ตัวผมเองเชียร์ทร.อย่างออกนอกหน้ามาโดยตลอด เขียนกระทู้ส่วนมากก็มีแต่ของทร. รู้ดีครับว่าไม่มีสิทธิ์ไม่มีเสียงอะไรแม้แต่น้อย เพียงแต่ว่าในช่วงนี้มีข่าวการซื้อเรือดำน้ำด้วยงบประมาณสุงมากๆมาโดยตลอด ส่วนตัวไม่สบายใจเลยและผมว่าแพงไปแม้จะได้ทุกสิ่งทุกอย่างครบเลยก็ตามเถอะ ผมอยากให้กองเรือดำน้ำค่อยๆโตเริ่มจากเรือเก่าสำหรับฝึกไปก่อนซัก5-10ก็ได้ เพราะผมอยากได้ทหารที่เข้มแข็งทรหดอดทนผ่านเรื่องลำบากยากเข็ญมาก่อน ไม่ใช่อยู่ดีๆก็ได้ขับเรือใหม่เอี่ยมอุปกรณ์ครบเลยแบบนี้มันจะไปรบกับใครได้ ท่านกับตันนีโมคงเข้าใจนะครับ

ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ทร.ซื้อใจผมซักหน่อยได้ไหมครับ เอาฟาลังซ์ไปซ่อมคืนสภาพแล้วปรับปรุงเป็นรุ่นใหม่ จากนั้นค่อยเอาไปติดบนเรือ เอ่อ เรือหลวงจักรีก็ได้เอ้า เรือเราไม่ค่อยมีอากาศยานอยู่แล้วตั้งบนกล่องติดตรงไหนก็ได้ไม่มีปัญหา แต่ถ้าจะได้ใจผมอีกนั่นคือถ้าคิดว่ากำลังจะได้เรือดำน้ำที่ไม่อยากได้แล้ว ให้ช่วยไม่รับเรือและยกเลิกโครงการนี้ไปเลย จากนั้นเอาเงินไปซื้อเรือฟริเกตมือ2ด้านล่างมาใช้งานไปก่อนก็ได้ แล้วอีก2-3ปีค่อยเริ่มโครงการใหม่ก็ยังทัน ผมเข้าใจว่ามันยากทั้ง3เรื่องแต่ถ้าจะทำจริงๆมันก็ทำได้แหละ ขอบคุณมากครับ

แหม่ รีบปลดขนาดนี้ต้องถามเลยว่าเรือรบต่อที่เกาหลีใต้ไปถึงไหนแล้ว

ไม่เรียกว่ารีบปลดหรอกครับ น่าจะสภาพไม่ปลดก็ใช้งานไม่ได้อยู่ดี 
เรื่องฟาลังซ์คิดว่าไม่ทิ้งครับ เอาไปติดเรือฟริเกตไหนก็ได้ ทั้งประเทศมีอยู่สองระบบ ฮา

ปล. ยังกัด bremen class ไม่ปล่อยนะครับ ฮ่าๆ

ว่าแต่ตอนนี้ัยังเหลืออะไรไว้บ้างหรือถอดทิ้งหมดแล้ว

แหม มีการแนะแนวด้วยนะครับ ส่วนตัวผมว่าเราควรจะรีบคว้าohpมาอุดไว้ก่อน แต่เราก็พลาดไปแล้ว ก็ไม่รู้ทำไงดีเหมือนกัน หรือจะสั่งต่อชั้นเจ้าพระยามาซักสองลำดี ฮา

ในเมื่อเรือชั้นพุทธฯ ต้องปลดระวางไป  ผมขอเหมาว่าปลดหมดทั้ง 2 ลำก็แล้วกัน  และกว่าจะต่อเรือฟริเกตใหม่จากเกาหลี 2 ลำ กว่าจะครบคงร่วม 10 ปี   ระหว่างนี้เรือชั้นเบรเมน 2-4 ลำ มาใช้ก่อนผมว่าเป็นทางออกที่ดีน่ะครับ   สมมุติราคารวมค่าปรับปรุงให้ใช้งานได้ อาวุธบางส่วนเอาจากเรือเก่าที่ปลดหรืออาวุธมือสองจากเยอรมันลำล่ะ 150 ล้านเหรียญ   2-4 ลำก็ 300-600 ล้านเหรียญ ใช้งานต่อสัก 15 ปีน่าจะพอไหวน่ะครับ

    ผมคิดว่าเรือรบที่ติดอาวุธครบต้องมีให้เพียงพอและยามสงบใช้เป็นเรือตรวจการณ์ได้แม้จะมีค่าใช้จ่ายสูงก็ตาม  ส่วนเรือตรวจการณ์ต่างๆเวลารบจริงคงใช้ไม่ได้  ดังนั้นน่าจะโยกงบประมาณต่อเรือตรวจการณ์มาซื้อเรือรบมือสองน่าจะเหมาะกว่าครับ

ลงข้อมูลใน กองเรือฟริเกตที่ 1 ด้วยครับ...

ก็น่าจะเป็นไปตามแผนฯ การปลดระวางครับ...

ในความเห็นส่วนว่า...ตอนแรก คาดว่า...น่าจะรับ OHP...เพราะมัน สมเหตุ สมผล ดี...ที่เรือไม่เพียงพอใช้...

แต่ตอนนี้ มันจะกลับกลาย เป็นเรื่องหนุน การจัดหา เรือดำน้ำ จีน...ไป ซะงั้น...5 5 5 5 5 

ซึ่งผมคิดว่า...การปรับปรุงเรือ OHP ไม่น่าจะเกิน 200 ล้านเหรียญ รวม 2 ลำ...หรือ อาจจะอยู่ประมาณ 160 ล้านเหรียญ

แผ่นภาพที่ทำไว้ในกระทู้ MEKO-D ครับ

เปรียบเทียบ เรือผิวน้ำที่มีความสามารถปราบเรือดำน้ำ กับ เรือดำน้ำในภูมิภาคนี้

กรณี ไม่รับ OHP เข้าประจำการ

ซึ่งก็มีข่าวว่า ร.ล.พุทธเลิศหล้าฯ ปลดในปี 2558 ในแผ่นภาพจะไม่มีชื่อ ร.ล.พุทธเลิศหล้าฯ ในปี 2559

ส่วนปืน ฟาลังซ์....ไม่แน่ อาจจะได้เห็นใน ร.ล.รัตนโกสินทร์ ก็ได้ นะครับ...เดาเอง...

