ตามที่ กห. ได้เสนอโครงการจัดหาเรือดำน้ำของ ทร. 2 ลำ วงเงิน 3.6 หมื่นล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการ 9 ปี ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ.2558-2566 ในวาระจรของการประชุม ครม.เมื่อวันที่ 28 เม.ย.58 ครม.ได้ลงมติเห็นชอบในหลักการให้กองทัพเรือดำเนินการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการเรือดำน้ำ โดยอนุมัติให้ยกเลิกมติครม.เมื่อวันที่ 18 ก.ย.55 ที่ให้ชะลอโครงการจัดหาเรือดำน้ำไว้ก่อน พร้อมทั้งอนุมัติงบประมาณปี 58 จำนวน 200 ล้านบาทศึกษาความเป็นไปได้ และให้กองทัพเรือเสนอขออนุมัติโครงการอีกครั้งเมื่อดำเนินการศึกษาแล้วเสร็จและมีความพร้อมในการจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลา 2 เดือนในการรวบรวมเสนอ ครม.อีกครั้ง
http://www.thaipost.net/?q=node/1762
ผมเนี่ย เพลียใจกับสื่อไทยจัง สื่อไทยกลายเป็นธุรกิจแห่งความขัดแย้งของคนในชาติซะแล้ว
จากข่าว ให้ศึกษาความเป็นไปได้ เมื่อวิเคราะห์สถานการณ์การจัดหาเรือดำน้ำ ตั้งแต่ในอดีต ถึง ปัจจจุบัน ในความเห็นส่วนตัว กลับจะมองว่า คือ ค่าใช้จ่ายในการจัดทำข้อมูล เพื่อ เรือดำน้ำจีน มากกว่า และไม่มีใครในสมัยนี้ จะตรวจสอบได้ว่า เงินงบประมาณ จำนวน 200 ล้านบาท ในเวลา 2 เดือน จะเป็นเงินกินเปล่าของบุคคลใดหรือไม่? เสมือนว่า ที่ผ่านมา แม้แต่ การจัดหาเรือดำน้ำ 206A ไม่เคยศึกษาความเป็นไปได้อะไรเลยหรือ ?
เรือดำน้ำมาแน่ๆ แต่จะเป็นของจีนรึเปล่า ก็ขึ้นอยู่กับกองทัพเรือแล้วครับ
ยินดีด้วยที่กองทัพเรือไทยเราจะมีเรือดำน้ำแล้ว แต่จะน่ายินดียิ่งกว่าถ้าไม่ใช้เรือดำน้ำจีน 555
ส่วนงบ 200 ล้านบาทสำหรับกรณีศึกษานั้น งบประเภทนี้ก็เป็นเรื่องธรรมดาไปแล้วสำหรับบ้านเราครับ
ตัวอย่าง เช่นกรณีการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น เป็นต้น คือไม่ได้คิดจะสร้างแบบเป็นจริงเป็นจั งแต่ก็มีการหยิบยกขึ้นมาเกือบทุกรัฐบาล และท้ายที่สุดก็มีการอนุมัติงบสำหรับการจัดทำรายงานเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในทำนองเดียวกัน ทุกครั้ง
คือการจัดงบในลักษณะนี้มีมานานหลายปีและหลายโครงการแล้วครับ
ผมว่าไอ้การอนุมัติหลักการและศึกษา บางทีก็ใช้เป็นอาวุธเพื่อลดทอนแรงเสียดทานได้นะครับ เพราะมันเหมือนการแสดงความเห็นด้วย แต่ไม่ได้มีการประกันว่าจริงจังแค่ไหนและเป็นการสงวนสิทธิ์ในการกลับคำเปลียนใจในภายหลังได้
เพิ่มเติมในมุมมองของผมคือ(ความคิดเห็นโดยส่วนตัวล้วนๆครับ)
เหตุที่ต้องมีกั้กเอาไว้สองเดือน น่าจะเป็นในเรื่องของการรอการตัดสินใจของกองทัพเรือในการเลือกแบบเรือดำน้ำมากกว่า
คืออย่างที่รู้ๆกันว่า ผู้มีอำนาจต้องการให้เป็นเรือจีนแต่กองทัพเรือไม่อยากได้
ถ้าสมมุติว่ากองทัพเรือเกิดขัดใจไม่เลือกแบบเรือจีน งานนี้มีแห้วแน่ๆ
แต่ถ้ากองทัพเรือ OK ตามนั้น อีกสองเดือน ครม.อนุมัติผ่านฉลุย เฮอะๆๆๆ
ส่วนเรื่องการโดนแอนตี้เพราะเศรษฐกิจไม่ดี ในมุมมองของผมแล้ว ไม่น่าจะมีผลเพราะตามที่ได้เคยบอกไปแล้วว่าถ้าเลือกเรือดำน้ำจากจีน การระบายสินค้าเกษตรและประมงไปขายให้ประเทศจีนก็จะสะดวกโยธิน
