ช้าหน่อยนะเพราะลงรูปตรงๆไม่ได้ เดี๋ยวต้องปรับขนาดก่อนใจเย็นๆ คุยกันเล่นไปก่อนนะ
ขอบอกก่อนเลยว่า
ภาพทั้งหมด ถูกอัพโหลด ใน April 8,2015 โดย Victor Dashkiyeff
ณ https://www.flickr.com/photos/128792274@N04/with/17072321242/
ได้อธิบายใต้ภาพว่า 'Just born': the newest Ukrainian main battle tank 'BM Oplot' - ะะพะฒะตะนัะธะน ัะบัะฐะธะฝัะบะธะน ะพัะฝะพะฒะฝะพะน ะฑะพะตะฒะพะน ัะฐะฝะบ "ะะ ะะฟะปะพั"
ขอบคุณเพจ สมาคมนิยมอาวุธรัสเซียที่แบ่งปันข้อมูล
ถ้าใครยังไม่จุใจ ผมแนะนำจิ้มไปที่เว็บต้นฉบับเลยครับ ภาพอย่างโคตรเยอะ
ภาพชุดที่ 2
ภาพชุดที่ 3
ภาพชุดที่ 5
ภาพชุดที่ 6
ภาพสุดท้ายคล้ายกับว่ามีพลังงานบางอย่างซ่อนอยู่ในภาพนี้
ภาพจากสนามทดสอบ... จำอาคารที่ด้านหลังได้ ส่วนจะส่งมอบให้ใครก็ต้องรอดูกันต่อไป
ถ้าเป็นอย่างที่ผมคิด ถ้ามาเดือน ธ.ค. ก็รับไปเลย 25คัน!!! แต่เดียวก่อนเรามีข้อเสนอให้ ถ้าคุณกดสั่งซื้ออีกภายใน10นาที่นี้ รับไปเลย แผ่นเกราะกันระเบิด3ชั้นคุณภาพดีเยียมจาก ยูเครน
(โอ จ็อดมันยอดม็าก)
//พอดีนั้งดูทีวีไดเล็กอยู่นะครับ
ตามภาพ น่าจะเป็นช่วงปลายปีที่แล้ว
ซึ่งตรงกับข่าวที่ว่า ยูเครน จะส่งมอบให้อีก 5 คันในช่วงเดือน พฤศจิกายน 2557
แต่ก็เงียบหายไป....จนถึงปัจจุบัน ครับ...
แผ่นภาพ บันทึกช่วยจำ โครงการ รถถัง OPLOT
ตกลง ไทย ควรจะได้รับ OPLOT จำนวน 49 คัน หรือ 54 คัน ? เพราะมติ ครม. คือ 54 คัน...
ซึ่งน่าจะตีความหมายว่า ยูเครน ขาย 49+5 = 54 คัน
และ OPLOT จำนวน 5 คันแรกที่ส่งมอบให้นั้น น่าจะหมายถึง OPLOT ที่บวกให้ 5 คัน สำหรับ เพื่อฝึกและศึกษา...(น่าจะเป็น LOT ที่ ผลิต เพื่อเป็นตัวอย่าง)
ถ้าเป็นตามที่อ้างถึงข้างตัน...เท่ากับ ยูเครน ยังไม่ได้ส่งมอบ OPLOT ที่ต้องผลิตให้ ไทย เลย...สักคัน ?...