เพราะในปีนี้ ร.ล.รัตนโกสินทร์ จะเริ่มทำการซ่อมบำรุงใหญ่ มีการจัดหาเรดาร์ X-Band ใหม่ ให้กับเรือหลายลำ...ประกอบกับ เป็นเรือรบ ที่สั่งซื้อจาก สหรัฐ ด้วยอีก...และตามแผนเดิมฯ ก็จะมีการติดตั้ง ฟาลังซ์ ในท้ายเรือด้วย...

ซึ่งเรือชุดนี้ น่าจะประจำการไปอีกนาน...เห็นว่า...เพิ่งสั่งซื้อ เอสปีเด้ ใหม่ มาอีกจำนวนหนึ่ง เพื่อทดแทน ของที่ใช้ฝึกยิงไป...

การขอสหรัฐ เพื่อใช้งาน ฟาลังซ์...น่าจะเป็นไปโดยง่าย...

และตามแผนฯ ในปีนี้ ควรจะได้เห็น เรือชุด นเรศวร ชุดอัพเกรด ด้วยเช่นกัน...แต่ยังไม่เห็น..แวว...

ต่อเรือไม่น่าจะถึงสิบปีนะครับ ถ้านับจากเริ่มลงมือแล้วห้าปีก็เยอะเกินแล้วนะผมว่า เพราะอย่างเรือขน บ. สหรัฐฯ วางกระดูกงูจนถึงบรรจุเข้าประจำการยังไม่ถึงสิบปีเลยครับ แต่ถ้านับว่าเมื่อไรของเราจะได้ประจำการก็ไม่แน่ เพราะยังไม่รู้ว่าเรือเราจะเริ่มวางกระดูกงูเมื่อไร 

ทำไมมันรู้สึกเอวังๆ ยังไง 555

อืม ผมมีความเห็นต่างเรืองซื้อเรือมือ2นะครับ คือตอนนี้เราสามารถต่อOPVกระบี่ได้แล้ว แต่นังต่อที่เหลือไม่ครบตามจำนวน ซึ่งน่าจะพัฒนาเรือลำหลังให้สามารถต่อต้านเรือดำนำ้ได้ เรือผิวนำ้ของเรากำลังก้าวข้ามไปสู่การพึ่งพาตนเองคงจะไม่ย้อนกลับไปซื้อเรือมือ2นะครับ ส่วนรือดำนำ้ มองว่าการซื้อเรือมือ2มาฝึกใช้ก่อนน่าจะเหมาะสมที่สุด ที่น่าสนใจคือเช่า/ซื้อSödermanland classที่มีอยู่2ลำซึ่งจะปลดในปี2018มาใช้ก่อน ซึ่งเรือรุ่นนี้สิงคโปรก็ใช้อยู่ ราคาที่ได้ถูกกว่า209ประมาณ250ล้านเหรียญต่อลำซึ่งถือว่าถูกมาก ถ้าใช้ได้ซัก15-20ปีแล้วค่อยว่ากันเรื่องเรือใหม่

ทราบจากนายช่างที่ทำงานปรับปรุง รล.นเรศวร ล่าสุดติดตั้งโซนาร์เรียบร้อยแล้ว แต่งานยังล่าช้าจากแผนไปเล็กน้อย คาดว่าจะออกแล่นทดสอบได้ราวเดือน ส.ค. ปีนี้ ส่วน รล.ตากสิน ก็กำลังดำเนินการตามหลังมา (ช่วงเวลาห่างกันราว 4-6 เดือน)

สำหรับเรือฟริเกตสมรรถนะสูง (ที่ต่อโดย DSME) มีกำหนดการตัดเหล็กแผ่นแรกในช่วงกลางปีนี้ (มิ.ย. 58) ซึ่งตามสัญญาเดิมระบุระยะเวลาโครงการ 1,800 วัน ได้รับการขยายออกไปอีก 60 วัน "นับจากวันที่ลงนาม" (8 ส.ค. 2556) ดังนั้นทร.น่าจะได้รับมอบเรือใหม่ลำนี้ในราว ต.ค. 2561

เท่าที่ติดตามข่าวอยู่ สหรัฐอเมริกาเค้ายังไม่ได้ยกเลิกหรือตัดสินใจยกเรือ OHP สองลำให้ประเทศอื่นเลยนะครับ

แค่เผอิญว่าเรามีปัญหาภายในประเทศแล้วมีการรัฐประหาร เค้าเลยสั่งระงับเอาไว้ก่อนแค่นั้น (แต่ความหวังก็ดูหริบหรี่อยู่พอสมควร)

ส่วนเรือฟรีเกตใหม่ลำแรกน่าจะดำเนินตามแผนเดิมคือเสร็จสิ้นภายใน 5 ปีโดยเริ่มนับจากเมื่อปีที่แล้ว แต่ที่ผมยังส่งสัยอยู่คือ เรือลำที่สองนี่แหละมันจะเริ่มเอาตอนปีไหนกันแน่

โดยสถานการณ์ของกองทัพเรือแล้วดูจากแผนภาพของท่านจูดาสตามที่ผมเคยอ่านมาก่อนหน้า

บอกได้เลยว่ากองทัพเรือไม่น่าจะมีแผนจัดหาเรืออื่นๆมาทดแทนเรือชั้น Knox ของไทยเราสองลำแน่ๆ นอกเหนือจากเรือฟรีเกตใหม่จากเกาหลีทั้งสองลำ คิดว่าตามแผนการดังกล่าวน่าจะเป็นการจัดหาเรือมาทดแทนเรือเก่าที่หมดอายุการใช้งานมากกว่าการเพื่อกองกำลังของกองทัพเรือ แต่ที่จะจัดหามาเพิ่มแน่ๆเลยก็คือเรือดำน้ำ 2-3 ลำ อนุมัติจัดหาปีนี้แต่อนุมัติงบประมาณภายในปีหน้า 2559

ส่วนเรือOHP นั้นผมก็แอบหวังอยู่ในใจลึกๆถ้าได้มาก็ดี แต่ถ้าจะไม่ได้มาก็คงจะเป็นปัญหาเดิมๆเรื่อง เงินบวกกับการเมืองนั้นแหละ