ปล. นับจากนี้ไปอีกสองเดือนน่าจะเป็นเกมส์วัดใจของกองทัพเรือแล้วละครับ
ระวังโดนสับขาหลอก เป็นสาวๆgril group นะครับ
ตกลง ฉลุย หรือ แผ่ว
http://www.posttoday.com/การเมือง/363002/ซื้อเรือดำน้ำแผ่ว-ครม-ให้ศึกษาก่อน
เรื่อง เรือดำน้ำ ไม่ต้องกลัวแห้ว หรอกครับ ให้สังเกตุได้ครับ รัฐบาลพลเรือน เป็นฝ่ายสนับสนุนเสมอ แต่ที่ไม่ได้ ก็มาจาก พวกกลาโหมเอง ทำตัวเองทั้งนั้น ใจเย็นๆ ครับ ไม่ต้องรีบ กองทัพเรือ เติบโตมาทุกวันนี้ มาจากการสนับสนุนของรัฐบาลพลเรือนทั้งนั้น งานนี้ เรื่องผลประโยชน์ส่วนตัวเป็นหลักมากกว่า ดึงดันไป ระวังจะมีความเดือดร้อนย้อนหลัง แม้รัฐธรรมนูญจะมีกำหนดไม่เอาความผิดได้ ทุกการกระทำในขณะนี้ แต่คนเสนอ เพื่อพิจารณาอนุมัติ มักเป็นฝ่ายผิดเสมอ เรือดำน้ำ ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ได้มีใช้กันแน่แหล่ะครับ มันหนีการสร้างสมดุลย์ทางการทหารในภูมิภาคไปไม่ได้หรอกครับ
ศูนย์ฝึกเรือดำน้ำ งบประมาณส่วนอาคารและอุปกรณ์ 540 ล้านบาท งบประมาณเครื่องฝึก 200 ล้านบาท แล้วนี่จะมาจ่ายค่าศึกษาความเป็นไปได้ ถึง 200 ล้านบาท ภายใน 2 เดือน ตรรกะมองแค่นี้ ก็น่าจะเห็นความผิดปกติ แต่ถ้ากรณีนี้ เกิดกับรัฐบาลปกติ คงจะเดือดร้อนกันถ้วนหน้า
ถ้าดูจากอีกข่าว ทร ขอเองนะครับ 200ล นะ
สำหรับผมงบ 200 ล้านเพื่อการศึกษาข้อมูลมันมากไปครับ จะจ้างเทวดามาให้ข้อมูลรึยังไง แค่หลัก 100 ล้านลงไปนี่ก็มากเกินแล้วครับ
ผมก็ว่ามันมากไป อยากเห็นเอกสารที่ ทร ขอ จริงๆครับว่า ศึกษาเรื่องการจัดหาเรือดำน้ำ หรือ ใช้คำว่า ฝึกและศึกษา เพื่อเตรียมจัดหาเรือดำน้ำ ปล แต่ที่ดูในสรุป ประชุม ครม ก็ไม่มีพูดถึงเรื่องเรือดำน้ำเลยนะ http://www2.ofm.mof.go.th/images/stories/pdf/85963_580428.pdf
ลองเข้าไปอ่านเนื้อหาใน ไทยโพสต์ ดูอย่างละเอียดอีกทีเลยครับ
http://www.thaipost.net/?q=%E0%B9%80%E0 ... 9%E0%B8%B2
แล้วคุณจะรู้ว่ามันเป็นการยัดไส้เรื่องนี้เข้าไปในการประชุมครม. โดยจะรู้กันแค่เฉพาะคนในวงในเท่านั้นครับ
กว่าจะมารู้กันทีก็อย่างที่เป็นข่าวนั้นแหละ
เมื่อถามว่าเรือดำน้ำมาแน่ใช่ไหม สำหรับความคิดโดยส่วนตัวของผมแล้ว มันมาแน่ๆครับ เพราะอะไร?
เพราะว่ามันเป็น มติครม.ไปแล้วไง (แถมเป็นมติครม.ภายใต้รัฐบาลในกฏหมาย ม.44 คุ้มครอง จะมาเอาผิดย้อนหลัง บอกได้เลยว่า ยากกกกก...ครับ ไม่อย่างนั้นจะเรียกว่ามีอำนาจล้นฟ้าเหรอ )
แต่ก็มีเงื่อนไขอยู่ว่าเรือดำน้ำจะเป็นไปตามที่ได้มีการล็อกสเปกส์เอาไว้อย่างเราๆกลัวกันหรือไม่ มันก็จะไปขึ้นอยู่กับการตัดสินใจในการเลือกแบบของกองทัพเรือไงครับ (เห็นโทษเห็นคุณกันแล้วหรือยังกับกฏหมาย ม.44)
รวมถึงลงเรือทดสอบด้วยตนเอง ยังจะถึงเปล่านะ
อีกแง่ ประเทศที่ไปดูออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด
เพื่อไม่ให้ดูว่า ผม จะอคติอย่างเลื่อนลอยในประเด็นที่ผมออกความเห็นมาทักท้วงข่าวนี้...เพื่อแสดงเจตนาที่ดี ก็คือ...