ทั้งหมด49คันครับ ตัวเลข54มาจากไหน
ถ้าดูจากเอกสารที่นำมาแสดง 3 ตัวที่ผ่านคัดเลือก K1A1 , T-90s , OPLOT แน่นอนว่า OPLOT นั้นน่าจะทันสมัยที่สุดแล้ว ส่วนเรื่อง 49 หรือ 54 คันผมก็ว่าเคยได้ข่าวว่า 5 คันแรกจะเป็นรถสำหรับเรียนรู้ระบบและรถฝึก รวมกับออเดอร์จริงๆ อีก 49 เป็น 54 อันนี้เคยเห็นผ่านตามาหลายสื่อนะ
มันมาแย่เอาตรงที่เกิดปัญหาสงครามนี่แหละ เลยไม่ได้รถซักที เคยอ่านบทความของต่างประเทศ บอกว่าโรงงานที่ คาคิฟ นั้นต้องรับศึกหนักมากแค่สัปดาห์แรกของการปะทะ ก็มีรถถัง T-64 เสียหายเข้ารอซ่อมถึงกว่า 80 คันแล้ว แรงงานในโรงวานตอนนี้ก็เหลือแค่ 10% จากกำลังการผลิตสูงสุด ในยุคโซเวียตที่มีแรงงานในโรงงานถึง 60,000 คน ตอนนี้เหลือแค่ประมาณ 5,000 คน แถมเหลือแต่แก่ๆ ซะด้วยไม่แปลกที่มันจะช้าเลย ผมว่างานนี้มันก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออกกันทุกฝ่ายนั่นแหละ
54 คัน ก็เอามาจากในข่าวแหล่ะครับ...
ข้อมูลทั้งหมด เอามาจากข่าวทั้งนั้นครับ...ไม่มี มโน...
ที่มี มโน ก็คงเป็น ที่ว่าจะมา พฤศจิกายน นั่นแหล่ะ...ที่เป็นข่าวจาก เฟสบุค...
พิมพ์ว่า ครม. อนุมัติ รถถัง 54 คัน ลงในกูเกิ้ล ครับ...วันที่ 3 หรือ 4 พฤษภาคม 2554...
การจัดหน่วยรถถัง...1 กองพัน จะประกอบด้วย รถถัง 51 คัน...
คือ 3 กองร้อย + 3 ผบ.พัน/รอง ผบ.พัน/นายทหารยุทธการ
1 กองร้อย ประกอบ 3 หมวด + 1 ผบ.หมวด = 16 คัน (1 หมวด = 5 คัน)
16 x 3 = 48 คัน + 3 = 51 คัน
และปกติ ต้องมีให้ รร.ม.ศม. อีกจำนวนหนึ่ง
ดังนั้น จำนวน 54 คัน ดูจะมี เหตุ-ผล กว่า 49 คัน ครับ...เพราะจำนวน 49 คัน นี่จะหมายถึง จะไม่มีให้ รร.ม.ศม. เลย...
ตามมติครมคือจัดหา49คันส่งมอบภายในปี58ครับ ส่วน54 น่าจะเป็นการสับสนจากข่าวที่ว่า จะส่งมาให้ใช้ฝึกก่อน5คัน ถ้าสังเกตุดูรถล๊อคแรกตีตรา พล ร 2 รอ
นสพ.น่าจะทุกสำนักฯ ก็ลง 54 คัน นะครับ...
แต่คงจะเป็นเงื่อนไข คือ ทำสัญญา 49 คัน แต่ส่งมอบให้ 54 คัน โดย 5 ค้น คือ ของแถม ครับ...แต่โดยรวม ในการขออนุมัติ ควรจะเป็น 54 คัน หรือเปล่า ? ...แม้แต่ FB ของวาสนา นาน่วม ก็ยังมีข้อมูลเป็น 54 คัน ในช่วงก่อนอนุมัติ...
เพราะอย่าลืม OPLOT คือ ม้ามืด ที่มาที่หลัง ชาวบ้าน เขา...
และด้วยเหตุ การผิดนัดการส่งมอบ ตั้งแต่เริ่มแรก...ตั้งแต่ปี 2556...อะไร ๆ ก็เป็นไปได้ทั้งนั้นครับ...จะเอาของแถม ตีตรา ของส่งมอบ ก็คงมองได้น่ะครับ...ใครจะรู้ครับ...ตราที่ตี คงพิสูจน์อะไรไม่ได้ครับ...หรือเพื่อพราง ก็เป็นเรื่องปกติ...
ก็เลยเป็นคำถาม ครับว่า...ตกลง ดีล นี้ ควรจะได้ 49 คัน หรือ 54 คัน ?