ปัญหาในตอนนี้ก็คือ ถ้ามีเรือดำน้ำเข้ามาในพื้นที่หวงห้ามเราจะเอาอะไรไปตรวจสอบ เอาแค่หาหลักฐานได้แบบสวีเดนเท่านั้นก็พอแล้ว ก็เหลือเรือหลวงพุทธ1ที่มีของแรงพอจะทำได้เท่านั้นเอง เรือหลวงนเรศวรก็ยังไม่เสร็จ เรือDSMEอย่างน้อยก็อีก4ปี ส่วนเรือดำน้ำก็อย่างที่เห็น แล้วโอกาสที่เรือดำน้ำจะตรวจเรือดำน้ำด้วยกันเองได้ผมว่ามันก็ไม่ได้ง่ายเท่าไหร่เลย เฮลิคอปเตอร์ปราบเรือดำน้ำเราก็ยังขาด คือมันไม่พร้อมเลยซักอย่าง ส่วนเรือฟริเกตเก่าๆที่ติดโซนาร์ DSQS-21C ก็เหี่ยวเฉาไปตามสภาพแล้ว

เข้าใจว่าภาพอัพเดทล่าสุดแล้ว ซื้อเรือเบรเมนมันง่ายกว่าและเร็วกว่าซื้อเรือOHPนี่นา ถ้าเยอรมันขายพร้อมอาวุธยิ่งไม่มีปัญหาเพราะมันมาตราฐานทร. อยู่แล้ว แต่ถ้าขายเฉพาะเรือเปล่าเราก็เอามาติดเอาเองได้ง่ายมาก ปืน76/62 จรวดฮาร์พูน จรวดต่อสู้อากาศใช้แท่นยิงMK-29มือ2สำหรับESSM8นัดก็พอแล้ว  อยากประหยัดงบเอาSTIR180ของเก่าของเราไปอัพเกรดให้ควบคุมจรวดได้ ปืนรองใช้20มม.ไปก่อนก็ได้หรือถ้าติดDS-30Mได้(แท่นยิงมันอยู่ตรงสะพานเดินเรือ)ก็ติดแล้วเอามิราดอร์มาคุมปืนทั้ง3กระบอก ด้านท้ายเรือเอาฟาลังซ์ไปอัพเกรดแล้วติดเท่านี้พอแล้ว หาเฮลิคอปเตอร์ปราบเรือดำน้ำดีๆมาใช้ แต่ถ้าจะให้ดีคือซื้อsuper lynx ของเยอรมันนั่นแหละมีdatalinkกับเรืออยู่แล้ว โรงเก็บใส่ได้2ลำ โอ้ว! จะหาที่ไหนได้อีก เทียบกับOHPแล้วทำแบบที่ว่ามายากพอสมควรนอกจากใช้ของแพงแบบMK-41 VLS

แต่ที่สำคัญและแพงหน่อยประมาณ10ล้านเหรียญคือติดโซนาร์ Atlas Elektronik DSQS-24C ซึ่งเป็นมาตราฐานใหม่ของทร.เราจะได้มีเรือใช้โซนาร์เหมือนกันถึง6ลำในอนาคต ในช่วงนี้เรือฟริเกตปราบเรือดำน้ำฝั่งยุโรปที่ทยอยปลดประจำการคือ อิตาลี เยอรมัน และฝรั่งเศส จะซื้อจริงๆเขาขายทั้งหมดแหละแต่เยอรมันราคาไม่แพงเกินไปเมื่อเทียบกับอีก2ประเทศ

ประเด็นของผมคือ ปลดระวางเรือลำนี้ไปเท่ากับเราขาดเรือผิวน้ำขนาดใหญ่ไป1ลำซึ่งมันไม่มีทดแทน หันไปมอง36,000ล้านบาทที่พี่ใหญ่จะเอาไปช๊อปแล้วมันห่อเหี่ยวใจยังไงพิกล

STIR เอาไปแลกกับ Mirador ครับ...ตามข้อมูลที่หามาได้ครับ...ถ้าจำไม่ผิด (ขี้เกียจหาไฟล์) ได้มาประมาณ 9 ระบบ...

ดูก็เหมือนดีครับ...แต่ขณะเดียวกัน ที่ไปหาข้อมูล...Mirador...ก็มีค่าใช้จ่ายซ่อมบำรุง หรือ อะไหล่ที่ต้องสำรอง...ไม่น้อยเหมือนกันครับ...

ส่วนเรือฟริเกต มือสอง...

ต้องใช้การ Refurbise ดี ๆ หรือให้เต็มที่ครับ...จะครึ่ง ๆ กลาง ๆ ไม่ได้เหมือนกัน...

มีตัวอย่างคือ ร.ล.พุทธเลิศหล้าฯ นี่ปลด เนี่ยล่ะครับ..เป็นตัวอย่างที่ดี...

ร.ล.พุทธยอดฟ้าจุฬาโลก เป็นเรือที่ สหรัฐ ส่งมอบให้ ขณะที่ปลดประจำการ ก็ส่งมอบให้เลย แบบ Hot Tranfer

ส่วน ร.ล.พทธเลิศหล้าฯ เป็นเรือที่ปลดระวาง ไปก่อนหน้านี้ 2-3 ปี ถอดอาวุธตามปกติ...ซึ่งต้องทำการ ซ่อมทำเต็มที่ครับ...

แต่...ในขณะนั้น...เกิดวิกฤติเศรษฐกิจ...ทร. ไม่มีเงินชำระค่าซ่อม...เรือลำนี้ เลยส่งมอบช้าไป 2-3 ปี คือมาที่หลัง ร.ล.พุทธยอดฟ้าฯ หลายปี...สุดท้ายน่าจะชำระได้บางส่วน และ สหรัฐ จึงใช้วิธีช่วยเหลือแบบให้เปล่าในคราวหลัง...ซึ่งน่าจะทำการซ่อมได้แค่ระดับหนึ่งเท่านั้น...(น่าจะคล้ายกับ กรณี A-7)

ร.ล.พุทธเลิศหล้าฯ  จึงเป็นเรือมือสองที่...มาที่หลัง แต่ ปลดระวาง...ก่อน...

