batt  lithium  ion  มีข้อดีกว่าแบบ  lead-acid ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน  คือ  ให้พลังงานได้มากกว่าและความจุไฟฟ้า มากกว่าที่ใช้กันในปัจจุบันครับ

จึงทำให้ดำได้นานมากขึ้นต่อการประจุไฟหนึ่งครั้ง  และทำความเร็วสูงสุดขณะดำได้เพิ่มขึ้นครับ

แต่ก็มีข้อเสียคือ  มีความร้อนสูงกว่าแบบเดิมขณะใช้งาน  การประจุไฟแต่ละครั้งต้องใช้กำลังไฟที่สูงขึ้น  ต้องใช้เครื่องดีเซลเพิ่มขึ้นหรือตัวใหญ่ขึ้น

แบบเดียวกับบนเครื่ิองบิน  dreamliner ที่ไฟไหม้ครับ

เรือดำน้ำที่มีโอกาส จะได้ใช้  batt lithium ในช่วงใกล้ๆนี้  ก็มี ของ เยอรมัน  รัสเซีย  ฝรั่งเศส  ญี่ปุ่น  ครับที่ออกข่าว  มาว่ากำลังดำเนินการพัฒนา

โดยมีของเยอรมัน  เป็นรูปเป็นร่างมากที่สุด  ดูจากหน้าเวปของบริษัทเลยครับ

ลำที่เคลมว่านาน ก็ SMX ocean ของฝรั่งเศส  บอกว่าได้ครั้งล่ะสองอาทิตย์มั้งครับ  แต่ส่วนใหญ่ที่เขาพัฒนากันเพราะว่า  AIP แบบต่างๆมันให้กำลังไฟฟ้าน้อย  ทำความเร็วขณะใช้AIP ได้ต่ำครับ  และมันกินที่แถมหนักพอสมควร  และเสี่ยงกับระเบิดและไฟไหม้อีก

จึงมีคนคิดว่า  ถ้าเอา  AIP ออก  ก็จะได้พื้นที่ใส่ถังน้ำมันดีเซล กับ พื้นที่ใส่แบตเพิ่ม (แบบcollin) แล้วเปลี่ยนแบตเป็น lithium เอาก็น่าจะดีกว่าครับ  เพิ่มระยะปฎิบัติการ  แถม ประจุไฟครั้งหนึ่งอยู่ได้สักครึ่งเดือนก็น่าจะใช้ได้แล้วทางยุทธวิธี

ก็หลักๆ aip ไม่ใช่แบต (ไม่ได้กวนนะครับ) aip ก็แปลว่าเครื่องยนต์ที่ไม่ต้องพึ่งพาอากาศ (ในรูปแบบทั่วๆ ไป)

ข้อเสียของแบตคือหนักเรือหาย ลองนึกถึงรถยนต์ไฟฟ้านะครับ วิ่งร้อยสองร้อยโลก็แทบตายแล้ว แต่ถ้าเป็นอย่าง fuel cell ที่เอาไฮโดรเจนอัดใส่ถังแล้วมาแปลงเป็นไฟฟ้าบนรถเองจะวิ่งได้ไกลกว่าหลายเท่า เช่นเดียวกับพวกรถยนต์ไฟฟ้าที่มีมอเตอร์เบนซินเล็กๆ ไว้ปั่นไฟก็เติมน้ำมันนิดเดียวน้ำหนักเบากว่าแบตเหลือหลาย แต่วิ่งไกลลิบ

ส่วนลิเธียมก็อย่างที่อีกท่านว่า ประสิทธิภาพสูงแต่ความปลอดภัยมีสิทธิ์ต่ำกว่าพวกเก่าๆ เช่น NiMH บริษัทรถจึงยังลังเลที่จะเอามาใส่รถไฮบริดในช่วงแรก ต้องรอให้เทคโนพัฒนาพอซึ่งตอนนี้ก็ใช้กันแพร่หลายแล้ว 

  แบตเตอรี  ก็คือ ตัวเก็บประจุไฟฟ่้า    ไม่ใช่เครื่องยนต์

ส่วนระบบ  AIP  คือ  เครื่องยนต์ที่ไม่ต้องการอากาศภายนอกในการเดินเครื่องยนต์   และมีหลายแบบ   ทั้งระบบ แมสม่า   ระบบเครื่องยนต์ดีเซลสเตรียริ่ง   ระบบ  fuel cell   พวกนี้ไม่ต้องการอากาศภายนอก    ดังนั้นจึงเดินเครื่องเพื่อชาร์จแบตใต้น้ำได้เลยครับ    ไม่ต้องลอยลำขึ้นมาชาร์จ  