ในงบประมาณ จำนวน 36,000 ล้านบาท มันเป็น งบประมาณ เรือดำน้ำ มือหนึ่ง ซึ่งตัวเลือก มันมีมากมาย หลากหลาย...
ดังนั้น...หลักการเบื้องต้น...คือ การอนุมัติในหลักการ ในการจัดหา เรือดำน้ำ เข้าประจำการ เพื่อความสมดุลย์ ทางการทหารในภูมิภาคนี้...มันก็ถูกต้องในส่วนหนึ่ง เท่านั้น...
และประเด็นที่สำคัญ คือ เป็นการใช้เงินงบประมาณประจำปีของ กองทัพเรือ เอง...
ไม่ใช่ งบพิเศษ นอกงบประมาณประจำปี...
เพราะมันมีผลกระทบต่อกองทัพเรือ มันมีมากในแง่ของ งบประมาณประจำปี ของ กองทัพเรือ ที่มันจะส่งผลกระทบต่อ โครงการอื่น ๆ....
แต่ประเด็นก็คือ...แล้วทางเลือกในการใช้งบประมาณที่น้อยลง เพื่อจัดหาเรือดำน้ำล่ะ ?
แต่ปัจจุบัน ภาพมันออกมา คือ การดึงดัน ที่จะใช้งบประมาณ จำนวน 36,000 ล้านบาท เท่านั้น...ไม่มองหาทางเลือกอื่น...
และที่ หนักหนา ก็คือ...การที่ข่าวออกมามากขึ้น...ว่าจะจัดหา เรือดำน้ำ จากประเทศจีน ในวงเงินงบประมาณดังกล่าว...ซึ่งจะเป็นสิ่งที่จะถูกต่อต้าน อย่างหนักในอนาคต...มันดูเหมือนจะเป็นการ ล็อคสเปค และหาเหตุผล ต่าง ๆ นา ๆ เพื่อจะเลือกเรือดำน้ำจาก ประเทศจีน...โดยใช้งบประมาณ 36,000 ล้านบาท...ซึ่งมันก็มีประเด็นที่ต้องสงสัย คือ เป็นความต้องการของใคร ? หรือเป็นความต้องการของ กองทัพเรือเอง ? แล้ว ทร. จะต้องลำบากงบประมาณตัวเองไปอีก 10 ปี เพื่อความต้องการของใคร ?
ซึ่งการมีงบประมาณเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ จำนวน 200 ล้านบาท นี้ ... มันก็จะถูกมองได้ในแง่ร้ายที่ว่า...จะเป็นการจัดทำข้อมูลและนำเสนอ เพื่อเลือก เรือดำน้ำจีน โดยใช้เงื่อนไขของประเทศจีน สนับสนุนการจัดหา หรือไม่ ?
ซึ่งผมได้เคย วิเคราะห์ไว้ตั้งแต่ช่วงแรก ๆ ที่มีข่าวเรือดำน้ำแล้ว...จากบุคคลที่เสนอว่า สนับสนุนให้ ทร. มีเรือดำน้ำ นั้น ผมก็ได้กลิ่น ตุ ๆ ว่า เรือดำน้ำจีน มาเต็งหนึ่งแน่...ถ้ามีการจัดหาภายใน รัฐบาล ชุดนี้...