ซึ่ง เรือมือสองของ เยอรมัน น่าจะแบบเดียวกันครับ...ต้องใช้ งบซ่อมบำรุงแบบ อัดเต็มที่ ตั้งเป้าหมายใช้สัก 20-25 ปี เพราะมันจะเหมือนทำการ โอเว่อร์ฮอล ใหม่หมด มีแต่ โครงสร้างเรือที่ไม่ต้องซื้อเท่านั้น...ซึ่งผมว่า ลำหนึ่ง ก็น่าจะไม่ต่ำกว่า 150 - 200 ล้านเหรียญ ต่อลำ (เหมือนที่ อิตาลี่ เสนอ เรือมือสองให้ ฟิลิปปินส์) 

ซึ่งจะแตกต่างจาก U-206A ซึ่งมันจะคล้าย ๆ Hot Transfer แบบ ร.ล.พุทธยอดฟ้าฯ เช่นเดียวกันครับ...คือ เรือยังใช้งานอยู่...แล้วเยอรมัน ซ่อมปรับสภาพให้ ก็จะมีอายุใช้งานที่นานขึ้น...แต่ถ้า U-206A จอดแช่ไว้ ไม่ได้รับการดูแล เสมือนยังใช้งานอยู่ ก็เหมือนกับการ ยกเครื่องใหม่ ครับ...ได้แต่ โครงเรือ ซึ่งค่าใช้จา่ย คงไม่ได้ถูกเหมือนกัน...

ที่เชียร์ OHP ก็เพราะมองดูว่า...ทร. จะเสียแค่ การบำรุงซ่อม ปรับสภาพ เครื่องยนต์ กับ โครงสร้างบางส่วน เท่านั้น...ระบอาวุธ ก็มาพร้อมกับเรืออยู่แล้ว...ในความเห็นส่วนตัวว่า...งบประมาณจัดหา OHP พร้อมใช้ กับ เรือ เบรเมน พร้อมใช้ น่าจะต่างกัน เท่าตัว เช่น OHP ใช้งบประมาณ 200 ล้านเหรียญ...เรือ เบรเมน อาจจะใช้งบประมาณ 400 ล้านเหรียญ เป็นต้นครับ ในอัตราจำนวน 2 ลำ เท่ากัน ครับ...เป็นมุมมองของผมน่ะครับ...ไม่ได้มีหลักอ้างอิงอะไรครับ...

อืม... ส่วนตัวมองในด้านยุธฯ คือเราแค่เสียหมากเดินเกมไป1 หรือ2 เนี้ยละ

ถ้า ทร.คิดจะปลด ทร.ครงต้องว่างแผนมาบ้างแล้วละครับ หากเกิดเหตุจะทำยังไง ผมว่าไม่น่าเป็นห่วงมากเท่าไร

และถ้าเหตุนี้สามารถใช้อ้างให้ ยัดเรือดำน้ำจีนให้ ทร.ได้ ผมว่า ทร.ก็ครงจะหาเหตุอ้างว่า รถถังของ นย.ก็ใช้ไม่ได้แล้วเช่นกัน ขอซื้อก่อนเรือดำน้ำจะได้ไหม หรืออะไรก็ว่าไป 

เรื่องเรือมือ2ช่างมันเถอะท่านจูดาสเดี๋ยวจะยาว มันเป็นความฝันในฤดูร้อนของผมเท่านั้นเอง ทร.ไทยจะมีเรือฟริเกตตามแผน8ลำก็คือ ชั้นนเรศวร2ลำ เจียงหู4ลำ และDSMEอีก2ลำ เอาไงเอาตามกันพูดไปก็เท่านั้น

แต่ที่ผมอยากรู้ก็คือจะทำอย่างไรกับเรือหลวงพุทธเลิศหล้านภาลัย  ไม่ชอบที่สุดคือเอาไปทำเป้าทดลองยิงจรวดแบบเรือชั้นเรือหลวงตราดบางลำ ไม่ชอบรองลงมาคือจมลงไปแล้วค่อยกู้ขึ้นมาภายหลังแบบเรือหลวงโพธิ์สามต้น ผมเองรู้สึกผูกพันกับเรือรบที่รู้จักเป็นส่วนใหญ่ แม้กระทั้งเรือหลวงหัวหินผมยังชอบมากเลย ไม่อยากเห็นเรือเหล่านี้สูญหายไปคิดแล้วเศร้า

ที่ชอบที่สุดคือทำเป็นพิพิธพันธ์ลอยน้ำแต่คงไม่เกิดในเมืองไทย ชอบรองลงมาคือพิพิธพันธ์บนบกแบบเรือหลวงประแส แม่กลอง ชุมพร อะไรพวกนี้ แต่ก็ต้องมีจังหวัดใดจังหวัดหนึ่งเป็นเจ้าภาพในการดูแลเรือให้มีสภาพดีด้วย เรือฟริเกตชั้น KNOX ผมว่าสวยมากและมีครบทุกอย่างในเรือฟริเกตยุค70พึงมีจึงควรรักษาไว้ไปนานๆ ที่สำคัญเป็นเรือฟริเกตขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เราเคยมีคือ4,000ตันนิดๆ

มันก็คงเป็นปัญหา เรื่อง เมื่อทำเป็น อนุเสาวรีย์แล้ว...ไม่มีใครดูแล ไม่มีงบประมาณดูแล...เพราะเป็นเรื่องของ เอกชน...

เช่น ร.ล.ประแส ดู ๆ ก็ ทรุดโทรมมาก กลายเป็น เศษเหล็กตั้งอยู่ริมปากน้ำ...ปัจจุบัน ไม่รู้ว่า ทางเทศบาล บำรุงรักษา ปรับปรุงใหม่ หรือยัง...

หรือ เช่น ร.ล.ช้าง ลันตา ก็ตั้งรองบประมาณเทศบาล และระดมทุน ก็ยังไม่เห็นคืบหน้าไปไหนเหมือนกันครับ...จนสุดท้าย ผมว่า ก็คงถูกขายเป็นซากเศษเหล็ก แน่ ๆ...

ส่วนใหญ่ จะ ฮิต แค่ช่วงแรก ตอนที่ขอจาก ทร. ใหม่ ๆ...แต่หลังจากนั้น ก็ไม่มีใครดูแล...

ซึ่งถ้า เรา สมมติ มองโลกในแง่ดี การเป็น เรือซ้อมเป้า สุดท้าย มันก็กลายเป็น ปะการังเทียม ไป...