   ถ้าระบบแบตเตอรี่สมัยใหม่ทำให้ดำได้นานถึง 2 สัปดาห์ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง   ซึ่งสมัยก่อนทำได้แค่  5-6 วันต่อการชาร์จ 1 ครั้ง     แบบนี้เรือขนาดเล็กประมาณ 1000  ตันไม่ต้องมีเครื่องยนต์  AIP  ก็ได้    เพราะในระยะเวลาปฎิบัติการไม่เกิน 30  วัน       เรือจะลอยลำมาชาร์จเพียงแค่ 1 ครั้งเท่านั้

     แต่ถ้ามีทั้งแบตประสิทธิภาพสูงขนาดนี้  และมีเครื่องยนต์ AIP  strieling ด้วย     แบบนี้เรือสามารถอยู่ใต้น้า้ได้ตลอดเวลาของการปฎิบัติการ 30 วันเลย         มันจะกลายเป็นเรือดำน้ำนิวเคลียร์ขนาดจิ๋วดีๆนี่เองครับ

ขอบคุณ คําตอบครับไขข้อข้องใจเรือดํานํ้าที่หลายประเทศเสนอให้ไทยได้เยอะเลย

ต่างกันทั้งการทำงาน และผลที่ได้ครับ

แบต Lithium ทำหน้าที่เป็นแหล่งพลังงานหลัก แทนแบตตะกั่ว-กรด ข้อดีคือให้พลังงานมากกว่าและนานกว่า กับประจุไฟได้มากกว่าโดยไม่เกิดก๊าซ H2 ซึ่งเป็นก๊าซอันตรายที่ระเบิดได้ รวมทั้งยังมี Energy Density มากกว่า ทำให้มีน้ำหนักเบากว่าในความจุแบตเท่าๆ กัน หรือถ้าน้ำหนักเท่ากันก็จะให้ความจุแบตมากกว่า ทำให้เรือดำน้ำสามารถปฏิบัติการใต้น้ำได้นานขึ้นในการประจุไฟฟ้า 1 ครั้ง

แต่ข้อเสียของแบต Lithium คือประสบการณ์ในการใช้ เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีใหม่ และยังไม่มีการใช้เป็นแบตหลักใน Scale ใหญ่ขนาดนี้มาก่อน และมีความเสี่ยงการเกิด Thermal Runaway แต่ก็มีมาตรการป้องกันได้ ในลักษณะเดียวกับแบตตะกั่วกรดเกิด H2 ทำให้ระเบิดได้ แต่ก็มีมาตรการป้องกันได้เช่นกัน เพียงแต่ในปัจจุบันเรามีความรู้และประาบการณ์กับแบตตะกั่ว-กรดมากกว่า

ในส่วนของระบบขับเคลื่อน AIP เป็นระบบขับเคลื่อนเสริมที่ใช้ประจุไฟฟ้าเข้าแบตเตอรี่ โดยไม่ต้องใช้อากาศจากภายนอก ทำให้สามารถประจุไฟฟ้าเข้าแบตเตอรี่ได้จากใต้น้ำโดยไม่ต้องชักเสา Snorkel ขึ้นดูดอากาศจากภายนอก ช่วยให้เรือดำน้ำสามารถปฏิบัติการใต้น้ำต่อเนื่องได้นาน แต่ข้อเสียของระบบขับเคลื่อน AIP คือให้พลังงานต่ำ และบางแบบมีประสิทธิภาพต่ำ ทำให้ถึงแม้ว่าจะอยู่ใต้น้ำได้นาน แต่ก็ต้องใช้ความเร็วต่ำมากไปด้วย และมีความเสี่ยงในเรื่องของการนำเชื้อเพลิงกับออกซิเจนเหลวไปกับเรือ ซึ่งมีความเสี่ยงในการระเบิดเหมือนกัน และโดยปกติแล้วเรือดำน้ำที่ติดตั้งระบบขับเคลื่อน AIP ก็ยังต้องมีเครื่องยนต์ดีเซลสำหรับใช้เป็นระบบหลักในการประจุไฟฟ้าอยู่ดี