กระทู้ที่ 1
กระทู้ที่ 2
ถ้าเรือดำน้ำพลาดน้าาา.... ไม่อยากจะคิด ชาตินี้เลิกฝันรอบสองได้เลย
ผมชมป๋าจูลเลยครับ ยังจำได้นานมากแล้วเป็นปีละมั้ง ที่ป๋าฟันธงว่าจีนโดนดันแน่นอนด้วยเหตุผลที่ไม่ใช่เรื่องประสิทธิภาพและความเหมาะสม แหม่ ไม่อยากจะคิด
แล้วก็เห็นด้วยว่าทำไมต้อง 36,000 ล้านมาก่อนเลย มันล็อกสเป็คหรือเปล่า แทนที่จะมีตั้งหลักการณ์ว่าหาเรือดำน้ำดีเซลไฟฟ้า ก็กลายเป็นว่าต้อง 36,000 ล้าน คืออนุมัติงบฯ ก่อนอนุมัติแบบ ก็แปลกดีว่ะที่ยังไม่รู้ว่าจะซื้ออะไร แต่รู้แล้วว่าจะเอาเท่าไร
แล้วก็ป๋าพูดอีกก็ถูกอีกละว่า 36,000 ล้าน มันควรจะซื้อเรือดำน้ำแนวหน้าได้แล้วมั้ง
หนับหนุนให้ทร.ไทยจัดหาเรือดำน้ำและต้านสื่อทุกสื่อที่ต่อต้านการจัดหาเรือดำน้ำทุกวินาที
ส่วนตัวคิดว่าโครงการเรือดำน้ำน่าจะยังไม่เริ่มในปีงบประมาณ58เพราะเหลืออีกแค่ไม่กี่เดือนเอง เรื่องเราจะได้เรือลำไหนไม่รู้เหมือนกันเพราะไม่ได้เชียร์ลำไหนเป็นพิเศษ คงต้องดูกันต่อไปล่ะครับว่าจะมีการออกประกาศเชิญชวนเสนอแบบเรือ และมีบริษัทเสนอแบบเรือเข้ามากี่รายกันอีกที
แต่เรื่องที่สื่อมวลชนบางส่วนคัดค้านเป็นเรื่องปรกติอยู่แล้วและมันควรจะเป็นเช่นนี้ นอกจากคุณจะไปอยู่ในประเทศที่่รัฐบาลคุมสื่อได้หมดถึงจะเห็นการเขียนอวย (ที่อเมริกาก็โดนจิกอยู่บ่อยๆว่ากองทัพเรือซื้อเรือผิดแบบ อังกฤษไม่ต้องพูดถึงมีการวิจารณ์ละเอียดยิบถึงงบประมาณแต่ละปีด้วย) เป็นเรื่องของกองทัพเรือเองที่จะต้องชี้แจงเหตุผลให้คนทั่วไปที่ไม่มีความรู้ให้เข้าใจ คนส่วนใหญ่ไม่ได้ศึกษาเรื่องนี้อย่างเราๆท่านๆจะเข้าใจได้อย่างไรว่าทำไมต้องซื้อเรือดำน้ำ
ตามที่ท่าน Judas เคยวิเคราะห์ ไว้ถูกต้องทุกอย่าง
เมื่อตอนที่นายพลท่านนี้(ไม่อยากเอยนามอีกแหละไม่ใช่ว่ากลัวนะแต่เพราะเบื่อหน่ายอย่างมาก)
เคยนำเสนอเรื่องเรือดำน้ำ DME 1400 จากเกาหลีใต้มาชนกับเรือดำน้ำ Type 206 จากเยอรมันที่กองทัพเรือเป็นคนเสนอ ในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ก็คงจะลำบากใจมิใช่น้อย บวกกับเหตุกาณ์การชุมนุมในตอนนั้นด้วยก็เลยดองเรื่องนี้เอาไว้ซะ จนกระทั่งสิ้นสมัยรัฐบาล จนต่อมาถึงรัฐบาลนายกยิ่งลักษณ์
ผมก็ยังนึกอยู่ในใจเลยว่าอดีตนายกยิ่งลักษณ์จะกล้าหักหาญคำสั่งนายพลคนนี้หรือไม่ สุดท้ายผลที่ออกมาคือ ดร็อปโครงการเรือดำน้ำ แล้วไปซื้อเรือฟรีเกตสมรรถนะสูง 2 ลำจากเกาหลีแทนซะงั้น ตอนนั้นผมงงเต็กไปเลย คือ เท่าที่ผมวิเคราะห์ดูแล้วประมาณว่าอดีตรัฐบาลยิ่งลักษณ์ต้องเลือกที่จะรักษาน้ำใจด้วยกันทั้งสองฝ่ายเลยนะครับ ทั้งฝ่ายกองทัพเรือและฝ่ายนายพลคนนี้ ( นี้แสดงว่าตามไปงัดข้อกันไม่เลิก )
เฮ้อ นี้ถ้ากองทัพเรือตัดสินใจเลือกเรือจากเกาหลีไป 2 ลำ ซะตั้งแต่ตอนนั้นก็ไม่ต้องมานั่งลุ้นว่าจะเป็นเรือดำน้ำจากจีนเหมือนในตอนนี้แล้ว
ปล. แต่เดิมทีผมก็ไม่ค่อยเชื่อเท่าไรว่าหวยจะไปออกที่จีน เพราะตอนนั้นผมไม่คิดว่านายพลท่านนี้จะหลายใจเปลี่ยนจากสาวเกาหลีไปเลือก สาวจีนไปซะงั้นเซ็งเลยผม
แล้วยังงี้...เรือฟริเกต สมรรถนะสูง ลำที่สอง ยังจะได้อยู่มั้ย....(ตามแผน 2ลำ ราว 30000ล้าน)
เห็นงป กองทัพเรือที่จะต้องผ่อนแล้วเหนื่อยจริงๆ....