ตอนนี้ ก็คงรอดูว่า ร.ล.ปิ่นเกล้า สุดท้ายแล้วจะเป็นอย่างไร ต่อไป...จะมาตั้งเป็นอนุเสาวรีย์ภายใต้การดูแล ของ กองทัพเรือ เอง ที่ อู่ทหารเรือธนบุรี หรือไม่...ผมว่า มันก็ช่วยการท่องเที่ยวได้เหมือนกัน...ถ้าเอาจริง เอาจัง กับมัน เหมือน ร.ล.แม่กลอง...

เพียงแต่ เอกชน ที่รับเรือเอาไป ส่วนใหญ่ก็เป็น เทศบาล ไม่ใช่ เอกชน ที่มุ่งเป้าการตลาดจริง ๆ...

เรื่อง OHP ตอนนั้นตอนนั้นกลาโหมสหรัฐฯ ได้ลิสต์ชื่อประเทศไทยที่จะรับความช่วยเหลือเวลาทำเรื่องไปหาฝ่ายการเมืองหรือนิติบัญญัติเพื่อขออนุมัติ มีชื่อของเมืองไทยระบุอยู่ในเอกสารของ dsca แน่ๆ ซึ่งหลังจากผ่านสภาคองเกรสเดือนเดียวเราก็โดน รปห. เงิบเลย แต่ตัวผมเองไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่านะ แต่มีความรู้สึกว่าฝ่ายเราคงพยายามดันเรือฟริเกตใหม่และอาจจะกลัวการรับเรือ ohp มาปรับปรุงจะไปซ้ำซ้อนทำให้การจัดหาเรือฟริเกตใหม่โดนตีตกไป จึงเหมือนไม่ค่อยกระตือรือร้นยังไงไม่รู้ หรือกลัวโดนสื่อด่าว่ารับเรือเก่าเดี๋ยวเจ๊งไวอะไรทำนองนั้นหรือเปล่าก็ไม่ทราบ

ปล. ไปค้นหามาแล้ว ตอนนั้นจะมีการ transfer OHP แปดลำ ไปเม็กซิโกและไทยประเทศละสองลำ และขายแบบราคาเหมือนแจก(สิบล้านเหรียญหรือประมาณสามร้อยกว่าล้านบาท) ให้ไต้หวันสี่ลำ  ส่วนของไทยกับเม็กซิโกได้ฟรีครับและตอนนั้น hot transfer แน่นอน เพราะตอนนั้นทั้งสองลำยังไม่ได้ปลดประจำการ และคงไม่โดนถอดนู่นถอดนี่ออกเพราะอาวุธที่ติดก็ไม่ได้ล้ำกว่าที่เราซื้อมาติดชั้นนเรศวร ดังนั้นหากเรารับเรือตอนนั้นมากองทัพเรือจะปึ๊กขี้นเพียงชั่วข้ามคืน (เผลอๆ อาวุธครบมิติกว่าเรือที่เรามีทั้งทัพ) ยิ่งตอนนี้เรือธงเราเข้าอู่อัพเกรดทั้งสองลำแล้วก็เท่ากับความพร้อมรบตกฮวบ

https://www.congress.gov/bill/113th-congress/house-bill/3470 เอกสารจากประชุมครองเกรส

ถ้าเรือยังใช้ได้อยู่อีกเกือบ10ปี ก็รองไปถามข้างๆบ้านอย่าง กัมพูชาดูสิครับ ว่าสนใจไหม ถ้าสนก็ดีไป ไม่สนครงจะได้กลายเป็นเป้า ไม่ช้าก็เร็วครับ

ถ้าเครื่องไปไม่ไหวจริงๆ ก็ขายแค่ตัวเรือไปก็ได้ ขายแบบถูกๆไปเลย ผมว่าตัวเรือยังพอไปวัดไปวาได้อยู่บ้าง 

ถ้าเรือยังใช้ได้อีกเกือบสิบปีจะขายทำไมครับ ก็ใช้เองสิครับ ยิ่งมีไม่พออยู่

คือผมไม่ทราบว่าปัจจุบันเรือ ตายสนิทหรือยัง หรือยังใช้ได้อยู่ แต่ถ้าแค่เกือยใช้ได้10ปี ทั้งเรือยังมีสภาพทรุดโทรมแต่ไปวัดไปวาได้ ผมว่าขายไปยังดีกว่าเยอะ 

ผมมองว่าถ้าจะปลดเรือแล้ว ทร.ก็ครงจะมองภัย อะไรใว้บ้างแล้ว ว่าระดับไหน สู้เอาเรือไปขาย น่าจะได้ประโชยน์บ้าง เพื่อนบ้านมีเรือใช้ได้อีก10ปี ซ่อมเอาเองหรือเราจะซ่อมให้ระดับหนึ่ง ก็แล้วแต่ win-win ทั้งคู่(ถ้าเขายอมนะ) 

หรือจะเป็นเป้าซ้อมยิง ขีปนาวุธ ก็แล้วแต่ครับ แล้วกู้ซากมาเป็นอนุสรณ์สถาน ผมก็ไม่รู้มันจะคุ้มไหมนะ

เรือรบ คือ อาวุธ

หน้าที่หลัก คือ รักษาอธิปไตย /คุ้มครองผลประโยชน์ทางทะเล/ป้องปรามการเกิดสงคราม

............ให้เพื่อนบ้าน...ในกรณีที่กล่าวก่อนหน้ายกตัวอย่างกัมพูชา

กัมพูชามีเขตแดนทางทะเลติดไทย.....มีปัญหาเรื่องเขตแดนซ้อนทับทั้งทางทะเลและทางบก................ถ้าเรือยังใช้ได้ จะยื่นอาวุธให้เค้าทำไมครับ กลับมาดูว่า หน้าที่หลักเรือรบคืออะไร ถ้าขายให้ไปอะไรเกิดขึ้นเรือลำนี้จะกลับมาเป็นอันตรายกับประเทศหรือไม่

ต่อมา..เรือลำนี้เราได้รับความช่วยเหลือทางทหารจากอเมริกา........ จะขายถามคนให้มาละยังครับประเทศนี้ขึ้นชื่อเรื่องแทงกั๊กทั้งซื้อและขายอาวุธของเค้านะ