ทีนี้มาพูดถึงผลที่ได้กันบ้าง แบตเตอรี่ Lithium ถึงแม้จะช่วยให้เรือดำน้ำปฏิบัติการได้นานขึ้น และใช้ความเร็วสูงได้นานขึ้นกว่าเดิม แต่ระยะเวลาปฏิบัติการก็ยังไม่นานเท่าระบบ AIP และยิ่งใช้ความเร็วสูงก็จะทำให้ระยะเวลาปฏิบัติการสั้นลง ในขณะที่ระบบ AIP ยังใช้เพิ่มระยะเวลาปฏิบัติการได้นานกว่า และหากใช้ระบบ AIP ร่วมกับแบตเตอรี่ Lithium ก็จะช่วยยืดระยะเวลาปฏิบัติการให้นานขึ้นไปอีก

ต่อยอดจากกัปตันนีโมครับ

ถ้าaip มันแพงมากดเกิน เราเอาแค่แบตลิเทียมพอ

แล้วเราใช้เรือผิวน้ำดัดแปลงเป็น เรือจ่ายไฟ ปลั้กอิน แบบในคราบเรือประมง นัดไปเจอที่ๆนึง เรือส.แอบชาร์จไฟใต้น้ำ เรือประมงก็ลากอวนไป น่าจะเวิร์ค แต่ต้องใช้เวลาไม่นานเกิน

มันจะอาร์ตไปหรือเปล่าครับนั่น การดัดแปลงเรือประมงอย่างที่ว่า เท่าที่ผมรู้เรือดำน้ำไม่มีโหมดชาร์ตไฟจากเรือลำอื่นเพราะงั้นถ้าจะทำได้คงต้องดัดแปลงเรือดำน้ำ
ผมมองว่าถ้าจะทำแบบนี้ต้องเก็บเป็นความลับแล้วแหละครับ อีกอย่างการพรางเรือพาณิชย์แบบนี้มันออกแนวทุเรศครับ ทำให้พลเรือนเดือดร้อนจากสงคราม เหมือนการเอามิสไซล์ไปติดเรือคอนเทนเนอร์ตามคอนเซ็ปต์ของรัสเซียอะไรแบบนั้น อย่างนี้ข้าศึกได้ยิงเรือพาณิชย์ร่วงหมดด้วยความระแวง

อีกทางเลือกคือใช้เป็นเรือของทร.แต่อาจจะเป็นเรือตรวจการต๊อกต๋อยให้ดูไม่มีอะไรหรือคุณค่าทางยุทธการต่ำก็ได้

เรือประมงนั่นมุกเฉยๆครับ เคยมีคนบอกเรือประมงไทยเทพ ลากอวนดักด.ได้สบาย อิอิ 

จริงๆเรือพี่เลี้ยงมันก็น่าจะทำได้อยู่แล้ว เพิ่มการจ่ายไฟไปด้วย แต่ปัญหาคือ จะเป็นการเปยตัวมากไปรึป่าว กรือใช้เวลานานเกิน 

ก็จะทำให้เสี่ยงต่อการถูกเปิดเปยตัว กรือเส้นทางการวิ่งได้ คงต้องวางแผนให้ดีๆ

การใช้ยานภาหนะพลเรือนไปแฝงตัวเพื่อปฏิบัติการณ์ทางทหารไม่ควรทำครับ อย่างตอนสงครามฟอล์กแลนด์อังกฤษเอาเรือคอนเทนเนอร์มาวางรอบๆ ดาดฟ้าเรือสินค้า แล้วข้างในจอดแฮริเออร์ไว้ โดนด่ากระจาย เพราะให้เรือพลเรือนทั่วไปมีสิทธิ์โดนอาร์เจนติน่าสอยเพราะอาจจะเป็นของอังฤษ ซึ่งถ้าเกิดโศกนาฏกรรมขี้นมาอังกฤษจะชดใช้อย่างไร ซึ่งเป็นกฎสากลเหมือนการที่ห้ามยิงรถที่ติดตรากาชาด

ส่วนการชาร์จเรือด้วยเรืออีกลำ คิดๆ ดูซึ้อเรืออีกลำพร้อมอุปกรณ์ชาร์จไฟที่ต้องลงทุนพัฒนาเองอีกเต็มเหนี่ยวอาจจะแพงกว่าซื้อ aip ก็ได้ครับ นอกจากนี้ยังเป็นตัวชี้เป้าเรือดำน้ำให้ข้าศึกได้อีก ซึ่งอย่างนั้นสู้ยื่นท่ออากาศขี้นมาแล้วปั่นไฟตามปกติอาจจะปลอดภัยกว่า