ถ้าผมเป็นผู้มีอำนาจตัดสินใจใน ทร. เรือจีนก็เอาครับ อย่าลืมครับว่า ถ้าไม่ใช่อยู่ในรัฐบาลปัจจุบัน ผมว่าไม่รู้ต้องรออีกนานแค่ไหน เริ่มช้าก็เชี่ยวชาญช้า กว่าจะมีประสบการณ์เทียบกับเพื่อนบ้านได้ ในอนาคตอีกหลายปีเวลาจะเพิ่มจำนวน อย่างน้อยอีก 2 ลำ คงมีการพัฒนาดีขึ้นกว่านี้ได้อีก ( ก็ต้องเป็นเรือจากจีนเหมือนเดิม ต่อให้มีโอกาสเลือกเรือแบบอื่น แต่คนละระบบ ก็เชื่อมต่อระบบกันลำบาก )
มองได้สองแง่ครับ อีกแง่คือซื้อเรือจีนมา ของไม่ดี เจ๊งเร็ว โดนด่า คราวนี้จะซื้อใหม่อีกจะลำบาก แถม 36,000 ล้าน โคตรแพงครับ
อีกอย่างผมว่ารัฐบาลนี้หรือขั่วอำนาจนี้อยู่ยาว... เพราะงั้นไม่ต้องห่วงว่าต้องรีบซื้อ ห่วงนายพลท่านนี้จะอยู่ยาวไปด้วยมากกว่า เพราะแกเป็นรุ่นพี่ที่เคารพของนายพลหลายๆท่าน หุๆ
ไม่กี่ปีข้างหน้านี้แหล่ะครับ กองทัพเรือก็จะมีเรือดำน้ำ ตามความต้องการ ไม่ต้องรีบครับ เพราะ เรือดำน้ำจีน ที่ได้มา ก็ไม่แน่ว่า จะดำได้ แต่โผล่ได้กี่ครั้ง เพราะ ยังไม่มีใครจัดหา แม้แต่ ประเทศจีน เพราะแบบ โมดิไฟด์ จาก เรือชั้นเดิมของ กองทัพเรือจีน ซึ่งที่ จีน ยอมจะเสนอเงื่อนไขที่ดี ก็คงเป็นเรื่อง หนูลองยา ที่หาได้ยาก เพราะได้เงินด้วย แถมมีบุญคุณเป็นของแถม เดี๋ยวขอกำไรงามๆ หลังจากประจำการ ยังไงๆ ก็ต้องซ่อมบำรุง ยังไงๆ ในโลกนี้ ไม่มีประเทศไหนจัดหา หรือ แก้ไขปัญหาได้ เพราะ เป็นแบบเรือที่ยังไม่มีใครจัดหา ดีไม่ดี ไขควงอาจจะออกแบบที่จดลิขสิทธิ์ ห้ามเลียนแบบ แบบคอมพิวเตอร์ก็ได้ครับ ที่น็อตสกรูเครื่องคอมจะออกแบบพิเศษ ที่ต้องใช้ไขควงปากกลมแบนเฉพาะเท่านั้น ถึงจะไขได้ อย่าดูถูกจีนเรื่องนี้เชียว แบบลงทุนให้ก่อน แล้วเก็บกินที่หลัง เมื่อสินค้าใช้งานได้แล้ว
โ
ถ้าย้อนอดีตได้นะ ขอเป็นเรือดำน้ำจากเกาหลีใต้ 2 ลำแทนแล้วสลับกันกับเรือฟรีเกตซื้อType 054 จากจีน 3ลำจะดีก่า เพราะเรือฟรีเกตมันลอยน้ำอยู่ผิวน้ำก็ยังพอทำเนา ถึงระบบอาวุธจะเทียบไม่ได้กับของ saab ก็เถอะ เพราะผมก็ยังอุ่นใจว่าอย่างน้อยเรายังมีเรือชั้นนเรศวรที่อัฟเกรตแล้ว
แต่กับเรือดำน้ำของจีน ที่ยังไม่มีประเทศไหนใครกล้าซื้อ และยังไม่เคยประสบอุบัติเหตุให้เป็นกรณีศึกษาเลยสักครั้ง คือ น่ากลัวยิ่งกว่าเรือที่เคยเกิดอุบัติเหตุมาก่อนแล้ว อันนี้ผมไปดึงเอาบทวิจารณมาจากในเวปพันทิปมาครับ
วันดีคืนดีเกิดดำแล้วไม่โผล่ทำงัยวะเนี่ย
"เมเดย์ๆ จากฐานกองเรือดำน้ำถึงเรือมัจฉานุ 2 คุณขาดการติดต่อไปนานแล้วกรุณาตอบกลับด้วย"
เรือดำน้ำการปฏิบัติการโดยไม่มีการติดต่อกับฐานหรือฝ่ายเดียวกันเลยระหว่างภารกิจก็เป็นเรื่องปกติเพราะต้องรักษาความเงียบป้องกันการดักฟังหรือตรวจพบของข้าศึกด้วย ยิ่งอันตรายเข้าไปใหญ่
อย่างกรณีเรืออินเดีย รู้สึกจะทำการฝึกแบบตัดการติดต่อ เลยไม่มีใครรู้เรื่องรู้ราว