ผมเองก็ไม่แน่ใจนะ แต่เหมือนเคยได้ยินมาว่าเราจะขายพวกเครื่องบินปลดประจำการทั้งหลายให้กัมพูชาเช่นกัน แต่เมกาเขาไม่ยอมให้ขาย

นั้นแปลว่าเรามีสิทธ์ขาย เช่นกัน แต่ผมก็ไม่รู้อะไรนะ ว่าตกลงเรามีสิทธ์ขายไหม อีกอย่างแค่เรือลำเดียวผมว่าจะทำอะไรครงไม่ได้มาก ถ้าเราขายให้เขา เขาครงจะมองเราเป็นมิตรมากกว่า เป็นเหมือนการตีไมตรีอีกทางด้วย เช่นกัน ถ้าเกิดเหตุจำเป็นต้องรบ ปัจจุบันผมทราบมาแค่ว่ากองทัพเรือกัมพูชาไม่ได้มีกองทัพเป็นตัวเป็นตนเท่าไร จะทำอะไรเรา เขาก็ครงจะคิดเหมือนกัน

คือ กองทัพเรืออาจจะตัดปัญหาเรื่องการจัดหาเรือเพื่อทดแทนเรือ ชั้น Knox ยกให้เป็นหน้าที่ของเรือชั้นนเรศวรไป แล้วให้เรือฟรีเกตใหม่จาก เกาหลี มาทำหน้าที่แทนเรือชั้นนเรศวร หรือเปล่า(ความคิดเห็นโดยส่วนตัว)

เพราะกองทัพเรือเค้าต้องรีบเร่งผลักดันโครงเรือดำน้ำให้ได้ภายในปีสองปีก่อน ช่วงนี้คงจะไม่เอาภาระค่าใช้จ่ายอื่นๆมารบกวนโครงเรือดำน้ำอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นคิดว่าโครงการ OHP อาจจะไม่ได้เกิดในบ้านเราในช่วง 2-3 ปีนี้แน่ๆ

เรื่องการนำอาวุธของสหรัฐไปขายต่อให้ชาติอื่นนั้นไม่ได้อย่างแน่นอนครับ เป็นข้อบังคับของทางสหรัฐครับ เรื่องนี้รู้สึกเคยคุยๆกันในกระทู้เมื่อ 2 ปีก่อนลองค้นๆหาดูครับ 

  ขอบคุณมากครับท่าน  fatboy             สวัสดีวันปีใหม่ไทยครับทุกๆท่าน  

ถ้าตามข่าวที่ท่าน  fatboy  ให้มา     เป็นอันว่า  OHP  คงจะจบแล้วครับถ้าเป็นแบบนี้    เรือฟรีเกต  8 ลำ  ประกอบด้วยเรือชั้นเจียงหู  4  ลำ    เรือชั้น นเรศวร  2 ลำ  เรือฟรีเกตใหม่  2 ลำ   ครบ  8  ลำพอดี    

  ถ้าจะเป็นเรือผิวน้ำ   ก็คง  OPV  ภาระกิจ  ASW   คงต่อออกมาหลายลำ  55555   จนกว่าจะได้  OPV ครบ  9 ลำ   มี OPV ใหม่อยู่แล้ว  3  คงต้องต่อเพิ่มอีก 6  ลำ   สเปกน่าสนใจนะครับ   แหมอยากให้มี  K-VLS  สำหรับ  K-ASROC  ด้วยนะครับ   และเผื่อพื้นที่สำหรับติดตั้ง  TAS  สักระบบในวันข้างหน้าด้วยก็ดีนะครับ

   สรุปพวกเราคงไม่ได้เห็นเรือมือสองใน ทร. ไปอีกนาน

ขอบคุณครับท่านfatboy  เรือฟริเกต8ลำนี่ผมมั่นใจมานานแล้ว เพียงแต่อยากให้เผือใจไว้ในกรณีเรือฟริเกตDSMEมีปัญหาจนเข้าประจำการล่าช้าไปบ้าง หรืออาจจะล่าช้าไปหลายปีเลยแบบDW2000ของบังคลาเทศแล้วทีนี้จะยังไงกัน เราอยากจะประกอบเรือภายในประเทศด้วยไม่รู้ส่งผลอะไรกับการรับประกันหรือเปล่า เพราะอย่างที่รู้ว่าเครื่องไม้เครื่องมือในการต่อเรือรบของเรายังไม่พร้อมเท่าไหร่นัก

ถ้าOPV+ASW แปลว่าโครงการที่เหลืออีก3ลำก็ต้องล่าช้าออกไปอีกบ้าง เพราะต้องรอโครงการเรือดำน้ำจบก่อน แสดงว่าปีนี้น่าจะมีการต่อเรือM58จำนวน2ลำเพิ่มเติมใช่ไหมครับ ตามงบประมาณ1,400ล้านบาทที่ปรากฎ

ฟริเกต 8ลำ OPV 6ลำผมโอเคนะ แม้จะตะหงิดๆเรื่่องเรือคุ้มกันเรือหลวงจักรีแต่คงไปด้วยกันทั้งหมดและ เพียงแต่เรือเจียงหูของเรานี่อ่อนเรื่่อง ASW ,AAW และระบบอาวุธป้องกันระยะประชิดมากกกก.....จนถึงมากที่สุด เทียบกับเรือเพื่อนบ้านแล้วหนักใจแทนเลย แต่ถ้าภาระกิจระดมยิงชายฝั่งหรือเรือด้วยกันขอร้องอย่ามาแหย่ 100มม.4กระบอก + 37มม.8กระบอกไม่ใช่เพื่อนเล่นนะครับ ;)

ฟาลังค์นี่ ถ้าเราถอดไปให้เรือหลวงนเรศวร ได้ป่วครับ จะทำให้เรือหลวงนเรศวรมีระบบป้องกันตัวที่ดีขึ้น เราหมือนจะได้เรือฟรีเกตสมรรถนะสูงเพิ่มอีกสองลำเลยนะครับ 5555 (ถอดจากเรือหลวงพุทธยอดฟ้า มาให้ เรือหลวงตากสินด้วย)

ถึงคุณ akekolos ถ้าดูจากภาพเรือที่ท่านจูดาสเคยลงเอาไว้

จะเห็นว่าถ้ามีการอัฟเกรตเรือตามแผนจนแล้วเสร็จไม่น่าจะมีพื้นที่เหลือสำหรับวางเจ้า ฟาลังค์ แล้วครับ

