่างหลังนี้ด้วยนะจ๊ะ................................

เลเซอร์ที่ว่า  มันโครงการ สตาร์วอร์  สมัยประธานาธิบดี เรแก้น หรือเปล่า  ............... อันนั้นยิงจากดาวเทียม เอาไว้สกัดขีปนาวุธ................ สมัยนั้น ก็ฮือฮาไปพักนึง................ ข้าน้อยยังละอ่อนอยู่เลย...............

เมการีบผลิตปืนเลเซอร์  ก่อนนาซีจากดวงจันทร์ จะบุกโลกครับ 

โทษๆ มาผิดกระทู้ครับ ฮาๆๆๆๆๆๆ

ถ้าการเงินจีนยังดีอยู่แบบนี้ การมีกองเรือคงไม่ใช่เรื่องยากในระยะ10ปีนี้ ปัจจุบันก็เร่งต่อเรือDDG ปาเข้าไป12ลำแล้ว

ในส่วนนี้เรายังไม่พูดถึงคุณภาพในตัวอาวุธ แต่ในส่วนประสิทธิภาพในการสร้างจีนในตอนนี้ไม่เป็นรองใครล่ะ

ในอดีตโซเวียตก็ทำเองลองผิดลองถูกไม่เคยสร้างเรือบรรทุกเครื่องบินมาก่อนก็ยังทู่ซี่สร้างเรือชั้นคุชเนนชอฟ เคียฟ ขึ้นมาจนได้ จีนก็เช่นกันถ้าเงินดีมากๆแบบนี้ งบวิจัยให้ได้อาวุธดีๆประสิทธิภาพสูงก็อาจไม่ใช่เรื่องเกินความสามารถสำหรับของใช้ภายในประเทศ....โดยไม่ต้องส่งไปรบ เพราะอดีตอาวุธเด่นๆอย่างS-300ก็ไม่เคยถูกส่งไปรบ แต่ได้จากการทดสอบซ้ำแล้วซ้ำอีก

ฉะนั้นมองว่ากองเรือบรรทุกเครื่องบินจีนไม่ใช่เรื่องเกินความสามารถของจีนแล้วล่ะในตอนนี้ แต่โครงสร้างพื้นฐานและกองเรือพื้นฐานยังไม่พร้อม ต้องรอดูหลังปี2016-18ไปแล้วที่เรือพื้นฐานครบจำนวน เรือบรรทุกเครื่องบินก็จะเริ่ม

จะว่ากันไปนะ  ในโลกเรานี้ เซียนเรือบรรทุกเครื่องบินมีอยู่แค่ 3 ชาติ  ชาติแรกแบเบอร์คือ อเมริกา   ชาติที่สอง เซียนจุ๋มจิ๋มคือผู้ดีอังกฤษ .....ฟะหรั่งเศษ อตาลี่ สเปนอย่าไปนับ...................... เซียนตัวจริงอีกชาติที่เราลืมไปรู้มั้ยใคร................. ญี่ปุ่นนี่ไง............ ญี่ปุ่นผันตัวเป็นเซียนเรือบรรทุกเครื่องบิน ก็ตอนสงครามโลกนี่เอง  แต่งานนั้นใช้แบบหวังผลรุนแรงเต็มร้อย...........................

การใช้เรือบรรทุกเครื่องบินระหว่างอเมริกากับญี่ปุ่นเนี่ย  มันไปไปตามภูมิศาตร์ พื้นที่โลกจริงๆ............. ประเทศอยู่ห่างกันคนละซีกนับหมื่นโล................ กองเรือเข้มแข็งย่อมกำชัย...................เสธ ญี่ปุ่นเฉียบขาด ที่เปลี่ยนคอนเสปท์เรือ ลว.ประจัญบาญ กลายเป็นเรือ บรรทุก บ.   และงานนี้ก็มีได้ลุ้นเฮเสียว..................... สงครามทางอากาศกลางทะเล เรือพวกนี้ก็จัดเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินคุ้มกัน....................

อืม... ผมคิดว่าสุดท้ายยังไงก็แพ้ครับ ญี่ปุ่น 

ถ้า ยามาโมโตะ ไม่เสียชีวิตเพราะเครื่องบินตก ก็คงจะเสียชีวิตไปพร้อมกับยามาโตะ ด้วยแรงระเบิดนิวเครียร์ ครับ.... 

ถ้าบอกสงครามจะยืนเวลาไปได้ ยังไงก็แค่ยืดเวลา ก็แค่นั้น... 

ตอบคุณกบ ผมก็บอกว่าระยะเกือบพันกิโลไงครับ ไม่ได้บอกระยะเป็นพันกิโลเมตรนะครับ ลองอ่านดูดีๆ ไม่มีการแก้ไขนะครับ