ตามข้อมูลที่ผมสรุปในแผ่นภาพ ก็คือ ข่าวในช่วงแรกของการส่งมอบล่าช้า...ตัวเลข ยังอยู่ที่ 50 กว่าคัน ขึ้นครับ...ตามข่าวครับ ปี 2556
เร่งส่งมอบในเดือน พ.ค. ก่อน 4-5 คัน ส่วนอีกกว่า 50 คัน จะส่งมอบให้หมดภายในปี 2558 ครับ...ตัวเลขยังอยู่ที่ 54 คัน ครับ...
"บิ๊กตู่" เผยเร่งยูเครนส่งรถถังOPLOT ชุดแรก 4-5 คันช่วงพ.ค.นี้ ระบุนำมาฝึก-ศึกษาก่อน ยันกองทัพจัดซื้อยุทโธปกรณ์ทุกอย่างโปร่งใส ย้ำรถถังยูเครนมีสมรรถนะ-ราคาเหมาะสม
วันนี้ (4 ม.ค.) ที่ศูนย์การทหารม้า ค่ายอดิศร จ.สระบุรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. เป็นประธานเนื่องในวันทหารม้า ซึ่งได้มีการนำรถถังและรถสายพานลำเลียงทุกรุ่น ที่เข้าประจำการของกองทัพบกมาจัดแสดง โดย ผบ.ทบ.ได้นั่งรถถังโบราณรุ่นเรโน ซึ่งมีอายุ 74 ปี และปลดประจำการไปแล้วเข้ามายังบริเวณพิธี พร้อมทั้งได้กล่าวให้โอวาทกำลังพลว่า ทหารม้าถือเป็นกำลังหลักของกองทัพบก มีส่วนสำคัญในการรักษาอธิปไตยมาตั้งแต่อดีต ซึ่งสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชถือว่าเป็นพระบิดาของทหารม้า ขอให้เจ้าหน้าที่ทุกคนมุ่งมั่นปฏิบัติราชการด้วยความรักความสามัคคี และสร้างให้กองทัพบกเป็นกองทัพที่มีศักยภาพ นำพาประเทศชาติให้รอดพ้นจากภัยคุกคาม ตนภูมิใจที่ได้มายืนอยู่ท่ามกลางเหล่าทหารม้า
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการจัดซื้อรถถัง OPLOT จากประเทศยูเครนเข้ามาประจำการว่า หลังจากที่รัฐบาลอนุมัติงบประมาณให้กับกองทัพ ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการประกอบชิ้นส่วน และขั้นตอนการผลิตทั้งหมด ซึ่งต้องใช้เวลาสักระยะ แต่จากการที่ได้กำหนดแผนงานเอาไว้ คือ รัฐบาลยูเครนจะทยอยส่งรถถังให้กับกองทัพในระหว่างปี 2557-2558 ซึ่งจากการได้พูดคุยกับรัฐบาลยูเครน ตนได้ขอให้เร่งให้ส่งมอบเร็วขึ้น โดยในกลางเดือนพ.ค ปี 2556 นี้ ทางยูเครนจะส่งมอบรถถังให้ประมาณ 4-5 คัน เพื่อนำมาใช้ในการฝึกและศึกษา ก่อนที่จะทยอยส่งรถถึงทั้งหมดกว่า 50 คันให้แล้วเสร็จภายในปี 2558 และจากการที่ตนได้ไปดูงานที่ยูเครนก็ได้เห็นถึงความเข้มแข็งและสมรรถนะของรถถึงรุ่นดังกล่าว ซึ่งมีความน่าเชื่อถือ สามารถยิงเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ
"รถถังที่ประจำการอยู่ในกองทัพปัจจุบันส่วนใหญ่จัดหามาจากทางตะวันตก ซึ่งกองทัพบกเองก็มีความต้องการ แต่ไม่สามารถจัดซื้อได้ เนื่องจากมีราคาสูง ดังนั้นจึงต้องจัดซื้อจากประเทศยูเครนที่มีสมรรถนะและราคาที่รับได้ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่ากองทัพจัดซื้อยุทโธปกรณ์ทุกอย่างโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของชาติเป็นหลัก" ผบ.ทบ.กล่าว.