ดูของจริงดีกว่า ได้satcomลูกใหญ่เหมือนเรือหลวงจักรี,DSME เลย    ตำแหน่งหลังโรงเก็บฮ.น่าจะรองรับฟาลังซ์ไม่ไหวและถ้าติดจริงๆน่าจะบังหมดเลยทั้งEOS500และCEROS200

แต่ผมว่าเรือหลวงนเรศวรมาได้ดีที่สุดและไกลที่สุดแล้ว เพราะพี่น้องเชื้อสายจีนที่หน้าตาคล้ายๆกันทร.จีนไม่ได้ให้ความสำคัญในการปรับปรุงเท่าไหร่เลย

ได้เห็นภาพเรือหลวงนเรศวรจากท่าน superboy แล้วบอกตามตรงดูโทรมเอามากๆ นี่คือเรือที่เพิ่งจะมีอายุการใช้งานมาประมาณ 15 ปี ซึ่งสภาพมันพอๆกันกับเรือชั้น knox ของเราที่มีอายุการใช้งานเกือบครึ่งศตวรรษ 

ถ้าเข้าซ่อมใหญ่งวดนี่ผมอยากให้พ่นสีเรือใหม่ทั้งหมดเลยครับ

ขัอมูลของทัพเรือ  ในสายตา ประชาชนคนหนึ่ง  ยอมรับหน้าเป็นห่วง

    เรือฟรีเกต สภาพไม่พร้อมรบตอนนี้มีถึง 4 ลำ

             เรือรบในชั้น Knox ร.ล.พุทธยอดฟ้าจุฬาโลก (ไม่รู้สภาพพร้อมรบเท่าไร)  ขณะที่ปลดประจำการ  ร.ล.พทธเลิศหล้าฯ 

             เรือรบในชั้นนเรศวร ก็อยู่ระหว่างการปรับปรุง ทั้ง 2 ลำ (กว่าจะทดสอบ และอยู่ในพร้อมรบ น่าจะใช้เวลา อีกเป็นป๊)

             เรือ OPV ของเราก็ไม่มีอาวุธที่เป็นหมัดหนักเลย

             เครื่องบินตรวจการณ์ปราบเรือดำน้ำ ก็ปลดประจำการ

            สถานการณ์ช่วงนี้ ยังดี ที่ ทอ.มีความพร้อมรบทางทะเล  ต้องอาจใช้กองทัพอากาศเข้าช่วย  โดยใช้ Jas39 cd  ติดอาวุธโจมตีทางทะเล  พร้อมบินเตือนภัยทางอากาศ ที่มีอยู่ 2 ลำ 

คิดว่าน่าจะทาสีใหม่ทั้งลำแน่ครับท่านWoot1980  เพราะแค่จ้างซ่อมทำรู Tie-Down และสีพื้นดาดฟ้าเฮลิคอบเตอร์ ร.ล.ตากสิน จำนวน 1 งานก็ใช้งบ5.99ล้านบาทแล้ว อยากเห็นสภาพเรือชัดๆเข้าไปดูได้ครับ แต่บอกไว้ก่อนว่าเรือใช้งานเป็นแบบนี้ทุกลำมากหรือน้อยเท่านั้นเอง

http://thaidefense-news.blogspot.com/2015/04/4.html

ตำแหน่งที่ ติดตั้ง Satcom นั้น จะใช่ ตำแหน่งเดียวกับที่เคยจะติดตั้ง ระบบเป้าลวง Sagem หรือเปล่า ?

ที่ต่อมา เปลี่ยนมาเป็น Terma แทน เพราะด้วยเหตุผลว่า จะเป็นอุปสรรค กับการใช้งานของ เฮลิคอปเตอร์...

แล้วมันไม่บดบัง EOS-500 บริเวณแนวท้ายเรือ...หรือนั่น ?

อนาคตของเรือก็ยังพอมีความหวังที่ปลายอุโมง อาทิเช่นข่าวนี้

http://www.frigate1.com/index.php/th/generalnews/212-2015-03-07-05-25-13

ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงครามเยี่ยมชม ร.ล. พุทธเลิศหล้านภาลัย
นายปัญญา งานเลิศ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม เดินทางมาเยี่ยมชม ร.ล. พุทธเลิศหล้านภาลัย เพื่อประกอบ การพิจารณานำเรือไปใช้ประโยชน์เป็นแหล่งเรียนรู้ หรือแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ ของจังหวัดสมุทรสงคราม หลังจากที่ ร.ล. พุทธเลิศหล้านภาลัย ปลดประจำการ โดยมี นาวาเอก ศิลป์สมุจจ์ ปัญจะ ผบ.มว.เรือที่ ๑ กฟก.๑ ให้การต้อนรับ ณ ท่าเรือจุกเสม็ด อ.สัตหีบ จว.ชลบุรี เมื่อวันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๕๘

แต่โดยส่วนตัวไม่แน่ใจว่าสมุทรสงครามจะไหวไหม เพราะเรือลำใหญ่มากจึงมีค่าใช้จ่ายในการดูแลเรือเยอะพอตัว ที่คิดว่าได้แน่และเหมาะสมดีก็คือเมืองพัทยา เนื่องจากมีงบเยอะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเยอะจึงน่าจะมีคนเข้ามาเที่ยวเยอะกว่าที่อื่นๆ ใช้เรือเป็นจุดท่องเที่ยวใหม่เพื่มขึ้นอำนวยความสะดวกให้เขาหน่อยก็น่าจะมีเงินเลี้ยงตัวเองไหว ทหารเรือและนาวิกโยธินอเมริกาก็มาอยู่บ่อยๆไม่แน่อาจดังก็ได้นะเออ

มีความเป็นไปได้ไหมครับที่จะปรับสภาพเรือหลวงพุทธเลิศหล้าฯ ไปใช้เป็นเรือฝึกนักเรียนนายเรือ

ถ้าไม่ได้ เพราะเหตุใดครับ ถอดฟาลังค์ออก เหลือแค่ปืนเรือ แท่นยิงตอปิโด เรดาร์ แค่นี้พอไหวไหมครับ