คืออาจจะเข้าการเมืองนิดหน่อย แต่รัฐบาลนี้พยายามประคองรักษาความสัมพันธ์กับประชาชน ภาพลักษณ์ ต้องสร้างคะแนนด้วยครับ พยายามให้มองว่าเข้ามาแก้ปัญหานะ มาใช้อำนาจพิเศษเพื่อผ่าทางตัน แล้วคืนประเทศสู่ความเป็นประชาธิปไตย์ ฯลฯ จะเห็นได้จากหลายๆกรณี การออกคำสั่งตั้งคณะทำงานแก้ปัญหานั้นนี้ให้รวดเร็ว ที่สามารถมองเห็นได้ จับต้องได้ จะว่าประชานิยมก็ได้ เช่นเรื่องปัญหาแท็กซี่ วิน รถตู้ ค้ามนุษย์ บุกรุกที่ป่า ผู้นำออกมาพูดกำชับเองโดยตรงออกสื่อ ใช้ม.44 จับทันที
เรือดำน้ำเรื่องใหญ่นะครับ งบไม่ใช่น้อยๆ (รถกวาดทำลายทุ่นระเบิดมาเทียบกับเรือดำน้ำไม่น่าได้นะครับ แล้วทบ.น่าจะเป็นคนเดียวที่ซื้อของลับได้หรือเปล่าวะ ฮา) เดี๋ยวก็โดนหาว่าทหารเข้ามาหาผลประโยชน์ มาซื้ออาวุธเสริมอำนาจตัวเอง ทุจริตกินเปอร์เซ็นต์ ก็พยายามทำให้ดูโปร่งใสที่สุด ไอ้แนวคิดเรือจมแล้วปิดข่าวนี่มัน mindset สงครามเย็นแล้วนะนั่น แนวพวกคอมมิวนิสต์ ผเด็จการ ควบคุมประชาชนแบบเบ็ดเสร็จ
แล้วผมว่าการมีเรือดำน้ำก็ไม่เห็นมีประเทศไหนพยายามปิดความลับเรื่องจำนวนนะ ข้างบ้านเรารู้กันหมดใครมีอะไรยันสเป็ค เพราะมันเป็นอาวุธเชิงป้องปรามด้วย การซื้อขายก็เปิดเผย ออกสื่อทั่วโลก
by fatboy » 07 May 2015 09:54
อนุมัติหลักการพร้อมงบ 200 ล้านศึกษาความเป็นไปได้ = ศึกษาว่าเรือดำที่เลือก มันสามารถบูรณาการเข้ากับระบบที่มีอยู่เดิมได้ไหม ถ้าต้องเพิ่มอะไรลงในเรือ เพื่อให้สามารถใช้ร่วมกับที่มีอยู่เดิมได้ ให้ในเสนอให้ทันภายใน 2 เดือน ยอดเงินอนุมัติดูเหมือนสูง แต่ถ้าจะเอารายนี้จริงๆ ต้องแก้ไขเพิ่มเติมแบบเรือดำน้ำอีกมาก ซึ่งคือค่าใช้จ่ายทั้งนั้น อาจเห็นเรือดำน้ำต่อจากประเทศหนึ่ง ไส้ในยุโรปเสียส่วนใหญ่ คล้ายๆ เรือฟริเกต ชุดนเรศว
ท่าน fatboy ตอบเรื่อง 200ในTAF... เดาว่า งานนี้ จะหยวนๆให้ ทร ครับ
เรื่องงบประมาณ 200 ล้าน ที่อ่านดูในรายละเอียด เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ 36,000 ล้านที่ ทร.เสนอไปนะครับ แต่เป็นส่วนที่ขอในปีนี้ (ปีงบประมาณ 58) ซึ่งคงไม่ใช่เอาไปเตรียมความพร้อมหรือศึกษาความเป็นไปได้ซะทีเดียว เพราะ ทร.ก็เตรียมความพร้อมกับศึกษาความเป็นไปได้มาตั้งแต่ตั้งกองเรือดำน้ำมา เมื่อปี 54 แล้ว
ดังนั้นเงินส่วนนี้น่าจะเป็นอะไรที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินโครงการมากกว่า แต่ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเป็นค่าอะไร เพราะเงินจำนวน 0.5% ของวงเงินเต็มก็ดูจะน้อยเกินกว่าจะเป็นการวางเงินงวดแรกได้ คือประมาณว่า ครม. ยังแบ่งรับแบ่งสู้ ไม่อนุมัติวงเงินทั้งโครงการ แต่อนุมัติส่วนที่ขอในปีนี้ไปก่อน ส่วนที่เหลือให้กลับไปเสนออีกครั้ง (หรืออาจเป็นการแทงกั๊กว่าถ้าเลือกแบบไม่ตรงใจ ก็อาจไม่อนุมัติงบประมาณให้หรือเปล่า)
ส่วนว่าทำไมต้อง 36,000 ล้าน ทั้งที่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกแบบเรืออะไร เพราะเป็นขั้นตอนการจัดซื้อที่ต้องขออนุมัติแผนงานและงบประมาณล่วงหน้า ก่อนที่จะคัดเลือกแบบและขออนุมัติจัดซื้ออีกครั้ง ซึ่งดูจากวงเงินก็เผื่อไว้มากพอที่จะซื้อเรือได้จากทุกค่าย เพื่อตัดปัญหาการล็อคเสป็คด้วยราคาออกไปครับ
ดีใจด้วยคับ ครั้งนี้ไทยเราน่าจะเข้าใกล้การมีเรือ ส. ประจำการมากที่สุดตั้งแต่ปลดฯ เรือชั้นมัจฉาณุไป ผมก็ขอให้ ทร. ได้เรือรุ่นที่ต้องการที่สุด ถ้าเลือกได้คับ แต่ถ้ามันเลือกไม่ได้ก็ขอให้ตัดสินใจให้รอบคอบมากที่สุดคับ และสำหรับกองเชียร์อย่างผมที่ไม่ได้มีส่วนได้เสีย ก็คงต้องทำใจคับ คิดเสียว่ามันเป็นบุพเพฯ รักคนหนึ่งมาก แต่อาจต้องแต่งกับอีกคนหนึ่งก็ได้คับ :) ผมก็เลยพยายามมองในมุมบวกและขอเล่าสู่กันฟังและสรุปข้อมูลให้กับเพื่อนที่ไม่มีเวลาหาข้อมูลอย่างเคยคับ
จากที่ดูส่วนใหญ่เราจะเป็นห่วงเรื่องคุณภาพของเรือจีนกันมาก แต่จะว่าไปแล้วประสบการณ์ต่อเรือ ส. ของจีนก็ไม่ธรรมดาคับ ผมว่าจะเป็นรองก็อาจจะแค่ญี่ปุ่นเท่านั้นในเอเชีย
จีนเริ่มต่อ เรือ ส. มาตั้งแต่ช่วงต้นยุค 60 โดยรุ่นแรกคือ เรือชั้น Romeo ซึ่งได้ไลเซนส์มาจากรัสเซีย จีนผลิตรวมใช้เองและส่งออกไปทั้งสิ้น 84 ลำ นาโต้เรียกว่า Wuhan class
ต่อมาในยุค 70 จากการอาศัยโครงสร้างและพื้นฐานเรือชั้น Romeo จีนได้สร้างเรือ ส. รุ่นใหม่เองเป็นรุ่นแรก คือ Ming class ผลิตไปประมาณ 20 ลำ และขายต่อให้บังกลาเทศ 2 ลำ
และช่วงยุค 80-90 จีนได้ออกแบบและสร้างเรือ ส. เองหมดทั้งลำเป็นรุ่นแรก คือ Song class รุ่นนี้มีประสบการณ์ เพราะเขาว่าลูบคม รบบ. ของ สรอ. มาแล้ว :) ผลิตทั้งสิ้น 13 ลำ
หลังจากนั้นจีนก็สร้างเรือรุ่นใหม่ขึ้นอีกรุ่น คือ Yuan class ซึ่งมีการประยุกต์ข้อดีของเรือชั้น Kilo ของรัสเซียด้วย ทำให้ลือกันว่าอาจจะยิงได้ทั้ง Sub-C801 ของจีน และ Klub-S ของรัสเซีย แต่ที่แน่ๆ Yuan ดำน้ำอึดมากเพราะมี AIP และยังใช้ระบบโซน่าของเยอรมันคับ
ขอเท่านี้ก่อนนะคับ อันนี้ยังไม่รวมเรือ ส. แบบใช้พลังงานนิวเคลียร์ของจีน อีก 4 รุ่น นะคับ ทั้งหมดก็เป็นประสบการณ์ต่อเรือ ส. ของจีนคับ แต่ยังไงก็ขอให้ได้เรือรุ่นที่ต้องการนะคับ ก็เข้ามาช่วยกันคิดนะคับ (ข้อมูลจาก Globalsecurity, Wikipedia) :)
ประเทศเอเชียที่ออกแบบเรือดำน้ำผลิตขายก็มีอยู่แค่สองสามประเทศเท่านั้นหรือเปล่าครับ ญี่ปุ่น เกาหลี จีน
อารมณ์เดียวกับคุณ Oversea ครับ อยากให้ ทร.ได้ ส. ตรงตามความต้องการมากที่สุด
แต่ถ้าไม่สมหวังก็ยังอยากให้ได้ตัวเลือกสุดท้ายก็ยังดีด้วยเกรงว่าจะไม่มีโอกาสในการจัดหา ส.