คือสภาพเรือหลวงพุทธเลิศฯที่มันต้องปลดประจำการ ที่พูดถึงกันอยู่เนี่ยเค้าหมายถึงเรื่องเครื่องยนต์ครับ คือเครื่องยนต์บนเรือชั้น knox มันใช้เครื่องเทอร์ไบร์ไอน้ำ ซึ่งมันมีอายุการใช้งานที่ไม่สามารถจะทำการซ่อมหรือจัดหาอะไหล่มาเปลี่ยนได้แล้วครับ คือมันโบราณมากเกินไปแล้ว ไม่สามารถเอาไปทำอะไรต่ออย่างอื่นได้อีกแล้วครับคุณ Delete

ซึ่งจริงๆผมเองก็รู้สึกเสียดายตัวเรือรบอยู่เหมือนกัน สภาพโดยรวมผมว่ามันยังดูดีกว่าเรือ ชั้นนเรศวรที่ต่อจากจีนเสียด้วยซ้ำขนาดอายุของเรือปาเข้าไป สีสิบกว่าๆแล้ว (รวมที่เคยผ่านการใช้งานจากอเมริกาด้วยนะ)

มีปัญหาเรื่องเครื่องยนต์ แล้วถ้าเปลี่ยนเครื่อง เอาเครื่องอื่นมาใส่แทน ทำไม่ได้หรือครับ

ไม่ต้องเอาอะไรมาก แค่พอใช้ฝึกได้ก็พอ 

หรือต้องได้รับความเห็นชอบจากเจ้าของเดิม(ให้เรายืมใช้) ว่าจะทำอะไรกับมันต้องได้รับความยินยอมรึป่าว

ประมาณนั้นเลยครับ ห้ามขาย ห้ามแก้ไขใดๆทั้งสิ้น

การเปลี่ยนเครื่องเรือทำไม่ได้ง่ายๆครับ แล้วก็ต้องพิจารณาด้วยว่า เปลี่ยนแล้วมันจะดีเท่าเดิมรึเปล่า

ยิ่งเรือชั้นKnoxที่มีหม้อน้ำอยู่กลางลำบริเวณแนวน้ำ-ใต้แนวน้ำด้วย นี่ยิ่งเรื่องใหญ่.....ต้องรื้อส่วนบนของเรือออกหมดล่ะครับงานนี้ แถมเห็นว่าไต้หวันเคยจะลองยัดใส่Knoxที่ตัวเองมี(หรือลองไปแล้วหว่า) แล้วไม่เวิร์ค

พอดีได้ไปคุยกับทหารเรือท่านนึงที่เข้าร่วมพิธีปลดมา เข้าจะว่ามีอนาคตในระดับนึงแล้วครับเรื่องที่จะไม่ทิ้ง

ดูข้างในเรือพุทธ2ปัจจุบันเทียบกับเรือนเรศวรตอนช่วงเริ่มเข้าอู่ปรับปรุงแล้ว.....บอกได้เลยครับว่าอเมริกากับจีน ฝีมือคนละเรื่อง เรือมือสองอายุสี่สิบห้าสิบปี สภาพภาพในดันดีกว่าเรือมือหนึ่งอายุไม่ถึงยี่สิบปี เหล็กตัวเรือก็บาง ต้องตัดเปลี่ยนหรือแปะทับกันจนจะกลายเป็นต่อใหม่กันแล้วครับ

ไม่ค่อยเห็นด้วยครับ กับการจัดซื้อเรือมือสอง หรือปรับปรุงคืนสภาพเรือ มาใช้งานทดแทนเรือหลวงพุทธเลิศล้า หรือ พุทธยอดฟ้า ผมมองไปที่ต่อ opv ให้ครบตามจำนวนที่ต้องการจะดีกว่า ส่วนซากเรือถ้าขายเป็นเศษเหล็กได้ก็ขายเถอะครับ (ถ้าไม่มีข้อตกลงห้ามขายซากหรือแปลงชิ้นส่วนกับอเมริกานะครับ)  เก็บไว้บางทีดูเป็นภาระเปล่าๆ เงินที่ขายหรือจะนำเหล็กไปรีไซเคิลปรับปรุงสภาพนำมาสร้างเรือใหม่ (ถ้าทำได้ก็น่าจะดี) ส่วนอาวุธจะนำไปอเด๊ปติดเรือลำไหนที่ยังประจำการอยู่และมีความเหมาะสม ก็น่าจะพอใช้งานได้อยู่นะครับ ในส่วนเรือดำน้ำผมสนับสนุนครับว่าควรจะมี(แต่ไม่สนับสนุนเรือดำน้ำของจีนนะครับ แต่ถ้าเป็นเรือดำน้ำมือสองจากสวีเดน หรือ เยอรมันนี้ยังพอยอมรับได้ ถ้าเป็นมือหนึ่งได้ยิ่งดี) เห็นชอบให้ซื้อวันนี้อีกไม่ต่ำกว่า 3-5 ปี นั่นแหละถึงจะได้ใช้กว่าจะพร้อมรบก็อีก 5 ปี รวม 10 ปี ถึงตอนนั้นเวียดนามคงใช้เรือกิโลได้ชำนาญแล้ว พม่าก็คงอาจจะมีเรือดำน้ำไปแล้ว อย่าลืมกัมพูชาก็มีสัมพันธ์อันดีกับเวียดนาม ไทยจะทำอะไรก็คงต้องเกรงใจเรือดำน้ำของเวียดนามบ้าง การถ่วงดุลยภาพทางทะเลก็มีส่วนสำคัญในการดูแลต่อรองผลประโยชน์ของประเทศครับ มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดฯ คงไม่ต้องไปพูดถึงเค้า ใช้งานได้คล่องแคล่องแล้ว ทร.ไทยจะได้รบหรือดูแลผลประโยชน์ฯได้ครบ 4 มิติ สักที    

เคยทำแผ่นภาพไว้ในกระทู้ กองทัพเรือ ซื้อ ฮ. Super Lynx

ประมาณการ คาดหมาย ในปี  2565 สำหรับ เรือ OPV ที่มีความสามารถปราบเรือดำน้ำ ที่น่าจะมาทดแทน เรือชุด ตาปี และ ร.ล.มกุฎฯ

แต่ในขณะเดียวกัน ก็ทำแผ่นภาพ เปรียบเทียบว่า...กับ การมี OHP เข้าประจำการ