มากเท่านี้อีกแล้ว
ขอบคุณข้อมูลที่คุณ Oversea นำมา share ครับ
ขอขอบคุณท่าน smallforward มากคับสำหรับกำลังใจ ผมว่ามันสำคัญสำหรับทุกคนและทุกหน่วยงานนะคับ
ส่วนเรื่อง ประเทศในเอเชียที่ต่อเรือ ส. ขาย ตอนนี้ก็มีเท่าที่ท่าน Teoy กล่าวนั่นหล่ะคับ ถูกต้องเลย แต่ที่มีประสบการณ์ต่อเรือใช้เอง ก็อาจจะมีอีกนิดหน่อยคับ เช่น อินเดีย ปากีฯ อิหร่่าน เกาหลีเหนือ
โดยเฉพาะสองประเทศหลังเป็น เรือ ส. แคระ หรือ midget submarine ซะส่วนใหญ่คับ ซึ่งผมคิดว่าไทยเราน่าจะลองสร้างเรือ midget นี่ดูบ้างนะคับ เอาขนาดซัก 150-200 ตัน ที่ ทร.สามารถอนุมัติงบประมาณต่อเองได้เลย โดยไม่ต้องผ่าน ครม. อาจเป็นโครงการร่วมกันออกแบบและสร้่างระหว่าง ไทยกับ ประเทศที่ผลิตเรือ ส. ซักแห่ง ซึ่งตลาดเรือ midget นี่ยังไม่มีใครเล่นกันมากนัก ผมว่าอาจเป็นโอกาสของเราคับ :)
มาถึงตอนนี้เพื่อนหลายคนอาจมีคำถามว่า อ้าวแล้วเรือ ส.จีน มันมีข้อเสียอะไรบ้างมั้ย กับโครงการของไทยเรา เห็นกล่าวแต่ข้อดี ผมก็คิดว่า น่าจะมีคับ ก็คือ จีนจะต่อเรืออย่างดีเต็มความสามารถให้เราหรือไม่ เพราะภาพหลอนของสินค้าจีนมันติดตาเราอยู่ แม้แต่ไข่ก็ยังปลอมกันได้ :) นอกจากนี้ เรือจีนอาจจะไม่รองรับระบบ CMS หลักของเราคือ 9LV ที่ ทร.ได้ลงทุนติดตั้งกับเรือหลักๆ ของเราทั้งหมดไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็น 911 นเรศวร และอาจจะรวม ฟรีเกตจาก DSME ด้วย เพื่อการรบแบบ NCW ร่วมกับ ทอ.
ในประเด็นนี้ ทร. ก็ต้องตัดสินใจคับ และผมขอเดาว่า งบฯ 200 ล้าน อาจจะเกี่ยวข้องกับเรื่อง CMS นี้ด้วยไม่มากก็น้อยคับ :)
ส่วนตัวเห็นว่าไม่ต้องรีบร้อนยังไงก็ต้องได้ ไม่ได้ตอนนี้ รัฐบาลหน้ายิ่งต้องโดนบีบให้ต้องมีเรือดำน้ำ แรงบีบที่ว่าก็จากรอบๆบ้านเรานี้แหละครับ เพราะงั้นไม่ได้ที่ดีอย่ารีบมีดีกว่า ยังไงก็ต้องได้ต้องมี ถ้าต้องเอาเรือจีนเพราะกลัวไม่ได้นิ อย่าเลยครับ แต่ถ้าเอาเพราะมันดีมันสมบูรญ์แบบตรงตามความต้องการก็เอาครับ(ถ้าเอานี้ผมร้องไห้ตอนอายุ จะ 40 เลยนะครับ ฮ่าๆ) อีกอย่างลองคิดดูนะครับ ท่านทั้งหลาย ในนี้มีใครใช้รถ กระบะบ้าง งั้นผมจะถามง่ายๆ สมมุติ มีกระบะ อยู่ 2 ยี่ห้อ ทาทา กับ โตโยต้า มีใคร รีบไปซื้อ ทาทามาใช้ไหมครับ หรือ จะรอ ซื้อโตโยต้า วีโก้ ฮ่าๆๆ ผมไม่ได้ว่าทาทาไม่ดีนะ ใครไม่เชื่อลองไปซื้อใช้ดู ถูกกว่า วีโก้เยอะครับ บรรทุกได้เยอะด้วย เอิกๆ
ปล.ท่าน Oversea ครับด้วยความเคารพนะครับ คับ กับ ครับ นี้ ความหมายก็ต่างกันอยู่นะครับ